LOVE YOU! รักกว่านี้ มีอีกมั้ย?
เขียนโดย BlacXRabbiT
วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.13 น.
แก้ไขเมื่อ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 21.35 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) แฟนข้าใครอย่าแตะ!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 2 แฟนข้าใครอย่าแตะ!
เช้าวันต่อมา หนุ่มหล่อหน้าใสตัวเล็กเอวบางไม่มีไขมันส่วนเกินในชุดนักเรียน ม.ปลายกางเกงขาสั้นเท่าเข่าสีดำ โอ๊ย คนหล่อใส่อะไรก็ดูดี ไม่ค่อยอยากจะชมตัวเองซักเท่าไหร่แต่ความจริงก็คือความจริง ก็คนมันหล่ออ่ะทำไงได้ เอิ๊กๆ (สงสัยติดเชื้อหลงตัวเองมาจากลีเนื่องจากจูบเมื่อวานนี้)
ผมหยิบแว่นขึ้นใส่ ความจริงผมสายตาสั้นนิดหน่อยแต่ไม่อยากใส่คอนแทคเลนส์ก็เลยใส่แว่นแทน (ความจริงใส่ไม่เป็น) ได้ยินเสียงพี่กันแว๊ดๆมาแต่ไกล
“โหย ไอ้กัส มึงจะแต่งอีกนานมั้ย แต่งจนน้ำท่วมโลกแม่งก็ไม่หล่อขึ้นหรอก เร็วๆกูรีบ รึมึงจะเดิน!” ผมหุบยิ้มทันที ไอ้พี่เฮงววย จะชมกูหน่อยก็ไม่ได้ ถ้ากูขี้เหร่นะแม่งมึงที่เป็นพี่กูก็เหมือนกูละวะ!
“เออๆ แม่งเร่งอยู่ได้” ผมบ่นงุ้งงิ้งเลยโดนพี่กันตบกบาลเข้าให้ แม่งตบเข้าไป กูมันที่ระบายอารมณ์นี่ อยู่ใกล้ใครไม่ได้ โดนแกล้งตลอด ขนาดพี่แท้ๆยังแกล้ง แม่ง! ชีวิต!
ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมพี่กันถึงได้รีบและเร่งผมยิกๆ เพราะผมต้องติดรถพี่กันไปโรงเรียน ความจริงมหา’ลัยพี่กันไปคนละทางเลยนะแต่ต้องไปรับแฟน เลยผ่านโรงเรียนผม จักรยานผมส่งเข้าอู่ (พูดซะดูดี) ไอ้ผมเองก็ขี้เกียจเดินเลยขอติดรถไปด้วย นี่ถ้าผมไม่ขี้เกียจนะ ไม่ง้อหรอก!
“เร็วๆๆ ขึ้นดิ จะให้กูอุ้มมึงขึ้นเลยมะ?” ผมขยับปากบ่นมุบมิบพี่กันเลยถลึงตามอง ผมเลยต้องรีบขึ้นอย่างเร็วไว ชีวิตผมนี่แม่งมีแต่คนโขกสับ คอยดูเถอะผมจะต้องหาคนตัวเล็กกว่าแล้วโขกสับมันบ้าง
ปกติทุกวันพี่กันจะขับมอเตอร์ไซไปนะ แต่วันนี้ไปรับแฟนผมก็เลยสบายก้นไปด้วยเพราะพี่เอาฮอนด้าแจสสีเขียวมะนาวออกไปรับ
ความจริงพี่กันกับผมหน้าตาไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยซักนิดจนผมนึกสงสัยว่าตอนแม่คลอด หยิบพี่กันออกมาผิดหรือเปล่า เพราะพี่กันน่ะ ทั้งสูง เรียนก็เก่ง หล่อก็หล่อ โหย ต่างกับผมลิบ!
พอถึงหน้าโรงเรียนเท่านั้นล่ะ ผมเลยไม่อยากลง เพราะเห็นไอ้หมาบ้าลีนั่งอยู่กับอาจารย์ที่ยืนอยู่เวรหน้าโรงเรียน ( ลีนั่ง อาจารย์ยืน ) ผมก็เลยนึกถึงเรื่องเมื่อวาน อุตส่าลืมแล้วนะ แม่ง!
“ กัสครับ กูรีบครับ” พี่กันหันมาพูด ยิ้มเย็นๆก่อนที่จะเปิดประตูรถให้แล้วพลักผมลง โหย ช่างเป็นพี่ที่รักน้องมากที่สุดในโลกหาใครเปรียบมิได้!
และเมื่อไอ้ตาตี่ลีเห็นผม ก็เดินดุ่มๆมาหา แม่งเอ๊ย ไอ้เชี่ยนี่ ร้อยวันพันปีไม่เคยมาเช้าซักวัน หิมะจะตกประเทศไทยปะวะ!
“กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง” ผมเกาแก้มแกรกๆ แล้วรับกระเป๋านักเรียนที่ลีมันโยนมาให้ ผมมองประมาณว่า ‘มึงโยนมาเพื่อ?’
“ถือ กูเจ็บข้อ” ตอแหลเหอะสัส! แล้วเมื่อเช้ากระเป๋ามึงเดินตามก้นมือมารึง้ายยยย!
แต่ผมไม่อยากเถียงเพราะรู้ว่าเถียงไปก็เท่านั้นแหละเลยยอมๆมัน ผมเดินตามก้นมันต้อยๆคล้ายลูกไก่ตามแม่ไก่จนถึงห้อง ในห้องมีคนอยู่กี่คน ผมเอากระเป๋าของมันไปวางที่โต๊ะมัน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะตัวเอง
“กัสมึงกินข้าวเช้ายัง?” แล้วจู่ๆลีก็ถามผมขึ้นขากด้านหลัง (โต๊ะลีอยู่หลังผม ความจริงมันได้เลขที่นั่งหน้าห้องแต่มันขอเปลี่ยนมาเพื่อแกล้งผมโดยเฉพาะ)
“มึงจะเลี้ยงกูเหรอ” ผมถามด้วยหน้าแบ๊ว ตาเป็นประกาย อะไรจะใจดีปานนั้น
“เปล่า กูจะใช้ให้มึงไปซื้อขนมปังให้” เพล้ง แตกยับเยินถึงกูจะรู้อยู่แล้วก็เหอะว่าเป็นไปไม่ได้
“กูไม่ไป” ผมตอบเสียงแข็ง
“แต่มึงเป็นแฟนกู” ลีโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วกระซิบ
“เหอะ แฟน! แฟนรึเบ้?”ผมพูด เบ๊หน้าหน่อยๆ รู้สึกน้อยใจ เพื่อนก็ไม่ค่อยจะมี มีพี่ก็โขกสับ คู่ปรับก็ใช้เอาๆ แม่ง กูเป็นได้แค่นี้ใช่มั้ย?
“เฮ่ย กัส อย่าร้องดิ กูไปเป็นเพื่อนก็ได้” คือกูยังไม่ได้ร้อง แล้วคนที่ไปเป็นเพื่อนมันน่าจะเป็นกูไหงเป็นมึงไปได้วะ?!
“ ไป ลุก” ไอ้ผมก็เลยงง เดินตามมันไปอย่างงงๆ จนถึงโรงอาหาร
“มึงจะเอาอะไรมั้ย” มันถาม ผมส่ายหน้า
“กูเลี้ยงน่า” ผมหันไปมองมันถามว่าจริงเหรอ ลีพยักหน้าผมก็เลยเดินไปหยิบหน้ำอัดลมมาขวดนึงแล้วก็ขนมกรุบกรอบอีกสองสามห่อ
“พอกูจะเลี้ยงนี่หน้าบานเลยนะมึง แล้วดูดิ๊แต่ล่ะอย่าง กูไม่อยากกอดลูกหมูหรอกนะเว้ย” ลีว่าผมหน้าแดง หันไปแว้ดๆใส่มันแก้เขิน
“ใครเค้าจะไปอยากให้มึงกอด บ้าอ๊ะป่าว ละเมอรึไง”
“อุ๊ยๆ เขินแล้วน่ารักอ่ะ” -///- พ่องดิสัส
เวลาพักเที่ยง หลังจากที่ผมกินข้าวแล้วเรียบร้อย ผมก็กลับมานั่งอ่านหนังสือที่ห้อง อ้อ ผมหมายถึงนิยายนะไม่ใช่หนังสือเรียน อ่านไปได้ซักพัก ก็ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กของแก๊งไอ้ลี ผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นพวกมันกำลังเดินเข้าห้องมา
กลุ่มของลีมีทั้งหมดห้าคน มี ลีเป็นหัวหน้าแก๊ง ไอซ์ เทมส์ แล้วก็สองฝาแฝด นิกกี้กะนนท์ ฝั่งนายนนท์มีชื่อเล่นว่านนท์นี่ด้วยล่ะ =_= ชื่อน่ารักกุบกิบแต่นิสัยนี่….
แต่ก็แปลก ปกติกลุ่มนี้เวลาพักเที่ยงก็จะต้องไปหลีสาวที่ตึกมอหกไม่ใช่? ทำไมวันนี้มานี่ได้ฟะ? ผมไม่สนใจ ลีเดินมานั่งลงที่โต๊ะของตัวเอง เพื่อนๆก็ลากโต๊ะข้างๆมาต่อแล้วลากเก้าอี้มานั่ง สองฝาแฝดเสียงดังโหวกเหวกโวยวายที่สุด ผมหนวกหูเลยหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ ยัดใส่หูแล้วเปิดเพลงฟังเสียงดัง แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงของสองแฝดแว่วมาเบาๆเสียงนรกจริงๆพวกนี้ =_=
แล้วจู่ๆพวกข้างหลังผมก็เงียบซะงั้น ผมเงยหน้าขึ้นมองตรงหน้า รุ่นพี่มอหกคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าผม พี่คนนี้หน้าตาดีถึงขั้นหล่อ เขาส่งยิ้มให้ผม ภายในห้องเรียนตอนนี้เหลือแค่ผม กลุ่มของลี แล้วเพื่อนผู้หญิงสองคนที่นั่งติดประตูทางเข้า พวกเขาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว รู้สึกกระอักกระอ่วนชอบกล โดยเฉพาะสายตาเพชรฆาตจากด้านหลัง =_=
“เอ่อ น้องกัส ว่างมั้ยครับ?” แล้วพี่เขาก็ถามผมแล้วยิ้มเขิน คือพี่จะเขินทำไมครับ เดี๋ยวกูโดนงาบหัว พี่ไม่รู้สึกถึงจิตสังหารบ้างเหรอครับ?!
“ เอ่อ พี่มีธุระกับผมเหรอครับ แหะๆ” ผมว่าแล้วหัวเราะแห้งๆ เสียวสันหลังวาบๆ เหมือนหางตาจะเหลือบไปเห็นนนท์นี่ยิ้มสะใจเหมือนจะได้เห็นเรื่องสนุก รู้สึกว่ามันโรคจิตอ่ะ=O=
“ น้องกัสครับ เราไปคุยกันสองคนแถวๆโรงอาหารดีมั้ยครับ” พี่เขาว่า เมื่อดูเหมือนพี่เขาจะสังเกตเห็นพวกลีบ้างแล้ว แต่พี่ช้าไปนะ ผมว่า ผมกำลังจะตอบก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นก่อน
“สองคนพ่อง! โรงอาหารคนเป็นกองทัพ มึงเอาส่วนไหนมองว่าจะมีพวกมึงสองคน” ลีครับ รุ่นพี่นะเฮ่ย ผมกับรุ่นพี่หน้าเหวอ มองคนพูด
“งั้น ไปดาดฟ้ากัน” พี่เขาพูดอีก ผมจะตอบแล้วนะ แต่ก็ช้ากว่าไอ้ตัวข้างหลังอีก
“ดาดฟ้าไม่ว่าง มีแมวอยู่ ไอ้นิก มึงจะไปให้อาหารแมวไม่ใช่? ไปดิ” คือ พวกมึงสามัคคีกันมาก ลีพูดจบ นิกกี้ก็ร้องว่าเออใช่แล้วก็วิ่งออกไปเลย =_=
“เอ่อ งั้นไปโรงยิมกัน เพื่อนพี่ซ้อมวอลเลย์บอลอยู่ ไปดูมั้ย? ^_^” พี่เขาถามอีกพร้อมรอยยิ้ม
“เอ้อ ไอซ์ พรุ่งนี้ห้องเราแข่งวอลเลย์บอลกับห้องสองนี่หว่า มึงไม่ไปซ้อมเหรอวะ?” แล้วเสียงแว่วดังๆของลีก็ดังขึ้นอีก ไอซ์พยักหน้าแล้วก็วิ่งออกไปอีกคน ได้ข่าวพวกนึงเป็นนักบาส แล้วพรุ่งนี้มันวันเสาร์ไม่ใช่?! แข่งพ่องสิพรุ่งนี้
“เอ่อ น้องกัสครับ งั้นพี่ชวนไปดูวิธีผ่ากบดีมั้ยครับ” พี่เขาทำใจดีสู้เสือ แต่สำหรับไอ้ลี ผมนับรวม หมีควาย ลิง หมาบ้า บวกเข้าไปในตัวของมันคนเดียว คนอะไรแม่ง สารพัดสัตว์รวมกันจริงๆ
“เทมส์ กูอยากกินคุกกี้ไส้สารเคมีนรกมึงว่ะ” แล้วลีก็พูดขึ้นมาอีกแต่คราวนี้เหมือนเทมส์จะจริงจังมาก ตาโตแล้วร้องบอกว่า
“กูบอกแล้วว่าคุกกี้กูอร่อย ติดใจล่ะสิ รอแปปนึง เดี๋ยวกูมา” แล้วก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเบิกบาน ลีทำสีหน้าช็อกหน่อยๆ ไอ้ผมเองก็กลั้นหัวเราะแทบตาย ได้ยินเสียงลีสบถงุ้งงิ้งว่า
“ไม่รับมุกกูเลย แม่งจริงจังไปไหนวะ”
“ขืนเอามาจริงๆแม่งกูคงต้องโทรไปจองห้องพักในโรงบาลรอแล้วล่ะ ลีโทรบอกพ่อมึงว่ากูขอห้องพิเศษ”นนท์นี่ พูดเบาๆกับลี เห็นหมอนั่นกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วก็รู้สึกสะใจ นั่นล่ะ ไม่คิดให้ดีก่อนพูด
“โอเค พี่ไม่ไปไหนละ ขอพูดตรงนี้เลยละกัน พี่ชอบน้องกัสครับ ช่วยคบกับพี่ได้มั้ยครับ” ผมนิ่งอึ้ง มองพี่เขา กระพริบตาปริบๆ ก่อนที่เสียงโหวกเหวกโวยวายของลีจะดังขึ้น เชี่ยนี่เสียงดังตลอดอ่ะ
“ไม่ได้!” พี่เขามองหน้าลีแล้วถาม
“นี่น้อง พี่ชอบน้องกัส ไม่ได้ชอบน้อง น้องยุ่งไรด้วย” เอ่อ พี่ครับ ก่อนพูดกรุณาดูหน้ามันหน่อยเถอะ จะกินหัวพี่ได้อยู่แล้ว
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ก็ไอ้กัสมันเป็นแฟนกู!” เงียบกริบทั้งห้อง พี่มอหกคนนั้นหน้าเหวอไปเลย โดยเฉพาะผมนี่ใบ้กินไปแล้วเรียบร้อย พวกผู้หญิงสองคนนั่นดูท่าจะช็อกมาก ส่วนไอ้นนท์นี่หัวเราะคิกคัก ตลกอะไรของมันฟะ!
“เอ่อ น้องกัส มีแฟนแล้วเหรอครับ?” รู้สึกสงสารรุ่นพี่ตงิดๆ แต่ตอนแรกผมก็กะจะปฏิเสธพี่เขาไปแล้วน่ะนะ ก็ผมยังไม่รู้จักพี่เขาเลยอ่ะ ขนาดชื่อยังไม่รู้เลยจะให้ผมคบได้ยังไง
เมื่อพี่เขาถามจบก็หันหน้ามาขอคำตอบจากผม ทำหน้าผิดหวังสุดๆ ส่วนไอ้ลีนี่จ้องผมอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เมื่อเห็นว่าผมไม่ตอบก็ชูมือขวาให้ดู ผมเม้มปากแล้วพยักหน้าหงึกๆ ดีที่ไม่ค่อยมีคนอยู่ แต่เชื่อเถอะ ว่าข่าวใหญ่อย่างคนดังที่ชื่อ ลี มีแฟนเป็นผู้ชาย! จะต้องแพร่ระบาดอย่างกะเชื้ออีโบล่าอย่างแน่นอน
“เห็นมั้ย ทีนี้ก็กลับห้องมึงไปได้ละ แล้วก็จำไว้ด้วย แฟนกู ใครกล้าแตะ ตาย!” ลีตะคอกใส่รุ่นพี่ เขาเดินคอตกออกจากห้องไป ผมชะเง้อมองตามก็ถูกไอ้ลีตบกบาลเข้าให้
“มองทำไม เสียดายไง? นั่งลงเหมือนเดิมเลยมึงอ่ะ” นี่ก็บังคับกูจัง! ผมนั่งลงตามเดิมแล้วอ่านหนังสือต่อ ใครจะรู้ล่ะว่าวันต่อมาผมจะเจออะไรบ้าง
……………………………………………………………………………….
To be continued
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ