If the love is real ถ้าความรักมีอยู่จริงที่ซึ่งซาก

-

เขียนโดย kamiyaki

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.26 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,416 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557 23.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Chapter 1/[ความจริงหรือความฝัน]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Chapter 1 /[ความจริงหรือความฝัน]

---------------------

"พ่อค่ะ แม่ค่ะ ฮึก.. หนูจะต้องทำยังไงดีหนู...หนูไม่เข้าใจอะไรอีกแล้ว...ฮือ...หนูไม่รู้อะไรอีกแล้ว"

เสียงร้องให้สะอื้นของเด็กสาวผมบลอนยาวถึงกลางหลังมีโบสีแดงถูกติดไว้อย่างดีดวงตาสีฟ้านภาอาบไปด้วยน้ำตาดั่งหยาดฝนที่ตกลงมาจากนภาเป็นแน่แท้เด็กสาวที่สวยสง่าตราตรึงใจบัดนี้ได้เต็มไปด้วยความโศกเศร้านามของเธอ คือ คามิเรน สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเด็กสาวเป็นภาพสะเทือนใจที่ทำให้เด็กสาวไม่อาจลุกขึ้นยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง

ผ้าคลุมสีขาวที่วางทับบนใบหน้าหนุ่มสาวทั้งสองมิอาจเปิดเผยให้เห็นใบหน้าได้ร่างที่วางอยู่บนเตียงรถเข็นสีขาวสะอาดเด็กสาวน้ำตาคลอเบ้าอยู่ตรงหน้าเป็นภาพที่น่าสลดใจต่อผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาเสียจริง

"คามิจังมาอยู่กับน้านะไม่เป็นไรน้าจะดูแลคามิจังเองนะ"

ร่างหญิงสาววัยกลางคนโอบกอดสาวร่างเล็กไว้จากภัยอันตรายพร้อมกับเสียงที่พูดออกมาอย่างอ่อนโยนแต่ก็มิอาจเติมเต็มจิตใจที่ขาดหายไปของเด็กสาวได้

2 เดือนต่อมา

"น้าค่ะ หนูจะขอย้ายไปอยู่ที่บ้านของน้าแถวร.ร.ค่ะ"

เด็กสาวนามว่าคามิเรนได้เอ่ยปากขึ้นกลางวงโต๊ะอาหารของตระกูลมินาเนะอย่างเอื่อยๆแต่ฝั่งตรงข้ามกับลุกขึ้นทุบโต๊ะอย่างอดเสียไม่ได้

"ท...ทำไมหละคามิเรนจังอยู่กับน้าไม่ดีตรงไหนหรอ"

หญิงสาวอายุย่างเข้า 40 ผมสีน้ำตาลอ่อนหยักสกเอ่ยขึ้นอย่างตกใจดวงตาสีแดงเปลวเพลิงดูตื่นตระหนกตกใจอย่างเป็นที่สุด

"ไม่ทำไมหรอกค่ะแค่แถวๆนั้นอยู่ใกล้ๆกับร.ร.ด้วยน่าจะสะดวกกว่า"

เด็กหญิงพูดเอื่อยๆอย่างไร้อารมณ์

"ต...แต่ว่า"

ผู้เป็นน้ามองเข้าไปในตาของเด็กสาวแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า

"ง...งั้นก็ได้จ๊ะ"

ผู้เป็นน้าพูดออกมาทั้งๆที่ตอนแรกเป็นคนห้ามปรามแต่กลับเปลี่ยนใจไปได้ดั่งถูกมนต์สะกด

∆ณ บ้านหลังใหม่∆

(นี่หนะหรอบ้านใหม่ของชััน)

เด็กหญิงพูดอย่างเอื่อยๆ แววตาที่ดูเหมือนไม่มีสิ่งใดกลัยไม่อาจยดบังความเศร้าโศกนี้ไว้ได้ เด็กสาวส่ายหน้าสองสามครั้ง

(เอาเป็นว่าระหว่างรอรถขนของมาสำรวจบ้านก่อนแล้วกัน)

เด็กสาวไล่ความโศกเศร้าออกไปพร้อมทั้งสำรวจบ้านหลังใหม่ของเธอ

(ก็...ใช้ได้หละนะ)

เด็กสาวเมื่อสำรวจบ้านหลังใหม่ของเธอเสร็จสรรพ รถขนของก็มาถึงอย่างพอดิบพอดี เด็กสาวยิ้มแย้มกับเจ้าหน้าที่อย่างเป็นมิตรแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นเพียงแค่การแสดงที่มิให้ผู้ใดได้มองเห็นรอยแผลในจิตใจของเธอได้ เด็กสาวจัดการเก็บข้าวของของเธออย่างเรียบร้อยเด็กสาวล้มตัสนอนลงบนที่นอนของเธอเอง ความเงียบนั้นเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ

"ฮึก...ฮือ....ฮึก...."เสียงร่ำไห้ของเด็กสาวเริ่มเข้ามาทำลายความเงียบนั่น เด็กสาวได้ร้องไห้และวอนขอต่อพระเจ้าให้ช่วยเติมเต็มรูโหว่ในจิตใจ

แต่ถึงอย่างนั้น.....

"พระเจ้าหนะจะมีจริงอย่างนั้นหรอ"

เด็กสาวนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอสำหนับเด็กสาวนั้นมันมากพอที่จะไม่เชื่อและยึดถือสิ่งที่เรียกว่า พระเจ้า

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ได้แต่ภาวนาต่อสิ่งที่ไม่เชื่อมั่นว่า

"ขอร้องหละ...ขอซักครั้ง...ช่วย...ช่วยเติมเต็มหัวใจของชั้นที"

เด็กสาวได้ผลอยหลัยไปทั้งๆอย่างนั้นคราบน้ำตาที่อาบแก้มบนใบหน้าอันงดงามของเด็กสาวเป็นสิ่งที่บ่งยอกว่า

[เธอนั้นจะไม่มีวันที่จะลืมสิ่งที่พระเจ้าได้เล่นตลกกับด้ายชีวิตของครอบครัวอันเป็นที่รักของเธออย่างเด็จขาด]

.

.

.

.

.

.

.

.

.

"นี่เธอ!นี่!เธอหนะ!เป็นอะไรมั้ย"

(เอ๊ะ?ใครกันนะ)เด็กสาวรู้สึกสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมถึงได้มีใครอยู่ในห้องของเธอได้ เด็กสาวดวงตาสีนภาค่อยๆลืมตาขึ้นโดยหวังว่าสิ่งที่เธอได้ยินนั้นอาจจะหูแว่วไปได้

แต่....

ภาพที่เธอเห็นนั้นคือกลางป่าดงพงไพรเสียงนกน้อยใหญ่ดังเจื้อยแจ้ว และที่สะดุดตาเธอนั้นก็คือ เด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับเธอดวงตาสีเหลืองทองที่ดูมุ่งมั่น ร่างกายที่ขาวพอๆกับเธอดูสะอาดน่าสัมผัส ผมสีแดงสีแดงสดที่ปลิวไสวไปกับสายลมที่ดึงดูดสาบตามิอาจสลัดทิ้งได้

"นี่เธอเป็นอะไรรึปล่าวหนะ"

เสียงนั้นสะกิดใจเด็กสาวจนต้องหลบสายตาของเด็กหนุามอย่างเขินอาย

"ม...ไม่เป็นไรค่ะ"เด็กสาวพูดขึ้นขณะที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะใบหนัาสีแดงดั่งลูกแอปเปิ้ลสดใหม่ เด็กสาวลุกขึ้นนั่งตาสีฟ้ากวาดมองไปทั่วบริเวณ

"ท...ที่นี่ที่ไหนหรอค่ะ"

เด็กสาวผมบลอนหันไปถามบุรุสไรนาม

"นั้นสิน้า~ก็ไม่รู้สิน้า~"

เด็กหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดีแต่เด็กสาวกลับทำหน้างงอย่างบอกไม่ถูก

"อ...เอ๋?"

เด็กสาวพูดอย่างตกใจพร้อมพูดต่อ

"ท..ท..ทำไมไม่รู้หละค่ะแล้วจะทำยังไงหละค่ะ"

เด็กสาวเหงื่อตกเมื่อรู้ว่าเธออาจจะไม่ได้กลับไปอีกตลอดกาล เด็กสาวมองดูรอบๆตัวเป็นป่าทีไม่รกมากแต่ก็ไร้วี่แววของผู้คนหรือบ้านเรือนเลย

"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"

เด็กหนุ่มตบพื้นเป็นเชิงว่าให้มานั่งด้วยกันตรงนี้ เด็กสาวรับคำเชิญชวนนั้นแล้วลุกขึ้นมสนั่งข้างบุรุสไร้นาม

"ผมชื่อ คาจิ ยินดีที่ได้รู้จัก"

เด็กหนุ่มยิ้มให้ด้วยไมตรีมิตรจนเด็กสาวรู้สึกผ่อนคลาย

"ชื่อคามิเรนค่ะฝากตัวด้วยนะค่ะ"

"..."

"..."

"..."

(เอ๊ะ?ทำไมมั้นเงียบหละ ต..แต่ว่า อุ๊บ!)

ทั้งเด็กหนุ่มและเด็กสาวได้หัวเราะอย่างมีความสุขออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ

"555ง..เงียบทำไมหละ"

"5555นายนั่นแหละเงียบทำไมหละ"

ทั้งสองได้ถกเถียงกันอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลาย่างเข้าสู่ห้วงนิทรา

"วันนี้พักลองพักที่นี่มั้ยหละ"

เด็กหนุ่มพูดขึ้นพร้อมชี้ไปทางถ้ำแห่งหนึ่ง

"ก็ดีนะ"เด็กสาวพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

แต่ทว่า...

"กรี้ดดด!"เด็กสาวกรีดร้องเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตน

"มีอะไรคามิเร--"

เด็กหนุ่มตกใจในสิ่งที่เห็น ร่างกายของเด็กสาวค่อยๆสลายหายไปกลายเป็นธาตุอากาศที่เบาบาง เด็กหนุ่มที่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทำได้เพียงยืนตัวแข็งอยู่กับที่เท่านั้น เด็กสาวสูญสลายหายไปกลายเป็นมีดสั้นสีเงินเท่านั้น

.

.

.

.

.

.

.

.

.

"คาจิ!!"เด็กสาวลืมตาสีนภาขึ้นควันสีอาทิตย์สุริยงใกล้ดับแสงฟุ้งกระจายอยู่ภายใต้ดวงตาสีฟ้านั้นและค่อยๆละลายหายไปดั่งกลุ่มควันในอากาส

"ความฝันอย่างนั้นหรอ"เด็กสาวพึมพำกับตัวเองมันแต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวก็ไม่อาจลืมเลือนทุกอย่างได้ ทั้งสัมผัส น้ำเสียง ทุกๆอย่างในตอนนั้นเธอจำมันได้หมดจนเธอเริ่มไม่แน่ใจ

"นี่มัน...เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่"

END / chapter 1

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา