The Revenge ความแค้นที่หอมหวาน
9.2
เขียนโดย MeTang
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.06 น.
36 ตอน
10 วิจารณ์
42.58K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) ตอนที่ 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ เมื่อไฟอารมณ์ของริวกิเริ่มลุกโชน เขาก็พร้อมที่เผาไหม้ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ริวกิไม่รีรอให้เวลาแต่ละวินาทีเดินผ่านไปอย่างไร้ความหมาย เขาเริ่มรุกหนักบนร่างที่ไม่ไหวติง
ริวกิใช้ฝ่ามือนวดคลึงผ่านผืนผ้าบางๆ ไปยังจุดศูนย์กลางของปอนด์ เจ้าสิ่งที่ถูกรบเร้าเริ่มแสดงอาการรับรู้ด้วยการขยายตัวใหญ่ขึ้นช้าๆ ยิ่งริวกิกระตุ้นอารมณ์มากเท่าไหร่ เจ้าสิ่งอ่อนไหวนั้นก็ยิ่งผงาดมากขึ้นเท่านั้น เขาค่อยๆสอดมือเคลื่อนเข้าไปใต้ผ้าที่รัดแน่นนี้ เพื่อตรวจวัดระดับความอุ่นที่ปอนด์มีอยู่
ปอนด์เริ่มตัวสั่นเทาโดยที่เขาไม่ได้บังคับแม้แต่น้อย เสียงครางในลำคอถูกปลดปล่อยออกมาอย่างระมัดระวัง เพราะปอนด์รู้ว่าหากเขาร้องเสียงดังมากเท่าไหร่ ริวกิคงสะใจมากขึ้นเท่านั้น
“วันนี้นายเชื่องขึ้นเยอะเลยนะ” ริวกิใช้มือคลำหาจุดกระสันของปอนด์ และเริ่มกำมันไว้อย่างแน่นหน้า
แม้แขนขาของปอนด์จะอ่อนแรงขยับได้ไม่มากนัก แต่ความรู้สึกจากการเร่งเร้ากลับส่งผลต่ออารมณ์ของปอนด์ได้ครบทุกจุด ทั้งเจ็บปวด เสียวซ่าน หรือร้อนแรง
ริวกิเริ่มโยกมือขึ้นลงภายใต้กางเกงในลายน่ารัก เขาพอใจเป็นอย่างมากที่เห็นปอนด์หลับตาพริ้มและเริ่มขบกัดริมฝีปากของตัวเอง แต่ก่อนที่ริวจะเติมเชื้อไฟให้ปอนด์ต่อไปนั้น เสียงมือถือจากในกระเป๋าของปอนด์ก็ดังขึ้น จนริวกิต้องสงบศึกเป็นการชั่วคราว
ปอนด์นึกขอบคุณใครก็ตามที่โทรเข้ามาหาเขาในจังหวะแบบนี้ เขาเผลอยิ้มออกมาด้วยความไม่ตั้งใจ
“นายคิดว่าเสียงแค่นี้จะทำให้ฉันหยุดได้เหรอ” ริวกิตอบรอยยิ้มทะเล้นของปอนด์ก่อนที่จะเริ่มตะบี้ตะบันของในมืออีกครั้ง “ไม่มีอะไรจะหยุดฉันได้ในคืนนี้”
“พ... พอก่อนเถอะน่า มันอาจจะเป็นธุระด่วน” ปอนด์เผลอขบเม้มที่ริมฝีปาก
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่องอีก 2-3 รอบจนเริ่มทำให้ริวกิต้องขมวดคิ้มเป็นปมด้วยความหงุดหงิด ซึ่งตรงข้ามกับปอนด์ที่ดูเหมือนจะยิ่งดีใจทุกครั้งที่เสียงมือถือดัง
“อาจจะเป็นเรื่องสำคัญของฉันก็ได้นะ”
“ฉันไม่หลงกลเด็กน้อยที่ชอบทำท่าทางใสซื่ออย่างนายหรอก”
“ได้โปรด... นายจะเอามีดหรือปืนจ่อหัวฉันก็ได้ หรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็ให้ฉันได้รู้ว่าใครโทรมาหาก็ยังดี” ปอนด์ส่งสายตาออดอ้อน “ฉันไม่มีทางหนีนายไปได้อยู่แล้ว ยิ่งในสภาพแบบนี้”
ริวกิหยุดนิ่งสักพักก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นตามที่ปอนด์ขอร้อง เขาไม่แน่ใจตัวเองว่าที่ยอมทำแบบนี้เป็นเพราะปอนด์ หรือเพราะเขารำคาญเสียงที่ดังขัดอารมณ์เขากันแน่ เขาเดินหายจากห้องนอนไปยังกระเป๋าสะพายของปอนด์ที่ตั้งอยู่ข้างๆโต๊ะทำงาน
กระเป๋าหนังถูกกระชากขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ริวกิรีบเปิดกระเป๋าควานหาโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เขาเจอมันมีมากกว่าสิ่งที่เขาต้องการหา
ริวกิกดปิดโทรศัพท์ทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองว่าใครโทรมา จากนั้นก็ยัดมันกลับลงไปที่เดิมและหยิบกล้องถ่ายภาพขึ้นมาแทน ในชั่วขณะนั้นเขารู้ทันทีว่าปอนด์จะเอามาทำอะไร แผนแรกคงตั้งใจจะทำให้เขาตกอยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็คงจัดการแบล็คเมล์เขาด้วยกล้องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งแผนการที่ริวกิคาดเดานั้นตรงตามสิ่งที่ปอนด์ต้องการทุกอย่าง
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กลับมาพร้อมกล้องถ่ายรูปในมือ ทำให้ใบหน้าของปอนด์เหวอขึ้นทันที เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าตัวเองต้องแย่แน่ๆ แต่อันที่จริงต่อให้ริวกิไม่เจอกล้องนี้ ปอนด์ก็ไม่มีทางที่จะแย่มากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว
“นี่นายกะจะเอามาแบล็กเมล์ฉันเหรอ” ริวกิยกกล้องในมือขึ้นมา
“ป... เปล่า แค่จะเอามาอวดนายและขอบคุณสำหรับเงินที่นายให้” ปอนด์ปฏิเสธน้ำขุ่นๆ
“นายโกหกไม่เก่งเลย” ริวกิเย้ยเยาะ
“ฉันเปล่านะ” ปอนด์ยังคงยืนกราน
“แต่จะว่าไปเจอเจ้านี่ก็ดีเหมือนกัน” ริวกิทำท่ายกกล้องแนบใบหน้าเหมือนกับจะถ่ายรูป “เรายังไม่มีรูปคู่ด้วยกันเลยหนิ”
“นายอยากถ่ายก็ถ่ายไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่อยากอยู่ร่วมรูปกับนาย”
“เอาอย่างนั้นเหรอ” ริวกิเลื่อนกล้องลงจากใบหน้า “ขนาดในรูปนายก็ไม่อยากอยู่กับฉันเลยเหรอ”
“คนอย่างนายมันสมควรต้องอยู่คนเดียว”
“ก็ดี ไหนๆฉันมันก็เป็นคนที่ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยอยู่แล้ว งั้นฉันขอทำอะไรให้มันสะใจหน่อยก็แล้วกัน”
ริวกิวางกล้องลงบนเตียง เขาใช้มือทั้ง 2 ข้างถ่างขาของปอนด์ให้แยกออก และจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ลายน่ารักชิ้นสุดท้ายที่ปอนด์สวมใส่อยู่
“ฉันก็ชอบถ่ายรูปนะ โดยเฉพาะรูปธรรมชาติ”
“นายอย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
ริวกิคว้ากล้องขึ้นมาและเริ่มกดชัตเตอร์ไปยังร่างของปอนด์ที่เปลือยเปล่า ร่างบึกบึนสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนนี้ช่างดูมีเสน่ห์เหลือล้น ท่าทางการยกกล้องที่ดูทะมัดทะแมงมันทำให้ปอนด์หน้าแดง ทุกอิริยาบถไม่ว่าจะยกมือหรือก้มตัวต่ำล้วนทำให้ลวดลายของกล้ามเนื้อบนร่างกายของริวกิเด่นชัดขึ้น
“นายยังดูไม่เป็นธรรมชาตินะ” ริวกิพูดในขณะที่ยื่นกล้องเข้าจ่อใบหน้าของปอนด์ “ฉันว่าฉันน่าจะเรียกเจสันให้มาช่วย... ”
“มันจะมากไปแล้วนะ” ปอนด์ใช้ฝ่ามือปัดกล้องในมือของริวกิตก “เลิกทำเหมือนกับฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่จะเล่นอะไร หรือโยนให้ใครก็ได้สักทีเถอะ”
ปอนด์รู้สึกทั้งอายและโกรธที่ได้ยินริวกิพูดแบบนั้น แค่ต้องเสียสิ่งที่ผู้ชายปกติเขาไปเสียกันให้ริวกิแล้ว เจ้าบ้านั่นยังจะเรียกให้ใครต่อใครมาดูเขาในสภาพที่แม้แต่ตัวเองยังรับไม่ได้อีก สำหรับปอนด์แล้ว สิ่งเหล่านี้มันทุเรศเกินกว่าที่เขาจะรับได้
ริวกิได้แต่ยืนนิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าคำพูดของเขาทำร้ายจิตใจของปอนด์เพียงใด อันที่จริงเขาไม่เคยต้องระมัดระวังคำพูดใดๆเลย เพราะชีวิตของริวกิ เขามีอำนาจพอที่จะพูดอะไรที่มันทำร้ายความรู้สึกของใครก็ได้ จิตใจของริวกิที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเย็นชา มันช่างห่างไกลจากคำว่าอ่อนโยนมากนัก
“ฉ... ฉันแค่ล้อนายเล่น” ริวกิกล่าวอย่างตกใจ
ปอนด์มองไปยังกล้องที่หล่นลงบนพื้น
“เดี๋ยวก่อนนะ... นี่นายขยับตัวได้แล้วเหรอ” ริวกิถาม
“จริงด้วย” ปอนด์ลองยกแขน เขาสามารถยกได้สูงขึ้นกว่าเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว แต่ทำได้ดีสุดคือแค่ยกลอยสูงจากเตียงได้ไม่มากนัก “ขยับได้นิดหน่อยแล้ว”
“แต่นายเพิ่งปัดกล้องจากมือฉันหล่น”
“สงสัยเพราะฉันโกรธนายมาก” ปอนด์ยิ้มอย่างชื้นใจ “ไม่ก็ยากำลังจะหมดฤทธิ์”
“อย่างนั้นหรอกเหรอแล้วตอนนี้นายลุกขึ้นได้หรือยังล่ะ”
ปอนด์ลองพยามออกแรงลุก หรือขยับร่างกายเพื่อทดสอบดู เขารู้เหมือนว่าร่างกายแค่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หายดีทั้งหมด
“ยังนะ ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังไม่หาย” ปอนด์ตอบด้วยความใสซื่อ
“สงสัย...” ริวกิปลดเข็มขัดออก และค่อยๆเปลื้องกางเกงออกเหลือเพียงแต่กางเกงชั้นในขาสั้น “คงต้องรีบก่อนที่ยานายจะหมดฤทธิ์แล้วล่ะสินะ”
“ถ้านายยังขืนคิดจะทำอะไรบ้าๆอีก ฉันได้เอากำปั้นต่อยหน้าหล่อๆของนายในอีกไม่นานนี้แน่” ปอดน์ขู่
“ฉันก็ใช้เวลาไม่นานหรอก ที่จะใช้บางอย่างยัดเข้าไปในตัวนาย”
“ริวกิ แก...”
“เตรียมหน้าหวานๆ กับเสียงครางนุ่มๆของนายไว้ได้เลย”
ริวกิดึงชุดชั้นในและถุงเท้าออก เขาค่อยๆคลานไปยังร่างของเด็กหนุ่มผิวขาว ที่เริ่มขยับร่างกายได้มากกว่าเดิม สีตาของเด็กคนนี้ไม่มีความหวดหวั่นหรือวิตกกังวลอีกแล้ว เหลือเพียงแววตาที่ดุดันและพร้อมจะเอาเรื่อง
ลิ้นชักข้างเตียงถูกเปิดออก ริวกิเอื้อมมือหยิบของเหลวใสที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดขึ้นมา เขายิ้มให้ปอนด์ที่จ้องหน้ามองไปยังเจ้าสิ่งที่เขาถืออยู่
“ไม่มีเวลาเหลือให้สวีตกันแล้ว นายคงต้องเจอของจริงแล้วล่ะ” ริวกิหัวเราะ
หัวใจที่มุ่งแต่จะแก้แค้นของทั้งริวกิและปอนด์กำลังจะเปลี่ยนไป เขาทั้งคู่แค่อยากจะเอาชนะเหนืออีกฝ่าย และบนเส้นทางแห่งความสับสนนี้ จะทำคนทั้งคู่ค้นพบเส้นทางใหม่อีกเส้นทางหนึ่ง
ริวกิใช้ฝ่ามือนวดคลึงผ่านผืนผ้าบางๆ ไปยังจุดศูนย์กลางของปอนด์ เจ้าสิ่งที่ถูกรบเร้าเริ่มแสดงอาการรับรู้ด้วยการขยายตัวใหญ่ขึ้นช้าๆ ยิ่งริวกิกระตุ้นอารมณ์มากเท่าไหร่ เจ้าสิ่งอ่อนไหวนั้นก็ยิ่งผงาดมากขึ้นเท่านั้น เขาค่อยๆสอดมือเคลื่อนเข้าไปใต้ผ้าที่รัดแน่นนี้ เพื่อตรวจวัดระดับความอุ่นที่ปอนด์มีอยู่
ปอนด์เริ่มตัวสั่นเทาโดยที่เขาไม่ได้บังคับแม้แต่น้อย เสียงครางในลำคอถูกปลดปล่อยออกมาอย่างระมัดระวัง เพราะปอนด์รู้ว่าหากเขาร้องเสียงดังมากเท่าไหร่ ริวกิคงสะใจมากขึ้นเท่านั้น
“วันนี้นายเชื่องขึ้นเยอะเลยนะ” ริวกิใช้มือคลำหาจุดกระสันของปอนด์ และเริ่มกำมันไว้อย่างแน่นหน้า
แม้แขนขาของปอนด์จะอ่อนแรงขยับได้ไม่มากนัก แต่ความรู้สึกจากการเร่งเร้ากลับส่งผลต่ออารมณ์ของปอนด์ได้ครบทุกจุด ทั้งเจ็บปวด เสียวซ่าน หรือร้อนแรง
ริวกิเริ่มโยกมือขึ้นลงภายใต้กางเกงในลายน่ารัก เขาพอใจเป็นอย่างมากที่เห็นปอนด์หลับตาพริ้มและเริ่มขบกัดริมฝีปากของตัวเอง แต่ก่อนที่ริวจะเติมเชื้อไฟให้ปอนด์ต่อไปนั้น เสียงมือถือจากในกระเป๋าของปอนด์ก็ดังขึ้น จนริวกิต้องสงบศึกเป็นการชั่วคราว
ปอนด์นึกขอบคุณใครก็ตามที่โทรเข้ามาหาเขาในจังหวะแบบนี้ เขาเผลอยิ้มออกมาด้วยความไม่ตั้งใจ
“นายคิดว่าเสียงแค่นี้จะทำให้ฉันหยุดได้เหรอ” ริวกิตอบรอยยิ้มทะเล้นของปอนด์ก่อนที่จะเริ่มตะบี้ตะบันของในมืออีกครั้ง “ไม่มีอะไรจะหยุดฉันได้ในคืนนี้”
“พ... พอก่อนเถอะน่า มันอาจจะเป็นธุระด่วน” ปอนด์เผลอขบเม้มที่ริมฝีปาก
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังต่อเนื่องอีก 2-3 รอบจนเริ่มทำให้ริวกิต้องขมวดคิ้มเป็นปมด้วยความหงุดหงิด ซึ่งตรงข้ามกับปอนด์ที่ดูเหมือนจะยิ่งดีใจทุกครั้งที่เสียงมือถือดัง
“อาจจะเป็นเรื่องสำคัญของฉันก็ได้นะ”
“ฉันไม่หลงกลเด็กน้อยที่ชอบทำท่าทางใสซื่ออย่างนายหรอก”
“ได้โปรด... นายจะเอามีดหรือปืนจ่อหัวฉันก็ได้ หรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็ให้ฉันได้รู้ว่าใครโทรมาหาก็ยังดี” ปอนด์ส่งสายตาออดอ้อน “ฉันไม่มีทางหนีนายไปได้อยู่แล้ว ยิ่งในสภาพแบบนี้”
ริวกิหยุดนิ่งสักพักก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นตามที่ปอนด์ขอร้อง เขาไม่แน่ใจตัวเองว่าที่ยอมทำแบบนี้เป็นเพราะปอนด์ หรือเพราะเขารำคาญเสียงที่ดังขัดอารมณ์เขากันแน่ เขาเดินหายจากห้องนอนไปยังกระเป๋าสะพายของปอนด์ที่ตั้งอยู่ข้างๆโต๊ะทำงาน
กระเป๋าหนังถูกกระชากขึ้นมาตั้งบนโต๊ะ ในขณะที่เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ริวกิรีบเปิดกระเป๋าควานหาโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เขาเจอมันมีมากกว่าสิ่งที่เขาต้องการหา
ริวกิกดปิดโทรศัพท์ทันทีโดยไม่แม้แต่จะมองว่าใครโทรมา จากนั้นก็ยัดมันกลับลงไปที่เดิมและหยิบกล้องถ่ายภาพขึ้นมาแทน ในชั่วขณะนั้นเขารู้ทันทีว่าปอนด์จะเอามาทำอะไร แผนแรกคงตั้งใจจะทำให้เขาตกอยู่ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จากนั้นก็คงจัดการแบล็คเมล์เขาด้วยกล้องนี้อย่างแน่นอน ซึ่งแผนการที่ริวกิคาดเดานั้นตรงตามสิ่งที่ปอนด์ต้องการทุกอย่าง
ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กลับมาพร้อมกล้องถ่ายรูปในมือ ทำให้ใบหน้าของปอนด์เหวอขึ้นทันที เขาเริ่มรู้สึกได้ว่าตัวเองต้องแย่แน่ๆ แต่อันที่จริงต่อให้ริวกิไม่เจอกล้องนี้ ปอนด์ก็ไม่มีทางที่จะแย่มากกว่าที่เป็นอยู่แล้ว
“นี่นายกะจะเอามาแบล็กเมล์ฉันเหรอ” ริวกิยกกล้องในมือขึ้นมา
“ป... เปล่า แค่จะเอามาอวดนายและขอบคุณสำหรับเงินที่นายให้” ปอนด์ปฏิเสธน้ำขุ่นๆ
“นายโกหกไม่เก่งเลย” ริวกิเย้ยเยาะ
“ฉันเปล่านะ” ปอนด์ยังคงยืนกราน
“แต่จะว่าไปเจอเจ้านี่ก็ดีเหมือนกัน” ริวกิทำท่ายกกล้องแนบใบหน้าเหมือนกับจะถ่ายรูป “เรายังไม่มีรูปคู่ด้วยกันเลยหนิ”
“นายอยากถ่ายก็ถ่ายไปคนเดียวเหอะ ฉันไม่อยากอยู่ร่วมรูปกับนาย”
“เอาอย่างนั้นเหรอ” ริวกิเลื่อนกล้องลงจากใบหน้า “ขนาดในรูปนายก็ไม่อยากอยู่กับฉันเลยเหรอ”
“คนอย่างนายมันสมควรต้องอยู่คนเดียว”
“ก็ดี ไหนๆฉันมันก็เป็นคนที่ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยอยู่แล้ว งั้นฉันขอทำอะไรให้มันสะใจหน่อยก็แล้วกัน”
ริวกิวางกล้องลงบนเตียง เขาใช้มือทั้ง 2 ข้างถ่างขาของปอนด์ให้แยกออก และจัดการปลดเปลื้องอาภรณ์ลายน่ารักชิ้นสุดท้ายที่ปอนด์สวมใส่อยู่
“ฉันก็ชอบถ่ายรูปนะ โดยเฉพาะรูปธรรมชาติ”
“นายอย่าทำอะไรบ้าๆนะ”
ริวกิคว้ากล้องขึ้นมาและเริ่มกดชัตเตอร์ไปยังร่างของปอนด์ที่เปลือยเปล่า ร่างบึกบึนสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนนี้ช่างดูมีเสน่ห์เหลือล้น ท่าทางการยกกล้องที่ดูทะมัดทะแมงมันทำให้ปอนด์หน้าแดง ทุกอิริยาบถไม่ว่าจะยกมือหรือก้มตัวต่ำล้วนทำให้ลวดลายของกล้ามเนื้อบนร่างกายของริวกิเด่นชัดขึ้น
“นายยังดูไม่เป็นธรรมชาตินะ” ริวกิพูดในขณะที่ยื่นกล้องเข้าจ่อใบหน้าของปอนด์ “ฉันว่าฉันน่าจะเรียกเจสันให้มาช่วย... ”
“มันจะมากไปแล้วนะ” ปอนด์ใช้ฝ่ามือปัดกล้องในมือของริวกิตก “เลิกทำเหมือนกับฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่จะเล่นอะไร หรือโยนให้ใครก็ได้สักทีเถอะ”
ปอนด์รู้สึกทั้งอายและโกรธที่ได้ยินริวกิพูดแบบนั้น แค่ต้องเสียสิ่งที่ผู้ชายปกติเขาไปเสียกันให้ริวกิแล้ว เจ้าบ้านั่นยังจะเรียกให้ใครต่อใครมาดูเขาในสภาพที่แม้แต่ตัวเองยังรับไม่ได้อีก สำหรับปอนด์แล้ว สิ่งเหล่านี้มันทุเรศเกินกว่าที่เขาจะรับได้
ริวกิได้แต่ยืนนิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าคำพูดของเขาทำร้ายจิตใจของปอนด์เพียงใด อันที่จริงเขาไม่เคยต้องระมัดระวังคำพูดใดๆเลย เพราะชีวิตของริวกิ เขามีอำนาจพอที่จะพูดอะไรที่มันทำร้ายความรู้สึกของใครก็ได้ จิตใจของริวกิที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเย็นชา มันช่างห่างไกลจากคำว่าอ่อนโยนมากนัก
“ฉ... ฉันแค่ล้อนายเล่น” ริวกิกล่าวอย่างตกใจ
ปอนด์มองไปยังกล้องที่หล่นลงบนพื้น
“เดี๋ยวก่อนนะ... นี่นายขยับตัวได้แล้วเหรอ” ริวกิถาม
“จริงด้วย” ปอนด์ลองยกแขน เขาสามารถยกได้สูงขึ้นกว่าเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว แต่ทำได้ดีสุดคือแค่ยกลอยสูงจากเตียงได้ไม่มากนัก “ขยับได้นิดหน่อยแล้ว”
“แต่นายเพิ่งปัดกล้องจากมือฉันหล่น”
“สงสัยเพราะฉันโกรธนายมาก” ปอนด์ยิ้มอย่างชื้นใจ “ไม่ก็ยากำลังจะหมดฤทธิ์”
“อย่างนั้นหรอกเหรอแล้วตอนนี้นายลุกขึ้นได้หรือยังล่ะ”
ปอนด์ลองพยามออกแรงลุก หรือขยับร่างกายเพื่อทดสอบดู เขารู้เหมือนว่าร่างกายแค่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หายดีทั้งหมด
“ยังนะ ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังไม่หาย” ปอนด์ตอบด้วยความใสซื่อ
“สงสัย...” ริวกิปลดเข็มขัดออก และค่อยๆเปลื้องกางเกงออกเหลือเพียงแต่กางเกงชั้นในขาสั้น “คงต้องรีบก่อนที่ยานายจะหมดฤทธิ์แล้วล่ะสินะ”
“ถ้านายยังขืนคิดจะทำอะไรบ้าๆอีก ฉันได้เอากำปั้นต่อยหน้าหล่อๆของนายในอีกไม่นานนี้แน่” ปอดน์ขู่
“ฉันก็ใช้เวลาไม่นานหรอก ที่จะใช้บางอย่างยัดเข้าไปในตัวนาย”
“ริวกิ แก...”
“เตรียมหน้าหวานๆ กับเสียงครางนุ่มๆของนายไว้ได้เลย”
ริวกิดึงชุดชั้นในและถุงเท้าออก เขาค่อยๆคลานไปยังร่างของเด็กหนุ่มผิวขาว ที่เริ่มขยับร่างกายได้มากกว่าเดิม สีตาของเด็กคนนี้ไม่มีความหวดหวั่นหรือวิตกกังวลอีกแล้ว เหลือเพียงแววตาที่ดุดันและพร้อมจะเอาเรื่อง
ลิ้นชักข้างเตียงถูกเปิดออก ริวกิเอื้อมมือหยิบของเหลวใสที่ถูกบรรจุอยู่ในขวดขึ้นมา เขายิ้มให้ปอนด์ที่จ้องหน้ามองไปยังเจ้าสิ่งที่เขาถืออยู่
“ไม่มีเวลาเหลือให้สวีตกันแล้ว นายคงต้องเจอของจริงแล้วล่ะ” ริวกิหัวเราะ
หัวใจที่มุ่งแต่จะแก้แค้นของทั้งริวกิและปอนด์กำลังจะเปลี่ยนไป เขาทั้งคู่แค่อยากจะเอาชนะเหนืออีกฝ่าย และบนเส้นทางแห่งความสับสนนี้ จะทำคนทั้งคู่ค้นพบเส้นทางใหม่อีกเส้นทางหนึ่ง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ