The Revenge ความแค้นที่หอมหวาน

9.2

เขียนโดย MeTang

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.06 น.

  36 ตอน
  10 วิจารณ์
  42.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ตอนที่ 21

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               ในเวลาไม่นานแท็กซี่ที่ปอนด์โดยสารก็พาเขามาส่งยังอพาร์ทเม้นต์ ปอนด์ให้แท็กซี่จอดก่อนจะถึงอพาร์ทเม้นต์ที่เขาอาศัย เพราะตั้งใจว่าจะเดินดูลาดเลาก่อน เขาไม่อยากบุ่มบ่ามเดินไปหาคนที่ไม่เคยเห็นหน้า เพราะไม่รู้ว่าบุคคลที่เขากำลังจะเจอเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่

                ปอนด์เดินไปเรื่อยๆจนเห็นชั้นดาดฟ้าของตึกที่เขาพักอยู่ ก่อนจะชะลอความเร็วจากการเดินลง ปอนด์เริ่มสอดส่ายสายตาตามซอกมุมของตึกตึก เขาเช็คดูอย่างระแวงว่าจะมีคนดักรอเขาอยู่หรือไม่ ซึ่งปกติแล้วแถวนี้ก็ดูปลอดภัยดี เพราะมีแสงไฟลอดเล็ดจากภายในอาคารบ้านเรือนต่างๆออกมา จึงทำให้บริเวณนี้ไม่ได้เปลี่ยวหรือเป็นแหล่งซ่องสุม แต่อาจเป็นเพราะว่าปอนด์เริ่มกลายเป็นคนขี้ระแวงไปแล้วก็ได้ ทุกสิ่งที่เขาคิดว่าปลอดภัยกลับกลายเป็นอันตรายไปเสียแล้ว

                แสงนีออนจากข้างหน้าอพาร์ทเม้นต์ที่ปอนด์พักถูกเปิดไว้สว่างจ้า จนทำให้ปอนด์เห็นร่างของหญิงสาวในชุดพนักงานออฟฟิศได้ในระยะไกล ทั่วทั้งบริเวณนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเธอคนนั้น ปอนด์จึงคิดว่าผู้หญิงคนนั้นต้องใช่ซินดี้แน่นอน

               ปอนด์ตั้งใจจะแกล้งทำเป็นเดินเข้าหอไปเงียบๆ โดยไม่ให้เธอรู้ว่าเขาคือปอนด์ ไม่ใช่คนที่เธออยากจะเจอ ปอนด์ค่อยๆเดินขึ้นบันไดหน้าหอไป พยายามที่จะไม่เหลียวมองผู้หญิงคนที่ยืนรออยู่ที่ขั้นบันไดบนสุดนั้น และพยายามทำท่าทางให้ดูปกติมากที่สุด

               “สวัสดีค่ะ คุณเกรียงไกร” เสียงหญิงสาวพูดดักขึ้น

               “อ... เอ่อ ส... สวัสดีครับ” ปอนด์เผลอทักตอบไป

               “ดิฉันซินดี้ค่ะ” เธอยิ้มให้

               ปอนด์จ้องหน้าของผู้หญิงคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าเขาเคยเห็นหน้าเธอจากที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า ปอนด์คิดแล้วคิดอีกจนเริ่มจะท้อ ก็ให้คำตอบตัวเองไม่ได้

               “ก่อนอื่นต้องขออภัยนะคะ หากทำให้คุณตกใจ” ซินดี้ยื่นบัตรพนักงานที่ห้อยคอแสดงให้ปอนด์ดู “ดิฉันทำงานอยู่สำนักข่าวบากกอกไทม์ค่ะ”

               “คุณต้องการอะไร ถ้าจะมาคุยเรื่องภาพของริวกิ คุณก็คงต้องไปเอากับเขาเอง”

               “แสดงว่าคุณคงเจอคุณริวกิมาแล้วสินะคะ”

               “ไม่ใช่แค่เจอหรอกครับ”

               “ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันเป็นคนแจ้งให้คุณริวกิทราบเรื่องภาพนั้นเองค่ะ”

               “คุณก็เป็นคนของริวกิสินะ” ปอนด์เริ่มฉุนเมื่อเจอตัวการที่ทำให้เขาโดนริวกิย่ำยี “เงินของริวกิคงซื้อจรรยาบรรณนักข่าวของคุณไปแล้วสินะ”

               “ไม่ใช่เงินหรอกค่ะ” ซินดี้ยิ้มกว้าง “ที่ฉันทำไปก็เพื่อปกป้องความถูกต้องค่ะ สิ่งที่คุณเห็นและเอาไปตีความเอามันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ค่ะ”

               “ทุกอย่างจบแล้ว มันไม่ประโยชน์อะไรที่ผมจะต้องข้องเกี่ยวกับพวกคุณอีก”

               “มันยังไม่จบหรอกค่ะ ยังมีความจริงของคุณริวกิที่คุณยังไม่รู้จัก”

               “ผมคิดว่าจะด้านไหนมันก็ไม่จำเป็น เพราะผมรู้จักคนอย่างริวกิมามากพอแล้ว”

               “คุณนี่ดูสนิทกับคุณริวกิมากกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะคะ”

               ปอนด์มองหน้าไปยังซินดี้โดยไร้คำตอบ เขามองเห็นใบหน้าที่สวยสง่าของเธอชัดเจน ซินดี้รวบผมหางม้าตึงเผยให้เห็นความคมของใบหน้าเธอเด่นชัด แว่นสายตาที่เธอสวมใส่กลับไม่ได้บดบังความเซ็กซี่ของเธอไปเลย แม้จะแต่งหน้าไม่หนามาก ปอนด์ก็รู้สึกว่าเธอดูสวยมากอีกคนหนึ่ง

               “ดิฉันขอเข้าประเด็นเลยแล้วกันนะคะ ดิฉันมีเวลาไม่มาก”

               “อ... อะไรนะ” ปอนด์อึ้งโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

               “ตอนนี้ฉันกำลังตามสืบเรื่องผู้ค้ายารายใหญ่ให้คุณริวกิอยู่ค่ะ”

               “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม”

               “ดิฉันได้ข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อของพวกมันมา ซึ่งรวมถึงหัวหน้าใหญ่ของมันด้วย” ซินดี้ลดระดับเสียงต่ำลงมา “ดิฉันอยากรบกวนคุณเอาข้อมูลนี้ไปให้คุณริวกิหน่อยนะคะ”

               “คุณทำงานด้วยกันแล้วทำไมคุณไม่เอาไปให้เขาเองล่ะ”

               “การไปพบคุณริวกิด้วยตัวเองอาจจะเป็นที่สังเกตค่ะ”

               “คุณก็โทรบอกเจสันก็ได้”

               “ฉันเกรงว่าช่องทางการติดต่อสื่อสารของฉันจะถูกดักฟังในทุกรูปแบบ ดิฉันจึงไม่สามารถทำอะไรที่มันประเจิดประเจ้อได้ค่ะ”

               ปอนด์ยืนคิดถึงเหตุผลทั้งหมดที่ดูเข้าเค้าน่าจะเป็นความจริงที่สุด แต่ไม่เอาแล้วเขาไม่อยากเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปพัวพันกับชีวิตของริวกิอีกต่อไปแล้ว ปอนด์ทำไม่ได้เขาไม่อยากเจอหน้าริวกิอีก

               “ช่วยพวกเราหน่อยเถอะค่ะ ถ้างานนี้สำเร็จเราจะตัดตอนพวกค้ายารายใหญ่ในประเทศได้ และอาจช่วยเหลือชีวิตคนอื่นได้อีกหลายชีวิตเลยนะคะ” ซินดี้คว้ามือของปอนด์ขึ้นมากุม

               “มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม”

               “ถ้าคุณรู้จักคุณริวกิดีจริง คุณจะไม่พูดประโยคนี้เด็ดขาด”

               “ท... ทำไม”

               “ฉันจะเล่าเรื่องของฉันให้คุณฟังแล้วกันนะคะ อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนใจ” ซินดี้ขยับแว่นและทำหน้าจริงจัง “เมื่อหลายปีก่อนฉันไปเที่ยวที่ไนต์คลับของคุณริวกิ คืนนั้นฉันมาเที่ยวกับแฟนแล้วเราก็ทะเลาะกัน ดิฉันจึงตัดสินใจจะกลับบ้านก่อนเพราะไม่อยากทนเห็นหน้าเขาอีกต่อไป มันเป็นเวลาดึกแล้วที่ฉันยืนรอเรียกรถเพื่อที่จะกลับ แต่ในระหว่างนั้นเองก็มีพวกผู้ชายสามคนเดินตรงมาที่ดิฉัน และพยายามจะลากฉันให้ไปกับพวกมัน”

               ซินดี้เล่าด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจแสดงความรู้สึกออกมาผ่านแว่นสายตาจนปอนด์รับรู้ได้ ถึงแม้กระนั้นปอนด์ก็พยายามทำใจแข็งเพื่อจะต่อสู้กับทุกเรื่องที่ซินดี้เล่า

               “แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อครับ”

               “ดิฉันก็พยายามต่อสู้และกรีดร้อง จนคุณริวกิได้ยินเสียงแล้วเข้ามาช่วยฉันไว้ทันค่ะ คุณริวกิจัดการพวกมันและส่งมันให้ตำรวจสอบปากคำต่อ จนขยายผลการจับกุมได้ความว่าพวกมันใช้ไนต์คลับของคุณริวกิเป็นที่ปล่อยยามาหลายครั้งแล้ว และในวันที่มันจะทำอะไรมิดีมิร้ายกับดิฉันพวกมันก็เสพยามาก่อนหน้านี้ด้วย”

               “ก็ดีแล้วหนิครับ ถือว่าคุณโชคดี”

               “ไม่ใช่เพราะดิฉันโชคดีค่ะ แต่เป็นเพราะความช่วยเหลือที่คุณริวกิหยิบยื่นให้แม้จะไม่รู้จักกันต่างหาก ถ้าวันนั้นคุณริวกิไม่ทำแบบนี้ ป่านนี้ดิฉันอาจจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”

               “แต่...”

               “ฉันเชื่อว่าคุณเองก็มีบางอย่างที่คล้ายคุณริวกิอยู่”

               “ไม่หรอกครับ เราไม่มีอะไรที่เหมือนกัน”

               “ก็ยอมรับค่ะว่าบางอย่างอาจจะแตกต่างกัน เช่นคุณริวกิไม่ค่อยจะเปิดใจรับมิตรภาพใหม่ๆ เพราะกลัวจะถูกหักหลัง ขนาดดิฉันทำงานให้เขาหลายครั้งเขาเองก็ยังไม่สนิทใจกับดิฉันเหมือนคุณเลยค่ะ”

               “คุณรู้ได้อย่างไรว่าริวกิเขาเปิดใจให้ผม”

               “ข้อนี้คุณควรจะถามท่านริวกิเองมากกว่านะคะ”

               ปอนด์ไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้พูดความจริง ทั้งเรื่องโชคร้ายที่เธอเล่าและเรื่องนิสัยของริวกิ อันที่จริงแล้วปอนด์ก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาจะรู้จักริวกิดีมากกว่าซินดี้

               “แล้วผมจะเชื่อได้อย่างไรว่าที่คุณพูดเป็นเรื่องจริง”

               “ถ้าคุณไม่เชื่อในคำพูดของดิฉัน หรือคำพูดของคุณริวกิ คุณก็ลองเชื่อใจคุณดูอีกสักครั้งสิคะ”

               ปอนด์นิ่งเงียบอยู่ในใจ เขาไม่อยากเชื่อใจใครและไม่อยากตกเป็นเครื่องมือของใครอีกแล้ว แต่ถ้าหากสิ่งที่ซินดี้พูดจริง มันก็เป็นเรื่องดีๆที่ปอนด์ควรจะทำไม่ใช่เหรอ มันไม่ใช่งานยากเลยที่จะเอาข้อมูลอะไรสักเล็กน้อยไปให้ริวกิ

               “ดิฉันขอลานะคะ คุยกันนานไปเดี๋ยวจะผิดสังเกต ดิฉันไม่อยากให้คุณเดือดร้อน” ซินดี้ตบมือปอนด์ที่กำแน่นเบาๆก่อนจะเดินจากไป

               ปอนด์รู้สึกแปลกๆในกำมือของตัวเอง เขาจึงแบกำปั้นออกมาดู แฟลชไดร์ฟสีดำขนาดเล็กถูกวางไว้ในอุ้งมือของปอนด์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปอนด์มั่นใจว่าซินดี้เป็นคนยัดให้เขาตอนที่เขากำลังเผลอ หรืออาจจะเป็นเพราะปอนด์มัวแต่ตั้งใจฟังเรื่องราวของเธอจนไม่ทันสังเกตอะไร แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีซินดี้ก็หายไปพร้อมกับรถส่วนตัวของเธอไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงแต่แฟลชไดร์ฟและความสับสนให้ปอนด์อีกเช่นเคย

               เรื่องนี้มันต้องใช้เวลาคิดสักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป ปอนด์เดินขึ้นห้องเพื่อใช้เวลาทบทวนว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี

               เมื่อถึงหน้าห้องของตัวเอง ปอนด์พบว่าที่ประตูห้องไม่มีกระดาษโน้ตของโจ๊กแล้ว แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้มาก เพราะเขามีปัญหาใหญ่เรื่องใหม่ให้คิดมากกว่าเรื่องกระดาษแผ่นเดียว ซึ่งบางทีมันอาจจะโดนลมพัดปลิวไปหายไปหรือไม่ป้าแม่บ้านก็คงจะจัดการกวาดมันลงถังขยะแล้วก็ได้

               ปอนด์ทิ้งร่างที่อ่อนล้าลงไปบนเตียงนอนลายซุปเปอร์ฮีโร่ของเขา คำพูดของซินดี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขาไปมา ปอนด์คิดว่าคนอย่างริวกิมีอะไรให้เขาต้องเชื่อถือ แล้วไหนจะผู้หญิงลึกลับที่โผล่มาแบบไม่มีปีไม่ขลุ่ยอีก ในโลกนี้เขาจะเชื่อใครได้อีก อีกอย่างการเอาชีวิตไปเสี่ยงกับผู้มีอิทธิพลมากกว่าหนึ่งคน อาจจะส่งผลเสียต่อเขามากกว่าก็ได้

               แต่บางสิ่งที่ซินดี้พูดก็มีส่วนถูก ปอนด์กับริวกิเหมือนกันตรงที่ชอบช่วยเหลือคน หากแค่การกระทำที่เล็กน้อยของตัวเอง สามารถช่วยชีวิตคนอื่นให้ดีขึ้นได้ พวกเขาก็ยินดีทำโดยไม่หวังผลตอบแทน และงานนี้มันก็ไม่ได้ยากอะไรเลย แค่เดินไปหาริวกิและยื่นแฟลชไดร์ฟให้ จากนั้นก็หายตัวไปโดยที่ไม่ให้ใครรู้

               ปอนด์คิดทบทวนและแต่สู้กับตัวเองในจิตใจจนเขาเผลอหลับไปโดยที่ในมือยังกำแฟลชไดร์ฟอยู่ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี จิตใจอีกด้านก็พยายามจะวิ่งหนีริวกิ ส่วนอีกด้านก็โหยหา มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่ตอนนี้ปอนด์เองยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ เขาเพียงแต่หวังว่าจะได้รับคำตอบของหัวใจ ในวันที่ไม่สายจนเกินไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา