เจ้าชายกระจก yaoi
เขียนโดย แฟนรอน
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.45 น.
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2559 06.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเหลือเวลาอีกสองคืน อันคัมภีร์อยู่ที่ใดแอนดันเต้รู้แน่แก่ใจ แต่คุณท่านแองโกลไม่ยอมออกจากห้องเลย ให้สาวใช้หน้าเดิมยกสำรับอาหารเข้าไปให้ทุกมื้อ มีทางเดียวต้องบุกเอากลางดึก อาจมีลงไม้ลงมือกับคนแก่กันบ้าง... กึ๋ย เข้าข่ายโจรจริงๆด้วยอย่างที่พอลลีนบอก ก็เราเข้ามาขโมยของนี่นา แอนดันเต้คิดพลางเช็ดหุ่นตั้งโชว์ไปพลาง
" เมื่อไหร่จะเผด็จศึกล่ะ " เสียงอีวองเท่าทันความคิด แต่ตอนนี้อีวองกบดานอยู่ในห้องนอน...
" ชู่ว์ ออกมาทำไมเดี๋ยวมีคนเห็น "
" โธ่ หูชั้นนี้ จมูกชั้นนี้ "
กรี้ดดดด
เสียงร้องดังก้องคฤหาสน์เท่าที่คนๆนึงจะทำได้ แอนดันเต้รีบไปดู พอลลีนทำท่าจะเป็นลม สาวใช้นางอื่นวิ่งตามมาดูเป็นพรวน บนพื้นที่นำ้ยายังไม่แห้งดีมีรอยเท้าประหลาดเลื้อยเป็นทางยาวตรงมาที่แอนดันเต้ คุณท่านแองโกลโผล่หน้าตามเสียงเข้ามาดู เอามือจับคาง คุกเข่าลงเหมือนนักสืบ พินิจพิเคราะห์
" กิ้งก่ายักษ์ ต้องเป็นกิ้งก่ายักษ์แน่ๆ แต่ทำไมมีข้างละเจ็ดนิ้ว ประหลาดดีแท้ "
" กิ้งก่าเข้ามาได้ไงไม่รู้ " สาวใช้หวีดร้องเกรียวกราว
" ตัวต้องบักเอ้กๆแน่ๆ " คุณท่านแองโกลสืบเท้าตามรอยแบบวิ่งเหยาะๆหวังเจอเจ้ากิ้งก่าปริศนา
" ไปจับกิ้งก่าเร็ว ก่อนที่มันจะไปใกลกว่านี้ " แอนดันเต้เหลียวมองไปที่หุ่นโชว์ทันที กลัวเจออีวองในสายตา และดูว่ามันทิ้งรอยให้ตามแค่ใหน จนคุณท่านมาหยุดตรงหน้า
" แล้วเธอคือใครกัน "ถัดจากใบหน้าฉงนดุๆคือบรรดาสาวใช้ที่ตามมา แอนดันเต้รู้ตัวดีว่าทำพลาดไปแล้ว ในนาทีที่กลับตัวไม่ทัน ด้วยเหตุนี้พอลลีนจึงต้องสารภาพความจริงทุกอย่างเสียงอ่อยแบบสำนึกผิด
" เอาเถอะ ใหนๆก็มาแล้ว ฉันจะจ้างเธอเพิ่มอีกคน แล้วเธอเห็นกิ้งก่ายักษ์บ้างใหม " แอนดันเต้อึกอัก กับการกลับตัวแสนง่ายดายของคุณท่านแองโกลซำ้ยังติดใจกิ้งก่ายักษ์มากกว่าสาวใช้ที่ตนไม่ได้จ้าง
" หนูเพิ่งเห็นรอยเหมือนกันค่ะ "
" ชั้นกำลังอยากได้สารจากต่อมเหงื่อกิ้งก่ามาทำนำ้ยาพอดี ตัวใหญ่ขนาดนั้นต้องให้สารเยอะแน่ๆ ไปบอกทุกคน หนุ่มๆสาวๆ ทุกๆคนในคฤหาสน์ให้ช่วยกันหากิ้งก่าตัวนี้ให้เจอ ใครจับได้มีรางวัล ไปเร็ว ก่อนที่มันจะออกไปในทางที่มันเข้ามา " แอนดันเต้ทำพลาดได้ แต่จากนี้ต่อไปอีวองพลาดไม่ได้เลย คฤหาสน์ยามนี้ตกอยู่ในความโกลาหล คุณท่านอยากได้กิ้งก่าและสาวใช้อยากได้รางวัล แต่แอนดันเต้เล็งเห็นความชุลมุนนี้เป็นช่องทาง เขาเร่งฝีเท้าเป้าหมายคือประตูกระจกสารพัดสี ตลบผืนพรม ดึงประตูลับและลงไปชั้นใต้ดินเห็นหม้อปรุงยาตั้งไว้เรียงราย นำ้ยาเหล่านี้ส่งกลิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันจนกลิ่นตีกันอบอวล ตู้กระจกเก็บสารพัดเครื่องปรุงแต่ละชนิดติดป้ายบอก โต๊ะหินตัวยาว โกร่ง ตาชั่ง อุปกรณ์ปรุงยามากมายล้นโต๊ะ ไต่ลงไปห้องด้านล่าง ห้องโล่งๆสีขาวสะอาดเตียงคนไข้ตั้งเรียงราย เด็กผู้หญิงคนนึงยังนอนหลับอยู่ สุดห้องมีบันไดพาดขึ้น ทางออก....
มุมห้องวางโต๊ะมีหนังสือและกระดาษกองทับ ชั้นหนังสือพิงกำแพง ตำราเล่มเก่าแก่เกือบรุุ่งริ่งเปิดค้างไว้บนโต๊ะ แอนดันเต้หยิบมันขึ้นมา ในตำราเขียนด้วยหมึกสีแดงเลือด ภาษาครีเซียส... เขายืนอ่านคร่าวๆ สูตรนำ้ยาเพื่อการต่างๆ เพราะบนสมุดอีกเล่มมีรอยเขียนพยัญชนะเรียว พยัญชนะอิ พยัญชนะตง พยัญชนะคิสลับไปกับเส้นประทั้งเล่ม บางทีอักษรแปดตัวนี้ก็รวมเป็นประโยคได้ ทว่าใจความก็ยังไม่สมบูรณ์อยู่ดี คุณท่านแองโกลพยายามถอดความหมายทั้งที่รู้จักภาษาครีเซียสแค่แปดตัวอักษร แต่แอนดันเต้เรียนภาษานี้ตั้งแต่จำความได้ แอนดันเต้นั่งลง เร่งมือเติมคำในรอยประเป็นภาษาสามัญให้ไวที่สุด ขีดฆ่าคำแปลเก่าที่เดาผิด ใส่คำแปลที่ถูกต้องลงไป จนเวลาล่วง เขามั่นใจว่าต้องไปได้แล้ว จึงเขียนโน๊ตหน้าสุดท้ายที่ตนเพิ่งทำเสร็จว่าที่เหลือจะแปลและส่งมาให้ทีหลัง เขียนเสร็จก็ลุกขึ้นยืนเอาคัมภีร์ซุกหลังผ้ากันเปื้อน คัมภีร์ที่หนาสองนิ้วกว่าจึงซ่อนลำบาก ได้ยินเสียงข้างบนเพดาน สบตาแป๋วแหววกับเด็กหญิงที่ตื่นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
" แอบขโมยของคุณหมอนิสัยไม่ดี "
" อยากโดนฆ่าทิ้งเหรอจ๊ะ แม่หนูน้อย "
" ไม่กลัว คุณหมอเก่งป่วยแค่ใหนก็รักษาได้ "
" ตายน่ะ ให้อะไรก็รักษาไม่ได้หรอก เชื่อเถอะ เดี๋ยวจะสาธิตให้ดูก็ได้ "
" คุณหมอเร็วๆค้า ขโมยจะฆ่าหนูแล้วววว " เจ้าหล่อนแหกปากลั่น เสียงกึกกักบนเพดานแว่วๆ สาวใช้จำแลงวิ่งปีนขึ้นบันไดดันฝาท่อออก โผล่หัวออกไปดูว่ามีใครอยู่หรือเปล่า ถึงมีก็ต้องเผ่นขึ้นไปล่ะ เขาหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เด็ก
" ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ " เด็กหญิงแล่บลิ้นปลิ้นตาให้ เขาพรวดพราดออกมา สู่พุ่มดอกไม้ใจกลางสวน กอดคัมภีร์ วิ่งเลียบหลังแนวพุ่มไม้ดัดแต่งสวนป้องกันคุณท่านโผล่ขึ้นมามองเห็น อันดับต่อไปคือวิ่งหาอีวองแล้วรีบบินหนีไปซะ เขากลับไปเอาสัมภาระที่มีกระจกวิเศษ ดึงคัมภีร์ออกมายัดรวมในกระเป๋า เอากระเป๋าใส่ตะกร้าผ้า ออกไปเก็บผ้าปูที่นอนมาคลุมบนตะกร้า วิ่งร่อนหาอีวอง ปากตะโกนเรียกไปด้วย อีวองส่งเสียงตอบว่าทางนี้ คลานออกมาจากใต้ตู้
" โอ๊ย เกือบได้บินหนีออกไปเเล้วใหมล่ะ แล้วค่อยกลับมารับท่านตอนทำใจได้ "
" ดีแล้วล่ะ เราจะไปกันแล้วตอนนี้ เตรียมบินเลย แอนดันเต้จับอีวองยัดใส่ตะกร้า วิ่งไปหาหน้าต่างที่ใกล้ที่สุด
" เดี๋ยวก่อน " เสียงหนึ่งเรียก แอนดันเต้ตัวแข็งหันไป พอลลีนกอดอกตรงตีนบันได
" ฉันรู้ความจริงหมดแล้วนะ " พอลลีนกอดอกตรงตีนบันได ยิ่งรู้ยิ่งต้องรีบหนี เดี๋ยวจะโดนฟาดหัวจนสลบแบบขโมยในการ์ตูนซีเอ็น แต่พอลลีนกำม้วนกระดาษหลวมๆในมือขวา ไม่ใช่ไม้หน้าสาม ค่อยโล่งอกหน่อย
" ขอโทษนะที่โกหกมาตลอด " แอนดันเต้วิ่งขึ้นบันไดต่อไปเรื่อย พอลลีนตามมาวิ่งข้างๆ..
" ฮื่อ ไม่เป็นไร เธอตัดสินใจดีแล้วเหรอ "
" คงอยู่ช่วยงานพี่พอลลีนต่อไปไม่ได้แล้ว ขอโทษนะ "
" อะไรกัน เธอจะไปแล้วเหรอ " อ้าว!! ไปสิครับ
" .................... "
" ไม่เป็นไร คราวนี้ เธอตัดสินใจถูกแล้ว ไปตามทางที่ดีของเธอเถอะ อย่ามาจมปลักกับงานสาวใช้เลย " แอนดันเต้วิ่งต่อไป ยังไม่ได้พูดอะไร
" ไปแล้วอย่าลืมกันนะ "
" แน่นอน พี่พอลลีน ถูพื้นไปเรื่อยๆก็เพลินดีเหมือนกันนะ "
" ฮ่าฮ่า เกิดมาคงไม่เคยทำเลยสิ ทนไปเถอะ ถึงเจ้าบ่าวจะไม่หล่อแต่บิซซาร์น่ะมั่งคั่งจะตาย ขุมทรัพย์แซฟไฟต์เชียวนะ เป็นเจ้าหญิงถึงจะถูกจับคลุมถุงชนก็คงทำอะไรตามใจชอบมากกว่าสาวใช้ล่ะ " แอนดันเต้เบรคเท้ากระทันหันแทบหน้าทิ่ม หันขวับคอแทบเคล็ด พอลลีนคลี่กระดาษในมือออกโชว์ โป้สเตอร์รูปเหมือนเจ้าหญิงแอนดันเต้ในชุดงานหมั้นสีชมพู รูปวาดแค่ใบหน้าลงมาสุดช่วงอก พอลลีนอ่านข้อความกำกับข้างล่างภาพ
" เจ้าสาวบิซซาร์ถูกลักพาตัว หากผู้พบเห็นเเจ้งเบาะแสมาที่เมืองบิซซาร์หรือช่วยเหลือพานางกลับมามีรางวัลอย่างงาม..
" แล้วถ้ากลับไปเธอจะบอกบิซซาร์ว่าไงล่ะ ในเมื่อเธอหนีมาเองนี่นา จะบอกว่าหลบจากโจรมาได้งั้นหรือ " แอนดันเต้มองโป้สเตอร์แบบพูดไม่ออก พอลลีนยื่นให้เพื่อนใหม่ไม่กี่วันรับไปดู แอนดันเต้อุ้มตะกร้าผ้าไว้อกซ้าย มือขวาชูโปสเตอร์ หน้าในภาพวาดเหมือนเป๊ะๆราวส่องกระจกด้วยฝีมือจิตรกรเอก
" พี่พอลลีนไปเอามาจากใหน "
" ทหารแบล็คอาวน์เดินเเจกตามคฤหาสน์เมื่อสามวันก่อน เผอิญพี่สุมๆไว้กับกองใบปลิวยังไม่ทิ้ง มันล่วงลงมา เห็นอีกครั้งเลยจำได้ " พอลลีนยิ้มแฉ่ง ทันใดนั้นหัวก๊อตซิล่าก็ดันผ้าคลุมตะกร้าลอดโผล่ออกมา
" เร็วๆซี่ ข้าอยากบินจะแย่อยู่แล้ว " พอลลีนกรี๊ดลั่น ผงะหงายหลัง ดีที่แอนดันเต้คว้ามือไว้ทัน เธอเข่าอ่อนรูดตัวลงนั่งโดยสวัสดิภาพบนบันได
" กิ้ง... กิ้ง... กิ้ง... " จงเติมคำในช่องว่างให้สมบูรณ์" .... ก่ายักษ์พูดได้ ไปก่อนนะพี่พอลลีน " สู่ดาดฟ้า แอนดันเต้วางตะกร้าลงอีวองกระโดดออกมาอย่างอิสระเสรีหลีกให้แอนดัันเต้ดึงกระเป๋าออกมา ทันใดนั้นสาวใช้สิบสี่คนกับนายท่านแองโกลผู้กำโปสเตอร์ไว้เปิดประตูผางวิ่งเข้ามา และเด็กหญิงบนเตียงก็ชี้ตัวแอนดันเต้
" คนนี้ล่ะค่ะ ที่ขโมยหนังสือคุณหมอไป "
" ฉันเห็นที่เธอเขียนแปลไว้ให้แล้ว เธอเก่งนะที่รู้ภาษานี้ "
" ขอบคุณครับ ขอโทษเรื่องคัมภีร์จริงๆ ถ้ามันเป็นของท่าน "
" มันไม่ใช่ของฉันหรอก พี่ชายฉัน เอ็ดมันต์น่ะ ยึดได้จากปิศาจพวกนึง แล้วฉันก็แอบเอามา ป่านนี้เขาลืมคัมภีร์เล่มนี้ไปแล้ว กิ้งก่าตัวนั้นใช่ตัวเดียวกับเมื่อกี้รึเปล่า รึว่าเป็นอีกตัวที่ใหญ่ขึ้น "
" ตัวเดียวกันละครับ " กิ้งก่ายักษ์นามอีวองขยายตัวราวกับจะอ มันกลายร่างเป็นมังกรเต็มตัว และคู้ขาให้แอนดันเต้ขึ้นคร่อมขี่
" ว้าว อยากได้สูตรนำ้ยาลดขยายตัวได้แบบนี้จัง ฉันอยากได้มังกรแบบพกพามั่ง เผื่อเอาไว้เป็นเพื่อนสาวๆเค้า เค้าจะได้ไม่เหงา " สาวใช้คนนึงกระซิบว่าอย่าเลยค่ะ แต่แอนดันเต้วางแผนว่าจะขอสูตรจากเลอเซลไว้ซะแล้ว
" ว้าย " แอนดันเต้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงร่างกายของตน แอนดันเต้จากไป แอนนูร่ากลับมาร่างเดิมแล้วสินะ
" นี่เธอคงใช้ร่างนี้หนีการแต่งงานสินะ " พอลลีนวิจารณ์ แอนนูร่ายิ้ม ส่วนคุณท่านตบมือให้
" ยอดเยี่ยม " มังกรโผบินขึ้นฟ้า คนข้างล่างโบกมือให้ คุณท่านแองโกลตะโกนก่อนจะลับหายจากกันว่า
" อย่าลืมแปลส่วนที่เหลือส่งมาให้ด้วยนะ " แอนนูร่าโบกตอบ คงเพราะสาวใช้อยู่ในสังคมเมืองที่ต้องห้ามเวทมนตร์ ซำ้ยังมีเจ้านายทำงานในพระราชวัง พอได้เห็นอะไรแปลกมหัศจรรย์จึงตื่นเต้น โดยเฉพาะคุณท่านแองโกลผู้หลงไหลเวทมนตร์ทางด้านนำ้ยาเป็นพิเศษ หัวขโมยผู้โชคดีบินออกมาหน้าตาเฉยต่อหน้าต่อตาเจ้าบ้าน แถมเจ้าบ้านยังโบกมือลากับมังกรบินมาเรื่อยๆ บ่ายหน้าสู่บิซซาร์
" บิซซาร์ทำชั้นขายหน้าชะมัด ถึงขนาดทำใบปลิวรูปชั้นไปแจกตามบ้าน ตอนนี้ฉันเป็นผู้ชายไปแล้ว... ขืนกลับบิซซาร์ทั้งอย่างนี้มีหวังช็อคกันทั้งตระกูลที่เจ้าสาวเป็นผู้ชาย ลงจอดก่อนเถอะอีวอง เหลือเวลาอีกสองวันคงกลับเป็นผู้หญิงได้ หวังว่าเลอเซลจะหาวิธีทัน "
" เลอเซลเก่งมาก เจ้าชายนอนพระทัยได้เลย " อีวองกำลังร่อนลงหาสถานีมังกรประจำเมืองวู้ดเดนท์ฮาร์ท จอดลง มันลากับเขาแค่ตรงนั้นเพื่อเอาคัมภีร์กลับไปให้แม่มด เจ้าชายแอนนูร่าเปิดโรงแรมชั่วคราวหวังนอนให้เต็มอิ่มพักร่างกายที่อดนอนจนเพลีย เสียงแมลงร้องดังจากในกระเป๋า แอนนูร่าล้วงกระจกออกมา
" เลอเซล อีวองกำลังเอาคัมภีร์ไปให้ท่านนะ ส่วนข้ากลายร่างเป็นผู้ชายไปแล้ว รู้ใหมข้าเจออะไรมา คุณท่านแองโกลน้องชายเคานต์เอ็ดมันต์รักษาคนด้วยนำ้ยาเวทมนตร์ด้วย เขาสนใจวิธีย่อขนาดมังกรด้วย ข้าอยากให้ท่านได้พบกับเค้าจัง "
" เจ้าชายแอนนูร่า คุยกับพระมารดาก่อนนะ " เลอเซลส่งกระจกให้เเม่เขา ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายอยู่นะ เลอเซลลืมไปรึเปล่าว่าเรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับ แต่พระราชินีที่โผล่เข้ามายิ้มกว้าง ฉากหลังที่ผ่านกระจกวูบนึงบอกให้รู้ว่าแม่อยู่ที่มิราฌบน" ดีจริงๆที่ลูกแม่ไม่ได้เป็นผู้หญิงไปเลย ต้องขอบคุณเลอเซล " แม่พูดเหมือนรู้มาก่อนหน้านี้ ท่าทางก็ไม่ได้โกรธอะไรด้วย " ถ้าผมกลับคืนเป็นผู้หญิงเมื่อไหร่ ผมจะกลับบิซซาร์ไปหมั้นเลยนะครับ ผมไม่เถลไถลแน่นอน ฮะ ฮะ "
" อย่านะแอนนูร่า อย่าเพิ่งกลับมา ตอนนี้อยู่โรงแรมอะไร " แอนนูร่าบอกชื่อโรงแรมไป
" อย่าออกจากโรงแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เปลี่ยนเป็นผู้หญิงจนกว่าเลอเซลจะเอานำ้ยาคืนร่างไปให้ถึงห้อง สัญญากับแม่ได้ใหม " แม่คงห่วงเรื่องมือสังหารตามล่าเขาอยู่
" ได้ครับ "
" สัญญาสิ "
" ผมสัญญาครับ "
" แม่รักลูกนะ พ่อก็รักลูก แม่รู้ " แม่จูบลงบนผิวกระจกแอนนูร่าลูบผมเขินๆ การติดต่อจบลงเพียงเท่านั้น เจ้าชายแอนนูร่าขลุกอยู่แต่ในห้อง ลงมากินอาหารเฉพาะที่ล้อบบี้ในโรงแรม จนล่วงเข้าวันถัดมา เสียงกริ่งไฟใหม้แผดร้อง ทุกคนวิ่งลงมาอลหม่านชนกันไม่สนใจใครเพื่อจะเอาตัวเองรอดจากมฤตยูพระเพลิง แอนนูร่าคว้าเสื้อคลุมมีฮุคกันพลาดวิ่งลงมาด้วย ทหารคอยโบกมืออยู่หน้าประตูต้อนให้ทุกคนวิ่งออกไปหาทหารอีกกลุ่มข้างนอกโรงแรมซึ่งตะโกนบอกให้ทุกคนวิ่งตามมาเป็นระยะ แอนนูร่าแหงนขึ้นดูตึก ไม่มีควัน ไม่มีสัญญาณจากพระเพลิง รึว่ายังใหม้ไม่ถึงใหนนะ ทหารหลายคนวิ่งสวนขึ้นตึกไปขณะพวกเขาที่ลงมาเรียบร้อยวิ่งตามทหารที่เกลื่อนเมืองไปหมดทั้งวิ่งนำหน้ากลุ่มและต้อนล้อมจากข้างหลัง ประชาชนจากตึกรามร้านรวงข้างทางก็ถูกต้อนวิ่งมาทางทิศเดียวกัน
" ใหนล่ะไฟใหม้ เกิดอะไรขึ้น "
" ทหารให้พวกเราไปใหน "
" บ้าเอ้ย ฉันยังไม่ล้างสบู่ออกจากตัวเลย "
" ให้พวกเราวิ่งไปถึงใหนเนี่ย " คำตอบคือจตุรัสใจกลางเมืองหน้าพระราชวัง เนืองแน่นเเออัดไปด้วยประชากรซึ่งถูกต้อนมาวิธีเดียวกัน ฝ่ายที่มาถึงก่อนตะโกนซักถาม วิจารณ์สถานการณ์ คาดเดา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเซ็งแซ่ ทหารจัดแถวเป็นระเบียบล้อมจตุรัส มังกรประทับตราทัพเซียนหมอบนิ่ง การปรากฏตัวตนของมันคือหัวข้อสนทนาอันดับหนึ่ง มันมีขนาดตัวที่ใหญ่ยักษ์ได้เศษหนึึ่งส่วนห้าพระราชวังเบื้้องหลัง หลายคนเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับแอนนูร่าฟังจากเสียงฮือฮารอบกาย เหนือมังกร บุรุษชราทีชาวเมืองวู้ดเดนท์ฮาร์ทเห็นต้องทำความเคารพทันทีเพราะรู้ว่าเขาคือพระราชาผู้ปกครองอาณาจักรวู้ดเดนท์ฮาร์ท คนต่างเมืองพลอยทำความเคารพตามๆกัน เซียนปราบวัยกลางคนยืนด้านหลังเยื้องๆข้างพระองค์ พระราชาตรัสเสียงดังกระหึ่มด้วยอำนาจเวทมนตร์
" ข้าต้องขออภัยที่เรียกรวมตัวฉุกเฉิน เชื่อว่าหลายคนต้องตามทหารมาทั้งที่ไม่พร้อม ทั้งชาวเมืองของข้าและผู้ผ่านทาง เนื่องจากมีโองการด่วนจากมหาเวทย์เลโอนาร์ทต้องการจะกล่าวไปถึงทุกคน โดยผู้นำโองการ เซียนปราบท่านนี้
" พระราชาก้าวถอยหลบให้เซียนปราบก้าวออกมา ประกาศดังก้องกระหึ่มจนปวดหู ราวกับประสงค์ให้ถ้อยโองการขจรไปถึงเขตชายแดน
" ก่อนอื่นผมต้องรายงานว่า ขณะนี้พื้นที่เขตแดนอาณาจักรมิราฌมหาเวทย์ประกาศเป็นพื้นที่หวงห้าม การขนส่งสินค้าทางเรือท่าเรือมิราฌจะยกเลิกไม่มีกำหนด ให้เปลี่ยนไปใช้ท่าเรืออื่นแทน และห้ามอยู่อาศัยทำการใดๆบนพื้นที่ทุกประการ เนื่องจากเราได้ตรวจพบเรือผีหลบซ่อนเร้นกบดานอยู่ที่นั่น!! เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังพลปิศาจร้าย นำโดยเจ้าแผ่นดินเสียเอง จากนี้ไปอาจมีพลเมืองมิราฌลี้ภัยมายังเมืองอื่นๆ ก็ขอให้อย่ารังเกียจหวาดกลัว เนื่องจากหน่วยเซียนปราบตรวจสอบคัดกรองพลเมืองมิราฌหาปิศาจเป็นรายบุคคลแล้วก่อนปล่อยตัวออกจากพื้นที่กักกันชั่วคราว และผู้นำแคว้นบิซซาร์ผู้สนับสนุนเรือผีอย่างลับๆ จะมีการเปลี่ยนตระกูลผู้ปกครองเมือง โดยผู้ปกครองเมืองตระกูลบิซซาร์และผู้ปกครองเมืองตระกูลมิราฌมีความผิดในข้อหาซ่องสุมเป็นกบฏต่อแผ่นดินรวม และร่วมปกปิดช่วยเหลือปิศาจอันเป็นอาญาแผ่นดิน จะต้องรับสำเร็จโทษตามกฏหมายคือประหารชีวิตทายาทผู้สืบสันตติวงศ์และผู้ร่วมนามสกุล " ราชาวู้ดเด้นท์ฮาร์ทปีนจากมังกรลงมา กล่องเหล็กสีดำใหญ่โตบนหลังมังกรเปิดออกโดยทหารลึกลับต่างเครื่องแบบ ตระกูลบิซซาร์กลุ่มใหญ่ถูกคุมตัวออกมาสู่สาธารณชน มีทั้งเด็กแบเบาะในอ้อมอกแม่ เด็กอายุไม่เกินสิบปี คนหนุ่มสาวแข็งแรง แม้กระทั่งผู้เฒ่าชรา ที่เป็นสตรีก็รำ่ไห้ ที่เป็นบุรุษก็เงียบซึม แต่ความหวาดกลัวมัจจุราชล้วนฉาบฉายในแววตาถ้วนทุกคน พวกเขายังสวมเครื่องแต่งกายเดิม และถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือสีม่วง อดีตประมุขแห่งบิซซาร์และโอรสของพระองค์ ว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้าหญิงแอนดันเต้อยู่หน้ากลุ่มกัดฟันร้องไห้ ทหารลึกลับซึ่งก็คือเพชรฆาตเงื้อดาบใบกว้างขึ้น เหวี่ยงลงฉับตัดศีรษะเหล่านั้นกระเด็นทีละหัวสองหัว คนข้างแอนนูร่าร้องอี๋ สะดุ้งปิดตา เกิดภาพกลุ่มคนคอกุดนั่งรวมกันบนหลังมังกรดูน่าสยดสยองชวนคลื่นเหียน โลหิตพรวดพุ่งออกจากคอดังสายนำ้พุสาดต้องเครื่องแบบเพชรฆาต เปรอะเปื้อนกายนักโทษไหลเจิ่งนองพื้นกระเบื้องสีเขียวมุก สีพื้นราชวังบิซซาร์...
" ราชวงศ์บิซซาร์รับโทษประหารเมื่อสิบหกนาฬิกาของเมื่อวาน ต่อหน้าประชาชนชาวบิซซาร์ทุกคนจะเป็นสักขีพยาน ผู้ใดให้ความช่วยเหลือปิศาจในทุกกรณี นี่คือโทษทัณฑ์สำหรับคนผู้นั้น ประหารทั้งตระกูล... " ซากศพเหยื่อประหารหมู่เลือนเป็นควันพุ่งขึ้นสูงพร้อมกันกับกล่องดำลึกลับสลายวับไป มันคือบันทึกภาพเหตุการณ์ย้อนหลังโดยอำนาจเวทมนตร์ เรือมิราฌที่มองจากมุมมองเบื้องบน ฉายขึ้นกลางอากาศเหนือเซียนปราบ กองทัพมังกรตราเซียนปราบบินกันมืดฟ้ามัวดิน ทหารมิราฌที่เห็นเป็นจุดเล็กวิ่งกันวุ่นเข้าประจำปืนใหญ่ ปล่อยลูกปืนยิงระดมขึ้นสกัดใส่ผู้บุกรุก มังกรล่วงใส่หลังคาเรือนกราว มังกรหลายตัวพ่นลูกไฟเวทมนตร์ขณะพุ่งโฉบลงไปหา ภาพถูกแสงสีและควันใหม้กลบวิสัยทัศน์ กองทัพเซียนปราบในเกราะมนต์ขี่มังกรบินมาสมทบ มังกรยักษ์ลูกไฟจากปากมันก็ยักษ์ตาม ร่อนลงไปหาบ้าง เซียนปราบกระโดดจากหลังมังกรลงไปเองบ้าง ล้วนมีอาวุธประหลาดในมือ ทันใดนั้น เรือเมืองก็ปล่อยรัศมีสีรุ้งอาบเรือ มังกรบนฟ้าโดนกรอบรัศมีแผดเผาร้องสนั่นหวั่นไหว จนบางตัวต้องบินถอยมาสูงลิบ บินวนเวียนคุมเชิงอยู่อย่างนั้น ลูกไฟเวทมนตร์ ไม่อาจทะลุผ่านม่านบาเรียไปได้ ได้แต่ระเบิดอยู่ระยะแค่นั้น แต่ระเบิดจากทหารข้างล่างทะลุขึ้นมาต่อเนื่องโดนมังกรบางตัวเข้าจังๆ มันแผดร้องบินตกลงไปใหม้บนม่านบาเรีย เซียนปราบในเกราะมนต์กระโดดลงไป ร่างในเกราะมนต์แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เลโอนาร์ทปรากฏกายบนความว่างเปล่า
" เซียนปราบทุกคน เลิกต่อสู้และออกมา นับถึงสิบ จะระเบิดเรือนี้ทิ้งทันที 9 8 7 6 5 4 3 2 1 " ไม่มีเซียนปราบผู้ใดบินออกมาซักคน เลโอนาร์ทร่ายอักขระยาวเหยียดเป็นตาข่ายแหทอดลงไปที่หัวเรือ มันทะลุม่านบาเรียหล่นลงไปสามรอบ จอมมหาเวทย์ส่งสัญญาณให้กองทัพบินกลับ ฝูงมังกรบินเฟี้ยวออกมา... ส่วนหัวเรือระเบิดลุกใหม้ดังตูมสนั่น ห้อยร่องแร่งกลางอากาศ บาเรียดับวูบลง ก่อนจะล่วงใส่ผิวนำ้ตูมใหญ่ คลื่นมหึมาสาดโถมหาฝั่ง ประชาชนร่วมกับทหารมิราฌกำลังต่อสู้ขับไล่ทหารต่างเมืองฝ่ายบุกรุกพยายามรวบรวมควบคุมพวกเขาถูกคลื่นพัดกระเด็นกลืนหายในสายนำ้ กองทัพมังกรตราเซียนบินประกาศชัยชนะอยู่เหนือน่านนำ้ คลื่นที่โซมซัดคล้ายกระฉอกออกมายังจตุรัสวู้ดเดนท์ฮาร์ท ฝนตกซู่ลงมาในจังหวะกำแพงคลื่นโถมซัดสู่หาดพอดีเหลือเชือ เซียนปราบผู้นำโองการยังยืนกลางสายฝน เร่งทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จลุล่วงไป
" อย่าถูกปิศาจครอบงำหลอกล่อจนตกเป็นเครื่องมือแก่การเติบโตของเผ่าพันธุ์มัน หากพบเบาะแส ให้แจ้งทหารของเมืองนั้นๆตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และสุดท้าย ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้!! รวมทั้งสายเลือดเชื้อพระวงศ์บิซซาร์และมิราฌที่หลบหนีไปได้ ทางการจะติดตามล่ากลับมารับโทษทัณฑ์ตามกฎหมาย ขอบคุณสำหรับการสละเวลามา " มังกรยักษ์กระพือปีกจนเม็ดฝนกระเด็น บินจากไป ประชาชนแตกฮือวิ่งหลบฝนทั้งที่เปียกจนชุ่มไปแล้ว นำ้บนหน้าแอนนูร่าปะปนทั้งฝนและนำ้ตา อุณหภูมิอันอบอุ่นคุ้มกันจากอากาศดูจะระเหิดจากกาย ทิ้งไว้แต่ความหนาวเยือกเย็นดำดิ่งปั่นป่วน โชคดีที่คว้าฮุ้ดติดมาเพราะแอนดันเต้กลับมาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ระหว่างยืนชุมนุม เขาวิ่งเหยียบบ่อนำ้ขังฝ่าฝนกระหนำ่จนถึงโรงแรม ทหารแบ่งมาเฝ้าทรัพย์สินอาคารระหว่างประชาชนไปชุมนุม " เย้ " ชายผู้ออกจากโรงแรมทั้งสบูู่ดีอกดีใจ วิ่งเริงร่่าในสายฝนกลับมา " กลับถึงห้องไม่ต้องอาบนำ้ต่อแล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย ต้องขอบคุณคนเขียนที่บันดาลให้ฝนฟ้าตก ขอบคุณคร้าบ " ยินดีคร้าบ แต่กลับมาอาบนำ้อีกรอบดีกว่านะ เพื่อความสะอาดจริงๆและเพื่อสุขภาพที่ดี อย่าลืมกินยาแก้หวัดดักไว้ด้วยนะครับ พนักงานหลังเคานเตอร์ที่วิ่งนำหน้ากลับมาพร้อมกัน บ่นอู้กับชุดฟอร์มเปียกซ่ก เช็ดคราบเครื่องสำอางค์ออกแต่ก็ยังไม่วายหยอกล้อกัน แอนดันเต้กลับมาที่ห้อง มือสั่นสะท้านเฝ้าแต่วาดสัญลักษณ์บนกระจกซำ้ไปซำ้มา ภาพสะท้อนในนั้นคือหญิงแปลกหน้ากำลังร้องให้
" ได้โปรดเลอเซล ติดต่อฉันที " เขาเฝ้าทำซำ้ไปซำ้มาอย่างบ้าคลั่งแม้จะไร้ปฏิกริยาใดๆเกิดขึ้น คืนนั้น แอนดันเต้ติดต่อแม่มดเลอเซลไม่ได้เลย เจ้าชายนั่งชันขาหลังพิงขอบเตียง มือกุมกระจกจนขาวซีด ภาพเรือมิราฌระเบิดลุกใหม้จมหายลงสู่น่านนำ้ยังประทับแน่นในมโนสำนึก
" เจ้าชายแอนนูร่า " กุล ปิศาจความฝัน เจ้าก้อนเมฆหนาฟูฟ่องอุ้มเขาลงในห้องเครื่องมิราฌ แม่เขาส่งกระจกพกคืนเลอเซล พ่อนั่งเขียนจดหมายบางอย่าง เช่นเดียวกับอาจารย์เขา พื้นใต้เท้าสะเทือน ทุกสรรพสิ่งสั่นคลอนเป็นระยะ เดี๋ยวสั่น เดี๋ยวหยุด คนอื่นๆในห้องเดินหายเข้าไปในกระจกบานสูง เมื่อทั้งห้องเหลือพระราชา พระราชินี อาจารย์ฟิลลิป เลอเซล และขุนนางบางคน แอนนูร่าทักแต่ไม่มีใครสนใจเขาทั้งสิ้น
" ผมอยากให้คุณหนีไปซ่อนในกระจกด้วย โรส เพื่อลูกของเรา " พระราชาตรัสกับชายาพระองค์" แอนนูร่าจะปลอดภัยใช่ใหม พี่ฟิลลิป " พระราชินีตรัสถามอาจารย์
" แน่นอน คุณโรส "
" ผมอยากให้คุณไปกับเลอเซล เพื่อผม "
" ไม่ ฉันอยากอยู่กับคุณ ในบ้านของเรา แจ็ค "
" โรส "
" แจ็ค " แจ็ครวบโรสมากอดแน่น..Every night in my dreamsI see you. l feel you. that is now l Know you go on... เรือมิราฌจะล่มแล้ว ผู้ชายสองคนช่วยกันห่อกระจกด้วยผ้าผืนใหญ่ ประคองวางบนหลังมังกร ผูกยึดให้แน่นหนา แม่กอดเลอเซล พูดอะไรบางอย่าง พ่อกับอาจารย์มอบจดหมายให้แม่มดเฒ่า
" ฉบับนั้นด้วยรึเปล่ากระหม่อม " เลอเซลถามถึงกระดาษยู่ยี่บนโต๊ะ พระราชาไม่ได้หยิบมันมาด้วย
" ไม่ใช่ จดหมายจากเลโอนาร์ทจากวังล่างเมื่อสามวันก่อน ส่งมาเตือนว่าเราไม่เคยส่งลูกสาวไปคัดเลือกเข้าหน่วยเซียนซักที จะให้ส่งแอนดันเต้ไปคัดเลือกเป็นการส่วนตัว " พระราชาตอบ ประตูฉุกเฉินบนพื้นห้องเครื่องเปิดออก มันคือทางออกใต้ท้องเรือ เลอเซลขึ้นควบคุมมังกรที่บรรทุกกระจกบินลงไป
" เจ้าชายแอนนูร่า " ลมพัดแอนนูร่าล้มหงายกับพื้น เขาผุดลุกยืน ...แอนนูร่าเห็นทุกคนบนเรือ กุล ปิศาจความฝันยืนอยู่เบื้องหลัง และพ่อแม่ยืนเบื้องหน้าเขา อากาศรอบกายมีแสงตะวันจ้าและคลื่นลมแรง แอนนูร่าก็ยืนตรงนั้นด้วย มิราฌไม่เคยมีท้องฟ้าสดใสเช่นนี้มาก่อน สายลมเย็นชื่นเคล้ากลิ่นไอเกลือ สภาพเรือเหมือนพายุเพิ่งผ่านไป เสียหายเล็กน้อย แค่ข้าวของกระจัดกระจาย ใช้เวลาประมาณสามสี่วันฟื้นฟูทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางดุจเดิม ทุกคนก็ไม่รอช้าแบ่งงานกันทำ
" ผมกลับบ้านแล้ว ผมกลับมาแล้วฮะ " พ่อวางมือบนใหล่เขา ยิ้มละไม ความร้อนในอุ้งมือ แอนนูร่ามองใบหน้าสุขุมใจดีที่เขาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นน่าเชื่อถือเก่าๆ ความร้อนที่บ่าปลุกเขาขึ้น เขานอนคู้หมอบแทบพื้น เสื้อผ้าแห้งคาตัว กระจกหลุดจากมือห่างออกไป ฝัน... เวทมนตร์ทำให้ทุกสิ่งเป็นเรื่องลวงตา ผิดเพี้ยน เขาลุกขึ้น ใจมุ่งจะกลับมิราฌ เจ้าชายคลุมหมวกขณะเดินปะปนกับฝูงชน
" ไปมิราฌ " เขาบอกกับรถม้ารับจ้าง เจ้าของขมวดคิ้ว
" นี่น้องสาว ตกข่าวหรือจ๊ะ มิราฌเพิ่งถูกปิดไปแหม่บๆ " แอนนูร่ากลืนนำ้ลาย ข่าวเมื่อวานคือความฝัน ภาพในฝันอาจจะเป็นจริง ใครจะไปรู้ เหมือนที่เขาเกิดมาเป็นผู้ชาย แต่ชายคนนี้เรียกน้องสาว
" ผมมีความจำเป็นต้องรีบไปครับ "
" ก็ได้ ไม่รู้จะไปทำไม คนมิราฌติดด่านคัดกรองตรวจสอบปิศาจ พยายามอพยพหนีออกมาจะตายอยู่แล้ว แค่ส่งในละแวกพอนะ "
" อือ " แอนนูร่าก้าวขึ้นรถม้า
" ไปหาญาติเหรอ "
" อือ "
" เป็นโชคร้ายหนอ มิราฌเมืองก็เล็กไม่น่าคิดทำการใหญ่เลย ประชาชนเดือดร้อนกันหมด เดี๋ยวจะเร่งให้จะได้ทันเจอญาติก่อนจะอพยพไปใกล " บ่นงึมงัม ลมแรงพัดพาผ้าคลุมล่วงจากศีรษะ สารถีรับจ้างชะงักกึก
" เจ้าหญิงแอนดันเต้!! " แอนนูร่าเผ่นพรวดวิ่งออกมา มือดึงผ้าคลุมแน่นกันปลิว จึงได้รู้ว่าโปสเตอร์วันหมั้นได้ถูกนำไปแก้ไขข้อความใหม่ว่าเจ้าหญิงกบฏ แอนดันเต้ มิราฌทองหนึ่งตันสำหรับผู้จับส่งมอบ ทองครึ่งตันสำหรับผู้แจ้งข่าวนำไปสู่การนำจับ ช่วยเหลือทุกกรณีประหารยกสกุล
ทหารกำลังนำโป้สเตอร์แปะตามกำแพง อาคาร ร้านรวง แจกจ่ายให้พ่อค้าแม่ขายและคนข้างทางเก็บไว้ดู แอนนูร่าก้มหน้าลงตำ่ เดินงุดๆไร้จุดหมาย พยายามเลี่ยงทหารที่เดินขวักไขว่ เมื่อไหร่จะคืนร่างเดิมสักที... เจ้าชายแอนนูร่าตกตำ่ลำบากถึงที่สุดในชีวิต แม้แต่กลับไปโรงแรมก็ทำไม่ได้ เปิดโรงแรมใหม่ก็เป็นไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่กวดขันคนที่สวมหมวกต้องเปิดหน้าก่อนทุกคน ซื้ออาหารก็ถูกจับตามองอย่างลังเลและสนใจ เธอมีค่าหัว... ดีที่ยังหาซื้อได้บ้าง แอนดันเต้นั่งรอในสวนเล็กๆลับตาคนมุมข้างโรงแรมเดิมรอกระจกส่งสัญญาณ ครึ่งวันกว่ากระจกจะส่งเสียงนกร้อง แอนดันเต้คว้าออกมา
" เจ้าชายยังอยู่บนห้องใช่ใหม หม่อมชั้นจะไปหาเดี๋ยวนี้ " แอนดันเต้บอกทาง ไม่นานเลย หญิงชราในชุดคลุมเขียวหิ้วกระเป๋าเดินทางเดินมาทรุดนั่งข้างๆ
" ขออภัยที่กระหม่อมมาล่าช้าจนข้ามวัน คนเดินทางทุกคนติดด่านตรวจจับเจ้าหญิงแอนดันเต้กันหมด ทั้งชายแดน สถานีมังกร ทั้งคอกมังกรบริการ มีทหารคุมเข้มงวดกวดขันมาก ไม่ให้มังกรหลุดลอดเข้ามาในเมือง จะได้ตรวจเจ้าของได้ครบถ้วน สถานีมังกรเข้าวู้ดเดนท์ฮาร์ทคิวยาวมากจริงๆ "
" ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะเลอเซล "
" มีใครบางคนในบิซซาร์ทรยศ เอาเข็มทิศวิเศษจากพระบิดาท่านที่มอบให้ราชาบิซซาร์เพื่อแลกเปลี่ยนกับบรรณาการเป็นแซฟไฟต์รอบแรกลอบส่งให้เลโอนาร์ท เลโอนาร์ทคงให้คลังอาวุธเเกะกลไกมันผลิตขึ้นมาหลายอันนำทางกองทัพไปโจมตีมิราฌ "
" พวกเขาลงจากเรือเรียบร้อยแล้วใช่ใหม... เขาไปแอบที่ใหน " แอนดันเต้กลั้นใจถามให้เหมือนคำถามทั่วไป
" ตอนที่เรา พระมารดาติดต่อกับท่านทางกระจก พระราชินีลำเลียงคนไปซ่อนในมิติกระจกชั่วคราว แต่สองพระองค์ไม่ยอมลงมา พระราชาจะอยู่คุมเรือรับมือสู้กับกองทัพเซียน ทรงฝากให้หม่อมชั้นเอานำ้ยามาให้เจ้าชายให้ไวที่สุดด้วย เพื่อความปลอดภัยของพระองค์ที่อยู่ทางนี้ ทรงฝากจดหมายถึงเจ้าชาย " เลอเซลล้วงจดหมายในสาปเสื้อคลุมยื่นให้ มือซีดรับมาเปิดอ่าน ยังแอบหวังว่าผู้ปกครองเรือมิราฌจะบอกที่ซ่อนตัวและนัดไปพบกัน
" แอนนูร่า สิ่งที่เราปรารถนาคือให้ลูกอยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัยเหมือนมนุษย์ธรรมดาพึงเป็น ได้เรียนรู้และสนุกสนานกับชีวิตตามช่วงวัย เราอยากให้ลูกซ่อนตัวจากทุกสิ่งเป็นหนุ่มน้อยทั่วไปจนกว่าราชาริชาร์ดจะมารับลูก เมื่อนั้นเขาจะปกป้องคุ้มครองลูกเอง ขอให้ลูกดูแลตัวเองดีๆนะ รัก พ่อกับแม่ " แอนดันเต้กลั้นนำ้ตาแห่งความผิดหวังไม่อยู่ ความรู้สึกสิ้นหวังแสบร้อนแล่นพล่านไปทั่วกาย เลอเซลยื่นจดหมายอีกครั้ง มันซ้อนทับกันมาสองฉบับ ฉบับหนึ่งซีนปิดเรียบสนิท จ่าหน้าถึง ร๊อก ฮาร์วาร์ต นามสกุลเดียวกับอาจารย์ และกระดาษที่พับไว้เฉยๆ
" ฉบับนี้เป็นของอาจารย์ท่าน เขาไม่ยอมลงจากเรือด้วยเช่นกัน ไปหาเขา คนนี้เป็นญาติห่างๆของคุณฟิลลิป เจ้าชายต้องอ้างตัวว่าเป็นลูกของอาจารย์ เขาจะรับหน้าทีี่ดูแลเจ้าชายต่อ แม้แต่นิคมคุนทรีก็จะต้องมีเสี่ยงอันตรายมาถึงพระองค์ สองพระองค์ทรงหวังให้เจ้าชายศึกษาเล่าเรียนต่อไป " ในกระดาษที่พับไว้เฉยๆ เขียนด้วยลายมือคุ้นตาของอาจารย์ใจความว่าให้เขาไปหาญาติห่างๆของอาจารย์ที่เมืองเซาท์สตาร์ ไปในนาม อัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต ลูกชายอาจารย์ที่เสียชีวิตตั้งแต่สองขวบ ส่งจดหมายปิดผนึกให้ ร๊ ฮาร์วาร์ต แล้วเขาจะเข้าใจทุกอย่าง ให้เปลี่ยนสีผมเป็นสีบรอนซ์ตามอาจารย์ด้วยเพราะเจ้าชายกับอาจารย์ก็ตาสีฟ้าเหมือนกัน ส่วนท้ายของจดหมาย อาจารย์อวยพรให้เขามีสติปัญญาและชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งมวล.... ตามด้วยที่อยู่โดยละเอียดของคฤหาสน์ฮาร์วาร์ต เมืองเซาท์สตาร์
" นำ้ยานั้นทำให้ร่างลวงคงอยู่จนกว่าจะพ้นสามเดือน ไม่มียาอะไรถอนได้ แต่ขวดนี้จะระงับมันได้ " มือเหี่ยวชราวางขวดจุของเหลวสีนำ้นมจางๆใส่มือบาง มีขวดเล็กและขวดใหญ่อย่างละหนึ่ง กล่องยาย้อมผม
" นำ้ยาแก้นี้จะทำให้เจ้าชายคืนร่างเดิมเป็นชายโดยสมบูรณ์ไปเลย เจ้าชายระวังอย่าให้มีเรื่องกลั้นหายใจนานๆก็พอ จนกว่าจะครบสามเดือน " แอนดันเต้ดื่มนำ้ยาขาวนำ้นมทีเดียวหมดขวด แอนนูร่ากลับมาอีกครั้งและจะอยู่กับเขาตลอดไป เขาถอดหมวกฮู้ดออก เลอเซลยิ้มกับผลลัพธ์ที่เห็น แม่มดเฒ่าจับมือเจ้าชายแบออก นิ้วยาวมีเล็บงองุ้มชี้ที่ขวดจิ๋วที่วางบนมือเจ้าชาย
" ขวดนี้หม่อมชั้นเตรียมสำรองไว้ตอนฉุกเฉิน เผื่อเจ้าชายจะกลั้นหายใจเรียกร่างลวงมาใช้งานให้กินยานี้คืน ผลเห็นทันตาคืนร่างเดี๋ยวนั้น "
" น่าเสียดายที่หม่อมชั้นไปส่งเจ้าชายไม่ได้ เพราะติดไปเอาคนมิราฌบนออกจากมิติกระจก การล้อเล่นที่แสนอันตราย เข้าบานใหนต้องออกบานนั้น จากนี้ไป เราจะยังติดต่อกันได้เสมอ ด้วยกระจกพกพาบานนี้... "
" แล้วพบกัน เลอเซล "
" ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ เจ้าชายแอนนูร่า " หญิงชราหลังโก่งหิ้วกระเป๋าเดินทางจากไปด้วยความเร็วกระฉับกระเฉงไม่ต่างกับคนสาว แอนนูร่ากลับเข้าโรงแรมขึ้นห้องไปใช้ห้องนำ้ในการตระเตรียมความพร้อม เจ้าชายยืนมองตนเองในกระจก แอนนูร่ากลับคืนมาถาวร เขาควรดีใจที่ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเอง แต่แอนนูร่าก็ต้องจากไป เป็นอัลเบิร์ตแทนตั้งแต่นี้ต่อไป เจ้าชายโกรกยาย้อมผม ไม่มีแม้แต่เวลาลำ่ลาแอนนูร่าคนเดิม เขาต้องรีบออกเดินทางเผื่อเวลาที่เสียไปตอนติดด่านถึงสี่เมืองสู่เซาท์สตาร์ เขาคงเดินทางไปถึงเซาท์สตาร์ก่อนฟ้ามืด... ถ้าเขาโชคดี
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ