The Revenge ความแค้นที่หอมหวาน
9.2
เขียนโดย MeTang
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.06 น.
36 ตอน
10 วิจารณ์
42.59K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 15.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอนที่ 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “อากาศวันนี้ดีชะมัด” ปอนด์ถึงกับอุทานขึ้นมาเบาๆ เมื่อพบท้องฟ้าที่แจ่มใสบนดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นต์
ปอนด์เป็นเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยลัยปี 4 เขามีดวงตากลมโต คิ้วที่หนาอย่างธรรมชาติ ริมฝีปากที่เรียวบาง และแก้มที่จิ้มลิ้ม ส่วนสูงเกือบ 180 ทำให้เขามีตำแหน่งเป็นถึงเดือนคณะ
เขายกกล้องขึ้นถ่ายรูปท้องฟ้า ที่มีปุยเมฆล่องลอยอยู่เบาบาง เขายังจำได้ดีว่ากว่าจะเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายภาพราคาหลายหมื่นนี้ได้ เขาต้องแลกมาด้วยการทำงานพิเศษอย่างหนักหนาสาหัสในรั้วมหาวิทยาลัยลัย รวมถึงบางครั้งเขาต้องรับงานเป็นนายแบบขึ้นปกนิตยาสารวัยรุ่นต่างๆ แต่เขาก็ยังยืนยันกับใจตัวเองได้อย่างหนักแน่นว่า เขาชอบที่จะอยู่หลังกล้องมากกว่าหน้ากล้อง
จากท้องฟ้าก็เลื่อนลงมาเป็นตึกสูงต่างระดับ เขาเพิ่งเรียนรู้เทคนิคถ่ายภาพใหม่ๆมาจากอินเตอร์เน็ตเมื่อสักครู่นี่เอง ด้วยความใจร้อนจึงรีบขึ้นมาลองวิชา โดยไม่ทันแม้แต่จะเปลี่ยนชุดนักศึกษา
เขาใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานพอสมควร จนเริ่มล้าสายตาจึงเดินไปยังขอบของดาดฟ้าเพื่อหวังจะได้สูดอากาศจากที่สูงได้อย่างเต็มปอด ในหัวก็พลางคิดถึงเรื่องหาเงินเพื่อจะซื้ออุปกรณ์เสริมของกล้องอื่นๆ ปอนด์ไม่หวังจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ แต่ไม่รู้ทำไมว่าทุกครั้งที่เขายินเสียงกดชัตเตอร์กล้องแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีและเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่เขาใช้เวลาจัดการกับความคิดตัวเองได้ไม่นาน เขาก็พบความผิดปกติบางอย่างในซอยข้างๆ ด้วยความสูงของตึก 5 ชั้นของอพาร์ทเม้นต์นี้ ทำให้เขามองเห็นผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดสูท กำลังพูดคุยกับชายดูมีอายุในชุดสูทอีกคน
“มันต้องมีอะไรแน่ๆ” ปอนด์คิดในใจ ขณะที่ยกกล้องขึ้นมาแนบดวงตากลมใส
แถวนี้ไม่ใช่ย่านธุรกิจหรือมีสำนักงาน การใส่ชุดสูทเต็มยศมาคุยในที่ลับแบบนี้ บ่งบอกได้ว่าคนๆนั้นเป็นคนที่ดูมีฐานะและมีพิรุจ
ปอนด์กดชัตเตอร์อย่างใจเย็น เขาได้ภาพผู้ชายดูมีอายุอย่างชัดเจน เพราะชายคนนั้นหันหน้ามาทางเขาพอดี แต่ผู้ชายอีกคนเขากลับเห็นหน้าไม่ชัด
การสนทนาดำเนินไปสักพักก็เหมือนว่าผู้ชายที่ดูอ่อนกว่าจะยื่นซองสีน้ำตาลให้ และปอนด์ก็ไม่รอช้าที่จะเก็บภาพแทบทุกอิริยาบทนี้ไว้
ไม่นานนักดูเหมือนการตกลงอะไรสักอย่างจะสิ้นสุด เพราะฝั่งชายที่ดูหนุ่มกว่ายกมือไหว้และกล่าวอำลาไป และในจังหวะที่เขาหันกลับนี้ ทำให้ปอนด์ได้เห็นใบหน้าของชายผู้สูงใหญ่นั้นชัดเจนผ่านเลนซ์กล้อง ดวงตาเขาเรียวงามและดูมีเสน่ห์ จมูกเป็นสันคม ริมฝีปากที่อิ่มเอิบรับได้ดีกับใบหน้าเรียวยาว หน้าตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้ ทำให้ปอนด์รู้สึกคุ้นหน้ามาก
เป็นโชคดีของทั้ง 2 ฝั่ง ที่ชายชุดสูททั้งคู่ไม่มีใครทันสังเกตและมองเห็นปอนด์ และเช่นเดียวกันที่ปอนด์ก็ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายในวันนี้
ปอนด์รีบแบกกล้องคู่ใจไปยังห้อง นั่งมองภาพปริศนาชายชุดสูทช้าๆที่ละรูป ในหัวก็คิดไปเรื่องต่างๆนาราวกับตัวเองเป็นนักสืบ
“เขาขายยาหรือเปล่านะ หรือเป็นคนร้ายระดับชาติ เอ๊ะ! จะว่าไปแล้วดูเหมือนพวกค้ามนุษย์มากกว่า แต่เดี๋ยวก่อน... ฉันว่าฉันคุ้นหน้าเจ้าหมอนั่นนะ เฮ้ย! หรือว่าจะใช่” ปอนด์พึมพำกับตัวเองในใจ
เขาเปิดโน๊ตบุ๊คเข้า Google และพิมพ์คำว่า “ริวกิมิยากาว่า”
“โป๊ะเชะ หมอนี่จริงๆด้วย” ปอนด์อุทานลั่นออกมา ทันทีเมื่อผลการค้นหาขึ้นมา “ริวกิเจ้าของสถานบันเทิงใจกลางเมืองชื่อดัง นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สืบทอดกิจการของครอบครัวด้วยวัยเพียง 26” ปอนด์ไล่อ่านเนื้อข่าว
“แล้วผู้ชายอีกคนนั้นล่ะ ดูไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ” ปอนด์คิดในใจ จากนั้นก็มุ่งหน้าหาข้อมูลต่อ
ด้วยความที่เขาเชี่ยวชาญด้านการใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้การสืบหาข้อมูลต่างๆเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา
“นั่นไง! ริวกิปฏิเสธกร้าว ยันไม่รู้จักพลตำรวจชั้นสูง หลังจากมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าริวกิ มิยากาว่า เจ้าของไนท์คลับชื่อดังได้ใช้เส้นสายของนายตำรวจชั้นสูงที่รู้จักท่านหนึ่ง เพื่อช่วยให้สถานบันเทิงของตนเปิดเกินเวลาได้นั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังคุณเซกิ ซึ่งได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าตนไม่ได้รู้จักตำรวจท่านใดเป็นการส่วนตัว และยืนยันว่าตนเองดูแลกิจการด้วยความสุจริตถูกต้องตามกฏหมายบ้านเมืองแน่นอน” ปอนด์ไล่อ่านข่าวจากเว็บไซต์ที่ตนเองค้นเจอ “เฮอะ... ไอ้คนโกหก ฉันจะกระชากหน้ากากแกออกมา นายไม่รอดแน่ ริวกิ มิยากาว่า”
“ท่านครับ ได้ข้อมูลมาแล้วครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทหน้าตาหล่อเหลาโค้งคำนับก่อนจะตั้งซองเอกสารสีน้ำตาลไว้บนโต๊ะทำงาน
“โอนค่าตอบแทนไปให้คนจากสำนักข่าวแล้วหรือยัง” ริวกิในชุดสูทเดียวกับกับเมื่อกลางวันเอ่ยถาม แม้ตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่เขาก็ยังคงดูดีและยังคงเนี๊ยบไม่เปลี่ยนแปลง
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับท่าน”
“แล้วเขาได้บอกหรือเปล่า ว่าเด็กคนนั้นส่งรูปไปขายกับเจ้าไหนแล้วบ้าง” ริวกิหยิบซองเอกสารมาเปิด
“น่าจะไม่ได้ส่งไปที่ไหนนะครับท่านเพราะตามเท่าที่สายเรารายงานมา เหมือนว่าเด็กคนนี้จะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ แค่บังเอิญเก็บภาพท่านได้ เลยจะหาเงินใช้เฉยๆ”
“ก็แค่หนูหลงทาง ไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปทางไหนสินะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนสอน วิถีทางแห่งมาเฟียให้กับนายเอง” ริวกิหยิบรูปภาพจากในซองสีน้ำตาลขึ้นมาดู “เกรียงไกร เดชาวิจิตร… ”
ปอนด์เป็นเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยลัยปี 4 เขามีดวงตากลมโต คิ้วที่หนาอย่างธรรมชาติ ริมฝีปากที่เรียวบาง และแก้มที่จิ้มลิ้ม ส่วนสูงเกือบ 180 ทำให้เขามีตำแหน่งเป็นถึงเดือนคณะ
เขายกกล้องขึ้นถ่ายรูปท้องฟ้า ที่มีปุยเมฆล่องลอยอยู่เบาบาง เขายังจำได้ดีว่ากว่าจะเก็บเงินซื้อกล้องถ่ายภาพราคาหลายหมื่นนี้ได้ เขาต้องแลกมาด้วยการทำงานพิเศษอย่างหนักหนาสาหัสในรั้วมหาวิทยาลัยลัย รวมถึงบางครั้งเขาต้องรับงานเป็นนายแบบขึ้นปกนิตยาสารวัยรุ่นต่างๆ แต่เขาก็ยังยืนยันกับใจตัวเองได้อย่างหนักแน่นว่า เขาชอบที่จะอยู่หลังกล้องมากกว่าหน้ากล้อง
จากท้องฟ้าก็เลื่อนลงมาเป็นตึกสูงต่างระดับ เขาเพิ่งเรียนรู้เทคนิคถ่ายภาพใหม่ๆมาจากอินเตอร์เน็ตเมื่อสักครู่นี่เอง ด้วยความใจร้อนจึงรีบขึ้นมาลองวิชา โดยไม่ทันแม้แต่จะเปลี่ยนชุดนักศึกษา
เขาใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานพอสมควร จนเริ่มล้าสายตาจึงเดินไปยังขอบของดาดฟ้าเพื่อหวังจะได้สูดอากาศจากที่สูงได้อย่างเต็มปอด ในหัวก็พลางคิดถึงเรื่องหาเงินเพื่อจะซื้ออุปกรณ์เสริมของกล้องอื่นๆ ปอนด์ไม่หวังจะเป็นช่างภาพมืออาชีพ แต่ไม่รู้ทำไมว่าทุกครั้งที่เขายินเสียงกดชัตเตอร์กล้องแล้วมันทำให้เขารู้สึกดีและเพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากที่เขาใช้เวลาจัดการกับความคิดตัวเองได้ไม่นาน เขาก็พบความผิดปกติบางอย่างในซอยข้างๆ ด้วยความสูงของตึก 5 ชั้นของอพาร์ทเม้นต์นี้ ทำให้เขามองเห็นผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดสูท กำลังพูดคุยกับชายดูมีอายุในชุดสูทอีกคน
“มันต้องมีอะไรแน่ๆ” ปอนด์คิดในใจ ขณะที่ยกกล้องขึ้นมาแนบดวงตากลมใส
แถวนี้ไม่ใช่ย่านธุรกิจหรือมีสำนักงาน การใส่ชุดสูทเต็มยศมาคุยในที่ลับแบบนี้ บ่งบอกได้ว่าคนๆนั้นเป็นคนที่ดูมีฐานะและมีพิรุจ
ปอนด์กดชัตเตอร์อย่างใจเย็น เขาได้ภาพผู้ชายดูมีอายุอย่างชัดเจน เพราะชายคนนั้นหันหน้ามาทางเขาพอดี แต่ผู้ชายอีกคนเขากลับเห็นหน้าไม่ชัด
การสนทนาดำเนินไปสักพักก็เหมือนว่าผู้ชายที่ดูอ่อนกว่าจะยื่นซองสีน้ำตาลให้ และปอนด์ก็ไม่รอช้าที่จะเก็บภาพแทบทุกอิริยาบทนี้ไว้
ไม่นานนักดูเหมือนการตกลงอะไรสักอย่างจะสิ้นสุด เพราะฝั่งชายที่ดูหนุ่มกว่ายกมือไหว้และกล่าวอำลาไป และในจังหวะที่เขาหันกลับนี้ ทำให้ปอนด์ได้เห็นใบหน้าของชายผู้สูงใหญ่นั้นชัดเจนผ่านเลนซ์กล้อง ดวงตาเขาเรียวงามและดูมีเสน่ห์ จมูกเป็นสันคม ริมฝีปากที่อิ่มเอิบรับได้ดีกับใบหน้าเรียวยาว หน้าตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้ ทำให้ปอนด์รู้สึกคุ้นหน้ามาก
เป็นโชคดีของทั้ง 2 ฝั่ง ที่ชายชุดสูททั้งคู่ไม่มีใครทันสังเกตและมองเห็นปอนด์ และเช่นเดียวกันที่ปอนด์ก็ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายในวันนี้
ปอนด์รีบแบกกล้องคู่ใจไปยังห้อง นั่งมองภาพปริศนาชายชุดสูทช้าๆที่ละรูป ในหัวก็คิดไปเรื่องต่างๆนาราวกับตัวเองเป็นนักสืบ
“เขาขายยาหรือเปล่านะ หรือเป็นคนร้ายระดับชาติ เอ๊ะ! จะว่าไปแล้วดูเหมือนพวกค้ามนุษย์มากกว่า แต่เดี๋ยวก่อน... ฉันว่าฉันคุ้นหน้าเจ้าหมอนั่นนะ เฮ้ย! หรือว่าจะใช่” ปอนด์พึมพำกับตัวเองในใจ
เขาเปิดโน๊ตบุ๊คเข้า Google และพิมพ์คำว่า “ริวกิมิยากาว่า”
“โป๊ะเชะ หมอนี่จริงๆด้วย” ปอนด์อุทานลั่นออกมา ทันทีเมื่อผลการค้นหาขึ้นมา “ริวกิเจ้าของสถานบันเทิงใจกลางเมืองชื่อดัง นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่สืบทอดกิจการของครอบครัวด้วยวัยเพียง 26” ปอนด์ไล่อ่านเนื้อข่าว
“แล้วผู้ชายอีกคนนั้นล่ะ ดูไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ” ปอนด์คิดในใจ จากนั้นก็มุ่งหน้าหาข้อมูลต่อ
ด้วยความที่เขาเชี่ยวชาญด้านการใช้อินเตอร์เน็ต ทำให้การสืบหาข้อมูลต่างๆเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา
“นั่นไง! ริวกิปฏิเสธกร้าว ยันไม่รู้จักพลตำรวจชั้นสูง หลังจากมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าริวกิ มิยากาว่า เจ้าของไนท์คลับชื่อดังได้ใช้เส้นสายของนายตำรวจชั้นสูงที่รู้จักท่านหนึ่ง เพื่อช่วยให้สถานบันเทิงของตนเปิดเกินเวลาได้นั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังคุณเซกิ ซึ่งได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าตนไม่ได้รู้จักตำรวจท่านใดเป็นการส่วนตัว และยืนยันว่าตนเองดูแลกิจการด้วยความสุจริตถูกต้องตามกฏหมายบ้านเมืองแน่นอน” ปอนด์ไล่อ่านข่าวจากเว็บไซต์ที่ตนเองค้นเจอ “เฮอะ... ไอ้คนโกหก ฉันจะกระชากหน้ากากแกออกมา นายไม่รอดแน่ ริวกิ มิยากาว่า”
“ท่านครับ ได้ข้อมูลมาแล้วครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทหน้าตาหล่อเหลาโค้งคำนับก่อนจะตั้งซองเอกสารสีน้ำตาลไว้บนโต๊ะทำงาน
“โอนค่าตอบแทนไปให้คนจากสำนักข่าวแล้วหรือยัง” ริวกิในชุดสูทเดียวกับกับเมื่อกลางวันเอ่ยถาม แม้ตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่เขาก็ยังคงดูดีและยังคงเนี๊ยบไม่เปลี่ยนแปลง
“จัดการเรียบร้อยแล้วครับท่าน”
“แล้วเขาได้บอกหรือเปล่า ว่าเด็กคนนั้นส่งรูปไปขายกับเจ้าไหนแล้วบ้าง” ริวกิหยิบซองเอกสารมาเปิด
“น่าจะไม่ได้ส่งไปที่ไหนนะครับท่านเพราะตามเท่าที่สายเรารายงานมา เหมือนว่าเด็กคนนี้จะไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ แค่บังเอิญเก็บภาพท่านได้ เลยจะหาเงินใช้เฉยๆ”
“ก็แค่หนูหลงทาง ไม่รู้ว่าตัวเองเดินไปทางไหนสินะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนสอน วิถีทางแห่งมาเฟียให้กับนายเอง” ริวกิหยิบรูปภาพจากในซองสีน้ำตาลขึ้นมาดู “เกรียงไกร เดชาวิจิตร… ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ