P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
เขียนโดย Spy442299
วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 4 [กับดัก]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความP.P. Rising: The Bullet Time
เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก
- Ch.27 อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 4 [กับดัก]
Rewrite V.3
◊◊◊
[ห้านาทีต่อมา]
‘โห้ยๆ นี่มันไม่ใช่ที่ผลิตยาแล้วนะ’
พีกับต้นที่เดินเข้ามาในตึกหนึ่งที่น่าจะเป็นโรงงานผลิตยา แต่แล้วเข้ามาก็พบกับความว่างเปล่าซะส่วนใหญ่ แม้จะมีพวกลังไม้วางกระจายตามจุดต่างๆ บ้าง และลักษณะภายในแล้ว ไม่มีห้องแล็ปหรือที่ผลิตอะไรทั้งนั้น เป็นที่โล่งๆ
“คุณต้น” พีเรียก “เราว่าออกจากที่นี่กันเถอะค่ะ”
“เดี๋ยว...ผมว่ามันไม่ผิดที่นะ” ต้นยกมือซ้ายขึ้นกดปุ่มเครื่องสื่อสารที่ติดอยู่หูซ้าย “ไลพ์...ได้ยินไหม? ตอบหน่อย”
“ได้ยิน ได้ยิน” เสียงปลายทางที่พีได้ยินด้วยตอบกลับมา
“ที่นั่นเป็นไงบ้าง? ที่ผมมามันไม่มีอะไรเลย”
“หา!? ที่นี่ก็เหมือนกัน กำลังถามฝั่งนายอยู่พอดี...”
“หือ!? ที่เธอเข้าไปดูแล้ว?”
“ก็ใช่นั่นสิ อยู่ดีๆ มีคนเรียกให้ช่วย แต่เข้ามากับทอมมี่แล้วไม่เห็นจะมีใคร เลยเดินวนอยู่ในโรงงานผลิตยาเนี่ย...แต่มันดูไม่ค่อยเหมือนโรงผลิตยาสักเท่าไหร่”
“ทางนี้ก็เหมือนกัน” ต้นร้องซีด “ผมว่าเช็คมาแล้วไม่พลาดนะ เทล! ช่วยเช็ดทั้งสองที่อีกรอบหน่อย”
“ได้ครับ ขอสักครู่” เสียงเทลตอบกลับมาพร้อมเสียงพิมพ์คีย์บอร์ดรัวๆ “ตำแหน่งที่คุณต้นให้มา อิงกับ GPS ทั้งคู่แล้ว...ก็ตรงนะครับ”
“งั้นเหรอ?” ต้นว่า
“ต้น เดี๋ยวสักพักถ้าหาอะไรไม่เจอแล้วก็กลับไปซู่มดูที่เดิมต่อ---“
ไลพ์ยังพูดไม่ทันจบ มีเสียงทอมมี่ขัดจังหวะขึ้นมา
“ไลพ์! ระวัง!”
ทึ่ม! แค่กๆ แกร็กๆ
เสียงปะทะอะไรบางอย่างดังเข้าหูทั้งสองคน ต้นและพีแทบเอาเครื่องสื่อสารออกไม่ทัน ก่อนที่จะสวมกลับเข้าที่เดิมเพราะเสียงเงียบไปแล้ว ต้นรีบตะโกนเรียกผ่านทางเครื่องนั่นทันที
“ไลพ์! ไลพ์! ได้ยินผมไหม!? ไลพ์!”
“เจ๊!” เสียงเทลเรียก “ฮัลโหล เจ๊! ตอบหน่อยสิเจ๊ ฮัลโหลๆๆๆ”
“เทล เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่รู้เหมือนกันครับ กำลังพยายามติดต่ออยู่ สาย...มันขาด---“
เสียงปลายสายยังพูดไม่ทันหมดประโยค ก็ถูกตัดขาดเสียแล้ว
“อ้าว!? เทล! ได้ยินไหม?”
พีที่เห็นท่าไม่ดีเลยบอกให้ถอย
“เราว่ารีบกลับกันก่อนดีกว่า”
ทึ่ม!
เสียงเหล็กปะทะดังขึ้น เมื่อพีหันไปมองทางประตูบานใหญ่ที่เข้ามาก็พบว่าถูกปิดด้วยลูกกรงขนาดใหญ่แล้ว หน้าต่างและทางอื่นก็ค่อยๆ ปิดไล่กันไปจนไม่มีทางออกไปจากโรงงานผลิตยานี้ ต้นวิ่งไปขยับลูกกรง จนแล้วจนรอด ลูกกรงไม่ขยับสักนิด พีเลยเรียกพีทูลมของตัวเองขึ้นมาคลุมมือขวาลูกใหญ่
“ต้น ถอยไป!”
ต้นเห็นแล้วก็เดินถอยหลบทางซ้าย พีรวบรวมลมหายใจตนเอง ก่อนที่จะยกมือขวาขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปชกที่ลูกกรงเต็มๆ
แคร่ก!
เสียงตัวยึดเหล็กปะทะเข้ากับผนังของโรงงาน ซึ่งผลก็คือลูกกรงที่ปิดอยู่ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“ไม่ได้ผลแฮะ”
“ติดกับจนได้” ต้นเอามือขวาเกยหน้าผาก “เดี๋ยวมันต้องมีอะไรออกมาแน่ๆ”
และแล้วความคิดของต้นก็เป็นจริง เมื่อปลายสุดอีกด้านหนึ่งของโรงงาน ปรากฎไฟสีฟ้าสองดวง ก่อนที่มันจะเคลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ จนเห็นตัวตนที่แท้จริง เป็นหุ่นกระป๋องเหลี่ยมๆ สีเงิน มีตากลเหลี่ยมสีฟ้าขนาดใหญ่ และแขนขากลมๆ เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าสามเท่า ที่มือทั้งสองข้างมีแค่สามนิ้วที่ทำท่าหนีบจับวนวูปอยู่เรื่อยๆ และมีตราของไฮเทคอัพเปอร์ติดอยู่ที่ข้างลำตัว
“เจ้านั่นมัน...หุ่นของขนนิ?” ต้นเอ่ย
“รู้จักด้วยเหรอ?”
“พ่อฉันรับงานผลิตชิ้นส่วนให้ไฮเทคอัพเปอร์ ก็พอรู้อยู่บ้าง” ต้นถอนหายใจ ก็ที่เดินไปตรงหน้าหุ่นตัวนั้น “เจ้านี่ไม่เป็นอันตรายหรอก สงสัยมีคนลืมเครื่องทิ้งไว้ล่ะมั้ง”
สิ่งสุดประโยคนั้น ตาสีฟ้าของหุ่นขนของกลายเป็นสีแดงทันที แล้วพุ่งตัวใช้แขนซ้ายของมัน เข้าฟาดเข้าที่ต้นจนกระเด็นหายไปทางซ้าย
“ต้น!”
พีเรียกคนที่เพิ่งโดนฟาดไป แต่ไม่มีเสียงตอบรับ แล้วหุ่นขนของตัวนั้นหันมามองพี ทำให้เขาผวา แล้วมันก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวมา พร้อมทำมือขยำ
‘เฮ้ยๆ ไม่ดีแล้ว!’
◊◊◊
[มุมมองของทอมมี่]
“ย๊าก! เอานี่ไปกินซะ”
ทอมมี่ที่หลบอยู่ทางเดินบันไดเหนือหัว ได้ยินเสียงไลพ์ที่กำลังใช้พลังจิตควบคุมไฟจากไฟแช็คของเธอออกมาเป็นลูกใหญ่อยู่ด้านล่าง แล้วปัดให้ไปปะทะกับหุ่นยนต์เหลี่ยมๆ สองตัวที่ออกมาทำร้ายพวกเขาก่อนหน้านี้
“หัวหน้าครับ! ให้ช่วยไหม?”
“ทำอะไรก็ได้ เบนความสนใจสองตัวนี่ที!”
ไลพ์ตะโกนบอก ก่อนที่จะระดมลูกไฟต่อ แต่แล้วไฟแช็คที่ถืออยู่ จู่ๆ ก็จุดไม่ติด เธอรีบโยนทิ้งไป แล้วล้วงเอาไฟแช็คอีกอันที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่ในระหว่างนั้น หุ่นยนต์เหลี่ยมๆ หน้าโง่ๆ ทั้งสองตัวที่มีตาสีแดง เคลื่อนพุ่งเข้าหาไลพ์
‘แย่แล้ว!’
ทอมมี่ที่เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี รีบคว้าลังไม้ที่อยู่ข้างๆ ขว้างออกไปตัดหน้าทางหุ่นสองตัวที่กำลังไปหาไลพ์ และมันก็ได้ผล หุ่นทั้งสองตัวหยุดชะงักลง แล้วหันไปตีตัวยึดราวบันไดที่ทอมมี่อยู่ จนที่ๆ เขาอยู่พลิก 90 องศา ทำให้ทอมมี่ไถลลงมา แต่ก็คว้าราวจับใกล้มือทันและหันหลังให้ไลพ์ หุ่นขนของทั้งสองเบื้องหลัง กำลังพยายามเอื้อมมือที่แสนสั้นมาคว้าขาทอมมี่
“หัวหน้า!! ช่วยผมด้วย!!”
“รอแปป”
“รออะไรล่ะครับ!”
“ทำลูกไฟมหาประลัยอยู่ไง!”
ทอมมี่หันหลังไปมองก็เห็นไลพ์ที่อยู่ด้านหลังหุ่นขนของทั้งสองตัว และเธอถือไฟแช็คสองอันทั้งสองมือที่มีไฟไหลออกมารวมเป็นลูกใหญ่เมตรกว่าๆ ก่อนที่มันจะพุ่งไปถล่มเข้าด้านหลังของหุ่นทั้งสองตัวจนนอนไปพื้น แผ่นหลังของพวกมันถูกทำลายและมีกระแสไฟฟ้าช็อตอยู่เป็นระยะ ทอมมี่ตะเกียดตะกายปืนขึ้นที่เดิมจนได้ แล้วเขาก็รีบลงบันไดมาดูหุ่นสองตัวที่หมดฤทธิ์ ไลพ์ยกเท้าเตะเข้าที่หุ่น
“หุ่นพวกนี่มันอะไรกันเนี่ย!? เกราะหน้ามันทนไฟชะมัด แต่ข้างหลังโคตรเปราะ”
ปึ่ก!
ราวเหล็กที่ปิดกั้นพวกเขาทั้งสองสู่ภายโลกนอกถูกเปิดแล้ว และมีสัญญาณจากเทลเข้ามา
“ฮัลโหล! มีใครได้ยินผมไหม? เจ๊! เจ๊! ไม่นะ อย่าบอกว่าเจ๊ตายแล้ว!!”
“ยังย่ะ!” ไลพ์ขึ้นเสียง
“หา! เจ๊ยังอยู่ ผมดีใจมากเลยครับ ไม่นึกว่าเจ๊จะ---“
“เลิกเรียกเจ๊ได้แล้วย่ะ! ทำไมจู่ๆ ถึงติดต่อไม่ได้เนี่ย”
“ตรงแถวที่หัวหน้าอยู่ มีคลื่นรบกวนครับ” เทลบอก “อีกสองคนนั้นก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกันครับ”
“หา!? นานแค่ไหนแล้ว?” ไลพ์ถาม
“สิบกว่านาทีได้แล้วครับ”
“พีจัง!” ทอมมี่ร้อง “เทล! ส่งตำแหน่งอีกโรงงานมาให้ด่วนเลย ผมกับหัวหน้าจะรีบไปหา ไม่แน่สองคนนั้นอาจจะเจอเจ้าพวกนี่เหมือนกัน”
“นั้นสิ เทลจัดการให้หน่อย”
“ครับๆ” เสียงเทลตอบรับ ก่อนที่จะมีเสียงปุ่มคีย์บอร์ดรัวๆ “ส่งให้ในมือถือทั้งสองคนแล้วครับ”
“โอเค รีบไปกันเถอะค่ะ คุณพี่ทอมมี่”
ไลพ์ที่หันมาถามทอมมี่ แต่เห็นเขาวิ่งออกไปแล้ว
“เฮ้ย! รอด้วยสิ! ฉันขึ้นรถนายมานะ!”
ทั้งสองคนวิ่งออกจากโกดังที่ไม่ใช่โรงผลิตยาไป โดยที่ไม่รู้ว่า มีใครบางคนที่แอบดูพวกเขาอยู่ใกล้ๆ ไว้ผมสีแดงสั้น นัยน์ตาสีแดง เดินเข้ามาในโกดังแล้วก้มดูซากหุ่นยนต์ที่สองคนนั้นเพิ่งพังไป คนๆ นั้นเริ่มทำการรื้อชิ้นส่วนข้างในของตัวหุ่นยนต์ แสงจันทร์สอดส่องให้เห็นใบหน้าของเธอ...เฟียน่า
◊◊◊
[อีกด้านหนึ่ง โรงงานฝั่งตะวันออก]
‘ไอ้หุ่นบ้านี่ เกือบทำฉันแทบแย่’
พีที่ยืนดูหุ่นขนของของไฮเทคอัพเปอร์ที่ก่อนหน้านี่ จะเข้ามาทำร้ายเขาหลายรอบ ใช้พลังจิตควบคุมลมหลายครั้งก็ยังล้มหุ่นตัวนั้นไม่ได้จนเรสเทียร์แปลงร่างกลับเป็นมนุษย์ปกติ แล้วใช้ดาบสีขาวของเธอ แทงเข้าที่ส่วนหัวปักครึ่งดาบจนหุ่นตัวนั้นหมดฤทธิ์นอนกองกับพื้นไป เรสเทียร์กำลังสำรวจซากหุ่นยนต์อยู่ ส่วนเขาก็เพิ่งประคองตัวต้นที่สลบไปเพราะโดนฟาดเข้าจังๆ ออกมาจากกองลังไม้ที่รับร่างต้น
‘เจ้าหมอนี่ อยู่ดีๆ ก็เดินเข้าไปหาให้มันตบเล่นเฉยเป็นหัวหน้าการ์เดี้ยนได้ไงเนี่ย?’
พีคิดแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะสะดุ้งโหยงเพราะเห็นลำแสงสีแดงเตือนอันตรายพุ่งผ่านตัวเขามาจากข้างล่าง พีรีบหันไปมองก็พบกับกองไม้แผ่นใหญ่ที่อยู่ชั้นบน กำลังร่วงลงมาใส่
“โฟกัส!”
คราวนี้พีไม่ลังเลที่จะใช้มัน มีเสียงนาฬิกาเดินหนึ่งครั้ง แล้วทุกๆ อย่างรอบตัวช้าลงไปถนัดตา เขาค่อยๆ พาร่างของต้นที่ประคองไปก่อนหน้านี่เดินหลบไปทางซ้ายจนแน่ใจว่า ไม่โดนพวกแผ่นไม้หล่นใส่แน่ แล้วรอเวลากลับมาเป็นปกติ
พลาง!
กองไม้หล่นลงมากับพื้น เรสเทียร์ตกใจถอยหลังไปเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้อยู่ในระยะที่จะโดนไม้ทับ เรสเทียร์ตะโกนถาม
“พี่หญิง! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เปล่าๆ ไม่เป็นไร---“
พีหยุดชะงัก เพราะสายตาเขาดักไปเห็นคนหนึ่งที่อยู่แอบมองอยู่บนหลังคาผ่านรอยแตก เมื่อคนที่แอบดูรู้สึกตัวได้ว่าถูกมองเห็นเข้าแล้ว คนๆ นั้นรีบหลบออกไปทันที พีเดินประคองตัวต้นมาฝากที่เรสเทียร์
“เรสเทียร์ ฝากคนนี้หน่อย! เดี๋ยวฉันมา!”
“จะไปไหนคะ? พี่หญิง!”
‘มันต้องเป็นคนๆ เดียวกับที่ฉันเห็นในที่ประชุมการ์เดี้ยนแน่ๆ!’
พีสันนิฐานแล้ววิ่งไปจะออกทางด้านหลังโกดัง แต่แล้วต้องหยุด เพราะกรงเหล็กนั้นยังถูกปิดอยู่
“โธ่โว้ย!”
พีสบถออกมา ก่อนที่จะมองซ้ายขวาหาทางอื่น แต่ก็ไม่เจอ แล้วเขาเดินถอยหลังออกมาและเงยขึ้นมาหลังคา
‘ถ้าฉันใช้พีทูกระโดดขึ้นไป แล้วพังหลังคานี่ จะได้หรือเปล่านะ?’
พีเตรียมตัวจะลองทำบางสิ่งที่เขายังไม่เคยลอง แต่แล้วมีเสียงเหล็กดังขึ้นมา
ปึ่ก!
พีหันไปมองประตูหลังที่ถูกปิดด้วยกรงเหล็ก บัดนี้กลับไม่มีแล้ว
‘อ้าว? มันยังไงกันแน่เนี่ย?
ช่างเหอะ รีบตามคนนั้นไปก่อน!’
พีวิ่งออกมาจากประตูหลังโกดังเป็นผลสำเร็จ พอเขาออกมาได้ก็พบกับกำแพงลวดหนามยาว เขาวิ่งเรียบไปเรื่อยๆ จนออกมาตรงลานกว้าง มองรอบๆ ตัวก็ไร้วี่แววคนที่เขาเห็นบนหลังคา
‘หายไปไหนแล้ว!? บ้าจริง ฉันน่าจะใช้โฟกัสติดๆ กันจะได้ตามมันทัน...’
ระหว่างนั่นมีเสียงเข้าเครื่องสื่อสารข้างหู
“ฮัลโหล!? พี...ไอจัง! ได้ยินผมไหม? ตอนนี้กำลัง---“
“ทอมมี่!?” พีแปลกใจที่เครื่องสื่อสารติดต่อได้แล้ว
“คุณไอร่า! ทางนั้นเป็นไงบ้างคะ?” ไลพ์ถาม
“มีหุ่นยนต์เข้ามาทำร้าย ตอนนี้ต้นสลบไปยังไม่ได้สติเลย” พีตอบแล้วเดินตรงกลับไปยังโกดัง
“หา!? ไอ้หมอนั่น...ให้มันได้อย่างนี้สิ ถ้าให้เดา คงทะเลอทะล่าเข้าไปสินะคะ”
“ตามนั้นล่ะครับ” พีเดินเข้ามาถึงในโกดังแล้ว เห็นเรสเทียร์พยายามเขย่าตัวต้นอยู่บนพื้น “แล้วทางคุณเป็นไงบ้าง?”
“เหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ออกมาได้แล้ว กำลังตรงไปหาคุณไอร่า อีกไม่กี่นาทีจะถึง รอพวกเราก่อนนะคะ”
“ได้ๆ ครับ”
พีเผลอหลุดสรรพนามผู้ชายออกมา แต่เขาไม่สนใจอะไรแล้ว พีกดยุติสายข้างหูไป ก่อนที่จะมาดูอาการของต้น แขนซ้ายของคนที่สลบนั้น มีรอยม่วงซ้ำขนาดใหญ่
“เรสเทียร์ พอรู้อาการเขาหรือเปล่า?”
“อาการคงที่ค่ะ แต่แขนซ้ายน่าจะหัก” เรสเทียร์บอกก่อนที่หยบแผ่นไม้เล็กและเชือกที่อยู่แถวๆ นั่น มามัดประคองแขนซ้ายของต้นไว้ “ทำไว้แบบนี้ก่อนถึงโรงพยาบาลน่าจะดีที่สุด”
“เธอรู้เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ?” พีถาม
“มันอยู่ในหัวค่ะ พี่หญิง” เรสเทียร์ว่า “มันน่าหงุดหงิดอยู่นะคะ รู้ว่าทำอะไรได้บ้าง แต่ไม่รู้ว่าตัวเองไปจดจำมาได้ยังไง”
“เอาน่าๆ ค่อยเป็นค่อยไปล่ะกัน สักวันเธอคงจะนึกออกเองล่ะ...แล้วหุ่นยนต์ตัวนั้น---”
พียังพูดไม่ทันจบ เรสเทียร์ยื่นของเล็กๆ ชิ้นหนึ่งมาให้
“นี่ค่ะ เป็นเมมโมรี่ที่อยู่ข้างในหุ่นตัวนั้น...น่าจะมีตำแหน่งปลายทางอยู่”
“หมายความว่าไง?”
“เรสเทียร์เช็ดหุ่นตัวนั้นอย่างละเอียดแล้วค่ะ มันถูกควบคุมระยะไกล แสดงว่าต้องมีใครสักคนที่บังคับหุ่นพวกนี่โจมตีพี่หญิง ถ้าแกะรอยจากเมมโมรี่อันนั้นได้ น่าจะหาต้นตอเจอค่ะ”
“อ๋อๆ” พีเอื้อมมือหยิบเมมโมรี่รับไว้ “เดี๋ยวเธอช่วยฉันแบกคนนี้ไปข้างนอกที่เดิมหน่อย”
“ได้ค่ะ พี่หญิง”
แล้วทั้งคู่ก็ออกจากโกดังนี้ไป โดยที่มีกล้องที่ซ่อนอยู่ในโกดังจับตาดูพวกเขาอยู่
◊◊◊
[ปลายทางที่ควบคุมหุ่นยนต์]
[Area TH-7 เขตใต้, Blue Zone, สถานที่ : เป็นความลับ]
“พวกการ์เดี้ยน!”
เสียงบ่นหงุดหงิดหน้าจอคอนโทรลที่ปรากฎภาพของพีและเรสเทียร์กำลังแบกต้นออกไปจากโกดังของชายแก่ที่ไว้ผมสีขาว ตรงกลางหัวโล้น ยกเว้นด้านข้างที่ยังมีผมอยู่ มีหนวดเคราบ้าง
“ล่อเป้าหมายที่ต้องการไม่ได้สินะ ด็อกเตอร์”
เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นจากดังหลังในเงามืด คนที่ได้ตำแหน่งว่าด็อกเตอร์พูดต่อ
“อุตสาห์ส่งสารเตือนไปแล้ว ยังจะเข้ามาวุ่นวายอีก! แต่ได้เห็นของดีนั่น...ก็ถือว่าคุ้ม”
“ของดี!?”
“ก็เจ้าเด็กการ์เดี้ยนคนนั่นไง ที่โรงงานตะวันออก...”
ด็อกเตอร์พูดแล้วชี้ไปยังคนหนึ่งที่ไว้ผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า มีที่คาดตาปิดไว้อยู่ และกำลังต่อสู้หุ่นยนต์ร่วมกับสาวผมสีฟ้ายาวทรงทวินเทลที่ก่อนหน้านี่ยังอยู่ในร่างตัวเล็ก
“อ๋อ ก็น่าสนใจอยู่...”
“เดี๋ยวให้เหล่า SP ไปจับตัวทั้งสองคนนั้นตามแผนล่อต่อไป”
“งานนี้ขอฉันไปเองได้”
“หือ? จะออกโรงเองหรือ? ไม่ค่อยเห็นเธอออกตัวแบบนี้”
“บังเอิญค่ะ บังเอิญว่าคนในภาพอาจจะเป็นคนที่รู้จักกันดีก็ได้”
คนที่อยู่ในเงามืดจ้องมองพีที่อยู่ในภาพหน้าจอหน้าข้างหน้าด้วยสายตาที่หลงใหล
“รู้จัก!? เอาเถอะ จะไม่ถามว่ารู้จักกันได้ยังไง แต่งานนี้ให้เธอทำไม่ได้...เพราะเธอต้องไปที่คุก 412 นะ เจเนซิสไลท์ (Genesis Light)”
คนที่ถูกเรียกชื่อในเงามืดยกมือขวาขึ้นมาในระดับใบหน้า ทันใดนั้นแสงรอบๆ ตัวก็รวมกันเป็นก้อนลูกบอลสีขาวลอยอยู่บนฝ่ามือ ให้ความสว่างประมาณหนึ่ง พอปรากฎให้เห็นลักษณะคร่าวๆ ของเธอ ไว้ผมสีแดงยาวถึงเอว นัยน์ตาสีแดงและรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความลึกลับ แต่ยังคงไม่เห็นหน้าตาเธออย่างชัดเจน
“อ๋อ...จะให้ฉันไปขุดปากเวิลด์เจเนรัลคนนั้นเหรอคะ ด็อกเตอร์ลากัซ”
◊◊◊
[08:17] [05/01/2058]
[Area TH-7 เขตเหนือ, Blue Zone, โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง, ห้องพักที่ 304]
“หมอนี่ฟื้นยาก...อ่ะ ของเธอ”
ไลพ์ที่เพิ่งเดินเข้าห้องถือถุงที่มีกระป๋องน้ำต่างๆ มา บ่นหลังจากเห็นคนป่วยที่แขนหักนอนอยู่ เธอหยิบกระป๋องน้ำกาแฟร้อนให้พี
“ขอบคุณ...ค่ะ” พีรับมาแกะเปิดแล้วยกดื่ม ก่อนที่จะมองหาคนที่น่าจะมาด้วย “แล้วทอมมี่?”
“ฉันให้ไปรับเทลที่สำนักการ์เดี้ยนเขตเหนือนะ เตรียมกลับเขตกลางกัน”
“หือ? ไม่อยู่สืบต่อเรื่องนั้นแล้วเหรอคะ?”
“ฉันตัดสินใจแล้วว่า เรายุติเรื่องโรงงานไว้เพียงเท่านี้ดีกว่า ปล่อยให้ทางเอ็มแอลเอจัดการหาคนร้ายกันเอง เราจะได้ไม่ต้องมีคนเจ็บเพิ่มขึ้นมากกว่านี้...ปฏิบัติงานใต้ดิน ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกับการ์เดี้ยนอย่างเราๆ ซะจริงๆ”
พีรับฟังแล้วหันไปดูต้นที่นอนหลับใส่เฝือกแขนซ้ายไว้อยู่ คราวก่อนแกล้งเจ็บ แต่ครั้งนี้เจ็บจริง
“แล้วหุ่นพวกนั้นล่ะ?”
“โดนพวกไหนไม่รู้เก็บกวาดไปหมดแล้ว” ไลพ์บ่นเสียดาย “เผาทิ้งทั้งโรงงานไม่เหลือซากเลย”
“ฉันว่ามันไม่ใช่โรงงานด้วยซ้ำ เหมือนจะเป็นที่เก็บของมากกว่า”
“โดนหลอกงั้นเหรอ? งั้นคงต้องรอคนที่ให้ข้อมูลโรงงานมาตื่นซะก่อนละนะ”
ไลพ์พูดแล้วชี้นิ้วโป้งไปทางต้น แล้วเธอก็หยิบน้ำกระป่องรสส้มยี่ห้อซันชายน์มาดื่มและรสเผือกมาวางไว้ข้างๆ โต๊ะใกล้เตียงคนป่วย
“ของคุณต้นเหรอคะ?” พีถาม
“ใช่ๆ หมอนี่ชอบเผือกมาก ให้มันกินเผือกแทนข้าวเจ็ดวัน มันยังทำได้เลย คิดดูสิ หมอนี่มันแอบเพี๊ยนหนักอยู่เหมือนกัน ยังไม่รวมว่าเวลาไป---”
“เหมือนที่เขาว่ากันว่า” พีเกิดรู้สึกอยากแซวขึ้นมา “คุณกับต้นเคยคบหากัน คงเป็นจริงๆ สินะคะ”
ไลพ์แทบสำลักน้ำส้มที่เธอดื่มออกมา
“คุณไอร่า---“
“แหมๆ เรื่องนี้ไม่ต้องปิดบังหรอกค่ะ...เราก็เป็นผู้หญิงด้วยกันนิ” พีแอบเนียน
“ก็...” ไลพ์หน้าแดงขึ้นมา “มันเป็นอดีตไปแล้วค่ะ คุณไอร่า รสนิยมหมอนี่มันห่วยแตกสิ้นดี”
“แต่ก็ชอบใช่ไหมละ?” พีหรี่ตาลง
“ก็! ก็...ก็มัน...”
“ความรักมันไม่มีเหตุผลแน่นอนใช่ไหมละคะ? งั้นโอกาสที่คุณสองทั้งคนจะรีเทิร์นกลับมาก็คงมีอยู่บ้างไหมหนอ?”
‘นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย? อารมณ์คึกครืนสมัยมอปลายกลับมาอีกแล้วสินะ ฮ่าๆ’
พีที่ยิงคำถามไปทางไลพ์ก็ยังสับสนกับตัวเอง
“รีเทิร์น!?” ไลพ์สาวที่มีบุคคลตาตี่กลับตาโตขึ้นมา “ไม่มีท่าเป็นแบบนั้นหรอกค่ะ คุณไอร่า ถึงจะ...คิดๆ อยู่บ้างว่ามันจะมาง้อ...แต่คงเป็นไปไม่ได้ล่ะค่ะ นิสัยมันเป็นอีแบบนี้ คุณไอร่าเลิกพูดถึงได้แล้วค่ะ”
“โอเคค่ะ โอเค ฉันจะไม่พูดถึงเรื่องนี่อีกแล้ว แต่ถ้ามีข่าวดีเมื่อไร อย่าลืมบอกกันนะคะ”
แล้วพีก็เผลอหยอดลงท้าย
‘การแซวภาษาผู้หญิงนี่มันสนุกจริงๆ ฮ่าๆ’
“ไม่มีท่าเป็นแบบนั้นหรอก!” ไลพ์ยกมือ
“โห้ยๆ มันก็ไม่แน่เสมอไปนะคะ...”
“ถูกอย่างที่พี่หญิงพูดค่ะ” เรสเทียร์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อพี เพิ่งตื่นออกมาแจม “เรสเทียร์อยากรู้ว่า ครั้งแรกที่สองคนชอบกัน นี่มันยังไงคะ?”
“ชอบกัน!? งั้นเหรอ!? ไม่เห็นจะ...มีตรงไหนเลยนิ”
ไลพ์หน้าแดงจัด เอานิ้วชี้สองข้างจิ้มกันไปมา ก่อนที่คนรู้เรื่องที่สุดจากบนเตียงพูดออกมาแทน
“สวนสาธารณะคริส”
“หือ?”
ไลพ์ที่ไม่คาคคิดว่าจะได้ยินเสียงจากคนป่วย หน้าแดงจัดกว่าเดิม
“ต้น!? ตะตะตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ก็...สักพักหนึ่งได้แล้ว นานพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“ได้ยินหมดเลยสินะคะ” พีช่วยเสริม “แหม ได้จังหวะดีเลย”
“ที่นายได้ยินก่อนหน้านี่ มันเป็นแค่ฝัน! จำไว้!!”
“ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ ลิซ”
ต้นที่เรียกใครบางคนขึ้นมาที่พีไม่รู้จัก แต่เหมือนจะหมายถึงไลพ์ที่อยู่สภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“นายไม่มีสิทธิเรียกชื่อนั้นแล้วนะ!”
“งั้นก็ทำให้ผมมีสิทธิแบบนั้นอีกครั้งสิ”
“นาย!”
เหมือนว่าต้นจะชอบใจกับอาการของไลพ์ที่ลุกลี้ลุกลนอยู่ตอนนี้ แต่เขากลับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียดอย่างรวดเร็ว เหมือนรับรู้อะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเอ่ยขอร้อง
“นี่ ทั้งสองคน ช่วยไปหลบหลังม่านตรงหน้าต่างก่อน”
“หือ? ทำไม?” ไลพ์ถาม
“มีคนกำลังจะมา...ผมอยากให้ทั้งสองคนได้รู้อะไรบางอย่างด้วย”
“แล้วทำไมต้องแอบด้วย?” ไลพ์ถามเหมือนเดิม
“ขอร้องล่ะ ถ้าไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่มีวันรู้หรอก...ผมต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้มันจบๆ กันไปสักที”
“นี่นายเอาจริงใช่ไหม?”
“อือ”
“งืม คุณไอร่า มาด้วยกันค่ะ”
และแล้วพีก็โดนไลพ์ลากเข้าหลังม่านสีน้ำตาลที่อยู่ทางขวามือของต้น แล้วไลพ์ทำช่องไว้แอบดูได้ สักพักมีคนเดินเปิดประตูเข้ามา เป็นคนๆ เดียวกับเมื่อวานที่เดินสวนออกจากห้องไป ถ้าไม่จำผิด เขามีชื่อว่า ‘พีช’
“อ้าวไง? พีช” ต้นเอ่ยทัก
“ยังไม่หายดีอีกหรือครับ?” ทางนั้นก็ถามกลับเช่นกัน
“ก็ยังนะ แล้วนาย มาทำอะไรที่นี่?”
“ก็มาเยี่ยมหัวหน้าไงครับ”
“ไม่ใช่ นายมาทำอะไรที่ Area TH ที่เจ็ดนี่?”
“ก็มาช่วยตามคำสั่ง---”
“แต่ผมสั่งแล้วว่า ให้นายประจำการอยู่ที่ Area TH ที่หกไว้---“
“ก็ผมอยากมานี่น่า!”
“เลยขัดคำสั่ง!?” ต้นว่า “ผมคงเป็นหัวหน้าไม่ดีพอสินะ ถึงได้มีลูกน้องที่ไม่เชื่อตามคำสั่ง”
“คงเป็นแบบนั้นจริงๆ ล่ะครับ”
“หือ?”
“ก็คุณนะ ไม่สมควรเป็นหัวหน้าจริงๆ”
พีชพูดแล้วหยิบมีดปอกผลไม้ที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมา ทำให้พีใจหายวาป
‘เฮ้ย!’
◊◊◊
คุยกับคนเขียนกันนะ >_<
จบลงไปแล้วสำหรับบท ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 4 [กับดัก]’ นะจ๊ะ
ในที่สุดการตามสืบเรื่องราวคนร้ายเผาโรงผลิตยาก็จบลงด้วยความล้มเหลว
แล้วหุ่นยนต์ที่เข้ามาทำร้ายพีและการ์เดี้ยนเป็นของด็อกเตอร์ลากัซงั้นหรือ?
แล้วเจเนซิสไลท์ เป็นใครล่ะ? ทำไมรู้จักกับพี?
แล้วพีชที่เป็นลูกน้องของต้น เอามีดมาจ่อตัวหัวหน้าของเขาเองทำไม?
โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า ‘อิลลูชั่น (illusion) บทที่ 5 [เบาะแส]’
ถ้าชอบก็ Comment ให้กำลังใจกันบ้างเน้อ 1 Comment เท่ากับล้านกำลังใจเลย ฮ่าๆ
By Spy442299 & Nattanan Srising
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ