P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  49.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 4 [Red]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch. 14 เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 4 [Red]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

[17:02] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, บ้านพักของเฟียน่า]

 

“แม่หนุ่มน้อย...เธอแน่ใจนะ ว่าจะเข้าไปที่นั่น?”

           

เหม่ยซิงถามพีด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ตอนนี้เขาอยู่ในห้องรับแขกใกล้ทางออกจากบ้านที่มีเฟียน่า รัมเบิลและซันเตหุ่นยนต์ลูกปิงปองลอยได้ ส่วนเรสเทียร์เพิ่งเดินตามเอริสนักวิจัยอีกคนไปไหนก็ไม่รู้ พีพยักหน้าตอบรับยืนยันคำตอบ

               

“ครับ ก็มันเป็นทางเดียวที่จะรู้เรื่องเมงุมิได้นี่น่า”

“นายจะหาเรื่องใส่ตัวทำไม” เฟียน่าที่นั่งอยู่บนโซฟาถาม “ตอนนี้ตัวนายเองก็โดนเพ่งเล็งอยู่”

“คิดว่าคงไม่แล้วล่ะ” พีว่า “เห็นในเน็ตว่า ตั้งแต่มีไอ้แร่คริสตัลชายน์บิ๊กนั่นผุดขึ้นมา เรื่องตามหาตัวฉันแทบจะหายไปเลยนิ”

“นั่นมันกระแสสังคม” เฟียน่าว่าก่อนที่จะเห็นด้วยบางส่วน “แต่ข่าววงในดูเหมือนจะให้ความสำคัญนายน้อยลง ถ้าอยู่นิ่งๆ เงียบๆ สักเดือนสองเดือน คงจะเลิกสนใจนายไปเอง...พี ทำไมถึงได้สนใจเมงุมินั่นอะไรมากนัก คงไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาสินะ”

 

คำถามจ้องจับผิดออกมาจากปากเฟียน่า พีที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยโกหกไป

 

“เธอคิดมากไปแล้ว เฟียน่า...”

“เปลี่ยน...”

“หา?” พีขมวดคิ้ว

“นายเปลี่ยนไปมากจริงๆ” เฟียน่าส่ายหัวแล้วหาแนวร่วม “นี่รัมเบิล เหม่ยซิง สมมติว่ารู้จักคนหนึ่งที่พูดน้อยสงบเจียมตัวสุภาพสุดๆ เป็นคนๆ เดียวกับตรงหน้านี่...คิดว่าไง”

“ผ่านเรื่องไม่ดี...” รัมเบิลที่ผิงผนังอยู่เดาก่อนที่จะตาโต “เฮ! อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องที่เธอเคยพล่าม---”

“หุบปาก!”

 

เฟียน่าค้อนสายตาใส่รัมเบิล พีเห็นท่าทางทั้งสองคนที่ดูเหมือนจะพูดเกี่ยวกับตัวเขาเก็บเอามาคิด

 

‘โห้ยๆ เรื่องอะไรกันเนี่ย?’

 

เหม่ยซิงจิมกาแฟแล้วสานต่อกลับเข้าเรื่อง

 

“เอาล่ะ แล้วเธอรู้หรือยังว่าจะไปศูนย์วิจัยย่อยฝั่งตะวันออกหาอะไร”

“นี่ล่ะครับที่อยากรู้ เลยอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”

 

เหม่ยซิงหรี่ตาลงเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่างแล้วยิ้มตอบ

 

“ปกติฉันไม่ยอมใครง่ายๆ นะ แต่สำหรับหนี้ที่ติดเธอไว้...ถือว่ายอมช่วยล่ะกัน แม่หนุ่มน้อยของฉัน”

 

◊◊◊

 

[17:42] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตเหนือ, Blue Zone, ประตูทางเข้าคฤหาสน์ตระกูลมาราคอฟ]

 

“ต้องขอบคุณท่านทอมมี่มากเลยนะขอรับ...ไม่คิดว่าจะมีวันนี้”

 

ชายแก่ผมหนวดสีเทาอายุห้าสิบโค้งตัวขอบคุณในชุดสูทดำ มือซ้ายของเขาถือผ้ากันเปื้อนสีขาวไว้อยู่ ทอมมี่มองแผ่นหลังมิสที่ถูกหญิงคนใช้คฤหาสน์ทรงโมเดิร์นพาเข้าไปจนลับสายตา

 

‘เฮ้อ...เรื่องของเด็กนี่จบลงได้สักที ยื้อมาเป็นปี’

 

ทอมมี่คิดเช่นนั้นก่อนที่จะหันหลังกลับเตรียมขึ้นรถของเขาเอง แต่ลุงชุดสูททักเรียกก่อน

 

“เดี๋ยวก่อนครับ! กระผมมีสิ่งขอตอบแทน”

“อ่า...ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ต้องการหรอก” ทอมมี่ส่ายมือ

“นี่ครับ ไวน์องุ่นชั้นดี” ชายแก่ไม่ได้ฟังที่เขาพูด ยื่นขวดไวน์ที่มีฉลากสีขาวเขียนตัวเลข ‘1982’ ไว้ “คุณได้ลิ้มรสมันต้องถูกใจแน่ๆ”

“อือ...เฮ้อ...ขอบคุณครับ” ทอมมี่รับของแล้วนึกอะไรออก “เออ! จริงสิ...ลุงไม่ได้อยู่กับคานะหรือครับ”

“ฮ่าๆ ปกติต้องตามติดตลอดล่ะครับ แต่เพราะยังคุมพลังจิตไม่คล่อง เลยไปไหนไกลๆ ไม่ได้ละครับ”

 

ชายแก่พูดเช่นนั้น ทอมมี่คิดว่าที่ตามติดไม่ได้คงเป็นเพราะรอยแผลที่ขาลุงแน่ๆ

 

‘พลังจิตของลุงคืออะไร’

 

ทอมมี่ตั้งคำถามในใจ แต่เอ่ยปากถามอีกเรื่องที่เขาสนใจมากกว่า

 

“ยัยนั่นหนีไปไหนอีกล่ะครับ”

“คุณหนูไปที่ชินโคเซ็นครับ”

“หือ? ชินโคเซ็น...ที่นั่นกำลังวุ่นวายอยู่นี่ครับ”

“ใช่ครับ ผมว่าคุณหนูต้องรู้สึกผิดเรื่องเมื่อเดือนก่อนแน่ๆ เลยอาสาไปช่วยคนที่นั่น”

“ก็ดีแล้วครับ ทำแบบนั้นสมเป็นการ์เดี้ยนแล้ว...ถึงจะอู้งานบ่อยๆ ก็เหอะ”

“ฮ่าๆ คุณหนูวัยกำลังโตก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ” ชายแก่ว่า “งั้นกระผมขอตัวไปพบคุณหนูมิส มาราคอฟ ก่อนนะครับ”

“ครับ”

 

และแล้วชายคนรับใช้ชุดสูทเดินกลับเข้าเขตคฤหาสน์ ประตูรั้วพลังงานสีฟ้าใสปรากฎขึ้นต่อหน้าทอมมี่ เขาเดินถอยหลังดูสภาพคฤหาสน์โดยรวม เขาเดินกลับขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างหน้า เตรียมตัวสตาร์ทรถแต่หางตาเขาดันไปเห็นสิ่งที่วางอยู่บนเบาะที่นั่งข้างคนขับเป็นถุงใส่วัตถุดิบทำอาหารต่างๆ มากมาย

 

‘แย่ล่ะ ลืมให้ยัยเฟียน่า...ป่านนี้หิวตายหรือยังก็ไม่รู้’

 

◊◊◊

 

 

[18:22] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ร้านอาหารฟาร์สฟู๊ดแห่งหนึ่ง]

 

‘ให้ตายสิ ไหงลากหมอนี่มาเกี่ยวด้วยล่ะเนี่ย’

 

พีคิดพลางๆ ตัวเขาใส่หมวกแคปและแว่นตาสีดำแล้วยกชาขึ้นจิมหลังทานมื้ออาหารเสร็จ จ้องมองรัมเบิลที่นั่งอีกด้านของโต๊ะ ชายผมส้มไว้ยาวประมาณหนึ่ง นัยน์ตาสีเขียวและเพิ่งสังเกตว่าที่ติ่งหูมีตุ่มหูสีทองอยู่ด้วยกำลังทานสเต็กสองจานอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนเรสเทียร์กำลังยืนเลือกเมนูอาหารตรงหน้าเคาเตอร์ไกลๆ อยู่

 

‘ไม่ได้กินอะไรหลายวันหรือไงเนี่ย...จะว่าไปแล้วทั้งวันฉันก็เพิ่งได้กินข้าวตะกี้ ยังรู้สึกไม่อิ่มเลยแฮะ แต่เดี๋ยวต้องไปออกแข้งออกขากับไฮเทคอัพเปอร์แล้ว’

 

พีย้อนนึกถึงเหตุการณ์ช่วงกลางวัน ในระหว่างที่เขากำลังเอาของทำข้าวมื้อเที่ยงกลับไปยังบ้านเฟียน่า ได้เจอกับเด็กสาวชื่อว่า ‘มิส’ ที่ลากเขาไปเจอกับเรื่องวุ่นๆ แล้วพบกับนักฆ่าที่ถูกจ้างวานโดยพวกไอริส ที่รู้เพราะหลังจากที่เฟียน่าใช้พีทูให้ซันเตที่ถือมีดไฟฟ้าบินล่องหนแอบเข้าหลังช็อคจนสลบไป ได้ค้นตัวพบกับข้อความจ้างวานในเครื่องมือถือที่มีข้อมุลม่านตาของพี (เลยต้องปลอมตัวใส่แว่นใส่หมวก) ซึ่งเขายังไม่รู้ว่าทำไมต้องอยากฆ่าเขาให้ตายนัก แต่ถ้าเป็นนาธานที่เคยปะทะ...คงเป็นไปได้ เมื่อชั่วโมงก่อนพีเลยลองเช็คข่าวเกี่ยวกับนาธานทำให้พบความจริง...

 

‘มันยังไม่ตาย...บาดเจ็บสาหัส

 

แต่เรื่องที่หุ่นยนต์แมงมุมสีแดง SP-4341 พูดไว้เกี่ยวกับคำสั่งใหม่บางอย่างว่ามาจาก ‘นายใหญ่’ อีก ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเป็นใคร แม้พยายามหาข้อมูลในเน็ตและพวกเฟียน่าแล้วก็ยังไม่รู้อยู่ดี

 

‘ทำไมถึงอยากฆ่าฉันมากนักล่ะ...เอาเถอะ ตอนนี้เรื่องนั้นยังไม่ด่วนมากถึงกับต้องคิดตอนนี้ ตราบใดที่ฉันยังซ่อนตัวก็คงปลอดภัย...แต่ไม่ใช่คืนนี้’

 

พีที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อยจึงไม่รู้ตัวว่าถูกรัมเบิลจ้องแล้วเอ่ยบางเรื่องขึ้นมา

 

“นายมีดีอะไร เฟียน่าถึงหลงนายได้ขนาดนี้”

 

คำถามที่ถูกยิงมาไม่ทันตั้งตัวเกือบทำน้ำชาที่เพิ่งกลืนลงพุ่งออกมา

 

“ตะกี้ว่าอะไรนะ” พีขอทวนคำถาม เอาผ้ากันเปื้อนเช็ดปาก

“อ่า...เปล่า ไม่มีอะไร ผมแค่พูดไปเรื่อยเปื่อย”

“อ๋อเหรอ ว่าแต่ทำไมนายถึงอยากช่วยฉัน”

 

พีถามแล้วหรี่ตาลง การที่เขาถามแบบนั้นเพราะหลังจากปรึกษาเหม่ยซิงกับเฟียน่าได้ความว่า ภายในตึกศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ที่อยู่ระหว่างเขตกลางและเขตตะวันออกของ Area TH-7 ที่เดียวกับที่จะไปขึ้นเครื่องบินเจ็ทเมื่อวานก่อน แต่ถูกพวกไอริสที่นำโดยซิสเซอร์เทเรซ่าขัดขวาง

สถานที่นั้นเหม่ยซิงบอกว่ามีเครื่องเซิฟเวอร์ที่เข้าข้อมูลถึงบันทึกการสื่อสารอัตโนมัติลอกไฟล์ (Log File) ของพวกบอดี้การ์ดไฮเทคอัพเปอร์ ซึ่งน่าจะเช็คได้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนเครื่องบินที่เมงุมินั่งระเบิดได้บ้างเลยส่งข้อมูลแผนผังภายในตึกมาให้และเพราะเหตุนั้นเฟียน่าถึงได้อยากตามมาด้วย เห็นว่าไม่อยากให้ไปคนเดียว แต่ด้วยสภาพที่เดินไม่ค่อยถนัดจึงถูกเหม่ยซิงห้ามปรามและถูกต่อว่าเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่หนีมาช่วยพวกเขา รัมเบิลจึงอาสามาแทน

ส่วนเหตุผลที่เขาอาสามานั้น...คืออยากไถ่โทษที่พาตัวอันตรายซึ่งหมายถึงเซย์จูโร่นักฆ่าที่มีเป้าหมายมาสังหารพีและเฟียน่ามาถึงที่ ถึงกระนั้นพีมั่นใจว่ามันต้องมีเรื่องอื่นแอบแฝงอยู่แน่ๆ รวมถึงเรื่องที่เฟียน่าอยากตามมา

 

‘ฉันชักจะสงสัยล่ะ ว่าทำไมฉันมาเจอเรื่องบ้าๆ ไม่หยุดไม่หย่อนแบบนี้ด้วย เหมือนพวกตัวเอกในหนังนิยายชะมัด’

 

“อ่า...เฮ! ฟังผมอยู่หรือเปล่า”

 

รัมเบิลเรียกพีที่จมปลักความคิดในหัวให้ได้สติ

 

“ห๊ะ หา? ตะกี้นายว่าอะไรนะ”

“ผมบอกว่า ก็พูดไปแล้วไงว่าอยากทำไถ่โทษนะ ที่ทำให้นายตกอยู่ในอันตราย”

“อ๋อ...แค่นั้นแน่นะ”

“แน่สิครับ”

“มันแปลกๆ อยู่น่า จู่ๆ มาช่วยคนแปลกหน้าอย่างฉัน” พียังคงสงสัยเหมือนเดิม

“เพื่อเฟียน่าผมทำได้ทุกอย่างล่ะครับ”

 

คำตอบของรัมเบิลกวนใจเขาเล็กหน่อย ก่อนที่จะเข้าใจคำตอบนั้น

 

“นี่นาย...ชอบเธอ?” พีถามตรงๆ

“คงว่างั้นได้ครับ แต่ยังมีคู่แข่งที่ได้แต้มเหนือกว่าเลยอยากรู้จักให้มากขึ้นอีก”

 

‘คู่แข่ง? แล้วมาจ้องฉันทำไมเนี่ย...เฮ้ย!’

 

พีคิดแบบนั้นจึงรีบปฏิเสธ

 

“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอก”

“อ๋อ...ผมเข้าใจล่ะ เฟียน่าชอบข้างเดียว” รัมเบิลเออออเอง “นั่นก็มากพอแล้วครับที่จะเป็นศัตรูหัวใจของผมแล้ว”

 

‘สรุปจะมาช่วยหรือตืบฉันล่ะเนี่ย’

 

พีหนักใจขึ้นมา เรสเทียร์เดินถือถาดอาหารที่มีเนื้อหมูพูนๆ อยู่สองจานเข้ามานั่งข้างเขาแล้วออกความเห็น

 

“ร้านนี้มีของน่ากินหลายอย่างเลยเนอะ พี่หญิง”

“มาเข้าเรื่องดีกว่า” พีเปลี่ยนเรื่อง “จะเริ่มแอบเข้าไปตอนสี่ทุ่มทาง---”

 

ป๊าง!

 

เสียงอะไรบางอย่างกระทบกับกระจกใสของตัวร้านที่อยู่ใกล้ ทั้งสามคนหันไปถึงกับตกใจเพราะคนที่เอาทั้งลำตัวแนบกระจกใสอยู่คือเทเรซ่าในสภาพที่มอมแมมไปทั้งตัวและมีไม้เท้าประจำกายสะพายหลังไว้อยู่ เธอส่งเสียงแหบแห้ง

 

“รัมเบิล...”

 

[ห้านาทีผ่านไป]

 

“ดูไม่ได้เลยนะ เทเรซ่า”

 

รัมเบิลเอ่ยถึงเทเรซ่าที่กำลังสวาปามข้าวกับน้ำสี่จานไม่ยั้งข้างๆ ตัว ไม้เท้าวางไว้ข้างตัว พีนั่งอ้าปากค้างเพราะไม่คาดคิดว่าจะเห็นแม่ชีในสภาพนี้และเรสเทียร์ที่เพิ่งไปเอาเมนูใหม่มาอีกจานยกมือขึ้น

 

“ค่อยๆ กินก็ได้ค่ะ”

“ห๊ะ? โทษนะ พอดีไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว...” เทเรซ่าดื่มน้ำจนหมดไปอีกแก้ว “ขอน้ำอีก!”

“อ่า ค่ะ” เรสเทียร์รับแก้วแล้วลุกเดินออกไป

 

‘มันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ชีคนนี้เนี่ย? ถ้าจำไม่ผิดตอนที่ฉันเพิ่งฟื้นจากสลบใหม่ๆ เหม่ยซิงบอกว่าเทเรซ่าไปแล้ว? ไปแล้วของเธอนี่มัน...’

 

เทเรซ่าเริ่มรู้ตัวว่าถูกพีจ้อง แต่ไม่สนใจสวาปามอาหารตรงหน้าต่อไป

 

“เป็นไงมาไงถึงได้มา AreaTH-7 นี้ได้”

 

รัมเบิลถาม เทเรซ่าถึงกับชะงักแล้วหลบหน้าพี เขาเคาะนิ้วสามทีก่อนที่จะเป็นคนอธิบายเอง

 

“ไอริส...” พีกระซิบบอกรัมเบิลเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน “เธอถูกพวกไอริสบังคับทำงานให้นะ”

“หือ? จริงดิ ไม่นึกว่าข่าวลือนั่นจะเป็นจริง” รัมเบิลว่า

“อือ...” เทรเซ่าพยักหน้า

“แล้วตอนนี้เธอ---” รัมเบิลกำลังจะพูดต่อ แต่เทรซ่าขัด

“ไม่ใช่...ไม่ได้เป็นพวกไอริสแล้ว” เทเรซ่าวางช้อนลง “ถูกพวกมันหมายหัวด้วยซ้ำไป”

“ทำไม”

 

เทเรซ่าหยุดนิ่งหลังรัมเบิลถามถึงเหตุผล พีที่เข้าใจเรื่องของเทเรซ่าดีเลยจะห้ามปราม

 

“อ่า...อย่าถามเลยน่าจะดี---“

“เฮ้อ...ฉันไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณที่ออกตัวแทนให้แต่มันไม่จำเป็น” เทเรซ่าก้มหน้า “เดิมทีพวกนั้นเอาพรรคพวกฉันไปเป็นตัวประกัน แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ฆ่าทิ้งหมดแล้วจะเก็บฉันด้วย ถึงไอ้หุ่นแมงมุมแดงนั่นจะบอกว่าฉันทำงานล้มเหลว ทั้งๆ ที่มันยังไม่จบ...ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ”

“อืม เป็นอย่างนี้นี่เอง” รัมเบิลเท้าคางกับโต๊ะ “เหตุผลที่เธอหายตัวไปที่ชินโคเซ็นเดือนก่อนหลังเทวรูปนางฟ้าอาละวาด คงเป็นตามที่เธอว่า”

“ใช่ พวกไอริสมันอาศัยจังหวะวุ่นวายนั้นจับตัวพวกฉันไป”

 

‘โห้ยๆ นี่มันเรื่องอะไรอีกเนี่ย มันชักจะเยอะไปแล้วนะ’

 

พีที่ได้รับข้อมูลใหม่ยิ้มเกร็งๆ แล้วถาม

 

“อ่า...คืออะไรอาละวาดที่เช็นๆ เหรอครับ?”

 

รัมเบิลและเทเรซ่ามองหน้ากันแล้วบอกข้อสรุปสั้นๆ ได้ใจความพร้อมกันทั้งคู่

 

“เรื่องมันยาว”

 

◊◊◊

 

[21:50] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, หอคอยชมวิว]

 

‘ที่นั่น...’

 

แม่สาวผมสั้นฟ้าชุดดำเอามือขวาเสยผม นัยน์ตาเทาคู่ทอดมองลงไปยังตึกออฟฟิศขนาดใหญ่ที่สูงกว่ายี่สิบชั้น ดาดฟ้ามีที่จอดเฮลิคอปเตอร์และยานบินขนส่งระดับ Tech First มันคือศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ที่สองซึ่งอยู่ห่างจากที่เธออยู่บนหอคอยชมวิวของเมืองประมาณสามร้อยเมตร

 

‘ทำไมฉันไม่คิดได้ตั้งแต่แรก...นัมเบอร์เซเว่นนั่นมีความสัมพันธ์กับเด็กคนนั้น เด็กที่ชื่อว่า พี นั่น’

 

เธอเดินก้าวออกไปข้างหน้า กระแสลมที่พัดมาจากข้างล่างทำให้เธอยิ้มออก

 

‘ได้จังหวะพอดี’

 

และแล้วเธอทิ้งดิ่งลงจากหอคอย ผ้าคลุมสีดำที่เคยพริ้วไหวกลายเป็นปีกร่อนพาตัวเธอล่องลอยไปยังศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ที่สอง ณ เบื้องหน้า

 

◊◊◊

 

[21:59] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, หน้าทางเข้าลับศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ที่สอง]

 

‘ได้คนร่วมทางมาอีกหนึ่ง’

 

พีมองเทเรซ่าด้วยหางตาที่อยู่ข้างๆ รัมเบิลและเรสเทียร์ในร่างนางฟ้าน้อยหลบอยู่ในกระเป๋าเสื้อพี พวกเขามาอยู่ในพุ่มหญ้าตรงทางเข้าข้างหลังของศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ เป็นเนินชันลงไปยังท่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีประตูระบายน้ำปิดไว้อยู่ เหตุที่มาตรงนี้ได้เพราะมีข้อมูลภายในที่เหม่ยซิงให้มาว่าทางเข้านี้ปลอดภัยที่สุด เท่าที่เขาสังเกตดูมาสักพัก ทางเข้านี้ไม่มีใครเฝ้ามีแต่กล้องวงจรปิดโง่ๆ ตัวหนึ่ง

 

“จะขอรบกวนพวกคุณไม่มากนะครับ แค่เปิดประตูนั่นให้หน่อย” พีเกรงใจ

“ไม่ๆ คุยกับเฟียน่าไว้แล้วว่าต้องพานายเข้าและออกมา อีกอย่างงานนี้...” รัมเบิลควักไพ่สีน้ำเงินขึ้นมา “น่าจะง่ายกว่าที่คิด”

“งั้นเข้าไปเลย!”

 

เทเรซ่าลุกขึ้นพรวด รัมเบิลรีบกระแชกตัวเธอลงมาอย่างรวดเร็ว กล้องวงจรปิดที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวได้หันมาส่องทางพวกเขาสักพักหนึ่ง จึงหันส่องที่อื่น

 

“ทำบ้าอะไรของเธอ!” รัมเบิลตะคอกด้วยสายตา “เดี๋ยวพวกนั้นรู้ตัวกันพอดี”

“เหมือนกันแหละ รู้ช้ารู้เร็ว---”

“ไม่เหมือน!”

“เออ...ก็ได้”

               

‘ไหวหรือเปล่าเนี่ย’

 

พีคิดไม่ถูกว่าการเอาตัวเทเรซ่ามาด้วยเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่

 

พรึบ!

 

มีเงาดำบางอย่างลอยผ่านหัวพวกเขาไป ทุกคนต่างเงยขึ้นมาเห็นเงาดำคล้ายปีกนกไวๆ

 

“ค้างคาว?” รัมเบิลว่า “แถวนี้มีค้างคาวตัวใหญ่ด้วย?”

“มั้งนะ...อ๊าก!”

 

พีตอบรับไปอย่างงั้น แต่แล้วเขาเผลอร้องออกมาเพราะปวดกลางมือขวากระทันหัน

 

‘มันปวดอีกแล้ว...ตั้งแต่กลางวันยังไม่หายอีกเหรอเนี่ย นี่เรสเทียร์มือฉันมันเป็นอะไร’

-‘เรสเทียร์ไม่ทราบค่ะ หนูขอโทษที่ทำให้พี่หญิงต้องทรมาน’-

‘หา? ขอโทษ’

-‘เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้พลังของเรสเทียร์ไม่เสถียรค่ะ เรสเทียร์ว่ากลับก่อนน่าจะดีกว่า’-

‘ไม่ๆ มาถึงขนาดนี้จะให้กลับไปมือเปล่า ฉันไม่เอานะ’

-‘แต่ว่า...ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ บอกเรสเทียร์นะคะ’-

‘เหอะ เธอก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนิ แค่ฉันรู้สึกอะไรคิดอะไรเธอก็รู้...’

               

พีชะงักเพราะจู่ๆ ความปวดที่มือขวาหายไปดื้อๆ

 

‘อะไรเนี่ย!?’

               

“พอผมให้สัญญาณรีบวิ่งเข้าไปตรงหน้าประตู” รัมเบิลใช้มือขวาหนีบไพ่น้ำเงินแล้วเล็งตรงตู้ไฟใต้กล้องวงจรปิด “สาม สอง หนึ่ง...ไป!”

               

ไพ่สีน้ำเงินพุ่งไปปักตู้ไฟที่ห่างออกไปกว่าร้อยเมตรด้วยการสะบัดข้อมือเท่านั้น พีตะลึงกับทักษะส่วนตัวของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ใช้พลังจิตอันดับต้นๆ ที่ไหนสักแห่งซึ่งเขาจำไม่ได้ แต่มัวอึ่งได้ไม่นาน รัมเบิลลากตัวเขาวิ่งตามหลังเทเรซ่าที่ออกตัววิ่งนำไปคนแรก ไพ่ที่ปักอยู่นั่นปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตตัวตู้ไฟกับกล้องวงจรปิดและทำให้ประตูระบายน้ำที่ปิดอยู่ค่อยๆ เปิดออก ทั้งสามคนรีบวิ่งเข้าไปทันที

 

‘มันจะเข้าง่ายไปหน่อยแล้วมั้ง?’

               

◊◊◊

 

[ยี่สิบนาทีผ่านไป]

[ชั้น B4 หน้าห้อง Log File, ศูนย์วิจัยย่อยไฮเทคอัพเปอร์ที่สอง]

 

“น่าจะห้องนี้”

           

พีเอ่ยหลังเปิดดูแผนที่ที่ได้มาในมือถือ รัมเบิลปาไพ่สีน้ำเงินใส่แผงกดรหัสเข้าห้อง ประกายไฟฟ้าทำให้ห้องตรงหน้าเปิดออก ส่วนเทเรซ่ากำลังเดินดูรอบๆ

พวกเขาเข้ามาถึงในนี้ได้เพราะสภาพในตึกแลเหมือนขนย้ายใกล้เสร็จ ห้องต่างๆ ที่เดินผ่านร้างเกือบทั้งหมด มีกล่องวางเกะกะบาง เจอยามสองคนเดินตรวจตรา พีเลยอาสาจัดการด้วยปืนพีทู (พีเรียกมันสั้นๆ แบบนั้น) กับบลูเลตไทม์ภายในไม่กี่วินาที ก่อนที่จะรีบวิ่งมาเพราะเพิ่งนึกได้ว่าอีกไม่นานต้องต้องมีการผลัดเปลี่ยนเวรแน่ๆ

 

“ช่างของเฟียน่าทำเนี๊ยบใช้ได้” รัมเบิลถือไพ่สีน้ำเงิน

“ช่าง?”

“หมายถึงไพ่น้ำเงินใบนี้นะ เฟียน่ามีช่างเทคนิคฝีมือดีทำของแปลกๆ อยู่ เลยวานให้ทำอะไรนิดหน่อยได้ไอ้นี่มา”

“อ๋อ”

 

พีเดาว่าไพ่สีน้ำเงินนี้คงคล้ายๆ มีดสั้นสามแฉกไฟฟ้าของเฟียน่า แต่ไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมต้องจับยัดใส่ไพ่บางๆ แต่แล้วเขาเพิ่งนึกออกเรื่องหนึ่งที่เฟียน่าพูดถึงรัมเบิลไว้ว่าพีทูของเขาคนนี้คืออโซนิคบูม (Sonic Boom) มือเปล่าของเขาสามารถส่งหรือปาของได้ด้วยความเร็วสูงเหนือเสียง และด้วยความสามารถนี้เขาประยุกต์กับไพ่ที่มีกลไลต่างกันตามสี เช่น สีแดงจะมีส่วนผสมของดินปืนจนเกิดระเบิด สีเทาเป็นระเบิดควันแต่ด้วยแรงอัดโซนิคบูมเลยเป็นระเบิดผลักไปด้วย และสีน้ำเงินเมื่อครู่เป็นกระแสไฟฟ้า จะมีสีอื่นนอกจากนี้หรือไม่ พีไม่แน่ใจแล้วเขาสลัดเรื่องนี้ออกจากหัวและเดินเข้าไปในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่หนัก มีเครื่องเซิฟเวอร์ตั้งกองอยู่ข้างมุมหนึ่งและอีกมุมมีหน้าจอคอมอยู่สองตัวที่กำลังรันข้อมูลบางอย่างอยู่ พีรีบเข้าไปดูเห็นข้อความชัดเจนว่าเป็นบันทึก Log File การเคลื่อนไหวของพวกบอดี้การ์ดและหน่วยรักษาความปลอดภัยของไฮเทคอัพเปอร์ เขากด Ctrl+F ขึ้นหน้าต่างค้นหาพิมพ์ไปว่า ‘เมงุมิ, เครื่องบิน, ระเบิด’ และกำหนดย้อนหลังแค่สี่วันแล้วกด Enter ระบบใช้เวลาค้นหาเพียงสามวินาทีปรากฎไฟล์บันทึกวันที่ 25/12/2057

 

“มีอยู่จริงๆ ด้วย”

“นี่หรือ ที่นายตามหาอยู่?” เทเรซ่าถาม

“อือ”

 

พีพูดแล้วกดดูไฟล์นั่น มีตัวภาษาอังกฤษขึ้นคำโตๆ ว่า ‘No Data’

 

‘เฮ้ย!? มีชื่อไฟล์ แต่ข้างในไม่มีข้อมูล?’

 

ปัง!

 

เสียงปืนคุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลัง สาวชุดผ้าคลุมดำปริศนาที่มีเส้นผมสีฟ้าออกมาให้เห็นเล็กน้อย เพิ่งยิงปืนกระบอกดำของเธอใส่เครื่องเซิฟเวอร์ รัมเบิล เทเรซ่าและพีเตรียมตั้งท่าหยิบอาวุธตนเองขึ้นสู้ แต่คนตรงหน้าไวกว่ายิงปืนใส่ที่พื้นข้างหน้าสองนัดทำให้พวกเขาไม่กล้าขยับทำอะไรต่อ พีใช้บูลเลตไทม์แล้ววิ่งเข้าประชิดเพื่อจัดการคนตรงหน้า แต่แล้วเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เมื่อรอบตัวช้าลงถนัดตายกเว้นพีและเรดที่ไม่ตกอยู่ในพลังนั่น ถีบร่างพีสวนกลับไปทีเดิม เวลารอบตัวกลับมาเป็นปกติ ทั้งสองคนที่มองไม่ทันต่างตกใจที่ร่างของพีลงไปนอนกับพื้น สาวชุดดำเตือน

 

“ถ้าเป็นฉันจะไม่ขยับเด็ดขาด หวังว่าจำฉันได้นะ พี อย่าคิดใช้บลูเลตไทม์อีกล่ะ พลังนั่นมันใช้ไม่ได้ผลกับฉันหรอก”

 

สาวชุดดำเอาผ้าคลุมหัวลง ปรากฎให้เห็นผมสั้นสีฟ้านัยน์ตาสีเทาโดยรอบมีรอยแผลกรีดยาว ยิ้มเยาะราวกับได้ชัยชนะ

 

“นี่คุณ...รู้ตัวจริงของฉันได้ไง?” พีถาม

“ม่านตานะม่านตา...ถึงจะใส่แว่นดำก็ปิดปังฉันไม่ได้หรอก”

“คุณต้องการอะไรกันแน่!?”

“ต้องการ? ใช่ ฉันต้องการ...ต้องการทั้งตัวนายและเรสเทียร์ไง อย่ามัวแต่ซ่อนอยู่สิ เรสเทียร์...อย่าบอกนะว่ากลัวพี่สาวคนนี้”

“พี่สาว?” พีขมวดคิ้ว

 

เรสเทียร์ในร่างน้อยที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อพี บินออกมาแล้วกลายร่างเป็นร่างคนปกติ เธอปฏิเสธเสียงแข็งและร่างกายสั่นเล็กน้อย

 

“ฉันจำคุณไม่เห็นจะได้เลยค่ะ”

“หือ? เล่นอะไรของเธอ เรสเทียร์” สาวชุดดำจิกตาใส่ “แกล้งความจำเสื่อมหรือไง”

“จำไม่ได้จริงๆ”

“แต่ตัวเธอสั่นใหญ่เลยนะ โกหกฉันมันไม่ดีรู้ไหม!”

“อ๊าก!”

 

นัยน์ตาสีเทาของผู้หญิงตรงหน้ามีสีแดงส่องแสงชั่วครู่ เรสเทียร์ล้มตัวแนวระนาบไปกับพื้นแรงมากราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลลากเธอลงไป สาวชุดดำมองพิจารณาเรสเทียร์อะไรบางอย่างแล้วมองมาที่พี

 

“โอะโอ...นี่เธอร้ายไม่เปล่านะ เล่นสะกดจิตทั้งทางตรงกับทางอ้อมแบบนี้...พีน่าสงสารแย่”

“หา?”

“งืม...ดูเหมือนเธอใจดีมากไปแล้ว เรสเทียร์ ฉันจะแก้มันให้เองนะ”

“อย่านะเรด! (Red)”

 

เรสเทียร์ตะโกนห้ามชื่อผู้หญิงตรงหน้าซึ่งเธอจ้องมาที่พี ทันใดนั้นรอบตัวเขาดำมืดสนิทเหลือแต่เพียงเขาและผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า ‘เรด’ เธอเดินเข้ามาตรงหน้าโดยที่เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลย ควมารู้สึกดดันมหาศาลแล่นเข้ามาในใจเขาเหมือนก่อนที่เจอกับผู้หญิงคนนี้ครั้งแรก เธอจับมือขวาขาขึ้นดูฝ่ามือ

 

“ถ้าไม่ได้เห็นกับตาฉันก็ไม่เชื่อ มันจะเข้ากับร่างนายได้ขนาดนี้...”

“จะพูดอะไรกันแน่!” พีว่า

“สะกดอารมณ์เธอไว้สมบูรณ์แบบจริงๆ” เรดส่ายหัว “เคยรู้สึกตัวเองว่าแปลกๆ บ้างไหม”

“มันแปลกตั้งแต่เธอแล้ว!”

“โอ้ว...พีทูไรซิ่งช่วยพัฒนาพีทูเรสเทียร์ได้ไกลขนาดนี้เลยหรือนี่ ควบคุมจิตใจของเธอไว้อยู่มัด หลอกให้เชื่อว่าตัวเองไม่ได้โดนควบคุมอยู่ด้วยแถมสั่งให้เธอคิดแบบนี้ล่วงหน้า...เผื่อสถานการณ์แบบนี้ไว้ด้วย ช่างร้ายกาจนะเรสเทียร์”

 

เรื่องไม่น่าเชื่อออกมาจากปากของเธอ มันสั่นคลอจิตใจของพีอย่างรุนแรงทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น...เริ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ เขารีบเปลี่ยนเรื่อง

 

“นี่คุณ...รู้สินะ ไอ้ที่อยู่บนฝ่ามือฉัน”

“แหงสิ ก็ฉันเป็นคนทำให้นายเป็นแบบนั้นเอง โดยปกติมันออกแบบมาให้คนที่สวมตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฉันภายในสิบสองชั่วโมงและจัดฉากการตายได้ตามใจชอบ แต่กับนาย...ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย”

 

คำตอบที่ทำให้พีบังอ๋อขึ้นมาในใจเกี่ยวกับสิ่งที่คนตรงหน้าเคยพูดไว้ก่อนที่จะสลบไปตอนนั้น

 

“แล้วมันยังไง!?”

“ก็---“

 

พรึ่บ!

 

ความรู้สึกกดดันหายไป รอบข้างที่เคยมืดมิดกลับมาเป็นเหมือนเดิม สาวชุดดำรีบกระโดดถอยหลังกลับที่เดิมแล้วส่ายหัว

 

“เรสเทียร์...ต่อต้านฉันถึงขนาดนี้เชียวหรือ”

“ฉันจะ...ไม่ยอมแก...อีกต่อ...ไปแล้ว!” น้ำเสียงของเรสเทียร์แฝงไปด้วยความเครียดแค้นอย่างที่พีไม่เคยพบไม่เคยเห็น

“ต๊ายตาย น่าสมเพศซะจริงๆ พูดเหมือนจะทำอะไรได้ อะอีแค่กระตุ้นไทม์ไลน์กลับเป็นเหมือนเดิม อย่าทำเป็นได้ใจไป!”

“อ๊าก!”

 

สาวชุดดำผมสั้นฟ้ายกเท้ากระทืบเข้าที่ศีรษะเรสเทียร์หนึ่งที ทั้งสามคนขยับจะเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกปืนกระบอกดำจ่อไว้อยู่ รัมเบิลรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาขึ้นมา

 

“เฮๆ อย่าบอกนะ...เธอคือเรด (Red) หนึ่งในมือสังหารชั้นเยี่ยมของเวิลด์เจเนรัล”

“หึๆ รู้สึกเป็นเกียรติมาก ผู้ใช้พลังจิตแห่งชินโคเซ็น โซนิครัมเบิลนัมเบอร์โฟว์ที่รู้จัก” เรดเล็งปลายกระบอกปืนหารัมเบิล “แล้วทำไมถึงรู้ว่าเป็นฉันล่ะ?”

“ก็...เคยเห็นผ่านๆ มาที่ไหนละมั้ง อย่าไปสนใจเลย” น้ำเสียงของรัมเบิลส่อแววว่าเขาโกหก

“ช่างกล้าพูดในสถานการณ์แบบนี้” เรดว่า “คงต้องกระตุ้นความเจ็บสักหน่อยถึงจะลาบจำว่าอย่ามากวนคนอย่างฉัน!”

“โฮลี่บาเรีย! (Holy Barrier)”

 

เทเรซ่ากระทุ้งไม้เท้ากับพื้นเรียกให้โล่กลมสีขาวขุ่นขึ้นมาครอบตัวพวกเขาทั้งสามคนไว้ เธอประกาศชัยชนะ

 

“เหอะๆ ฮ่าๆ! เธอทำอะไรกับเราไม่ได้แล้ว รัมเบิล! รีบจัดการยัยนี่ซะ! ฉันทนมันพล่ามไม่ไหว---“

 

ปัง!

 

เรดเหนียวไกปืนของเธอ กระสุนปืนทะลุเข้าเสียบหน้าท้องของเทเรซ่า ทันใดนั้นโล่สีขาวขุ่นได้สลายหายไป ผู้ใช้พลังโล่ศักดิ์สิทธิ์ยืนกุมหน้าท้องประคองตนด้วยไม้เท้าพร้อมฉายแววตาคาดไม่ถึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

◊◊◊

 

จบไปอีกตอนแล้วนะจ๊ะ ^_^

และแล้วพีก็ได้พบกับผู้หญิงที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง เธอมีนามว่า Red!

พีที่มาหาข้อมูลของเมงุมิ แต่กลับมาเจอผู้หญิงคนนี้ สถานการณ์ยิ่งแย่ลง เขาจะทำอย่างไรต่อไป?

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 5 [ฉันขอโทษ]

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ ขอให้สนุกกันนะทุกคน

 By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา