Cupid Crazy สวัสดีครับ!เราเคย(รัก)กันรึเปล่า
เขียนโดย arpol
วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.24 น.
แก้ไขเมื่อ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557 09.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Intro
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความIntro
นี่เป็นวันแรกของการเปิดเรียน แต่ฉันดันใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าในการแต่งตัว นี่ฉันกำลังจะไปสายและถ้าไปสายชื่อฉันต้องถูกเขียนไปในสมุดดำซึ่งเป็นสมุดที่ใช้บันทึกพวกนักเรียนที่มาสายไม่มีความรับผิดชอบ หลังลงจากรถฉันก็สาวเท้ายาวๆเพื่อไปตั้งแถว แต่ไม่ทันแล้วเพลงชาติเริ่มบรรเลงโดยวงดุริยางค์ของโรงเรียน ไม่นะ!!! นี่ฉันอุตส่าห์รีบสุดชีวิตเลยนะ
แทนที่ฉันควรจะเดินไปลงชื่อนักเรียนที่มาสาย ฉีนกลับเลี้ยวไปทางตรงกันข้ามฉันต้องพยายามหลบหน้าหลบตาหาทางที่จะเนียนๆเดินขึ้นไปห้องเรียนพร้อมๆกับเพื่อน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกำลังสวมบทบาทเป็นสายลับ007 โรงอาหารเก่าคือที่หลบอย่างดีแต่พวกผู้พิทักษ์รักโรงเรียนกำลังจะเดินมาทางนี้แล้ว ฉันก้มตัวหลบแล้วคลานไปตามทางกะว่าจะออกทางประตูหลังโรงอาหาร ฉันเริ่มมองเห็นแสงสว่าง ชีวิตฉันกำลังจะเป็นอิสระ~
“เธอมาคลานอะไรอยู่ตรงนี้”เฮือก!ไม่นะ หาข้อแก้ตัวอะไรดี นี่ถ้าฉันไปลงชื่อมันก็จบแล้ว ฉันจะหนีมาทำบ้าอะไรเนี่ย แต่ถ้าถูกจดชื่อ ฉันก็ถูกเพ่งเล็งนะสิ Student of the month เด็กดีประจำเดือนฉันก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที ไม่ว่าจะไปทำอะไรฉันก็จะถูกตัดสิทธิ์หมดเลย ไม่เอานะ!!ฉันเป็นเด็กดีมาตลอด ถ้าไม่นับตอนนี้
“นี่ได้ยินฉันไหมเนี่ย...เธอ เธอ สติหลุดรึไงเนี่ย”
“หะ ฉัน ฉัน ฉันมาหาเหรียญ ใช่แล้ว เหรียญมันกลิ้งๆมาทางนี้ คงอยู่แถวๆนี้แหละ ฉันไม่ได้มาสายเล๊ยน๊ะ”ฉันจะเสียงสูงเพื่ออะไรเนี่ย
“ฉันว่าเธอมาสายแน่ๆ”
“บ้า!ไม่เล๊ย”
“ทำเสียงซะสูงเชียว คนไทยปะเนี่ย เอาจริงๆเธอมาสายใช่ไหม”ทำหน้าตาคาดคั้น แถมใช้น้ำเสียงกดดันแบบนั้นอีกเหงื่อฉันก็ออกจนเซลล์จะเหี่ยวแล้วเนี่ย “ถ้าเธอบอกความจริง ฉันจะช่วยเธอเอง” เหมือนมีแสงส่องทาง แค่บอกไปฉันก็รอด น้ำตาจะไหล แต่...ช่างมันเหอะ คิดมากปวดหัว
“เอ่อ...ก็เพิ่งครั้งแรก”
“เห้ แซฟไฟร์ ทางนี้”นายนั้นกวักมือเรียกพวกผู้พิทักษ์มาทางฉัน นี่มันฆ่ากันชัดๆ ฉันกระโดดปิดปากหมดนั้น แต่มันไม่ทันแล้วพวกผู้พิทักษ์มาทางนี้แล้ววว
“มีอะไร ดีเอ็น”ไอ้คนที่ชื่อ แซฟไฟร์ อะไรเนี่ยแหละ เหล่ตามาทางฉันแบบสงสัย ฉันได้แต่หลุบตาต่ำ นี่ฉันไม่ได้ทำตัวมีพิรุทธิ์ใช่ไหม
“พวกมาสาย”อ๊ากก เอาหนังสือฟิสิกส์มาให้ฉันอ่านทั้งวันเลยดีกว่าที่จะมาทำแบบนี้ ไหนบอกจะช่วยฉันไงไอ้คนกลืนน้ำลายตัวเอง
“อืม”เขาก้มลงมามองแบบเหยียดหยาม เอาเท้ามาขยี้หน้าฉันเลยไหม นี่ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นคนผิดฉันจะกระโดดกัดคอหมอนี่แล้วสูบเลือดออกจากร่างกายให้หมดเลยทีนี่จะได้เป็นผีดิบไปเลย ว่ะฮ่ะๆ ไอหมอนั่นถ้าได้ยินไม่ผิดชื่อ ดีเอ็น ใช่ไหมฉันจะจำไว้จนวันตายเลย ยังกล้ามาทำหน้าสะแหล่นแปร๋นใส่ฉันอีกนะ หึ๊ย!!!
“ตามฉันมา”ตายแน่ฉัน!พวกเขาต้องพาฉันไปห้องทรมานพวกคนชอบโกหกแน่ๆ ฉันเดินตามหลังคนที่ชื่อแซฟไฟร์โดยที่มีดีเอ็นเดินคุยกันไปข้างๆ ยิ้มสนุกสนานจังนะ ไอ้พวกเลือดเย็น พวกแย่งคางคกมาเกิด ไอ้ผีดิบจมน้ำตาย ไอ้พวกสูงเท่าเปรตวัดสุทัศน์ มองหน้าครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตาเลย
“ไอ้พวกเกย์!...”
“เธอว่าอะไรนะ”ดีเอ็น หันมามองฉันทันควัน นี่ฉันคิดดังขนาดที่เขาได้ยินเลยหรอเนี่ย
“ฮะ เปล๊า!”
“เธอรู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร”
“พวกผู้พิทักษ์ไง”
“อ๋อ...จะบ้าหรอ นี่เธอได้มาเข้าค่ายก่อนเปิดเทอมไหมเนี่ย”
“มาสิ”
“แล้วทำไมไม่รู้ว่าพวกเราเป็นประธาน”
“ประธาน!!!”
“ใช่แล้วพวกเราก็ตัดสินโทษของเธอแล้วด้วย”
“หะ”ไอที่เดินพูดคุยกันแล้วยิ้มร่าเริงเนี่ย คือกำลังหาวิธีทรมานฉันเหรอ
“ไม่ต้องมาหง มาหะ ชีวิตเธอตอนนี้...เป็นของฉันแล้ว”
เขาปล่อยฉันให้กลับเข้ามาเรียนแบบงงๆ หมายความว่าไง ไอคำพูดกำกวมนั่นมันหมายความว่าไง แต่ไม่ต้องลงชื่อในสมุดดำนั่นก็โอเคนะ
“เป็นอะไรรึเปล่าเอล์ฟ”เสียงมินัสเรียกสติฉันกลับคืนมา นี่ฉันคงทำหน้าตาเครียดจนเกินไปสินะ
“เปล่าหรอก คิดอะไรนิดหน่อยนะ”
ครูเดินเข้ามาพร้อมนักเรียนใหม่ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจหรอ เพราะปกติก็จะมีพวกลูกคนรวยเข้ามาเรียนทั้งๆที่หมดการสอบเข้าไปนานแล้ว เมื่อวานก็ต้องไปเอาโต๊ะเรียนมาเพิ่ม แต่เสียงปรอทแตกของหลายๆคนทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมองนักเรียนที่เหมือนจะไม่ใหม่หน้าห้อง
“กรี๊ดดดดด!พี่ดีเอ็น” ดีเอ็น...ดีเอ็น...ดีเอ็น ชีวิตเธอตอนนี้เป็นของฉันแล้ว ฉันแล้ว ฉันแล้ว เหมือนมีคนมาทำเสียงเอ็กโค่อยู่ในหูของฉัน ฉันสะกิดถามเพื่อนข้างหน้าที่กำลังกรี๊ดจนลูกกระเดือกแทบหลุดออกมาจากลำคอ จะให้ถามยัยมินัสเหรออยู่กับเธอก็เหมือนอยู่กับซากดึกดำบรรพ์เคลื่อนที่
ฉันจับใจความจากเธอได้แค่ว่า ดีเอ็น เป็นรุ่นพี่ที่จะย้ายมาเรียนชั้นเดียวกับเราเพราะจริงๆแล้วเขาก็อายุเท่ากับเราแต่แค่มีไอคิวสูงเป็นเลิศ เหตุผลเหมือนจะเป็นเรื่องแฝดอะไรเนี่ยแหละฟังไม่ถนัด กรี๊ด ด้วย เล่าไปด้วย ใครจะฟังรู้เรื่อง เขาพูดแนะนำตัวเองสาบานว่านี่เสียงคน ฉันแทบอยากจะยกโต๊ะทุ่มออกไปข้างนอก แบบว่าอาการของคนเขิลก็แบบนี้แหละ เสียงหล่อมากแถมเซ็กซี่นิดๆอีก ทำไมตอนแรกฉันไม่รู้สึกเนี่ย เขาเดินมาขยิบตามาทางฉันมั้ง(?)
“อ๊ากกก พี่ดีเอ็นขยิบตาให้ฉันด้วย” หรือฉันมโนไปเอง เขาหยุดนั่งลงซึ่งที่นั่งของเขาอยู่ทางด้านหน้าฉัน ยัยแตงโมบวมน้ำที่จริงหล่อนชื่อวอเทอร์เมลอน ลมจับจนต้องมีคนหามไปห้องพยาบาลเลยทีเดียว นี่หล่อนเว่อร์ไปไหม
คาบแรกเริ่มขึ้นยันคาบสามนายดีเอ็นอะไรนั่นก็ยังหลับไม่ตื่น ดี!หลับไปไม่ตื่นไปเลย เขาเริ่มค่อยๆขยี้ตาขึ้นมา นี่เขามีพลังจิตอ่านใจคนได้เหมือน ปาร์คซูฮา ในเรื่อง I Hear Your Voice ป่ะเนี่ย
“หมดคาบสามยังอะ หิวข้าวแล้ว หาว~~” กินรองเท้าฉันไปก่อนไหมย๊ะ
“อีกสิบนาที”ฉันไม่ตอบยัยมินัสก็เลยตอบให้แทน ฉันไม่อยากคุยกับพวกแย่งคางคกมาเกิดหรอกนะ
“วันนี้ไปกินข้าวกับฉันนะ”เขาหันมาถามฉันรึเปล่าไม่รู้ แต่ฉันจะคิดซะว่าไม่ได้ถามฉันละกัน งอล!ฉันทำเป็นไม่มองเขาแต่ก็แอบเหล่มองนิดๆเขายังคงจ้องฉันอยู่ นี่คิดจะเล่นสงครามประสาทกับฉันใช่ไหม หรือกำลังใช้วิชาเอเลี่ยนสะกดจิตฉันอยู่ ซึ่งถ้านั่นใช่ นายทำสำเร็จมากเลยหละ นายทำให้ฉันไม่มีสมาธิในการเรียนเลย ทำไม 10 นาทีมันช่างยาวนานขนาดนี้เนี่ย
“เอาหละวันนี้พอแค่นี้นะ หัวหน้า...”ตัวของฉันจากที่เกร็งมานานก็เหมือนกล้ามเนื้อเริ่มค่อยๆคลายตัว
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพคุณครู”
“ขอบคุณค่ะ/ครับ”
“มินัสไปกินข้าวกัน”ฉันรีบหันไปถามเพื่อนที่สนิทที่สุดโดยไม่ได้มองคนข้างหน้าสักนิด เพราะถ้าฉันมองฉันต้องโดนสะกดจิตโดยวิชาจากต่างดาวนั่นแน่ๆ
“อะ...อืม”เธอตอบตกลงแต่เหมือนไม่ได้มองหน้าฉันหล่อนมองไปทางด้านหลังฉันแทน ใครจะสน ฉันรีบเดินออกไปพร้อมๆกับมินัสแต่ก็ต้องหยุดชะงักเนื่องจากกระโปรงฉันที่ถูกดึงไว้ ฉันหันไปมองหน้าเจ้าของมือที่ยื่นมาจับกระโปรงสุดหวงของฉัน
“ขยับอีกนิดฉันกระตุกกระโปรงเธอหลุดแน่”ตอนนี้แม้แต่การหายใจฉันยังแทบไม่กล้าทำ ตาก็ไม่กล้ากระพริบ
ดูเหมือนว่าฉันกำลังถูกกระชากไปแต่ตอนนี้ฉันจับกระโปรงไว้ถ้ามันจะหลุดก็ห้ามขาด! นี่ลูกรักฉันเลยนะ เอวของฉันถูกครอบครองโดยมือของชายเอเลี่ยน
“ไปกินข้าวกับฉันนะ...เอล์ฟ”เสียงที่ฟังดูแผ่วเบา เบาจนแทบเหมือนจะเป็นเพียงลมหายใจที่ออกมา ซึ่งมันช่างเซ็กซี่ “คราวนี้ได้ยินแล้วใช่ไหม”
“อืม”
“เธอเมินฉัน มันใจร้ายมากเลยนะ”เขาเอาหน้ามาซุกไซ้คอฉันเล่นได้ยังไง ถึงฉันจะชอบ...เฮ้ย!ไม่ใช่ๆตั้งสติสิ
“อะ...อะ เอ่อ เห้ย”เขาเปลี่ยนท่ามาพลักฉันชิดกำแพงแล้วใช้มือทั้งสองกักฉันไว้ตรงกลาง เขายืนชิดฉันมากแม้แต่เสียงหัวใจของเขาเต้นฉันยังได้ยิน
“ฉันไม่หิวข้าวแล้ว แต่อยากกินเธอมากกว่า”นี่มันโรคจิตแน่นอน!!!ฉันว่าแล้ว แค่มองหน้าก็รู้ หน้าตาเจ้าเล่ห์ออกแนวชั่วอย่างนั้นช่างรับรอยยิ้มชั่วร้ายนั่นด้วย เอ๊ะ!ไม่สิต้องเป็นเอเลี่ยนโรคจิตร่างอวตารแน่ๆเลยแต่ทำไมไม่เหมือน โทมินจุน สักนิด อ๊ากกก
“อ๊ากกกกกกก...เธอกัดฉันทำไมเนี่ย”
“ฉันหิว หิว หิว หิว”ใช่พวกโรคจิต อาจจะกลัวพวกโรคจิตด้วยกันเองก็ได้
“หยุดเถอะ ฉันเริ่มกลัวเธอแล้วหน้าตาก็ไปเล่น หนังเกี่ยวกับซอมบี้ได้เลยนะเนี่ย”
“นี่ฉันไม่ได้หน้าตาเลวร้ายขนาดนั้นซะหน่อย ฉันเนี่ยไม่ ยุนอา ก็ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เลยนะ”
“สะวง สวิต อะไรนะ”สวิฟต์เฟ้ย “ถ้าเธอเป็นขนาดนั้นฉันก็ นิชคุณ เซฮุน มาริโอ้ โดมปกรณ์ ณเดช หรือไม่ก็”
“หยุดเหอะ นายจะทำให้ฉันไม่อยากกินอะไร ฉันว่าฉันอาการหนักแล้ว นายอาการหนักกว่าฉันอีกนะ”
“ก็ฉันมันหล่อทุกมุม”
จ๊อกกก~
“นี่ ท้องนายนี่ร้องเสียงดังมากเลยนะ”
“จะบ้าเหรอ เสียงมันมาจากเธอเลย”
“ไปกินข้าวกันเหอะฉันหิว”
“ฉันไม่หิวแล้ว”อะไรกันนี่หมอนี่ ย่อยกระเพาะจนอิ่มแล้วรึไง “เธอช่วยเป็นแม่สื่อให้ฉันหน่อยสิ”
“ฉันเนี่ยนะ”จะมาให้ฉันเป็นแม่สื่อ ความรักของฉันเองยังไม่เคยสมหวังสักครั้ง ฮึ่ย!
แม้ฉันจะปฎิเสธแต่สุดท้ายเขาก็เอาเรื่องตอนเช้ามาอ้าง แค่ฉันทำ เรื่องทั้งหมดเป็นอันโมฆะ ทำไมมันแลง่ายๆแบบแปลกๆยังไงไม่รู้ ตอนนี้เขาพาฉันมาดักรออยู่หน้าโรงอาหาร มือของฉันเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ กล่องขนม นี่ฉันรู้สึกเหมือนอยู่ในวันวาเลนไทน์
“ไหนอะ”
“อะไรหละ”
“คนที่นายจะให้เอาไปให้ไง”
“รอแปปนึง เฮ้ย!นั่นไงหมอนั่นออกมาแล้ว”หมอนั่น นายนี่ใช่คำว่าหมอนั่นกับคนที่ชอบหรอ ว่าแล้ว ว่าแล้วเชียว!
“แซฟไฟร์เนี่ยนะ!!!” ถ้าคนที่เดินออกมาเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาตี๋ๆฉันคงจะกล้าเอาไปให้โดยไม่ต้องคิดเลย แต่ไหนเป็นนายผีดิบนั่นได้หล่ะ
“เอ่อ...”ฉันถูกดีเอ็นผลักออกมา ถีบฉันเลยดีกว่าไหม แซฟไฟร์ค่อยๆเลื่อนสมุกในมือลง แล้วใช้สายตาแบบเดิมมองฉันอีก ฉันไปฆ่าไส้เดือนดินบ้านนายตาไง มองกันดีๆไม่ได้รึไง
“...”
“เอ่อ...ดีเอ็นเขาชอบนายมานานแล้ว เขาฝากเอานี่มาให้”ปฎิกริยาที่ฉันได้รับคือ เสียงลมที่พัดผ่านหูไป ฉันเลยเอากล่องขนมสะกิดเขา “ถึงนายไม่ชอบก็ช่วยรับๆไว้เหอะ”
“เธอนี่ดูเหมือนจะมีสมองนะ ทำไมถึงหลงไปเชื่อไอดีเอ็นได้ ถึงว่าเป็นเพื่อนกับยัยนั่นได้”ฉันสตั๊นไป 10วิ นี่เขากำลังด่าฉันใช่ไหม แล้วยัยนั่นคือใคร คำถามนี้เขาปล่อยให้ฉันถามตัวเองโดยที่ตัวเขาเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามองสักนิด ไอ้หน้านกกินไส้เดือน ผิดกับคนที่หัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังฉัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
“ขำมากไหม”
“ฮะๆ มัน...ฮะๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย...มันหยุด ฮะๆๆขำไม่ ฮะๆๆได้”นี่หัวเราะเว่อร์ไปไหม ถ้าลงไปนอนกลิ้งกับพื้นได้นายคงทำแล้วสินะ เขาเอื้อมมือมาตบบ่าฉันน้อยๆตลกมากไหม ฉันใช้กล่องขนมฟาดหน้าเขาไปเต็มแรง จนเขาหยุดหัวเราะทันที
“สนุกมากไหม!!!”ฉันเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ได้หน้ากลัวสุดๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ