Oh! Baby I want to your ’s guy...
8.8
เขียนโดย จูออน
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.
15 บท
18 วิจารณ์
18.52K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 21.19 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) ซวยซ้ำซวยซ้อน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 10 ซวยซ้ำซวยซ้อน
เช้าวันนี้ผมลงมาด้านล่างด้วยอารมณ์เต็มสุขเพื่อบอกเรื่องหนึ่งกับไอ้ชายน์
“กูออกไปข้างนอกนะ”^^
“ออกไปไหนมึง” มันวางแก้วกาแฟที่จิบอยู่ลงแล้วรีบเดินมาหาผมทันที
“กูบอกแค่นี้ก็บุญหัวมึงแล้วนะ”
“สัสส ให้พื้นที่หน่อยแอ็คใหญ่นะมึง คิดว่ากูยอมง่ายๆ เพราะมึงหรือไง เดี๋ยวกูยั๊วะขึ้นมาจะยกเลิกข้อลงแม่งเลย” -*-!!
“เฮ้ยๆๆ ใจเย็นดิมึง กูแค่เล่นๆ” ผมรีบเข้าไปจับแขนมันเพื่อส่งสายตาอ้อนวอน แต่หน้าส้นตีนอย่างมันก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ แถมมองค้อนผมอยู่นั่นแหละ
“หกโมงเย็น...มึงต้องกลับมาให้ทัน ช้าไปวินาทีเดียวกูจะถือว่ามึงยอมให้กูยกเลิกข้อตกลง เข้าใจตรงกันนะ”
“เออๆ กูเข้าใจแล้...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบมันก็ยกมือขึ้นชี้หน้าส่งสายตาเพชฌฆาตประมาณว่ามึงพูดดีๆ นะ อะไรทำนองนั้น “เออครับๆ ผมรับทราบแล้วครับ คุณชาย”( “-O-)
บอกจบผมก็รีบเดินออกมาทันที หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรตามมาหลอกหลอนผมอีกหรอกนะ ฮ่าๆๆ เป็นอิสระแล้วเว้ย...
เดินมาถึงโรงรถผมก็ขับออกไปตามใจเฉิบ วันนี้ผมนัดกับลิลลี่ไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่ที่ทำให้เราเจอกัน
พอมาถึงผมต้องเช็คความเรียบร้อยของตัวเองกับกระจกรถก่อน แหะๆ ก็อยากให้ดูดีที่สุดก่อนจะไปสวีทกันต่อที่อื่นนี่นา^^
“เอาล่ะวะ พร้อมแล้ว! ลิลลี่มาเลยมา!!” ผมพูดเรียกความมั่นใจของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้าน
วันนี้บรรยากาศร้านดูเงียบเหงาจริงๆ เรียกได้ว่าไม่มีคนเลยจะดีกว่า อะไรจะโรแมนติกเข้ากับเวลาปานนั้น เผลอๆ ไม่ต้องกินอะไรเลยล่ะเพราะผมอยากจะกินเธอเต็มแก่แล้ว><
“ลิลลี่”^O^ ผมส่งเสียงเรียกหญิงสาวผมบ๊อบน่ารักที่กำลังส่องกระจกแป้งตลับเพื่อเติมหน้า เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนจะรีบเก็บของนั่นลงกระเป๋า
“พี่แซคอะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง รู้มั้ยลิลลี่กลัว~” เธอเอนตัวมาเกาะแขนผมก่อนจะดึงให้ลงมานั่งจุ้มปุ๊กที่โซฟาเดียวกัน
“เอิ่ม...แล้วโซฟาฝั่งตรงข้ามลิลลี่จะเว้นให้วิญญาณมานั่งด้วยหรือไงครับ”
“ว๊ายยย วิญญาณที่ไหน”>O< ฮ่าๆๆ เธอกรีดร้องพร้อมเกาะแขนผมอีกครั้ง ดูท่าเธอจะกลัวเข้าขั้นจริงๆ แต่เมื่อเธอหันซ้ายแลขวาไม่เห็นอะไรก็เข้าแบบฉบับที่เธอมักจะทำประจำ
เพี๊ยะ!“พี่แซคอ้ะ ชอบแกล้งลิลลี่อยู่เรื่อย”>< เธอตีแขนผมพร้อมเอ่ยประโยคเดิมๆ ที่ผมมักจะได้ยินประจำ นี่ผมพูดเหมือนไม่ได้เจอกันเป็นชาติเลยแฮะ แต่มันก็...นานจริงๆ ในความรู้สึกอะนะ
“ฮ่าๆ ว่าแต่ลิลลี่จะทานอะไร สั่งไว้หรือยัง”
“เรียบร้อยแล้ว ลิลลี่สั่งแต่ของชอบพี่แซคทั้งนั้น อ๊ะ มานู่นแล้ว”
พนักงานเสิร์ฟเดินกันออกมาสี่ถึงห้าคนและวางอาหารลงบนโต๊ะคนละจานสองจาน ก่อนจะเดินกลับไปอย่างเงียบๆ
ลิลลี่เองก็รู้งานเธอจัดแจงหยิบช้อนส้อมตักอาหารขึ้นแล้วหันมาทางผม
“พี่แซค อ้ามมม...”
“^O^”
“อร่อยมั้ย”
“อร่อยสิอร่อยมากกก...แต่”-_- ผมทำสีหน้าตึงเครียดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากลิลลี่แล้วเธอก็รีบหันมาเป็นห่วงเป็นไยผม
“แต่อะไรหรอคะ” ?O?
“แต่...อร่อยไม่เท่าลิลลี่หรอก” ^^
“อ๊ายยย พี่แซคบ้า ลิลลี่จะละลายตายแล้วน้า” >////<
ผมกับลิลลี่มักจะหวานกันแบบนี้แหละครับ เธอน่ารักนะ ช่างเอาอกเอาใจผมทุกอย่าง แบบนี้ผมถึงยอมจ่ายเงินช้อปให้เธอไม่อั้นเพื่อให้เธอยิ่งคลั่งไคล้ในตัวผม^.^
เรากินและหยอกล้อกันไปจนอาหารในจานเริ่มร่อยหรอ ลิลลี่เองก็ดูท่าจะอิ่มแล้ว ผมจึงรีบเช็คบิลเพราะจะพาเธอไปที่อื่นต่อ
“ทั้งหมด 1590 บาท ชำระเป็นบัตรเครดิตหรือเงินสดดีครับ” พนักงานว่ามาตามเคย
“บัตรละกันนะครับ” ผมเองก็ทำไปตามเคยเช่นกัน
“ระหว่างรอเรามาทำอะไรแก้ว่างกันดีมั้ยคะ” ลิลลี่ถามขึ้น ผมรู้ทันทีว่าสิ่งที่เธอต้องการคืออะไร
“แก้ว่าง...แบบนี้อะหรอ” ผมช้อนตัวเธอเข้าหาตัวผม หน่มน๊มที่ล้นทะลักไม่อายฟ้าดินกำลังแนบชิดอกหนา ผมค่อยๆ โน้มหน้าลงหมายจะจุมพิตเธอแต่เสียงบางอย่างก็ดังขัดขึ้นเล่นเอาผมหน้าเสีย
“ขอโทษนะครับ บัตรเครดิตของคุณถูกระงับ ไม่ทราบว่ามีใบอื่นมั้ยครับ”
“ว่าไงนะ!?” ลิลลี่แว้ดใส่พนักงานก่อนที่จะหันมาหาคำตอบจากผม
“เดี๋ยวก่อนนะ” ผมรีบล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อจะเอาเงินสดที่มีติดตัวอยู่บ้างจ่าย แต่...เหี้ยครับ กระเป๋าผมว่างเปล่า มีเพียงเศษ25สตางค์ให้ดูต่างหน้า เกิดอะไรขึ้นวะ!!?
ขณะที่ผมกำลังง่วนอยู่กับการหาเงินอยู่นั้นลิลลี่ก็ขัดขึ้นเสียงเย็นเยียบ
“พี่แซค เราเลิกกันเถอะค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง” บอกจบเธอก็เดินจากไปทันที
“ลิลลี่เดี๋ยวสิ มันหมายความว่ายังไง” ผมจะวิ่งตามออกไปแต่พนักงานของร้านก็รั้งแขนผมไว้
นี่มันเหี้ยอะไรกับชีวิตกูอีกวะเนี่ย อย่าบอกนะว่าฝีมือไอ้ห่าชายน์อะ-*-
ติ๊ดตี๊ติ๊ด~ ติ๊ดตี๊ติ๊ด~ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นหน้าจอไร้ชื่อ ใครวะ?
ปิ๊บ![สวัสดีครับ] ผมกรอกเสียงที่พยายามไม่เครียดที่สุดไปยังปลายสาย
[มีอะไรให้กูช่วยก็บอกได้นะ] เสียงคุ้นหูนั้นเล่นเอาผมยั๊วะสุดๆ ไหนแม่งบอกว่าจะไม่ยุ่งกับกูไงวะไอ้เหี้ยชายน์
[ชายน์ มึงแอบดูกูอยู่ใช่มั้ย ไหนบอกไม่ก้าวก่ายแต่นี่โคตรก้าวก่ายเลยว่ะ]
[อะไรมึง กูไม่ทันรู้เรื่องก็มาด่าปาวๆ เอาเหอะ ถ้าความหวังดีกูมันก้าวก่ายมึงมากล่ะก็โชคดี] ปิ๊บ!
อ้าวเหี้ยT.T รีบวางทำไมวะ แล้วใครจะจ่ายค่าข้าวให้กูล่ะ สัสสเอ๊ย!! ผมขยี้หัวด้วยความสับสนปนโมโหพนักงานเองก็เรียกเพื่อนอีกสามสี่คนมารุมล้อมผมที่โต๊ะแล้วด้วย
“ผมขอเวลาแปปนึงนะ”^^; ผมหันไปบอกก่อนจะโทรกลับไปหาไอ้ชายน์ แต่สัสครับ...ปิดเครื่อง!!!!
ผมหันหน้ากลับมามองพนักงานทั้งเหงื่อซกอีกครั้ง พร้อมยิ้มหวานปานนายแบบให้ก่อนที่จะตัดสินใจโกยก้นออกจากร้านโดยด่วน
“เฮ้ย กินแล้วชักดาบหรอวะ พวกมึงตามมัน”
ชิบหายอีกแล้วชีวิตกู! โดนกิ๊กทิ้งไม่พอ แม่งยังโดนแก๊งค์ชายถึกวิ่งล่าทวงค่าข้าวอีก กูจะรอดมั้ยเนี่ย TTOTT ฮือออ~
เช้าวันนี้ผมลงมาด้านล่างด้วยอารมณ์เต็มสุขเพื่อบอกเรื่องหนึ่งกับไอ้ชายน์
“กูออกไปข้างนอกนะ”^^
“ออกไปไหนมึง” มันวางแก้วกาแฟที่จิบอยู่ลงแล้วรีบเดินมาหาผมทันที
“กูบอกแค่นี้ก็บุญหัวมึงแล้วนะ”
“สัสส ให้พื้นที่หน่อยแอ็คใหญ่นะมึง คิดว่ากูยอมง่ายๆ เพราะมึงหรือไง เดี๋ยวกูยั๊วะขึ้นมาจะยกเลิกข้อลงแม่งเลย” -*-!!
“เฮ้ยๆๆ ใจเย็นดิมึง กูแค่เล่นๆ” ผมรีบเข้าไปจับแขนมันเพื่อส่งสายตาอ้อนวอน แต่หน้าส้นตีนอย่างมันก็ยังไม่ยอมอ่อนข้อง่ายๆ แถมมองค้อนผมอยู่นั่นแหละ
“หกโมงเย็น...มึงต้องกลับมาให้ทัน ช้าไปวินาทีเดียวกูจะถือว่ามึงยอมให้กูยกเลิกข้อตกลง เข้าใจตรงกันนะ”
“เออๆ กูเข้าใจแล้...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบมันก็ยกมือขึ้นชี้หน้าส่งสายตาเพชฌฆาตประมาณว่ามึงพูดดีๆ นะ อะไรทำนองนั้น “เออครับๆ ผมรับทราบแล้วครับ คุณชาย”( “-O-)
บอกจบผมก็รีบเดินออกมาทันที หวังว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรตามมาหลอกหลอนผมอีกหรอกนะ ฮ่าๆๆ เป็นอิสระแล้วเว้ย...
เดินมาถึงโรงรถผมก็ขับออกไปตามใจเฉิบ วันนี้ผมนัดกับลิลลี่ไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มันเป็นสถานที่ที่ทำให้เราเจอกัน
พอมาถึงผมต้องเช็คความเรียบร้อยของตัวเองกับกระจกรถก่อน แหะๆ ก็อยากให้ดูดีที่สุดก่อนจะไปสวีทกันต่อที่อื่นนี่นา^^
“เอาล่ะวะ พร้อมแล้ว! ลิลลี่มาเลยมา!!” ผมพูดเรียกความมั่นใจของตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้าน
วันนี้บรรยากาศร้านดูเงียบเหงาจริงๆ เรียกได้ว่าไม่มีคนเลยจะดีกว่า อะไรจะโรแมนติกเข้ากับเวลาปานนั้น เผลอๆ ไม่ต้องกินอะไรเลยล่ะเพราะผมอยากจะกินเธอเต็มแก่แล้ว><
“ลิลลี่”^O^ ผมส่งเสียงเรียกหญิงสาวผมบ๊อบน่ารักที่กำลังส่องกระจกแป้งตลับเพื่อเติมหน้า เธอหันมายิ้มให้ผมก่อนจะรีบเก็บของนั่นลงกระเป๋า
“พี่แซคอะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง รู้มั้ยลิลลี่กลัว~” เธอเอนตัวมาเกาะแขนผมก่อนจะดึงให้ลงมานั่งจุ้มปุ๊กที่โซฟาเดียวกัน
“เอิ่ม...แล้วโซฟาฝั่งตรงข้ามลิลลี่จะเว้นให้วิญญาณมานั่งด้วยหรือไงครับ”
“ว๊ายยย วิญญาณที่ไหน”>O< ฮ่าๆๆ เธอกรีดร้องพร้อมเกาะแขนผมอีกครั้ง ดูท่าเธอจะกลัวเข้าขั้นจริงๆ แต่เมื่อเธอหันซ้ายแลขวาไม่เห็นอะไรก็เข้าแบบฉบับที่เธอมักจะทำประจำ
เพี๊ยะ!“พี่แซคอ้ะ ชอบแกล้งลิลลี่อยู่เรื่อย”>< เธอตีแขนผมพร้อมเอ่ยประโยคเดิมๆ ที่ผมมักจะได้ยินประจำ นี่ผมพูดเหมือนไม่ได้เจอกันเป็นชาติเลยแฮะ แต่มันก็...นานจริงๆ ในความรู้สึกอะนะ
“ฮ่าๆ ว่าแต่ลิลลี่จะทานอะไร สั่งไว้หรือยัง”
“เรียบร้อยแล้ว ลิลลี่สั่งแต่ของชอบพี่แซคทั้งนั้น อ๊ะ มานู่นแล้ว”
พนักงานเสิร์ฟเดินกันออกมาสี่ถึงห้าคนและวางอาหารลงบนโต๊ะคนละจานสองจาน ก่อนจะเดินกลับไปอย่างเงียบๆ
ลิลลี่เองก็รู้งานเธอจัดแจงหยิบช้อนส้อมตักอาหารขึ้นแล้วหันมาทางผม
“พี่แซค อ้ามมม...”
“^O^”
“อร่อยมั้ย”
“อร่อยสิอร่อยมากกก...แต่”-_- ผมทำสีหน้าตึงเครียดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากลิลลี่แล้วเธอก็รีบหันมาเป็นห่วงเป็นไยผม
“แต่อะไรหรอคะ” ?O?
“แต่...อร่อยไม่เท่าลิลลี่หรอก” ^^
“อ๊ายยย พี่แซคบ้า ลิลลี่จะละลายตายแล้วน้า” >////<
ผมกับลิลลี่มักจะหวานกันแบบนี้แหละครับ เธอน่ารักนะ ช่างเอาอกเอาใจผมทุกอย่าง แบบนี้ผมถึงยอมจ่ายเงินช้อปให้เธอไม่อั้นเพื่อให้เธอยิ่งคลั่งไคล้ในตัวผม^.^
เรากินและหยอกล้อกันไปจนอาหารในจานเริ่มร่อยหรอ ลิลลี่เองก็ดูท่าจะอิ่มแล้ว ผมจึงรีบเช็คบิลเพราะจะพาเธอไปที่อื่นต่อ
“ทั้งหมด 1590 บาท ชำระเป็นบัตรเครดิตหรือเงินสดดีครับ” พนักงานว่ามาตามเคย
“บัตรละกันนะครับ” ผมเองก็ทำไปตามเคยเช่นกัน
“ระหว่างรอเรามาทำอะไรแก้ว่างกันดีมั้ยคะ” ลิลลี่ถามขึ้น ผมรู้ทันทีว่าสิ่งที่เธอต้องการคืออะไร
“แก้ว่าง...แบบนี้อะหรอ” ผมช้อนตัวเธอเข้าหาตัวผม หน่มน๊มที่ล้นทะลักไม่อายฟ้าดินกำลังแนบชิดอกหนา ผมค่อยๆ โน้มหน้าลงหมายจะจุมพิตเธอแต่เสียงบางอย่างก็ดังขัดขึ้นเล่นเอาผมหน้าเสีย
“ขอโทษนะครับ บัตรเครดิตของคุณถูกระงับ ไม่ทราบว่ามีใบอื่นมั้ยครับ”
“ว่าไงนะ!?” ลิลลี่แว้ดใส่พนักงานก่อนที่จะหันมาหาคำตอบจากผม
“เดี๋ยวก่อนนะ” ผมรีบล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อจะเอาเงินสดที่มีติดตัวอยู่บ้างจ่าย แต่...เหี้ยครับ กระเป๋าผมว่างเปล่า มีเพียงเศษ25สตางค์ให้ดูต่างหน้า เกิดอะไรขึ้นวะ!!?
ขณะที่ผมกำลังง่วนอยู่กับการหาเงินอยู่นั้นลิลลี่ก็ขัดขึ้นเสียงเย็นเยียบ
“พี่แซค เราเลิกกันเถอะค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง” บอกจบเธอก็เดินจากไปทันที
“ลิลลี่เดี๋ยวสิ มันหมายความว่ายังไง” ผมจะวิ่งตามออกไปแต่พนักงานของร้านก็รั้งแขนผมไว้
นี่มันเหี้ยอะไรกับชีวิตกูอีกวะเนี่ย อย่าบอกนะว่าฝีมือไอ้ห่าชายน์อะ-*-
ติ๊ดตี๊ติ๊ด~ ติ๊ดตี๊ติ๊ด~ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นหน้าจอไร้ชื่อ ใครวะ?
ปิ๊บ![สวัสดีครับ] ผมกรอกเสียงที่พยายามไม่เครียดที่สุดไปยังปลายสาย
[มีอะไรให้กูช่วยก็บอกได้นะ] เสียงคุ้นหูนั้นเล่นเอาผมยั๊วะสุดๆ ไหนแม่งบอกว่าจะไม่ยุ่งกับกูไงวะไอ้เหี้ยชายน์
[ชายน์ มึงแอบดูกูอยู่ใช่มั้ย ไหนบอกไม่ก้าวก่ายแต่นี่โคตรก้าวก่ายเลยว่ะ]
[อะไรมึง กูไม่ทันรู้เรื่องก็มาด่าปาวๆ เอาเหอะ ถ้าความหวังดีกูมันก้าวก่ายมึงมากล่ะก็โชคดี] ปิ๊บ!
อ้าวเหี้ยT.T รีบวางทำไมวะ แล้วใครจะจ่ายค่าข้าวให้กูล่ะ สัสสเอ๊ย!! ผมขยี้หัวด้วยความสับสนปนโมโหพนักงานเองก็เรียกเพื่อนอีกสามสี่คนมารุมล้อมผมที่โต๊ะแล้วด้วย
“ผมขอเวลาแปปนึงนะ”^^; ผมหันไปบอกก่อนจะโทรกลับไปหาไอ้ชายน์ แต่สัสครับ...ปิดเครื่อง!!!!
ผมหันหน้ากลับมามองพนักงานทั้งเหงื่อซกอีกครั้ง พร้อมยิ้มหวานปานนายแบบให้ก่อนที่จะตัดสินใจโกยก้นออกจากร้านโดยด่วน
“เฮ้ย กินแล้วชักดาบหรอวะ พวกมึงตามมัน”
ชิบหายอีกแล้วชีวิตกู! โดนกิ๊กทิ้งไม่พอ แม่งยังโดนแก๊งค์ชายถึกวิ่งล่าทวงค่าข้าวอีก กูจะรอดมั้ยเนี่ย TTOTT ฮือออ~
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ