ลุ้นรัก...นางร้ายเจ้าเสน่ห์

-

เขียนโดย ploynin

วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.55 น.

  18 ตอน
  1 วิจารณ์
  20.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557 20.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) เที่ยวหาดใหญ่ (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

การถ่ายทำในส่วนนี้แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงการตัดต่อที่เป็นงานของผู้กำกับและผู้จัดซึ่งในส่วนนี้นั้นต้องกลับไปทำที่กรุงเทพฯ และผู้เกี่ยวข้องต้องเดินทางกลับทันที ระหว่างการถ่ายทำมีบ้างที่เสียเวลาจุกจิกนิดหน่อยที่ตัวนักแสดงบางคนซึ่งทำให้ทีมงานเริ่มหงุดหงิด แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี และตอนนี้งานของนักแสดงก็เสร็จแล้ว นักแสดงบางส่วนรีบกลับเพราะมีงานต่อ ส่วนบางคนก็อยู่เที่ยวต่อตามที่ได้วางแผนการไว้แล้วล่วงหน้า

          “นะค่ะพี่เหมียว จัดการให้เกรทหน่อยนะค่ะ เกรทไม่สบายจริงๆ นะค่ะ” เสียงแหบออดอ้อนดังอยู่ในห้องพักซึ่งตอนนี้เจ้าของกำลังคุยกับผู้จัดการส่วนตัวให้เลื่อนคิวงานให้เพราะต้องการอยู่เที่ยวต่อ

          “แล้วตอนนี้คุณน้องอยู่ไหนค่ะ”

          “ตอนนี้เกรทยังอยู่ที่สงขลาอยู่เลยค่ะ รออาการดีขึ้นกว่านี้เกรทจะรีบกลับนะค่ะ จะให้เร็วที่สุดเลยค่ะ” เสียงแหบๆ ที่แสร้งทำนั้นสร้างความสงสารและเห็นใจให้กับผู้จัดการส่วนตัวอย่างมาก เพราะดาราในสังกัดเกิดป่วยแบบนี้ และเป็นดาราตัวเงินตัวทองด้วยยิ่งทำให้ผู้จัดการคิดหนักแต่ก็ขัดอะไรไม่ได้หากเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วย

          “ก็ได้ค่ะ แต่ว่าพี่จะเลื่อนคิวให้แค่ของวันพรุ่งนี้นะค่ะ คุณน้องต้องรีบกลับมาให้เร็วที่สุดนะไม่งั้นงานนี้ตายแน่ๆ เลยละค่ะ”

          “ค่ะ ขอบคุณพี่เหมียวมากนะค่ะ เกรทเกรงใจจริงๆ แต่เกรทก็ไม่สบาย เลยทำอะไรไม่ได้เลย ขอโทษจริงๆ นะค่ะ” พูดเสร็จก็กดวางสายทันที

          ร่างบางของนางเอกสาวยิ้มกริ่มพอใจที่สามารถขอเลื่อนงานได้ เธอตั้งใจอยู่เที่ยวต่อตามก๊วนนางร้ายซึ่งมีชายหนุ่มที่เธอหมายปองรวมอยู่ด้วย ถึงต่อหน้าจะเคลียร์กันลงตัวแล้วโดยเธอเข้าไปขอโทษชายหนุ่มที่เคยพูดไม่ดีและทำกิริยาไม่เหมาะสมด้วย เพราะหลังจากวันนั้น ชายหนุ่มก็แสดงให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเธอกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาว โดยที่เขานั้นรักษาระยะห่างจากเธอตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีเวลามาไล่ตามเธอแต่เอาเวลาไปไล่ตามหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่เขาบอกว่ารักต่างหาก แต่เธอยอมไม่ได้ คนอย่างเธอเป็นนางเอกอันดับหนึ่งทั้งจอแก้วและจอเงิน เธอจะมาแพ้นางร้ายจอแก้วคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด

          นึกถึงตอนไปเที่ยวตลาดน้ำแล้วก็เจ็บใจ อะไรก็ไม่รู้ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยก็ถูกแฟนคลับวิ่งไล่จนแทบจะหลบกลับมาไม่ถึงที่พัก ยังดีที่มีพีทมาเป็นเพื่อนเพราะรายนั้นก็ถูกไล่มาเหมือนกัน ว่าไปแล้วนึกถึงพระเอกหน้าหล่อของเรื่องขึ้นมาก็พอจะนึกแผนการดีๆ ขึ้นมาได้ แต่บ้าจริง หมอนั่นดันกลับไปแล้วซะอีก เห็นบอกว่ามีงานต่อเลยต้องรีบกลับ แต่แผนการที่คิดไว้ก็ไม่ได้จะพับเก็บตลอดกาลหรอก รอแต่วันและเวลาจะใช้เท่านั้น

          ร่างบางของนางเอกคนสวยยืนยิ้มกริ่มหลังจากมองออกไปนอกบังกะโลแล้วพบกับร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอหมายปอง ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นถึงแม้ว่าเธอต้องพลีร่างกายก็ตามยังไงก็ต้องได้ผู้ชายที่แสนเพอร์เฟกซ์คนนั้นมาครอบครองให้ได้ และเธอไม่เคยแพ้หากอยากได้อะไรต้องได้มาเท่านั้น

          “คุณเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟกซ์ที่ฉันไม่เคยเจอมา และคนที่เพอร์เฟกซ์อย่างคุณเท่านั้นแหละที่เหมาะสมกับฉันที่สุดนะค่ะเอส แล้วคิดหรอว่าฉันจะปล่อยให้คุณหลุดมือฉันไปได้” ร่างบางพูดอย่างหมายมั่นในขณะที่ภาพข้างนอกบังกะโลที่พักนั้นบาดใจจนเธอนึกอยากให้คนที่อยู่กับเขาตอนนี้หายไปจากโลกนี้

          ภาพบาดตาทำให้นางเอกสาวตรงไปที่โทรศัพท์ซึ่งก่อนหน้านี้ได้วางทิ้งไว้บนเตียงหลังจากที่โทรขอเลื่อนงานกับผู้จัดการแล้ว เธอมีเวลาไม่มาก วันนี้เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้เขาคนนั้นมาครอบครองให้ได้ ส่วนแม่นางร้าย เมื่อไม่ใช่ตัวเอกเธอก็จะกำจัดมันออกไป

          “เสี่ยทวีหรอค่ะ”

          “...”

          “เกรทค่ะ”

          “...”

          “เกรทตกลงจะช่วยเสี่ยเรื่องคุณเดย์นะค่ะ”

          “...”

          “ค่ะ! ถ้าสำเร็จขอแค่เสี่ยมีอะไรให้เกรทบ้างก็เท่านั้น”

          “...”

          “ค่ะ ถึงกรุงเทพฯ แล้วเกรทจะติดต่อไปอีกทีนะค่ะ ขอเวลาคิดแผนก่อนค่ะ”

          ร่างบางกดวางสาวพร้อมมองดูโทรศัพท์ในมือของตัวเองอย่างหมายมาด เสี่ยทวีเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เธอจะใช้กำจัดคนที่เป็นเหมือนมารหัวใจ เพราะเคยมีครั้งหนึ่งที่เสี่ยทวีเคยเอาช่อดอกไม้มามอบให้กับนางร้ายแสนสวยถึงกองถ่าย แต่ยัยนั่นเล่นตัววางท่าคงกะอัพราคาค่าตัวเป็นแน่ถึงไม่ยอมรับ เธอเห็นพอดีจึงเดินเข้าไปแนะนำตัว ตอนแรกเธอกะจะทำความรู้จักกับเสี่ยทวีไว้เผื่อวันหน้าเธอต้องพึงพาอะไร เพราะถือคติเรื่องการคบหาไว้ใช้สอยรู้จักไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ที่เธอต้องระวังคือเสี่ยคนนี้เป็นคนที่มือไวสุดๆ จนมีครั้งหนึ่งเธอเกือบเสียท่า แต่ดีที่ตีจากมาแบบเนียนๆ ไม่น่าเกียจ และเขาก็ไม่รู้สึกว่าเธอนั้นตีจากมา เพราะอย่างน้อยเสี่ยคนนี้ก็ยังอยากให้เธอเป็นสะพานเพื่อไปหานางร้ายที่หมายปอง เหมือนแต่เริ่มเดิมที

          “ฉันพูดขอเธอดีๆ แล้วนะ เธอยังทำตัวอ่อยเขาอยู่ได้ ทีนี้จะมาหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ” พูดกับตัวเองก่อนเดินเข้าไปจัดการเรื่องส่วนตัวเตรียมเก็บของเพื่อเช็คเอาท์ออกจากบังกะโลที่พัก ความจริงที่พักที่ทางกองถ่ายจัดการจองให้นั้นทุกคนต้องพักกันเป็นคู่ แต่เธอจัดการจนคนที่เธอต้องพักด้วยออกจากที่พักไปอยู่กับพวกฝ่ายเสื้อผ้าด้วยกัน เธอไม่ได้สนใจว่าจะมีคำตำหนินินทาแต่อย่างใด เพราะเธอถือว่าตัวเองเป็นนางเอก หากเรื่องมากกับเธอ เธอก็มีวิธีจัดการในแบบของเธอนั่นเอง

         

 

          “เราเช็คเอาท์จากรีสอร์ทที่พักแล้วคุณกิตติภพจะมารับหรือเราต้องไปหาเขาที่โรงแรมกันครับ” ร่างสูงเดินตามร่างบางของนางร้ายสาวสวยออกมาติดๆ หลังจากที่เขาเห็นเธอเดินออกมาจากบังกะโลที่พักที่เธอพักกับพี่แหววช่างแต่งหน้า

          “เดี๋ยวช่วงสายๆ คุณกิตติภพจะให้รถของโรงแรมมารับค่ะ เอ๊ะ! เดย์เห็นคุณเอสเดินมาจากทางนั้น” ถามอย่างแปลกใจ เพราะจริงๆ แล้วเขาควรที่จะอยู่ในทางที่เธอกำลังจะเดินไปเพระนั่นคือบังกะโลที่พักของพี่ชายและเป็นที่รู้ว่าร่างสูงตรงหน้าพักร่วมกับพี่ชายของเธอ

          “อ๋อ พอดีเมื่อคนผมพักที่บังกะโลทางฝั่งโน้นนะครับ ถูกพวกมันเฉดหัวไป” พูดติดตลกซึ่งก็ได้ผลเพราะร่างบางหัวเราะออกมาอย่างน่ารัก

          “เข้าใจแล้วค่ะ แล้วนี่กำลังจะกลับไปบังกะโลเดิมใช่มั้ยค่ะ”

          “ครับ จะไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับ”

          “ค่ะ เดย์ก็ว่าจะไปบอกพี่เอ็มพอดีว่าไม่ต้องรอเดย์เพราะเดย์อยู่เที่ยวต่อนะค่ะ”

          “อ้าว! เอ็มมันยังไม่รู้หรอครับ”

          “ไม่รู้ค่ะ เลยจะมาบอกไว้ก่อนกลัวจะรอกลับเก้อนะค่ะ แต่เจอคุณเอสแล้วเดย์รบกวนฝากบอกพี่เอ็มด้วยนะค่ะ” ร่างบางยิ้มเกรงใจ

          “ครับ ได้ครับเดี๋ยวผมบอกให้”

          “ขอบคุณค่ะ” ร่างบางบอกขอบคุณแล้ว หันหน้าเดินจากไปแต่เส้นทางที่เธอเดินไปนั้นไม่ใช่ที่พักของเธอทำให้ร่างสูงประหลาดใจจึงได้เอ่ยถามออกมา

          “แล้วเดย์จะไปไหนต่อครับนั่น”

          “ไปหาอะไรให้พี่แหววรองท้องนะค่ะ” ร่างบางตอบยิ้มๆ แล้วขอตัวเลี่ยงออกไป

          ร่างสูงถึงอยากจะตามไปแต่ด้วยที่ตัวเองยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แถมได้รับฝากฝังเรื่องจากเธอแล้วการจะร้องไปด้วยมันคงไม่เหมาะเท่าไหร่ จึงตัดใจเดินกลับบังกะโลที่พักเพื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อน

          ก๊อกๆ ก๊อก เสียงเคาะประตูอย่างคนมีมารยาทก่อนจะใช้กุญแจไขประตูเข้าไปจึงพบร่างของเพื่อนรักสองคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างมีความสุข ทำให้ผู้มาใหม่นึกอิจฉาเหลือเกิน

          “ขอแกล้งหน่อยเถอะว่ะ” ร่างสูงยิ้มร้ายด้วยแววตาของคนขี้อิจฉาก่อนเดินไปค้นๆ ในกระเป๋าตัวเองได้เชือกผูกรองเท้าที่ต้องการจากนั้นมองไปรอบๆ เพราะแค่ของเขาคนเดียวนั้นมันยังยาวไม่พอ จึงเดินไปแกะเชือกผูกรองเท้าของเพื่อนทั้งสองมาใช้ด้วย จากนั้นก็จัดการนำมันมามัดต่อกันแล้วเดินย่องเข้าไปหาร่างสองร่างที่นอนกันอยู่บนเตียง จัดการค่อยๆ ผูกขาเพื่อนรักคนละข้างกับขาเตียงอย่างเบามือ ดูจากสภาพการแล้วเมื่อคืนมันสองคนคงหนักกันน่าดูเพราะเขาเล่นจัดมันมัดขนาดนี้แล้วไม่รู้สึกตัว ทั้งที่โดยปกติแล้วเอ็มจะเป็นคนที่รู้สึกตัวเร็วมาก

          “ฮึ! หวานกันดีนัก” ยิ้มร้ายก่อนเดินออกจากห้องไปแล้วกดล็อคเบาๆ

          ร่างสูงพอออกมาจากห้องพักได้แล้ว ก็ทำใจสูดอาการเข้าปอดพร้อมทำท่าทางอาการเหมือนคนตื่นตกใจเรื่องอะไรมาสักอย่างทุบประตูดังๆ และร้องตะโกนเรียกคนข้างในเสียงดังลั่น

          ปังๆ ปัง!

          “ไอ้เอ็ม ไอ้ที ตื่น! แย่แล้วพวกมึง”

          สองคนที่อยู่ในห้องงัวเงียลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงเอ็ดตะโรของเพื่อนรักอีกคนที่อยู่ข้างนอกประตู ซึ่งที่ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วมันไม่มีทางมาทำอะไรอย่างนี้เป็นแน่ แล้วทุกอย่างก็กระจ่างเมื่อหลังประตูตะโกนก้องถึงเรื่องเร่งด่วนออกมา

          ปังๆ ปัง!ทุบไปร้องตะโกนไปด้วยไม่หยุด

          “แฟนไอ้ไอโทรมาบอกว่าไอ้ไอถูกยิง เร็วพวกมึง”

          พอสิ้นเสียงสองคนก็เด้งตัวลงจากเตียงกันคนละข้างหมายวิ่งมาเปิดประตูให้เพื่อนรักเพื่อฟังรายละเอียดเพิ่มแต่ไม่ทันถึงประตู

          “โอ้ย!” สองเสียงร้องลั่นในห้องทำให้คนที่อยู่ข้างนอกรู้ได้ทันทีว่าแผนการสำเร็จจึงเปิดประตูห้องด้วยกุญแจที่ตัวเองมีเข้ามาหัวเราะอย่างสะใจลั่นห้อง

          “ฮ้าๆ! สมน้ำหน้า มีความสุขไม่รอเพื่อนรอฝูงสวรรค์เลยลงโทษอย่างนี้ไงละ”

          “เอส มึงทำงี้ได้ไงวะ” ทีว่าร้องออกมาทั้งเจ็บทั้งจุกที่หกล้มเต็มแรง

          “มึงเล่นงี้แต่เช้าเลยนะ!” เอ็มก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับมองไปที่ขาของตัวเองก่อนจะรีบแก้เชือกผูกร้องเท้าที่มัดอยู่ที่ขาของตัวเองเสร็จแล้วจึงเดินไปที่คนรักที่ยังคงนอนคว่ำอยู่กับที่แต่สายตามองตัวต้นเหตุอย่างเคืองๆ พอแก้เชือกที่ข้อเข้าของคนรักได้ก็ประคองขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกัน

          “ฮึ! รู้ไว้เลยว่าอิจฉา ถ้าแกไม่อยากถูกฉันแกล้งอีกก็รีบๆ หาเมียมาให้ฉันให้เร็วๆ” ร่างสูงตัวก่อเรื่องพูดสั่งออกมาอย่างเคยนิสัย

          พอได้ฟังเหตุผลก็ทำให้สองหนุ่มเพื่อนรักถอนหายใจอย่างเอือมๆ ไม่คิดว่าคนตรงหน้าพอจะสิ้นท้าแล้วจะไม่มีลายขนาดนี้

          “อย่างมองฉันเหมือนเสือสิ้นลายโว้ย ยังมีๆ ลายพาดกลอนด้วย” ไม่วายยังคุยโวให้เพื่อนหมั่นไส้อีก

          “อ่อ! พาดกลอน แต่เล่นให้ถูกคนน่ะ” เอ็มเดินเข้าไปใกล้เพื่อนรักยกแขนขึ้นท้าวกับไหล่มองเพื่อนด้วยสายตาจริงจังตอกประชดกับคำพูดถือดีนั้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้คนรักจัดการเพราะเขาไม่ถนัดเรื่องที่จะมานั่งเถียงเรื่องไร้สาระ และโดยปกติแล้วเอสเองก็เป็นคนที่ไม่ชอบเถียงกับใคร แต่ทำไมงานนี้มันพูดมากจัง หรืออาจเป็นเพราะเป็นเรื่องของมันเองกันนะ เขาคิดแล้วเข้าไปอาบน้ำจัดการธุระส่วนตัวทันที

          “ไอ้เอส ไอ้บ้า มึงรู้มั้ยเนี๊ยะเล่นงี้หัวกูแถบจะวัดพื้น”

          “แล้วกี่เซนต์ละ”

          “อะไร”

“ก็พื้นไง” ตอบหน้านิ่ง

“ไอ้... เดี๋ยวเถอะมึง เดี๋ยวเจอดี” พูดอย่างคาดโทษก่อนเอนหลังนอนไปบนเตียงพร้อมดึงผ้าห่มมาคุมตัว

          “เอาตัวเองให้รอดก่อนมั้ย” พูดเย้ยเรียกสายตาอาฆาตจากอีกคนก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีอย่างไม่มีอะไรจะพูด “นี่ไอ้เอ็มมันเล่นหนักเลยรึไง”

          “เอ่อ คนไรไม่รู้” ตอบเสียงดังหวังให้คนในห้องน้ำได้ยินแล้วสะบัดหันกลับไปทางเดิมอีกครั้ง

          “แน่ใจหรอว่าไม่รู้”

          “กูไม่คิดว่ามันจะตายอดตายอยากขนาดนั้นนี่หว่า”

          “หมายความว่าเมื่อคนมึงยั่วมันรึไง”

          “บ้า ยั่วเย้ออะไร กูอยู่ของกูดีๆ เพื่อนมึงอ่ะหื่นไม่พอยังอึดอีก”

          “เอ่อ... มันเพื่อนกู แล้วผัวมึงมั้ยล่ะ” เถียงไปก็ขำไป

          “เอ่อ... ผัวกู อยากได้เมียนักเดี๋ยวกูไปเรียกให้ ดีกรีนางเอกอันดับหนึ่งเชียวนะมึง” บอกไปแล้วทำทีจะเดินลงจากเตียงแต่เป็นคนเรียกร้องจะเอาเมียต้องรีบห้ามเพราะเป็นเมียที่ไม่ต้องการ

          “พอเลย เรื่องเกรทน่ะ กูเคลียร์แล้ว และอีกอย่างคนนี้กูก็ไม่ได้พิศวาสขนาดจะเอามาทำเมีย”

          “ก็แก้ขัดไง”

          “ขอบใจตอนนี้กูไม่ขัด กูอยากได้ตัวจริงของกู”

          “เฮ่ย! พึงฝีมือตัวเองบ้างสิว่ะ เมื่อวานก่อนกูก็อุตส่าสร้างโอกาสให้แล้ว ไม่เห็นจะได้เรื่องอย่างนี้เขาเรียกไม่มีน้ำยานิหว่าเอส”

          “น้ำยาน่ะมีโว้ย แต่เอาไว้ใช้ให้ถูกจังหวะ ฉันรักเขานะโว้ย คนนี้จริงจัง”

          “เอ่อ!ๆ แล้วจะช่วยแล้วก่อน แต่ตอนนี้ขอนอนสักงีบก่อนได้มั้ย สักสิบโมงปลุกด้วยแล้วกัน”

          ตอนนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงน้ำง่วงสุดๆ อยากพักผ่อนเหลือเกินจึงสะบัดหน้าไปอีกทางพร้อมกับยกผ้าห่มขึ้นสูงระดับอกเป็นการบอกยกเลิกการสนทนา

          “เอ่อ งอนเป็นผู้หญิงไปได้ ไม่น่ารักหรอกนะที่จะมางอนสะบัดใส่เพื่อนอย่างกู โน่น! สะบัดใส่ผัวมึงโน่น! มันคงเห็นว่ารักจนวิ่งกลับมาฟัดมึงต่อเลยล่ะ” พูดไปขำไปกับท่าทีของเพื่อนตัวเองที่อยู่บนเตียง

          “เฮ่ย! นี่จะนอนต่อจริงๆ หรอ”

          “เอ่อ!”

          “แล้วไม่เตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ รึไง”

          “ไม่อ่ะ คุยกับเอ็มแล้วว่าจะอยู่เที่ยวต่อ”

          “เอ่อ ดี กูจะได้มีคนช่วยวางแผน”

          “หน่อย คิดว่ากูจะช่วยมึงมั้ยทำกับกูขนาดนี้” หันกลับมาพูดอย่างเป็นต่อ

          “โธ่! ทีเพื่อนรัก อย่างงอนเลยนะ ช่วยเพื่อนคนนี้เอาบุญหน่อย เพื่อนจะได้เป็นฝั่งเป็นฝาเป็นผู้เป็นคนกับเขาเสียที” ไม่ว่าเปล่าตรงเข้าไปที่เตียงนอนพร้อมแกล้งออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวเพราะได้ยินเสียงคนในห้องน้ำเหมือนกำลังจะออกมา

          “กูจะไม่ให้มันช่วยมึงเพราะแบบนี้แหละเอส” เสียงเย็นเปล่งออกมาหลังจากที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วเห็นภาพที่คนรักถูกเพื่อนรักเข้าไปกกกอดออดอ้อน

          “เพื่อนกันทำหวงไปได้” พูดทำทีเป็นไม่ใสใจ ความจริงคือต้องการจะใส่ไฟให้มากกว่า

          “เอ่อ! เพื่อนกัน แต่มันเป็นเมียเพื่อน มึงเกรงใจเพื่อนมั้ย”

          “ครับ เกรงใจก็ได้ แต่อย่างลืมนะ ต้องช่วยนะโวย!” โบ้ยก่อนจะเดินลงจากเตียงตรงไปที่สัมภาระของตัวเองที่เตรียมไว้เพื่อจะเข้าไปใช้ห้องน้ำต่อและก่อนปิดประตูก็ได้ยินเสียงผัวเมียตั้งแง่ใส่กัน ทำให้นึกขำเพราะแผนการสำเร็จ

 

 

          ช่วง 11.00 น. รถตู้โรงแรมดังวิ่งเข้ามาเพื่อรับแขกวีไอพีตามคำสั่งเจ้านายพร้อมด้วยนายหญิงน้อยประจำบ้านที่มาพร้อมกับพี่เลี้ยงคนสนิท พอรถจอดปุ๊บร่างเล็กก็วิ่งตรงเข้ามากอดเป้าหมายทักทายเสียงใสน่ารักแบบออดอ้อน

          “พี่เดย์ อากิตให้กุ๊กไก่มารับพี่เดย์ไปที่โรงแรมก่อนค่ะ วันนี้มีโปรแกรมเที่ยวช่วงบ่ายเลย” รายงานพร้อมสรรพด้วยความตื่นเต้นเพราะตัวน้อยเองก็จะได้ไปด้วย

          “แล้วอากิตละค่ะ” ถามเพราะเห็นว่าร่างเล็กลงมาเธอเพียงลำพัง มองไปข้างๆ ก็เห็นมีหญิงสาวที่ดูแล้วเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเสียมากกว่า และอีกคนที่ลงมาจากทางฝังคนขับเท่านั้น

          “อากิตอยู่รอรับกรุ๊ปทัวร์ที่จะมาลงช่วงเช้า เห็นบอกว่าจะสั่งงานไว้เพื่อจะได้ไปเที่ยวตอนบ่ายได้อย่างสบายใจค่ะ” รายงานเสียงใสเจื้อยแจ้ว

          “งั้นเราไปกันเลยดีกว่ามั้ยน้องเดย์” แหววเดินมาทักเพราะเห็นว่าเหล่าก๊วนออกันอยู่ตรงทางเข้าเยอะกลัวจะเกะกะลูกค้าคนอื่นๆ ของบังกะโล

          “ไปค่ะพี่เดย์” เป็นเด็กน้อยที่เดินจูงมือร่างบางเข้าไปนั่งในรถตู้ด้านที่ใกล้ประตูทางเข้าที่สุดแต่เป็นส่วนที่อยู่ชิดด้านในสุดติดหน้าประตูเลื่อนอีกข้าง จากนั้นเด็กน้อยก็กระโดดขึ้นไปนั่งตักเธอเหมือนเป็นที่ประจำของตัวเอง ทุกคนต่างทยอยเข้ามานั่งที่โดยที่แหววเดินเข้าไปด้านในสุด

          “เลดี้เฟริ์สครับ” ทีเป็นคนเอ่ยบอกนางเอกสาวเพื่อให้เธอเข้าไปนั่งด้านในกับพี่แหววซึ่งเธอก็ยิ้มรับแต่เป็นรอยยิ้มที่ทีรู้ว่าแสร้งยิ้ม แต่เธอก็ดันเลือกนั่งที่นั่งช่วงก่อนหน้าแหววโดยนั่งชิดติดริมหน้าต่างรถอีกด้านหนึ่ง ทำให้ทียิ้มหวานก่อนสะกิดเพื่อนที่ทำท่าจะเดินตามขึ้นไปให้หยุดแล้วมองตรงไปที่พี่เลี้ยงเด็กเป็นนัยให้เอสบอกให้เธอคนนั้นขึ้นตามเขาไป

          ทีเดินเข้าไปนั่งที่นั่งซึ่งอยู่ข้างแหววตอนในสุดของรถ เอสจึงฝายมือเป็นการเชิญให้พี่เลี้ยงของเด็กน้อยขึ้นรถตามไปซึ่งเธอก็พาซื่อเดินขึ้นไปแล้วนั่งลงในที่นั่งที่ว่างอยู่ข้างๆ นางเอกสาว ซึ่งตัวพี่เลี้ยงเองก็นึกดีใจที่ได้เจอกับนางเอกสาวที่เป็นเหมือนนางเอกขวัญใจของเธอ สายตาจึงมีแต่ความชื่นชมเท่านั้น และเต็มใจเป็นที่สุดที่ได้นั่งข้างๆ นางเอกคนดัง

          ร่างสูงของเอสเข้าไปนั่งข้างๆ ตรงที่นั่งที่ว่างที่สุดท้ายซึ่งอยู่ข้างร่างบางของเดย์ที่มีเด็กน้อยนั่งอยู่บนตักแล้วช่วยคนขับรถเลื่อนปิดประตูรถ

          ส่วนกระเป๋าและสัมภาระทั้งหมดของทุกคนพนักงานที่บังกะโลช่วยกันขนขึ้นตรงท้ายรถหลังจากที่คนขับรถเปิดประตูหลังให้

          “วันนี้เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างครับ เอ่อ... คนสวยชื่ออะไรเอ่ย” หยอดเด็กน้อยเพื่อขอไมตรี

          “ชื่อน้องกุ๊กไก่ค่ะ วันนี้เราจะตะเวนไหว้พระกันก่อนค่ะ เอ่อ... พี่ชื่ออะไรค่ะ” เด็กน้อยตอบพร้อมกับถามชื่อกลับเพราะเธอเองก็ยังไม่รู้จักใครนอกจากคนที่เธอนั่งตักอยู่เท่านั้น

          “พี่ชื่อเอสครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ร่างสูงตอบยิ้มๆ เขารู้สึกชอบใจเด็กน้อยคนนี้ขึ้นมาหน่อยๆ เพราะความชั่งเจรจา และเสียงเจื้อยแจ้วที่บ่งบอกว่าเป็นเด็กที่ร่าเริงสดใส

          “ยินดีเช่นกันค่ะ” ร่างเล็กตอบยิ้มๆ อย่างเป็นธรรมชาติ บ่งบอกว่าเธอเป็นตัวของตัวเองไม่มีการปั้นแต่งใดๆ เลย

          “น้องกุ๊กไก่พูดจากเป็นงานเป็นการชัดเจนดีจัง ใครสอนครับนี่” ร่างสูงถามอย่างชื่นชม

          “คุณพ่อกับคุณแม่สอนค่ะ แล้วก็มาฝึกพูดตอนที่มาช่วยตอนรับลูกค้าที่โรงแรมของอากิต”

          “พี่ชื่อเกรทนะค่ะ” ร่างบางที่นั่งตอนหลังกล่าวแทรกกลางวงขึ้นมาแนะนำตัวพร้อมส่งยิ้มสร้างไมตรีให้เด็กน้อยด้วยอีกคน

          “ค่ะ ทราบแล้วค่ะ ยุคนี้ใครไม่รู้จักนางเอกอันดับหนึ่งก็ตกยุคแย่สิค่ะ” ร่างเล็กของเด็กน้อยหันไปตอบร่างบางของนางเอกสาวยิ้มๆ แต่ไม่ได้แสดงท่าทางปลื้มจนออกหน้าออกตาเหมือนคนที่นั่งข้างๆ

          “หรอค่ะ เก่งจังเลย สวยๆ อย่างนี้ในอนาคตน้องกุ๊กไก่อยากเป็นนางเอกบ้างมั้ยค่ะ” ถามอย่างเอาใจ

          “ไม่ค่ะ น้องกุ๊กไก่อยากเป็นนางร้าย” ร่างเล็กตอบชัดเจน ทำให้เกิดคำถามในใจของทุกคน ยกเว้นก็แต่พี่เลี้ยงเท่านั้นที่รู้จักกันดี

          “ทำไมละค่ะ” เจ้าของตำแหน่งนางเอกอันดับหนึ่งถามอย่างสงสัย

          “กุ๊กไก่ชอบบทที่ระเบิดอารมณ์ วี๊ดๆ วีนๆ เหมือนเป็นการปลดปล่อยค่ะ” ตอบเสียงใสอย่างมั่นใจ

          “น้องกุ๊กไก่เขาเรียนคลาสเดียวกับเดย์ตอนที่รับเล่นละครใหม่ๆ นะค่ะ ฝีมือสุดยอดสุดๆ” ร่างบางของนางร้ายมืออาชีพคอนเฟริ์มให้

          “จริงหรอค่ะ” นางเอกสาวฉงน

          “จริงสิค่ะ ก็ทำพี่เดย์น้ำตาตกมาแล้ว” ร่างเล็กพูดอย่างภาคภูมิใจ พร้อมยืดอกรับ

          “เก่งจังเลยค่ะ ตัวแค่นี้ แล้วอย่างนี้อนาคตอยากเข้าวงการมั้ยค่ะ” นางเอกสาวชมเปราะพร้อมถามถึงอนาคต

          “ไม่หรอกค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไม่ทิ้ง เพราะถือซะว่าเป็นค่าประสบการณ์ระหว่างการเจริญเติบโตค่ะ” ตอบฉะฉาน

          “ติดเกมส์ใช่มั้ยครับเราน่ะ” อยู่ๆ ร่างสูงข้างๆ ก็ขัดกลางลำ

          “อุ๊ย! รู้ได้ไงค่ะ” เด็กน้อยตกใจกับการทักของร่างสูงข้างๆ เพราะเธอไม่อยากให้ใครรู้เนื่องจากกลัวถูกดุ

          “ก็คำว่าค่าประสบการณ์” ร่างสูงตอบอย่างรู้ทัน

          “อย่าบอกอากิตนะค่ะพี่เอส ไม่งั้นกุ๊กไก่ซวยเลย” ร่างเล็กเบี่ยงตัวลงจากตักของร่างบางมาที่ร่างสูงเกาะขาก่อนหยัดตัวขึ้นนั่งตักของร่างสูงแทนพร้อมส่งสายตาแบบอ้อนๆ ไปให้

          “ครับ ไม่บอก สัญญาเลย” ร่างสูงรับปากง่ายๆ ยิ้มๆ กับความน่ารักและชั่งอ้อนของเด็กน้อยคนนี้ พลันนึกไปถึงเด็กน้อยในอนาคตที่จะเกิดขึ้นมา ที่เป็นความผูกพันระหว่างเขาและร่างบางที่นั่งเคียงข้างเขาอยู่ตอนนี้

          “พี่แพงด้วยนะค่ะ” หันไปกำชับพี่เลี้ยงทำตาดุๆ ใส่ ซึ่งตอนนี้คุณพี่เลี้ยงไม่ได้สนใจเด็กน้อยสักเท่าไหร่ เพราะที่สนใจมากกว่าคือนางเอกสาวที่อยู่ข้างๆ

          “ค่ะ” ตอบอย่างเลื่อนลอย แต่ก็สร้างความพอใจให้กลับร่างเล็กก่อนจะลงจากตักของร่างสูงเพื่อไปนั่งตักของร่างบางเหมือนเดิม

          ‘ถ้าลูกเราฉลาดและน่ารักเหมือนเด็กคนนี้ ก็คุ้มที่พ่อจ๋าจะพยายามจับแม่จ๋าของลูกแล้วครับ’คิดไปก็ยิ้มไปอย่างนึกหวัง

          หลังจากที่ขนของขึ้นรถหมดแล้วคนขับรถก็ขึ้นมาประจำตำแหน่ง แล้วขับรถพาทุกคนไปยังโรงแรมหรูที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของหาดใหญ่ ตลอดเส้นทางร่างเล็กที่นั่งอยู่ตรงตักของร่างบางพูดจาเจื้อยแจ้วแนะนำสถานที่บ้างเมื่อเห็นว่าขับผ่าน เอสเองก็ชวนตัวเล็กคุยตอบรับร่วมวงสนทนากันสามคนโดยไม่มีช่องให้ร่างบางที่นั่งตอนหลังได้แทรกได้เลย ทำให้เธอฮึดฮัดแล้วกลับไปนั่งมองข้างทางอย่างเดียวจนถึงโรงแรมที่พักใหม่ของวันนี้

                                                                                              つづく.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา