The Revenge ความแค้นที่หอมหวาน
เขียนโดย MeTang
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.06 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ตอนที่ 14
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความคนอย่างนายสมควรจะได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง ปอนด์บอกเล่าประโยคนี้ผ่านสายตาที่กราดเกรี้ยว ถึงเวลาที่เทพธิดาแห่งชัยชนะจะหันมาหาเขาบ้างแล้ว เขาจะทำให้ริวกิอับอาย ชนิดที่ว่าเอาใบหน้าหล่อๆของเขาแทรกแผ่นดินหนี ก็ไม่สามารถหลบได้พ้น
“…3…” ปอนด์ยิ้มอย่างมีชัยให้ริวกิ น่าแปลกที่ริวกิก็ตอบแทนปอนด์ด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกัน
“…2…” ทีท่าของริวกิไม่ได้ดูแย่ลงเลย เป็นเพราะอะไรกัน ปอนด์เฝ้าถามตัวเองในใจ
“...1...”
“นายแน่ใจเหรอว่าฉันเป็นคนดื่มไวน์ที่ผสมยานั่น?” ริวกิหัวเราะลั่น
“อ... อะไรนะ” ปอนด์ทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้
“ตอนฉันเอาขวดไวน์ของนายไปเปิด รู้มั้ยว่าฉันสังเกตเห็นอะไร”
“นายจะพูดอะไร”
“ก็อย่างที่ฉันบอกนายหนูน้อย ฉันผ่านหูผ่านตาเรื่องไวน์มาเยอะ” ริวกิเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างวางมาด “จุกไวน์ยี่ห้อที่นายซื้อมาปกติจะเป็นไม้สีน้ำตาลเข้ม แต่ไวน์ของนายทั้ง 2 ขวดมีขวดหนึ่งที่จุกไม้สีอ่อนกว่า และมีสภาพใหม่กว่านั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้ที่ไวน์ขวดนั้นจะโดนเปิดมาแล้ว แต่อีกขวดกลับยังไม่โดนเปิด”
“หนอย” ปอนด์กัดฟันด้วยความโกรธ
“แล้วอีกอย่างขวดที่มีจุกไม้สีเข้มมีสติ๊กเกอร์เหมือนป้ายอะไรติดไว้ คล้ายๆจะทำเป็นสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง” ริวกิหัวเราะชอบใจ “ฉันก็เลยลองสลับมันดู”
ปอนด์ได้แต่นิ่งเงียบ เขาพยายามควบคุมร่างกายที่ตอนนี้เหมือนจะไม่ยอมทำงานตามที่เขาต้องการสักเท่าไหร่ มันไม่ง่ายจริงๆที่จะเล่นงานคนที่ชื่อริวกิ คนที่ไม่ยอมเชื่อใจใครม้แต่ตัวเอง
“นายยังอ่อนหัด ที่ฉันยังยืนบริหารงานบนธุรกิจพันล้านนี้ไดด้วยคนเดียว มันไม่ได้มาแค่เพราะโชคหรอกนะ” ริวกิหัวเราะอีกกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหาปอนด์ที่นั่งแน่นิ่ง
“ใช่ฉันคงจะประเมินแกต่ำไป”
ริวกิโน้มตัวลงเพื่อให้ปากของเขาจ่อใกล้ปากปอนด์มากที่สุดเขายืนมองดูใบหน้าของปอนด์ที่ฉายแววความกล้าแข็งและไม่ย่อท้อ แม้สถานการณ์ตอนนี้จะพลิกกลับไปแล้วก็ตาม
“ยาของนายดูท่าฤทธิ์จะแรงใช่ย่อย ขืนฉันจูบนายตอนนี้เราคงอดสนุกกันแน่นอน” ริวกิกดปลายจมูกถูไถไปยังสันจมูกที่สูงโด่งของปอนด์ “คืนนี้นายคงต้องงดใช้ปากแล้วล่ะ แต่ฉันเชื่อว่าส่วนอื่นของนาย จะยังคงมอบความสุขให้ฉันได้เหมือนเดิม”
ร่างของปอนด์ค่อยๆถูกโอบอุ้มอย่างระมัดระวัง ราวกับเจ้าหญิงในนิทานกำลังถูกเจ้าชายแบกร่างที่ไม่ได้สติไปยังห้องบรรทม
“พอเถอะริวกิ เกมจบแล้ว ปล่อยฉันไปนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับนายอีก”
“ถ้านายเลิกยุ่งกับฉันจริง ชีวิตฉันก็คงหมดสนุกน่ะสิ”
“นายควรจะหาวิธีสนุกโดยไม่ต้องมีฉัน” ปอนด์ร้องลั่น “อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กขายบริการ ที่บำบัดความใคร่เพื่อแลกเศษเงินของนาย”
“ฉันไม่เคยมองนายเป็นพวกขายบริการ” ริวกิค่อยๆวางร่างของปอนด์ที่หัวใจเต้นรัวลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม “ฉันไม่เคยต้องใช้เงินซื้อของพวกนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว”
“หึ... แล้วนายทำตัวถ่อยแบบนี้กับทุกคนอย่างนี้เหรอ”
“ไม่... เฉพาะกับนาย”
ริวกิส่งสายตาดุดันไปยังใบหน้าของปอนด์ เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรกับเด็กหนุ่มปากดีตรงหน้าเขาดี ริวกิไม่รู้ว่าการแสดงความอ่อนโยนเพื่อให้คนอื่นประทับใจเป็นอย่างไร เพราะตั้งแต่ท่านพี่และท่านแม่ของเขาจากไปเมื่อตอนเด็ก เขาก็แทบจะไม่ได้รับความอ่อนโยนใดๆจากคนที่เขาเรียกว่า “ท่านพ่อ” อีกเลย ทุกอย่างที่เขาได้มาล้วนแล้วแต่ใช้อำนาจและเงินทองเพื่อให้ได้ครอบครองทั้งสิ้น
การเคลื่อนไหวร่างกายของปอนด์ถูกตัดขาดจนเกือบจะสมบูรณ์ เขาพยามขยับตัวเพื่อหนีจากสถานที่แห่งนี้ แต่ภาพในสายตาริวกิก็คือ ปอนด์พยามส่ายตัวไปมาเบาๆเหมือนเด็กทารกที่กำลังหิวนม
เม็ดเหงื่อหยดใสเริ่มผุดขึ้นมาตามไรผมของปอนด์ เขารู้สึกร้อนขึ้นมาทันทีเมื่อคิดว่าริวกิจะทำอะไรกับเขาบ้าง แต่จะว่าไปแล้วสรรพคุณยานี่ก็ดีสมกับที่เขาตั้งใจจริงๆ ทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงโดยที่ความรู้สึกในแต่ละส่วนยังคงเดิม ปอนด์เผลอคิดว่ารอบหน้าจะสั่งเพิ่มเพื่อเอาไปแกล้งโจ๊กดู แค่นึกสีหน้าโจ๊กตอนเหวอปอนด์ก็เผลอยิ้มออกมา
“นายมียิ้มอะไร?” ริวกิเค้นถาม
“เปล่า” ปอนด์หุบยิ้ม
แม้ปอนด์จะล้มเหลวเรื่องการวางยาริวกิ แต่การมาได้ไกลขนาดนี้สำหรับปอนด์ก็ถือว่าไม่เสียแรงเปล่า แต่สำหรับคนอื่นแล้ว ปอนด์เชื่อว่าพวกเขาต้องรู้สึกว่าปอนด์กำลังอ่อยริวกิอยู่แน่นอน
“นายว่าฉันจะตายหรือเปล่า” ปอนด์ถามขณะที่ริวกิเอาหมอนหนุนหัวของปอนด์ให้สูงขึ้น
“อะไรนะ”
“ก็ฉันไม่รู้ว่าไอ้ยาที่ฉันใส่ลงไปมันจะมีผลข้างเคียงอะไรมั้ย”
“นี่นายตั้งใจวางยาฉันโดยที่ไม่รู้ว่าฉันอาจจะตายได้อย่างนั้นเหรอ” ริวกิหัวเราะลั่น
“ก็ฉันไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้ แล้วฉันไม่คิดด้วยว่าฉันจะต้องโดนเสียเอง” ปอนด์ได้แต่กรอกตาไปมา เขาพยายามลองขยับตัวอีกหลายครั้ง
“ฆ่าคนตาย จะเจตนาหรือไม่เจตนาโทษก็หนักเหมือนกันนะ นายนี่มัน… ” ริวกิหัวเราะซ้ำ “ซื่อบื้อจัง”
“ใช่สิ ฉันไม่ได้เติบโตมาท่ามกลางความโสมมเหมือนนายนี่”
“นายนี่ยังปากดีไม่เปลี่ยนเลยนะ” ริวกิโน้มตัวใช้ปลายจมูกไล้ไปตามแก้มของปอนด์ “สงสัยฉันคงต้องสอนให้นายรู้จักโลกที่ฉันอยู่สักหน่อย ว่าความมืดมิดมันสนุกอย่างไร”
“หยุดเลยนะเจ้าบ้า ต่อให้นายฉุดร่างกายฉันให้ต่ำขนาดไหน แต่ฉันจะไม่ยอมปล่อยใจให้ต่ำตามนายไปหรอก”
“นายน่าจะหยุดยกยอตัวเองให้ดูดีกว่าคนอื่นสักที” ริวกิยืดตัวขึ้น “ทั้งๆที่นายเอง ก็ไม่ได้มีดีอะไรไปกว่าฉันเลย”
“น... นายว่าไงนะ” ปอนด์จ้องหน้าริวกิอย่างตกใจ
“นายกับฉันมันก็พวกหน้าเงินด้วยกันทั้งคู่” ริวกิจ้องตาปอนด์ “ต่างกันแค่ฉันกล้าทำอะไรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง และที่สำคัญ... ฉันเหนือกว่านายทุกอย่าง”
“ว่าไงนะ นายนี่มัน... ถ่อยกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลยนะ ริวกิ” ปอนด์ตวาด “รู้อะไรมั้ย... บางครั้งฉันก็รู้สึกว่านายเป็นคนดี แล้วบางครั้งฉันก็คิดว่าเราจะสามารถเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้”
“ฉันไม่ต้องการเป็นคนดี และฉันก็ไม่ต้องการเพื่อน” ริวกิถอดชุดสูทและรองเท้าหนังออก “นายอยากดื่มอะไรมั้ย”
“นายก็คงจะกรอกเหล้าเข้าปากฉัน แล้วก็ทำอะไรทรามๆเหมือนเมื่อคราวก่อนสินะ”
“สภาพนายตอนนี้ฉันไม่ต้องมอมเหล้านาย ฉันก็ทำอะไรอย่างที่นายว่าได้สบายอยู่แล้ว”
“เจ้าบ้านี่… ” ปอนด์ตะคอกก่อนจะยอมรับในสภาพที่เป็นรองของตัวเอง
“ว่าไง จะดื่มอะไรดีครับคุณผู้ชาย”
“เอาอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไวน์หรือเหล้า” ปอนด์ตอบเสียงค่อยๆ
“อืม”
ริวกิเดินหายลับจากห้องนอนไปสักซัก ก่อนจะกลับมาพร้อมกับว็อดก้าและแก้วเปล่าในมือ
“นายนี่มันกวนได้ตลอดสิน่า หูนายไม่ดีหรือฉันพูดไม่ชัดกันแน่ ดูปากเกรียงไกรนะครับ... ไม่ เอา เหล้า แล้ว”
“นี่มันไม่ใช่เหล้า ฉันเรียกมันว่าว็อดก้า” ริวกิลงนั่งข้างๆเตียงพร้อมรินว็อดก้าขาวใสใส่แก้ว
“แล้วนายจะถามฉันทำเผือกอะไรว่าฉันอยากดื่มอะไร ถ้านายไม่ตั้งใจจะทำตามที่ฉันบอกแต่แรก”
“ฉันก็ถามตามมารยาทไง” ริวกิกระดกว็อดก้าในมือจนหมด ก่อนจะรินใหม่
“ฉันควรดีใจมั้ยที่นายเริ่มรู้จักคำว่ามารยาท”
ริวกิยื่นแก้วว็อดก้าไปที่หน้าของปอนด์เป็นการถามที่ปราศจากเสียงพูด และปอนด์ก็ตอบรับด้วยการพยามพยักหน้าหรืออาจจะเรียกว่ากระพริบตาก็ไม่ผิด
“นายจะบ่นทำไม ในเมื่อสุดท้ายนายก็ดื่ม” ริวกิค่อยๆประคองปอนด์ให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ในสภาพที่ขายังคงเหยียดตรงไปข้างหน้า
“อีกแก้ว อึก... ” ปอนด์เริ่มรู้สึกวูบวาบในท้อง
ทั้งคู่ผลัดกันซดว็อดก้าสลับกันคนละแก้วอีก 2-3 ครั้ง
“ขออีกแก้ว” ปอนด์ตั้งใจจะมอมตัวเองให้หมดสติ จะได้ไม่ต้องรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้น
“นายดื่มมากไปแล้ว”
“เรื่องของฉัน ไหนๆก็ไหนๆแล้ว นายน่าจะปล่อยใหฉันดื่มให้เมาหลับไปเลย”
“แบบนี้มันก็ไม่สนุกสิ” ริวกิรินว็อดก้าใส่แก้วก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มเอง
“ขอฉันอีกแก้วเหอะ” แค่อีกแก้วคงทำให้ปอนด์ปล่อยสมองสู่ความว่างเปล่าได้
ริวกิช้อนคางของปอนด์ให้เงยขึ้น ก่อนจะประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากที่กำลังแดงระเรื่อของปอนด์ ปอนด์รู้สึกถึงของเหลวที่แสบร้อนกำลังไหลผ่านตามรอยจูบของริวกิเข้ามายังปากของตัวเอง ปอนด์เริ่มสัมผัสได้ว่าร่างกายตัวเองเริ่มร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆมันเป็นความร้อนแรงที่ไม่สามารถซึมทราบได้จากการดื่มด้วยแก้ว
น่าแปลกที่สติของปอนด์ถูกดึงกลับมาส่วนหนึ่งหลังจากที่ริวกิถอนจูบรสว็อดก้าออก
“นายทำให้ฉันสับสน” ปอนด์ที่สีหน้าเริ่มแดงพูดขึ้น
“งั้นเหรอ” ริวกิวางขวดว็อดก้าและแก้วเปล่าไว้ข้างเตียง “น่าสนุกดี”
ริวกิค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อของปอนด์ออกทีละชั้น เขาไม่เคยมีความต้องการกับใครมากมายขนาดนี้มาก่อน ไม่ใช่แค่ปอนด์ แต่ริวกิเองก็สับสนเช่นกัน เขาทรมานกับสิ่งเหล่านี้ไม่แพ้ปอนด์ ริวกิเองก็ต้องการคำตอบ
บรรยากาศในห้องเริ่มสว่างด้วยไฟแห่งความกระหายอีกครั้ง ริวกิเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามหน้าอกที่ถูกรัดตึงอยู่ภายใต้เสื้อผ้านี้อย่างเด่นชัด ปอนด์รู้สึกใจเต้นรัวอีกครั้ง ทำไมการเห็นกล้ามอกของริวกิถึงทำให้เขาใจสั่น หรือเขาจะชอบผู้ชายไปแล้วจริงๆ
ริวกิถอดเสื้อทิ้งไว้ข้างเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆปอนด์ และโน้มตัวไปยังส่วนที่เริ่มแข็งตั้งอยู่บนหน้าอกของปอนด์ ริวกิจ่อปลายลิ้นเลียเล่นไปมาบนเมล็ดสีชมพูนั้น ก่อนจะใช้ฟันขบกัดจนสิ่งนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม และดูดดื่มจนปอนด์ต้องร้องครางเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ออกมา
ความร้อนรุ่มของปอนด์ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาพยามตั้งสติเพื่อต่อต้านอารมณ์ของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่รับสัมผัสรุกเร้าจากปลายลิ้นของริวกิที่วนเวียนเล่นตรงบริเวณหน้าอก สติของเขาก็เตลิดเสียทุกครั้ง
ริวกิเริ่มใช้มือทีซุกซนเลื่อนต่ำลงไปยังกางเกงยีนส์ขายาวของปอนด์ ไม่นานนักเข็มขัดก็ถูกปลดออกพร้อมตะขอกางเกง ในขณะที่ลิ้นของเขายังคงกระตุ้นอารมณ์ตรงจุดสีชมพูของปอนด์
“อื้อ... ”เสียงครางต่ำในลำคอของปอนด์ดังขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว
กางเกงยีสต์ของปอนด์ค่อยๆถูกปลดออก พร้อมกับบ็อกเซอร์
“ธอร์... ” ริวกิกระหน่ำเสียงหัวเราะอย่างต่อเนื่องเมื่อเห็นกางเกงในของปอนด์ “นี่นายชอบซุปเปอร์ฮีโร่มากเลยเหรอ หรือแค่มีรสนิยมแบบเด็กๆ”
“นายไม่ต้องมายุ่ง นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน”
“ความไร้เดียงสาของนายมันทำให้ฉันอยากจะกลืนกินนายทั้งตัวเลยรู้มั้ย” ริวกิใช้มือปลดกางเกงในลายธอร์ของปอนด์ออก “นี่... นายใส่กางเกงใน 2 ตัวเดินออกจากบ้านมาเลยเหรอ” ริวกิหัวเราะร่า
“ฉันจะใส่กี่ตัวมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย”
“เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยว” ริวกิปลดกางเกงในตัวที่ 2 ออก ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น “3 ตัว... นายใส่กางเกงใน 3 ตัวกับบ็อกเซอร์อีกตัวในวันเดียว”
“ฉันก็แค่ป้องกันตัว” ปอนด์โต้ตอบอย่างเหนียมอาย
“นายคิดว่าแบบนี้จะช่วยทำให้นายปลอดภัยเหรอ ต่อให้นายใส่มามากกว่านี้ ฉันก็จะถอดให้หมด”
“คนอย่างนายก็เก่งเรื่องทำลายและสร้างความเจ็บปวดให้คนอื่นอยู่แล้วนี่”
“แต่นายก็อย่าลืมเสียล่ะ ว่าสิ่งที่ฉันมอบให้ คือความเจ็บปวดที่มีความสุข”
“ความสุขที่ได้คงมีแต่นายสินะ”
“หรือนายจะไม่ยอมรับ ว่าคืนนั้นนายรู้สึกดี”
ปอนด์นิ่งเงียบ เพราะสิ่งที่ริวกิพูดมาล้วนแล้วแค่เป็นความจริงทุกอย่าง แม้คนอย่างริวกิจะเป็นคนที่จิตใจสกปรกในสายตาปอนด์ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ริวกิเป็นคนฉลาด ฉลาดที่เข้าใจในตัวผู้อื่น เพียงแต่ว่าตอนนี้ทั้งเขาและริวกิเหมือนมีกระจกบางๆคั่นความรู้สึกอะไรซักอย่างไว้เท่านั้นเอง
“หวังว่านายคงจะไม่ใส่อีกตัวหรอกนะ” ริวกิใช้มือลูบสำรวจตรงกลางของกางเกงใน ปลายนิ้วกดไปยังจุดที่นุ่มนิ่มระหว่างขาของปอนด์ “การค้นหาคงจบแล้วสินะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ