my little pony : Fluttershy x Big Macintosh
เขียนโดย Ormsin2541
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.40 น.
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2565 03.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เพื่อนสนิทจากกริฟฟินสโตน [1/2] (Rewrite Name)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันต่อมา
“อือ~” บิ๊กแม็กลืมตาขึ้นอย่างงัวเงียเขาลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองรอบๆปรากฏว่าเขานอนอยู่ที่โซฟาของฟลัตเตอร์ชายเหมือนเดิม บิ๊กแม็กทำท่าบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยแล้วเขากำลังจะลุกขึ้นตากโซฟาแต่สายตาเขาก็ไปสะดุดของบนโต๊ะเข้า คือ แก้วไม้ที่ใส่น้ำแอปเปิ้ลอุ่นๆไว้อยู่แหละข้างๆแก้วมีขวดน้ำผึ้งกับช้อนว่างไว้ ถัดมาคือจานใส่ขนมปังปิ้งที่ยังร้อนๆอยู่ว่างไว้ข้างๆจานมีขวดแยมแอปเปิ้ลกับมีดที่ไม่คมมากนักว่างอยู่ใกล้ๆ
บิ๊กแม็กมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตานิ่งๆสักพักเขาก็อมยิ้มให้กับอาหารที่อยู่ตรงหน้าแล้วสายตาเขาก็เหล่ไปเห็นกระดาษโน๊ตสีเหลืองแปะไว้บนขวดแยม บิ๊กแม็กหยิบขึ้นมาอ่านแล้วหลังจากเขาอ่านโน้ตแล้วจากที่อมยิ้มอยู่แล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างออกมาแบบปิดไม่มิด
‘ถึงบิ๊กแม็ก ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้ปลุกเธอ พอดีวันนี้มีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาฉันก็เลยต้องรีบออกไป แต่ฉันก็ทำข้าวเช้าทิ้งไว้ให้แล้วนะ ถึงมันจะน้อยไปหน่อยก็เถอะนะ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบน้ำแอปเปิ้ลแบบใส่น้ำผึ้งหรือไม่ใส่ก็เลยว่างไว้ให้นะ จากฟลัตเตอร์ชาย’
“......” บิ๊กแม็กยิ้มให้กับข้อความที่ฟลัตเตอร์ชายเขียนทิ้งไว้ให้ด้วยสายตาขำๆและมีความสุข บิ๊กแม็กก้มตัวเปิดลิ้นชักฝั่งเขาแล้วหาบางอย่างข้างใน สักพักเขาก็เอาปากกาขนนกและขวดหมึกขึ้นมาว่างไว้บนโต๊ะเขาผลิกกระดาษโน๊ตด้านหลังขึ้นมาแล้วเขียนบางอย่างลงไป
สักพักบิ๊กแม็กเขียนเสร็จเขาแปะไว้บนโต๊ะแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวแล้วทำความสะอาดปากกาพอเขามั่นใจว่าสะอาดแล้ว บิ๊กแม็กเดินกลับมาที่โซฟาแล้วเก็บปากกากับขวดหมึกกลับเข้าลิ้นชักแล้วเริ่มกินมื้อเช้าทันที
ณ โรงพยาบาลเขตชายแดนระหว่างแคนเทอร์ล็อตกับคริสตัลเอ็มไพร์
หลังจากที่ฟลัตเตอร์ชายมาถึงเธอก็เดินตรงเข้าห้องผ่าตัดไปเมื่อชั่วโมงก่อนที่หน้านี้ ที่หน้าห้องมียูนิคอร์โพนี่สาวตัวนึงที่นั่งรออยู่หน้าห้องค่อยมองที่ประตูด้วยสายตาเป็นห่วงโพนี่ที่อยู่ข้างในห้อง จากนั้นสักพักฟลัตเตอร์ชายก็เดินออกมาจากห้องผ่าตัด พอยูนิคอร์โพนี่สาวเห็นฟลัตเตอร์ชายเธอรีบวิ่งเข้าไปหาแทบจะทันที
“เขาเป็นไงบ้างค่ะ? คุณหมอ?” ยูนิคอร์โพนี่สาวมองฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้ากังวลมากๆ เธอหวังว่าโพนี่หนุ่มที่อยู่ข้างในจะปลอดภัยไม่งั้น....เธอคงไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ฟลัตเตอร์ชายถอดผ้าปิดปากออกแล้วยิ้มให้ยูนิคอร์โพนี่สาวอย่างอ่อนโยนปนยินดี
“เขาปลอดภัยแล้วค่ะ” พอยูนิคอร์โพนี่สาวได้ยินอย่างนั้นเธอยกมือขึ้นมากุมปากแล้วน้ำตาที่เธอพยายามกันไว้ก็ค่อยๆไหลออกมา ฟลัตเตอร์ชายเดินผ่านยูนิคอร์โพนี่สาวที่กำลังร้องไห้ไปแบบเฉยๆเธอไม่อยากจะรบกวนตอนที่เธอตัวนั้นกำลังร้องไห้ปลดปล่อยความรู้สึกยินดีและเก็บกดไว้ออกมา
“ผ่าตัดเรียบร้อยดีสินะ? ฟลัตเตอร์ชาย?” ฟลัตเตอร์ชายหันไปมองตามเสียงแล้วเจอเรนโบว์แดชที่กำลังยืนยิ้มให้เธออยู่ตรงมุมทางเลี้ยว
“เรนโบว์? เธอมาทำอะไรที่นี้?”
“ฉันว่าเธอรู้นะ....ว่าฉันมาทำไม?”
“อย่าบอกนะ......เธอใช้ยาหมดอีกแล้วนะ?”
“อือ.....ทำนองนั้น” เรนโบว์แดชเดินมายืนข้างๆฟลัตเตอร์ชายแล้วทั้งสองสาวก็เดินตรงไปที่ห้องส่วนตัวของฟลัตเตอร์ชาย
“อาการหนักขึ้นอีกแล้วงั้นเหรอ?”
“ก็....ไม่หนักมากเท่าไร” เรนโบว์แดชหันหน้ามามองฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ผิดกับฟลัตเตอร์ชายที่มองเรนโบว์แดชด้วยสายตาเป็นห่วง
“เรนโบว์......ฉันบอกเธอแล้วใช้ไหมว่าให้เลิกใช้ท่าอันตรายนั้นไปซะ”
“ฉันรู้ๆ.....แต่มันทำไม่ได้นะสิ”
“ทำไมเธอถึงทำไม่ได้ละ?”
“เพราะว่า......” จู่ๆเรนโบว์แดชก็เงียบไปเฉยๆ เธอไม่อยากจะบอกเลยว่า ที่เธอไม่เลิกเพราะอยากจะคุมมันให้ได้แล้วจะได้เอาไปโชว์ให้น้องสาวได้เห็นว่าเธอเจ๋งแค่ไหน ฟลัตเตอร์ชายเห็นท่าทางเรนโบว์แดชแบบนั้นเธอก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจกับนิสัยดื้อรั้นของอีกฝ่าย
สักพักทั้งสองตัวก็เดินมาถึงห้องพัก ฟลัตเตอร์ชายเปิดประตูแล้วทั้งสองสาวเพกาซัสเดินเข้าไปในห้องสีขาวสะอาดมีโซฟาขนาดใหญ่ว่างอยู่กลางห้องสองตัว ข้างหลังโซฟาทางซ้ายมีโต๊ะทำงานของฟลัตเตอร์ชายถัดมาหน่อยก็เป็นตู้เก็บเอกสาร ส่วนข้างหลังโซฟาด้านขวามีตู้เก็บยาชนิดต่างๆ เรนโบว์แดชเดินไปพิงกำแพงแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างด้วยสายตานิ่งๆไม่คิดอะไร ส่วนฟลัตเตอร์ชายก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานแล้วเปิดลิ้นชักหายาให้เรนโบว์แดช
“อ๊ะ นี้” ฟลัตเตอร์ชายยื่นขวดยาเล็กๆให้เรนโบว์แดช ข้างขวดมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า “ยาบรรเทาอาการปวดแบบอันตรายถึงชีวิต” เรนโบว์แดชเดินมาหยิบแล้วมองด้วยสายตาสงใสบางอย่าง
“ทำไมคราวนี้ถึงให้ยาน้อยจัง?”
“ก็อย่างที่เธออ่านข้างขวดนั้นแหละ....เพราะมันอันตรายถึงชีวิตไง ก็เลยให้ได้แค่นี้แหละ” ฟลัตเตอร์ชายหันไปเขียนเอกสารผู้ป่วยที่เธอพึ่งผ่าตัดไป เรนโบว์แดชมองขวดในมือสักพักเธอก็เก็บเอาไว้ในหางแล้วเดินไปนั่งโซฟาด้วยท่าทางสบายๆในแบบของเธอ ฟลัตเตอร์ชายหันมามองเรนโบว์แดชด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย
“ทำไมเธอต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นละ? =-=?” เรนโบว์แดชพอโดนฟลัตเตอร์ชายจ้องแบบนั้นแล้วเธอรู้สึกอึดอัดยังไงชอบกลจึงหันมามองด้วยสายตาสงใส
“ก็....ปกติพอเธอได้ยาแล้วเธอจะรีบพุ่งออกจากห้องไปเลยนี้น้า? แต่....ไหนคราวนี้เธอถึงยังนั่งอยู่ที่นี้ละ?” ฟลัตเตอร์ชายหมุนเก้าอี้หันมาทางเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาและท่าทางสงใส พอเรนโบว์ได้ยินแบบนั้นสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปเป็นจริงจังแทบจะทันที
“......ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเธอหน่อย”
“ขอร้องฉัน?”
“.....เรื่องที่ฉันอยากจะขอร้องคือ......” ฟลัตเตอร์ชายถึงตกใจกับสิ่งที่เรนโบว์แดชขอร้องแต่สักพักสีหน้าเธอก็กลับมาเป็นปกติ
“อือ (พยักหน้า) ได้สิ.......เดียวฉันจะจัดการให้”
“ขอบใจเธอมาก.....งั้นฉันไปก่อนละ” เรนโบว์แดชลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องพัก ฟลัตเตอร์ชายมองเรนโบว์แดชที่พึ่งออกไปจากห้องด้วยสายตาเป็นห่วง
“หวังว่าสิ่งที่เธอขอมา.....มันจะได้ผลนะ”
ณ ร้าน Carousel Boutique
“แรรีตี้ๆ ตื่นเถอะ เช้าแล้วนะ”
“อือ~ เช้าแล้วเหรอ?” แรรีตี้ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย สไปค์พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินไปเอาถาดมาว่างไว้ตรงหน้าแรรีตี้ บนถาดมีน้ำเกลือแร่หนึ่งแก้วกับสลัดผลไม้
“ขอบใจนะ สไปค์” แรรีตี้รับถาดอาหารมาแล้วค่อยๆกินช้าๆ สไปค์มองท่าทางจองแรรีตี้ด้วยสายตาเป็นห่วง
“กินไหวหรือเปล่า?”
“อือ” แรรีตี้พยักหน้าแล้วส่งยิ้มบางๆให้สไปค์ด้วยท่าทางไม่มีแรง สไปค์มองรอยยิ้มของแรรีตี้ด้วยสายตาเป็นห่วงกว่าเดิม
“สไปค์ อีกเดียวฉันจะออกไปข้างนอกนะ”
“จะไปที่ไหน? เดียวฉันไปเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้องหรอ ฉันไปคนเดียวได้”
“แต่.....” แรรีตี้เอามือแตะริมฝีปากสไปค์ไว้แล้วส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มบางๆเพื่อแสดงให้สไปค์เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร พอสไปค์เห็นรอยยิ้มบางๆของแรรีตี้แล้วเขาก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
สไปค์พยักหน้ายอมให้เธอไปแต่ในใจเขาก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี แรรีตี้ยิ้มบางๆขอบคุณที่สไปค์ยอมให้เธอ แรรีตี้เอามือออกจากริมฝีปากแล้วกลับมากินอาหารที่เหลืออีกแค่สองสามคำในจานด้วยท่าทางที่เริ่มกลับมามีแรงอีกครั้ง
ณ ไร่สวีทแอปเปิ้ลเอเคอร์
“โอ๊ยๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆ มันเจ็บนะคะ!! คุณยาย!!! Q-Q” แอปเปิ้ลแจ็คหันไปมองคุณยายสมิธที่กำลังเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เธอใหม่แต่....ดูเหมือนคุณยายสมิธจะพันให้เธอแน่นไปหน่อย
“แกช่วยหยุดร้องโวยวายซะทีจะได้ไหม?” คุณยายสมิธมองแอปเปิ้ลแจ็คที่น้ำตาคลอบำด้วยสายตารำคาญนิดๆแล้วดึงผ้าพันแผลแรงๆนึงที จากนั้นแอปเปิ้ลแจ็คส่งเสียงร้องลั่นบ้านด้วยความรู้สึกเจ็บที่แขนแบบสุดๆ
“เฮ้อ~ แล้ววันนี้พี่จะทำงานได้ไหมเนี่ย?” แอปเปิ้ลบลูมที่นั่งอยู่ใกล้ๆถอนหายใจแล้วมองพี่สาวของตัวเองด้วยสายตาเป็นห่วงปนกลุ่มใจที่พี่สาวของเธอมักจะมีแผลหรือไม่ก็กระดูกหักสองสามท่อนกลับมาแทบทุกครั้ง
“ไม่เป็นไร.....พี่ทำไหวอยู่แล้วน้า ^-^” แอปเปิ้ลแจ็คหันมายิ้มให้แอปเปิ้ลบลูมอย่างไม่รู้สึกกังวลอะไรกับแขนของตัวเองเลยสักนิด คุณยายสมิธพันผ้ารอบแขนเสร็จ เธอก็หันไปหยิบผ้าสามเหลี่ยมผืนหนึ่งแล้วหันกลับมาเริ่มการรักษาแบบ Arm sling (การคล้องแขน )
“เอาละ เสร็จแล้ว” คุณยายสมิธมองแขนของแอปเปิ้ลแจ็คอย่างพอใจเล็กน้อยแล้วเธอก็หันไปเก็บอุปกรณ์รักษาทั้งหมดใส่กล่อง
“ทำกี่ทีๆก็ยังรู้สึกไม่ชอบอยู่ดีแฮะ” แอปเปิ้ลแจ็คมองแขนของตัวเองด้วยความรู้สึกอึดอัดและไม่ค่อยชอบเท่าไร แอปเปิ้ลบลูมเห็นว่าแอปเปิ้ลแจ็คไม่เป็นอะไรแล้วเธอจึงหยิบกระเป๋าตัวเองแล้วเดินไปที่ประตู
“จะไปหาสกูตาลูเหรอ?”
“ใช้ค่ะ ทำไมเหรอ?”
“เปล่า.....พี่จะไปข้างนอกพอดี เดียวพี่จะไปส่งนะ” แอปเปิ้ลแจ็คลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินกะเผลกผ่านแอปเปิ้ลบลูมออกไปข้างนอกทันที แอปเปิ้ลบลูมมองด้วยสายตาสงใสแต่เธอก็ส่ายหัวแล้วเลิกสนใจ เธอรีบวิ่งตามแอปเปิ้ลแจ็คที่กำลังเดินห่างออกไป
ณ หน้าปราสารปราสารสปาร์เคิล
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแรรีตี้ก็เดินออกมาจากร้านแล้วตรงมาที่ปราสารของทไวไลท์ทันทีเธอมาที่ปราสารเพื่อจะมาหาทไวไลท์แล้วเอาผลึกแห่งความปรองดองอันใหม่เพราะเธอทำอันเก่าแตกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
[แตกเพราะอะไร ไปอ่านตอนเสริมดูครับ by ไรเตอร์]
“หืม? นั้นเรนโบว์นิ?” พอแรรีตี้เดินมาเกือบถึงหน้าปราสารเธอก็เห็นเรนโบว์แดชกำลังบินกอดอกอยู่หน้าประตูแถมเธอยังเอาแต่เงยหน้ามองหน้าต่างห้องทไวไลท์อย่างเดียวด้วยสีหน้าตึงเครียดแปลกๆ
‘ทำไมต้องทำหน้าเครียดแบบนั้นด้วย?’ แรรีตี้แอบมองสีหน้าของเรนโบว์แดชจากด้านหลังด้วยความสงใสว่าทำไมเพื่อนสาวตัวดีของเธอที่แทบไม่เคยเครียดเรื่องอะไรเลยแท้ๆแต่กลับมาทำหน้าเครียดแบบนี้แล้ว มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ
“เรนโบว์แดช!”
“หืม? อ้าว แรรีตี้?” เรนโบว์แดชหันมามองแรรีตี้ด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย เธอบินลงมายืนตรงแรรีตี้ด้วยท่าทางสบายๆผิดกับที่เธอทำหน้าตึงเครียดเมื่อกี้นี้มาก
“เรนโบว์....เธอมาทำอะไรที่นี้?”
“ฉันแค่มาเอาผลึกอันใหม่จากทไวไลท์ก็เท่านั้นแหละ แล้วเธอละ....มาทำอะไรที่นี้?”
“ฉันก็เหมือนกับเธอนั้นแหละ” แรรีตี้มองหน้าเรนโบว์แดชด้วยสายตาจับผิดปนสงใส เรนโบว์แดชพยักหน้าเข้าใจแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูปราสารโดยที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของแรรีตี้เลยสักนิด
‘ที่เรนโบว์ทำหน้าตึงเครียดแบบนั้น......มันต้องมีอะไรแน่ๆ’ แรรีตีมองแผ่นหลังของเรนโบว์แดชด้วยสายตาจับผิดปนสงใสกว่าเดิม แรรีตี้มองอยู่สักพักแล้วก็เดินตามหลังเรนโบว์แดชไปด้วยความสงใจที่เริ่มจะมากขึ้นๆทุกที
“เรนโบว์....เมื่อกี้นี้เธ-”
“อ้าว? เธอสองคน?” แรรีตี้พูดยังไม่ทันจบก็มีโพนี่มาขัดสักก่อนเธอกับเรนโบว์แดชก็หันไปมองข้างหลังก็เจอแอปเปิ้ลแจ็คยืนอยู่
“แอปเปิ้ลแจ็ค? เธอมาทำอะไรที่นี้?” เรนโบว์แดชมองแอปเปิ้ลแจ็คด้วยสายตาสงใส แรรีตี้ก็มองแอปเปิ้ลแจ็คด้วยสายตาแบบเดียวกัน
“ฉันมาเอาผลึกอันใหม่นะ” แอปเปิ้ลแจ็คเดินกะเผลกเข้ามาหาทั้งสองคนอย่างยากลำบากเล็กน้อย แรรีตี้กับเรนโบว์แดชต่างมองแอปเปิ้ลแจ็คด้วยสายตาเห็นใจและสงสารนิดๆ
“พวกเธอเองก็มาเพราะเหตุผลนี้เหมือนกันใช้ไหม?”
“อือ / ใช้”
“งั้นพวกเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ” แอปเปิ้ลแจ็คพูดจบเธอก็เดินกะเผลกผ่านพวกเรนโบว์แดชไปที่ประตูด้วยท่าทางสบายๆปนลำบากเล็กๆน้อยๆ เรนโบว์แดชเดินตามหลังแอปเปิ้ลแจ็คไปด้วยท่าทางเฉยๆ ส่วนแรรีตี้ก็ยังยืนอยู่ที่เดิมแล้วมองหลังของเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาสงใสมากๆ
เรนโบว์แดชหยุดเดินแล้วหันกลับมามองแรรีตี้ด้วยสายตาสงใสเพราะเธอถูกแรรีตี้เอาแต่จ้องเธอมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ตอนแรกๆเธอก็ไม่รู้สึกอะไรหรอแต่พอถูกจ้องนานๆเข้าเธอก็รู้สึกอึดอัดยังไงไม่รู้
“มีอะไรเหรอ? แรรีตี้?”
“.........เปล่า ไม่มีอะไร ^-^” แรรีตี้แล้วส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มให้เรนโบว์แดชอย่างสดใสก่อนที่เธอจะเดินผ่านเรนโบว์แดชไปเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุผลที่แรรีตี้เลือกไม่ถามเรนโบว์แดชเพราะเธอคิดว่าถ้าเข้าในห้องของทไวไลท์ก็อาดจะรู้ก็ได้ว่าทำไมเรนโบว์แดชถึงทำหน้าเครียดอย่างนี่
“อะไรของยัยนั้นนะ? =-=? ช่างเถอะ” เรนโบว์แดชมองแรรีตี้อย่างงงๆแต่สักพักเธอก็ยักไหล่แล้วรีบวิ่งตามแรรีตี้ที่เดินเข้าปราสารไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานโพนี่สาวทั้งสามก็เดินมาถึงหน้าห้องทำงานของทไวไลท์แล้ว แรรีตี้ยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าสักพักเธอก็ยื่นมือไปเพื่อจะเคาะประตู ควับ
“เดียวก่อน แรรีตี้” แต่จู่ๆเรนโบว์แดชพุ่งมาจับมือแรรีตี้ไว้ก่อนแล้วมองเธอด้วยสายตาเชิงห้าม
“มีอะไร? เรนโบว์?” แรรีตี้มองเรนโบว์แดชด้วยสายตาสงใสและเชิงถาม แอปเปิ้ลแจ็คเองก็มองเรนโบว์แดชด้วยสายตาแบบเดียวกัน
“ฉันเปิดเอง” เรนโบว์แดชเปลี่ยนจากจับมือเป็นจับไหล่แรรีตี้แล้วดันตัวอีกฝ่ายถอยไปจากหน้าประตูแล้วเธอก็เดินมายืนแทนที แรรีตี้ถูกดันตัวมายืนข้างๆแอปเปิ้ลแจ็คทั้งสองสาวต่างมองเรนโบว์แดชด้วยสายตาสงใสและไม่เข้าใจ ก๊อกๆ
“ใครนะ?”
“ฉันเอง.....เรนโบว์แดช”
“เรนโบว์เหรอ? เข้ามาสิ”
ปัง!! พอทไวไลท์พูดจบประตูห้องก็เปิดออกจนชนกำแพงอย่างแรง ฟุบ! จากนั้นก็มีบางอย่างพุ่งออกมาจากข้างในห้องแล้วพุ่งเข้ามาหาเรนโบว์แดชด้วยความเร็วสูงจนพวกแรรีตี้มองแทบไม่ทัน
เปรี่ยง!!!! สิ่งนั้นพุ่งเข้าชนเรนโบว์แดชเข้าอย่างจังแบบไม่ให้เธอทันตัวจากนั้นก็เกิดฝุ่นควันไปทั้วบริเวณ แรรีตี้และแอปเปิ้ลแจ็คต่างมองฝุ่นควันด้วยสีหน้าตกใจราวกับเห็นผี
“เรนโบว์!!!”
“อย่า!! AJ!!” แอปเปิ้ลแจ็คหยิบสนับมือออกมาส่วมแล้วทำท่าจะวิ่งเข้าไปในฝุ่นควันนั้นแต่ถูกแรรีตี้ใช้เวทย์มนต์หยุดไว้ก่อน
“ปล่อยฉัน!! เร!!” แอปเปิ้ลแจ็คพยายามขยับให้หลุดจากเวทย์ของแรรีตี้แล้วมองไปทางฝุ่นควันด้วยความรู้เป็นห่วงเรนโบว์แดชเธอค่อยๆก้าวไปทีละก้าว ทีละก้าว แรรีตี้ที่ถูกแอปเปิ้ลแจ็คลากไปด้วยก็พยายามใช้พลังเวทย์ทั้งหมดที่มีดึงตัวแอปเปิ้ลแจ็คให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ที่สุด
ระหว่างที่ทั้งสองสาวกำลังดึงกันไปดึงกันมาอยู่ฝุ่นควันก็จางลงจนสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน สองสาวหยุดดึงกันเองแล้วหันกลับไปมองทางนั้นแล้วทั้งสองก็ต้องตกใจ เมื่อพวกเธอเห็นเรนโบว์แดชยืนรับมัดของใครบางคน จากนั้นสองสาวก็หันไปมองเจ้าของมัด
เจ้าของหมัดคือกริฟฟินสาวที่หน้าออกดูคล้ายๆทอมหน่อยๆ ตั้งแต่หัวถึงคอถูกปกคลุมไปด้วยขนนกสีขาวสะอาด ตั้งแต่ตัวถึงขาหลังและหางเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีปีกสีน้ำตาลเข้ม ที่ขอบตาและปลายผมมีสีม่วงอ่อนจางๆปนอยู่เล็กน้อย พอสองสาวเห็นแล้วต้องตกใจยกกำลังสองเพราะเจ้าของมัดนั้นเป็นคนที่พวกเธอรู้จักดีโดยเฉพาะเรนโบว์แดชและพิงกี้พายด้วย
“สวัสดี ยัยขี้แพ้ =*=” กริฟฟินสาวมองเรนโบว์แดชด้วยแว่วตาหาเรื่องสุดๆ
กริฟฟินสาวตัวนี้คือสมัยเด็กของเพื่อนเรนโบว์แดชตั้งแต่อยู่ค่ายฝึกนักบินรุ่นเยาว์ ชื่อของเธอคือ กิลด้า
“สวัสดี ยัยหน้าเห่ย ^-^*” เรนโบว์แดชยิ้มให้กิลด้าอย่างกวนๆตามสไตล์ของเธอ กิลด้าก็ส่งยิ้มกวนๆให้เรนโบว์แดชเช่นกัน เธอดึงมือกลับแล้วหันหน้าไปมองแอปเปิ้ลแจ็คและแรรีตี้ด้วยสายตาที่เป็นมิตรกว่าเมื่อก่อนมาก
“สวัสดี แอปเปิ้ลแจ็ค แรรีตี้ ^-^”
“สวัสดีจ้า กิลด้า ^-^” แรรีตี้เดินเข้าไปจับมือกิลด้าแล้วส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรจ แอปเปิ้ลแจ็คพยักหน้าเชิงทักทายจากนั้นเธอก็เดินกะเผลกไปหาเรนโบว์แดช
“เธอรู้อยู่แล้ว ใช้ไหม?”
“ก็ทำนองนั้นแหละ ^-^”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ