The last Blood.สายเลือด นิทรา [BL , Yaoi]
9.0
เขียนโดย เฟรล่าฟลอเร
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.47 น.
24 ตอน
0 วิจารณ์
25.67K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 19.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
6)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฮิโรมิไม่เคยเรียกพี่ชายด้วยอาการสติแตกและเสียงแหลมสูงแบบนี้มาก่อน
ลี่อินในชุดกี่เพ้าตัวใหม่ยืนยันมั่นเหมาะว่าเธอมาช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อยู่ เธอเข้าใจว่าเขาคงพักอยู่ในคอนโดส่วนตัวที่มาพักทุกครั้งที่มาฮ่องกง จึงไม่ได้ถามอะไรไปเป็นพิเศษ แถมด้วยเรื่องแผนการก่อกวนที่กลายเป็นการพิสูจน์หัวใจทริสทรี่ ทำให้เธอไม่ได้ถามข้อมูลส่วนตัวอะไรเขาเลยสักนิด
วาเลนเซียอยู่ในชุดคลุมที่มีฮู้ดประดับขนสัตว์ขาวประดับอยู่ พร้อมด้วยกระโปรงยาวคลุมเท้าปิดมิดชิด ถุงมือ และแว่นตาดำ เพื่อปิดแสงแดดไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิวกายเธอได้ แต่กระนั้น เมื่อรู้ว่าเจ้านายของตนเพิ่งคลาดกันไปไม่กี่ชั่วโมง เธอก็ไม่คิดจะเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป ไม่แน่ ถ้าตามไปคราวนี้อาจจะยังทันก็ได้!
ฮิโรมิรู้ความใจร้อนของแวมไพร์สาวดี แต่เธอไม่คิดจะหุนหันไปตามหาสองคนนั่นโดยไร้จุดหมายแน่ ถึงไม่ได้ถามเรื่องที่พัก แต่บางที ฮิโรชิอาจแย็บๆ แผนการท่องเที่ยวให้เพื่อนสมัยเรียนฟังบ้าง "แล้วเขาไปไหนกันเหรอ"
ลี่อินโคลงศีรษะไปมา "นั่นสิ ลี่อินเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อุตส่าห์คิดว่าจะพาคู่เดตไร้หัวใจคนนั้นเที่ยวแท้ๆ เผื่อจะสร้างเหตุการณ์ประทับใจขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าไม่อยู่ในคอนโด ลี่อินก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนแล้วล่ะ"
วาเลนเซียจ้องเขม็ง "อะไรคือคู่เดตไร้หัวใจ เจ้านั่นทำอะไรนายท่าน!"
เธอวาดภาพถึงความทรมานร้อยแปดประการที่ทริสทรี่อาจได้รับ ดูเหมือนว่าศัพท์ที่ลี่อินกล่าวกับความหมายและบุคคลที่เธอเข้าใจจะเป็นคนละเรื่องกันเสียแล้ว ฮิโรมิเข้าใจเรื่องนี้ แต่ตัวคนพูดเองกลับเข้าใจไปอีกทางหนึ่งว่านายท่านที่หญิงสาวพูดถึงคือตัวฮิโรชิ อาจเพราะเธอมาพร้อมกับฮิโรมิ ผู้เป็นน้องสาวของเขา
"ก็ไม่ได้ทำหรอก แต่นั่นแหละ ไม่ทำอะไรเลย เย็นชาสุดๆ เลยล่ะ" ลี่อินยักไหล่ "อ่า...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ แต่ฮิโรชิจังน่ะไม่เคยเอ่ยชื่อทริสทรี่อะไรให้ฉันได้ยินสักรอบ ทั้งที่เราซี้ย่ำปึ้กกันออกอย่างนี้แท้ๆ ฉันเลยก่อกวนเขานิดหน่อย แต่มันก็..."
ฮิโรมิรับฟังด้วยความใคร่รู้ "ยังไงเหรอ"
"แต่เขาเฉยน่ะสิ! ปกติคนรักกัน มองเห็นคนรักตัวเองใกล้ชิดกับคนอื่นอย่างนั้น ร้อยทั้งร้อยไม่มีทางนั่งนิ่งกินซาลาเปาได้หรอก" ลี่อินนึกถึงคนที่ส่งสาวเสิร์ฟมาขัดจังหวะไม่รู้ต่อกี่ครั้งด้วยความขบขันอยู่ในใจ แต่ก็มิได้แสดงท่าทีใดๆ ออกไป "แต่เมื่อคืนน่ะ คู่เดตของฮิโรชิจังทั้งเหม่อ ทั้งดูเบื่อ ถ้าไม่ใช่ว่ามั่นใจในตัวฮิโรชิจังสุดๆ ล่ะก็ เขาก็ไม่แคร์อะไรฮิโรชิจังเลยสักนิด ใช้ไม่ได้เลย!"
วาเลนเซียขมวดคิ้ว "อย่ามาว่านายท่าน!"
ลี่อินเพิ่งรับทราบว่าตัวเองเผลอวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายต่อหน้าลูกน้องเสียแล้ว โดยเฉพาะ...ลูกน้องที่ดูจะรักเจ้านายของตัวเองมากอย่างเธอคนนี้ ครั้นจะให้โกรธที่โดนเสียงดังใส่ก็ใช่ที่ ในเมื่อคนที่พูดว่า 'ใช้ไม่ได้' ก็เป็นตัวเธอเองเสียด้วย
ฮิโรมิพยายามคลายความกริ้วโกรธของแวมไพร์สาวพลางกึ่งลากกึ่งจูงออกไป โชคดีที่วาเลนเซียไม่ตัดสินใจรับประทานอาหารจีนเป็นมื้อเช้า
ทั้งสองหยุดยืนอยู่หน้าร้าน มองดูผู้คนมากมายซึ่งอาจจะมีที่มาจากคนละทิศทางกัน จากคนละมุมโลกอันแสนกว้างใหญ่ บ้านเกิดของใครสักคนในหมู่พวกเขาอาจเป็นจุดหมายที่พี่ชายเธอเดินทางไป เรื่องนี้ฮิโรมิรู้สึกเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กำลังคิดแบบนั้นเช่นกัน พี่ชายของเธอกำลังเล่นเกมวิ่งไล่จับเหมือนอย่างที่เคยเล่นกันตอนเด็กๆ แต่คราวนี้อาณาเขตที่เขากำหนดคือพื้นที่ทั้งหมดของโลกทั้งใบ แม้แต่การล่องเรือกลางทะเลห่างไกลผู้คน ด้วยความคลั่งไคล้ในตัวทริสทรี่ เขาน่าจะอยากเก็บอีกฝ่ายไว้กับตัวมากถึงขั้นนั้นก็เป็นได้ ถ้าลองทำถึงขนาดนั้น อีกสิบปีก็ไม่แน่ว่าเธอจะเจอเขาหรือเปล่า
ฮิโรมิมองวาเลนเซียผู้นิ่งสงบผิดปกติ โดยทั่วไปแล้ว ทันทีที่ไม่รู้ว่าทริสทรี่อยู่แห่งหนตำบลใด เจ้าหล่อนจะต้องแยกเขี้ยวใช้ฟันขาววาวแหลมดุจใบมีดแทนคำขู่ออกคำสั่งให้เธอควานหาที่อยู่เจ้านายมารายงานภายในเวลาไม่กี่วินาที เด็กหญิงเริ่มจะชินกับการอยู่กับอีกฝ่ายแล้ว เธอจึงกล้าพอในการถามออกไป "คุณคิดอะไรอยู่"
วาเลนเซียตวัดสายตา "เจ้าหมายความว่าไง"
ฮิโรมิไม่ลังเลอีกเช่นกันในการบอกว่าเธอดูเงียบเกินไป
วาเลนเซียเลื่อนสายตากลับมาเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าอีกครั้ง "เจ้าก็รู้ ความคิดของข้ามีเพียงนายท่านเท่านั้น"
กล่าวเท่านี้ ฮิโรมิก็เข้าใจได้ในทันที ใช่ว่าเธอจะละทิ้งคำพูดของลี่อินหรอก ร่างสวยงามในชุดกี่เพ้าผู้นั้นกล่าวถึงทริสทรี่อย่างไร ใครๆ ก็ได้ยิน ไม่ใช่ประเด็นเรื่องความเย็นชาอะไร แต่เป็นความเบื่อ เธอสนิทกับลี่อินพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีไหนแกล้งเพื่อนสมัยเรียน รวมทั้งคำว่า 'หึงหวง' ที่ดูย้ำให้ความมั่นใจของเธอเพิ่มสูงขึ้น
หรือบางที...พี่ชายเธอจะเป็นคนรักเพียงในนาม
"บางที ถ้าเราหาตัวทริสทรี่เจอ เขาอาจจะยอมกลับไปกับคุณง่ายกว่าที่คิดก็ได้"
เพราะคนที่น่าเป็นห่วงจริงๆ คือฮิโรชิต่างหาก
ฮิโรมินึกถึงใบหน้าของพี่ชายด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เขาฉลาดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องธุรกิจ หรือแม้แต่การเล่นไล่จับที่ดูจะนำเธอไปหนึ่งก้าวเสมอ แต่เธอก็หวังว่าเรื่องของทริสทรี่จะทำให้ความฉลาดนั่นไม่ลดน้อยลงไป
สาวงามทำลายได้แม้นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ แล้วความคลั่งไคล้ในตัวแวมไพร์ตนนั้นจะไม่ทำให้พี่ชายทำลายตัวเขาเองได้เชียวหรือ เธอวาดหวังอยู่ในใจว่าตนจะฟุ้งซ่านมากเกินไป
"เจ้าคิดอะไรอยู่"
อาจเพราะเริ่มคุ้นชินต่อกัน ทำให้วาเลนเซียอดใส่ใจต่อแววตาเคร่งเครียดเกินอายุของเด็กหญิงไม่ได้ อย่างน้อย อีกฝ่ายก็ช่วยเธอตามหานายท่านที่เคารพรักและปฏิบัติต่อเธออย่างดี
ฮิโรมิเผยยิ้มกว้างที่เหมือนจะกดความเครียดไว้กับตัว "เปล่า คิดเพลินๆ น่ะ"
หญิงสาวเลิกคิ้ว ถ้าไม่ใช่ทริสทรี่ เธอก็เซ้าซี้ถามต่อให้มากความหรอก ถึงจะใส่ใจ แต่ความห่วงใยยังคงต่างกัน และมนุษย์คือมนุษย์ เผ่าพันธุ์ที่เธอแสนจะรังเกียจ นักล่าแวมไพร์จอมเจ้าเล่ห์และดุร้ายก็ล้วนมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะพวกมัน ทริสทรี่และเธอจึงต้องพบเจอความยุ่งยากไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง นองเลือดกันไม่รู้ตั้งกี่หน
"งั้นเราก็ไปหานายท่านกันได้เสียที ส่งคนของเจ้าออกไปตามหาเสีย ยิ่งหานายท่านพบเร็วเท่าไหร่ เรื่องยุ่งยากของเจ้าและข้าจะได้จบลงเร็วเท่านั้น"
ฮิโรมิเพียงพยักหน้ารับเบาๆ เท่านั้น
ถ้าเจอพี่ชาย...ถ้าเจอทริสทรี่ เธอบังเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเรื่องยุ่งยากที่วาเลนเซียเอ่ยถึงนั่นมันจะจบลงง่ายดายปานนั้น หรือมันเพิ่งจะเริ่มขยายตัวมากขึ้นกันแน่
ขณะขยับเท้าออกก้าวเดิน ฮิโรมิก็รับทราบขึ้นมาว่าตนเองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้
แน่นอนว่าเมอยาสก้าไม่ใช่ลูกสาวคหบดีประจำหมู่บ้าน หรือจะเรียกได้ว่าคนในหมู่บ้านนั้นไม่มีสักคนที่ร่ำรวยมากพอจะขึ้นชื่อว่าเป็นคหบดี
แต่การที่เธอได้ตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสบินสู่แดนปลาดิบมาจากการสะกดจิตเจ้าหน้าที่สนามบินคนหนึ่ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าราคาที่นั่งของตัวเองคือเท่าไหร่ เธอรู้แต่ว่าสองนาทีต่อมา ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ ส่วนเรื่องเอกสารข้ามแดน พาสปอร์ตของเธอคือดวงตาและการสะกดจิต เพียงเท่านี้เธอก็สามารถไปได้ทุกที่ในโลกแล้ว
ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้น เขาตรวจสอบได้ว่ามีเด็กผู้หญิงจากทางตะวันออกมาวุ่นวายบริเวณหมู่บ้าน ก่อนจะพาคนสวมชุดคลุมมิดชิดออกไป ไม่ผิดแน่ หลังจากนั้น คดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดซ่อนเงื่อนก็ยุติลง ถึงจะไม่เหลือใครให้ฆ่าแล้วก็เถอะ แต่คนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพาไปต้องเป็นแวมไพร์ในคฤหาสน์หลังนั้นแน่นอน และตอนนี้ เธอก็ได้ชื่อของเด็กมาไว้ในกำมือเรียบร้อยแล้ว
เธอสัมผัสลำคอบริเวณที่โดนกัดด้วยความรู้สึกอันท่วมท้น นัยน์ตาสีเลือดดูลึกล้ำเสมือนเปลวเพลงโลดเต้นอยู่ภายในนั้น
‘...เหม่อออกอย่างนั้นไม่ใช่ว่าคิดถึงคนที่ชอบอยู่หรือไง...’
ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มของฮิโรชิ เขาพบว่าเสียงของเพื่อนสมัยเด็กกำลังก่อกวนอยู่ภายในความคิด รอยยิ้มของเขาจึงดูลวงโลกมากกว่าปกติหลายเท่าตัว
ก็แน่อยู่หรอก...เพราะเขากำลังโมโหถึงขีดสุดเลยล่ะ
ลี่อินพูดบ้าๆ คนรักอะไรนั่นมีที่ไหน ถ้าจะมีก็ต้องเป็นเขาเท่านั้นแหละ ในเมื่อตอนนี้เขาคือ คนรักเพียงคนเดียวทริสทรี่ ที่อีกฝ่ายไม่หึงก็เพราะรู้ดีว่าลี่อินเป็นแค่เพื่อน เพราะวางใจในตัวเขามากเหมือนกันที่เขาเชื่อมั่นว่าแวมไพร์อันเป็นที่รักนี้เป็นของเขาเพียงผู้เดียว มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อพวกเขาคือคู่รักที่ใจสื่อถึงกันเสียขนาดนี้
และก็เพราะ...ทริสทรี่เป็นของฮิโรชิ...ไม่ใช่อายาซาชิ!
ช่างเรื่องเมื่อร้อยปีก่อนปะไร อีกไม่นานเขาจะลบเจ้าหมอนั่นออกจากหัวใจของร่างบอบบางที่นั่งอยู่ข้างกันได้แล้ว ในเมื่อฮิโรมิไล่ล่า เขาก็ถือโอกาสพาทริสทรี่ไปเปิดหูเปิดตากับโลกเสียเลย เธอคงนึกไม่ถึงว่าเขาจะยุติแผนการขึ้นเครื่องข้ามน้ำข้ามทะเลโดยการนั่งเรือมายังเขตบริหารพิเศษใกล้เคียงกันแทน
ที่นี่มีชื่อเสียงหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านคาสิโน เขาเข้าพักในโรงแรมแอนด์คาสิโนยี่สิบสี่ชั่วโมงแห่งหนึ่ง และตื่นขึ้นมาเล่นราตรีหลังพระอาทิตย์ตกดินไปไม่นาน เมื่อเลือกชุดที่เหมาะสมได้ เขาก็โอบเอวแวมไพร์นำโชคเข้าไปยังคาสิโนของโรงแรมที่รอให้พวกเขาไปไล่ล่าเงินรางวัล
“มีพวกหน้าอ่อนเข้ามาด้วยเหรอนี่”
ขณะที่คนอื่นๆ พากันหมอบไพ่ ชายผิวเข้มผู้มีเคราทองพ่นควันซิการ์ออกจากปาก ลักษณะของเขาน่าจะมากจากทางยุโรป เช่นเดียวกับแขกที่เดินขวักไขว่กันทั่วอาณาบริเวณ บ่งชี้ได้ว่าโรงแรมแห่งนี้มีผู้เล่นจากนานาประเทศทั่วโลกอย่างแท้จริง
ทริสทรี่ซึ่งถามกติกามาตั้งแต่เมื่อครู่พลันปิดปากเงียบตนเงียบทันใด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอารมณ์ของฮิโรชิปะทุขึ้นมาเหมือนสะเก็ดไฟท่ามกลางท่าทีสบายๆ นั่น ใบหน้าใคร่รู้ปนไร้เดียงสายามร่างที่กำลังนั่งตักเขาอยู่เอ่ยขึ้นมามันช่างงดงามเพียงใด ใครๆ ก็เห็นอยู่ กล้าดียังไงมาขัดจังหวะเขากันนะ
การผลัดกันเพิ่มเดิมพันดูจะสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง ความอดทนของชายร่างใหญ่คนนั้นมาถึงจุดสิ้นสุด เขาเทชิพหมดหน้าตักประหนึ่งเรียกร้องให้อีกฝ่ายเปิดไพ่ออกมาเสียที
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชิพพวกนั้นจะถูกกินเรียบภายในคราวเดียว
โพดำมันคือไพ่ใหญ่ที่สุดในการช่วงชิงชัยชนะมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด หรือแม้แต่การทำสิ่งเลวร้ายอย่างการคร่าชีวิตผู้อื่น
ในบางเวลา ฮิโรชิก็ไม่รู้ว่าตนนั้นมีส่วนคล้ายกับวาเลนเซียมากเพียงไร
นั่นเพราะ...เขาจะช่วงชิงมาให้หมด ทำลายอดีต ครอบครองปัจจุบัน กักขังอนาคต ด้วยโซ่พันธนาการอันแน่นหนานี้ แม้มือทั้งคู่จะต้องเปื้อนเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยโลหิตคาวคละคลุ้ง แต่เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน แม้จะต้องแลกด้วยการสังเวยกี่ชีวิตไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขาเลย
“อา...เธอเป็นแวมไพร์นำโชคของฉันจริงๆ ด้วยล่ะ ทริสทรี่”
To be continue.
ลี่อินในชุดกี่เพ้าตัวใหม่ยืนยันมั่นเหมาะว่าเธอมาช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อยู่ เธอเข้าใจว่าเขาคงพักอยู่ในคอนโดส่วนตัวที่มาพักทุกครั้งที่มาฮ่องกง จึงไม่ได้ถามอะไรไปเป็นพิเศษ แถมด้วยเรื่องแผนการก่อกวนที่กลายเป็นการพิสูจน์หัวใจทริสทรี่ ทำให้เธอไม่ได้ถามข้อมูลส่วนตัวอะไรเขาเลยสักนิด
วาเลนเซียอยู่ในชุดคลุมที่มีฮู้ดประดับขนสัตว์ขาวประดับอยู่ พร้อมด้วยกระโปรงยาวคลุมเท้าปิดมิดชิด ถุงมือ และแว่นตาดำ เพื่อปิดแสงแดดไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิวกายเธอได้ แต่กระนั้น เมื่อรู้ว่าเจ้านายของตนเพิ่งคลาดกันไปไม่กี่ชั่วโมง เธอก็ไม่คิดจะเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป ไม่แน่ ถ้าตามไปคราวนี้อาจจะยังทันก็ได้!
ฮิโรมิรู้ความใจร้อนของแวมไพร์สาวดี แต่เธอไม่คิดจะหุนหันไปตามหาสองคนนั่นโดยไร้จุดหมายแน่ ถึงไม่ได้ถามเรื่องที่พัก แต่บางที ฮิโรชิอาจแย็บๆ แผนการท่องเที่ยวให้เพื่อนสมัยเรียนฟังบ้าง "แล้วเขาไปไหนกันเหรอ"
ลี่อินโคลงศีรษะไปมา "นั่นสิ ลี่อินเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อุตส่าห์คิดว่าจะพาคู่เดตไร้หัวใจคนนั้นเที่ยวแท้ๆ เผื่อจะสร้างเหตุการณ์ประทับใจขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าไม่อยู่ในคอนโด ลี่อินก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนแล้วล่ะ"
วาเลนเซียจ้องเขม็ง "อะไรคือคู่เดตไร้หัวใจ เจ้านั่นทำอะไรนายท่าน!"
เธอวาดภาพถึงความทรมานร้อยแปดประการที่ทริสทรี่อาจได้รับ ดูเหมือนว่าศัพท์ที่ลี่อินกล่าวกับความหมายและบุคคลที่เธอเข้าใจจะเป็นคนละเรื่องกันเสียแล้ว ฮิโรมิเข้าใจเรื่องนี้ แต่ตัวคนพูดเองกลับเข้าใจไปอีกทางหนึ่งว่านายท่านที่หญิงสาวพูดถึงคือตัวฮิโรชิ อาจเพราะเธอมาพร้อมกับฮิโรมิ ผู้เป็นน้องสาวของเขา
"ก็ไม่ได้ทำหรอก แต่นั่นแหละ ไม่ทำอะไรเลย เย็นชาสุดๆ เลยล่ะ" ลี่อินยักไหล่ "อ่า...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ แต่ฮิโรชิจังน่ะไม่เคยเอ่ยชื่อทริสทรี่อะไรให้ฉันได้ยินสักรอบ ทั้งที่เราซี้ย่ำปึ้กกันออกอย่างนี้แท้ๆ ฉันเลยก่อกวนเขานิดหน่อย แต่มันก็..."
ฮิโรมิรับฟังด้วยความใคร่รู้ "ยังไงเหรอ"
"แต่เขาเฉยน่ะสิ! ปกติคนรักกัน มองเห็นคนรักตัวเองใกล้ชิดกับคนอื่นอย่างนั้น ร้อยทั้งร้อยไม่มีทางนั่งนิ่งกินซาลาเปาได้หรอก" ลี่อินนึกถึงคนที่ส่งสาวเสิร์ฟมาขัดจังหวะไม่รู้ต่อกี่ครั้งด้วยความขบขันอยู่ในใจ แต่ก็มิได้แสดงท่าทีใดๆ ออกไป "แต่เมื่อคืนน่ะ คู่เดตของฮิโรชิจังทั้งเหม่อ ทั้งดูเบื่อ ถ้าไม่ใช่ว่ามั่นใจในตัวฮิโรชิจังสุดๆ ล่ะก็ เขาก็ไม่แคร์อะไรฮิโรชิจังเลยสักนิด ใช้ไม่ได้เลย!"
วาเลนเซียขมวดคิ้ว "อย่ามาว่านายท่าน!"
ลี่อินเพิ่งรับทราบว่าตัวเองเผลอวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายต่อหน้าลูกน้องเสียแล้ว โดยเฉพาะ...ลูกน้องที่ดูจะรักเจ้านายของตัวเองมากอย่างเธอคนนี้ ครั้นจะให้โกรธที่โดนเสียงดังใส่ก็ใช่ที่ ในเมื่อคนที่พูดว่า 'ใช้ไม่ได้' ก็เป็นตัวเธอเองเสียด้วย
ฮิโรมิพยายามคลายความกริ้วโกรธของแวมไพร์สาวพลางกึ่งลากกึ่งจูงออกไป โชคดีที่วาเลนเซียไม่ตัดสินใจรับประทานอาหารจีนเป็นมื้อเช้า
ทั้งสองหยุดยืนอยู่หน้าร้าน มองดูผู้คนมากมายซึ่งอาจจะมีที่มาจากคนละทิศทางกัน จากคนละมุมโลกอันแสนกว้างใหญ่ บ้านเกิดของใครสักคนในหมู่พวกเขาอาจเป็นจุดหมายที่พี่ชายเธอเดินทางไป เรื่องนี้ฮิโรมิรู้สึกเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็กำลังคิดแบบนั้นเช่นกัน พี่ชายของเธอกำลังเล่นเกมวิ่งไล่จับเหมือนอย่างที่เคยเล่นกันตอนเด็กๆ แต่คราวนี้อาณาเขตที่เขากำหนดคือพื้นที่ทั้งหมดของโลกทั้งใบ แม้แต่การล่องเรือกลางทะเลห่างไกลผู้คน ด้วยความคลั่งไคล้ในตัวทริสทรี่ เขาน่าจะอยากเก็บอีกฝ่ายไว้กับตัวมากถึงขั้นนั้นก็เป็นได้ ถ้าลองทำถึงขนาดนั้น อีกสิบปีก็ไม่แน่ว่าเธอจะเจอเขาหรือเปล่า
ฮิโรมิมองวาเลนเซียผู้นิ่งสงบผิดปกติ โดยทั่วไปแล้ว ทันทีที่ไม่รู้ว่าทริสทรี่อยู่แห่งหนตำบลใด เจ้าหล่อนจะต้องแยกเขี้ยวใช้ฟันขาววาวแหลมดุจใบมีดแทนคำขู่ออกคำสั่งให้เธอควานหาที่อยู่เจ้านายมารายงานภายในเวลาไม่กี่วินาที เด็กหญิงเริ่มจะชินกับการอยู่กับอีกฝ่ายแล้ว เธอจึงกล้าพอในการถามออกไป "คุณคิดอะไรอยู่"
วาเลนเซียตวัดสายตา "เจ้าหมายความว่าไง"
ฮิโรมิไม่ลังเลอีกเช่นกันในการบอกว่าเธอดูเงียบเกินไป
วาเลนเซียเลื่อนสายตากลับมาเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าอีกครั้ง "เจ้าก็รู้ ความคิดของข้ามีเพียงนายท่านเท่านั้น"
กล่าวเท่านี้ ฮิโรมิก็เข้าใจได้ในทันที ใช่ว่าเธอจะละทิ้งคำพูดของลี่อินหรอก ร่างสวยงามในชุดกี่เพ้าผู้นั้นกล่าวถึงทริสทรี่อย่างไร ใครๆ ก็ได้ยิน ไม่ใช่ประเด็นเรื่องความเย็นชาอะไร แต่เป็นความเบื่อ เธอสนิทกับลี่อินพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีไหนแกล้งเพื่อนสมัยเรียน รวมทั้งคำว่า 'หึงหวง' ที่ดูย้ำให้ความมั่นใจของเธอเพิ่มสูงขึ้น
หรือบางที...พี่ชายเธอจะเป็นคนรักเพียงในนาม
"บางที ถ้าเราหาตัวทริสทรี่เจอ เขาอาจจะยอมกลับไปกับคุณง่ายกว่าที่คิดก็ได้"
เพราะคนที่น่าเป็นห่วงจริงๆ คือฮิโรชิต่างหาก
ฮิโรมินึกถึงใบหน้าของพี่ชายด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง เขาฉลาดเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องธุรกิจ หรือแม้แต่การเล่นไล่จับที่ดูจะนำเธอไปหนึ่งก้าวเสมอ แต่เธอก็หวังว่าเรื่องของทริสทรี่จะทำให้ความฉลาดนั่นไม่ลดน้อยลงไป
สาวงามทำลายได้แม้นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ แล้วความคลั่งไคล้ในตัวแวมไพร์ตนนั้นจะไม่ทำให้พี่ชายทำลายตัวเขาเองได้เชียวหรือ เธอวาดหวังอยู่ในใจว่าตนจะฟุ้งซ่านมากเกินไป
"เจ้าคิดอะไรอยู่"
อาจเพราะเริ่มคุ้นชินต่อกัน ทำให้วาเลนเซียอดใส่ใจต่อแววตาเคร่งเครียดเกินอายุของเด็กหญิงไม่ได้ อย่างน้อย อีกฝ่ายก็ช่วยเธอตามหานายท่านที่เคารพรักและปฏิบัติต่อเธออย่างดี
ฮิโรมิเผยยิ้มกว้างที่เหมือนจะกดความเครียดไว้กับตัว "เปล่า คิดเพลินๆ น่ะ"
หญิงสาวเลิกคิ้ว ถ้าไม่ใช่ทริสทรี่ เธอก็เซ้าซี้ถามต่อให้มากความหรอก ถึงจะใส่ใจ แต่ความห่วงใยยังคงต่างกัน และมนุษย์คือมนุษย์ เผ่าพันธุ์ที่เธอแสนจะรังเกียจ นักล่าแวมไพร์จอมเจ้าเล่ห์และดุร้ายก็ล้วนมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น เพราะพวกมัน ทริสทรี่และเธอจึงต้องพบเจอความยุ่งยากไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง นองเลือดกันไม่รู้ตั้งกี่หน
"งั้นเราก็ไปหานายท่านกันได้เสียที ส่งคนของเจ้าออกไปตามหาเสีย ยิ่งหานายท่านพบเร็วเท่าไหร่ เรื่องยุ่งยากของเจ้าและข้าจะได้จบลงเร็วเท่านั้น"
ฮิโรมิเพียงพยักหน้ารับเบาๆ เท่านั้น
ถ้าเจอพี่ชาย...ถ้าเจอทริสทรี่ เธอบังเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าเรื่องยุ่งยากที่วาเลนเซียเอ่ยถึงนั่นมันจะจบลงง่ายดายปานนั้น หรือมันเพิ่งจะเริ่มขยายตัวมากขึ้นกันแน่
ขณะขยับเท้าออกก้าวเดิน ฮิโรมิก็รับทราบขึ้นมาว่าตนเองไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนี้
แน่นอนว่าเมอยาสก้าไม่ใช่ลูกสาวคหบดีประจำหมู่บ้าน หรือจะเรียกได้ว่าคนในหมู่บ้านนั้นไม่มีสักคนที่ร่ำรวยมากพอจะขึ้นชื่อว่าเป็นคหบดี
แต่การที่เธอได้ตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสบินสู่แดนปลาดิบมาจากการสะกดจิตเจ้าหน้าที่สนามบินคนหนึ่ง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าราคาที่นั่งของตัวเองคือเท่าไหร่ เธอรู้แต่ว่าสองนาทีต่อมา ตนเองได้ในสิ่งที่ต้องการ ส่วนเรื่องเอกสารข้ามแดน พาสปอร์ตของเธอคือดวงตาและการสะกดจิต เพียงเท่านี้เธอก็สามารถไปได้ทุกที่ในโลกแล้ว
ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้น เขาตรวจสอบได้ว่ามีเด็กผู้หญิงจากทางตะวันออกมาวุ่นวายบริเวณหมู่บ้าน ก่อนจะพาคนสวมชุดคลุมมิดชิดออกไป ไม่ผิดแน่ หลังจากนั้น คดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดซ่อนเงื่อนก็ยุติลง ถึงจะไม่เหลือใครให้ฆ่าแล้วก็เถอะ แต่คนที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพาไปต้องเป็นแวมไพร์ในคฤหาสน์หลังนั้นแน่นอน และตอนนี้ เธอก็ได้ชื่อของเด็กมาไว้ในกำมือเรียบร้อยแล้ว
เธอสัมผัสลำคอบริเวณที่โดนกัดด้วยความรู้สึกอันท่วมท้น นัยน์ตาสีเลือดดูลึกล้ำเสมือนเปลวเพลงโลดเต้นอยู่ภายในนั้น
‘...เหม่อออกอย่างนั้นไม่ใช่ว่าคิดถึงคนที่ชอบอยู่หรือไง...’
ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มของฮิโรชิ เขาพบว่าเสียงของเพื่อนสมัยเด็กกำลังก่อกวนอยู่ภายในความคิด รอยยิ้มของเขาจึงดูลวงโลกมากกว่าปกติหลายเท่าตัว
ก็แน่อยู่หรอก...เพราะเขากำลังโมโหถึงขีดสุดเลยล่ะ
ลี่อินพูดบ้าๆ คนรักอะไรนั่นมีที่ไหน ถ้าจะมีก็ต้องเป็นเขาเท่านั้นแหละ ในเมื่อตอนนี้เขาคือ คนรักเพียงคนเดียวทริสทรี่ ที่อีกฝ่ายไม่หึงก็เพราะรู้ดีว่าลี่อินเป็นแค่เพื่อน เพราะวางใจในตัวเขามากเหมือนกันที่เขาเชื่อมั่นว่าแวมไพร์อันเป็นที่รักนี้เป็นของเขาเพียงผู้เดียว มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อพวกเขาคือคู่รักที่ใจสื่อถึงกันเสียขนาดนี้
และก็เพราะ...ทริสทรี่เป็นของฮิโรชิ...ไม่ใช่อายาซาชิ!
ช่างเรื่องเมื่อร้อยปีก่อนปะไร อีกไม่นานเขาจะลบเจ้าหมอนั่นออกจากหัวใจของร่างบอบบางที่นั่งอยู่ข้างกันได้แล้ว ในเมื่อฮิโรมิไล่ล่า เขาก็ถือโอกาสพาทริสทรี่ไปเปิดหูเปิดตากับโลกเสียเลย เธอคงนึกไม่ถึงว่าเขาจะยุติแผนการขึ้นเครื่องข้ามน้ำข้ามทะเลโดยการนั่งเรือมายังเขตบริหารพิเศษใกล้เคียงกันแทน
ที่นี่มีชื่อเสียงหลายๆ ด้าน รวมทั้งด้านคาสิโน เขาเข้าพักในโรงแรมแอนด์คาสิโนยี่สิบสี่ชั่วโมงแห่งหนึ่ง และตื่นขึ้นมาเล่นราตรีหลังพระอาทิตย์ตกดินไปไม่นาน เมื่อเลือกชุดที่เหมาะสมได้ เขาก็โอบเอวแวมไพร์นำโชคเข้าไปยังคาสิโนของโรงแรมที่รอให้พวกเขาไปไล่ล่าเงินรางวัล
“มีพวกหน้าอ่อนเข้ามาด้วยเหรอนี่”
ขณะที่คนอื่นๆ พากันหมอบไพ่ ชายผิวเข้มผู้มีเคราทองพ่นควันซิการ์ออกจากปาก ลักษณะของเขาน่าจะมากจากทางยุโรป เช่นเดียวกับแขกที่เดินขวักไขว่กันทั่วอาณาบริเวณ บ่งชี้ได้ว่าโรงแรมแห่งนี้มีผู้เล่นจากนานาประเทศทั่วโลกอย่างแท้จริง
ทริสทรี่ซึ่งถามกติกามาตั้งแต่เมื่อครู่พลันปิดปากเงียบตนเงียบทันใด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอารมณ์ของฮิโรชิปะทุขึ้นมาเหมือนสะเก็ดไฟท่ามกลางท่าทีสบายๆ นั่น ใบหน้าใคร่รู้ปนไร้เดียงสายามร่างที่กำลังนั่งตักเขาอยู่เอ่ยขึ้นมามันช่างงดงามเพียงใด ใครๆ ก็เห็นอยู่ กล้าดียังไงมาขัดจังหวะเขากันนะ
การผลัดกันเพิ่มเดิมพันดูจะสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่ง ความอดทนของชายร่างใหญ่คนนั้นมาถึงจุดสิ้นสุด เขาเทชิพหมดหน้าตักประหนึ่งเรียกร้องให้อีกฝ่ายเปิดไพ่ออกมาเสียที
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชิพพวกนั้นจะถูกกินเรียบภายในคราวเดียว
โพดำมันคือไพ่ใหญ่ที่สุดในการช่วงชิงชัยชนะมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด หรือแม้แต่การทำสิ่งเลวร้ายอย่างการคร่าชีวิตผู้อื่น
ในบางเวลา ฮิโรชิก็ไม่รู้ว่าตนนั้นมีส่วนคล้ายกับวาเลนเซียมากเพียงไร
นั่นเพราะ...เขาจะช่วงชิงมาให้หมด ทำลายอดีต ครอบครองปัจจุบัน กักขังอนาคต ด้วยโซ่พันธนาการอันแน่นหนานี้ แม้มือทั้งคู่จะต้องเปื้อนเลือด ร่างกายเต็มไปด้วยโลหิตคาวคละคลุ้ง แต่เพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน แม้จะต้องแลกด้วยการสังเวยกี่ชีวิตไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเขาเลย
“อา...เธอเป็นแวมไพร์นำโชคของฉันจริงๆ ด้วยล่ะ ทริสทรี่”
To be continue.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ