เพียง..เธอ
10.0
เขียนโดย PJJA
วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.02 น.
2 ตอน
1 วิจารณ์
5,040 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 17.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ บทนำ...
บรรยากาศภายในร้านอาหารริมน้ำชื่อดังยามเย็นในวันศุกร์ เป็นช่วงเวลาที่ร้านอัดแน่นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ซึ่งส่วนมากเต็มไปด้วยพนักงานระดับต่างๆที่ออกมาสังสรรค์หลังเลิกงานรวมถึง ‘ผู้บริหารหนุ่ม’ อย่าง ‘ตุลย์วิทย์’ ที่จับจองที่นั่งมุมหนึ่งภายในร้านพร้อมบรรดาเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเนื่องจากวันนี้เป็นวันนัดมาสังสรรค์กันภายในรอบปี
โต๊ะของตุลยวิทย์เป็นที่สนใจของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ เนื่องจากสมาชิกภายในโต๊ะเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าคมสันหล่อเหลาดูดีแตกต่างกันทั้งหมด 6 คนรวมทั้งตุลยวิทย์ นอกจากนั้นจุดที่บรรดาชายหนุ่ม6คนมานั่งรวมตัวกันเป็นที่สังเกตได้ง่ายจากบุคคลที่เดินเข้าออกร้าน ทำให้มีสายตาสนใจแวะเวียนมองมาอยู่บ่อยครั้ง แต่เหล่าชายหนุ่มทั้ง 5 คนต่างไม่ได้สนใจเนื่องจากกำลังพูดคุย ปรับทุกข์ ตามประสาเพื่อนเก่าที่นานๆทีกลับมารวมตัวกันครบกลุ่ม ยกเว้นตุลยวิทย์ที่เลือกนั่งมุมที่สามารถมองเห็นทางเข้าออกร้านจึงสามารถจับสังเกตเห็นสายตาบรรดาเหล่าสาวๆได้ตามประสานักช่างสังเกตของกลุ่ม สายตาคมกริบแวะเวียนมองทางเข้าออกบ่อยครั้งเมื่อเห็นบุคคลเดินเข้ามาใหม่หรือเดินออกจากร้านอาหาร
จนสะดุดตากับ… หญิงสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาใหม่ นอกจากความสวยที่โดดเด่นดึงดูดใจให้เขามองอย่างสนใจ เธอยังดูแตกต่างจากบุคคลที่เขาสังเกตเห็นมาตลอดครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเพราะหญิงสาวผู้นั้นมองเลยกลุ่มของพวกเขาไปและไม่มีหันกลับมาเหลียวหลังมองอีกครั้งเหมือนหญิงสาวคนอื่นทั่วไปที่มีหันกลับมาเมียงมองด้วยความสนใจ สายตาคมจับจ้องอยู่บนใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้แสดงออกชัดถึงความหงุดหงิด ตากลมโตที่ไม่มีเหลือบมองมาทางที่เขานั่งอยู่กำลังกวาดตามองไปทั่วร้าน จมูกโด่งรั้นเชิดนิดๆ ปากเรียวเล็กแต่อวบอิ่มกำลังขมุบขมิบเหมือนบ่นคนที่ทำให้เธอยืนรอหงุดหงิดอยู่หน้าร้าน หญิงสาวที่ตกอยู่ในความสนใจของประธานหนุ่มยังไม่รู้สึกตัว สายตาคมกริบจึงมีโอกาสได้สำรวจร่างบางที่ขณะนี้ยืนคุยโทรศัพท์บริเวณทางเข้าร้าน ร่างบางอยู่ในชุดเดรสสีดำเรียบหรูที่ขับให้ผิวขาวเนียนนั้นผุดผาดน่ามอง ร่างบางมีน้ำมีนวลไม่ผอมแห้งอย่างสมัยนิยมสังเกตเห็นได้จากความอวบอิ่มสมวัย เอวคอดกิ่ว รวมถึงปลีน่องเรียวสวยที่โผล่พ้นชุดกระโปรงออกมาให้เห็น ตุลยวิทย์กวาดสายตามองอย่างเผลอไผลแล้วจึงวกกลับไปมองใบหน้าสวยที่ตรึงความสนใจเขาตั้งแต่แรกเห็น
…ตาสบตา… ตุลยวิทย์ รับรู้ถึงอาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจตนเอง แต่เขายังสามารถวางสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์มองกลับไปยังสาวคนที่เขาแอบมองตอนนี้ สาวเจ้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มรู้สึกเก้อเขิน ปกติเขาเป็นคนสุภาพ ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนด้วยความจาบจ้วงมาก่อน แต่กลับเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างที่สะกดให้เขา จ้องเอา จ้องเอา และก็ ‘จ้องเอา’ สายตาจากร่างบางที่จ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องกลับทำให้เขารู้สึกพอใจอยู่ลึกๆที่เธอนั้นสนใจเขา เห็นเขาอยู่ในสายตาอย่างที่เขามองเห็นเธออยู่ในสายตาตั้งแต่ที่เธอเดินข้าร้านมา ใบหน้าสวยหวานตอนนี้บูดบึ้ง สีหน้าท่าทางเอาเรื่อง กลับเร้าอารมณ์บางอย่างทำให้คนมองอย่างเขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมท่าทีให้เป็นปกติอย่างที่เคยทำ จึงรีบผละสายตาออกจากสายตาดุที่ทำให้เขาใจสั่นแปลกๆ กลับไปพูดคุยและฟังเพื่อนในกลุ่ม หลังจากถูกสาวจับได้ว่าแอบมองไป ‘ทั้งเนื้อ ทั้งตัว’
แต่เนื่องจากที่นั่งอยู่มุมดี ถึงแม้จะไม่จับจ้องแต่เธอก็ยังอยู่ในระยะที่หางตาเขาสามารถเห็นได้ ตุลยวิทย์ สามารถมองเห็นทุกกิริยาท่าทางที่เธอแสดงออกชัดว่าไม่พอใจเขา จนกระทั่งมีหญิงสาวร่างเล็กผู้หนึ่งเดินเข้ามาใหม่ มาเกาะแขนสาวที่จับจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้สายตาหวานดุละจากไปเพื่อเหลือบมองคนข้างตัว ซึ่งสาวร่างเล็กที่เข้ามาใหม่รีบจับจูงมือของสาวใบหน้าสวยง้ำเดินตามบริกรไปยังโต๊ะที่จับจองไว้ ซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่งด้านตรงข้ามโต๊ะของตุลยวิทย์ ทำให้ชายหนุ่มไม่มีสมาธิในการฟังหรือพูดคุยกับเพื่อนเท่าที่ควร เนื่องจากสายตาคมเหลือบแลมองไปยังแผ่นหลังบอบบางแต่เหยียดตรงอย่างคนมั่นใจของสาวตาดุที่เขาสนใจอยู่บ่อยครั้ง
“ฟ้า แกเห็นกลุ่มผู้ชาย 6 คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะเราเปล่า? ” รินลดาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลังจากที่บริกรรับเมนูแล้วเดินจากไป ..ผู้ชายอะไร หน้าตา ท่าทางดูดี แต่กลับนิสัยโรคจิต มองผู้หญิงด้วยสายตาหื่นกามอย่างกับพวกป๋า ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษซะเลย
“เห็นๆ หล่อมากเลย แกสนใจหรอ” มิรินเพื่อนสาวร่างเล็ก พูดอย่างเย้าแหย่พลางหันกลับไปมองโต๊ะดังกล่าวอย่างเพ่งพินิจแล้วตาโต “ริน โต๊ะนั้นคนที่นั่งอยู่นั่น ‘คุณตุลยวิทย์’ ประธานบริษัท T&J หนิ คุณตุลย์นี่เขาติดอันดับหนุ่มหล่อ 1 ใน 5 ของชายโสดที่ผู้หญิงอยากแต่งงานด้วยเลยนะ ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก” มิรินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“คุณตุลย์ของแกนี่นั่งตรงไหน” ..หวังว่าไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่งั้นสาวทั้งประเทศคงบ้าคลั่งหรือตกเป็นเหยื่อของพวกโรคจิต ที่เปลือกนอกดูดีแต่แท้ที่จริงเนื้อในไม่ได้ดูสุภาพเหมือนกับเปลือกนอก
“คนที่นั่งตรงกลางหันหน้ามาทางเรา ดูดีมากๆจริงนะ เพื่อนเขาก็หล่อ หล่อทั้งกลุ่ม อาหารตามากอ่ะแก” มิรินพูดอย่างเพ้อฝัน แต่สังเกตเห็นถึงสายตาของตุลยวิทย์ ที่มองมาทางเพื่อนของเธอ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอหันไปมอง “ริน แกรู้จักคุณตุลย์เหรอ ฉันเห็นเขามองมาทางแกบ่อยนะ”
“ไอ้โรคจิต! นั่นยังมองมาอีกหรอ” รินลดาพูดอย่างหงุดหงิดพร้อมหันหลังกลับไปมอง ‘ไอ้โรคจิต’ ที่กำลังหัวเราะกับเพื่อนในกลุ่มอย่างเริงร่า เลยหันหน้ากลับมาทางเดิมแล้วก่นด่าอย่างแค้นใจ
“ ห๊า! ไอ้โรคจิต นี่แกหมายถึงคุณตุลย์เหร๊อ?” มิรินพูดเสียงดัง สีหน้าแสดงออกถึงความตกใจ
“ถ้าคุณตุลย์ของแกเป็นคนที่นั่งตรงกลางหันหน้ามาทางพวกเรา ใส่เสื้อสีขาว เซ็ทผม นั่งข้างๆคนใส่แว่น ก็คือ ‘ไอ้โรคจิต’ อย่างแน่นอน”
“เกิดอะไรขึ้น คุณตุลย์เขาทำไรแก แกถึงไปเรียกเขาว่า ‘ไอ้โรคจิต’?”
“ฟ้า ฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มองรูปร่างผู้หญิงอย่างหื่นจาบจ้วงแบบนี้มาก่อน เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยเฉพาะ” ไม่พูดต่อแต่ชี้ไปบริเวณแถวหน้าอก “แล้วแกไม่คิดว่าฉันจะไม่คิดว่าเขาเป็นคนโรคจิต เหรอฮะ?” รินลดาเล่าไปหน้าแดงไป นึกถึงความรู้สึกที่ถูกสายตาคมกริบกวาดมองเธอ ‘ทุกส่วน’ โดยเฉพาะ ‘ตรงนั้น’
“ก็ ‘ตรงนั้น’ ของแกมันน่ามองหนิ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงฉันยังมอง ‘ตรงนั้น’ ของแกเลย แกหน้าตาสะสวยแถมหุ่นยังดีอีก ผู้ชายที่ไหนเขาก็มอง” มิริน พูดพลางเหล่มอง ‘ตรงนั้น’ ของเพื่อนสาวด้วยสายตาหื่น รินลดาจึงถลึงตาใส่กลับทำให้มิรินหัวเราะออกมา
“แต่เขาก็ควรมีมารยาทนะ จ้องซะขนาดนั้น ฉันไม่เคยเจอผู้ชายหื่นแบบออกนอกหน้าขนาดนั้นมาก่อนเลยจริงๆ นี่ยังมองอยู่ด้วยอีก คุณตุลย์แกนี่โรคจิตชัดๆ”
“ใจเย็นๆ ฉันไม่เคยเห็นคุณตุลย์ เขามีข่าวกับสาวคนไหนลงหนังสือพิมพ์เลยนะ แต่วงในเขาลือกันให้แซ่ดว่าเขาเป็น ‘เกย์’ ที่เขาหันมาจ้องหุ่นแกเพราะเขาอยาก มีนม มีตูดแบบแกเปล่า เลยมองเก็บรายละเอียดอยู่” มิรินพูดอย่างติดตลก
“ไงก็โรคจิตอยู่ดี” พูดอย่างหงุดหงิด พลางหันกลับไปมองต้นเหตุที่ทำให้เธอหงุดหงิด เห็นฝ่ายตรงข้ามรีบหลบสายตาพร้อมหันไปคุยกับเพื่อนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เธอยิ่งอยากจะเดินเข้าไปกรี๊ดใส่เขาด้วยความหงุดหงิด
“อย่าไปสนใจเลย ข่าววงในลือว่าเขาเป็นเกย์แน่นอน แกก็รู้ฉันเป็นนักข่าวนะ”
“แล้วแกก็ยังไปกรี๊ดอีกนะ”
“แหม ก็คุณตุลย์เขาหล่อจริงๆนี่แก ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่นะ เห็นก็ขอเป็นอาหารตาหน่อย” พูดพร้อมหันไปจ้องฝั่งตรงข้าม แต่ภาพที่มิรินเห็นกลับทำให้เบิกตาโตด้วยความตกใจ ทำให้รินลดาที่เห็นท่าทีของเพื่อนหันกลับไปมองด้วยความสนใจ เธอจึงเห็น ตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอหงุดหงิดตอนนี้กำลังเอากระดาษทิชชู่เช็ดอกของหนุ่มแว่นที่นั่งข้างๆ จากที่เช็ดหน้าอกยังไม่พอมือนั้นค่อยๆเช็ดไล่ต่ำลงไป รินลดาเห็นแล้วทนดูต่อไปไม่ได้รีบหันกลับมา
“เกย์ชัวร์ คุณตุลย์แก ที่สาธารณะยังไม่มีเว้น โรคจิตของแท้” รินลดา มั่นใจว่าที่เขามองหุ่นเธอเพราะอยากมีหุ่นเหมือนเธอชัวร์ๆ ทำให้ความหงุดหงิดคลายไปกลับกลายเป็นความสงสารเข้าแทน ..คนเราเลือกเกิดไม่ได้
“เฮ้อ เสียดาย ฉะนั้นแกเลิกเคืองคุณตุลย์ซะ ที่เขามองแกเพราะเขาอยากมีหุ่นเหมือนแกชัวร์”
“เชื่อๆ สงสารเขาเหมือนกันนะแต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เห็นแล้วขนลุกจริงๆ ฉันจะกินข้าวลงไหมเนี่ย” พูดพลางลูบแขน
“กินลงสิ นั่นอาหารมาแล้วของโปรดแกทั้งนั้น” หันหน้าไปพยักเพยิดทางบริกรที่นำอาหารมาเสิร์ฟ หลังจาก บริกรเสิร์ฟอาหารเสร็จ ทั้งสองสาวต่างก็กินอย่างไม่สนใจสายตาจากฝ่ายตรงข้ามอีก
…ถ้ารินลดามีตาหลัง เธอจะรับรู้ถึงสายตาคมกริบที่แวะเวียนมองอีกหลายครั้งอย่างมีจุดมุ่งหมาย จากความสงสารอาจกลายเป็นความหวาดกลัวต่อแววตาที่มองอย่างสัตว์ใหญ่ที่จ้องจะเขมือบ สัตว์เล็กที่อ่อนแอกว่า
บรรยากาศภายในร้านอาหารริมน้ำชื่อดังยามเย็นในวันศุกร์ เป็นช่วงเวลาที่ร้านอัดแน่นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย ซึ่งส่วนมากเต็มไปด้วยพนักงานระดับต่างๆที่ออกมาสังสรรค์หลังเลิกงานรวมถึง ‘ผู้บริหารหนุ่ม’ อย่าง ‘ตุลย์วิทย์’ ที่จับจองที่นั่งมุมหนึ่งภายในร้านพร้อมบรรดาเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเนื่องจากวันนี้เป็นวันนัดมาสังสรรค์กันภายในรอบปี
โต๊ะของตุลยวิทย์เป็นที่สนใจของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ เนื่องจากสมาชิกภายในโต๊ะเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าคมสันหล่อเหลาดูดีแตกต่างกันทั้งหมด 6 คนรวมทั้งตุลยวิทย์ นอกจากนั้นจุดที่บรรดาชายหนุ่ม6คนมานั่งรวมตัวกันเป็นที่สังเกตได้ง่ายจากบุคคลที่เดินเข้าออกร้าน ทำให้มีสายตาสนใจแวะเวียนมองมาอยู่บ่อยครั้ง แต่เหล่าชายหนุ่มทั้ง 5 คนต่างไม่ได้สนใจเนื่องจากกำลังพูดคุย ปรับทุกข์ ตามประสาเพื่อนเก่าที่นานๆทีกลับมารวมตัวกันครบกลุ่ม ยกเว้นตุลยวิทย์ที่เลือกนั่งมุมที่สามารถมองเห็นทางเข้าออกร้านจึงสามารถจับสังเกตเห็นสายตาบรรดาเหล่าสาวๆได้ตามประสานักช่างสังเกตของกลุ่ม สายตาคมกริบแวะเวียนมองทางเข้าออกบ่อยครั้งเมื่อเห็นบุคคลเดินเข้ามาใหม่หรือเดินออกจากร้านอาหาร
จนสะดุดตากับ… หญิงสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาใหม่ นอกจากความสวยที่โดดเด่นดึงดูดใจให้เขามองอย่างสนใจ เธอยังดูแตกต่างจากบุคคลที่เขาสังเกตเห็นมาตลอดครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเพราะหญิงสาวผู้นั้นมองเลยกลุ่มของพวกเขาไปและไม่มีหันกลับมาเหลียวหลังมองอีกครั้งเหมือนหญิงสาวคนอื่นทั่วไปที่มีหันกลับมาเมียงมองด้วยความสนใจ สายตาคมจับจ้องอยู่บนใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้แสดงออกชัดถึงความหงุดหงิด ตากลมโตที่ไม่มีเหลือบมองมาทางที่เขานั่งอยู่กำลังกวาดตามองไปทั่วร้าน จมูกโด่งรั้นเชิดนิดๆ ปากเรียวเล็กแต่อวบอิ่มกำลังขมุบขมิบเหมือนบ่นคนที่ทำให้เธอยืนรอหงุดหงิดอยู่หน้าร้าน หญิงสาวที่ตกอยู่ในความสนใจของประธานหนุ่มยังไม่รู้สึกตัว สายตาคมกริบจึงมีโอกาสได้สำรวจร่างบางที่ขณะนี้ยืนคุยโทรศัพท์บริเวณทางเข้าร้าน ร่างบางอยู่ในชุดเดรสสีดำเรียบหรูที่ขับให้ผิวขาวเนียนนั้นผุดผาดน่ามอง ร่างบางมีน้ำมีนวลไม่ผอมแห้งอย่างสมัยนิยมสังเกตเห็นได้จากความอวบอิ่มสมวัย เอวคอดกิ่ว รวมถึงปลีน่องเรียวสวยที่โผล่พ้นชุดกระโปรงออกมาให้เห็น ตุลยวิทย์กวาดสายตามองอย่างเผลอไผลแล้วจึงวกกลับไปมองใบหน้าสวยที่ตรึงความสนใจเขาตั้งแต่แรกเห็น
…ตาสบตา… ตุลยวิทย์ รับรู้ถึงอาการเต้นผิดจังหวะของหัวใจตนเอง แต่เขายังสามารถวางสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์มองกลับไปยังสาวคนที่เขาแอบมองตอนนี้ สาวเจ้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มรู้สึกเก้อเขิน ปกติเขาเป็นคนสุภาพ ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนด้วยความจาบจ้วงมาก่อน แต่กลับเธอมีแรงดึงดูดบางอย่างที่สะกดให้เขา จ้องเอา จ้องเอา และก็ ‘จ้องเอา’ สายตาจากร่างบางที่จ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องกลับทำให้เขารู้สึกพอใจอยู่ลึกๆที่เธอนั้นสนใจเขา เห็นเขาอยู่ในสายตาอย่างที่เขามองเห็นเธออยู่ในสายตาตั้งแต่ที่เธอเดินข้าร้านมา ใบหน้าสวยหวานตอนนี้บูดบึ้ง สีหน้าท่าทางเอาเรื่อง กลับเร้าอารมณ์บางอย่างทำให้คนมองอย่างเขารู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมท่าทีให้เป็นปกติอย่างที่เคยทำ จึงรีบผละสายตาออกจากสายตาดุที่ทำให้เขาใจสั่นแปลกๆ กลับไปพูดคุยและฟังเพื่อนในกลุ่ม หลังจากถูกสาวจับได้ว่าแอบมองไป ‘ทั้งเนื้อ ทั้งตัว’
แต่เนื่องจากที่นั่งอยู่มุมดี ถึงแม้จะไม่จับจ้องแต่เธอก็ยังอยู่ในระยะที่หางตาเขาสามารถเห็นได้ ตุลยวิทย์ สามารถมองเห็นทุกกิริยาท่าทางที่เธอแสดงออกชัดว่าไม่พอใจเขา จนกระทั่งมีหญิงสาวร่างเล็กผู้หนึ่งเดินเข้ามาใหม่ มาเกาะแขนสาวที่จับจ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ ทำให้สายตาหวานดุละจากไปเพื่อเหลือบมองคนข้างตัว ซึ่งสาวร่างเล็กที่เข้ามาใหม่รีบจับจูงมือของสาวใบหน้าสวยง้ำเดินตามบริกรไปยังโต๊ะที่จับจองไว้ ซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่งด้านตรงข้ามโต๊ะของตุลยวิทย์ ทำให้ชายหนุ่มไม่มีสมาธิในการฟังหรือพูดคุยกับเพื่อนเท่าที่ควร เนื่องจากสายตาคมเหลือบแลมองไปยังแผ่นหลังบอบบางแต่เหยียดตรงอย่างคนมั่นใจของสาวตาดุที่เขาสนใจอยู่บ่อยครั้ง
“ฟ้า แกเห็นกลุ่มผู้ชาย 6 คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะเราเปล่า? ” รินลดาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลังจากที่บริกรรับเมนูแล้วเดินจากไป ..ผู้ชายอะไร หน้าตา ท่าทางดูดี แต่กลับนิสัยโรคจิต มองผู้หญิงด้วยสายตาหื่นกามอย่างกับพวกป๋า ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษซะเลย
“เห็นๆ หล่อมากเลย แกสนใจหรอ” มิรินเพื่อนสาวร่างเล็ก พูดอย่างเย้าแหย่พลางหันกลับไปมองโต๊ะดังกล่าวอย่างเพ่งพินิจแล้วตาโต “ริน โต๊ะนั้นคนที่นั่งอยู่นั่น ‘คุณตุลยวิทย์’ ประธานบริษัท T&J หนิ คุณตุลย์นี่เขาติดอันดับหนุ่มหล่อ 1 ใน 5 ของชายโสดที่ผู้หญิงอยากแต่งงานด้วยเลยนะ ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก” มิรินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“คุณตุลย์ของแกนี่นั่งตรงไหน” ..หวังว่าไม่ใช่คนเดียวกัน ไม่งั้นสาวทั้งประเทศคงบ้าคลั่งหรือตกเป็นเหยื่อของพวกโรคจิต ที่เปลือกนอกดูดีแต่แท้ที่จริงเนื้อในไม่ได้ดูสุภาพเหมือนกับเปลือกนอก
“คนที่นั่งตรงกลางหันหน้ามาทางเรา ดูดีมากๆจริงนะ เพื่อนเขาก็หล่อ หล่อทั้งกลุ่ม อาหารตามากอ่ะแก” มิรินพูดอย่างเพ้อฝัน แต่สังเกตเห็นถึงสายตาของตุลยวิทย์ ที่มองมาทางเพื่อนของเธอ นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอหันไปมอง “ริน แกรู้จักคุณตุลย์เหรอ ฉันเห็นเขามองมาทางแกบ่อยนะ”
“ไอ้โรคจิต! นั่นยังมองมาอีกหรอ” รินลดาพูดอย่างหงุดหงิดพร้อมหันหลังกลับไปมอง ‘ไอ้โรคจิต’ ที่กำลังหัวเราะกับเพื่อนในกลุ่มอย่างเริงร่า เลยหันหน้ากลับมาทางเดิมแล้วก่นด่าอย่างแค้นใจ
“ ห๊า! ไอ้โรคจิต นี่แกหมายถึงคุณตุลย์เหร๊อ?” มิรินพูดเสียงดัง สีหน้าแสดงออกถึงความตกใจ
“ถ้าคุณตุลย์ของแกเป็นคนที่นั่งตรงกลางหันหน้ามาทางพวกเรา ใส่เสื้อสีขาว เซ็ทผม นั่งข้างๆคนใส่แว่น ก็คือ ‘ไอ้โรคจิต’ อย่างแน่นอน”
“เกิดอะไรขึ้น คุณตุลย์เขาทำไรแก แกถึงไปเรียกเขาว่า ‘ไอ้โรคจิต’?”
“ฟ้า ฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มองรูปร่างผู้หญิงอย่างหื่นจาบจ้วงแบบนี้มาก่อน เขามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าโดยเฉพาะ” ไม่พูดต่อแต่ชี้ไปบริเวณแถวหน้าอก “แล้วแกไม่คิดว่าฉันจะไม่คิดว่าเขาเป็นคนโรคจิต เหรอฮะ?” รินลดาเล่าไปหน้าแดงไป นึกถึงความรู้สึกที่ถูกสายตาคมกริบกวาดมองเธอ ‘ทุกส่วน’ โดยเฉพาะ ‘ตรงนั้น’
“ก็ ‘ตรงนั้น’ ของแกมันน่ามองหนิ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงฉันยังมอง ‘ตรงนั้น’ ของแกเลย แกหน้าตาสะสวยแถมหุ่นยังดีอีก ผู้ชายที่ไหนเขาก็มอง” มิริน พูดพลางเหล่มอง ‘ตรงนั้น’ ของเพื่อนสาวด้วยสายตาหื่น รินลดาจึงถลึงตาใส่กลับทำให้มิรินหัวเราะออกมา
“แต่เขาก็ควรมีมารยาทนะ จ้องซะขนาดนั้น ฉันไม่เคยเจอผู้ชายหื่นแบบออกนอกหน้าขนาดนั้นมาก่อนเลยจริงๆ นี่ยังมองอยู่ด้วยอีก คุณตุลย์แกนี่โรคจิตชัดๆ”
“ใจเย็นๆ ฉันไม่เคยเห็นคุณตุลย์ เขามีข่าวกับสาวคนไหนลงหนังสือพิมพ์เลยนะ แต่วงในเขาลือกันให้แซ่ดว่าเขาเป็น ‘เกย์’ ที่เขาหันมาจ้องหุ่นแกเพราะเขาอยาก มีนม มีตูดแบบแกเปล่า เลยมองเก็บรายละเอียดอยู่” มิรินพูดอย่างติดตลก
“ไงก็โรคจิตอยู่ดี” พูดอย่างหงุดหงิด พลางหันกลับไปมองต้นเหตุที่ทำให้เธอหงุดหงิด เห็นฝ่ายตรงข้ามรีบหลบสายตาพร้อมหันไปคุยกับเพื่อนอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เธอยิ่งอยากจะเดินเข้าไปกรี๊ดใส่เขาด้วยความหงุดหงิด
“อย่าไปสนใจเลย ข่าววงในลือว่าเขาเป็นเกย์แน่นอน แกก็รู้ฉันเป็นนักข่าวนะ”
“แล้วแกก็ยังไปกรี๊ดอีกนะ”
“แหม ก็คุณตุลย์เขาหล่อจริงๆนี่แก ฉันก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่นะ เห็นก็ขอเป็นอาหารตาหน่อย” พูดพร้อมหันไปจ้องฝั่งตรงข้าม แต่ภาพที่มิรินเห็นกลับทำให้เบิกตาโตด้วยความตกใจ ทำให้รินลดาที่เห็นท่าทีของเพื่อนหันกลับไปมองด้วยความสนใจ เธอจึงเห็น ตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอหงุดหงิดตอนนี้กำลังเอากระดาษทิชชู่เช็ดอกของหนุ่มแว่นที่นั่งข้างๆ จากที่เช็ดหน้าอกยังไม่พอมือนั้นค่อยๆเช็ดไล่ต่ำลงไป รินลดาเห็นแล้วทนดูต่อไปไม่ได้รีบหันกลับมา
“เกย์ชัวร์ คุณตุลย์แก ที่สาธารณะยังไม่มีเว้น โรคจิตของแท้” รินลดา มั่นใจว่าที่เขามองหุ่นเธอเพราะอยากมีหุ่นเหมือนเธอชัวร์ๆ ทำให้ความหงุดหงิดคลายไปกลับกลายเป็นความสงสารเข้าแทน ..คนเราเลือกเกิดไม่ได้
“เฮ้อ เสียดาย ฉะนั้นแกเลิกเคืองคุณตุลย์ซะ ที่เขามองแกเพราะเขาอยากมีหุ่นเหมือนแกชัวร์”
“เชื่อๆ สงสารเขาเหมือนกันนะแต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เห็นแล้วขนลุกจริงๆ ฉันจะกินข้าวลงไหมเนี่ย” พูดพลางลูบแขน
“กินลงสิ นั่นอาหารมาแล้วของโปรดแกทั้งนั้น” หันหน้าไปพยักเพยิดทางบริกรที่นำอาหารมาเสิร์ฟ หลังจาก บริกรเสิร์ฟอาหารเสร็จ ทั้งสองสาวต่างก็กินอย่างไม่สนใจสายตาจากฝ่ายตรงข้ามอีก
…ถ้ารินลดามีตาหลัง เธอจะรับรู้ถึงสายตาคมกริบที่แวะเวียนมองอีกหลายครั้งอย่างมีจุดมุ่งหมาย จากความสงสารอาจกลายเป็นความหวาดกลัวต่อแววตาที่มองอย่างสัตว์ใหญ่ที่จ้องจะเขมือบ สัตว์เล็กที่อ่อนแอกว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ