P.P.Rising The Bullet Time อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

8.1

เขียนโดย Spy442299

วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 10.54 น.

  46 chapter
  28 วิจารณ์
  50.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557 17.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 2 [พลังที่ควบคุมไม่ได้]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

P.P. Rising: The Bullet Time

เดอะบูลเลตไทม์ อภินิหารพลังจิตเหนือโลก

  1. Ch.12 เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 2 [พลังที่ควบคุมไม่ได้]

Rewrite V.3

 

◊◊◊

 

[วันที่สอง หลังเกิดเหตุการณ์ P.P. Rising]

[11:02] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ริมถนนสายที่ 201]

 

‘งานของเจ้าทอมมี่คงหนักน่าดูเลยแฮะ’

 

เต็นท์สีฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกกางขึ้นมาใหม่หน้าสำนักงานการ์เดี้ยนเขตกลางประจำ Area TH-7 มีป้ายเขียนอยู่ข้างบนว่า ‘แจกจ่ายสิ่งของจำเป็น’ ภายใต้นั่นมีผู้ที่เป็นการ์เดี้ยนกำลังแจกของให้กับคนที่มาต่อแถวจำนวนมาก ซึ่งตามที่พีคิดพวกเขาน่าจะเป็นคนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายพวกไอริสของมะรืนและเมื่อวาน เขายืนดูอยู่ฝั่งตรงข้ามโดยมีถนนคั่นกลาง

 

‘เหมือนทอมมี่จะละไปส่งฉันไม่ได้ ไอ้เราก็ดันขับรถเองก็ไม่เป็น’

 

พีถอนหายใจกับสิ่งที่เขาต้องทำต่อไปนั่นก็คือเอาพวกของที่อยู่ในถุงสี่ห้าใบที่ถืออยู่ ไปให้เฟียน่าทั้งหมดเพราะเธอวานให้ซื้อของแทน (เนื่องจากคนวานให้ซื้อขาเดี้ยง) ตอนแรกเสียเวลากับการหาร้านขายของพวกวัตถุดิบสำหรับทำอาหารไปหลายชั่วโมงเพราะปิดจากภัยก่อการร้ายกันหมดและพอดีเมื่อครู่ทอมมี่โดนเรียกให้ไปช่วยงานที่การ์เดี้ยนด่วน

 

‘แล้วจะหารถนั่งไปได้ไหมเนี่ย ถนนร้างทั้งเมืองซะขนาดนี้’

 

พีบ่นถึงสภาพจราจรในเมืองที่แทบจะไม่มีการเคลื่อนไหว ยกเว้นซะแต่พวกรถหุ้มเกราะกับรถบรรทุกของเอ็มแอลเอที่ผ่านทางนี้พอดี ทั้งสองคันมุ่งตรงไปยังข้างหน้าที่มีแร่คริสตัลชายน์ทรงดอกบัวมหึมาสูงกว่าห้าสิบชั้นเด่นเป็นสง่าใจกลางเมือง กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ประจำ Area TH-7 ไปแล้วเรียบร้อยและนั่นทำให้ประเด็นในอินเตอร์เน็ตเปลี่ยนไป จากการที่สงสัยว่าเขาเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดแสงประหลาดกลายเป็นตัวแร่คริสตัลชายน์ซะเองที่ทำให้เป็นแบบนั้น...บนท้องฟ้าโดยรอบแร่คริสตัลชายน์มียานบินและเฮลิคอปเตอร์ของเวิลด์เจเรนัลกับเอ็มแอลเอบินวนเวียนอยู่ เสียงเด็กร้องและคนเจ็บดังขึ้นเป็นระยะ มันทำให้เขารู้สึกหดหู่ชั่วขณะ

 

‘นี่คงเป็นสิ่งที่หลงเหลือจากความรุนแรง...สินะ’

 

พีก้มลงดูของในถุงในนั้นมีพวกผักเนื้อปลาอาหารสารพัดชนิดที่พอหาซื้อได้ในราคาแพงหูฉี่เพราะสินค้าเหลือน้อย เขาอยากจะแบ่งของพวกนี้ให้กับคนที่อดอยากไร้ที่อยู่ใกล้ๆ แต่การ์เดี้ยนหน่วยงานอาสาสมัครได้เข้ามาบรรเทาทุกข์แทนตรงหน้าเขาแล้ว ทอมมี่ก็เป็นหนึ่งในพวกนั้น พีมองดูทอมมี่ที่กำลังยกลังของจากในตัวตึกมาวางให้คนที่แจกของอยู่หยิบต่อไป

 

‘ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะทำแบบนั้นได้จริงๆ ตอนแรกนึกว่าพูดโอ้อวดเฉยๆ’

 

เจ้าตัววางของในมือขวากับพื้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดดูแผนที่แล้วกดให้มันแสดงตำแหน่งสถาบันวิจัยลับของด็อกเตอร์ซิสที่เขาได้มา มันอยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้

 

‘ไม่ค่อยไกลเท่าไรงั้นเดินเอาล่ะกัน เอาของไปส่งหลังจากนั้น...ฉันจะเริ่มตามหาเมงุมิซะที’

 

◊◊◊

 

[มุมมองของสาวชุดดำ]

 

‘เด็กผู้ชายคนนั้นหายตัวไปไหนกันแน่’

 

หญิงสาวผมสั้นสีฟ้าที่สวมผ้าคลุมดำทั้งตัวยืนส่องหาอะไรบางอย่างบนดาดฟ้าและเธอใช้มือขวาปัดกลางอากาศปรากฎจอภาพที่ขนานกับร่างกายเธอขึ้นมา ในภาพนั้นปรากฎรูปของพีที่กำลังเดินถือถุงจำนวนมาทั้งสองมือ

 

‘เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ตำแหน่งสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับได้อยู่ตรงนี้...แล้วเด็กนั่นหายไปไหนแล้ว’

 

เธอตวัดนิ้วไปทางซ้ายของหน้าจอเป็นภาพพื้นดำและมีคำว่า ‘No Signal’ ไม่ว่าเธอจะตวัดนิ้วกี่ครั้งเพื่อเปลี่ยนมุมมองกล้องวงจรปิดจากที่อื่นก็ขึ้นข้อความนั้นเหมือนกันหมด

 

‘โธ่โว้ย! เพราะพวกไอริสแท้ๆ ทำให้กล้องที่ติดอยู่ทั้งเมืองเสียแทบหมด จะตามหาเจ้าเด็กนั่นได้ที่ไหน...ถึงได้ข้อมูลม่านตามาก็เปล่าประโยชน์’

 

แล้วเธอก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนที่แอบตามพีโดยเฝ้ามองอยู่ห่างๆ จากข้างบนหลังคาของสนามบินก่อนที่จะหนีตายเพราะมิสไซล์จำนวนยิงเข้าถล่มและถูกพวกไอริสเห็นเข้าเลยทำให้ต้องคลาดกับพี

 

‘ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้ของสิ่งนั่นมันจะตื่นขึ้นมา...

ต้องรีบตามหาเจ้าเด็กคนนั่นก่อนที่เลขาธิการเวิร์ดเจเรนัลจะรู้เรื่องเข้า ไม่งั้น...ฉันได้ตายแน่ๆ’

               

◊◊◊

 

[11:25] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ริมถนนสายที่ 203]

 

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมจะทำให้มันลอยได้!”

 

เสียงทีวีที่อยู่ในร้านโชว์ห่วยดังเข้าหูพีที่กำลังเดินผ่านพอดี เขาหยุดยืนดูภาพในนั้น ปรากฎภาพชายคนหนึ่งแบมือแล้วทำให้ใบไม้ลอยอยู่แล้วภาพตัดไปยิงผู้หญิงที่กำลังทำให้ไม้แท่งหนึ่งเชื่อมกับท่อปะปาเพียงเสี้ยววินาทีราวกับว่ากลายเป็นเนื้อเดียวกัน

 

‘เหอะๆ เรสเทียร์บอกไว้ว่าคนอื่นจะเริ่มรู้ตัวว่ามีพลังจิตอีกหนึ่งสัปดาห์ แล้วไงสองวันรู้กันทั่วหน้าแล้วล่ะเนี่ย’

 

พีส่ายหัวแล้วจะเดินต่อกลับชะงักเพราะมีเสียงของใครบางคนดังมาจากข้างหลัง เขาหันไปดู

 

“ทิ้งเรสเทียร์ไว้ทำไมคะ พี่หญิง”

 

เรสเทียร์ในร่างนางฟ้าน้อยที่บินมาข้างหลังทำหน้าบูดใส่ พีที่เหนื่อยกับการเดินอยู่หรี่ตาลงแล้วเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย

 

“นี่เธอ...ถึงจะช่วย...ให้ฉันรอดตายก็เหอะ แต่ไม่ได้สนิทกันถึงกับต้องให้เธอตามทุกครั้งนิ”

“ไม่เอาค่ะ ไม่เอา พี่หญิงอย่าพูดแบบนี้สิ” เรสเทียร์ส่ายหน้า “จำสัญญาแล้วไม่ได้เหรอคะ ว่าพี่หญิงเป็นของเรสเทียร์แล้ว อิอิ”

“ถึงอย่างงั้นมันก็...” พีตั้งใจจะว่าอะไรบางอย่าง แต่แล้วเปลี่ยนใจ “เฮ้อ...ช่างเถอะ จะตามฉันมาก็เรื่องของเธอ”

“ค่ะ! พี่หญิง” เรสเทียร์ทำสีหน้าเหมือนสุนัขได้เนื้อ

“เดี๋ยว...ทำไมเรียกฉันแบบนั้น” พีหมายถึงคำว่า ‘พี่หญิง’ ซึ่งเรสเทียร์เรียกเขามาตั้งแต่สถาบันวิจัยลับของด็อกเซอร์ซิสแล้ว

“ก็คุณผู้หญิงผมสีฟ้าๆ บอกให้เรียกแบบนี้เพื่อไม่ให้คนอื่นผิดสังเกตค่ะ”

 

เรสเทียร์ว่าเช่นนั้น หารู้ไหมว่าผู้ที่ที่อยู่โดยรอบพากันมองเรสเทียร์คนเดียว เพราะร่างกายของเธอในตอนนี้อยู่ในร่างย่อส่วนที่ลอยได้ พีเองก็เพิ่งสังเกตเลยต่อว่า

 

“แต่เธอทำตัวผิดสังเกตมากกว่า เรสเทียร์ คนอื่นเขามองเธอกันหมดแล้ว!”

“อุ้ย...ลืมตัว ขอโทษค่ะ พี่หญิง” เรสเทียร์บินมาหลบอยู่ในกระเป๋าเสื้อเขา “เราไปกันต่อได้หรือยังคะ”

“อือ...”

 

และพีก็เดินหน้าต่อไป...ทั้งคู่ต่างเงียบจนพีต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน

 

“เรสเทียร์...พอนึกอะไรเกี่ยวกับตัวเองออกหรือยัง”

“ไม่เลยค่ะ อย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย พี่หญิง...ไม่คิดจะลองฝึกพลังจิตของตัวเองให้ควบคุมดีขึ้นกว่านี้เหรอคะ”

“หา!? ฉันว่าคงไม่ต้องแล้วมั้งตอนที่ฉันนี่ก็...ไม่เห็นจะมีปัญหา---“

“เผื่อมีบางอย่างที่พี่หญิงทำได้แต่ไม่รู้ตัวไงค่ะ เดี๋ยวไปที่แม่น้ำใกล้ๆ กันเลยดีกว่า”

“แม่น้ำ?”

“ที่นั่นจะเห็นผลของลมได้ง่ายที่สุดแล้วค่ะ”

“งั้นฉันต้องเอาพวกนี้ไปให้เฟียน่าก่อน”

“แปปเดี๋ยวเองค่ะ นะ...พี่หญิง”

               

เรสเทียร์พยายามตื้อพีสักพักเขายอมเอ่อออตามหล่อน แล้วทั้งคู่ก็เดินเลี้ยวเข้าซอยที่ลัดไปยังแม่น้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีผู้ชายผมสั้นฟ้าแอบตามพวกเขาอยู่

 

◊◊◊

 

‘ไม่เข้าใจ’

 

เด็กสาวน้อยวัยสิบสองขวบ นัยน์ตาสีเหลือง ผมยาวมัดรวบสีส้ม ใช้มือปาดน้ำตาที่กำลังไหลบ่าออกมา เธอวิ่งอยู่ทางเดินริมแม่น้ำที่มีหญ้าเป็นเนินชันลงไปเล็กน้อยก่อนถึงตัวแม่น้ำ ก่อนที่จะผ่อนความเร็วก้าวเท้าลงและคุกเข่ากับพื้น

 

‘สิ่งที่ทำมันผิดตรงไหน...หนูทำตามที่ป้าต้องการทุกอย่างแล้ว...ไม่เข้าใจเลย ไม่เข้าใจสักนิด ทำไมป้าต้องรังเกียจหนูด้วย!’

 

“โอ้ย!”

 

เธอวิ่งชนขาของชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินคู่กันเลยล้มลงไปกับพื้น

 

“เฮ! หนูเป็นอะไรไหม”

               

ชายคนนั้นก้มตัวลงและยื่นมือขวามา แต่เด็กสาวกลับตาโตและคลานถอยหลังสองก้าว เพราะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างจากทั้งสองคนเป็นกลิ่นอายแห่งความไม่หวังดี

 

‘อะไรกัน แม้แต่คนพวกนี้...’

 

“ขอโทษนะคะ!”

 

เธอลุกขึ้นมาแล้ววิ่งตัดผ่านชายหญิงทั้งสองคนไป แต่นั่นเธอยังรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจของทั้งสองคนแม้จะวิ่งห่างออกมาแล้ว

 

‘ทำไมหนูต้องมารู้ความรู้สึกคนอื่นด้วย...พลังจิตแบบนี้หนูไม่ต้องการ!’

 

เธอยังคงวิ่งร้องไห้ต่อไปและเพราะพลังจิตหรือพีทูของเธอทำให้รู้ถึงสิ่งที่ป้ารู้สึกกับเธอมาตลอดหลายปีว่ารังเกียจเธอมากขนาดไหน

 

‘ไม่อยากจะรับรู้ความรู้สึกของใครทั้งนั้นแล้ว...ใครก็ได้...ช่วยหนูที!’

 

“หา! ไม่รู้งั้นเหรอ”

 

เสียงใครบางคนตะโกนดังลั่นจนเธอต้องหยุดชะงักมองหา จนพบกับคนหนึ่งที่อยู่ริมแม่น้ำไม่ไกลนัก ไว้ผมสีน้ำตาลยาวถึงบ่า นัยน์ตาสีน้ำตาลข้างสีแดงข้างอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนซึ่งอยู่ตัวคนเดียว

 

‘คนๆ นั้นคุยอยู่กับใคร?’

               

เธอเพ่งมองรอบๆ ก็ไม่เห็นมีคนอื่น ด้วยความสงสัยเธอจึงเดินเข้าใกล้แต่แล้วต้องตะลึงทำสิ่งที่คนตรงหน้าทำ มือขวาของเขามีกระแสลมหมุนเวียนเห็นเป็นรูปร่างลางๆ ก่อนที่จะทำท่าชกออกไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะทำหน้าตาสงสัยมองดูมือของตนเอง

               

‘มีพลังจิต...เหมือนกัน...พี่ผู้หญิงคนนั้นต้องรู้วิธีคุมมันแน่ๆ!’

 

◊◊◊

 

“ออกไป! ไหลไป! กระแชกไป! ย๊าก! หมุนวิ้งๆๆ พุ่งไปเลยลมของฉัน...มุ่งทะยานออกไป! กลิ้งออกไป!”

 

คาถานับสิบคำที่พีพยายามจะส่งเจ้าลมที่หมุนเวียนอยู่รอบมือและแขนเขาออกไปข้างหน้าริมแม่น้ำแต่กลับไม่ยอมออกไป เรสเทียร์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกั้นหัวเราะ

 

“ถ้าไม่ช่วยฉัน อย่าขำได้ไหม”

“พี่หญิง พูดคำแบบนั้นออกมาได้ไงคะ ฮ่าๆๆๆ”

“เอาหน่า...เรื่องของฉัน”

 

พีเอ่ยอย่างผิดหวังหลังจากที่เขามาที่ริมแม่น้ำตามที่เรสเทียร์บอก คิดว่าเธอน่าจะบอกวิธีการค้นหาหรือพัฒนาพีทูของเขา แต่กลับให้ทำซ้ำไปทำมา...และมาบอกทีหลังว่าไม่รู้เลยเดาว่าให้ใช้บ่อยๆ คงจะดีขึ้นเอง

 

‘ให้ตายสิ ไม่น่ามาที่นี่ตั้งแต่แรก...เสียเวลาชะมัด’

 

“เรสเทียร์...ฉันจะกลับแล้วนะ” พีเดินกลับไปหยิบถุงที่วางไว้

“ค่ะๆ ฮ่าๆๆ” เรสเทียร์ยังคงหัวเราะไม่หยุด

“นี่เธอเส้นตื้นหรือไงเนี่ย”

“คงมั้งค่ะ ฮ่าๆๆ”

               

“ว้าย!”

               

เสียงผู้หญิงร้องดังมาจากทางซ้ายมือเขา เธอไว้ผมยาวมัดรวบสีส้มนัยน์ตาสีเหลืองอยู่ในชุดสีเขียวสลับขาวของโรงเรียนซิสเซลที่แขนขวาเธอมีปลอกข้อมือของการ์เดี้ยนแลดูค่อนข้างเก่าเพราะมีรอยขาด ซึ่งหล่อนเพิ่งกลิ้งตกลงมากับเนินหญ้ามาอยู่ริมแม่น้ำ พีรีบเข้าหา

               

“เอ่อ...เธอเป็นอะไรไหม”

“มะมะไม่ค่ะ! คือว่า...คุณก็มีมันเหมือนกันใช่ไหมคะ พลังจิต”

 

จู่ๆ เด็กผู้หญิงตรงหน้าถามเรื่องที่เขาคาดไม่คิดเลยประชุมในใจกับเรสเทียร์

 

‘เรสเทียร์ เอาไงดี จะโกหกหรือบอกตามตรงดี’

-‘ไม่รู้สิค่ะ ถ้าโกหก---’-

 

“ต้องขอโทษก่อนนะคะ พอดีหนูแอบดูมาสักพักแล้วเลยรู้...” เด็กสาวตรงหน้าชิงบอกก่อน

“อ่า ใช่...ฉันมี” พีรับตอบตามตรงอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วเธอ...เป็นนักเรียนโรงเรียนซิสเซลหรือ”

“หือ? รู้จักด้วยเหรอคะ” เด็กสาวเอียงคอ

“ฉันเคยเรียนที่นั่นนะ”

“เอ๋! งั้นแสดงว่าเป็นรุ่นพี่! ค่อยอย่างชั่วจะได้คุยง่ายหน่อย” เธอกระโดดโลดเต้นดีใจ “ฉันชื่อมิสค่ะ แล้วรุ่นพี่ละคะ”

“อ่า...ไอ...ไอร่า” พีบอกชื่อปลอมไปแทน

“แล้วอีกคนละคะ?”

“เรส---” พีเผลอหลุดปาก “เฮ้ย! นี่เธอรู้ได้ไง”

“ก็พลังจิตของหนูไงละคะ” มิสหรี่ตา “หนูสัมผัสได้! ว่ามีสองคนอยู่ตรงหน้าหนู”

“หว่า...แย่จังโดนจับได้ซะละ” จู่ๆ เรสเทียร์บินออกมานั่งอยู่บนไหล่

“ออกมาทำไม!” พีขึ้นเสียง

“ว้าว น่ารักจัง” ตาคู่มิสเปร่งประกาย

“เรสเทียร์ซ่อนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ถ้าเด็กคนนี้พูดจริงนะ...ไหนบอกมาหน่อยสิว่าพี่หญิงคนนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่”

 

เรสเทียร์ท้าพิสูจน์ มิสยิ้มรับก่อนที่จะบอก

 

“รุ่นพี่กำลังประหม่าอยู่ค่ะ!”

“ไม่ได้ ไม่ได้” เรสเทียร์ส่ายนิ้ว “เอาแบบที่คนอื่นมองจากภายนอกไม่ได้สิค่ะ”

“งืม...” มิสจ้องตาเขม่นมาที่พีอีกครั้ง “เหมือนจะกลัวอะไรบางอย่างอยู่น่ะค่ะ”

“ปิ๊งป๋อง! ถูกต้อง”

 

เรสเทียร์ตอบแทนคนที่ถูกทาย ซึ่งเขาไม่ชอบใจที่เธอทำแบบนั้น

 

“เดี๋ยว! ถามฉันสักคำก่อนได้ไหม เรสเทียร์”

“ถามทำไมคะ ในเมื่อเรสเทียร์สามารถสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกของพี่หญิงได้ทุกๆ อย่างอยู่แล้ว”

 

คำตอบของเรสเทียร์ทำให้พีสงวนใจเลยประชุมผ่านจิตอีกรอบ

 

-เรสเทียร์...นี่เธอทำแบบนั้นได้จริงๆ เหรอ-

‘-แค่เราทั้งสองคุยในใจกันได้ก็น่าจะเป็นข้อพิสูจน์พอสำหรับเรื่องที่เรสเทียร์ว่านะคะ-’

 

“โอเค! เรสเทียร์เชื่อน้องแล้วว่ามีพีทูอย่างที่ว่าจริงๆ” เรสเทียร์พูดกับมิส “แล้วมีเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ ถึงได้เข้ามาหา”

“อยากจะถามรุ่นพี่เรื่องพลังจิตหน่อยค่ะ...พี่คุมมันยังไง”

“คุม?”

 

พียื่นมือขวาออกไปข้างหน้าก่อนที่จะมีสายลมพัดเวียนรอบมือและแขนเขา

 

“อยากจะใช้มันก็แค่นึกว่าต้องใช้มันนะ” พีอธิบายไปตามที่เขาเข้าใจ

“แค่นี้?” มิสเอียงคอรอบที่สอง

“อือ แค่นี้”

               

มิสยื่นคอมาข้างหน้าเล็กน้อยแล้วขมวดคิ้วจ้องหน้าพีอย่างไม่ลดล่ะ ผ่านไปสิบวินาทีเธอเข่าอ่อนนั่งไปกับพื้นและร้องไห้

 

“ไม่เห็นจะได้ผลเลย แง๊! ไม่อยากรู้อารมณ์ของคนอื่นเลย! แง๊!”

 

‘อะไรของเด็กคนนี้เนี่ย!’

               

พีเลิกคิ้วเพราะเข้าใจสิ่งที่เด็กสาวตรงหน้าต้องการก่อนที่จะก้มลงลูบหัวเธอแล้วคิดหาคำปลอบเร่งด่วน

 

“ทำไมถึงไม่อยากรู้ล่ะ รู้ดีกว่าไม่รู้นะหรือมีอะไรที่รู้แล้วทำให้เธอลำบากใจ”

“หือๆ ก็...มัน...” มิสหลบสายตา “ไม่อยากรู้ความรู้สึกของคนๆ หนึ่ง”

“ใครเหรอจ๊ะ คนใกล้---”

 

พีกำลังถามถึงคนที่ทำให้มิสไม่กล้าที่จะรู้ถึงความรู้สึกคนอื่น เขากลับเห็นรอยพกช้ำทั่วตัว มีทั้งรอยเก่ารอยใหม่ปะปนกัน มิสรู้ตัวว่าคนตรงหน้าเห็นรอยช้ำของเธอถึงได้ทำสีหน้าปั้นยาก

 

“นี่เธอ รอยพวกนี้มัน...”

               

◊◊◊

 

[11:51] [28/12/2057]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ริมถนนสายที่ 202]

 

“ฉันต้องคุยกับป้าเธอให้รู้เรื่อง!”

“หนูว่าอย่าดีกว่า---“

“ไม่ได้!”

               

อารมณ์พีกำลังเดือดเป็นไฟหลังรู้ที่ไปที่มาของรอยพกช้ำของมิส เธอเป็นเด็กผู้หญิงอายุสิบสองปี อาศัยอยู่กับป้าซึ่งพ่อกับแม่ของเธอเสียไปนานแล้วและได้รับการช่วยเหลือเรื่องเงินจากปู่ของเธอที่อยู่ Area EU-2 ฟังดูตอนแรกไม่น่าจะมีอะไรจนกระทั่งรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเธออย่างกับละครน้ำเน่าเป็นที่มาของรอยพกช้ำ

เงินที่ทางปู่ของมิสให้มามีป้าของเธอเป็นคนดูแลให้ เงินนั้นควรที่จะใช้เลี้ยงชีพดูแลมิสกลับไปใช้เล่นการพนัน (ถูกกฎหมาย) กินเหล้าและอื่นๆ อีกสารพัดอย่างโดยเงินไม่ตกถึงมิส ทำให้เธอต้องออกหางานทำส่งเสียตัวเองทั้งๆ ที่ยังเด็กมาก ถึงกระนั้นเธอก็ยังถูกป้าของตัวเองไถ่ตังค์อยู่บ่อยๆ หากไม่มีให้ก็จะถูกทุบตี ซึ่งพีไม่เข้าใจว่ามิสทนอยู่กับคนแบบนั้นได้อย่างไร พอเขาถามเธอก็บอกแต่เพียงว่าเพราะเธอคือ ‘ป้า’ ของเธอ ทำให้เขาปวดตับ

 

‘ทำไมต้องมาเจอเด็กดีเกินไปแบบนี้ด้วย...แล้วฉันดันอดไม่ได้ที่จะช่วยเด็กนี่

เพราะอะไรกันนะ ฉันไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ คงไม่ใช่เพราะพี่สาวข้างบ้านที่...’

 

พี่เพิ่งนึกถึงเรื่องตอนเด็กที่ถูกพี่สาวข้างบ้านคนหนึ่งเลี้ยงดูอุปการะให้ตอนที่พ่อแม่เขาหายตัวไป ซึ่งถูกโจรทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตต่อหน้าเขา

 

‘อ๋อ...ให้ตายสิ เธอมีชีวิตคล้ายๆ ฉันเมื่อก่อนนี่เอง มิน่าเราถึงอดออกตัวแทนเธอไม่ได้ ถึงจะไม่ได้ใจร้ายเหมือนป้าของเด็กคนนี้ก็ตามที...

เอาเถอะ ถ้าฉันไม่ทำมันคงไม่สบายใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ช่วยให้พี่สาวข้างบ้านคนนั้นกลับมา แต่พี่สาวคนนั้นน่าจะดีใจที่เห็นฉันทำแบบนี้นะ’

               

“หนูกลัวรุ่นพี่จะถูกป้าเขาทำร้าย” มิสพูดด้วยความเป็นห่วง

“ป้าเธอจะไม่มีวันแบบนั้นกับพี่แน่ๆ” พีถูมือสองข้างไปมา

“อุ้ย รุ่นพี่อย่าทำร้ายป้าหนูนะ”

“พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น” พีว่า “แล้วเธอเตรียมใจหรือยัง”

“เตรียมใจ?”

“ก็นี่ไง หลังจากนี้ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง เธอพร้อมที่จะรับมันได้ไหม” พีโปรยเป็นประโยคยาวๆ ซึ่งเขาก็ยังไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าพูดไปแบบนั้นได้ยังไง

“อันที่จริงหนูไม่ได้ขอร้องให้รุ่นพี่มาช่วยหนูนะคะ” มิสพูดได้หน้าตาเฉย “แต่หนูคงทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ถึงได้ระบายให้รุ่นพี่ฟัง”

 

‘หลอกด่าฉันหรือเปล่าเนี่ย’

 

พีไม่แน่ใจกับสิ่งที่มิสพูด เรสเทียร์ที่เดินตามมาข้างหลังบ่น

 

“แล้วไงเรสเทียร์กลายเป็นคนถือของล่ะค่ะ!” เธอหมายถึงของที่เฟียน่าวานให้พีกับทอมมี่ซื้อซึ่งเธอถือทั้งหมดอยู่ ณ ตอนนี้ แน่นอนว่าเธออยู่ในร่างมนุษย์ปกติ พีบอกกับมิสที่ตะลึงกับความสามารถของเรสเทียร์ว่าเป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะจาก Area ที่มี Tech เป็นอันดับหนึ่งเลยไม่สงสัยอะไรมาก “ถึงเรสเทียร์จะมีแรงเหนือมนุษย์ แต่---”

“ฉันกำลังเครียดอยู่ อย่าเพิ่งกวนได้ไหม” พีออกตัวขู่ ซึ่งเขาก็เครียดอยู่จริงๆ

“พี่หญิง! ชีวิตพี่หญิงเป็นของเรสเทียร์นะ! พี่หญิงคงทำตาม---”

               

เรสเทียร์กำลังพูดถึงเรื่องที่พีไม่อยากให้คนอื่นรู้ เลยชิงถามมิสเรื่องอื่น

 

“บ้านของเธอใกล้ถึงหรือยัง”

“ข้างหน้านี่ล่ะค่ะ เอ๋!” มิสชี้นิ้วข้างหน้าไปยังกลุ่มคนที่ยืนมุงดูบางอย่างจำนวนมาก “ทำไมถึงมีคนเยอะขนาดนั้น...หรือว่า! ป้า! ป้า!”

               

มิสวิ่งแหวกว่ายเข้าฝูงชนข้างหน้าและตะโกนเรียกหาป้าเธออยู่เรื่อยๆ พีรีบตามเข้าไปติดๆ จนถึงตัวหน้าบ้านแล้วตะลึงกับภาพที่เห็น สภาพในบ้านที่ถูกรื้อกระจัดกระจายจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร มิสวิ่งตามหาทั่วบ้านก่อนที่จะเดินออกมาพร้อมกับแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง เธออ่านจนจบทำสีหน้าตกใจจนต้องเอามือกุบปากก่อนที่จะเอ่ยด้วยเสียงสั่นระรัว

 

“ป้าหนู...ถูกคนพวกนั้นจับตัวไป...”

 

◊◊◊

 

[อีกด้านหนึ่ง]

[Area TH-7 เขตกลาง, Blue Zone, ยอดเนินเขา Blast-5 ใกล้โรงเรียนซิสเซล]

 

บนเนินเขาแห่งหนึ่งที่มีป่าไม้ล้อมรอบและถนนเส้นเล็กๆ ตัดผ่านขึ้นมายังยอดเขา ซึ่งมีต้นไทรขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าโดยมีชายทั้งสองคนหัวส้มและม่วงชมวิวเมืองที่มีแร่คริสตัสชายน์ทรงดอกบัวมหึมาอยู่

 

“รัมเบิล ที่นี่สินะ Area TH-7 กันดารชะมัด” ชายหัวม่วงในชุดนินจาคาดปากสีดำกล่าว เขามีนัยน์ตาสีดำที่เย็นชา

“เซย์จูโร่...Area นี้มัน Tech ระดับสาม ไม่ใช่ระดับหนึ่งเหมือนที่ชินโคเซ็น”

               

รัมเบิล ชายผู้ซึ่งไว้ผมสีส้มยาวถึงคอ นัยน์ตาสีเขียวมรกต ติดหุ้มหูสีทองใส่เสื้อกั้กสีเทาอธิบายให้คนที่ไม่เข้าใจแล้วควักมือถือขึ้นมากดโทรหาคนที่ชื่อว่า ‘No.7’

 

“ตกลงงานของแกที่ Area นี้คืออะไร” รัมเบิลถามขณะที่รอสายอยู่

“ความลับของนายจ้าง จะบอกเจ้าก็กระไรอยู่” คนตอบหน้านิ่ง

“เออๆ ผิดเองล่ะที่ถามนักฆ่าอย่างแก” รัมเบิลหรี่ตาลงก่อนที่ปลายสายจะทักมา “เฟียน่า นี่ฉันเองนะ ใช่ๆ มาถึงแล้ว...อือ ที่เธอบอกนี่แหละบนเขา...หา? ยืมรถ? เกิดอะไรขึ้น...อือๆ ได้ๆ ให้ไปรับที่ไหน...หึ ไม่รู้ ส่งพิกัดมาให้ฉันล่ะกัน...โอเค แล้วเจอกันที่นั่น”

“ยกเลิกหรือ?” เซย์จูโร่ถาม

“แค่ย้ายจุดนัดพบ...แกคันไม้คันมือบ้างหรือยัง”

 

รัมเบิลเอ่ยถามมองคนข้างๆ ราวกับรู้ใจเป็นอย่างดี คนที่ถูกมองผ่านใจตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่นั่นก็มีส่วนที่เขารู้สึก

 

“ก็บ้าง”

“งั้นฉันมีงานให้แกหายคันอยู่พอดี”

 

◊◊◊

 

และแล้วก็จบไปอีกตอนนะจ๊ะ

เรื่องราวของมิส เด็กสาวผู้ที่ควบคุมพลังจิตไม่ได้ที่พียื่นมือเข้าช่วยเหลือจะเป็นยังไงต่อไป

สาวชุดดำจะตามหาพีเจอหรือไม่

แล้วชายทั้งสองที่น่าจะรู้จักเฟียน่าพวกเขาเป็นใคร

โปรดติดตามตอนต่อไปที่มีชื่อว่า เมื่อพลังจิตผงาด บทที่ 3 [มุ่งร้าย]

By Spy442299 & Nattanan Srising

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา