ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์
เขียนโดย ploynin
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.
แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) เที่ยวหาดใหญ่ (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากที่รถตู้รับส่งประจำโรงแรมดังแล่นเข้ามาถึงบริเวณทางเข้า ทุกคนต่างทยอยเดินลงโดยมีชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งใกล้ติดประตูที่สุดเป็นคนเลื่อนประตูเปิดออกให้โดยไม่ต้องรอให้คนของโรงแรมเข้ามาบริการพร้อมกับเดินลงมาก่อนแล้วหันกลับไปอุ้มร่างเล็กที่ตามลงมาเนื่องจากเด็กน้อยอ้าแขนออกอ้อนๆ ให้อุ้ม อาจเพราะหลังจากที่นั่งคุยกันมาตลอดทางก็ทำให้ทั้งสองสนิทกันได้เร็วอย่างน่าประหลาด คงเพราะชายหนุ่มชื่นชมกับความชั่งเจรจาของเด็กน้อย และเด็กน้อยเองก็ชอบใจที่มีคนนั่งคุยเรื่องเกมที่ตัวเองกำลังติดด้วยก็เป็นได้ หลังจากอุ้มเด็กน้อยไว้ในอกแล้วจึงยื่นมือไปเพื่อให้ร่างบางที่นั่งด้านในได้จับยึดให้มั่นคงแล้วเดินลงมาด้วยความหวังดี
“ขอบคุณค่ะ” ร่างบางเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินลงมานั่น เธอเหยียบกระโปรงยาวของตัวเองที่กองอยู่ตรงพื้นทำให้เซนิดๆ
พอลงมายืนอยู่ด้านนอกรถพร้อมกันแล้ว หลายสายตาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งสามเหมือนครอบครัวที่มีคุณพ่อสุดหล่อ คุณแม่สุดสวย แถมลูกสาวแสนน่ารัก อย่างชื่นชม หลายคนจำได้ถึงแม้ว่านางร้ายสาวจะสวมแว่นดำอันโตปิดใบหน้าอยู่ก็ตาม นอกจากจะมีนางร้ายคนดังแล้ว ที่ทำให้คนรอบข้างสนใจมากขึ้นก็คือนางเอกสาวคนดัง ซึ่งตอนนี้ขึ้นแท่นนางเอกอันดับหนึ่งไปแล้ว เพราะออร่าหลังจากที่ลงจากรถทำให้มีลูกค้าของโรงแรมหลายคนอยากเข้ามาทักทายแต่ก็ถูกันไว้ก่อนเพราะทางโรงแรมต้องการให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้มาใช้บริการ
กิตติภพเดินยิ้มเข้ามาทั้งทายทุกคนที่ตอนนี้เดินลงมาจากรถกันหมดแล้วด้วยความเย็นดี พร้อมกับมองหลานสาวสุดแสบที่เอาแต่เกาะติดร่างสูงของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ร่างบางซึ่งเป็นแขกคนพิเศษของเขาไม่ยอมห่างไเสียด้วย
“ยินดีตอนรับครับ ยินดีตอนรับทุกคนเลย”
“สวัสดีค่ะ คุณกิตติภพ ต้องขอรบกวนด้วยนะค่ะ”
“ยินดีครับเดย์ ว่าแต่ลิงตัวนี้ทำไมไม่ยอมลงจากต้นมะพร้าวสักทีครับนี่ เห็นมั้ยคุณอาเขาเมื่อยแล้วนะ” ไม่วายหันมาหยอดหลานสาวตัวแสบที่อาสาไปรับแขกแทน แต่ทำไมถึงได้ติดผู้ชายคนนี้นัก เพราะถึงแม้ว่าตัวแสบจะเป็นคนอัธยาศัยดีแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าเป็นคนที่ยอมสนิทกับใครได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่
“ไม่เป็นไรครับ” ร่างสูงที่ทำหน้าที่ต้นมะพร้าวตอบกลับยิ้มยินดีพร้อมกับส่งยิ้มให้ร่างเล็กๆ ของเด็กน้อยที่เขาอุ้มอยู่อย่างเป็นกันเอง และเพราะว่าร่างสูงอุ้มเด็กน้อยอยู่ทำให้นางเอกสาวไม่ค่อยอยากเดินเข้ามาใกล้สักเท่าไหร่ เขายิ่งชอบเพราะเป็นโอกาสที่เขาจะทำให้ร่างบางข้างๆ นี้เห็นว่า ระหว่างเขากับนางเอกสาวนั้นไม่ได้มีอะไรที่พิเศษต่อกันเลยนั่นเอง
“ทุกคนมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวยังไงเชิญพักที่ห้องพักก่อนได้เลยครับ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว”
“ขอบคุณนะค่ะ คุณ...” นางเอกสาวเอ่ยขอบคุณแต่เธอก็ยังไม่รู้จักชายหนุ่มที่จะให้ที่พักพิงกับเธอพร้อมพาเที่ยวครั้งนี้เลยสักนิด
“กิตติภพครับ”
“เกรท เกศราภรณ์ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ครับ ยินดีเช่นกัน และเป็นเกียร์ติผมจริงๆ ที่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนางเอกอันดับหนึ่งของประเทศนะครับ”
“ชมกันตรงๆ อย่างนี้เกรทก็เขินแย่เลยนะค่ะ คุณกิต”
“ผมพูดจริงครับ”
“ยังไงก็ต้องขอบคุณนะค่ะที่ให้เกรทเข้าร่วมก๊วนเที่ยวในครั้งนี้ด้วย” นางเอกสาวส่งสายตาหวานกึ่งหว่านเสน่ห์ยั่วยวนกึ่งโปรยไมตรีอย่างมีจริตจกร้าน ทำให้กิตติภพซึ่งเป็นคนที่มองคนเป็นอยู่แล้วพอรู้ แต่ด้วยเขาไม่ได้คิดจะสานต่อด้วยเลยยิ้มตอบรับไปเพียงเท่านั้น
“อันนี้เป็นคณะที่จะมาขอรบกวนคุณกิตติภพให้ช่วยนำเที่ยวนะค่ะ นี่คุณเอส พี่แหวว พี่ที แล้วก็คุณเกรทคุณกิตติภพคงรู้จักแล้ว เดย์พาเพื่อนมาเยอะหน่อยหวังว่าคงไม่ลำบากนะค่ะ”
“ไม่ครับ ไม่ลำบากเลย ดีซะอีกเที่ยวกันเยอะๆ สนุกดีครับ แล้วก็สำหรับเดย์ยินดีเสมอ” กิตติภพยิ้มแววตาสื่อความหมายซึ่งร่างบางเองก็เพียงยิ้มตอบรับอย่างเพื่อนเท่านั้น “งั้นเดี๋ยวยังไงพักผ่อนกันก่อนนะครับ ผมขอเคลียร์งานอีกหน่อย เดี๋ยวตอนบ่ายโมงตรงเราออกกันเลย”
“อากิตกุ๊กไก่ไปอยู่กับพี่เดย์ก่อนนะค่ะ” ร่างเล็กในอ้อมแขนของเอสเอ่ยขึ้นแล้วทำท่าจะลงทำให้ร่างสูงต้องวางเธอลงอย่างที่ต้องการ จากนั้นก็วิ่งไปจับมือร่างบางแล้วพาเดินไปยังห้องพัก
“หน่อย เราน่ะ พอพี่เดย์มาแล้วลืมอาเลยนะ”
“แหม คนสวยก็อยากจะอยู่กับคนสวย คนไม่สวยอย่าน้อยใจเลยนะ” ร่างเล็กเอ่ยเล่นๆ กับคุณอาที่ทำท่างอนๆ ใส่
“อาไม่สวยหรอก แต่อาหล่อ ยังไงฝากด้วยนะครับเดย์” ประโยคหลังหันมายิ้มรบกวนให้ร่างบาง
“ได้ค่ะ ไปกันนะ” ร่างบางตอบรับก่อนหันมาทางผู้นำทางที่อารมณ์ดีเจื้อยแจ้วแนะนำสถานที่ไปเรื่อยๆจนถึงเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
“แขกอากิตค่ะพี่อ้อม”
“ค่ะ” พนักงานสาวตอบรับเสียงหวานพร้อมกับยื่นกุญแจห้องพักส่งให้อย่างสุภาพจำนวนสามห้อง เพราะก่อนหน้านี้ร่างบางได้โทรมาแจ้งก่อนแล้วว่าจะมีคนมาด้วยจำนวนหนึ่งซึ่งตอนแรกกิตติภพจะเปิดห้องพักให้ตามจำนวนแต่ร่างบางติงไว้เพราะไม่อยากรบกวนเขานัก จึงเหลือแค่สามห้อง โดยที่เป็นห้องเตียงเดี่ยวหนึ่งห้องสำหรับเกรท ส่วนเธอจะพักกับแหววและชายหนุ่มทั้งสองคือเอสและทีจะพักห้องเตียงคู่ “ห้องนี้เตียงเดี่ยวนะค่ะ ส่วนสองห้องนี้เตียงคู่” พนักงานสาวอธิบาย
“ขอบคุณค่ะ” ร่างบางเลือกหยิบกุญแจห้องเตียงคู่ไปหนึ่งอันเหลืออีกหนึ่งอันทีเป็นคนหยิบไป
“ขอบคุณค่ะ” อันสุดท้ายนางเอกสาวก็หยิบของตัวเองมาพร้อมรอยยิ้มส่งให้พนักงานสาว ทำให้พนักงานสาวตื่นเต้นและเป็นปลื้มมากที่เห็นนางเอกคนดังใกล้ๆ
ทุกคนต่างแยกย้ายเข้าพักห้องของตัวเองก่อนเพื่อรอเวลาได้เที่ยวกันในช่วงบ่าย ร่างเล็กดี้ด้าเดินพาร่างบางมาส่งถึงห้องพักพร้อมเข้ามานั่งเล่นพูดคุยด้วยความคิดถึง แหววเองก็มองดูสองสาวต่างวัยพูดคุยกันอยู่เงียบๆ พร้อมสังเกตน้องสาวคนสวย เนื่องจากปกติแล้วเดย์ไม่ใช่คนที่จะพูดคุยเป็นกันเองหรือคุ้นเคยกับใครง่ายๆ แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้คงพิเศษจริงๆ
ส่วนเด็กน้อยเองก็ใช่จะมัวแต่คุยกับร่างบางของพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว ยังมีมาชวนพี่แหววคุยด้วยเป็นพักๆ พร้อมถามถึงอะไรหลายๆ อย่างที่ตัวเองอยากรู้ ทำให้ทั้งสามพูดคุยในวงสนทนาเดียวกันทำให้แหววได้เข้าใจว่าทำไมน้องสาวของตัวเองจึงคุ้นเคยและคุยกับเด็กน้อยได้เรื่อยๆ ทั้งที่เป็นคนเงียบๆ ไม่น่าจะค่อยมีเรื่องอะไรมาคุยกันได้ตลอดแบบนี้
เพราะเด็กน้อยคนนี้พิเศษตรงที่ช่างพูด พูดเรื่องมีสาระ รับฟังเมื่อถึงเวลา ไม่งอแงเอาแต่ใจเหมือนเด็กทั่วๆไป ที่ถ้าเป็นรุ่นนี้แล้ว จะเอาแต่ใจตัวเอาตัวเองเป็นที่ตั้งนั่นเอง เรื่องที่คุยกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบทของตัวร้ายที่น้องสาวเธอเคยเล่น เธอมักถามเด็กน้อยเสมอว่าเป็นอย่างไรเพราะเท่าที่ฟังๆ ดู น้องกุ๊กไก่ดูละครทุกเรื่องที่น้องสาวเธอรับแสดงเสียด้วย
พูดคุยกันมาก็เกือบจะเที่ยงวัน ร่างเล็กของเด็กน้อยก็ชวนผู้ใหญ่ในห้องทั้งสองออกมาทานอาหารกลางวันกันที่ห้องอาหารของโรงแรมพร้อมให้เหตุผลว่าต้องเตรียมพลังงานให้พร้อมสำหรับช่วงบ่ายนี้ ทั้งสามเดินออกจากห้องพักตรงมาที่ห้องอาหารก็พบกับสองหนุ่มในคณะท่องเที่ยวนั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว และพอเห็นร่างบางของเดย์ เอสก็ลุกขึ้นเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งข้างๆ เขา ซึ่งเธอก็นั่งลงตามที่เขาเลื่อนเก้าอี้ให้ ตามด้วยน้องกุ๊กไก่ที่นั่งตักร่างบางทันที เอสทำทีจะเลื่อนเก้าอี้ให้แหววนั่งข้างๆ เดย์ แต่ก็ถูกปฏิเสธเพราะเธอเลือกนั่งข้างๆ ทีและเลื่อนเก้าอี้นั่งลงเรียบร้อย เอสจึงกลับไปนั่งที่ตัวเอง
“ทานอะไรดีครับเดย์ โรงแรมนี้อาหารอร่อยมากเลยนะครับ” เอสบริการยื่นเมนูให้ร่างบางข้างพร้อมชมรสชาติอาหารพร้อมสรรพ
“ขอบคุณค่ะ” เป็นน้องกุ๊กไก่ที่ยิ้มตอบรับคำชม “แล้วพี่เอสสั่งอะไรทานค่ะ”
“สเต็กไก่ครับสนใจมั้ยคนสวย”
“คนสวยไม่ชอบทานสเต็กค่ะ พี่เดย์ทานอะไรดีค่ะ” หันไปถามพี่สาวคนสวยที่ถือเมนูนั่งพิจารณาอยู่
“ขอเป็นข้าวห่อไข่แล้วก็ไข่ตุ๋นค่ะ น้องกุ๊กไก่เอาด้วยมั้ย” สั่งอาหารที่ตัวเองอยากทานแล้วจึงถามตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงตัก
“เอาด้วยค่ะ”
“งั้น 2 เลยค่ะ” สั่งเพิ่มพร้อมส่งยิ้มให้พนักงานก่อนหันไปหาพี่สาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “พี่แหววทานอะไรดีค่ะ”
“งั้นพี่ขอเป็นผัดไทห่อไข่แล้วกันค่ะ” บอกพร้อมยื่นเมนูคืนให้พนักงาน พอรับออเดอร์แล้วก็ไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป
“พี่ทีโทรรายงานพี่เอ็มรึยังค่ะ” เดย์ถามแซวๆ คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“ทำไมพี่ต้องโทรรายงานมันด้วย”
“ก็ไม่รู้สิค่ะ เดี๋ยวถ้าขาดการติดต่อนานๆ ทางนั้นจะคิดถึงละมั้ง”
“อย่ามาทำแซวกันเลย ว่าแต่วันนี้เราไปเที่ยวไหนกันล่ะ”
“ช่วงบ่ายเรามีเวลาไม่ค่อยมากก็เลยเลือกเที่ยวที่ส่วนสาธารณะค่ะ” เป็นร่างเล็กของเด็กน้อยตอบเจื้อยแจ้ว
“เอ๋! ดีเลย พี่อ่านเจอคนที่เขามาเที่ยวกันที่หาดใหญ่เขาก็แนะนำให้ไปที่นี่แหละ พี่อยากขึ้นกระเช้าลอยฟ้า” ทีแสดงความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
“แต่กุ๊กไก่อยากไปเล่นที่เมืองหิมะน้ำแข็ง ไม่ได้ไปนานแล้ว”
“ใช่ๆ อันนั้นพี่ก็อยากไป”
“ได้ข่าวว่าไอ้เอ็มมันเพิ่งพาไปญี่ปุ่นมาไม่ใช่หรอ”
“ก็อยากรู้ไงว่าธรรมชาติสร้างกับคนสร้างน่ะ แกก็รู้ว่าบรรยากาศมันต่างกัน”
“พี่เดย์ละค่ะ”
“พี่ขอชมวิวดีกว่า นั่งกระเช้าดูไปรอบๆ วิวน่าจะสวย”
“แน่นอนสิค่ะ เห็นทั่วทั้งหาดใหญ่เลย”
“แต่พี่สนใจร้านอาหารมากกว่านะ เห็นว่าร้านอาหารบนเขานั่นเขามีเมนูเด็ด จะเด็ดจริงรึเปล่าวันนี้คงได้พิสูจน์กัน”
ต่างคนต่างหมายมาดกับสิ่งที่ตัวเองปรารถนาและคาดหวังจากการท่องเที่ยวในครั้งนี้ หลังจากได้อาหารที่สั่งแล้วสามสาวคนนั่งทานอาหารเที่ยงพร้อมพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนสองหนุ่มก็พูดแหย่กันไปมาสร้างความเฮฮาในกลุ่ม จนนางเอกสาวเดินลงมาร่วมโต๊ะด้วย แต่บรรยากาศก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เธอสั่งอาหารพร้อมทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานหลังจากนั้นกิตติภพก็เดินเข้ามาพร้อมซักถามความพร้อมของคณะลูกทัวร์ก่อนพากันออกจากโรงแรมที่พักตรงไปสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในโปรแกรมของวันนี้
ตลอดทางที่นั่งรถตู้โรงแรมมาทุกคนต่างกระดี้กระด้าเมื่อได้เห็นสิ่งแปลกตาตลอดสองข้างทาง และมีไกด์ตัวน้อยคอยอธิบายให้ฟังอยู่เรื่อยๆ เสียงเจื้อยแจ้วคละเคล้าเสียงหัวเราะของลูกทัวร์ส่วนใหญ่สร้างสรรค์ทำให้บรรยากาศในการท่องเที่ยวดูสนุกสนานยิ่งขึ้น จนมาถึงที่หมาย
“เดี๋ยวเราไหว้ท้าวมหาพรหมกันก่อนนะครับ เอาฤกษ์เอาชัยและเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนขึ้นเขากัน” กิตติภพให้คำแนะนำก่อนที่ทั้งหมดจะตรงไปที่ ซึ่งระหว่างที่เดินไปตลอดทางนั้นคนกลุ่มนี้ดูโดดเด่น โดยเฉพาะนางเอกสาว ที่หลายคนต่างซุบซิบกันว่า ‘ใช่มั้ยๆ’ ไปตลอดทางที่ทั้งกลุ่มเดินผ่าน
“มาครับเดย์ เดี๋ยวผมช่วยถือ” เดย์กำลังจะเตรียมพวกเครื่องธูปเทียนดอกไม้ให้กับคณะ ซึ่งเธอเตรียมมาพร้อมก่อนมาถึงที่นี้โดยใส่ตะกร้าใบเขื่องมาสองใบส่วนอีกใบอยู่ที่แหววซึ่งก่อนเข้ามาในส่วนนี้สองสาวพากันจัดไว้แล้ว และมาหาซื้อพวกดอกไม้เพิ่มตรงบริเวณของส่วนสาธารณะที่มีการจัดไว้จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมและท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้
“นึกว่าหายไปไหนกันสองคนกับพี่แหววซะอีก” เอสถามเพราะพอลงจากรถสองสาวก็เดินจูงมือกันออกจากกลุ่มทันทีเขาจะตามไปด้วยก็ไม่ทันและเพียงไม่นานก็กลับมารวมกลุ่มพร้อมกับดอกไม้เต็มไปหมด
เดย์เพียงยิ้มตอบรับเท่านั้น จากนั้นก็หันไปหยิบจับพวกธูปเทียนและดอกไม้ยื่นให้กับสมาชิกทุกคนอย่างคล่องแคล้ว และเพียงไม่นานทุกคนก็กราบไหว้ของพรท้าวมหาพรหมกันแล้วเสร็จ เป็นเด็กน้อยที่วิ่งเข้ามาจับมือของพี่สาวคนสนิทให้รีบวิ่งไปที่สถานที่จำหน่ายบัตรกระเช้าลอยฟ้าก่อนใคร ปล่อยให้คุณอาหนุ่มส่ายหน้ากับความกระดี้กระด้าของหลานสาว ทุกคนเดินตามไปที่จุดจำหน่ายบัตรซึ่งต้องมีการต่อคิว โชคดีที่วันนี้เป็นวันธรรมดา ผู้คนเลยไม่ค่อยเยอะมากสักเท่าไหร่ทำให้ไม่ต้องรอคิวนานก็ได้ซื้อบัตรแล้ว
ตลอดทางนางเอกสาวพยายามเข้ามาใกล้ชิดชายหนุ่มที่เธอหมายปองตลอดเวลา แต่ก็ถูกขัดอย่างเนียนๆ จากเพื่อนของชายหนุ่มตลอด ทำให้เธอเข้าใกล้เขาได้ไม่ถนัดเท่าไร กิตติภพเป็นคนดูแลคณะจึงได้พูดคุยกับเธอมากกว่า ซึ่งเพราะกิตติภพนี้เองที่ทำให้เธอบางทีก็ลืมเป้าหมายไปบ้างเหมือนกันเพราะกิตติภพเองก็มีคุณสมบัติเกือบจะครบตามที่เธอต้องการ
เหล่าคณะนักท่องเที่ยวได้ขึ้นกระเช้าคันเดียวกัน ซึ่งระหว่างทางที่กระเช้าวิ่งไปเดย์มองวิวทิวทัศน์อย่างเพลิดเพลิน โดยมีน้องกุ๊กไก่คอยชี้โน่นนี่นั้นแล้วบอกว่าคืออะไรอยู่ตลอดทาง พอถึงสถานีปลายทางทุกคนต่างพากันลงจากกระเช้าแล้วเดินไปตรงจุดชมวิวเพื่อมองทัศนียภาพของหาดใหญ่สักพัก รวมถึงถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันด้วย
“เอสค่ะ รบกวนถ่ายรูปให้เกรทหน่อยสิค่ะ” นางเอกสาวยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งมาให้ซึ่งเอสเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพราะที่เธอต้องการให้ถ่ายให้นอกจากรูปของเธอแล้วยังรวมถึงทุกคนที่มาเที่ยวด้วยกันด้วย พอถ่ายรูปให้เสร็จเขาก็ส่งมือถือคืนให้เธอ
“ขอบคุณนะค่ะ เกรทไม่ค่อยได้มาเที่ยวแบบนี้หรอกค่ะ นานๆ ที แต่ก็คุ้มค่ะ” เธอกล่าวยิ้มๆ อย่างสุขใจ
กิตติภพที่พกกล้องส่วนตัวมาด้วยก็ทำหน้าที่เป็นตากล้องประจำทัวร์นี้ แต่ส่วนใหญ่จะแอบถ่ายรูปของนางร้ายสาวสวยมากกว่า เผลอเป็นกดๆ ทำให้เอสที่มองอยู่ตลอดรู้สึกขุ่นใจอยู่ไม่น้อย
“เอ่อน่ะ ก็เดย์เขาเฟรนด์ลี่ขนาดนั้นนี่” เป็นทีที่เดินเข้ามาตบบ่าเพื่อนรักให้กำลังใจ
“ก็รู้ แกว่าเขาจะรู้มั้ยว่าฉันรู้สึกยังไงกับเขา”
“น้องสาวฉันไม่ได้โง่โว้ย”
“หมายความว่าเธอรู้”
ยิ้มมุมปากเป็นคำตอบ แต่มันไม่ได้ทำให้เอสรู้สึกสบายใจขึ้นมาเลย ก็ในเมื่อเธอรู้แต่ทำไมเธอไม่แสดงอะไรออกมาให้เขารู้สึกว่าเขาจะปิ๋วหรือมีความหวังต่อไปกันนะ
“ช่วงเวลาของการตัดสินใจ แกคิดว่าเดย์เขาเป็นคนใจเร็วด่วนได้เหมือนผู้หญิงสมัยนี้หรอว่ะ”
“ก็เปล่า”
“แต่การที่เธอนิ่ง ฉันคิดว่ามันเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่าเธอยังมองนาย และการที่เธอไม่ปฏิเสธนายไปเลยทั้งที่ประวัติเรื่องผู้หญิงนายเน่าซะขนาดนั้นเธอก็ทำได้ตลอดเวลานะ นั่นก็หมายความว่าเป็นช่วงของการพิจารณา แค่นี้ยังไม่พออีกหรอวะ”
“ทำไมแกเข้าใจจิตใจผู้หญิงดีจังวะ” เอสมองหน้าเพื่อนพร้อมเกลาคางตัวเองมองอย่างพิจารณากับคำถามที่ถามออกไป
“มองแบบนี้หมายความว่าไงวะ” เป็นทีที่ถามกลับอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ฉันกำลังสงสัยว่าผู้ชายที่ทำหน้าที่เมียนี่เป็นบุคคลที่เข้าใจผู้หญิงได้ดีกว่ารึเปล่า”
“หน่อย ไอ้เพื่อนเลว อุตส่าห์ให้กำลังใจแต่แกมองฉันเป็นแบบนั้นหรอวะ” สองหนุ่มพูดคุยหัวเราะเล่นกันอย่างเคย
พอถ่ายรูปกันหนำใจแล้วทุกคนก็เตรียมไปไหว้พระกันต่อแต่ก่อนไปก็แวะซื้ออะไรเย็นๆ ดื่มกันก่อน แต่พอเข้ามาในคอฟฟี่ช็อฟก็เห็นนางเอกสาวซึ่งแว๊บหายไปตอนไหนไม่รู้ นั่งอยู่แต่ไม่ได้นั่งคนเดียว เพราะมีผู้ดูแลคณะนั่งอยู่ด้วย
“ร้อนกันน่าดูนะครับทุกคน คุณเกรทเธอหิวผมก็เลยพาหาอะไรทานแล้วก็มานั่งรอทุกคนที่นี่แหละครับ เพราะคิดว่าทุกคนคงต้องแวะมาที่นี่ก่อนแน่นอน”
“ไม่แวะก่อนได้ไงละค่ะอากิต ก็นัดกันไว้แล้ว เดี๋ยวพี่น้ำหวานงอนที่กุ๊กไก่มาแล้วไม่แวะมาหาใช่มั้ยค่ะคุณพี่สุดสวย” ปลายประโยคหันไปพูดกับบาริสต้าคนสวยประจำร้านซึ่งรอตอนรับสาวน้อยอยู่ก่อนแล้ว
“สวัสดีค่ะน้องกุ๊กไก่ ไม่เจอกันนานเลย ไม่มาหาพี่บ้างเลยนะ”
“กุ๊กไก่ไม่ค่อยว่างนะค่ะช่วงนี้”
“ติดเกมละสิเรา”
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดัง”
“ไม่ทันแล้วมั้ง” เป็นกิตติภพที่เข้ามาแทรกการสนทนาของทั้งสอง
“ก็นิดหน่อยเองอากิตก็” พูดเขินๆ ก่อนหันไปแนะนำที่เธอจูงมือมาด้วยตลอดทาง
“พี่น้ำหวานค่ะ นี่พี่เดย์ค่ะ” แต่ประโยคต่อมาเธอต้องเรียกให้ร่างเพรียวของบาริสต้าสาวก้มลงเพื่อกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน “นางร้ายในดวงใจ”
“จริงหรอค่ะ” บาริสต้าสาวเงยหน้าขึ้นมามองยิ้มๆ อย่างชื่นชมก่อนเชิญให้ทุกคนหาที่นั่งตามสบายแล้วเธอก็เดินไปสั่งงานบาริสต้าผู้ช่วยแล้วหาไป
“กระซิบอะไรกันค่ะ” หลังจากได้ที่นั่งแล้วเดย์หันไปถามน้องกุ๊กไก่ทันที เด็กน้อยยิ้มน่ารักแล้วตอบกลับอย่างร่าเริง
“ก็พี่น้ำหวานเขาเป็นแฟนคลับหนังสือแปลพี่เดย์ พอรู้ว่ากุ๊กไก่รู้จักเป็นการส่วนตัวเลยรบเร้าใหญ่ให้กุ๊กไก่เอาหนังสือไปให้พี่เดย์เซ็นให้ แต่กุ๊กไก่ไปกรุงเทพฯ คราวที่แล้วก็ลืมมาเอาหนังสือที่พี่น้ำหวานจะฝากให้พี่เดย์เซ็นให้ไปด้วยนะค่ะ”
“หรอค่ะ”
“คุณเดย์นี่ ดังจังเลยนะค่ะ” เกรทเอ่อชมพร้อมมองหน้าสองสาวต่างไว้ ปากยิ้มแต่นัยน์ตาแปลกๆ
“แหม ก็ดังเพราะพี่เกรทนี่แหละค่ะ ก็พี่เกรทเล่นเรื่องไหนพี่เดย์ก็เล่นเรื่องนั้นเกือบทุกเรื่อง ก็ต้องดังพอๆ กันสิค่ะ”
“แต่ฝีมือพี่คงเทียบคุณเกรทเขาไม่ได้หรอกค่ะ”
“ว่าไม่ได้สิค่ะพี่เดย์ เทียบกันได้ไง คนละบท กุ๊กไก่ว่าถ้าให้พี่เกรทมาเล่นบทร้ายก็คงสู้พี่เดย์ไม่ได้ หรือถ้าให้พี่เดย์ไปเล่นบทนางเอกก็คงสู้พี่เกรทไม่ได้อยู่ดี” ตัวน้อยวิเคราะห์ก่อนก้มลงดูดนมชมพูที่พนักงานเอามาวางไว้ให้
“หลานคุณกิตนี่ช่างคิดช่างพูดนะค่ะ นี่ถ้าเป็นเด็กอื่นคงไม่อย่างนี้” นางเอกสาวหันไปชมหลานสาวให้คุณอารู้สึกชื่นใจกับความมีเหตุมีผล
“ครับ พี่ดาเธอสอนมานะครับ แล้วจากที่แกอยู่สภาพแวดล้อมที่มีคนเยอะๆ รู้จักเข้าไปพูดจาเลยทำให้โลกของแกเปิดกว้างน่ะครับ”
“หรอค่ะ นี่ถ้าเกรทมีหลานนะค่ะ เกรทก็อยากได้แบบน้องกุ๊กไก่นี่แหละค่ะ เอาไว้เป็นเพื่อนคุยไม่เหงาด้วย”
“กลัวจะรำคาญเสียเปล่าๆ สิครับ เห็นอย่างนี้รู้ทันเราไปซะทุกอย่าง” พูดทีเล่นทีจริงเพื่อปล่อยให้แต่ละคนได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้ไปต่อกัน และคนที่เข้ามาในคอฟฟี่ช็อฟคนสุดท้ายก็คือแหววที่พอมาถึงก็ยกมือขึ้นทักอย่างร่าเริง
“ไงค่ะทุกคน เรียบร้อยกันรึยัง”
“ก็รอพี่แหววนี่แหละค่ะ ไปไหนมาค่ะนี่” เดย์ถาม
“พี่ก็ไปแวะทานอาหารตามเมนูแนะนำเที่ยวนะค่ะ ที่ร้านตรงโน้นไง แล้วไม่ต้องถามพี่นะค่ะว่าทำไมไม่ชวนคุณน้อง เพราะพี่รู้ว่าน้องไม่ทานจุบจิบ พี่เลยไปเองคนเดียวซะเลย”
“งั้นตอนนี้ก็พร้อมแล้วนะค่ะ ไปต่อกันเถอะค่ะ” เดย์เอ่ยชวน เพราะเครื่องดื่มที่เธอสั่งเป็นแก้วที่พลาสติกที่เดินถือออกไปได้
“เดี๋ยวสิค่ะพี่เดย์” เป็นเด็กน้อยที่รั้งไว้ก่อน
“ว่าไงค่ะ”
“อ๊ะ! มาพอดี” เด็กน้อยหันเห็นบาริสต้าสาวพอดีทำให้เดย์นึกได้ว่าก่อนนี้ที่คุยกันไว้
“เกือบลืมเลยนะเนี๊ยะ”
“ไม่ได้เกือบลืมสิค่ะพี่เดย์ ลืมแล้วต่างหาก”
ร่างบางได้ยิ้มอายๆ ให้หลายๆ คนที่มองเธอ เพราะทุกคนรู้และได้ยินกันหมดว่าก่อนหน้านี้คุยกันเรื่องอะไรและทำไม บาริสต้าสาวเอาหนังสือแปลที่เป็นผลงานของนางร้ายสาวสวยมาวางเพื่อของให้เธอลงลายเซ็นให้เป็นที่ระลึก พร้อมขอถ่ายรูปด้วยอีกเล็กน้อย ซึ่งเธอก็เต็มใจพร้อมถอดแว่นกันแดดอันโตออกจากใบหน้าสวยให้กล้องได้จับภาพใบหน้าของเธออย่างชัดเจนเพื่อแสดงความเป็นกันเอง และเป็นกิตติภพที่ทำหน้าที่เป็นช่างภาพให้อย่างยินดี
“ขอบคุณคุณเดย์มากนะค่ะ น้ำหวานปลื้มผลงานของคุณเดย์มากเลยค่ะ อ่านเข้าใจง่ายแล้วก็ลื่นไหลดีมาก แล้วนี่คุณเดย์คิดจะเขียนหนังสือของตัวเองมั้ยค่ะ”
“เดย์คงไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ลองดูสิค่ะ หวานเป็นกำลังใจให้ และก็จะรอติดตามผลงานใหม่นะค่ะ ว่าแต่คุณเดย์แปลเรื่องอะไรอยู่รึเปล่าค่ะตอนนี้”
“ตอนนี้แปลเรื่อง Just mind to stay, love greeting. อยู่ค่ะ ของสำนักพิมพ์คุณกิตติภพ” (ชื่อสมมติ)
“อ๊า! เรื่องนี้ดังมากนะค่ะ ติดอันดับหนังสือขายดีด้วย อยากอ่านมากเลยค่ะ ถึงน้ำหวานจะพอรู้เค้าโครงเรื่องอยู่บ้างเพราะแฟนชอบพูดถึงบ่อยๆ หวานอ่านภาษาอังกฤษได้เข้าใจ แต่ไม่ได้อรรถรสเหมือนภาษาแม่เราหรอกค่ะ เลยอยากอ่านงานแปลมากกว่าค่ะ ยิ่งรู้ว่าเป็นผลงานของคุณเดย์ด้วยแล้ว หวานก็ยิ่งตั้งตารอจนจะทนไม่ไหวแล้วละค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ จะพยายามให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”
เดย์พูดคุยกับบาริสต้าสาวแฟนคลับอีกเล็กน้อยก่อนที่ทุกคนจะพร้อมกันเพื่อไปยังที่หมายต่อไป
“เดี๋ยวเราไหว้พระกันก่อนนะครับ จากตรงนี้เราจะลงไปที่เมืองหิมะน้ำแข็งกัน ตามรีเควชของใครบางคน” พูดไปก็เหลือบตามองหลานสาวตัวน้อยที่เขารู้ดีว่า ยัยตัวเล็กรบเร้าให้แวะเมืองหิมะน้ำแข็งก่อนตั้งแต่มา แต่ด้วยความที่มีผู้ใหญ่มาเที่ยวกันเยอะกว่าเด็ก ความต้องการของเด็กจึงตกไป
พอไหว้พระเสร็จทุกคนก็พร้อมใจกันลงจากเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าเช่นเดิม เอสปล่อยให้ร่างบางที่นั่งข้างๆ เขาได้ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์อย่างที่เธอชอบ และการที่เขาได้นั่งใกล้กับเธอได้นั้นต้องขอบคุณเพื่อนรักที่คอยจัดนั่นดันนี่ทำทีเรื่องมากเพื่อเขาตลอดเวลา
“พร้อมกันรึยังครับ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนเลย” กิตติภพพาทุกคนไปยังห้องเปลี่ยนชุดที่มีไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกคนไปแต่งตัวกันให้เพื่อให้พร้อมสำหรับเข้าสถานที่ ใช้เวลาไม่นานทุกคนก็พร้อม แต่คนที่พร้อมที่สุดเห็นจะเป็นร่างเล็กที่ดี้ด้ากึ่งลากกึ่งจูงพี่สาวคนสวยให้ไปตามทางที่เธออยากไป ซึ่งร่างบางเองก็ตามใจ และดูเหมือนสองสาวต่างวัยจะเล่นกันจนไม่สนใครๆ ที่มาด้วยแล้วตอนนี้
“จะไปแล้วนะ” เป็นเสียงตะโกนก้องของร่างเล็กที่ให้สัญญาณว่าตัวเองจะสไลด์ลงไปด้านลางตรงทางเดินของสไลเดอร์ “พี่เดย์ตามมานะ” หันกลับไปเรียกร่างบางที่ต่ออยู่ด้านหลังก่อนนั่งลงและไถลตัวลงไป และเป็นกิตติภพที่คอยรับหลานสาวตัวเองอยู่เบื้องล่าง
เมื่อร่างเล็กของเด็กน้อยลงไปแล้วก็ตามด้วยร่างบางที่วันนี้เธอดูมีความสุขและสนุกกับการได้เล่นในส่วนต่างๆ ของเมืองหิมะน้ำแข็งตามเด็กน้อยไปด้วย
“พี่เดย์ลงมาเลย” พอได้ยินเสียงของเด็กน้องร่างบางก็นั่งลงและไถลตัวเองลงมาตามทางที่เด็กน้อยเคยเล่นจนมาเกือบสุดท้าง ความเร็วของการสไลด์ลดลงและหยุดลงในที่สุด ร่างบางหัวเราะร่า
“เดย์ครับ” เอสส่งมือให้เธอจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นซึ่งเธอก็ไม่ขัดข้อง
“ขอบคุณนะค่ะ” ยิ้มให้ในตาใส
“พี่เดย์เราไปอีกรอบกันดีกว่า” ร่างบางพยักหน้าตอบรับก่อนพาเด็กน้อยขึ้นไปต่อคิวเล่นอีกครั้ง
“คุณเดย์นี่เล่นอะไรเป็นเด็กๆ เลยนะค่ะ”
“ก็คนมาเที่ยว จะให้มัวห่วงสวยทำไมค่ะ” เป็นแหววที่ตอบกลับมาให้
“เกรทก็ไม่ได้ห่วงสวยนะค่ะ”
“พี่ไม่ได้ว่าคุณน้องนะค่ะ พี่บอกว่าน้องเดย์เขาจะเล่นเขาก็ไม่ห่วงสวยหรอกค่ะสำหรับรายนั้น”
พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนที่จะเดินผละไปรวมกลุ่มกับร่างบางและเด็กน้อยเพื่อร่วมกิจกรรมสนุกๆ ที่ทางเมืองหิมะน้ำแข็งจัดไว้ให้ โดยปล่อยให้นางเอกสาวยืนมองอยู่ห่างๆ เพราะการที่เธอจะไปเล่นอะไรแบบนั้น หากมีนักข่าวอยู่แถวนี้เธอได้เป็นข่าวดังแน่ๆ
つづく.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ