P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
8.1
เขียนโดย Spy442299
วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.
46 chapter
28 วิจารณ์
49.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
40) อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความP.P. Rising: The Bullet Time
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
Ch.34 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]
Rewrite V.3
◊◊◊
[วันต่อมา]
[06:21] [07/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, โรงเรียนมัธยมปลายซิสเซล]
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมแฮะ”
พีทอดมองทางเดินยาวตรงหน้าประตูที่มีป้ายเขียนอยู่ว่า ‘โรงเรียนมัธยมปลายซิสเซล’ ไปยังตัวอาคารทั้งห้าแห่งในโรงเรียน สภาพโดยรวมแล้วเป็นโรงเรียนที่มีการวางแผนผังจัดการสิ่งแวดล้อมได้ดีเยี่ยม ก่อนที่จะหันมองทางขวามือตรงรั้วโรงเรียนที่มีต้นไม้ซากุระสามต้นใหญ่เรียงกัน ซึ่งกำลังออกดอกบลิบานทั้งต้น
‘สามปีกว่าแล้วสินะ...’
และแล้วพีนึกย้อนความหลังเก่าขึ้นมา เป็นภาพคนทั้งสามที่เดินเท้ามาโรงเรียนแห่งนี้ กำลังเดินผ่านใต้ต้นซากุระทั้งสาม
[สามปีก่อน]
“เฮๆ! ทอมมี่ เมื่อวานแกได้ดูเบสบอลชายคู่ชิงของโรงเรียนเราหรือเปล่า?”
เฟียน่าผมสีแดงยาวถึงเอวในชุดนักเรียนหญิงเขียวขาวของโรงเรียนมอปลายซิสเซล วิ่งถือไอศกรีมโคนเข้ามาข้างๆ ทอมมี่ที่เดินมาด้วยกันกับพีที่อยู่ชุดนักเรียนหญิงถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ตาม แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า ผิวพรรณดูเปล่งใส ท่าทางสำรวมเรียบร้อย ทำให้ไม่ค่อยมีใครดูออกว่าเป็นผู้ชาย
“เปล่านะครับ นอนหลับอยู่” ทอมมี่ว่า
“นอน!? ตอนทุ่มหนึ่งเนี่ยนะ!?” เฟียน่าทำเสียงสูง
“ก็ผมไปช่วยงานคนอื่นมานี่ครับ ไม่ได้ว่างเหมือนเธอสักหน่อย”
“แหม๋ๆ ดูไม่เป็นก็บอกมาตรงๆ เป็นผู้ชายประสาอะไรดูกีฬาเบสบอลไม่---”
“ดูเป็นเฟ้ย! ถึงจะ...นับแต้มไม่เป็นก็เหอะ” ทอมมี่สะบัดหน้าแล้วเถียง
“แถ่ดๆๆๆ นายนี่มันตัวแถชัดๆ ขนาดพียังดูเป็นเลยใช่ไหมละ?”
เฟียน่าโบ้ยไปทางพี เขาเลยว่าตามที่ดูมาเมื่อวาน
“โฮมรันของรุ่นพี่ยามาดะยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมใช่ไหมคะ? คุณเฟียน่า”
“ใช่ๆ ลูกนั่นสวยมากเลยล่ะ แต่ก็...ไม่ชนะอยู่ดี เซ็ง”
“ฮ่าๆ มีชนะก็ต้องมีแพ้บ้างสิค่ะ โรงเรียนเราครองแชมป์มาตลอดสิบปี สละสักครั้งจะเป็นอะไรไปค่ะ” พีว่า
“มันเสียศักดิ์ศรีไง ถ้าเป็นฉันล่ะนะจะตีโฮมรันให้ได้ทุกตาเลย”
เฟียน่าทำท่าตีโฮมรันจนทอมมี่หมั่นไส้เลยยุ
“งั้นเธอก็ไปสมัครชมรมเบสบอลเลยสิ”
“ชมรม...หว่า คงไม่ได้ล่ะ ฉันมีงานที่สถานีวิจัยที่บ้านนะ” เฟียน่าทำเสียงเซ็ง
“ไม่ใช่ว่าปอดแหก ไม่กล้ารับลูกเหรอครับ?”
ป๊าง!
สันมือของเฟียน่าฟาดเข้าที่บนศีรษะของทอมมี่อย่างแรง
“เฟียน่า!” ทอมมี่กุบหัว
“ใครว่าฉันปอดแหกย่ะ! นายต่างหากล่ะ ที่ไม่กล้าจีบผู้หญิง เลยมาติดพันอยู่กับพีอยู่เนี่ย!”
“ไม่เกี่ยวเฟ้ย! พีจังนะ เป็นที่ผมรักที่สุดต่างหากล่ะครับ แค่เอาใจผู้หญิง แปปๆ ก็ติดกันตรึมแล้ว”
“อย่าลากดิฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยสิค่ะ” พีว่าอย่างเรียบๆ
“อ้าวเหรอ? ไอ้ที่นายว่าติดตรึมนี่ โดนเท้าสาวๆ ไล่ถีบกันตรีมเลยใช่ไหมละ?” เฟียน่ากวน
“เฟียน่า! เธอก็เหมือนกันแหละ ห้าวจนไม่มีใครกล้าจีบ ขืนมีใครได้คนอย่างเธอไปล่ะก็ คงโดนไล่หวิดตายแน่ๆ”
“ว่าฉันเป็นสัตว์ร้ายหรอ!!”
“สัตว์ที่มีชื่อว่าแรดนะครับ ที่เอาหนอไล่หวิด---”
“ไอ้ทอมมี่!”
เฟียน่ายกมือจะชก แต่ทอมมี่เอามือจับไว้ ทั้งคู่ต่างกันออกแรงดันกันไปมา พีเห็นแบบนั้นแล้วเลยพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน
“อ่า...ทั้งสองคนใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
ตึ่ง ตึง ตึ้ง!
เสียงระฆังของโรงเรียนดังขึ้น ทำให้คู่ที่กำลังทะเลาะหยุดชะงัก
“คาบแรกจะเริ่มแล้วนี่หน่า!” เฟียน่าปล่อยมือออกจากทอมมี่ แล้วไปคว้าแขนพีลากไปทางเข้าโรงเรียน “ขอตัวคนนี้ไปก่อนล่ะนะ!”
“เฟียน่า! พีจังของผมหน่า!”
“แบร่”
เฟียน่าแลบลิ้นใสทอมมี่ทิ้งท้าย ก่อนที่จะพาพีเข้าโรงเรียนไป ทอมมี่รีบวิ่งตามไปติดๆ
“ยัยบ้าเฟียน่า! เอาพีจังของผมคืนมา”
[ปัจจุบัน]
‘ให้ตายสิ นิสัยฉันตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันเกินไปจนขนลุกตัวเองเลยแฮะ’
พีที่ยืนระลึกความหลังอยู่ใต้ต้นซากุระหน้าโรงเรียนส่ายหัวก่อนที่จะมีคนเอาของมาให้จากทางข้างหลัง
“พายแอปเปิ้ลผสมสับปะรดของโปรดของพีจังมาแล้วครับ”
พีหันกลับไปรับของจากทอมมี่ที่เจ้าตัวอาสาไปซื้อร้านโปรดของเขาแถวๆ นี้มาให้
“ขอบใจนะ”
“แหม๋ๆ พีจังล่ะก็ ไม่ต้องพูดก็ได้ ขอเปลี่ยนเป็นหอมแก้ม---“
“อ๋อ เอาเท้าฉันหอมบนหน้านายเหรอ?”
“อ่า...ไม่เล่นก็ได้แล้วครับ พีจังนะ...ไม่ค่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“อ๋อ...แค่แมนๆ ขึ้นมาเพศตัวเอง มันผิดด้วยเหรอ?”
“เปล่าๆ ครับ ไม่ผิดหรอก แต่...ชอบแบบเก่ามากกว่า”
‘แบบเก่าเหรอ...’
พีเริ่มคิดพิเรนขึ้นมา เลยทำท่าคล้ายผู้หญิง บิดเอว เสียงเล็ก พูดออดอ้อน
“งืม...ทอมมี่ล่ะก็ ทำให้ฉันเขินนะ...” แล้วพีก็เปลี่ยนเป็นท่าทางเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว ”ถ้าให้ฉันพูดแบบนั้นบ่อยๆ ฝันไปเหอะ!”
“ง่ะ! เอาแบบเมื่อกี้คืนมาเหอะครับ ผมขอร้องล่ะ”
“ไปหาแถวอื่น ไป๊!”
ระหว่างที่สองคนกำลังพูดคุยอย่างสนุกก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินมาทางใต้ต้นซากุระ พีหันไปมองก็พบกับสาวผมสีแดงสั้น นัยน์ตาสีแดงที่แฝงไปด้วยความเศร้าและสับสน ใส่ชุดลูกไม้สีดำกระโปรงยาวที่แผ่นหลังที่ดาบไม้ไผ่สะพายอยู่
‘เฟียน่า...ไม่ใช่สิ อิลลูชั่น’
เธอคนนั้นเดินเข้าใกล้จนเห็นทั้งสองคนอย่างชัดเจนและแสดงท่าทางไม่คาดคิดว่าจะได้พบกัน เลยเอ่ยทัก
“พวกนาย!?”
◊◊◊
“ไม่อยากจะเชื่อความรู้สึกนี้เลย...”
อิลลูชั่นเอ่ยขึ้นมา ซึ่งเธอกำลังเงยหน้ามองบนท้องฟ้าสีครามบนม้านั่งใกล้สวนน้ำพุที่มีรูปปั้นรวงข้าวทั้งหกเส้นที่พาดกันเป็นกากบาก ภายในโรงเรียนซิสเซล โดยมีทอมมี่และพีนั่งติดอยู่คนละข้าง
‘ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่า เธอรู้สึกยังไงกับเรื่องของตัวเองกันแน่?’
พีคิดในใจแล้วเผลอจ้องมองดวงตาคู่สีแดงของเธอนานไป จนเจ้าตัวรู้สึกตัว
“นี่ฉัน...ทำให้นายคิดถึงเธอคนนั้นหรือเปล่า?” อิลลูชั่นหมายถึงเฟียน่า
“ก็...คิดสิ...หน้าเหมือนกันซะขนาดนี้จะไม่คิดได้ไง” พีว่าตามตรง
“ขอโทษนะ ที่ทำให้นายทั้งสองคนลำบากใจนะ”
“ไม่เลย...” ทั้งพีและทอมมี่ว่าพร้อมกัน
“เอาหน่า ฉันรู้ว่าพวกนายคิดยังไง ก็เราเคยเรียน...” อิลลูชั่นรู้สึกตัวได้เลยหยุดกลางคัน “ฉัน...ขอโทษ...เผลอนะ...เผลอคิดว่าความจำในหัวมันเป็นของฉัน...เลย---“
“ไม่เป็นไรหรอก” พีว่า
“ไม่เป็นไร!?” อิลลูชั่นขึ้นเสียงสูง “อย่าโกหกได้ไหม? ฉันขอร้องล่ะ...ตอนนี้ช่วยซื่อสัตย์กับฉันที่กำลังจะบ้าหน่อยเหอะนะ...ขอร้องล่ะ”
เธอพูดอ้อนว้อนด้วยน้ำตาคลอเบ้า
‘อิลลูชั่น นี่เธอ...’
“อ่า...ฉันขอตัวก่อนดีกว่านะ”
ทอมมี่เห็นท่าทางไม่ดี เลยลุกขึ้นจะหนี แต่แล้วก็โดนอิลลูชั่นจับชายเสื้อดึงนั่งลง
“แกไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น...อยู่ให้ฉันด่าให้สาสม...” อิลลูชั่นชะงักอีกครั้ง “ไม่นะ...ทอมมี่ ขอโทษนะพูดเหมือนว่าสนิทกัน...ฉัน...ไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดีแล้ว”
“เธอ...”
‘ทำยังไงดีน่า...’
ทั้งพีและทอมมี่อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปล่อยให้ผู้หญิงที่สับสนกับความทรงจำของตนเองนั่งซึมต่อไป...จนทอมมี่พูดบางเรื่องขึ้นมา
“นี่...ยังจำได้ไหมครับ? ว่าตอนที่เรียนมอปลาย ตอนพักกลางวัน พวกเราชอบมานั่งกินข้าวกล่องตรงนี้บ่อยๆ นะ”
“...จำได้” พีตอบ
“แล้วเธอล่ะ?” ทอมมี่ถามอิลลูชั่น
“ฉัน!?” อิลลูชั่นชี้ตัวเอง
“จำได้ไหมละครับ?”
อิลลูชั่นกระดิกนิ้วพักหนึ่ง แล้วค่อยพูดออกมา
“...ที่ตรงนี่...ใช่ จำได้สิ”
“แล้วที่โรงยิมตรงนู้ล่ะครับ?” ทอมมี่ถามอีก
“อ๋อ ที่พวกเราชอบไปดูคนซ้อมบาส...จำได้” อิลลูชั่นว่า
“และก็สระว่ายน้ำตรงนั่นล่ะครับ?”
“...วิชาว่ายน้ำ...จำได้แม่นเลยล่ะ ทอมมี่ นายกว่าจะว่ายน้ำเป็นได้จมน้ำไม่รู้กี่ครั้ง ลำบากให้ฉันช่วย...ขึ้นมาบ่อยๆ”
“แล้วที่สวนดอกไม้ตรงนั้นล่ะครับ?”
“อ๋อ...ที่ฉันชอบปลูกดอกป๊อปปี้”
“หือ? ไม่ใช่ดอกกล้วยไม้เหรอครับ?” ทอมมี่ถาม
“เหอะๆ ป่านนี่นายยังจะเชื่ออีกเหรอ?” พีถาม “ตอนนั้นฉันกับเฟียน่าตั้งใจหลอกนายนะ เพราะเธอกลัวว่านายจะไปแกล้งเด็ดดอกไม้ออกไปล่ะ”
“จริงดิ!?” ทอมมี่ตาโต “ว่าแล้วเชียว ทำไมผมแอบเด็ดดอกนั่นมาไปชูในห้องทุกครั้ง แล้วโดนเจ้าหัวหน้าห้องไล่ตีเอาเกือบทุกที”
“ก็นั่นมันของหัวหน้าห้องเขานิหน่า จะไม่ไล่แกได้ไงล่ะ ฮ่าๆ” พีบอก
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
อิลลูชั่นหัวเราะ แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะตาม จนเธอเริ่มหัวเราะด้วยน้ำตาแทน
“อิลลูชั่น...เป็นอะไรหรือเปล่า?” พีถาม
“เปล่าค่ะ...เหมือนกับว่าฉันกำลังมีความสุขกับความทรงจำของคนอื่นอยู่...รู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้”
“ก็ดีแล้วนิ” พีพูด
“หือ?”
“มันดีแล้ว...ที่เธอมีความสุขกับมันนะ ฉันมั่นใจว่าเฟียน่า...อ่า...หมายถึงเฟียน่าตัวจริงนะ อยากให้เธอมีความสุขกับมันนะ”
“ทำไมล่ะ? เธอคนนั้นยังโกรธฉันอยู่แน่ๆ” อิลลูชั่นพาลนึกถึงเรื่องที่เฟียน่าทำร้ายเธอหลายวันก่อน
“ไม่หรอก ยัยนั่นไม่ได้โกรธ...เธอก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ นิสัยของเธอกับตัวจริงนะ”
“...อือ...ที่จริง ฉันก็รู้อยู่...แต่มันแปลกๆ นะ เรื่องนี้มัน...พูดยาก...แต่ที่แน่ๆ ฉันทำให้เธอต้องตายนะ พี”
อิลลูชั่นเริ่มโทษตัวเองอีกครั้ง
“ไม่---” พีจะปฏิเสธเรื่องของเธอ แต่ถูกอิลลูชั่นขัด
“บอกแล้วไง อย่าโกหกฉัน...ถ้าฉันไม่ไปที่นั่นล่ะก็ เธอคนนั้นคงไม่ต้องตายแบบนั้น”
“งั้นก็ได้...” พีเล่นตามเธอ ”เธอมีส่วนให้ทำให้เฟียน่าต้องตาย...แต่ฉันและทุกๆ คนก็มีส่วนรวมกันนั่นแหละ”
“ไม่ๆๆ ฉันคนเดียว ฉันต้องรับผิดชอบบาปนี้นะ แต่ฉันยังไม่รู้จะชดใช้ยังไงให้สาสมดี”
‘ชดใช้บาป...
เดี๋ยวก่อนนะ...หลายปีก่อน เธอเคยพูดเรื่องนั่นตอนโดนขังนี่หน่า...
เฟียน่า...ฉันหวังว่าจะเดาเรื่องที่เธอพยายามใบ้ให้ฉันถูกนะ’
และแล้วพีก็เสนอเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“บาปงั้นเหรอ? ก็พอมีหนทางอยู่นะ ที่จะชดใช้บาปของเธอที่ก่อได้บ้าง”
“หึ? มีเหรอ? คงต้องใช้มันด้วยชีวิตของฉันสินะ”
“นั่นมันหนีบาปต่างหาก” พีว่า “เธอนะต้องชดใช้บาปนี้ไปตลอดชีวิต”
“อือ...ฉันรู้ เชิญบอกมาได้เลย จะให้ฉันทำยังไงก็ได้ ยอมเป็นทาสนายก็ยังได้”
“ความทรงจำไง...แบกรับความทรงจำของเฟียน่าทั้งหมดไว้”
“หา!?”
“ความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้เธอมานะ...เธอต้องรักษามันไว้ให้ดี ทั้งเรื่องดีและร้าย ฉันว่ามันเป็นวิธีเดียวที่เฟียน่าต้องเห็นดีด้วยแน่ๆ”
“ทำไมล่ะ?” อิลลูชั่นถาม
“เพราะยัยนั่นนะ...เคยพล่ามเรื่องแปลกๆ ให้ฉันตอนที่โดนขังอยู่ในโรงเก็บของที่โรงเรียนที่นี่เมื่อสองปีก่อน ว่า... ‘ถ้าเธอคนนั้นเกิดขึ้นมาจริงๆ อยากให้เธอ...ช่วยรักษาความทรงจำทั้งหมดแทนไว้หน่อย...ว่ามันดีแค่ไหนที่รู้สึกแบบนี้นะ’ ”
พอพีพูดเรื่องเก่านี้ขึ้นมา อิลลูชั่นตาโตเอามือกุมหน้าและปล่อยน้ำตาไหลและร้องสะอื้นมาเยอะที่สุดเท่าที่พีเคยเห็นมา
“ฉันว่านั่นต้องเป็นข้อความเดียวที่ส่งถึงเธอแน่ๆ” พีว่า “ที่ฉันฟังเฟียน่าบ่นก็ไม่รู้หมายถึงอะไร นึกว่าซ้อมบทชมรมละครเวที่ที่ยัยนั่นอยู่...แต่คงเป็นอย่างที่ฉันว่าตอนแรกนั้นแหละ”
“ใช่...ใช่เลยล่ะ จำได้แล้ว...จำเรื่องของเธอได้ทั้งหมดจริงๆ เรื่องที่มันถูก...”
“ดีแล้วที่จำได้นะ แต่อาจจะมีบางเรื่องที่คนของไฮเทคอัพเปอร์เอาออกไป...”
“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่า...ความทรงจำที่เหลือที่มันขาดหายไปนะ...ฉันรู้สึกมาตลอดเวลา มันมีอะไรบางอย่างหายไป พอนายพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา มันเหมือนเป็นคีย์เวิร์ดปลดล็อคในหัวฉัน...ทั้งความทรงจำที่เป็นเรื่องจริงและความรู้สึกจริงๆ มันเข้ามาในหัวฉันเพียบเลยตอนนี้...ฮื้อ!!”
อิลลูชั่นเข้าสวมกอดที่เอวของพี
‘โห้ยๆ มันเรื่องอะไรเนี่ย?’
‘-เรสเทียร์ว่า คนที่ทำเรื่องเกี่ยวกับความทรงจำของเธอ คงเก็บความทรงจำบางส่วนไว้ในส่วนลึกล่ะค่ะ-’
เรสเทียร์ที่แอบอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา กระซิบบอกในใจ
‘หมายความว่าไง?’
‘-ก็เหมือนเราดึงความจำบางส่วนไปเก็บในห้องที่มีกุญแจ แล้วคำพูดของพี่หญิงประโยคนั่นเป็นกุญแจที่ไขกล่องความทรงจำของคุณเฟียน่าออกมาให้คุณอิลลูชั่นตรงนี้ได้รับรู้ค่ะ-‘
‘...ซับซ้อนจังแฮะ’
พีถอนหายใจ ปล่อยให้อิลลูชั่นร้องไห้อยู่บนตัวเขาสักพัก ทอมมี่บอกเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องไป
“เอ่อ..ทั้งสองคน เดี๋ยวได้เวลาที่นัดกันแล้ว”
“อ๋อ จริงสิ เราต้องไปที่นั่นนี่หน่า” พีว่าตาม
“ฮือ...อือๆ” อิลลูชั่นลุกขึ้นมานั่งเช็ดน้ำตา
“งั้นเรารีบไปกันเลยดีกว่า เดี๋ยวไม่ทัน”
ทอมมี่ลุกขึ้นเดินนำไปก่อน แล้วอิลลูชั่นหันมายิ้มกว้างและจับมือของพีไว้แน่น พาเขาลุกขึ้นพร้อมๆ กันและเดินคู่กันไป
‘เธอเป็นอะไรเนี่ย!? จู่ๆ มาจับมือฉันไว้ซะแน่นเชียว แล้วยังจะยิ้มแบบนี้อีก’
ทั้งสองคนเดินออกนอกโรงเรียนไปยังรถแท็กซี่ที่ทอมมี่จอดไว้อยู่ ทั้งคู่ขึ้นตามไป แต่แล้วพีนึกเรื่องบางอย่างออก บอกทอมมี่ที่เป็นคนขับ
“ทอมมี่! รอนี่แป๊ปหนึ่ง ขอไปเอาของที่สวนดอกไม้ในโรงเรียนก่อน”
◊◊◊
[08:45] [07/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ต้นไทรบนเนินเขา ‘บลาสต์-5’ (Blast-5)]
‘ที่แห่งนี้...คือสถานที่ๆ เฟียน่าชอบมาบ่อยๆ
ต้นไทรบนเนินเขาใกล้โรงเรียน...
มันมีเพียงอยู่ต้นเดียวที่สูงใหญ่และอยู่บนสุดของเนินเขาลูกนี้
จากตรงนี้มองเห็นวิวเมืองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แม้จะไม่ได้สูงมากมายเท่ามุมวิวจากบนตึก แต่สถานที่ชมวิวที่มีป่าไม้นี่ กลับมีเพียงแห่งเดียวใน Area TH ที่เจ็ดเขตกลาง
ทุกๆ วันศุกร์เธอมักจะพาฉันและทอมมี่มาที่นี่ ไม่ก็วันว่างๆ ชวนปิกนิค ณ ที่แห่งนี้
เหตุผลที่ทำให้เธอชอบที่นี่...ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้แน่ชัด
แต่ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ เธอจะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ราวกับว่าเธออัดอั้นหลายเรื่องราวไว้มาระบายที่นี่
บางทีฉันถามอิลลูชั่น เธออาจจะรู้ก็ได้นะ รู้จากความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้มา...เพราะตอนนี้ฉันเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้สบายอกสบายใจมากกว่าที่เคยเห็นมา...เว้นซะแต่เพียงว่า ข้างๆ ต้นไทรตรงหน้าพวกเรานั้น มีก้อนหินที่สลักชื่อ ‘เฟียน่า’ ไว้อยู่ แม่ของเธอ คุณเฟลิกซ์กำลังก้มตัวลูบก้อนหินก้อนนั้นราวเป็นตัวแทนของลูกสาวเธอ
ใช่ เฟียน่าเคยบอกกับฉันไว้ว่า หากเธอตาย ช่วยฝังศพเธอไว้ที่ใกล้ๆ ต้นไทรที่นี่ เธออยากจะอยู่ตรงนี้ มองเห็นวิวจากใต้ต้นไทรนี่ได้ตลอดเวลา มองเห็นทุกๆ คนที่อยู่ในเมืองที่นี่
แต่น่าเสียดายที่หาศพของเธอไม่เจอ อาจจะสลายไปพร้อมกับการปูระเบิดรอบที่สองของโดรนเครื่องบินนั่น...ฉันและคนอื่นๆ ทำได้เพียงทำสัญลักษณ์ตัวแทนของเธอไว้ที่นี่
หวังว่าคงไม่โกรธกันนะ เฟียน่า...
ฉันยังรู้สึกใจหายอยู่กับการจากไปของเธอ
มันกระทันหันมากไป...จนตั้งรับไม่ทัน...ไม่มีกระทั่งน้ำตาที่จะไว้อาลัยจากฉัน
เป็นเพราะฉันห่างกับเธอหลายปีมาเหรอ? แต่นั้นคงไม่ใช่เหตุผลหลักแน่ๆ
ฉันคงต้องหาคำตอบนี่ต่อไป...
แต่ฉันก็เห็นความเศร้าโศกเสียใจจากคนรอบตัวเธอแล้ว ทั้งคุณเอริสที่ร้องซะเหมือนเด็ก เหม่ยซิงก็...มีบ้าง ด็อกเตอร์ซิสเหมือนจะใจนิ่งพอสมควรและนักวิจัยผู้ชายอีกสองคนกอดคอร้อง ซึ่งฉันลืมชื่อไปแล้ว ส่วนแม่ของเฟียน่าที่อยู่ใกล้ๆ ก้อนหินใต้ต้นไทรคนเดียวนั่น...ยังคงยิ้มอยู่ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธอพยายามฝืนความรู้สึกตัวเองไว้มาก
ส่วนอิลลูชั่น...’
พีมองอิลลูชั่นที่อยู่ข้างตัวด้านซ้ายของเขา สายตาของเธอเหมือนกำลังลังเลอะไรสักอย่าง
‘ไม่แปลกหรอกที่จะลังเล แต่นะ...ตอนนี้มันน่าจะมีเธอคนเดียวแล้วล่ะ ที่ช่วยแม่ของเฟียน่าได้’
เขาตบไหล่ของอิลลูชั่น
“หือ?”
“เธอ...เข้าไปหาสิ”
“...ฉันว่าอย่าดีกว่า...”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ฉัน...ไม่ใช่คนในครอบครัวเธอนิ”
“ใครว่าล่ะ จำที่เฟลิกซ์พูดเมื่อวานไม่ได้แล้วเหรอ”
“...อือ”
“และก็นะ...ถ้าเฟียน่ายังอยู่...ไม่ใช่สิ เธอนะ น่าจะรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นโอกาสที่ช่วยเฟียน่าเรื่องหนึ่งได้นะ”
เหมือนอิลลูชั่นจะเข้าใจสิ่งที่พีพูด พีตบไหล่ของเธออีกครั้งแล้วดันตัวเธอไปข้างหน้า และเธอก็เดินตรงไปหาเฟลิกซ์ พวกเขาทั้งสองเริ่มพูดคุยกัน แต่พีและคนอื่นๆ ไม่ทราบถึงเรื่องที่สนทนากัน เพราะอยู่ไกลเกินไป
‘ปล่อยให้สองคนนั้นคุยกันตามลำพัง...ดีแล้ว แต่ว่าฉันไม่แน่ใจ อิลลูชั่นที่ทำท่าเกลียดร่างต้นแบบตัวเอง ตอนนี้ทำไมถึงอาลัยอาวอนล่ะ? ความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้เธอต้องมีอะไรแน่ๆ’
“พีจัง ผมควรรู้สึกยังไงดี?”
จู่ๆ ทอมมี่ที่ยืนอยู่ด้วยกันถาม
“รู้สึกยังไง? เสียใจสิ”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น...มันไม่เหมือนกันนะครับ...คือ...ยังไงดีล่ะ เฟียน่าก็เป็นผู้หญิงที่ห้าวเอาแต่ใจ ชวนทะเลาะนู้นี่นั่น แกล้งกันโคตรจะบ่อย และยัง...หึ...ฮือๆๆๆๆๆๆ!”
และแล้วบ่อน้ำตาของทอมมี่ก็แตกจนได้ เข้ามากอดคอพี
‘ให้ตายสิ...หมอนี่มัน...’
พีไม่รู้สรรหาคำเรียกนิสัยของทอมมี่ยังไงดี แต่แล้วเขามองไปยังใต้ต้นไทรอีกครั้ง เห็นเฟลิกซ์กำลังโบกมือเรียกเขา
‘เรียกเราเหรอ?’
พีจะเดินไปหา แต่ติดที่ทอมมี่ยังกอดเขาแน่นเลยเรียกคนใกล้ๆ มาช่วย
“คุณเอริสครับ”
“ค่ะ!? ฮือๆ” เธอยังน้ำตาแตกอยู่
“ฝากเพื่อนผมคนนี้หน่อยครับ”
“อ่า..ฮือ ได้ค่ะ”
เอริสและพีพยายามแกะตัวทอมมี่ออกมาจนได้...แล้วพีก็เดินไปยังใต้ต้นไทรที่มีผู้หญิงผมแดงทั้งสองคนอยู่ ในใบหน้าของเฟลิกซ์มีรอยคราบน้ำตาอยู่
“มีอะไรเหรอครับ? คุณเฟลิกซ์”
“ฉันอยากจะกล่าวขอบคุณเธออีกครั้งนะ พี”
เฟลิกซ์ก้มหัวลง พีตั้งหลักไม่ทันเลยถาม
“ขะขะขอบคุณเรื่องอะไรครับ!?”
“ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับเฟียน่าและอิลลูชั่น เด็กคนนี้นะ” เฟลิกซ์ลูบหัวอิลลูชั่น “เธออุตสาห์เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงมากมาย”
“ไม่หรอกครับ...ถ้าจะให้ดี ผมน่าจะช่วยเฟียน่าไว้ได้...จากมือสไนเปอร์นั่น”
“อือๆ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก พี” เฟลิกซ์เสยผมขึ้นแล้วมองออกไปทางเมือง ณ เบื้องล่าง “รู้ไหม หลายปีก่อนที่พวกเธอเรียนอยู่ด้วยกันนะ เฟียน่ามักจะเล่าเรื่องสนุกๆ ที่โรงเรียนให้ฟังนะ...ทั้งๆ ที่เด็กนั่นไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน”
“หมายความว่ายังไงครับ?”
“จะว่ายังไงดีล่ะ...พอรู้ๆ มาบ้างว่าสถานที่ก่อนเฟียน่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เธอไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีสักเท่าไหร่”
“ที่ไหนครับ?”
“Area JP ป้อมปราการลอยฟ้าชินโคเซ็นนะ”
‘ชื่อสถานที่นี้อีกแล้ว อยู่ที่ Area JP งั้นเหรอ?’
พีเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนที่จะฟังเรื่องจากเฟลิกซ์ต่อ
“ฉันรู้อยู่แค่นั้นล่ะนะ...แต่ยังดีที่มีพ่อของเธออยู่ด้วยนะ เลยใช้ชีวิตที่นั่นได้ไม่มีปัญหา”
“พ่อของเธอ? จริงสิครับ พ่อของเฟียน่าที่เมื่อวานเธอพูดถึง...”
“อ๋อ...เขาตายไปไม่กี่ปีนี่เองล่ะ...ตายในหน้าที่...เวิลด์เจเนรัลนะ เฟียน่าเลยอยากเดินตามรอยพ่อของเธอ แอบเข้าเป็นอาสาสมัครกองกำลังของเวิลด์เจเนรัล กว่าแม่คนนี้จะรู้เรื่องก็ปีที่แล้วนี่เอง เฮ้อ ฉันเป็นแม่ที่แย่จริงๆ”
เฟลิกซ์เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
“อย่าโทษตัวเองไปเลยครับ...เฟียน่ามาเห็นคงไม่ชอบใจแน่ๆ”
“นั้นสินะ” เฟลิกซ์เหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างที่มือของพีเลยถาม “พี นั่นมัน...”
พีก้มลงมองตาสายตาของเฟลิกซ์ ที่มือขวาของเขามีต้นกล้าป๊อปปี้อยู่ เขาก็เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังจะถาม
“ต้นป๊อปปี้...” เฟลิกซ์ว่า “ดอกไม้โปรดของเฟียน่า”
พีก้าวไปข้างหน้าสองครั้ง แล้วย่อตัวลง วางต้นกล้าป๊อบบี้ตรงหน้าก้อนหินขนาดใหญ่ที่สลักชื่อเฟียน่าเป็นภาษาอังกฤษไว้อยู่ เขาใช้มือขุดดินใกล้ๆ และปักต้นกล้าป๊อบบี้ลงไป แล้วเขาก็เอามือซ้ายลูบที่ก้อนหินก้อนนั้น และเริ่มพูดถึงเฟียน่า
“เฮ...เฟียน่า ฉันมาแล้วนะ ถ้าเธอได้ยินล่ะก็...ฉันขอโทษ...เรื่องที่ฉันโวยใส่เธอเมื่อหลายปีก่อนนะ และก็เรื่องที่ฉันไม่คุยกับเธออีกเลย...หลายๆ เรื่องเลยล่ะ ฉันไม่รู้จะพูดเรียบเรียงยังไงดี...แต่พอมาได้เจอเธออีกครั้ง...ฉันรู้ได้เลยว่าเธอนะ อยากถามฉันมากมาย แต่เธอเลือกที่จะไม่ถาม...เพราะอะไรเหรอ? เฟียน่า...ฉันอยากรู้...ตอนแรกกะว่าหลังจากกลับจากเหมืองนั่นจะชวนเธอมาคุยกัน...ที่...นี่...สัก...หน่อย...”
น้ำตาพีเริ่มไหล แต่น้ำเสียงเขายังปกติดี
“...แต่เธอนะ...หนีไปโลกอื่น...ซะแล้วสิ...แย่จังแฮะ...”
เฟลิกซ์วางมือของเธอลงบนไหล่ข้างขวาของพี เขาหันไปถามเฟลิกซ์ทั้งน้ำตา
“เฟียน่าขี้โกงใช่ไหมครับ? หนีไปคนเดียว...ขี้โกงมากๆ...ขี้โกง...ที่สุด”
“ใช่ ขี้โกงสุดๆ เลยล่ะ”
เฟลิกซ์พูดแล้วลงมาคุกเข่าเข้ากอดปลอบพี แต่กลายเป็นว่าเธอร้องไห้ไปด้วย ส่วนอิลลูชั่นที่อยู่ใกล้ๆ ได้แต่ยืนดูพวกเขาร้องร้ำไห้ เพราะไม่กล้าที่จะทำอะไร ผ่านไปสักพัก พอพีและเฟลิกซ์ตั้งสติได้ ก็ลุกขึ้นมาปัดน้ำตาออกไป...และพีก็ถามอิลลูชั่นเรื่องหนึ่งเพราะเพิ่งนึกถึงคนๆ หนึ่งที่เขายังไม่เห็นหน้า
“แล้วโซตะล่ะ?”
“อ๋อ นอนอยู่ในรถของด็อกเตอร์ซิสล่ะ...เมารถนะ”
“งืม...แล้วเรื่องยาถอนพิษนั่นละเป็นไงบ้าง”
“เท่าที่ลองตัวยาเมื่อวาน...ฉันกับโซตะใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วล่ะ”
‘ดีแฮะ...ถือว่าไม่ศูนย์เปล่า’
พีคิดอย่างงั้นแล้วถามเรื่องของโซตะต่อ
“เอ่อ...จริงสิ เธอบอกว่าโซตะเป็นน้องชายของเธอ...เป็นน้องชายของเฟียน่าเหรอครับ?”
“เปล่าๆ ไม่ใช่หรอก โซตะนะเป็นน้องชายบุญธรรมที่พวกฉันรับเลี้ยงไว้นะ เด็กคนนั้นเป็นน้องชายของผู้หญิงคนหนึ่งที่ให้ดาบนี่มานะ”
อิลลูชั่นบอกเรื่องที่พีไม่เคยได้ยินเป็นครั้งแรก แล้วเอี่ยวตัวเล็กน้อยให้เห็นดาบไม้ไผ่ที่มีรอยร้าวที่ปลายดาบ...ดาบนี้มีพลังแอบแฝงอยู่
“งั้นเหรอ? งืมๆ”
“แต่นะ เดี๋ยวฉันกับโซตะต้องกลับไปที่ Area JP ไปตรวจร่างกาย” อิลลูชั่นเอ่ย
“หือ? หมายความว่า...เธอต้องไป...จากที่นี่?”
“ใช่ ถึงฉันกับโซตะจะได้รับยาถอนพิษนั้นแล้ว แต่อยากให้แน่ใจนะ ว่ามันหายดีแน่ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เลยต้องไปใช้เครื่องที่นั่นตรวจ”
“อ๋อ...ไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็อีกสามชั่วโมงนี่แล้ว”
“หา!? ทำไมไวจังนักล่ะ”
“ต้องรีบไปก่อนที่พวกเวิลด์เจเนรัลจะมานะสิ ไม่อย่าเสียเวลาผ่านกระบวนรักษาความปลอดภัยของเจ้าพวกนั้น อีกอย่างยิ่งไปตรวจร่างกายไวๆ ให้มันแน่ใจเลย จะได้หายห่วงนะ”
‘เวิลด์เจเนรัล!?
เออ...ฉันลืมซะสนิท...เห็นว่าใกล้จะมาถึง Area TH ที่เจ็ด แล้วนี่หว่า’
“งั้นนักวิจัยพวกของเธอ---“ พีถามถึงนักวิจัยคนอื่นๆ
“ก็ไปกันหมดนั้นแหละ...เฮ พี ฉันมีเรื่องจะบอกนะ”
อิลลูชั่นเดินเข้าใกล้พีในระยะประชิดมาก
“เรื่องของเฟียน่านะ”
“เฟียน่า!?”
“มีเรื่องหนึ่ง...ฉันคิดว่าเธอคนนั้นอยากให้ฉันบอกนายนะ”
อิลลูชั่นดันปลายเท้าตัวเองยกสูงขึ้น เพื่อให้กระซิบข้างหูซ้ายของพีได้สะดวก
“เฟียน่านะ...ชอบนายมากเลยนะ...”
‘ชอบ!?’
พีได้ยินถึงกับตาโต แต่เรื่องที่อิลลูชั่นจะบอกยังไม่หมด ซึ่งทำให้พีรู้สึกประหลาดใจ
“และฉัน...อาจจะ...ชอบนายด้วย...”
พอเธอบอกเสร็จผงะถอยออกมาส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้พี...และเธอก็กล่าวลาเฟลิกซ์ แต่พีไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเธอพูดอะไร แล้วอิลลูชั่นจะมุ่งหน้าไปสบทบกับนักวิจัยที่เหลือที่ขึ้นรถรออยู่ แต่แล้วพีตะโกนเอ่ยถามเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน...ถ้าเราได้เจอกันอีก ให้ฉันเรียกเธอว่าอะไร?”
ผู้ที่ถูกถามหยุดก้าวเท้าไปชั่วครู่ ก่อนที่พูดถึงชื่อตัวเอง
“อิล...อิลลูชั่น”
เธอเอ่ยนามแล้วโบกมือลาโดยไม่หันมาสบตา แล้วพีก็เห็นเอริสกำลังโบกมือลาเขา แน่นอนว่าพีก็โบกมือลาแบบงงๆ ส่วนเหม่ยซิงเห็นเธอเอาปากนิ้วตัวเองแล้วเขยิบตาข้างหนึ่งให้...ทำให้พีรู้สึกเสียวสันหลังวาป ก่อนที่รถสีเทาคันใหญ่จะแล่นออกลับสายตาไป และพีก็คิดถึงคำพูดอิลลูชั่นทิ้งท้ายไว้
‘เฟียน่า ชอบฉัน?
อิลลูชั่น อาจจะชอบฉัน?
โห้ยๆ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?’
‘-เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะค่ะ พี่หญิง-’
เรสเทียร์แซวผ่านทางจิต
‘เหอะๆ ฉันยังไม่เข้าใจเลย ว่ายัยนั่นหมายถึงอะไรกันแน่...เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ตะกี้เธอว่าเสน่ห์แรง!?’
‘-ก็มีผู้หญิงมาบอกชอบผู้ชาย จะให้คิดยังไงล่ะค่ะพีหญิง-’
‘แต่ฉันใช้ผู้ชายปกติซะที่ไหนกันเล่า’
‘-อย่างพี่หญิงไม่นับค่ะ-’
‘นับเหอะ...’
‘-ง่ะ!-’
“ผู้หญิงพวกนั้นแรงเยอะชะมัด”
ทอมมี่เดินบ่นมาสบทบ
“ฮ่าๆ เอาหน่าๆ ถ้านายหาแฟนก็หาให้ได้แบบนั้นนะ”
“ไม่เอาครับ! แค่พีจังก็พอ---”
“หยุดเลย...ฉันฟังคำนั้นจนเลี่ยนแล้ว”
“โห...พีจังล่ะก็...”
“พวกนาย...”
เฟลิกซ์เรียก ทั้งคู่เดินเข้าไปข้างๆ เธอ
“ว่าไงครับ คุณเฟลิกซ์” ทอมมี่ถาม
“ไม่ว่าอะไรหรอก...อยากจะบอกว่า...อีกไม่กี่วันนี้ ทั้งงานฉันและพวกเธอจะหนักขึ้นหลายเท่าตัวนะ เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง”
“งานหนัก?” พีทวน “อ๋อ หมายถึงเวิลด์เจเนรัลใช่ไหมครับ?”
“ใช่...การมาของเจ้าพวกนั้น...จะสร้างความวุ่นวายให้ Area TH ที่เจ็ดนี่มาก ยิ่งข่าวลือบ้าๆ นั้นด้วย ที่ว่าจะเปลี่ยนให้เป็น Area WG โดยเจ้าพวกนั้นจะลงมาดูแลเมืองนี้กันเอง”
“ถ้ามันเป็นอย่างงั้น มันจะเป็นยังไงเหรอครับ?” ทอมมี่ถามอีก
“ฐานอำนาจการดูแลมันจะสั่นคลอนไปหมดเลยไง ช่วงที่กำลังผลัดเปลี่ยนอำนาจนะ...ความวุ่นวายเกิดแน่ๆ ก็ต้องรอดูว่าเวิลด์เจเนรัลจะดำเนินการได้เร็วแค่ไหน ถ้ามันเป็นจริงตามข่าวลือนะ”
“งั้นคุณเฟลิกซ์ล่ะ จะเป็นยังไงต่อ?” พีถาม
“ฉันเหรอ? ก็เหมือนเดิม เดี๋ยวพอลงจากการเป็นหัวหน้ารักษาการณ์แทน ก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่เอ็มแอลเอกระจอกๆ คนหนึ่ง จะได้มีเวลาว่างเยอะขึ้นหน่อย...แล้วนายล่ะ พี จะทำยังไงกับชีวิตตัวเองต่อไป ได้คิดหรือเปล่าว่าถ้าความแตกขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ความแตก?” พีทวน
“ใช่...ฉันว่าอีกไม่นานนี่ล่ะ จำไม่ได้หรือไง ว่าด็อกเตอร์ลากัซรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร...แต่ยังดีหน่อยที่เป็นเจ้านั่น...เรื่องก็เลยยังไม่แดงขึ้นมาตอนนี้...ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่า ตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผยเมื่อไร...ถ้าให้ฉันเดา คงหนึ่งปีนะ”
“ทำไมต้องหนึ่งปีล่ะครับ?”
“คือ...ฉันรู้สันดานของลากัซดี” เฟลิกซ์เกาหัว “...เจ้านั่นมักจะเตรียมการวางแผนนานมาก กว่าจะทำอะไรสักอย่าง...”
‘อ๋อ...งั้นฉันคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้แล้วสินะ’
พีถอนหายใจอย่างหมดแรง เฟลิกซ์เห็นแล้วตบไหล่เขาอีกครั้ง
“เอาหน่า เอาหน่า ถ้ามันเกิดแดงขึ้นมาจริงๆ ฉันจะช่วยเธอเอง...ก็เธอเป็นคนสำคัญของเฟียน่ากับอิลลูชั่นเหมือนลูกชายของฉันคนหนึ่งนี่นา ใครหน้าไหนจะมาทำร้ายเธอ แม่จะยิงพรุนให้หมดเอง ฮ่าๆ”
‘โห้ยๆ ปรับอารมณ์ตามไม่ทันจริงๆ แฮะ
เดี๋ยวนะ คนสำคัญของเฟียน่าและอิลลูชั่น...สองคนนี้ไปพูดอะไรกับคุณเฟลิกซ์ไว้ล่ะเนี่ย?’
ระหว่างที่พีคิด ก็มีลมพัดมาทางพวกเขาทั้งหมด
“ลมที่นี่แรงดีตลอดเลยนะครับ” ทอมมี่ว่า
“เฟียน่าคงจะชอบที่นี่มากจริงๆ” เฟลิกซ์ว่าตาม
‘ใช่...เธอเคยบอกว่า ที่นี่เหมือนเป็นสวรรค์น้อยๆ ของเธอ’
พีคิดในใจก่อนที่จะยกมือขึ้นมารับลม...ดอกป๊อบปี้ที่อยู่ตรงหน้ากองหินที่สลักชื่อคนหนึ่งไว้ มันฟลิ้วไหวตามสายลมพัดไปมา ราวกับว่ามันชอบสถานที่แห่งนี้เช่นเดียวกันกับเพื่อนสำคัญของพีคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เฟียน่า’
◊◊◊
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]’ นะจ๊ะ
หว่า..แย่จัง เรื่องของผู้หญิงทั้งสองคน ‘เฟียน่า’ และ ‘อิลลูชั่น’ บทนี้ก็จบลงแล้วสิ
อิลลูชั่นและพรรคพวกด็อกเตอร์ซิส กลับ Area JP
ส่วนพี ทอมมี่ เฟลิกซ์ และคนอื่นๆ ยังคงเผชิญหน้าชะตากรรมของ Area TH ที่เจ็ดต่อไป
แล้วเวิลด์เจเนรัลจะมาถึงแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ?
โปรดติดตามตอนสุดท้ายของ EP.1 ที่มีชื่อว่า ‘ปัจฉิมบท EP.1 Two Weeks Beginning [Another Future]’
เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
Ch.34 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]
Rewrite V.3
◊◊◊
[วันต่อมา]
[06:21] [07/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, โรงเรียนมัธยมปลายซิสเซล]
“ที่นี่ยังเหมือนเดิมแฮะ”
พีทอดมองทางเดินยาวตรงหน้าประตูที่มีป้ายเขียนอยู่ว่า ‘โรงเรียนมัธยมปลายซิสเซล’ ไปยังตัวอาคารทั้งห้าแห่งในโรงเรียน สภาพโดยรวมแล้วเป็นโรงเรียนที่มีการวางแผนผังจัดการสิ่งแวดล้อมได้ดีเยี่ยม ก่อนที่จะหันมองทางขวามือตรงรั้วโรงเรียนที่มีต้นไม้ซากุระสามต้นใหญ่เรียงกัน ซึ่งกำลังออกดอกบลิบานทั้งต้น
‘สามปีกว่าแล้วสินะ...’
และแล้วพีนึกย้อนความหลังเก่าขึ้นมา เป็นภาพคนทั้งสามที่เดินเท้ามาโรงเรียนแห่งนี้ กำลังเดินผ่านใต้ต้นซากุระทั้งสาม
[สามปีก่อน]
“เฮๆ! ทอมมี่ เมื่อวานแกได้ดูเบสบอลชายคู่ชิงของโรงเรียนเราหรือเปล่า?”
เฟียน่าผมสีแดงยาวถึงเอวในชุดนักเรียนหญิงเขียวขาวของโรงเรียนมอปลายซิสเซล วิ่งถือไอศกรีมโคนเข้ามาข้างๆ ทอมมี่ที่เดินมาด้วยกันกับพีที่อยู่ชุดนักเรียนหญิงถึงแม้จะเป็นผู้ชายก็ตาม แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่มีผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า ผิวพรรณดูเปล่งใส ท่าทางสำรวมเรียบร้อย ทำให้ไม่ค่อยมีใครดูออกว่าเป็นผู้ชาย
“เปล่านะครับ นอนหลับอยู่” ทอมมี่ว่า
“นอน!? ตอนทุ่มหนึ่งเนี่ยนะ!?” เฟียน่าทำเสียงสูง
“ก็ผมไปช่วยงานคนอื่นมานี่ครับ ไม่ได้ว่างเหมือนเธอสักหน่อย”
“แหม๋ๆ ดูไม่เป็นก็บอกมาตรงๆ เป็นผู้ชายประสาอะไรดูกีฬาเบสบอลไม่---”
“ดูเป็นเฟ้ย! ถึงจะ...นับแต้มไม่เป็นก็เหอะ” ทอมมี่สะบัดหน้าแล้วเถียง
“แถ่ดๆๆๆ นายนี่มันตัวแถชัดๆ ขนาดพียังดูเป็นเลยใช่ไหมละ?”
เฟียน่าโบ้ยไปทางพี เขาเลยว่าตามที่ดูมาเมื่อวาน
“โฮมรันของรุ่นพี่ยามาดะยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมใช่ไหมคะ? คุณเฟียน่า”
“ใช่ๆ ลูกนั่นสวยมากเลยล่ะ แต่ก็...ไม่ชนะอยู่ดี เซ็ง”
“ฮ่าๆ มีชนะก็ต้องมีแพ้บ้างสิค่ะ โรงเรียนเราครองแชมป์มาตลอดสิบปี สละสักครั้งจะเป็นอะไรไปค่ะ” พีว่า
“มันเสียศักดิ์ศรีไง ถ้าเป็นฉันล่ะนะจะตีโฮมรันให้ได้ทุกตาเลย”
เฟียน่าทำท่าตีโฮมรันจนทอมมี่หมั่นไส้เลยยุ
“งั้นเธอก็ไปสมัครชมรมเบสบอลเลยสิ”
“ชมรม...หว่า คงไม่ได้ล่ะ ฉันมีงานที่สถานีวิจัยที่บ้านนะ” เฟียน่าทำเสียงเซ็ง
“ไม่ใช่ว่าปอดแหก ไม่กล้ารับลูกเหรอครับ?”
ป๊าง!
สันมือของเฟียน่าฟาดเข้าที่บนศีรษะของทอมมี่อย่างแรง
“เฟียน่า!” ทอมมี่กุบหัว
“ใครว่าฉันปอดแหกย่ะ! นายต่างหากล่ะ ที่ไม่กล้าจีบผู้หญิง เลยมาติดพันอยู่กับพีอยู่เนี่ย!”
“ไม่เกี่ยวเฟ้ย! พีจังนะ เป็นที่ผมรักที่สุดต่างหากล่ะครับ แค่เอาใจผู้หญิง แปปๆ ก็ติดกันตรึมแล้ว”
“อย่าลากดิฉันเข้าไปเกี่ยวด้วยสิค่ะ” พีว่าอย่างเรียบๆ
“อ้าวเหรอ? ไอ้ที่นายว่าติดตรึมนี่ โดนเท้าสาวๆ ไล่ถีบกันตรีมเลยใช่ไหมละ?” เฟียน่ากวน
“เฟียน่า! เธอก็เหมือนกันแหละ ห้าวจนไม่มีใครกล้าจีบ ขืนมีใครได้คนอย่างเธอไปล่ะก็ คงโดนไล่หวิดตายแน่ๆ”
“ว่าฉันเป็นสัตว์ร้ายหรอ!!”
“สัตว์ที่มีชื่อว่าแรดนะครับ ที่เอาหนอไล่หวิด---”
“ไอ้ทอมมี่!”
เฟียน่ายกมือจะชก แต่ทอมมี่เอามือจับไว้ ทั้งคู่ต่างกันออกแรงดันกันไปมา พีเห็นแบบนั้นแล้วเลยพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน
“อ่า...ทั้งสองคนใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
ตึ่ง ตึง ตึ้ง!
เสียงระฆังของโรงเรียนดังขึ้น ทำให้คู่ที่กำลังทะเลาะหยุดชะงัก
“คาบแรกจะเริ่มแล้วนี่หน่า!” เฟียน่าปล่อยมือออกจากทอมมี่ แล้วไปคว้าแขนพีลากไปทางเข้าโรงเรียน “ขอตัวคนนี้ไปก่อนล่ะนะ!”
“เฟียน่า! พีจังของผมหน่า!”
“แบร่”
เฟียน่าแลบลิ้นใสทอมมี่ทิ้งท้าย ก่อนที่จะพาพีเข้าโรงเรียนไป ทอมมี่รีบวิ่งตามไปติดๆ
“ยัยบ้าเฟียน่า! เอาพีจังของผมคืนมา”
[ปัจจุบัน]
‘ให้ตายสิ นิสัยฉันตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันเกินไปจนขนลุกตัวเองเลยแฮะ’
พีที่ยืนระลึกความหลังอยู่ใต้ต้นซากุระหน้าโรงเรียนส่ายหัวก่อนที่จะมีคนเอาของมาให้จากทางข้างหลัง
“พายแอปเปิ้ลผสมสับปะรดของโปรดของพีจังมาแล้วครับ”
พีหันกลับไปรับของจากทอมมี่ที่เจ้าตัวอาสาไปซื้อร้านโปรดของเขาแถวๆ นี้มาให้
“ขอบใจนะ”
“แหม๋ๆ พีจังล่ะก็ ไม่ต้องพูดก็ได้ ขอเปลี่ยนเป็นหอมแก้ม---“
“อ๋อ เอาเท้าฉันหอมบนหน้านายเหรอ?”
“อ่า...ไม่เล่นก็ได้แล้วครับ พีจังนะ...ไม่ค่อยเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“อ๋อ...แค่แมนๆ ขึ้นมาเพศตัวเอง มันผิดด้วยเหรอ?”
“เปล่าๆ ครับ ไม่ผิดหรอก แต่...ชอบแบบเก่ามากกว่า”
‘แบบเก่าเหรอ...’
พีเริ่มคิดพิเรนขึ้นมา เลยทำท่าคล้ายผู้หญิง บิดเอว เสียงเล็ก พูดออดอ้อน
“งืม...ทอมมี่ล่ะก็ ทำให้ฉันเขินนะ...” แล้วพีก็เปลี่ยนเป็นท่าทางเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว ”ถ้าให้ฉันพูดแบบนั้นบ่อยๆ ฝันไปเหอะ!”
“ง่ะ! เอาแบบเมื่อกี้คืนมาเหอะครับ ผมขอร้องล่ะ”
“ไปหาแถวอื่น ไป๊!”
ระหว่างที่สองคนกำลังพูดคุยอย่างสนุกก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินมาทางใต้ต้นซากุระ พีหันไปมองก็พบกับสาวผมสีแดงสั้น นัยน์ตาสีแดงที่แฝงไปด้วยความเศร้าและสับสน ใส่ชุดลูกไม้สีดำกระโปรงยาวที่แผ่นหลังที่ดาบไม้ไผ่สะพายอยู่
‘เฟียน่า...ไม่ใช่สิ อิลลูชั่น’
เธอคนนั้นเดินเข้าใกล้จนเห็นทั้งสองคนอย่างชัดเจนและแสดงท่าทางไม่คาดคิดว่าจะได้พบกัน เลยเอ่ยทัก
“พวกนาย!?”
◊◊◊
“ไม่อยากจะเชื่อความรู้สึกนี้เลย...”
อิลลูชั่นเอ่ยขึ้นมา ซึ่งเธอกำลังเงยหน้ามองบนท้องฟ้าสีครามบนม้านั่งใกล้สวนน้ำพุที่มีรูปปั้นรวงข้าวทั้งหกเส้นที่พาดกันเป็นกากบาก ภายในโรงเรียนซิสเซล โดยมีทอมมี่และพีนั่งติดอยู่คนละข้าง
‘ตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่า เธอรู้สึกยังไงกับเรื่องของตัวเองกันแน่?’
พีคิดในใจแล้วเผลอจ้องมองดวงตาคู่สีแดงของเธอนานไป จนเจ้าตัวรู้สึกตัว
“นี่ฉัน...ทำให้นายคิดถึงเธอคนนั้นหรือเปล่า?” อิลลูชั่นหมายถึงเฟียน่า
“ก็...คิดสิ...หน้าเหมือนกันซะขนาดนี้จะไม่คิดได้ไง” พีว่าตามตรง
“ขอโทษนะ ที่ทำให้นายทั้งสองคนลำบากใจนะ”
“ไม่เลย...” ทั้งพีและทอมมี่ว่าพร้อมกัน
“เอาหน่า ฉันรู้ว่าพวกนายคิดยังไง ก็เราเคยเรียน...” อิลลูชั่นรู้สึกตัวได้เลยหยุดกลางคัน “ฉัน...ขอโทษ...เผลอนะ...เผลอคิดว่าความจำในหัวมันเป็นของฉัน...เลย---“
“ไม่เป็นไรหรอก” พีว่า
“ไม่เป็นไร!?” อิลลูชั่นขึ้นเสียงสูง “อย่าโกหกได้ไหม? ฉันขอร้องล่ะ...ตอนนี้ช่วยซื่อสัตย์กับฉันที่กำลังจะบ้าหน่อยเหอะนะ...ขอร้องล่ะ”
เธอพูดอ้อนว้อนด้วยน้ำตาคลอเบ้า
‘อิลลูชั่น นี่เธอ...’
“อ่า...ฉันขอตัวก่อนดีกว่านะ”
ทอมมี่เห็นท่าทางไม่ดี เลยลุกขึ้นจะหนี แต่แล้วก็โดนอิลลูชั่นจับชายเสื้อดึงนั่งลง
“แกไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น...อยู่ให้ฉันด่าให้สาสม...” อิลลูชั่นชะงักอีกครั้ง “ไม่นะ...ทอมมี่ ขอโทษนะพูดเหมือนว่าสนิทกัน...ฉัน...ไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดีแล้ว”
“เธอ...”
‘ทำยังไงดีน่า...’
ทั้งพีและทอมมี่อยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปล่อยให้ผู้หญิงที่สับสนกับความทรงจำของตนเองนั่งซึมต่อไป...จนทอมมี่พูดบางเรื่องขึ้นมา
“นี่...ยังจำได้ไหมครับ? ว่าตอนที่เรียนมอปลาย ตอนพักกลางวัน พวกเราชอบมานั่งกินข้าวกล่องตรงนี้บ่อยๆ นะ”
“...จำได้” พีตอบ
“แล้วเธอล่ะ?” ทอมมี่ถามอิลลูชั่น
“ฉัน!?” อิลลูชั่นชี้ตัวเอง
“จำได้ไหมละครับ?”
อิลลูชั่นกระดิกนิ้วพักหนึ่ง แล้วค่อยพูดออกมา
“...ที่ตรงนี่...ใช่ จำได้สิ”
“แล้วที่โรงยิมตรงนู้ล่ะครับ?” ทอมมี่ถามอีก
“อ๋อ ที่พวกเราชอบไปดูคนซ้อมบาส...จำได้” อิลลูชั่นว่า
“และก็สระว่ายน้ำตรงนั่นล่ะครับ?”
“...วิชาว่ายน้ำ...จำได้แม่นเลยล่ะ ทอมมี่ นายกว่าจะว่ายน้ำเป็นได้จมน้ำไม่รู้กี่ครั้ง ลำบากให้ฉันช่วย...ขึ้นมาบ่อยๆ”
“แล้วที่สวนดอกไม้ตรงนั้นล่ะครับ?”
“อ๋อ...ที่ฉันชอบปลูกดอกป๊อปปี้”
“หือ? ไม่ใช่ดอกกล้วยไม้เหรอครับ?” ทอมมี่ถาม
“เหอะๆ ป่านนี่นายยังจะเชื่ออีกเหรอ?” พีถาม “ตอนนั้นฉันกับเฟียน่าตั้งใจหลอกนายนะ เพราะเธอกลัวว่านายจะไปแกล้งเด็ดดอกไม้ออกไปล่ะ”
“จริงดิ!?” ทอมมี่ตาโต “ว่าแล้วเชียว ทำไมผมแอบเด็ดดอกนั่นมาไปชูในห้องทุกครั้ง แล้วโดนเจ้าหัวหน้าห้องไล่ตีเอาเกือบทุกที”
“ก็นั่นมันของหัวหน้าห้องเขานิหน่า จะไม่ไล่แกได้ไงล่ะ ฮ่าๆ” พีบอก
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”
อิลลูชั่นหัวเราะ แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะตาม จนเธอเริ่มหัวเราะด้วยน้ำตาแทน
“อิลลูชั่น...เป็นอะไรหรือเปล่า?” พีถาม
“เปล่าค่ะ...เหมือนกับว่าฉันกำลังมีความสุขกับความทรงจำของคนอื่นอยู่...รู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้”
“ก็ดีแล้วนิ” พีพูด
“หือ?”
“มันดีแล้ว...ที่เธอมีความสุขกับมันนะ ฉันมั่นใจว่าเฟียน่า...อ่า...หมายถึงเฟียน่าตัวจริงนะ อยากให้เธอมีความสุขกับมันนะ”
“ทำไมล่ะ? เธอคนนั้นยังโกรธฉันอยู่แน่ๆ” อิลลูชั่นพาลนึกถึงเรื่องที่เฟียน่าทำร้ายเธอหลายวันก่อน
“ไม่หรอก ยัยนั่นไม่ได้โกรธ...เธอก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่เหรอ นิสัยของเธอกับตัวจริงนะ”
“...อือ...ที่จริง ฉันก็รู้อยู่...แต่มันแปลกๆ นะ เรื่องนี้มัน...พูดยาก...แต่ที่แน่ๆ ฉันทำให้เธอต้องตายนะ พี”
อิลลูชั่นเริ่มโทษตัวเองอีกครั้ง
“ไม่---” พีจะปฏิเสธเรื่องของเธอ แต่ถูกอิลลูชั่นขัด
“บอกแล้วไง อย่าโกหกฉัน...ถ้าฉันไม่ไปที่นั่นล่ะก็ เธอคนนั้นคงไม่ต้องตายแบบนั้น”
“งั้นก็ได้...” พีเล่นตามเธอ ”เธอมีส่วนให้ทำให้เฟียน่าต้องตาย...แต่ฉันและทุกๆ คนก็มีส่วนรวมกันนั่นแหละ”
“ไม่ๆๆ ฉันคนเดียว ฉันต้องรับผิดชอบบาปนี้นะ แต่ฉันยังไม่รู้จะชดใช้ยังไงให้สาสมดี”
‘ชดใช้บาป...
เดี๋ยวก่อนนะ...หลายปีก่อน เธอเคยพูดเรื่องนั่นตอนโดนขังนี่หน่า...
เฟียน่า...ฉันหวังว่าจะเดาเรื่องที่เธอพยายามใบ้ให้ฉันถูกนะ’
และแล้วพีก็เสนอเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“บาปงั้นเหรอ? ก็พอมีหนทางอยู่นะ ที่จะชดใช้บาปของเธอที่ก่อได้บ้าง”
“หึ? มีเหรอ? คงต้องใช้มันด้วยชีวิตของฉันสินะ”
“นั่นมันหนีบาปต่างหาก” พีว่า “เธอนะต้องชดใช้บาปนี้ไปตลอดชีวิต”
“อือ...ฉันรู้ เชิญบอกมาได้เลย จะให้ฉันทำยังไงก็ได้ ยอมเป็นทาสนายก็ยังได้”
“ความทรงจำไง...แบกรับความทรงจำของเฟียน่าทั้งหมดไว้”
“หา!?”
“ความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้เธอมานะ...เธอต้องรักษามันไว้ให้ดี ทั้งเรื่องดีและร้าย ฉันว่ามันเป็นวิธีเดียวที่เฟียน่าต้องเห็นดีด้วยแน่ๆ”
“ทำไมล่ะ?” อิลลูชั่นถาม
“เพราะยัยนั่นนะ...เคยพล่ามเรื่องแปลกๆ ให้ฉันตอนที่โดนขังอยู่ในโรงเก็บของที่โรงเรียนที่นี่เมื่อสองปีก่อน ว่า... ‘ถ้าเธอคนนั้นเกิดขึ้นมาจริงๆ อยากให้เธอ...ช่วยรักษาความทรงจำทั้งหมดแทนไว้หน่อย...ว่ามันดีแค่ไหนที่รู้สึกแบบนี้นะ’ ”
พอพีพูดเรื่องเก่านี้ขึ้นมา อิลลูชั่นตาโตเอามือกุมหน้าและปล่อยน้ำตาไหลและร้องสะอื้นมาเยอะที่สุดเท่าที่พีเคยเห็นมา
“ฉันว่านั่นต้องเป็นข้อความเดียวที่ส่งถึงเธอแน่ๆ” พีว่า “ที่ฉันฟังเฟียน่าบ่นก็ไม่รู้หมายถึงอะไร นึกว่าซ้อมบทชมรมละครเวที่ที่ยัยนั่นอยู่...แต่คงเป็นอย่างที่ฉันว่าตอนแรกนั้นแหละ”
“ใช่...ใช่เลยล่ะ จำได้แล้ว...จำเรื่องของเธอได้ทั้งหมดจริงๆ เรื่องที่มันถูก...”
“ดีแล้วที่จำได้นะ แต่อาจจะมีบางเรื่องที่คนของไฮเทคอัพเปอร์เอาออกไป...”
“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงว่า...ความทรงจำที่เหลือที่มันขาดหายไปนะ...ฉันรู้สึกมาตลอดเวลา มันมีอะไรบางอย่างหายไป พอนายพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา มันเหมือนเป็นคีย์เวิร์ดปลดล็อคในหัวฉัน...ทั้งความทรงจำที่เป็นเรื่องจริงและความรู้สึกจริงๆ มันเข้ามาในหัวฉันเพียบเลยตอนนี้...ฮื้อ!!”
อิลลูชั่นเข้าสวมกอดที่เอวของพี
‘โห้ยๆ มันเรื่องอะไรเนี่ย?’
‘-เรสเทียร์ว่า คนที่ทำเรื่องเกี่ยวกับความทรงจำของเธอ คงเก็บความทรงจำบางส่วนไว้ในส่วนลึกล่ะค่ะ-’
เรสเทียร์ที่แอบอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา กระซิบบอกในใจ
‘หมายความว่าไง?’
‘-ก็เหมือนเราดึงความจำบางส่วนไปเก็บในห้องที่มีกุญแจ แล้วคำพูดของพี่หญิงประโยคนั่นเป็นกุญแจที่ไขกล่องความทรงจำของคุณเฟียน่าออกมาให้คุณอิลลูชั่นตรงนี้ได้รับรู้ค่ะ-‘
‘...ซับซ้อนจังแฮะ’
พีถอนหายใจ ปล่อยให้อิลลูชั่นร้องไห้อยู่บนตัวเขาสักพัก ทอมมี่บอกเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องไป
“เอ่อ..ทั้งสองคน เดี๋ยวได้เวลาที่นัดกันแล้ว”
“อ๋อ จริงสิ เราต้องไปที่นั่นนี่หน่า” พีว่าตาม
“ฮือ...อือๆ” อิลลูชั่นลุกขึ้นมานั่งเช็ดน้ำตา
“งั้นเรารีบไปกันเลยดีกว่า เดี๋ยวไม่ทัน”
ทอมมี่ลุกขึ้นเดินนำไปก่อน แล้วอิลลูชั่นหันมายิ้มกว้างและจับมือของพีไว้แน่น พาเขาลุกขึ้นพร้อมๆ กันและเดินคู่กันไป
‘เธอเป็นอะไรเนี่ย!? จู่ๆ มาจับมือฉันไว้ซะแน่นเชียว แล้วยังจะยิ้มแบบนี้อีก’
ทั้งสองคนเดินออกนอกโรงเรียนไปยังรถแท็กซี่ที่ทอมมี่จอดไว้อยู่ ทั้งคู่ขึ้นตามไป แต่แล้วพีนึกเรื่องบางอย่างออก บอกทอมมี่ที่เป็นคนขับ
“ทอมมี่! รอนี่แป๊ปหนึ่ง ขอไปเอาของที่สวนดอกไม้ในโรงเรียนก่อน”
◊◊◊
[08:45] [07/01/2058]
[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ต้นไทรบนเนินเขา ‘บลาสต์-5’ (Blast-5)]
‘ที่แห่งนี้...คือสถานที่ๆ เฟียน่าชอบมาบ่อยๆ
ต้นไทรบนเนินเขาใกล้โรงเรียน...
มันมีเพียงอยู่ต้นเดียวที่สูงใหญ่และอยู่บนสุดของเนินเขาลูกนี้
จากตรงนี้มองเห็นวิวเมืองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แม้จะไม่ได้สูงมากมายเท่ามุมวิวจากบนตึก แต่สถานที่ชมวิวที่มีป่าไม้นี่ กลับมีเพียงแห่งเดียวใน Area TH ที่เจ็ดเขตกลาง
ทุกๆ วันศุกร์เธอมักจะพาฉันและทอมมี่มาที่นี่ ไม่ก็วันว่างๆ ชวนปิกนิค ณ ที่แห่งนี้
เหตุผลที่ทำให้เธอชอบที่นี่...ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้แน่ชัด
แต่ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ เธอจะเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ราวกับว่าเธออัดอั้นหลายเรื่องราวไว้มาระบายที่นี่
บางทีฉันถามอิลลูชั่น เธออาจจะรู้ก็ได้นะ รู้จากความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้มา...เพราะตอนนี้ฉันเห็นสีหน้าของเธอตอนนี้สบายอกสบายใจมากกว่าที่เคยเห็นมา...เว้นซะแต่เพียงว่า ข้างๆ ต้นไทรตรงหน้าพวกเรานั้น มีก้อนหินที่สลักชื่อ ‘เฟียน่า’ ไว้อยู่ แม่ของเธอ คุณเฟลิกซ์กำลังก้มตัวลูบก้อนหินก้อนนั้นราวเป็นตัวแทนของลูกสาวเธอ
ใช่ เฟียน่าเคยบอกกับฉันไว้ว่า หากเธอตาย ช่วยฝังศพเธอไว้ที่ใกล้ๆ ต้นไทรที่นี่ เธออยากจะอยู่ตรงนี้ มองเห็นวิวจากใต้ต้นไทรนี่ได้ตลอดเวลา มองเห็นทุกๆ คนที่อยู่ในเมืองที่นี่
แต่น่าเสียดายที่หาศพของเธอไม่เจอ อาจจะสลายไปพร้อมกับการปูระเบิดรอบที่สองของโดรนเครื่องบินนั่น...ฉันและคนอื่นๆ ทำได้เพียงทำสัญลักษณ์ตัวแทนของเธอไว้ที่นี่
หวังว่าคงไม่โกรธกันนะ เฟียน่า...
ฉันยังรู้สึกใจหายอยู่กับการจากไปของเธอ
มันกระทันหันมากไป...จนตั้งรับไม่ทัน...ไม่มีกระทั่งน้ำตาที่จะไว้อาลัยจากฉัน
เป็นเพราะฉันห่างกับเธอหลายปีมาเหรอ? แต่นั้นคงไม่ใช่เหตุผลหลักแน่ๆ
ฉันคงต้องหาคำตอบนี่ต่อไป...
แต่ฉันก็เห็นความเศร้าโศกเสียใจจากคนรอบตัวเธอแล้ว ทั้งคุณเอริสที่ร้องซะเหมือนเด็ก เหม่ยซิงก็...มีบ้าง ด็อกเตอร์ซิสเหมือนจะใจนิ่งพอสมควรและนักวิจัยผู้ชายอีกสองคนกอดคอร้อง ซึ่งฉันลืมชื่อไปแล้ว ส่วนแม่ของเฟียน่าที่อยู่ใกล้ๆ ก้อนหินใต้ต้นไทรคนเดียวนั่น...ยังคงยิ้มอยู่ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเธอพยายามฝืนความรู้สึกตัวเองไว้มาก
ส่วนอิลลูชั่น...’
พีมองอิลลูชั่นที่อยู่ข้างตัวด้านซ้ายของเขา สายตาของเธอเหมือนกำลังลังเลอะไรสักอย่าง
‘ไม่แปลกหรอกที่จะลังเล แต่นะ...ตอนนี้มันน่าจะมีเธอคนเดียวแล้วล่ะ ที่ช่วยแม่ของเฟียน่าได้’
เขาตบไหล่ของอิลลูชั่น
“หือ?”
“เธอ...เข้าไปหาสิ”
“...ฉันว่าอย่าดีกว่า...”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ฉัน...ไม่ใช่คนในครอบครัวเธอนิ”
“ใครว่าล่ะ จำที่เฟลิกซ์พูดเมื่อวานไม่ได้แล้วเหรอ”
“...อือ”
“และก็นะ...ถ้าเฟียน่ายังอยู่...ไม่ใช่สิ เธอนะ น่าจะรู้อยู่แล้วว่านี่เป็นโอกาสที่ช่วยเฟียน่าเรื่องหนึ่งได้นะ”
เหมือนอิลลูชั่นจะเข้าใจสิ่งที่พีพูด พีตบไหล่ของเธออีกครั้งแล้วดันตัวเธอไปข้างหน้า และเธอก็เดินตรงไปหาเฟลิกซ์ พวกเขาทั้งสองเริ่มพูดคุยกัน แต่พีและคนอื่นๆ ไม่ทราบถึงเรื่องที่สนทนากัน เพราะอยู่ไกลเกินไป
‘ปล่อยให้สองคนนั้นคุยกันตามลำพัง...ดีแล้ว แต่ว่าฉันไม่แน่ใจ อิลลูชั่นที่ทำท่าเกลียดร่างต้นแบบตัวเอง ตอนนี้ทำไมถึงอาลัยอาวอนล่ะ? ความทรงจำที่เฟียน่ามอบให้เธอต้องมีอะไรแน่ๆ’
“พีจัง ผมควรรู้สึกยังไงดี?”
จู่ๆ ทอมมี่ที่ยืนอยู่ด้วยกันถาม
“รู้สึกยังไง? เสียใจสิ”
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น...มันไม่เหมือนกันนะครับ...คือ...ยังไงดีล่ะ เฟียน่าก็เป็นผู้หญิงที่ห้าวเอาแต่ใจ ชวนทะเลาะนู้นี่นั่น แกล้งกันโคตรจะบ่อย และยัง...หึ...ฮือๆๆๆๆๆๆ!”
และแล้วบ่อน้ำตาของทอมมี่ก็แตกจนได้ เข้ามากอดคอพี
‘ให้ตายสิ...หมอนี่มัน...’
พีไม่รู้สรรหาคำเรียกนิสัยของทอมมี่ยังไงดี แต่แล้วเขามองไปยังใต้ต้นไทรอีกครั้ง เห็นเฟลิกซ์กำลังโบกมือเรียกเขา
‘เรียกเราเหรอ?’
พีจะเดินไปหา แต่ติดที่ทอมมี่ยังกอดเขาแน่นเลยเรียกคนใกล้ๆ มาช่วย
“คุณเอริสครับ”
“ค่ะ!? ฮือๆ” เธอยังน้ำตาแตกอยู่
“ฝากเพื่อนผมคนนี้หน่อยครับ”
“อ่า..ฮือ ได้ค่ะ”
เอริสและพีพยายามแกะตัวทอมมี่ออกมาจนได้...แล้วพีก็เดินไปยังใต้ต้นไทรที่มีผู้หญิงผมแดงทั้งสองคนอยู่ ในใบหน้าของเฟลิกซ์มีรอยคราบน้ำตาอยู่
“มีอะไรเหรอครับ? คุณเฟลิกซ์”
“ฉันอยากจะกล่าวขอบคุณเธออีกครั้งนะ พี”
เฟลิกซ์ก้มหัวลง พีตั้งหลักไม่ทันเลยถาม
“ขะขะขอบคุณเรื่องอะไรครับ!?”
“ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับเฟียน่าและอิลลูชั่น เด็กคนนี้นะ” เฟลิกซ์ลูบหัวอิลลูชั่น “เธออุตสาห์เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงมากมาย”
“ไม่หรอกครับ...ถ้าจะให้ดี ผมน่าจะช่วยเฟียน่าไว้ได้...จากมือสไนเปอร์นั่น”
“อือๆ ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอก พี” เฟลิกซ์เสยผมขึ้นแล้วมองออกไปทางเมือง ณ เบื้องล่าง “รู้ไหม หลายปีก่อนที่พวกเธอเรียนอยู่ด้วยกันนะ เฟียน่ามักจะเล่าเรื่องสนุกๆ ที่โรงเรียนให้ฟังนะ...ทั้งๆ ที่เด็กนั่นไม่เคยเป็นแบบนั้นมาก่อน”
“หมายความว่ายังไงครับ?”
“จะว่ายังไงดีล่ะ...พอรู้ๆ มาบ้างว่าสถานที่ก่อนเฟียน่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เธอไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีสักเท่าไหร่”
“ที่ไหนครับ?”
“Area JP ป้อมปราการลอยฟ้าชินโคเซ็นนะ”
‘ชื่อสถานที่นี้อีกแล้ว อยู่ที่ Area JP งั้นเหรอ?’
พีเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนที่จะฟังเรื่องจากเฟลิกซ์ต่อ
“ฉันรู้อยู่แค่นั้นล่ะนะ...แต่ยังดีที่มีพ่อของเธออยู่ด้วยนะ เลยใช้ชีวิตที่นั่นได้ไม่มีปัญหา”
“พ่อของเธอ? จริงสิครับ พ่อของเฟียน่าที่เมื่อวานเธอพูดถึง...”
“อ๋อ...เขาตายไปไม่กี่ปีนี่เองล่ะ...ตายในหน้าที่...เวิลด์เจเนรัลนะ เฟียน่าเลยอยากเดินตามรอยพ่อของเธอ แอบเข้าเป็นอาสาสมัครกองกำลังของเวิลด์เจเนรัล กว่าแม่คนนี้จะรู้เรื่องก็ปีที่แล้วนี่เอง เฮ้อ ฉันเป็นแม่ที่แย่จริงๆ”
เฟลิกซ์เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
“อย่าโทษตัวเองไปเลยครับ...เฟียน่ามาเห็นคงไม่ชอบใจแน่ๆ”
“นั้นสินะ” เฟลิกซ์เหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างที่มือของพีเลยถาม “พี นั่นมัน...”
พีก้มลงมองตาสายตาของเฟลิกซ์ ที่มือขวาของเขามีต้นกล้าป๊อปปี้อยู่ เขาก็เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังจะถาม
“ต้นป๊อปปี้...” เฟลิกซ์ว่า “ดอกไม้โปรดของเฟียน่า”
พีก้าวไปข้างหน้าสองครั้ง แล้วย่อตัวลง วางต้นกล้าป๊อบบี้ตรงหน้าก้อนหินขนาดใหญ่ที่สลักชื่อเฟียน่าเป็นภาษาอังกฤษไว้อยู่ เขาใช้มือขุดดินใกล้ๆ และปักต้นกล้าป๊อบบี้ลงไป แล้วเขาก็เอามือซ้ายลูบที่ก้อนหินก้อนนั้น และเริ่มพูดถึงเฟียน่า
“เฮ...เฟียน่า ฉันมาแล้วนะ ถ้าเธอได้ยินล่ะก็...ฉันขอโทษ...เรื่องที่ฉันโวยใส่เธอเมื่อหลายปีก่อนนะ และก็เรื่องที่ฉันไม่คุยกับเธออีกเลย...หลายๆ เรื่องเลยล่ะ ฉันไม่รู้จะพูดเรียบเรียงยังไงดี...แต่พอมาได้เจอเธออีกครั้ง...ฉันรู้ได้เลยว่าเธอนะ อยากถามฉันมากมาย แต่เธอเลือกที่จะไม่ถาม...เพราะอะไรเหรอ? เฟียน่า...ฉันอยากรู้...ตอนแรกกะว่าหลังจากกลับจากเหมืองนั่นจะชวนเธอมาคุยกัน...ที่...นี่...สัก...หน่อย...”
น้ำตาพีเริ่มไหล แต่น้ำเสียงเขายังปกติดี
“...แต่เธอนะ...หนีไปโลกอื่น...ซะแล้วสิ...แย่จังแฮะ...”
เฟลิกซ์วางมือของเธอลงบนไหล่ข้างขวาของพี เขาหันไปถามเฟลิกซ์ทั้งน้ำตา
“เฟียน่าขี้โกงใช่ไหมครับ? หนีไปคนเดียว...ขี้โกงมากๆ...ขี้โกง...ที่สุด”
“ใช่ ขี้โกงสุดๆ เลยล่ะ”
เฟลิกซ์พูดแล้วลงมาคุกเข่าเข้ากอดปลอบพี แต่กลายเป็นว่าเธอร้องไห้ไปด้วย ส่วนอิลลูชั่นที่อยู่ใกล้ๆ ได้แต่ยืนดูพวกเขาร้องร้ำไห้ เพราะไม่กล้าที่จะทำอะไร ผ่านไปสักพัก พอพีและเฟลิกซ์ตั้งสติได้ ก็ลุกขึ้นมาปัดน้ำตาออกไป...และพีก็ถามอิลลูชั่นเรื่องหนึ่งเพราะเพิ่งนึกถึงคนๆ หนึ่งที่เขายังไม่เห็นหน้า
“แล้วโซตะล่ะ?”
“อ๋อ นอนอยู่ในรถของด็อกเตอร์ซิสล่ะ...เมารถนะ”
“งืม...แล้วเรื่องยาถอนพิษนั่นละเป็นไงบ้าง”
“เท่าที่ลองตัวยาเมื่อวาน...ฉันกับโซตะใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้วล่ะ”
‘ดีแฮะ...ถือว่าไม่ศูนย์เปล่า’
พีคิดอย่างงั้นแล้วถามเรื่องของโซตะต่อ
“เอ่อ...จริงสิ เธอบอกว่าโซตะเป็นน้องชายของเธอ...เป็นน้องชายของเฟียน่าเหรอครับ?”
“เปล่าๆ ไม่ใช่หรอก โซตะนะเป็นน้องชายบุญธรรมที่พวกฉันรับเลี้ยงไว้นะ เด็กคนนั้นเป็นน้องชายของผู้หญิงคนหนึ่งที่ให้ดาบนี่มานะ”
อิลลูชั่นบอกเรื่องที่พีไม่เคยได้ยินเป็นครั้งแรก แล้วเอี่ยวตัวเล็กน้อยให้เห็นดาบไม้ไผ่ที่มีรอยร้าวที่ปลายดาบ...ดาบนี้มีพลังแอบแฝงอยู่
“งั้นเหรอ? งืมๆ”
“แต่นะ เดี๋ยวฉันกับโซตะต้องกลับไปที่ Area JP ไปตรวจร่างกาย” อิลลูชั่นเอ่ย
“หือ? หมายความว่า...เธอต้องไป...จากที่นี่?”
“ใช่ ถึงฉันกับโซตะจะได้รับยาถอนพิษนั้นแล้ว แต่อยากให้แน่ใจนะ ว่ามันหายดีแน่ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เลยต้องไปใช้เครื่องที่นั่นตรวจ”
“อ๋อ...ไปเมื่อไหร่ล่ะ”
“ก็อีกสามชั่วโมงนี่แล้ว”
“หา!? ทำไมไวจังนักล่ะ”
“ต้องรีบไปก่อนที่พวกเวิลด์เจเนรัลจะมานะสิ ไม่อย่าเสียเวลาผ่านกระบวนรักษาความปลอดภัยของเจ้าพวกนั้น อีกอย่างยิ่งไปตรวจร่างกายไวๆ ให้มันแน่ใจเลย จะได้หายห่วงนะ”
‘เวิลด์เจเนรัล!?
เออ...ฉันลืมซะสนิท...เห็นว่าใกล้จะมาถึง Area TH ที่เจ็ด แล้วนี่หว่า’
“งั้นนักวิจัยพวกของเธอ---“ พีถามถึงนักวิจัยคนอื่นๆ
“ก็ไปกันหมดนั้นแหละ...เฮ พี ฉันมีเรื่องจะบอกนะ”
อิลลูชั่นเดินเข้าใกล้พีในระยะประชิดมาก
“เรื่องของเฟียน่านะ”
“เฟียน่า!?”
“มีเรื่องหนึ่ง...ฉันคิดว่าเธอคนนั้นอยากให้ฉันบอกนายนะ”
อิลลูชั่นดันปลายเท้าตัวเองยกสูงขึ้น เพื่อให้กระซิบข้างหูซ้ายของพีได้สะดวก
“เฟียน่านะ...ชอบนายมากเลยนะ...”
‘ชอบ!?’
พีได้ยินถึงกับตาโต แต่เรื่องที่อิลลูชั่นจะบอกยังไม่หมด ซึ่งทำให้พีรู้สึกประหลาดใจ
“และฉัน...อาจจะ...ชอบนายด้วย...”
พอเธอบอกเสร็จผงะถอยออกมาส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้พี...และเธอก็กล่าวลาเฟลิกซ์ แต่พีไม่ได้ตั้งใจฟังว่าเธอพูดอะไร แล้วอิลลูชั่นจะมุ่งหน้าไปสบทบกับนักวิจัยที่เหลือที่ขึ้นรถรออยู่ แต่แล้วพีตะโกนเอ่ยถามเรื่องหนึ่งขึ้นมา
“เดี๋ยวก่อน...ถ้าเราได้เจอกันอีก ให้ฉันเรียกเธอว่าอะไร?”
ผู้ที่ถูกถามหยุดก้าวเท้าไปชั่วครู่ ก่อนที่พูดถึงชื่อตัวเอง
“อิล...อิลลูชั่น”
เธอเอ่ยนามแล้วโบกมือลาโดยไม่หันมาสบตา แล้วพีก็เห็นเอริสกำลังโบกมือลาเขา แน่นอนว่าพีก็โบกมือลาแบบงงๆ ส่วนเหม่ยซิงเห็นเธอเอาปากนิ้วตัวเองแล้วเขยิบตาข้างหนึ่งให้...ทำให้พีรู้สึกเสียวสันหลังวาป ก่อนที่รถสีเทาคันใหญ่จะแล่นออกลับสายตาไป และพีก็คิดถึงคำพูดอิลลูชั่นทิ้งท้ายไว้
‘เฟียน่า ชอบฉัน?
อิลลูชั่น อาจจะชอบฉัน?
โห้ยๆ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?’
‘-เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะค่ะ พี่หญิง-’
เรสเทียร์แซวผ่านทางจิต
‘เหอะๆ ฉันยังไม่เข้าใจเลย ว่ายัยนั่นหมายถึงอะไรกันแน่...เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ ตะกี้เธอว่าเสน่ห์แรง!?’
‘-ก็มีผู้หญิงมาบอกชอบผู้ชาย จะให้คิดยังไงล่ะค่ะพีหญิง-’
‘แต่ฉันใช้ผู้ชายปกติซะที่ไหนกันเล่า’
‘-อย่างพี่หญิงไม่นับค่ะ-’
‘นับเหอะ...’
‘-ง่ะ!-’
“ผู้หญิงพวกนั้นแรงเยอะชะมัด”
ทอมมี่เดินบ่นมาสบทบ
“ฮ่าๆ เอาหน่าๆ ถ้านายหาแฟนก็หาให้ได้แบบนั้นนะ”
“ไม่เอาครับ! แค่พีจังก็พอ---”
“หยุดเลย...ฉันฟังคำนั้นจนเลี่ยนแล้ว”
“โห...พีจังล่ะก็...”
“พวกนาย...”
เฟลิกซ์เรียก ทั้งคู่เดินเข้าไปข้างๆ เธอ
“ว่าไงครับ คุณเฟลิกซ์” ทอมมี่ถาม
“ไม่ว่าอะไรหรอก...อยากจะบอกว่า...อีกไม่กี่วันนี้ ทั้งงานฉันและพวกเธอจะหนักขึ้นหลายเท่าตัวนะ เตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง”
“งานหนัก?” พีทวน “อ๋อ หมายถึงเวิลด์เจเนรัลใช่ไหมครับ?”
“ใช่...การมาของเจ้าพวกนั้น...จะสร้างความวุ่นวายให้ Area TH ที่เจ็ดนี่มาก ยิ่งข่าวลือบ้าๆ นั้นด้วย ที่ว่าจะเปลี่ยนให้เป็น Area WG โดยเจ้าพวกนั้นจะลงมาดูแลเมืองนี้กันเอง”
“ถ้ามันเป็นอย่างงั้น มันจะเป็นยังไงเหรอครับ?” ทอมมี่ถามอีก
“ฐานอำนาจการดูแลมันจะสั่นคลอนไปหมดเลยไง ช่วงที่กำลังผลัดเปลี่ยนอำนาจนะ...ความวุ่นวายเกิดแน่ๆ ก็ต้องรอดูว่าเวิลด์เจเนรัลจะดำเนินการได้เร็วแค่ไหน ถ้ามันเป็นจริงตามข่าวลือนะ”
“งั้นคุณเฟลิกซ์ล่ะ จะเป็นยังไงต่อ?” พีถาม
“ฉันเหรอ? ก็เหมือนเดิม เดี๋ยวพอลงจากการเป็นหัวหน้ารักษาการณ์แทน ก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่เอ็มแอลเอกระจอกๆ คนหนึ่ง จะได้มีเวลาว่างเยอะขึ้นหน่อย...แล้วนายล่ะ พี จะทำยังไงกับชีวิตตัวเองต่อไป ได้คิดหรือเปล่าว่าถ้าความแตกขึ้นมาจะทำยังไง?”
“ความแตก?” พีทวน
“ใช่...ฉันว่าอีกไม่นานนี่ล่ะ จำไม่ได้หรือไง ว่าด็อกเตอร์ลากัซรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร...แต่ยังดีหน่อยที่เป็นเจ้านั่น...เรื่องก็เลยยังไม่แดงขึ้นมาตอนนี้...ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่า ตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผยเมื่อไร...ถ้าให้ฉันเดา คงหนึ่งปีนะ”
“ทำไมต้องหนึ่งปีล่ะครับ?”
“คือ...ฉันรู้สันดานของลากัซดี” เฟลิกซ์เกาหัว “...เจ้านั่นมักจะเตรียมการวางแผนนานมาก กว่าจะทำอะไรสักอย่าง...”
‘อ๋อ...งั้นฉันคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้แล้วสินะ’
พีถอนหายใจอย่างหมดแรง เฟลิกซ์เห็นแล้วตบไหล่เขาอีกครั้ง
“เอาหน่า เอาหน่า ถ้ามันเกิดแดงขึ้นมาจริงๆ ฉันจะช่วยเธอเอง...ก็เธอเป็นคนสำคัญของเฟียน่ากับอิลลูชั่นเหมือนลูกชายของฉันคนหนึ่งนี่นา ใครหน้าไหนจะมาทำร้ายเธอ แม่จะยิงพรุนให้หมดเอง ฮ่าๆ”
‘โห้ยๆ ปรับอารมณ์ตามไม่ทันจริงๆ แฮะ
เดี๋ยวนะ คนสำคัญของเฟียน่าและอิลลูชั่น...สองคนนี้ไปพูดอะไรกับคุณเฟลิกซ์ไว้ล่ะเนี่ย?’
ระหว่างที่พีคิด ก็มีลมพัดมาทางพวกเขาทั้งหมด
“ลมที่นี่แรงดีตลอดเลยนะครับ” ทอมมี่ว่า
“เฟียน่าคงจะชอบที่นี่มากจริงๆ” เฟลิกซ์ว่าตาม
‘ใช่...เธอเคยบอกว่า ที่นี่เหมือนเป็นสวรรค์น้อยๆ ของเธอ’
พีคิดในใจก่อนที่จะยกมือขึ้นมารับลม...ดอกป๊อบปี้ที่อยู่ตรงหน้ากองหินที่สลักชื่อคนหนึ่งไว้ มันฟลิ้วไหวตามสายลมพัดไปมา ราวกับว่ามันชอบสถานที่แห่งนี้เช่นเดียวกันกับเพื่อนสำคัญของพีคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เฟียน่า’
◊◊◊
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 11 [สถานที่ที่เธอชอบ]’ นะจ๊ะ
หว่า..แย่จัง เรื่องของผู้หญิงทั้งสองคน ‘เฟียน่า’ และ ‘อิลลูชั่น’ บทนี้ก็จบลงแล้วสิ
อิลลูชั่นและพรรคพวกด็อกเตอร์ซิส กลับ Area JP
ส่วนพี ทอมมี่ เฟลิกซ์ และคนอื่นๆ ยังคงเผชิญหน้าชะตากรรมของ Area TH ที่เจ็ดต่อไป
แล้วเวิลด์เจเนรัลจะมาถึงแล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ?
โปรดติดตามตอนสุดท้ายของ EP.1 ที่มีชื่อว่า ‘ปัจฉิมบท EP.1 Two Weeks Beginning [Another Future]’
เมื่อพลังจิตผงาดทั่วโลก การผจญภัยอันแสนวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น!
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ