แผลที่ไม่หาย { Y }
เขียนโดย acertam
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.03 น.
แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 17.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) Chapter 15
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ผมทานมื้อเย็นร่วมกับมาร์คสองคนที่บ้านเขา เพราะมิกซ์ออกไปทำธุระนอกบ้านระหว่างที่ทานข้าวกันผมก็อดไม่ได้ที่จะถามเรื่องมิกซ์
"นายไม่เห็นเคยเล่าว่ามีฝาแฝด"
"ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนี่ นายคบกับฉันไม่ได้คบกับฝาแฝดฉันสักหน่อย"
มาร์คตอบเสียงเรียบนิ่ง ทว่ามันดูกวนเหลือเกินในความรู้สึกของผม
"ฉันยังบอกนายว่ามีพี่ชายกับพี่สาว" ผมเถียง ิอย่างไม่ยอมแพ้
"ฉันก็บอกนายว่าฉันมีน้องชายนี่" มาร์คเอ่ยเสียงเรียบ "แต่แค่ไม่ได้นั่งบรรยายว่าหน้าตาเหมื่อนกัน"
"แล้วทำไมฉันไม่เคยเจอเขาเลย" ผมถามอีกด้วยความอยากรู้ และคำถามนี้ทำให้มาร์คตวัดสายตาขึ้นมองหน้าผม
"ก็นายเฉดหัวฉันทิ้งก่อนที่ฉันจะได้ทันพานายไปให้ใครรู้จักไง"
คำตอบของมาร์คทำให้ผมตื้อจนกินต่อแทบไม่ลง ผมไม่กล้าถามอะไรเขาอีก เพราะในใจรู้สึกผิดกับเขามาก เอาแต่เขี่ยข้าวไปมา จนกระทั่งรวบช้อนในที่สุด
"ฉันกลับดีกว่า"
"ไม่ค้างที่นี่หรอ ไหนว่าไม่อยากอยู่คนเดียวไง" มาร์คถามแล้วลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นผมลุกขึ้น
"เดี๋ยวมิกซ์ก็กลับมา ฉันไม่อยากให้มันดูแปลกๆ อีกอย่างนายไม่ต้องมานอนบ้านฉันด้วย ดูแลน้องชายนายจะดีกว่า"
"......"
มาร์คไม่พูดยื้ออะไรให้ตัวเองดูงี่เง่าอีก เขาไม่ใช่คนช่างเซ้าซี้หรอกนะ ร่างสูงเลยแค่มาส่งที่หน้าบ้านผม ยืนมองจนผมปิดประตูรั้วและหายเข้าไปในบ้าน เขาถึงได้ยอมกลับไป
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็เข้านอนตามปกติ คืนนี้ผมนอนไม่หลับได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงและคิดอะไรเงียบๆ เรื่อยเปื่อยเพียงคนเดียว
ผมคิดว่าดีเหมื่อนกันที่มิกซ์โผล่มา การมาของเขาทำให้ผมมีความหวัง ผมหวังไปว่ามาร์คอาจจะไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่คิด ที่สำคัญคือ ถ้าหากมิกซ์คือคนทำร้ายคาสึมิจริงๆ ผมต่างที่ช่างโง่งมที่ทิ้งมาร์คมาแบบนั้น
ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องจะจบยังไง ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะตามสืบให้รู้กันไปเลย ผมจะไม่ปล่อยให้ความคลุมเครือทำร้ายตัวผมหรือคนรอบข้างอีกต่อไป....
ถึงแม้เวลาจะผ่านไปถึงสามปีแล้วก็ตาม แต่เพราะความรู้สึกผิดเหล่านี้ไม่เคยหายไปจากใจผมเลยสักครั้ง ผมจึงได้แต่คิดว่าผมอยากจะทำให้มันถูก แล้วล้างความรู้สึกที่ต้องฝันร้ายทุกคืนออกไปสักที
เช้าวันต่อมา นัทมารับผมไปมหาวิทยาลัยด้วยกันตามปกติ เขาดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ผมไม่รู้ว่าเรื่องอะไร พอถามเขาก็ไม่ยอมเล่า แต่ดันมาถามเรื่องมาร์คกับผมแทน
"ช่วงนี้ไอ้มาร์คได้เขามาคุยอะไรกับนายหรือเปล่า"
ผมงงๆ กับคำถามเขานิดหน่อย แต่ก็ตัดสินใจส่ายหน้าไว้ก่อน
"เปล่านี่ ก็นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าเขากำลังคบกับผู้หญิงที่ชื่อมะนาว เขาทำท่าทางสนใจกันมากไม่ใช่หรอ" ผมตอบปัดๆ
"ก็ตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นล่ะสิ มะนาวบอกว่าไอ้มาร์คไม่ได้สนใจเธอเลย" นัทพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด จนผมต้องขมวดคิ้ว
"แล้วมะนาวมีความจำเป็นอะไรที่นายต้องมาเล่าให้ฉันฟังหรอนัท"
"......"
ดูเหมื่อนคำถามของผมจะไปสะกิดใจนัทเข้าอย่างจัง ร่างสูงทำหน้าอึ้งไปเหมือนได้หลุดปากเรื่องพูดเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจออกมาให้ผมได้รับรู้ซะแล้ว
"นายสินะที่เป็นคนแนะนำให้มะนาวไปยุ่งกับมาร์ค"
"......"
นัทไม่ตอบ แต่ทำเป็นมองทาง ไม่มองผม
"ว่าไงล่ะนัท!" ผมถามย้ำ
"เออ ใช่! ฉันให้มะนาวไปยุ่งกับมันเองแหละ ฉันจ้างผู้หญิงคนนั้นให้ไปหว่านเสน่ห์ใส่ไอ้มาร์ค จบมั้ย!"
"ไม่จบหรอกนัท" ผมพูดเสียงเรียบ "ทำไมนายต้องทำแบบนั้นด้วย"
"ก็เพราะฉันกว่าว่านายจะกลับไปคืนดีกับมันไงเล่าลายไทย!!"
".....!"
ผมตะลึงในสิ่งที่นัทพูดจนน้ำท่วมปาก เถียงอะไรไม่ออกสักคำ
"ฉันไม่ได้ไม่ไว้ใจนาย แต่ฉันไม่เคยไว้ใจมัน เพราะฉันรู้ๆ หลายๆอย่างนายยังมีความผูกพันธ์กับมันอยู่ ฉันผิดงั้นหรอที่อยากจะแน่ใจว่านายจะไม่มีโอกาสกลับไปหามันได้แล้วจริงๆ"
"....."
ผมไม่ได้ตอบคำถามของนัท ได้แต่นั่งเงียบๆ แล้วเหม่อมองไปนอกหน้าต่างเท่านั้น หัวใจผมหนักอึ้ง ผมเข้าใจความรู้สึกของนัททุกอย่าง ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นผมกำลังทุ่มเทให้มาร์คจนลืมนึกถึงนัท ไม่ใช่ว่าผมอยากใจร้ายกับนัท ที่ผ่านมาผมคิดว่าอยากเปิดใจให้เขาบ้าง แต่ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์เมื่อสามปีก่อนจะพลิกพันได้อย่างวันนี้.....
ไม่อย่างนั้นผมคง.....
"นายไม่ได้รักมันอยู่ใช่มั้ยลายไทย!" นัทถามผม ระหว่างนั้นรถก็ชะลอจอดที่ลานจอดรถพอดี...
"......" ผมไม่ตอบ แต่หันไปเปิดประตูรถ เขาเลยคว้ามือผมไว้
"ลายไทย....."
ผมหันหน้าไปมองเขา ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง
"ฉันไม่รู้นัท"
"......"
"ฉันไม่รู้...."
หลังเลิกเรียนผมติดรถมากับนัท เพราะมาทำงานที่คลับ จากคำตอบที่คลุมเครือของผมเมื่อเช้าทำให้นัทดูค่อนข้างจะตึงๆ กับผมไปนิดหน่อย แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น การที่นัทงอนผมแบบนี้ก็เป็นผลดี เพราะผมจะได้มีเวลาจัดการเรื่องของตัวเอง
ผมแยกไปห้องพนักงาน เพื่อจะแต่งตัวให้น่ารักที่สุดเท่าทีจะทำได้
ผมเอาเบอร์โทรศัพท์ของธาร เพื่อนสนิทมิกซ์ออกมาดูอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจกดโทรออก ผมไม่รออยู่ไม่นาน อีกฝ่ายก็รับโทรศัพท์
[ฮัลโหล]
"ธารหรอครับ" ผมทำเสียงหวานสุดๆ
[ครับ แล้วนั่น...ใครหรอ] ธารถามอย่างมีมารยาท
"คือผมได้เบอร์คุณ มาจากมิกซ์ เขาบอกว่าคุณสนใจผม"
[หืม?]
ธารทำน้ำเสียงสนอกสนใจขึ้นมาทันที
[แล้วคุณเป็นใครล่ะครับ]
"พูดแบบนี้คงสนใจอยู่หลายคนสินะครับ"
[เฮ้..อย่าพูดแบบนั้นเลยดีกว่าน่า ผมแค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าคุณคือใคร]
ดูเหมือนธารเองไม่ได้รำคาญกับท่าทีเล่นตัวของผมเลย ให้ตาย เขาทนได้ยังไง ผมยังรำคาญตัวเอง!
"ผมลายไทยเองครับ พนักงานที่คลับ LADY"
[คุณนั่นเอง!] ธารทำเสียงตกใจนิดหน่อยที่ได้ยินแบบนั้น
[ผมกำลังอยากเที่ยวอยู่พอดีเลยครับ]
ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากทำเลย! แต่ผมคงไม่มีทางเลืออื่นสินะ!
"ถ้าคุณสนใจ คืนนี้ก็ลองออกมาเจอผมนะครับ เพราะผมจะเป็นคนดูแลโต๊ะคุณเอง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะยั่วยวนอีกฝ่ายนิดๆ
[ผมสนใจแน่ แล้วเจอกันนะครับ กระต่ายน้อยของผม]
"ครับ"
ผมรีบวางสายด้วยความคลื่นเหียนทันที! ใครเป็นกระต่ายน้อยของหมอนั่นกัน! ถ้าไม่ติดว่าเพื่อมาร์คและความจริงเมื่อสามปีก่อนที่จะต้องเปิดเผยวันนี้ ผมไม่มีทางปล่อยให้คนที่เรียกผมว่า 'กระต่ายน้อย' ได้มีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน!
คืนนี้ดูเหมือนอะไรก็เป็นใจให้ผมไปซะหมด เพราะนัทไม่ได้มาจ้องผมทำงาน และผมรอไม่นานธารก็โผล่มา ครั้งนี้เขามานเดียว คงกะจะหิ้วผมกลับบ้านไปด้วยแน่ๆ แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกเชื่อสิ
"ยินดีต้อนรับครับ"
ผมเข้าไปต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มที่พยายามน่ารักที่สุด และธารก็ยิ้มหวานตอบกลับมา จากนั้นก็ดึงมือผมไปจูบที่หลังมือ ผมแกล้งทำเป็นเขินก่อนจะรีบดึงมือกลับและเชิญเขาไปนั่งที่มุมซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว
"ผมดีใจนะครับ ที่คุณยอมมาจริงๆ" โปรยเข้าไป
"ผมต่างหากที่ดีใจจะแย่ลายไทยชวนผมมา"
ร่างสูงถือวิสาสะกอดเอวผมไว้แล้วกระชากให้ไปนั่งใกล้ๆ ผมเบิกตานิดๆ ด้วยความตกใจ ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
"สั่งเครื่องดืมก่อนมั้ยครับ"
"ได้สิครับ เอาที่แพงที่สุดของคืนนี้มาเลย ลายไทยจะได้อยู่....บริการผมได้ทั้งคืน"
คำพูดของธารทำให้ผมสะอิดสะเอียนแทบอ้วกแตก แต่ผมก็ต้องฝืนยิ้มและนำออเดอร์ให้พี่หวานจัดการ ก่อนจะกลับเข้ามานั่งที่กับธารใหม่
ผมชวนเขาคุยเรื่อยเปื่อย แต่ธารก็ไม่อยากจะคุยเท่าไหร่ ร่างสูงทำเหมือนจะกดผมลงตรงนี้ตลอดเวลา จนผมต้องคอยหลอกล่อเขาสารพัด เกือบเอาตัวไม่รอดตั้งหลายหน!
"ลายไทยน่ารักจังเลย ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว"
ฝันไปเหอะเว้ย!!
คิดในใจ เท่านั้นแหละ แฮ่ๆๆ
ธารดื่มมากจนหน้าเริ่มแดง
"ดีมั้ยครับธาร" ผมถามขณะจ่อแก้วเหล้าไปปากเขา
"ลายไทยนี่ถึงใจผมจริงๆเลย เราจะไปกันได้หรือยังครับ"
ฟอด!
ให้ตายเหอะ! มันหอมแก้มผมอีกแล้ว นี่ถ้าผมยังไม่ยอมถามสักที ผมคงได้เสียตัวให้อีกฝ่ายก่อนแน่!
"ธารสนิทกับมิกซ์มากหรือเปล่าครับ" ผมถามขณะยอมให้อีกฝ่ายบีบมือนุ่มไว้
"นานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยอยู่คาบุกิโจด้วยกัน"
ญี่ปุ่น!
(เจ๊จะบอกนะ คาบุกิโจ เป็นย่านบนเทิงกลางคืนในเขตชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้รับขนานนามว่าเมืองที่ไม่เคยหลับไหล จ้า )
ผมแทบจะเก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่ ผมเสแเสร้งทำเป็นตื่นเต้น
"งั้นได้มาเทียวที่โตเกียวบ้างหรือเปล่าครับ ผมเองก็เคยอยู่ที่โตเกียวนะ"
ผมยิ้มหวานแล้วชงแก้วใหม่ให้ธาร
"โตเกียวหรอ ใช่ๆๆๆ เคยไปสิครับ พวกผมเองก็มีธุระที่ต้องไปที่โตเกียวบ่อยๆ โชคร้ายจังนะที่ไม่ได้เจอลายไทย ไม่งั้นลายไทยคงเป็นของผมไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว"
ธารจะจูบแต่ผมเบี่ยงหนี อีกฝ่ายจึงได้หอมแก้มหนักๆ แทน
โธ่โว้ย!! เมื่อไหร่จะจบสักทีเนี่ย!
"ถ้าอย่างนั้นมิกซ์ก็คงเจอกับคาสึิมิที่โตเกียวสินะครับ"
ผมแกล้งถามเนียนๆไป แต่ดูเหมือนจะทำพลาด เพราะธารที่ดูเหมือนจะเมากลับหันมาคว้าแขนผมไปจับไว้แน่น
ขมับ!
"ไปได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้มาจากไหน!"
หน้าผมซีดเผือด แต่ผมก็แกล้งทำเป็นยิ้ม
"มิกซ์พูดถึงน่ะครับ แต่ก็ไม่กี่ประโยคหรอก เพราะผมสนใจเรื่องคุณมากกว่า ทำไมหรอครับ"
ผมยกยอและเบียดตัวเข้าหาอีกฝ่าย สีหน้าธารเปลี่ยนไปทันที เขากอดผมไว้แนบอก ผมเบ้หน้าอย่างรังเกียจ แต่ก็ต้องยอมให้เขาลูบศีรษะเบาๆ ก่อนร่างสูงจะจุดบุหรี่สูบ
"มันเป็นคนพูดให้ลายไทยฟังหรอ" เขาเอยเสียงนิ่งขึ้น
"ครับ แต่ไม่เห็นน่าสนใจอะไร" ผมแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ
"ลายไทยได้ยินเรื่องนี้มาจากมัน แน่ๆใช่มั้ย" ธารย้ำเหมือนจะไม่ไว้ใจ
ผมพยักหน้าเนียนๆ ไปเมื่อได้ยินคำถามเขา
"ก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับ ผู้ชายที่ไหนก็เคยมีแฟนเก่า ไม่ได้สำคัญอะไรมาก"
"ใช่ ยัยนั้นถูกเขี่ยทิ้งก็เพราะความน่ารำคาญของตัวเอง ถ้าเลือกฉันแต่แรกก็คงไม่โดนทิ้ง..."
น้ำเสียงของธารดูเรียบนิ่งจนผมดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่!
ถ้าเดาไม่ผิด คาสึมิคงเลือกมิกซ์และไม่ได้เลือกธาร
"เปลี่ยนเรื่องเถอะครับ" ผมแกล้งพูดขึ้นและเขียแผงอกกว้างเล่น "คุณไม่ควรพูดถึงผู้หญิงคนอื่นขณะที่บอกว่าสนใจผมนะ"
คำพูดผมทำให้ธารหัวเราะชอบใจและสั่งเหล้าเพิ่มอีก หมอนั่นให้ที่อยู่อพาร์ตเมนต์ส่วนตัวของเขาไว้ บอกว่าผมไปหาเขาได้เสมอ โดยที่เขาไม่รู้หรอกว่าผมไม่มีวันโผล่หัวไปแน่ๆ! ส่วนผมก็ได้แค่ยิ้มแห้งๆ
ที่ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่องและเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องคาสึมิเพราะผมกลัวว่า ถ้าผมละลาบละล้วงมากเกิน ธารอาจจะรู้ว่าผมจงใจถามเรื่องนี้ การที่ผมทำเป็นไม่สนใจแบบนี้แหละดีที่สุด
เพราะหลังจากนี้ผมจะสืบมันต่อด้วยตัวเอง รู้แค่นี้ก็มากเกินพอแล้วจริงๆ!
(นักสืบ โคนัทสิน่ะ) แม่นแล้วเจ๊
### ดีจ๊ะ เจ๊คิดถึงทุกคน เอาแล้วไง เรื่องวุ่นวายเริ่มแล้ว (แค่นี้ยังไม่พอหรอเจ๊) ยังจ๊ะลายไทย ยังมีอีก ###
ติดตามเน้ออออออออออออออออออออออออออออออออ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ