my little pony : Fluttershy x Big Macintosh
เขียนโดย Ormsin2541
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.40 น.
แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2565 03.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) ค่ำคืนของสองโพนี่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“.......”
“.......”
หลังที่ออกมาจากปราสารของทไวไลท์โพนี่ทั้งสองต่างเงียบไม่พูดกันเลยแม้แต่คำเดียว ฟลัตเตอร์ชายแอบเหล่มองบิ๊กแม็กที่เดินอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าแดงอ่อนๆเธอรู้สึกดีใจเล็กน้อยที่ได้เดินกับเขาถึงแม้เธอจะไม่เข้าใจตัวเองก็เถอะ ส่วนบิ๊กแม็กก็รู้ตัวว่าถูกมองอยู่แต่ก็ไม่พูดอะไรกลับกันเขาแอบดีใจเล็กๆซะด้วยซ้ำที่ถูกเธอมองเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกับเธอ
“เออ....คือว่า....” ฟลัตเตอร์ชายหยุดเดินแล้วหันมามองบิ๊กแม็กและมองเขาด้วยสายตาที่จะสื่อบ้างอย่าง บิ๊กแม็กเองก็หยุดเดินแล้วหันมามองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตานิ่งๆพอเขาหันมาเธอก็สะดุ้งแล้วก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงๆของเธอไว้ จากสายตาเขา
พอบิ๊กแม็กเห็นว่าฟลัตเตอร์ชายอายจนไม่กล้าพูดเขาก็ไม่เร่งให้เธอพูดหรือบังคับเธอ บิ๊กแม็กยืนรอให้ฟลัตเตอร์ชายถามเขาแต่เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้ามองเขาเลย
“ขะ...ขะ...ขอบคุณนะ” ” ฟลัตเตอร์ชายก็เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาขอบคุณจากใจจริงแต่บิ๊กแม็กกลับเอียงคอมองเธอด้วยสายตาสงใสและไม่เข้าใจความหมายของคำขอบใจของเธอ
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องที่เธอช่วยแก้ตัวให้ฉันกับทไวไลท์ไว้ไง” พอได้คำตอบบิ๊กแม็กก็มองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาสงใสว่าเขาไปพูดแก้ตัวเธอตอนไหนเขาหลับตาแล้วนึกย้อนกลับไปว่าเขาช่วยแก้ตัวให้เธอหรือทไวไลท์ตอนไหน แล้วบิ๊กแม็กก็นึกออกในตอนที่เขาช่วยพูดกับกรีนฮาร์ดเบลดให้เลิกสงใสทไวไลท์ในตอนที่เธอกำลังพาตัวฟลัตเตอร์ชายไปที่ห้องของเธอ
“เธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?”
“คะ...คือว่า....บะ....แบทบอกฉันมาอีกทีนะ”
“งั้นเหรอ”
พอพูดจบโพนี่หนุ่มสาวทั้งสองก็เดินต่อไปแต่คราวนี้ก็ยังพอมีพูดคุยกันบางไม่เงียบเหมือนก่อนหน้านี้แต่ส่วนมากฟลัตเตอร์ชายจะเป็นคนถามซะมากกว่าส่วนบิ๊กแม็กก็ตอบเธอบ้างไม่ตอบเธอบ้างด้วยท่าทางเย็นชา แต่ถึงแม้บิ๊กแม็กจะทำท่าทางเย็นชาใส่แต่ฟลัตเตอร์ชายพอเข้าใจว่านั้นเป็นนิสัยส่วนตัวของเขาอยู่แล้วเธอจึงไม่ว่าอะไร
“นี้ บิ๊กแม็ก? ขอถามอะไรหน่อยสิ?”
“อะไร?” บิ๊กแม็กเหล่มองฟลัตเตอร์ชายโดยที่เขาไม่หันหน้าไปเธอมองเลยสักนิด
“คือ...ฉันอยากรู้ว่าอาทิตย์หน้าเธอพ-”
“ถึงแล้ว” บิ๊กแม็กหยุดเดินอยู่ตรงหน้ารั้วหน้าบ้านของฟลัตเตอร์ชาย ฟลัตเตอร์ชายมองบ้านตัวเองด้วยสายตาเสียดายเธอเดินผ่านบิ๊กแม็กไปแต่เธอก็หันกลับมามองเขาแล้วส่งยิ้มขอบคุณให้เขา
“ขะ....ขอบคุณที่มาส่งนะ ^-^”
“ไม่เป็นไร” บิ๊กแม็กพยักหน้ารับคำขอบคุณของฟลัตเตอร์ชายอย่างมีมารยาทโดยที่เขาไม่ได้สังเกตแว่วตาของเธอที่กำลังหวังอะไรบางอย่าง
‘คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วมั่ง’ พอบิ๊กแม็กเห็นว่าฟลัตเตอร์ชายปลอดภัยแล้วเขาจึงหันหลังแล้วเดินกลับไปทางที่ผ่านมา
“อ๊ะ! เดียวก่อน! บิ๊ก- โอ๊ย!!” ฟลัตเตอร์ชายกำลังจะวิ่งไปหยุดบิ๊กแม็กแต่ดันสะดุดเท้าตัวเองล้มลงกับพื้นซะก่อน พอบิ๊กแม็กได้ยินเสียงเขารีบหันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจเขารีบวิ่งมาหาเธอด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรนะ?” บิ๊กแม็กย่อตัวมาอยู่ระดับเดียวกับฟลัตเตอร์ชายด้วยสีหน้านิ่งๆตามนิสัยแต่แว่วตาเขากลับอ่อนโยนและห่วงซึ่งตรงกันข้ามกับหน้านิ่งๆของเขา ฟลัตเตอร์ชายเห็นแว่วของบิ๊กแม็กที่กำลังมองเธออย่างอ่อนโยนและเป็นห่วงแล้วมันทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นมา
“อะ...อือ _/////_” ฟลัตเตอร์ชายก้มหน้าหลบสายตาของบิ๊กแม็กด้วยความอายแต่ส่วนมากเธอจะตื่นเต้นซะมากกว่า พอได้คำตอบบิ๊กแม็กหันไปทางอื่นแล้วแอบก็ถอนหายอย่างโล่งอก จากนั้นบิ๊กแม็กหันกลับมาแล้วยืนมือมาให้ฟลัตเตอร์ชายที่เงยหน้าขึ้นมาหลังจากหายและตื่นเต้นพอดี เธอมองมือเขาที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่กลับมาแดกอีกรอบตอนแรกเธอก็ลังเลแต่พอสักพักนึงเธอยอมจับมือเขา บิ๊กแม็กออกแรงดึงจนฟลัตเตอร์ชายลุกขึ้นแต่คงออกแรงมากไปหน่อยทำให้หน้าเธอชนกับหน้าอกเขาเบาๆ
‘ตัวเบาจังแฮะ?’
“ขะ..ขอโทษ....นะ” ฟลัตเตอร์ชายค่อยๆดันตัวเองออกจากหน้าอกของบิ๊กแม็กช้าๆ ฟลัตเตอร์ชายเงยหน้าขึ้นพอดีกับที่บิ๊กแม็กก้มหน้ามองจากนั้นสายตาของทั้งก็สองประสาทกันเหมือนกับเมื่อสามวันก่อนหน้านี้แต่ครั้งนี้ทั้งสองแค่สลับตำแหน่งกันเท่านั้นเอง
ฟลัตเตอร์ชายมองเข้าไปในดวงสีเขียวของบิ๊กแม็กที่ยังคงอ่อนโยนไม่ต่างจากตอนนั้นที่เธอมองมันครั้งแรกแต่คราวนี้ไม่รู้ว่าองค์หญิงลูน่าบังเอิญหรือตั้งใจทำให้ดวงจันทร์ลอยมาอยู่เหนือหัวของเขาพอดีหรือเปล่าเพราะแสงจากดวงจันทร์มาย่อมใบหน้ายิ่งเพิ่งความน่าหลงใหลและเสนห์ให้กับดวงตาคู่นั้นมากขึ้นจนหัวใจเธอแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว
‘สะ....สวยจัง’
ส่วนบิ๊กแม็กเองก็มองเข้าดวงตาสีเขียวน้ำทะเลที่น่าหลงใหลไม่ต่างจากตอนนั้นที่มองมันครั้งแรกเช่นกันแถมบวกกับแสงจากดวงจันทร์ส่องลงมากระทบกับดวงตาคู่นั้นจนเกิดแสงประกายระยิบระยับอยู่ในดวงตาคู่นั้นยิ่งเพิ่งความน่าหลงใหลและน่ารักให้กับดวงตาคู่นั้นและใบหน้าของเจ้าของดวงด้วยจนหัวใจของเขาเองก็แทบจะหลุดออกมาเช่นกัน
‘นะ...น่ารักชะมัด’
ทั้งสองตัวต่างมองตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ระสายตาและค้างอยู่อย่างนั้นไปหลายนาทีแต่สักพักนึงบิ๊กแม็กก็เริ่มขยับตัวเขายกมือขึ้นมาลูบแก้มของฟลัตเตอร์ชายอย่างอ่อนโยนโดยไม่ระสายตาจากดวงตาของเธอ
“ฟลัตเตอร์ชาย” บิ๊กแม็กมองฟลัตเตอร์ชายด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากอ่อนโยนกลายเป็นสายตาที่อ่อนหวาน จนทำให้หน้าของฟลัตเตอร์ชายแดงแจ่ราวกับลูกแอปเปิ้ลแถมยังทำให้หัวใจของเธอยิ่งเต้นรั้วเข้าไปใหญ่จนเธอกลัวว่าบิ๊กแม็กจะได้เสียงของหัวใจเธอ บิ๊กแม็กเลื่อนมือลงมาจับคางของฟลัตเตอร์ชายอย่างเบามือแล้วเชยคางเธอขึ้นมานิดนึง เขาหลับตาลงแล้วค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าฟลัตเตอร์ชาย
“บิ๊ก.....แม็ก” ฟลัตเตอร์ชายเองก็หลับตาค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าหาบิ๊กแม็กเช่นกันโดยที่เธอไม่ขัดขืนอะไรเลย หน้าของโพนี่ทั้งสองก็ค่อยๆเข้ากันทีละนิด.....ทีละนิด
[ถ้าคุณคิดว่าผมจะยอมให้ทั้งสองตัวจูบกันง่ายๆละก็.....คุณผิด!!! // ดึงเชือกอุปกรณ์อย่างนึง by ไรเตอร์]
ซ่า~ “ว้าย!! >o<!!/เฮ้ย!! 0-0!!” แต่ทั้งสองตัวก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเพราะจู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างหนักแบบไม่บอกไม่กล่าวกันเลย บิ๊กแม็กเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆาฝนด้วยสายตามึนงงที่จู่ๆฝนก็ตกลงมาแบบไม่มีสาเหตุ ส่วนฟลัตเตอร์ชายเองก็มองท้องฟ้าด้วยสายตาไม่ต่างจากบิ๊กแม็กสักเท่าไร
“ฉะ...ฉันว่าเราเข้าไปหลบในบ้านฉันกันกะ...ก่อนเถอะ”
“e….eeyup”
จากนั้นทั้งสองก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มองหน้ากัน ติ้งๆ พอเข้ามาแล้วทั้งสองก็เอาแต่ยืนนิ่งๆอยู่หน้าประตูไม่ยอมขยับไปไหนกันเลย ฟลัตเตอร์ชายเหล่มองบิ๊กแม็กที่ตอนนี้เปียกโชคไปตัวแต่สักพักเธอก็หน้าแดงแจ่อีกครั้งเพราะภาพตอนที่เธอกับเขากำลังจะจูบกันนั้นดันโผล่เข้ามาในหัวเธอซะงั้น
ฟลัตเตอร์ชายส่ายหน้าไปมาไล่ภาพตอนนั้นให้ออกไปจากหัวโดยไม่ลืมไปเลยว่าเธอเองก็เปียกแล้วพอเธอสะบัดผมไปมาน้ำที่ติดอยู่มันก็กระเด็นไปโดนตัวบิ๊กแม็ก บิ๊กแม็กหันไปมองฟลัตเตอร์ชายที่ส่ายหัวไปมาด้วยความสงใส
“ฟลัตเตอร์ชาย?”
“ดะ...เดียวฉะ...ฉันไปเอาเช็ดตัวมาให้นะ _///_” ฟลัตเตอร์ชายหยุดส่ายหัวแล้วรีบวิ่งไปขึ้นไปชั้นสองโดยที่ไม่รอคำตอบจากบิ๊กแม็กที่กำลังมองเธออย่างมึนงงกับท่าทางของเธอเมื่อกี้ ระหว่างรอให้ฟลัตเตอร์ชายไปเอาผ้าเช็ดตัวบิ๊กแม็กก็หันไปมองรอบๆบ้านด้วยความสนใจในหลายๆอย่างนี้
“หือ?” แล้วสายตาของบิ๊กแม็กก็หันไปสะดุดกับกรอบรูปรูปหนึ่งบนเตาผิงไฟของฟลัตเตอร์ชายเข้าเขาเดินเข้าไปหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมาดู ภาพนั้นคือภาพของฟลัตเตอร์ชายตอนที่ยังเป็นลูกเพกาซัสโพนี่ตัวเล็กๆที่กำลังนั่งทำมงกุฎให้โพนี่สักตัว ผมของเธอถูกมัดเป็นหางม้าจนเห็นดวงตาสีเขียวน้ำทะเลสดใสราวกับผลึกแก้วใสบริสุทธิ์ บนหัวเธอส่วมมงกุฎดอกไม้สีสดใสและกำลังยิ้มอย่างสดใสราวกับนางฟ้ารอบๆตัวเธอนั้นคือทุ่งดอกไม้แสนสวยที่เขาไม่เคยเห็นที่ไหนในโพนี่วิลล์มาก่อน บิ๊กแม็กมองและยิ้มให้รูปภาพนั้นอย่างอ่อนโยนเขาเอามือลูบรูปนั้นอย่างทะนุถนอม
“ใครเป็นคนถ่ายรูปนี้กันนะ?”
“แม่ฉันเองละ” บิ๊กแม็กหุบยิ้มลงทันทีแล้วหันหลังไปมองเจอฟลัตเตอร์ชายยืนถือผ้าเช็ดผืนนึงอยู่ข้างหลัง บิ๊กแม็กมองฟลัตเตอร์ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าเขาเห็นว่าตัวของเธอแห้งแล้ว บิ๊กแม็กว่างกรอบรูปลงที่เดิมอย่างเบามือแล้วหันไปรับผ้าเช็ดจากฟลัตเตอร์ชายมาเช็ดตัว
“ขอโทษนะ ที่ฉันไปหยิบภาพของเธอมาดูโดยไม่ได้ขอก่อนนะ”
“อือ (ส่ายหน้า) ไม่เป็นไรหรอ ฉันไม่ถือ ^-^” ฟลัตเตอร์ชายเดินผ่านบิ๊กแม็กไปที่หน้าเตาผิงแล้วหยิบรูปเดียวกับบิ๊กแม็กขึ้นมามองมันด้วยสายตาอ่อนโยน อ่อนโยนกว่าตอนที่ฟลัตเตอร์ชายอยู่กับพวกทไวไลท์หรือตอนที่อยู่พวกสัตว์สักอีกซึ่งมันสร้างความแปลกใจให้บิ๊กแม็กเป็นอย่างมาก
“ของสำคัญเหรอ?” บิ๊กแม็กเดินไปนั่งบนโซฟาแล้วมองฟลัตเตอร์ชายที่ยังยืนมองรูปนั้นด้วยสายตาอยากรู้ ฟลัตเตอร์ชายหันมามองบิ๊กแม็กด้วยสายตาแปลกใจที่เขาก็สนใจเรื่องของเธอด้วยแล้วเธอก็พยักหน้าให้เขาช้าๆเธอหันกลับไปแล้วก็กอดกรอบรูปนั้นอย่างทะนุถนอม
“ก็ทำนองนั้นแหละ ^-^” จากนั้น ฟลัตเตอร์ชายก็กางปีกออกแล้วบินมานั่งบนโซฟาข้างๆตัวบิ๊กแม็กแล้วเธอก็มองกรอบรูปที่ว่างไว้บนตักด้วยสายตาที่ยังอ่อนโยนเธอก็ลูบกรอบรูปไปมาอย่างทะนุถนอม
“แม่ของเธอถ่ายรูปได้สวยมากเลยนะ”
“อือ ท่านเล่าให้ฉันฟังว่า สมัยก่อนตอนที่ท่านยังไม่มีคิวตี้มาร์ค ท่านเคยไปเรียนถ่ายรูปมาก่อนนะ”
“อือ” บิ๊กแม็กก้มมองรูปภาพบนตักฟลัตเตอร์ชายแล้วเขารู้สึกสงใสภาพอยู่อย่างนึงคือสถานที่ที่ถ่ายรูปนี้คือที่ไหน
“แล้ว...แม่เธอถ่ายรูปนี้ที่ไหนเหรอ?”
“อือ ฉันก็ไม่ค่อยจะแน่ใจเหมือนกันนะ? แต่รู้สึกเหมือนจะอยู่ไม่ไกลจากโพนี่วิลล์เท่าไรนะ?”
“งั้นเหรอ” พอบิ๊กแม็กหมดของสงใสเขาเงยหน้าขึ้นมองเพดาแล้วหาวอย่างง่วงนอน
“คิกๆๆๆ” ฟลัตเตอร์ชายพอเห็นท่าทางของบิ๊กแม็กแล้วเธอก็ยกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นขำ บิ๊กแม็กหันมามองฟลัตเตอร์ชายอย่างงงว่าเธอหัวเราะทำไหม
“ขำอะไรของเธอนะ? =-=?”
“ก็แหม่~นานๆทีเธอจะแสดงสีหน้าอื่นออกมาให้เห็นนี้น้า ^-^” ฟลัตเตอร์ชายหันมายิ้มให้บิ๊กแม็กด้วยรอยยิ้มน่ารักซึ่งมันทำให้หัวใจของเขาเต้นรั้ว ฟลัตเตอร์ชายลุกขึ้นแล้วเดินเอากรอบรูปไปว่างไว้ที่เดิมเธอหันหน้าไปมองหน้าต่างแล้วเห็นว่าฝนยังคงตกหนักอยู่แหละดูเหมือนมันจะตกแรงกว่าเมื่อกี้อีก
“สงใสคืนนี้ฉันคงต้องค้างที่นี้สินะ” ฟลัตเตอร์ชายหันมามองบิ๊กแม็กที่ตอนนี้หันหน้ามองหน้าต่างด้วยสายตานิ่งๆเฉยๆไม่ทุกข์ร้อนใดๆ
“อือ เดียวฉันไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาใ-”
โครก~~ ฟลัตเตอร์ชายพูดยังมาทันจบจู่ๆก็มีเสียงแปลกๆดันขึ้นมาขัดซะก่อน ฟลัตเตอร์ชายหันไปมองบิ๊กแม็กที่เป็นเจ้าของเสียงแปลกๆเมื่อกี้ ส่วนบิ๊กแม็กก็ก้มหน้าหลบสายตาฟลัตเตอร์ชายด้วยความอายไว้
“คิก...คิกๆๆๆๆๆ” ฟลัตเตอร์ชายหลังให้บิ๊กแม็กแล้วยกมือปิดปากแล้วพยายามกลั้นขำอย่างสุดลิด บิ๊กแม็กเงยหน้าขึ้นมามองฟลัตเตอร์ชายที่กำลังพยายามกลั้นขำด้วยสายตาเคืองๆทั้งๆที่หน้าของเขายังแดงอยู่เลย
“อะ...อย่าขำจะได้ไหม =////=”
“ขะ...ขอโทษนะ คิก ตะ...แต่มันอดขำไม่ได้จริงๆนะ ^-^” ฟลัตเตอร์ชายหันกลับมามองบิ๊กแม็กที่ยังมองเธอด้วยสายตาเคืองๆด้วยใบหน้าที่ยังแดงอยู่ซึ่งเธอไม่กลัวสายตาเขากลับกันเธอกับเห็นว่าเขาน่ารักขึ้นซะด้วยซ้ำ
“งั้นเดียวฉันลองไปดูในครัวก่อนนะว่ามีอะไรพอจะทำกินได้บาง? ^-^” ฟลัตเตอร์ชายเดินไปทางครัวด้วยรอยยิ้มสดใสเธอหยุดเดินอยู่หน้าประตูครัวแล้วแอบเหล่มองบิ๊กแม็กด้วยสายตาขบขำเธอยังขำเรื่องเมื่อกี้อยู่ใจแล้วเธอก็เดินเข้าครัวไป ส่วนบิ๊กแม็กพอเห็นฟลัตเตอร์ชายเดินเข้าครัวไปแล้วหน้าเขาก็หายแดง
บิ๊กแม็กมองประตูครัวสักพักให้แน่ใจว่าฟลัตเตอร์ชายจะยังไม่ออกมาพอเขามองจนแน่ใจแล้วเขาก็หันกลับไปมองรูปใบนั้นอีกครั้งด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บิ๊กแม็กหันไปมองประตูครัวอีกครั้งด้วยความรู้สึกสนใจ
“ฉันชักอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ซะแล้วสิ......ฟลัตเตอร์ชาย”
หลังจากนั้นห้านาทีฟลัตเตอร์ชายก็บินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับจานสลัดดอกไม้(ที่กินได้)กับถ้วยซุปเห็ดร้อนๆที่กลิ่นหอมมากๆอย่างละสองในมือทั้งสองข้าง ฟลัตเตอร์ชายบินเอาจานสลัดกับถ้วยซุปมาว่างไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้าบิ๊กแม็ก ฟลัตเตอร์ชายก็บินลงพื้นตรงฝั่งตรงข้ามแล้วเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะเอาช้อนซ้อมออกมายื่นให้บิ๊กแม็กเขารับจากเธอแล้วเอามาถือไว้ในมือ บิ๊กแม็กก้มมองอาหารบนโต๊ะด้วยสายตาชื่นชมกับฝีมือการทำอาหราของฟลัตเตอร์ชาย
“เชิญจ๊ะ” ฟลัตเตอร์ชายนั่งลงฝั่งตรงข้างโซฟาแล้วมองบิ๊กแม็กด้วยรอยยิ้มสดใส บิ๊กแม็กพยักหน้าแล้วตักสลัดเข้าปากเขาเคี้ยวสองสามครั้งแล้วกลื้นลงคอไป
“เป็นไง ถูกปากไหม?”
“ก็.....อร่อยดี” บิ๊กแม็กตอบด้วยท่าทางเย็นชาแล้วนั่งกินแบบเงียบๆไม่พูดอะไรอีก ส่วนฟลัตเตอร์ชายพอได้ยินอย่างนั้นเธอรู้สึกโล่งอกที่ทำอาหารได้ถูกปากเขาจากนั้นเธอก็เริ่มกินบางโดยไม่พูดอะไรเพราะเธอไม่อยากจะขัดเขาตอนกำลังกินอาหาร
ทั้งสองตัวนั่งกินกันไปโดยไม่มีการพูดคุยอะไรกันจนกินอาหารในจานและชามจนหมด ฟลัตเตอร์ชายลุกขึ้นเก็บจานชามของเธอและบิ๊กแม็กมารวมกันเธอกางปีกออกแล้วกระพือปีกสองสามให้ตัวลอยพอประมาณแล้วบินเอาจานชามไปเก็บที่ห้องครัว
ส่วนบิ๊กแม็กหลังจากกินอาหารเสร็จเขาก็หันหน้าไปมองฝนที่ยังคงตกหนักอยู่ผ่านทางหน้าต่างด้วยความรู้สึกเป็นห่วงพวกแอปเปิ้ลมากๆ เขาอยากรู้ว่าตอนนี้พวกแอปเปิ้ลแจ็คกำลังทำอะไรอยู่? กินอาหารเย็นกันหรือยัง? แอปเปิ้ลบลูมเข้านอนหรือยัง? ส่วนคุณยายสมิธคงจะหลับไปแล้วเขาจึงไม่ห่วงมากนัก ส่วนโพนี่ที่เขาเป็นห่วงที่สุดคงเป็นแอปเปิ้ลแจ็คแม่น้องสาวตัวแสบของเขาเอง เขาห่วงและกลัวว่าแม่น้องสาวตัวดีของเขาจะวิ่งออกมาตามหาเขาทามกลางสายฝนที่กำลังตกหนักอยู่ตอนนี้ เขาภาวนาขออย่าให้เป็นแบบนั้นเลย
“....บิ๊กแม็ก” เสียงของฟลัตเตอร์ชายปลุกเขาจากมโนความคิด บิ๊กแม็กหันไปมองฟลัตเตอร์ชายที่ถือหมอนกับผ้าห่มอยู่ในมือทั้งสองข้าง
“เป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นเธอมองหน้าต่างมาสักพักนึงแล้ว?” ฟลัตเตอร์ชายมองบิ๊กแม็กด้วยสายตาเป็นห่วงเขาจากใจจริง พอบิ๊กแม็กสายตาของเธอแล้วหัวใจของเขาก็เต้นรั่วและใบหน้าเริ่มแดงแต่เขาก็ยังสามารถเก็บอาการได้แบบแนบเนียน เขาส่ายหน้าไปมาแล้วรับหมอนกับผ้าห่มมาว่างไว้บนโซฟา
“ไม่เป็นไรหรอ.....เธอขึ้นไปนอนเถอะ”
“แต่....”
“ฉันไม่เป็นไรจริงๆ” บิ๊กแม็กหันมายิ้มให้เธอเผื่อว่าเธอเลิกเป็นห่วงเขาสักที แล้วมันก็ได้ผลตามทีบิ้กแม็กต้องการเมื่อฟลัตเตอร์ชายพยักรับแล้วยอมหันหลังเดินขึ้นบันได แต่ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายเธอก้มมองเขาผ่านราวบันไดด้วยรอยยิ้มน่ารัก
“ราตรีสวัสดิ์นะ”
“อือ....ราตรีสวัสดิ์”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ