Love You My Apprentic
เขียนโดย lambor
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.57 น.
แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 23.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ขึ้น รถ ลง เรือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"หาเจอยังว่าอยู่แถวไหน ความจริงมึงก็มีปากนะไอยีราฟ ถามคนแถวนี้ดิว่ะ" เนื่องจากรอนานเกิน คาดว่าไม่น่าจะถึงสองนาที ผมก็เริ่มเร่งมันเพราะอากาศตอนนี้ร้อนมาก
ตอนนี้ไอยีราฟกำลังกดโทรศัพท์ยิกๆ ไม่สนใจผมเลยสงสัยจะหาอยู่ว่าจะไปยังไงต่อ ปล่อยมันกดต่อไปผมถามคนแถวนี้ล่ะกัน
"ป้าครับๆ ถ้าผมจะไปวัดพระแก้ว ไปทางไหนได้บ้างครับ" ผมเลือกถามป้าแก่ๆที่ขายลูกชิ้นทอด
"เดินไปทางนี้นะหนุ่มแล้วจะเจอท่าเรือ แล้วก็นั่งเรือไปลงท่าช้าง แล้วก็เดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงแล้วล่ะ"
"ขอบคุณครับป้า ว่าแต่มันไกลมั้ยครับ"
"ก็ไกลนะ"
"อ่อ ครับขอบคุณมากนะครับ" หลังจากที่ไหว้ขอบคุณป้าขายลูกชิ้นเรียบร้อย ผมก็เดินไปหาไอยีราฟที่ตอนนี้มันกำลังยืนยิ้มอย่างอารมณ์
"ไงครับมึง รู้ยังที่นี่ที่ไหน"
"นนทบุรีไง เตี้ยมึงเมาเรือป่าว กูจะพามึงล่องเรือชมบรรยากาศ รับรองโรแมนติกสุดๆ"
"กูไม่สนหรอกว่าบรรยากาศจะโรแมนติกรึป่าว แต่ตอนนี้มึงรีบๆช่วยพากูไปเถอะ ร้อนจนจะเป็นลมอยู่แล้วเนี่ย"
เดินมาสักพักก็มาถึงท่าเรือครับมันมาผมนั่งเรือ แหะๆตื่นเต้นพึ่งเคยขึ้นเรือครั้งแรก ระหว่างทางผมกะมันก็คุยกันมาตลอดทาง เรียกว่าด่ากันมากกว่าถึงจะถูก น่าแปลกใจทั้งทีผมกับมันก็เพิ่งจะรู้จักกัน แต่เรากับคุยกันทุกเรื่อง ไอยีราฟมันชื่อ คิมหันต์ ครับไม่รู้ว่าหันซ้ายหรือหันขวาฮ่าๆๆ มันเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่มันอยู่เมืองนอกเพราะไม่ชอบอากาศร้อนในประเทศไทย เห็นบอกงี้นะเหตุผลแปลกดีเหมือนกัน มันก็เลยต้องอยู่คนเดียว ตอนนี้มันก็อยู่ปีสี่แล้วเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ คณะเดียวกันกะผมเลยถึงว่ามันถึงมาฝึกงานกับพี่คเชน
"เตี้ย ป่ะถึงแล้วนั่งน้ำลายยืดอยู่นั่นแหละ" หึ นั่งน้ำลายยึดมันคิดว่าผมเป็นเด็กปัญญาอ่อนรึไงเนี่ย
"เมื่อยแล้วว่ะ ยีราฟแบกกูไปหน่อยดิ แล้วมึงช่วยเดินช้าๆได้ป่ะ กูตามไม่ทัน" เนื่องด้วยผมตัวเตี้ยแต่ก็ไม่ได้เตี้ยมากหรอกนะ 165 ไม่เตี้ยเท่าไหร่รึป่าว
"นี่ก็ช้าแล้วนะ ขามึงสั้นไงเตี้ยเลยเดินตามไม่ทัน" ใช่สิมึงสูงนิ มันสูงตั้ง 190 ผมเหมือนคนแคระไปเลย
"สมน้ำหน้าตอนเด็ก มึงไม่ชอบกินนมใช่ป่ะตัวมึงเลยเตี้ยไง ชาติหน้าเกิดมาใหม่ก็กินนมให้มันเยอะๆนะ"
"ถ้าเกิดมาชาติหน้าขออย่าให้เจอมึงล่ะกันนะ เจอกันชาตินี้ก็น่าจะพอแล้วล่ะเนอะ ไอยีราฟ"
หลังจากที่เดินเข้าไปไหว้พระแก้วมรกตเรียบร้อย ก็ได้เวลานั่งพักรู้สึกวันนี้ผมเดินน่าจะประมาณห้ากิโลได้โดยรวม โคตรเหนื่อยและเมื่อยมาก ปวดตีนอีกต่างหาก
"ไหวมั้ยน้อง อะนี่น้ำกินซะ" ผมรับน้ำจากไอยีราฟมาดื่ม ถึงจะเหนื่อยแต่ก็สนุกดีนะครับ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ออกมาเจอคนบ้างจะได้ไม่เหงา
"ยีราฟ ขอดูรูปหน่อยดิ ว่ามึงถ่ายอะไรไว้บ้าง เรียนวิศวะคอมนี่ถ่ายรูปเป็นด้วยหรอว่ะ"
"โง่ๆอย่างมึงเรียนวิศวะได้ไงว่ะเตี้ย ถ่ายรูปมันไม่จำเป็นต้องเรียนนิเทศหรอกนะ เรียนอะไรก็ถ่ายรูปให้สวยได้ทั้งนั้นแหละ ของแบบมันอยู่ที่ฝีมือว่ะ"
ไม่พูดเปล่ามันเอามืออันใหญ่ยักษ์ของมันมาจับหัวผมโยกไปโยกมาเหมือนเด็ก
"งั้นขอดูฝีมือมึงหน่อยดิ ว่าจะสวยแค่ไหน"
"ไม่ให้ดู ป่ะๆกลับบ้านกันเถอะกูเมื่อยขาล่ะอยากนอน"
ขอดูรูปแค่นี้ก็ไม่ได้ไอขี้งก ผมก็ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอกเห็นมันเอากล้องคล้องคอไปคล้องคอมาไม่เห็นมันถ่ายอะไรสักรูป
พอถึงบ้านผมกับมันก็แยกย้ายกันเข้าบ้านใครบ้านมันวันนี้ผมได้ทั้งขึ้นรถลงเรือขึ้นเหนือล่องใต้ เอาซะพลังชีวิตแทบจะหมด
เย้ๆๆมาแล้วตอนใหม่ อาจจะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ไม่ค่อยว่างด้วย แต่ก็อยากอัพ ติดตามกันด้วยนะ ติชมคอมเม้นให้บ้าง เพื่อเป็นกำลังใจในการแต่งต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ