เหตุใดถึงรักเธอ
3.3
เขียนโดย lambor
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.54 น.
10 chapter
4 วิจารณ์
14.04K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 21.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ตอนที่1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ปังๆๆๆ "เปิดประตู เนบิวมึงได้ยินที่กูพูดมั้ย"
"กูไม่เห็นจะได้ยินเลย แล้วก็ไม่เปิดด้วย เข้าใจป่ะ"
"เดี๋ยวนี้มึงกล้าขึ้นกูขึ้นมึง กะกูแล้วหรอปากดีนักนะ"
"ก็หมาตัวไหนมันเริ่มก่อนล่ะ มึงไม่ใช่รึไง มึงพูดกับกูยังไงกูก็พูดกับมึงแบบนั้นล่ะ"
ผมชื่อเนบิวลาปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดคำหยาบกับใครนอกจากเพื่อน แต่สำหรับไอคนที่กำลังทุบประตูอย่างบ้าคลั่งอันนี้กรณีพิเศษ ก็พี่ริเคียวมันชอบพูดกูมึงกับผม ก็คงไม่จำเป็นที่ผมต้องพูดดีด้วย สำหรับผมแล้วใครดีมาก็ดีตอบถ้าร้ายมาผมก็ร้ายตอบกลับไป
"เนบิว มึงอย่าให้กูหมดความอดทน มึงรู้ใช่มั้ยว่าถ้ากูโมโห แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น"
พี่ริเคียวคงเริ่มจะหมดความอดทนกับผมแล้วนะสิ รู้สิครับถ้าพี่ริเคียวโมโหข้าวของเป็นอันเสียงหายตลอด ก็พี่มันเล่นทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่มันก็ไม่เคยทำร้ายผมเลยสักครั้งเดียว
"เอ่อๆ เปิดก็เปิด แต่มีข้อแม้ คืนนี้พี่ห้ามทำอะไรผมเด็ดขาด เพราะผมมีเรียนเช้าพี่ก็ด้วย โอเคมั้ย"
ที่ผมปิดประตูล็อกกลอนใส่พี่มันก็เพราะพี่มันจะจับผมกดนี่ล่ะครับ ถึงแม้เราจะเป็นแฟนกันแต่ผมก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เงียบครับไม่มีเสียงตอบรับ ผมจึงค่อยๆเปิดประตูออกไป กลัวพี่มันจะทำลายข้าวของเสียงหายอีกแล้วก็เป็นภาระผมค่อยเก็บกวาดและทำแผลให้ อาละอาดทีไรพี่มันเจ็บตัวทุกที
"หึหึ มึงพลาดแล้วล่ะเนบิววว" รอยยิ้มที่น่าสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพี่ริเคียว
"อ๊ากกก ไอพี่ริเคียว ปล่อยผมนะพรุ่งนี้ผมมีเรียน ผมบอกให้ปล่อยไง"
ผมเริ่มโวยวายเสียงดังไอพี่ริเคียวมันจับผมแล้วอุ้มผมเข้าไปในห้องนอนแถมมันยังเหวี่ยงลงบนเตียงจนผมจุกเพราะพี่มันเล่นเหวี่ยงซะแรงเลยมันไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบมาครอมร่างของผมไว้ ถึงแม้ผมจะเป็นผู้ชายเหมือนพี่มันแต่ตัวผมเล็กกว่า จึงไม่สามารถที่จะสู้กับแรงควายของพี่มันได้ ผมสูง173 ส่วนพี่มันสูงตั้ง 190 คนอะไรสูงอย่างกะเปรตแถมแรงควายอีกต่างหาก
"พี่ริเคียว ปล่อยผม" ผมพูดด้วยเสียงนิ่งๆขณะที่พี่มันกำลังไซร้ซอกคอขาวเนียนของผมอยู่
"หืมม เรียกทำไมครับ" หึไม่ต้องมาครับกูกำลังโกรธนะ แล้วคนที่เดือดร้อนจะเป็นมึงแล้วล่ะไอพี่ริเคียว
"ผมกำลังจะโกรธใน 5 4 3 หือ.." ยังพูดไม่ทันจบพี่มันก็ประกอบปากลงมาเพื่อไม่ให้ผมได้พูดต่อ ผมนอนนิ่งโดยไม่ขยับแม้แต่นิดเดียวเพื่อเป็นการต่อต้านซึ่งก็ได้ผล พี่มันอยู่การกระทำทั้งหมด แล้วเงยหน้ามองผม
"ขอโทษ นอนเถอะไว้พุ่งนี้ก็ได้เนอะ ฝันดีนะครับเมีย" พี่มันจุ๊บปากผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้ พี่มันรู้ว่าถ้าผมโกรธมันต้องโดนผมอาละวาดแล้วจบลงด้วยการที่พี่มันต้องออกไปนอนที่โซฟานอกห้องนอน
แสงแดดในตอนเช้าสอดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ทำให้ผมต้องตื่นอย่างช่วยไม่ได้ผมเริ่มขยับตัวยุกยิกจนคนที่นอนกอดผมตลอดคืนตื่น
"เนบิว จุ๊บปากหน่อย" พี่ริวเคียวพูดขึ้นแล้วยื่นปากมาหาผมทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา
"ไม่ เหม็นเน่าคนไม่ได้แปลงฟัน" ผมส่งสายตาทำเหมือนว่ารังเกียจใส่พี่มัน
"นะๆๆๆ จุ๊บหน่อย มอนิ่งคริสไง" ก่อนที่ผมจะอ้าปากปฎิเสธพี่มันก็รีบประกบปากจูบผมทันที ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมมือของพี่มันเริ่มอยู่ไม่นิ่งลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวของผม จนผมต้องพลักพี่มันออก
"เยอะไปล่ะ อาบน้ำแล้วไปเรียนกันเถอะครับ" ผมรีบพูดก่อนที่วันนี้จะไปไม่ไปเรียน
หลังจากที่เราแยกย้ายกันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาทานอาหารเช้าพร้อมกันโดยที่พี่ริเคียวเป็นคนทำอาหารเช้า
"หอมจังเลยครับ ใช่ไข่เจียวของโปรดผมรึป่าวนะ" พี่ริเคียวรู้ว่าผมชอบทานข้าวไข่เจียวมากที่สุดจึงไม่แปลกที่ทุกเช้าพี่มันต้องทำให้ผมทาน
"ไม่รู้สิ เดินมาดูใกล้ๆเอง" พี่มันพูดพร้อมกับทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม หึ ผมไม่หลงกลพี่หรอก
"พี่ริเคียว เย็นนี้พี่ว่างมั้ย" ขณะที่กำลังกินข้าวผมก็ถามขึ้น
"ก็ไปดูแลผับเหมือนเดิมอ่ะ เนบิวมีอะไรรึป่าว" พี่ริเคียวมองหน้าผมด้วยความสงสัย เพราะผมก็รู้อยู่แล้วว่าทุกเย็นพี่ริเคียวต้องไปดูแลที่ผับที่พี่มันเป็นเจ้าของอยู่
"เย็นนี้พาผมไปสุสานได้มั้ยครับ ผมคิดถึงพ่อแม่แล้วก็พี่เมอร์มิวด้วย" ผมพูดด้วยเสียงอ่อยๆเพราะนึกถึงครอบครัวของตัวเองทีไรบ่อน้ำตาจะแตกทุกทีครอบครัวของผมประสบอุบติเหตุรถพลิกคว่ำเมื่อสองปีที่แล้วพ่อแม่และพี่เมอร์มิวด้าต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่พ่อแม่และพี่ชายของผมเสีย พี่ริเคียวก็เป็นคนดูแลผมมาโดยตลอด ส่วนธุระกิจของครอบครัวก็โดนยึดอำนาจโดยอาของผมน้องชายแท้ๆของพ่อ จนทำให้ตอนนี้ผมแทบไม่เหลืออะไร ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผมถูกโกงไปเป็นชื่อของลูกชายของอาทั้งหมด
ผมกับพี่ริเคียวเราคบกันมาได้สามปีแล้วล่ะครับ จึงไม่แปลกที่พี่มันรับดูแลชีวิตของผมพ่อแม่ของผมแล้วพี่ริเคียวต่างก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับความรักของเราทั้งสองคนจึงทำให้ไม่มีปัญหาอะไร ผมกับพี่ริเคียวเราแยกออกมาอยู่คอนโด ก็บ้านพี่แกกะมหาลัยห่างไกลกันโคตรอยู่คอนโดจึงสะดวกแก่การเดินทางมากกว่า
"ตั้งใจเรียนล่ะเด็กดื้อ หกโมงเย็นเจอกันนะ แล้วพี่จะรีบมารับ" พี่ริวเคียวหันมาบอกผมพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยให้
"ครับ พี่ก็ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าไปแอบเหล่สาวที่ไหนนะ ผมรู้พี่ตายแน่" ผมหอมแก้มพี่มันก่อนจะรีบลงรถ เพราะนี่ก็จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วด้วย
ขณะที่ผมกำลังเดินไปยังตึกเรียนผมก็เจอหน้ากับใครบางคนทีผมไม่อยากจะเจอมากที่สุดเพราะผมเกลียดมัน
"ไงเนบิวดา สบายดีมั้ย" ไอเนปจูนทักทายผม มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกะผมเองซึ่งมันแก่กว่าผมถึงสามปีแล้วมันก็คือลูกชายคนเดียวของอาผมคนที่แย่งทุกอย่างไปจากผม
"มึงมีอะไรไอเนปจูนแล้วหลีกทางให้กูด้วย กูจะไปเรียน" ผมพูดกับมันพร้อมกอดอกมองหน้าคนที่ตัวใหญ่กว่าโดยที่ไม่เกรงกลัว
"มึงจะพูดกับลูกพี่ลูกน้องดีๆหน่อยไม่ได้รึไง นี่เราเป็นญาติกันนะ"
มันพูดพร้อมกับยิ้มกวนส้นตีนที่มุมปากอย่างที่มันชอบทำบ่อยๆเวลาที่มันคิดว่าเหนือกว่าคนอื่น แต่สำหรับผม ไม่มีความจำเป็นเลยที่ผมต้องกลัวคนแบบมัน
"ทำไมกูต้องพูดดีๆกับคนแบบมึงด้วย หลบไปได้แล้วถ้ามึงไม่อยากให้รถสุดที่รักของมึงพังแบบคราวที่แล้ว" เมื่อครั้งก่อนที่มันกวนตีนผม ด้วยความโมโหผมกับเพื่อนๆจึงพากันไปทุบรถที่มันรักซะแทบไม่เหลือชิ้นดี ช่วยไม่ได้อยากมาทำให้ท่านเนบิวดาโกรธเอง
"ฝากไว้ก่อนเถอะไอเนบิว แล้วกูจะเอาคืนให้สาสมกับที่มึงทำกับกู" แล้วมันก็ยอมหลีกทางให้กับผม
"กูไม่เห็นจะได้ยินเลย แล้วก็ไม่เปิดด้วย เข้าใจป่ะ"
"เดี๋ยวนี้มึงกล้าขึ้นกูขึ้นมึง กะกูแล้วหรอปากดีนักนะ"
"ก็หมาตัวไหนมันเริ่มก่อนล่ะ มึงไม่ใช่รึไง มึงพูดกับกูยังไงกูก็พูดกับมึงแบบนั้นล่ะ"
ผมชื่อเนบิวลาปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดคำหยาบกับใครนอกจากเพื่อน แต่สำหรับไอคนที่กำลังทุบประตูอย่างบ้าคลั่งอันนี้กรณีพิเศษ ก็พี่ริเคียวมันชอบพูดกูมึงกับผม ก็คงไม่จำเป็นที่ผมต้องพูดดีด้วย สำหรับผมแล้วใครดีมาก็ดีตอบถ้าร้ายมาผมก็ร้ายตอบกลับไป
"เนบิว มึงอย่าให้กูหมดความอดทน มึงรู้ใช่มั้ยว่าถ้ากูโมโห แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น"
พี่ริเคียวคงเริ่มจะหมดความอดทนกับผมแล้วนะสิ รู้สิครับถ้าพี่ริเคียวโมโหข้าวของเป็นอันเสียงหายตลอด ก็พี่มันเล่นทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่มันก็ไม่เคยทำร้ายผมเลยสักครั้งเดียว
"เอ่อๆ เปิดก็เปิด แต่มีข้อแม้ คืนนี้พี่ห้ามทำอะไรผมเด็ดขาด เพราะผมมีเรียนเช้าพี่ก็ด้วย โอเคมั้ย"
ที่ผมปิดประตูล็อกกลอนใส่พี่มันก็เพราะพี่มันจะจับผมกดนี่ล่ะครับ ถึงแม้เราจะเป็นแฟนกันแต่ผมก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เงียบครับไม่มีเสียงตอบรับ ผมจึงค่อยๆเปิดประตูออกไป กลัวพี่มันจะทำลายข้าวของเสียงหายอีกแล้วก็เป็นภาระผมค่อยเก็บกวาดและทำแผลให้ อาละอาดทีไรพี่มันเจ็บตัวทุกที
"หึหึ มึงพลาดแล้วล่ะเนบิววว" รอยยิ้มที่น่าสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพี่ริเคียว
"อ๊ากกก ไอพี่ริเคียว ปล่อยผมนะพรุ่งนี้ผมมีเรียน ผมบอกให้ปล่อยไง"
ผมเริ่มโวยวายเสียงดังไอพี่ริเคียวมันจับผมแล้วอุ้มผมเข้าไปในห้องนอนแถมมันยังเหวี่ยงลงบนเตียงจนผมจุกเพราะพี่มันเล่นเหวี่ยงซะแรงเลยมันไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบมาครอมร่างของผมไว้ ถึงแม้ผมจะเป็นผู้ชายเหมือนพี่มันแต่ตัวผมเล็กกว่า จึงไม่สามารถที่จะสู้กับแรงควายของพี่มันได้ ผมสูง173 ส่วนพี่มันสูงตั้ง 190 คนอะไรสูงอย่างกะเปรตแถมแรงควายอีกต่างหาก
"พี่ริเคียว ปล่อยผม" ผมพูดด้วยเสียงนิ่งๆขณะที่พี่มันกำลังไซร้ซอกคอขาวเนียนของผมอยู่
"หืมม เรียกทำไมครับ" หึไม่ต้องมาครับกูกำลังโกรธนะ แล้วคนที่เดือดร้อนจะเป็นมึงแล้วล่ะไอพี่ริเคียว
"ผมกำลังจะโกรธใน 5 4 3 หือ.." ยังพูดไม่ทันจบพี่มันก็ประกอบปากลงมาเพื่อไม่ให้ผมได้พูดต่อ ผมนอนนิ่งโดยไม่ขยับแม้แต่นิดเดียวเพื่อเป็นการต่อต้านซึ่งก็ได้ผล พี่มันอยู่การกระทำทั้งหมด แล้วเงยหน้ามองผม
"ขอโทษ นอนเถอะไว้พุ่งนี้ก็ได้เนอะ ฝันดีนะครับเมีย" พี่มันจุ๊บปากผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอดไว้ พี่มันรู้ว่าถ้าผมโกรธมันต้องโดนผมอาละวาดแล้วจบลงด้วยการที่พี่มันต้องออกไปนอนที่โซฟานอกห้องนอน
แสงแดดในตอนเช้าสอดส่องเข้ามาภายในห้องนอน ทำให้ผมต้องตื่นอย่างช่วยไม่ได้ผมเริ่มขยับตัวยุกยิกจนคนที่นอนกอดผมตลอดคืนตื่น
"เนบิว จุ๊บปากหน่อย" พี่ริวเคียวพูดขึ้นแล้วยื่นปากมาหาผมทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา
"ไม่ เหม็นเน่าคนไม่ได้แปลงฟัน" ผมส่งสายตาทำเหมือนว่ารังเกียจใส่พี่มัน
"นะๆๆๆ จุ๊บหน่อย มอนิ่งคริสไง" ก่อนที่ผมจะอ้าปากปฎิเสธพี่มันก็รีบประกบปากจูบผมทันที ลิ้นร้อนๆแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมมือของพี่มันเริ่มอยู่ไม่นิ่งลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวของผม จนผมต้องพลักพี่มันออก
"เยอะไปล่ะ อาบน้ำแล้วไปเรียนกันเถอะครับ" ผมรีบพูดก่อนที่วันนี้จะไปไม่ไปเรียน
หลังจากที่เราแยกย้ายกันอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาทานอาหารเช้าพร้อมกันโดยที่พี่ริเคียวเป็นคนทำอาหารเช้า
"หอมจังเลยครับ ใช่ไข่เจียวของโปรดผมรึป่าวนะ" พี่ริเคียวรู้ว่าผมชอบทานข้าวไข่เจียวมากที่สุดจึงไม่แปลกที่ทุกเช้าพี่มันต้องทำให้ผมทาน
"ไม่รู้สิ เดินมาดูใกล้ๆเอง" พี่มันพูดพร้อมกับทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผม หึ ผมไม่หลงกลพี่หรอก
"พี่ริเคียว เย็นนี้พี่ว่างมั้ย" ขณะที่กำลังกินข้าวผมก็ถามขึ้น
"ก็ไปดูแลผับเหมือนเดิมอ่ะ เนบิวมีอะไรรึป่าว" พี่ริเคียวมองหน้าผมด้วยความสงสัย เพราะผมก็รู้อยู่แล้วว่าทุกเย็นพี่ริเคียวต้องไปดูแลที่ผับที่พี่มันเป็นเจ้าของอยู่
"เย็นนี้พาผมไปสุสานได้มั้ยครับ ผมคิดถึงพ่อแม่แล้วก็พี่เมอร์มิวด้วย" ผมพูดด้วยเสียงอ่อยๆเพราะนึกถึงครอบครัวของตัวเองทีไรบ่อน้ำตาจะแตกทุกทีครอบครัวของผมประสบอุบติเหตุรถพลิกคว่ำเมื่อสองปีที่แล้วพ่อแม่และพี่เมอร์มิวด้าต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่วันที่พ่อแม่และพี่ชายของผมเสีย พี่ริเคียวก็เป็นคนดูแลผมมาโดยตลอด ส่วนธุระกิจของครอบครัวก็โดนยึดอำนาจโดยอาของผมน้องชายแท้ๆของพ่อ จนทำให้ตอนนี้ผมแทบไม่เหลืออะไร ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผมถูกโกงไปเป็นชื่อของลูกชายของอาทั้งหมด
ผมกับพี่ริเคียวเราคบกันมาได้สามปีแล้วล่ะครับ จึงไม่แปลกที่พี่มันรับดูแลชีวิตของผมพ่อแม่ของผมแล้วพี่ริเคียวต่างก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับความรักของเราทั้งสองคนจึงทำให้ไม่มีปัญหาอะไร ผมกับพี่ริเคียวเราแยกออกมาอยู่คอนโด ก็บ้านพี่แกกะมหาลัยห่างไกลกันโคตรอยู่คอนโดจึงสะดวกแก่การเดินทางมากกว่า
"ตั้งใจเรียนล่ะเด็กดื้อ หกโมงเย็นเจอกันนะ แล้วพี่จะรีบมารับ" พี่ริวเคียวหันมาบอกผมพร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัยให้
"ครับ พี่ก็ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าไปแอบเหล่สาวที่ไหนนะ ผมรู้พี่ตายแน่" ผมหอมแก้มพี่มันก่อนจะรีบลงรถ เพราะนี่ก็จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วด้วย
ขณะที่ผมกำลังเดินไปยังตึกเรียนผมก็เจอหน้ากับใครบางคนทีผมไม่อยากจะเจอมากที่สุดเพราะผมเกลียดมัน
"ไงเนบิวดา สบายดีมั้ย" ไอเนปจูนทักทายผม มันเป็นลูกพี่ลูกน้องกะผมเองซึ่งมันแก่กว่าผมถึงสามปีแล้วมันก็คือลูกชายคนเดียวของอาผมคนที่แย่งทุกอย่างไปจากผม
"มึงมีอะไรไอเนปจูนแล้วหลีกทางให้กูด้วย กูจะไปเรียน" ผมพูดกับมันพร้อมกอดอกมองหน้าคนที่ตัวใหญ่กว่าโดยที่ไม่เกรงกลัว
"มึงจะพูดกับลูกพี่ลูกน้องดีๆหน่อยไม่ได้รึไง นี่เราเป็นญาติกันนะ"
มันพูดพร้อมกับยิ้มกวนส้นตีนที่มุมปากอย่างที่มันชอบทำบ่อยๆเวลาที่มันคิดว่าเหนือกว่าคนอื่น แต่สำหรับผม ไม่มีความจำเป็นเลยที่ผมต้องกลัวคนแบบมัน
"ทำไมกูต้องพูดดีๆกับคนแบบมึงด้วย หลบไปได้แล้วถ้ามึงไม่อยากให้รถสุดที่รักของมึงพังแบบคราวที่แล้ว" เมื่อครั้งก่อนที่มันกวนตีนผม ด้วยความโมโหผมกับเพื่อนๆจึงพากันไปทุบรถที่มันรักซะแทบไม่เหลือชิ้นดี ช่วยไม่ได้อยากมาทำให้ท่านเนบิวดาโกรธเอง
"ฝากไว้ก่อนเถอะไอเนบิว แล้วกูจะเอาคืนให้สาสมกับที่มึงทำกับกู" แล้วมันก็ยอมหลีกทางให้กับผม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ