lodged a friend (Kamsai)# แค้นนี้...ต้องชำระ!!

อาจมีการเขียนนิยายแบบใหม่หน่อยๆนะคะ （＞∀＜☆ヾ)

"อืม...จะให้มิ้นทดลองอะไรดีน้าา"
"อะไรก็ได้น่า"
"ที่ทดลองแล้วจะไม่เกิดระเบิดนะ"
"(ประชดกันชัดๆ"
"นั้นสิลองทำเค็กช๊อกโกและดูสิ"
"เอ๋"               (มาดูส่วนผสมกัน^^)
ไข่ขาว 2 ฟอง            น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ           ครีมออฟทาร์ทาร์ (Cream of Tartar) 1/3 ช้อนชาส่วนผสม (แป้งเค้ก)           แป้งเค้ก 1 ถ้วย (ตักออก 2 ช้อนโต๊ะ)            ผงฟู 1/3 ช้อนชา           เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา           เกลือป่น 1/3 ช้อนชา           ผงโกโก้  4 ช้อนโต๊ะ             น้ำตาลทรายป่น 3/4 ถ้วย (ตักออก 1 ช้อนโต๊ะ)           น้ำ 70 มิลลิลิตร           นมข้นจืด หรือ นมสดพร่องมันเนย 7 ช้อนโต๊ะ           น้ำมะนาว 1 ช้อนชา           น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ           ไข่แดง 2 ฟอง (ถ้าเป็นฟองเล็ก ใช้ 3 ฟอง)           น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชาส่วนผสม (หน้านิ่ม)           ผงวุ้น 1 ช้อนชา           น้ำ 300 มิลลิลิตร           นมข้นจืด 200 มิลลิลิตร + 1 ช้อนโต๊ะ           น้ำตาลทราย 1 ถ้วย           ผงโกโก้ 7 ช้อนโต๊ะ             แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนชา           นมข้นจืด 11 ช้อนโต๊ะ           เนยสด 75 กรัม
"ยุ่งยากะมัดเลย"
"ส่วนวิธีทำก็เลือกเมนูที่แหวนแล้วก็ให้มันฉายออกมาสิ"
"อืม"
มิ้นปฏิบัติตาม
            (วิธีทำ)
1.นำครีมออฟทาทาร์ผสมใส่ลงในไข่ขาว แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เตรียมไว้ ส่วนน้ำตาลทราย เตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนการตีไข่ขาว (เราเคยอ่านเจอที่ไหนไม่รู้ว่า การเอาไปแช่ตู้เย็นมันจะฟูง่าย เท่าที่เราตีเองก็ฟูไวกว่าอยู่นะ)
2.ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา เกลือป่น ผงโกโก้ และน้ำตาลทรายป่นเข้าด้วยกัน ประมาณ 2 รอบ (สูตรนี้เจนดัดแปลงนิดหน่อยนะคะ เพราะไม่มีช้อนตวง 1/4 เลยใช้ 1/3 แทนค่ะ)
3. ทำหลุมตรงกลางแป้ง
4.ผสมน้ำกับนมข้นจืด น้ำมะนาว น้ำมันพืช ไข่แดง และน้ำหอมกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน
5. เทส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง คนผสมไว ๆ
6.นำไข่ขาวที่ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์ออกจากตู้เย็น จากนั้นตีด้วยความเร็วสูงจนเป็นฟอง (เป็นวิธีที่เหนื่อยที่สุด ต้องขุดพลังมาเต็มที่เลยค่ะเอาไข่ขาวที่ผสมกับครีมออฟทาร์ทาร์ที่เราเอาไปแช่ในตู้เย็นออกมาตีด้วยความเร็วแสง ฮ่า ๆ ตีให้เป็นฟองก่อนนะคะ)
7.พอเริ่มเป็นฟอง ให้ใส่น้ำตาลทรายที่ตวงไว้ลงไป จากนั้นก็ตีต่อด้วยความเร็วสูง ให้ขึ้นฟูจนได้ยอดอ่อน (ตอนนี้เราใช้ตะกร้อมือซึ่งมันเหนื่อยมาก แต่เราตีไปคนไปพอเริ่มเมื่อยก็คนช้า ๆ พอเริ่มมีแรงก็เร่งสปีดใหม่ค่ะ)
8.จากนั้นก็นำส่วนผสมไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอดอ่อนแล้ว ใส่ผสมกับแป้งเค้ก
9.ค่อย ๆ คนผสมจนเข้ากัน
10. จากนั้นนำกระดาษไขปูรอบหม้อหุงข้าวไว้ แล้วเทส่วนผสมใส่ลงในหม้อหุงข้าว กดปุ่ม "อบเค้ก" ใช้เวลาอบประมาณ 1 ชั่วโมง (ส่วนมากเราอบประมาณ 75 นาที จ้า และเช็คว่าสุกรึยังด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มไปที่เนื้อเค้กค่ะ ถ้าไม่มีของเหลวติดมาที่ไม้แสดงว่าสุกแล้วค่ะ)
11.เมื่ออบเสร็จแล้วหน้าตาเป็นแบบนี้ ให้คว่ำออกจากหม้อหุงข้าว พักทิ้งไว้จนเย็น (แสงไม่เท่ากันเพราะเราถ่ายไว้ทั้งแบบทำตอนไม่มีแสงแดดกับตอนมีแสงแดดจ้าหน้าตากับสีจะแตกต่างกันแต่รสชาติอร่อยเหมือนกันนะจ๊ะ) พอเค้กเย็น ใช้ด้ายเย็บผ้าแบ่งเค้ก (เนื่องจากไม่มีมีดฟันเลื่อย เราเลยลองใช้ด้ายเย็บผ้านี่แหละค่อย ๆ แบ่ง มันเวิร์กมาก 555)
12.ใช้พลาสติกถนอมอาหารพันรอบเค้กชั้นล่าง เตรียมไว้ รอราดหน้าเค้ก
13.นำผงวุ้น น้ำ นมข้นจืด น้ำตาลทราย และผงโกโก้ ใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง คนผสมเรื่อย ๆ จนเดือด (อย่าใจร้อนเปิดไฟแรงนะคะไม่งั้นก้นหม้อจะไหม้ค่ะ เราโดนมาแล้วต้องอดทนคนไปเรื่อย ๆ นะคะ) 
14.จากนั้นก็ใส่แป้งข้าวโพด และนมข้นจืดลงไป คนผสมเรื่อย ๆ ห้ามหยุด (เพราะส่วนผสมจะข้นขึ้น ถ้าหยุดคนมันก็จะติดก้นหม้ออีกค่ะ อันนี้ก็โดนมาแล้วค่ะ)
15. พอคนจนส่วนผสมข้น จะเห็นรอยตะกร้อจาง ๆ ก็ปิดไฟ แล้วใส่เนยสด คนผสมต่อจนส่วนผสมเริ่มอุ่น จากนั้นนำไปราดลงบนเค้ก (ขอแนะนำให้คนจนอุ่นเลยนะคะ เราเคยคนจากหม้อปิดไฟแปบเดียวแล้วราด ปรากฏว่า ไหลเลอะเทอะหมดเลย แล้วมันร้อนจะทำให้พลาสติกที่เราครอบไว้บิดเบี้ยวด้วยค่ะ อีกอย่างถ้าไม่คนให้อุ่นก่อน หน้านิ่มจะเป็นลิ่ม ๆ ค่ะ เวลาเทหน้าจะไม่เนียนค่ะ)
16. พอราดส่วนผสมหน้านิ่มแล้ว วางเค้กทิ้งไว้ให้เซตตัว จากนั้นนำเข้าตู้เย็น (อันนี้เพื่อให้หน้านิ่มเซตตัวอย่างจริงจัง เท่าที่ทำมาหลายครั้งแล้วนะคะ เจนสังเกตว่า เวลาเราเอาเข้าตู้เย็นหรือรอให้เซตตัว ถ้าไม่มีภาชนะคลุมหรือปิดเค้กไว้ สีของหน้านิ่มจะเข้มขึ้นอีกค่ะ แต่อย่าคลุมตอนที่ยังอุ่น ๆ หรือร้อนนะคะ เพราะมันจะเป็นไอน้ำหยดลงบนเค้กได้ค่ะ)
"เสร๊จสักที"
"ทำครั้งแรกก็ดีนี่นา"
"คิกๆหรอ"
"อืม..มาชิมดีกว่า"
"อ้าม..."
"อร่อยจัง^^"
"รสชาติดีนี่"
"อร่อยมากเลยมิ้น"
"ส่วนผสมก็เข้ากันดีนี้"
"อืม"
"การทำนมน่ะต้องมีความอดทนสูงนะ"
"เอ๋..ทำไมอ่ะน่าเบื่อ"
"ก็เพราะเวลาทำขนมถ้าพลาดแค่นิดเดียวก็ต้องแก้ใหม่ทั้งอันนะ"
"หรอ"