Easy Mode ; Hard Mode

-

เขียนโดย Hungshu

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 15.25 น.

  10 ตอน
  1 วิจารณ์
  13.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 16.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) Fail (2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“ดูเหมือนจะสำเร็จนะ”

 

ยิน หนึ่งในนักฆ่าเอ่ยปากขึ้น

 

“ยุน ช่วยเช็คเวลา สถานที่ให้หน่อย”

 

ยุน ชายหนุ่มนักฆ่า ผิวคล้ำ ผมสีเทา

ในเวลาปรกติ ยุนมักจะอยู่นิ่งๆ นัยน์ตาเหม่อลอยอยู่เสมอ

ผิดกับยิน แม้ว่าทั้งสองแม้จะมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน

แต่ยิน กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างอย่างมาก

ตั้งแต่มาถึงยังปราสาทของชิมอน

ยินพยายามเข้ามาตีสนิทกับเฟรงเกนทุกคนที่เขาเจอคนอื่นรวมถึงฉันด้วย

แต่ทุกคนได้แต่เพียงตอบคำถามเท่าที่ ยิน ถาม

หลังยินพยายามอยู่ได้เกือบสัปดาห์ดูเหมือนเจ้าตัวก็ได้ล้มเลิกความพยายามที่จะสื่อสารกับพวกเราไป

 

ยุนพยักหน้ารับคำของ ยินแล้วเริ่มร่ายเวทมนต์
สัตว์ขนาดเล็กคล้ายนกนางแอ่น ปรากฏขึ้นรอบตัวยุน

พวกมันบินหายลับไปในท้องฟ้าทันทีที่ยุนโบกมือทำสัญญาณ

 

ราวสิบกว่านาทีต่อมา

 

“เวลาตอนนี้คือ...เกือบจะสี่สิบปีก่อน...แต่ว่า…สถานที่มัน...”

 

ยุนคิ้วขมวด แล้วเงียบไป

 

“มันทำไมเรอะ ไกลจากเป้าหมายของเรามากงั้นหรอ”

 

“เปล่าไม่ใช่อย่างนั้น ยิน คือ...จะพูดยังไงดี...มิลลิแกน”

 

“คะ?”

 

“ประเทศจีน หรือ เมืองกวางโจวนี่เธอรู้จักไหม?”

 

“?...คืออะไรคะ?”

 

“เอ...คงต้องบอกว่าถ้าที่นี่เป็นโลกเดิมของเรา

เราน่าจะอยู่ที่เมืองแห่งหนึ่งในอาณาเขตของอาณาจักรทงเทียน

แต่พอเราย้อนเวลากลับมาเกือบ 40 ปีก่อน กลับกลายเป็นว่า

ที่แห่งนี้มันไม่ใช่อาณาจักรทงเทียนเลยน่ะสิ”

 

ยุนพยายามกรุ้นคิดคำพูด

 

“ราวกับว่าที่แห่งนี้ไม่มีอาณาจักรทงเทียน

แต่โลกที่เรารู้จักก็ไม่มีที่แห่งนี้เช่นกัน”

 

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ลูกแก้วแต่ละคนจับสัญญาณเป้าหมายได้ใช่ไหม”

 

ยินพูดตัดปัญหาในเรื่องที่ไม่เข้าใจ

 

“ครับ / ค่ะ”

 

สิ้นคำขานรับ ทั้งยุนและยิน ต่างแยกย้ายกันมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายของตนเอง

ยุนสร้างสิ่งที่รูปร่างคล้ายนกขนาดใหญ่แล้วขึ้นขี่มันไป

ส่วนยินนั้นหายตัวไปจากที่ที่เขายืนเมื่อครู่ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ

 

ตัวฉันเองเมื่อทั้งคู่หายไปจากสายตาแล้ว

ก็เริ่มตรวจสอบทิศทางของเป้าหมายฉันอีกครั้ง

 

ลูกแก้วที่ชิมอนให้มา

มันบอกเพียงแค่ นอกจากข้อมูลพื้นฐานของเป้าหมายแล้ว

ตัวฉันรู้เพียงทิศทางของเป้าหมายเท่านั้น

ไม่ทราบถึงระยะทาง

ตัวฉันจึงได้แต่มุ่งหน้าไปทางนั้นเท่านั้น

 

………………..

 

ราวๆ 1 วันถัดมา

 

ตัวฉันที่ใช้ลมปราณผสานกับเวทเสริมความเร็วก็มาถึงเมืองที่เป้าหมายอาศัยอยู่

เมือง หยางโจว

ตั้งอยู่ห่างจากเมือง กวางโจว ที่ที่พวกฉันโผล่มาในโลกนี้ราวๆ 1,200 กิโลเมตร

ตอนที่ฉันมาถึงที่แห่งนี้

พระอาทิตย์ได้ลับของฟ้าไปหลายชั่วโมงแล้ว

 

ถ้าเป็นสมัยก่อน

สมัยที่ยังเป็นมนุษย์

ร่างกายของฉันคงกรีดร้องให้หยุดพักเป็นแน่

แต่ตอนนี้ ฉันกลับไม่รู้สึกถึงความเหนื่อยแม้แต่น้อย

แต่จะเรียกว่าเป็นข้อดีคงไม่ได้

เพราะถึงแม้ร่างกายนี้จะไร้ความรู้สึก

แต่มันก็ยังมีความทนทานของมันอยู่

ถึงจะเหนือกว่าร่างเดิมของฉัน

แต่หากใช้งานมันหนักเกิน

ชิ้นส่วนร่างกายยังคงพังได้

เหมือนตอนที่ฝึกกับเฟรงเกนตนอื่นติดกันหลายวัน

จนร่างกายขยับไม่ได้

แม้ชิมอนจะดัดแปลงให้ร่างกายฉันสามารถฟื้นฟูด้วยตนเองได้

โดยไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนร่างกาย

แต่ถ้ามันหยุดทำงานระหว่างที่ฉันกำลังจัดการเป้าหมายคงจะไม่ดีเป็นไร

สำหรับวันนี้ฉันคงได้แต่จับตามองเป้าหมายเท่านั้น

 

“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ”

 

มาถึงเมืองนี้เสียดึกขนาดนี้

ผู้คนที่เดินในเมืองแทบจะไม่เห็นแล้ว

แบบนี้ไม่น่าจะเก็บข้อมูลของเป้าหมายได้มากซักเท่าไร

ตอนแรกฉันคิดแบบนั้น

แต่โชค? กลับเข้าข้าง

 

หลังจากฉันตามทิศที่ลูกแก้วชี้แนะมาเรื่อยๆจนพบเป้าหมาย

ฉันเฝ้าสะกดรอยอยู่ห่างๆ

น่าแปลกที่ทั้งๆคนในเมืองดูเหมือนจะกลับบ้านกันในเวลานี้แล้ว

เป้าหมายกลับเดินอย่างสบายใจไปยังอาคารใหญ่แห่งหนึ่ง

 

ที่นั่นเป้าหมายยืนเหมือนรอคอยใครซักอยู่

ไม่นานนัก ‘เหยื่อ’ ของเป้าหมายก็เดินเข้ามาคุยด้วย

สร้อยคอเวทย์มนที่ชิมอนเตรียมไว้ให้สำหรับแปลงภาษาช่วยแปลสิ่งที่ทั้งคู่คุยกัน

ดูเหมือนเป้าหมายจะพยายามเจรจากับเหยื่อ

แม้ในความรู้สึกของฉันแล้วไม่ว่าเหยื่อจะทำตามเป้าหมายหรือไม่

เป้าหมายคงจะไม่ปล่อยไปอยู่แล้ว

 

ทั้งคู่พูดกันซักพัก

อยู่ๆเหยื่อก็ตะโกนด้วยความโกรธแล้วหยิบมีดพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย

เป้าหมายหลบเหยื่ออย่างไม่ยากเย็น แล้วใช้มือสัมผัสใบหน้าเหยื่อ

จากนั้นเหยื่อเริ่มแทงพื้นซ้ำๆโดยไม่สนใจเป้าหมายที่มองเหยื่ออย่างสมเพช

 

เมื่อเป้าหมายเหมือนจะเบื่อแล้ว

เป้าหมายเดินไปยังห้องที่เหมือนเป็นห้องเก็บของแล้วหยิบท่อนเหล็กออกมา

 

ผัวะ!

 

เสียงท่อนเหล็กฟาดเข้าที่กระโหลกของเหยื่อดังสนั่นไปทั่วอาคารนั่น

เหยื่อเหมือนจะได้สติ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

เป้าหมายทุบเหยื่อจนร่างกายแน่นิ่ง

แล้วใช้มือทาบไปยังร่างกายของเหยื่อ

 

ร่างกายของเหยื่อค่อยๆจางลง

เพียงไม่กี่วินาที ก็ราวกับไม่เคยมีศพตรงนั้น

เป้าหมายหาวแล้วเดินออกจากอาคารไปอย่างสบายใจ

 

‘อันตราย’

 

ฉันไม่รู้ว่าเป้าหมายมีความสามารถพิเศษอะไร

ความสามารถในเพลงยุทธแค่ไหน

จากที่เห็นฉันบอกได้เพียง

มีความสามารถทำให้เหยื่อเห็นภาพลวงตา

และ กำจัดร่างกายของเหยื่อให้หายไปได้อย่างไร้ร่องรอย

แม้ฉันจะไม่สามารถจับพลังเวทย์จากเป้าหมายในตอนที่เข้าทำลายศพ

แต่พลังปราณในตอนนั้นแผ่พุ่งออกมาสูงมาก

อาจจะมากกว่าตัวฉันด้วยซ้ำ

 

“ชิม่อน ฉันเริ่มเข้าใจสิ่งที่นายต้องการสื่อแล้วล่ะ”

ฉันพึมพำกับตนเอง

 

‘กลัว’

 

นี่อาจเป็นความกลัวก็ได้

น่าขันที่แม้ตัวฉันจะตายไปนานแล้ว

แต่ก็ยังคงกลัวการถูกลบตัวตน

เหมือนกับที่เป้าหมายลบเหยื่อออกไป

 

ฉันตัดสินใจเปลี่ยนแผน

ต้องจัดการเป้าหมายทันทีในคืนนี้

อาจเป็นเพราะ ฉัน ‘กลัว’ ที่จะกลายเป็นเหยื่อคนถัดไปของเป้าหมายก็เป็นได้

 

ฉันสะกดรอยตามเป้าหมายจนเขาเอาไปในอาคารที่เหมือนจะเป็นบ้านของเขา

ฉันลังเลใจอยู่ครู่นึงเพราะไม่แน่ใจว่าในอาคารนั้นจะมีกับดักอะไรหรือไม่

แต่พอนึกถึงคำที่ชิม่อนพูดถึง

 

‘ต่อสู้ที่แลกด้วยชีวิต’

 

นั่นสินะ

ยิ่งมีกับดักสิยิ่งดี

ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในอาคารนั้น

 

ภายในอาคาร

ฉันสัมผัสได้ถึงปราณของคนจำนวนมาก

แม้จะไม่เห็นตัวคนเหล่านั้นก็ตาม

แต่ก็เป็นปริมาณปราณเหล่านั้นมันน้อยกว่าคนทั่วไปในทงเทียนเสียอีก

มีเพียงปราณของเป้าหมายเท่านั้นที่มากจนฉันไม่จำเป็นต้องใช้ลูกแก้วนำทาง

 

เมื่อฉันเดินมาถึงหน้าห้องของเป้าหมาย

ฉันสร้างส่งพลังปราณเข้าไปในรูของลูกบิดประตู

แล้วบีบอัดพลังปราณนั้นให้แข็งขึ้นแทนลูกกุญแจ

จากนั้นก็เปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ

 

ภายในห้องค่อนข้างมืด

มีเพียงเสียงเขียนหนังสือดังขึ้นเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเป้าหมายจะกำลังหมกหมุ้นอยู่กับการเขียนอะไรซักอย่างที่โต๊ะของเขา

โดยมีของบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายตะเกียงแต่มีแสงไฟที่สว่างกว่ามากให้ความสว่างอยู่

 

ถ้าฉันลงมือตอนนี้…

ไม่ได้สิถ้าทำแบบนั้น ต่อให้ฉันฆ่าเขาได้

แต่มันก็ผิดจากเป้าหมายที่ชิม่อนต้องการ

อย่างน้อยเรียกให้เขารู้ตัวหน่อยก็ดี

 

“ขอโทษค่ะ!  คุณคือจิ้นหลิง ใช่ไหมคะ?”

 

“อะ...เอ่อ”

 

เป้าหมายสะดุ้งตัวลุกขึ้นยืน

หันหน้ามาทางฉันราวกับถูกผีหลอก

 

“ขออภัย”

 

ฉันก้มหัวให้เล็กน้อย

เร่งพลังปราณในมือ และ ร่ายเวทย์เสริมความเร็วยังท่อนล่าง

แล้วพุ่งเข้าหาเป้าหมายด้วยความเร็วที่ฉันสามารถเร่งได้มากที่สุด

ทันทีที่เป้าหมายอยู่ในระยะ

ฉันร่ายเวทย์ใบมีดสายลมแล้วขมวดมันด้วยพลังปราณจดเป็นก้อนกลม

ทันทีที่มือฉันสัมผัสไปยังหน้าท้องของเป้าหมาย

พลังปราณ และ ใบมีดลมก็ส่งเข้าไปในร่าง

 

ตูม!

 

เมื่อไม่ได้รับแรงบีบอัด

พลังปราณก็ระเบิดออก

พร้อมทั้งใบมีดสายลมก็เฉือนร่างของเป้าหมายจนกระจัดกระจาย

ท่อนล่างของเป้าหมายทรงตัวได้ครู่นึงก็ล้มลง

 

ถึงอย่างนั้น

ฉันก็ยังคงตั้งท่าเตรียมพร้อม

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ของเหยื่อกับเป้าหมายแล้ว

ภาพที่เห็นนี่น่าจะเป็นเพียงภาพลวงตาก็เป็นได้

 

จะเข้ามาทางไหน

เมื่อไร

 

แต่แม้เวลาผ่านไปครู่นึงก็ไม่เกิดอะไรขึ้น

อะไรกัน

ทำไม

อย่าบอกนะว่า เป้าหมายได้ถูกกำจัดแล้วจริงๆ

อะไรกัน

ทำไม

อย่าบอกนะว่า คนที่จะเป็นภัยต่อโลกเวทย์มนตร์

โดนโจมตีแค่นี้ก็ตายเสียแล้ว

ทั้งๆที่ฉันอุตส่าห์ เรียกแล้วเผยตัวให้เห็นแล้วนะ

 

‘มิล…มิลลิแกน...ได้ยินไหม’

 

เสียงของยินดังเข้ามาในหัวฉัน

เทเลพาธี สินะ

 

“ค่ะ”

‘เธอจัดการเป้าหมายของเธอเสร็จแล้วสินะ’

“ค่ะ...คิดว่าน่าจะสำเร็จนะคะ”

‘คิดว่า?...เรื่องนั้นช่างเถอะ มีเรื่องด่วนคือ...’

 

ยินรีบพูดให้ฟังถึงเรื่องที่ยุนขาดการติดต่อกับเขาไป
ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ายุนพลาดท่าให้กันเป้าหมาย

แต่ตัวยินเองที่ยังหาเป้าหมายตนเองไม่พบ

เพราะเสียเวลาไปกับการข้ามทะเล

ทำให้ปลีกตัวไปจัดการกับเป้าหมายของยุนไม่ได้

ยินจึงขอร้องให้ฉันช่วยไปจัดการแทน

 

“รับทราบค่ะ...เป้าหมายต่อไปที่ไทยนะคะ”

 

ฉันถามที่อยู่ของเป้าหมาย

ดูเหมือนว่าก่อนยุนจะขาดการติดต่อ

ยุนบอกยุนว่าที่ที่เขากำลังหาเป้าหมายอยู่เรียกว่าเมืองไทย

 

“แต่ว่าฉันไม่รู้หน้าตา และ ตำแหน่งของเป้าหมายนะคะ?”

 

‘เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ลองส่งมาน่าดูอีกครั้งสิ’

 

ภาพข้อมูลพื้นฐานของเป้าหมายที่ไทย และทิศทางปรากฏให้เห็นอีกครั้ง

เหมือนกับตอนจิ้นหลิง

 

ยินอธิบายให้ฟังว่าหากใครภารกิจล้มเหลว

ข้อมูลของเป้าหมายที่ยังรอดจะถูกส่งไปยังนักฆ่าที่ยังรอดด้วย

กลับกันหากภารกิจสำเร็จ

ลูกแก้วที่จับพลังชีวิตของเป้าหมายไม่ได้แล้ว

ก็จะแจ้งให้นักฆ่าคนอื่นทราบเช่นกัน

ยินจึงรู้ว่าฉันน่าจะทำภารกิจเสร็จแล้ว

 

“ค่ะเข้าใจแล้ว”

 

กล่าวจบยินก็หยุดการติดต่อผ่านเทเลพาธีไป

ฉันค้นหาพลังปราณของจิ้นหลิงอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ใด จนพระอาทิตย์เริ่มขึ้น

ก็ยังไม่มีสัญญาณแต่อย่างใดว่าร่างกายนี้เป็นของปลอม

ประกอบกับที่ลูกแก้วระบุว่าเป้าหมายถูกกำจัดแล้ว

ฉันจึงแน่ใจได้ว่า ทั้งหมดไม่ใช่เป็นภาพลวงตาของจิ้นหลิง

 

...

 

เป้าหมายต่อไปดูเหมือนจะห่างจากนี้อยู่ค่อนข้างไกล

ก่อนอื่นคงต้องพักฟื้นร่างกายซักระยะล่ะนะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา