สัมพันธ์รัก...สัมผัสหัวใจ [YAOI]
เขียนโดย ผ้าปูโต๊ะ
วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 23.08 น.
แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
8)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ***(นิยายชายรักชาย)***
ในขณะที่เขากำลังจะเตรียมตัวเข้านอน จู่ๆ เสียงมือถือก็ดังขึ้นมา โชจินรีบกดรับสายทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขาก็ต้องแปลกใจกับเสียงที่ได้ยิน
“ใช่คุณโชจินหรือเปล่าครับ” เสียงชายหนุ่มถาม โชจินที่งงกับเสียงของผู้ชายทั้งๆ ที่ไม่น่าเป็นไปได้ ก็ตอบกลับไปสั้นๆ “ใช่ครับ”
“คือผมเป็นพนักงานอยู่ที่ผับเดอะดริ๊งก์นะครับ พอดีเจ้าของเครื่องเขาบอกให้ช่วยติดต่อหาคุณน่ะครับ”
“อะไรนะครับ ผับเหรอ? แล้วตอนนี้เจ้าของเครื่องอยู่ไหนครับ” โชจินถามกลับไปอย่างร้อนรน พร้อมกับเริ่มหาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนออกไปยังผับนั้น
“อยู่ใกล้ๆ ผมนี่แหละครับ แต่เมามาก ยังไงคุณโชจินรีบมาหน่อยก็ดีนะครับ”
“ครับๆ ได้ครับ ผมจะรีบไป ยังไงคุณช่วยดูแลเธอก่อนนะครับ” แล้วโชจินก็วางสายไป เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกระเป๋าตังค์ กุญแจห้องและมือถือ ก่อนจะเดินออกไปทันที
โชจินใช้บริการแท็กซี่จนมาถึงผับดังกล่าว เขาจ่ายเงินและรีบลงจากรถ เขายื่นบัตรประชาชนให้พนักงานดูหน้าร้าน ก่อนจะเดินเข้าไปภายในที่มีแสงไฟสลัวๆ เขาเดินเข้าไปเรื่อยๆ และพยายามมองหาจนในที่สุดก็เจอเข้ากับหญิงสาวที่นอนฟุบหน้าลงอยู่ที่โต๊ะใกล้เคาท์เตอร์บาร์
“ญาดา ญา นี่ผมเองนะโชจิน” เขาเข้าไปเขย่าตัวหญิงสาวเล็กน้อยเพื่อให้เธอพอมีสติเงยหน้าขึ้นมาดู หญิงสาวเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็รีบโผเข้าไปกอดทันทีจนโชจินเกือบเซล้มลง
“ญาเป็นอะไร” โชจินถามด้วยความเป็นห่วง เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวพร้อมกับรับรู้ถึงน้ำตาที่หยดลงบนไหล่เขา
“จิน เขาไปแล้ว เขาไม่รักเราแล้ว” เธอพูดได้แค่นั้นแล้วก็ปล่อยโฮ โชจินลอบถอนหายใจก่อนจะทำหน้าที่ปลอบเท่าที่เขาจะทำได้ ญาดา เป็นเพื่อนในกลุ่มติวของเขาอีกคนหนึ่ง เธอเป็นคนน่ารัก และโชจินเองก็นึกชอบตั้งแต่แรกเห็น แต่เขาต้องตัดใจเมื่อทราบว่าหญิงสาวมีแฟนแล้ว
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” โชจินพูดได้แค่นี้ เขาปล่อยให้หญิงสาวกอดเขาและร้องไห้ไปกับเขา เขารู้สึกเจ็บไปกับเธอและรู้สึกแค้นใจกับอดีตแฟนของเธอ แต่แล้วโชจินก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าเขา
“คุณพี” โชจินเอ่ยแผ่วเบา
โชจินอยู่ที่ผับนั้นพักใหญ่ เขาปล่อยให้ญาดาดื่มอย่างที่เธอต้องการ แต่เขาก็ไม่ได้อยู่กับญาดาเพียงสองคน เพราะมีบุคคลที่สามที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาเลยกำลังนั่งหลังตรงทำหน้านิ่งมองเขาอยู่
“ญา กลับบ้านมั้ย” โชจินถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวดื่มมากเกินไปแล้ว หล่อนส่ายหน้าก่อนจะหยิบแก้วขึ้นดื่มอีก
“พอแล้วญา พอแล้วนะครับ” โชจินบอกน้ำเสียงนุ่ม ซึ่งก็ทำเอาพีวดลอึ้งไป เพราะเขาไม่เคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้เลยจากโชจิน พีวดลที่ยังคงไม่รู้อะไรก็เริ่มเดาในใจว่าโชจินกับญาดาเป็นอะไรกัน แต่จากที่เขาดูน่าจะเป็นเพียงเพื่อนกันมากกว่า
“จิน คืนนี้ญาไปนอนกับจินนะ” “ได้สิ/ไม่ได้” สองเสียงของสองหนุ่มดังขึ้นพร้อมกัน จนทำให้หญิงสาวหนึ่งเดียวในโต๊ะเงยหน้าขึ้นมองไปทางเสียงแปลกๆ ที่เธอได้ยิน “ใครอ่ะจิน”
“เอ่อ..คือ...” โชจินไม่รู้จะตอบหญิงสาวว่ายังไง เขาก็ไม่อยากหักหน้าด้วยการบอกว่าไม่รู้จัก แต่ก็ไม่มีสถานะที่จะบอกให้กับหญิงสาวทราบเหมือนกัน
“ผมเป็นเจ้านายของโชจินน่ะครับ” แล้วพีวดลก็เป็นคนพูดขึ้นมาเอง โชจินหันไปมองพร้อมกับคิ้วที่ขมวด ส่วนหญิงสาวเมื่อทราบแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก เธอจะแย่งแก้วเหล้าคืนจากโชจิน
"ไม่เอาแล้วนะญาดา พอแล้วนะครับ เรากลับห้องกันนะ” โชจินบอกน้ำเสียงอบอุ่น หญิงสาวมองอย่างหงุดหงิดในตอนแรก แต่ก็ต้องพยักหน้ายอมแพ้ให้กับรอยยิ้มอบอุ่นของโชจิน ชายหนุ่มลุกขึ้นพยุงหญิงสาว
“มา ฉันช่วย” พีวดลอาสา แต่โชจินรีบบอกปัดทันที “ไม่เป็นไรครับ เพื่อนผม ผมดูแลได้” โชจินบอก ก่อนจะค่อยๆ พากันเดินออกไปอย่างทุลักทุเลบ้าง โดยมีพีวดลเดินตามหลัง
เมื่อออกมาด้านนอกแล้ว โชจินที่เตรียมจะเดินไปตรงฟุตบาธเพื่อเรียกแท็กซี่ ก็ต้องถูกรั้งแขนไว้ด้วยมือหนา เขาหันไปมองอย่างไม่พอใจเล็กน้อย
“ฉันจะไปส่ง” พีวดลบอก โชจินที่เตรียมจะอ้าปากเถียงก็ต้องตกใจ เมื่อญาดาปัดมือเขาทิ้งและรีบวิ่งไปอ้วก โชจินรีบวิ่งไปลูบหลังให้ทันที
“อ้วกออกมาให้หมดนะญา” โชจินบอก จนหญิงสาวรู้สึกดีขึ้น ขวดน้ำเปล่าถูกยื่นมาตรงหน้าเขา โชจินหันไปมองก็เห็นเป็นพีวดลที่ยื่นมาให้ เขาขอบคุณและรีบเปิดฝาให้ญาดาได้ดื่มน้ำสะอาดล้างปาก
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ และญาดาก็ไม่มีวี่แววว่าจะอ้วกอีก โชจินพยุงหญิงสาวที่ใกล้จะหลับเต็มทีด้วยความเพลีย
“มาเถอะ ฉันจะไปส่ง เพื่อนนายจะไม่ไหวอยู่แล้ว” พีวดลบอก โชจินหันไปมองก่อนจะยอมให้พีวดลขับไปส่งที่อพาร์ตเม้นต์
ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรออกมา หญิงสาวนอนสลบสไลอยู่เบาะด้านหลัง ส่วนโชจินก็นั่งด้านหน้าคู่คนขับ เส้นทางเริ่มเปลี่ยนไปและดูไม่ใช่ทางที่จะไปอพาร์ตเมนต์ โชจินหันไปถามพีวดลที่ตั้งใจขับรถอยู่ทันที
“นี่คุณจะพาไปไหน”
“ฉันไม่พาไปขายหรอกนา สภาพเพื่อนนายเป็นแบบนั้น แล้วจะหิ้วเข้าอพาร์ตเมนต์ให้คนนินทาหรือไง เพื่อนนายจะเสียหายเอา” พีวดลอ้างหญิงสาวขึ้นมา เขารู้สึกว่าโชจินให้ความสำคัญกับเธอคนนี้เป็นพิเศษ ไม่นานนักเขาก็ขับมาถึงคอนโดฯ ตัวเอง
“นี่คอนโดฯ ฉันเอง” พีวดลบอก ก่อนจะช่วยกันพยุงหญิงสาวออกมาจากรถ แล้วพากันขึ้นมาจนถึงห้องพัก
“เอาเข้าไปห้องโน้นแล้วกัน” พีวดลบอกพร้อมกับเดินนำไป ทั้งคู่ค่อยๆ วางหญิงสาวลง โชจินจัดแจงจัดท่าให้หญิงสาวได้นอนสบาย ก่อนจะเป็นฝ่ายชวนพีวดลออกไปด้านนอก คอนโดฯ ของชายหนุ่มมีสองห้องนอนด้วยกัน
“ขอบคุณนะครับ”
“อืม...นี่ก็ดึกมากแล้ว ไปนอนกันเถอะ” พีวดลบอก ก่อนจะเดินนำทางไปยังห้องนอนอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องส่วนตัวของเขา แต่เมื่อรู้สึกว่าโชจินไม่ได้เดินตามมาด้วย เขาจึงหันกลับไปมองก่อนจะพบว่าเจ้าตัวได้เดินไปนั่งบนโซฟา
“นายจะนอนตรงนี้?”
“ครับ เผื่อญาดาตื่นมาจะได้ไม่ตกใจ” โชจินบอก พีวดลหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ โชจินเห็นจึงเดินไปรับมา แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มเดินไปขยับโต๊ะออก ก่อนจะกลายสภาพโซฟาให้เป็นเตียงนอน
“จะได้ไม่เมื่อย” พีวดลบอก โชจินขอบคุณอีกครั้งก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่ง
“นายนอนปิดไฟได้ใช่มั้ย” พีวดลถาม “ครับ” โชจินตอบอย่างไม่อยากเรื่องมาก แล้วห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา โชจินล้มตัวลงนอน แต่ก่อนที่เขาจะได้หลับไป ความรู้สึกยวบของเตียงนอนโซฟาข้างๆ ก็ทำให้เขาต้องรีบหันกลับไปมอง
“คุณ!!”
“ชู่ว...เบาๆ สิ ฉันมานอนเป็นเพื่อน เผื่อนายจะกลัว” พีวดลบอกน้ำเสียงแผ่วเบา
“ผมไม่กลัวครับ คุณกลับไปนอนด้านในเถอะ”
“ไม่ไหวละ ฉันง่วง ราตรีสวัสดิ์นะ”
“แล้วคุณจะมากอดผมทำไมเนี่ย”
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบโสตประสาทตาของโชจินแม้ว่าจะหลับตาอยู่ เขาค่อยๆ ปรือตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปอีกทางเพื่อหลบแสงแดด แต่เมื่อภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวิ่งเข้ามาในห้วงความคิด โชจินก็ลืมตาโพลงและลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เขาหันไปมองรอบๆ ห้องพร้อมคิ้วที่ขมวด จนเมื่อสติกลับเข้าสู่ร่างอย่างสมบูรณ์ เขาจึงรีบเดินไปยังห้องนอนที่มีหญิงสาวนอนอยู่ เขาค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปมอง หญิงสาวยังคงหลับอย่างไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มค่อยๆ ปิดประตูอย่างเบามือที่สุด ก่อนจะเริ่มมองหาเจ้าของห้อง
“หรืออยู่ในห้อง” โชจินพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ ย่องไปยืนเอาหูแนบกับประตู แต่เขาก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น เขาหันไปมองรอบๆ ห้องอีกครั้งก่อนจะสะดุดเข้ากับโพสต์อิทส์ที่แปะไว้ตรงจอโทรทัศน์ เขาเดินไปดึงมาอ่าน
‘ฉันไปทำงานก่อน ถ้าตื่นแล้วและหิว ในตู้เย็นมีของอยู่ อยากทำอะไรก็ตามสบาย’
โชจินอ่านจบเขาก็หันหานาฬิกาจนเจอและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบแปดโมงครึ่ง และจากที่ตั้งของคอนโดฯ นี้คงใช้เวลาพอสมควรที่จะกลับอพาร์ตเม้นต์ของตัวเอง ยิ่งช่วงเช้าที่การจราจรคับคั่งด้วยแล้ว เขาจึงตัดสินใจโทรหาพี่จ๋า รอสายไม่นานนักก็มีสัญญาณตอบรับจากปลายสาย
“ว่าไงโชจิน โทรมาแต่เช้าเชียว” เสียงสดใสของหญิงสาวเอ่ยทักทายก่อน
“สวัสดีครับพี่จ๋า ผมต้องขอโทษที่โทรมารบกวนนะครับ คือวันนี้ผมขอลาช่วงเช้าได้มั้ยครับ พอดีมีเหตุสุดวิสัยนิดหน่อยน่ะครับ” โชจินทักและรีบบอกข้อความสำคัญทันที
“อ้าวเหรอ มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย” หญิงสาวถามกลับด้วยความเป็นห่วง “ไม่มีอะไรมากครับ ผมต้องขอโทษพี่จ๋าด้วยนะครับที่ลากะทันหันแบบนี้ ไว้ถ้าผมเสร็จธุระแล้วจะรีบไปที่ร้านนะครับ”
“จ้ะๆ ไม่ต้องห่วงนะ ไปจัดการเรื่องของเราให้เรียบร้อยเถอะ แต่ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกมาได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ” หญิงสาวบอกด้วยใจจริง และนี่ก็เป็นเหตุผลที่โชจินรักและเคารพเจ้านายสาวคนนี้ของเขามาก พี่จ๋ามักใจดีและพร้อมช่วยเหลือเขาตลอด
หลังเสร็จเรื่องไปหนึ่ง เขาก็เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองให้สดชื่นมากขึ้น แล้วเขาต้องแปลกใจเมื่อพบกับแปรงสีฟันสองอันที่ยังมีสภาพใหม่ พร้อมกับโพสต์อิทส์อีกครั้ง
‘ของใหม่ เอาไว้จัดการตัวเองแล้วก็เพื่อนนาย’
โชจินหยิบขึ้นมาดูพร้อมกับหลุดยิ้มจนนึกได้ก็รีบหุบยิ้มทันที เขาใช้แปรงสีฟันที่เจ้าของห้องเตรียมไว้ให้ เสร็จแล้วจึงเดินไปดูหญิงสาวอีกครั้ง โชจินนั่งลงข้างๆ ญาดา ก่อนจะลองปลุกดู
“ญา ญาครับ เช้าแล้วนะ” โชจินบอกน้ำเสียงนุ่ม หญิงสาวที่กำลังนอนหลับสบายก็เริ่มรู้สึกตัว เธอปรือตาขึ้นน้อยๆ ก่อนจะจับหัวตัวเองและบ่นออกมา “ทำไมปวดหัวแบบนี้”
“ก็จะไม่ให้ปวดได้ยังไงล่ะ ดื่มเข้าไปซะเยอะขนาดนั้น” โชจินบอกพร้อมกับอดขำไม่ได้ หญิงสาวค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้องด้วยความแปลกใจ
“นี่ไม่ใช่ห้องโชจินนี่นา” ญาดาบอก ก่อนจะหันมามองโชจินด้วยสายตาแปลกๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบโบกมือไปมาปฏิเสธความคิดของหญิงสาวทันที
“นี่ไม่ใช่โรงแรมนะญา แล้วผมก็ไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นด้วย” โชจินบอกปัดพัลวัน หญิงสาวหลุดขำก่อนจะเอ่ย “ญารู้ว่าโชจินไม่มีวันทำแบบนั้นกับญาหรอก แล้วที่นี่คือ?”
โชจินชั่งใจเล็กน้อย ก่อนจำใจต้องบอกไปว่าที่นี่คือที่ไหน “นี่เป็นคอนโดฯ ของ......เอ่อ....”
“เจ้านายโชจินใช่มั้ย เหมือนเมื่อคืนญาจำได้ลางๆ ว่ามีผู้ชายตัวใหญ่ๆ มานั่งที่โต๊ะด้วย เขาบอกว่าเป็น...เจ้านายของโชจิน” หญิงสาวพูดขัดขึ้นมา และโชจินเองก็ต้องพยักหน้าตามน้ำไป ก่อนที่เขาจะเบี่ยงประเด็น “เดี๋ยวผมไปชงกาแฟให้นะ ดื่มแก้แฮงก์หน่อย” พูดจบก็ลุกออกไปทันที
เขาเดินมาส่วนของครัว ที่นี่มีเครื่องมือพื้นฐานครบครันในการประกอบอาหาร โชจินค่อนข้างแปลกใจไม่น้อยที่คนอย่างพีวดลจะมีของครบมือขนาดนี้ หรือบางทีเขาอาจจะเตรียมไว้ให้สาวๆ ที่เขาพามาก็ได้ ชายหนุ่มมองหาแก้วกาแฟก่อนจะหยิบมาวางไว้ เขามองหาผงกาแฟ ก่อนจะหันไปดูกาต้มน้ำไฟฟ้าที่ถูกเสียบไว้แล้ว โชจินขมวดคิ้วอีกครั้ง...หรือเขาจะเตรียมไว้ให้?
ญาดาเดินออกมาจากห้อง เธอมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจพร้อมกับคิดในใจว่าเจ้าของห้องนี้คงต้องรวยมากแน่ๆ ถึงได้มีห้องที่ใหญ่ได้ขนาดนี้ แถมยังติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
“ญา ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนมั้ย แปรงใหม่สีเขียวอยู่ในห้องน้ำแหนะ” โชจินบอกในขณะที่เขาเดินถือแก้วกาแฟกลิ่นหอมออกมา
“แปรงใหม่เหรอ?” หญิงสาวอดถามไม่ได้ โชจินพยักหน้าก่อนจะเร่งให้หญิงสาวทำตาม เธอจึงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับความสดชื่น
“อ่ะนี่ ดื่มซะหน่อย จะได้ไม่ปวดหัวมาก” โชจินยื่นให้ญาดา ทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะอาหารขนาด 4 ที่นั่ง แล้วเสียงมือถือของโชจินก็ดังขึ้น เขาเดินไปหาอยู่ไม่นานก็หยิบขึ้นมากดรับสายโดยไม่ทันได้ดูว่าใครโทรมา
“สวัสดีครับ”
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงปลายสายทำเอาโชจินชะงักไป เขาผละมือถือจากหูเพื่อมาดูหน้าจอ ก่อนจะพบว่าเป็นสายของพีวดลโทรเข้ามา
“เพื่อนนายเป็นไงบ้าง แฮงก์มากมั้ย” ปลายสายถาม “ก็มีบ้างครับ ขอบคุณนะครับ” โชจินบอกกลับไป
“แล้ววันนี้จะไปทำงานหรือเปล่า หรือจะลาหยุดเพื่อดูแลเพื่อนคนสำคัญ” ถ้าโชจินไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป เขารู้สึกว่าน้ำเสียงท้ายประโยคออกแนวประชดเขา
“ผมโทรไปลาช่วงเช้าแล้วครับ ผมจะจัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย และจะรีบกลับนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ” พูดจบโชจินก็ชิงวางสายไปก่อน เขาไม่ได้อยากคุยนานเพราะไม่รู้ว่าปลายสายจะกวนประสาทเขาขนาดไหน
“ใครเหรอ? เออใช่! วันนี้โชจินต้องไปทำงานนี่นา ตายแล้วๆ ญาขอโทษนะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างร้อนรน
“ไม่เป็นไรญา ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกวันซะหน่อย แล้วญาดีขึ้นบ้างยัง” โชจินถาม เขาเดินเข้าไปอังหน้าผากหญิงสาวเพื่อเช็กดูว่ามีไข้หรือเปล่า แม้จะรู้สึกอุ่นๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก
“ดีแล้วล่ะ เรากลับกันเลยมั้ย โชจินจะได้รีบไปทำงานด้วยไง” ญาดาบอก “เดี๋ยวผมขอเก็บกวาดให้เรียบร้อยก่อนนะครับ เกรงใจเจ้าของห้อง” โชจินบอก และหญิงสาวก็รีบอาสาจะช่วยทันที แต่โชจินก็ห้ามไว้ เพราะดูแล้วเธอยังมีอาการมึนๆ อยู่
โชจินใช้เวลาไม่นานนักในการเก็บเตียงนอนโซฟา พับผ้าห่มแล้ววางไว้ยังโซฟา ก่อนจะเข้าไปจัดการเตียงในห้องนอนรับแขก เสร็จแล้วเขาก็เดินออกมาล้างถ้วยกาแฟคว่ำไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำและหยิบแปรงสีฟันที่ใช้แล้วออกมา เขาเดินหาถุงเพื่อใส่เก็บไป มันคงไม่ดีแน่ถ้าใช้เสร็จแล้วก็วางทิ้งไว้แบบนั้นเขาเดินตรวจดูปลั๊กไฟรอบห้องตามความเคยชินจนแน่ใจ คงมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่เขาไม่คิดจะเปิดเข้าไปดู เพราะนั่นคือห้องส่วนตัวของเจ้าของห้อง
“ไปกันเถอะครับ” โชจินบอก ญาดาพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องด้วยกัน
“ญาจะกลับห้องเลยมั้ย หรือยังไง” โชจินถามในขณะที่พวกเขากำลังยืนรอโบกรถแท็กซี่อยู่
“คือ...ญาขอไปอยู่ห้องโชจินสักพักได้มั้ย ญายังไม่อยากอยู่คนเดียว” น้ำเสียงเศร้าของหญิงสาวทำให้โชจินตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาโบกแท็กซี่และบอกให้ไปยังที่พักของหญิงสาวก่อน เพื่อไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวบางส่วน ก่อนจะโดยสารแท็กซี่อีกครั้งเพื่อไปยังอพาร์ตเม้นต์ของโชจิน
“ญาเอาของเข้าไปไว้ในห้องได้เลยนะ” โชจินบอกในขณะที่พวกเขายืนอยู่ในห้องพักของชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว ญาดายืนลังเลจนถูกชายหนุ่มดึงกระเป๋าทั้งหมดเข้าไปไว้ในห้องเอง
“ญาจะอาบน้ำก่อนมั้ย?” โชจินถาม แล้วมันก็ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเฉยๆ แต่โชจินคงไม่รู้เพราะเขายืนหันหลังให้กับเธอ
“โชจินอาบก่อนเถอะ จะได้แต่งตัวไปทำงาน” หญิงสาวบอก โชจินพยักหน้าก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ส่งให้หญิงสาว และหยิบอีกผืนที่แขวนไว้เดินหายเข้าห้องน้ำไป ด้านหญิงสาวก็เดินดูรอบๆ ห้องของโชจิน ก่อนจะนั่งลงที่เตียงนุ่ม แม้ว่าห้องนี้จะไม่ได้สบายเหมือนห้องที่พวกเขาเพิ่งออกกันมา แต่หญิงสาวก็รู้สึกอุ่นใจ และด้วยความที่ยังมีอาการแฮงก์อยู่ เธอจึงล้มตัวลงนอนก่อนจะหลับไปอย่างง่ายดาย
หลังอาบน้ำเสร็จ เขาก็ใส่เสื้อยืดตัวเก่าพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พันท่อนล่างไว้ โชจินเดินเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งก่อนจะพบว่าหญิงสาวได้หลับไปแล้ว เขายิ้มเอ็นดูกับภาพตรงหน้า ก่อนจะจัดการแต่งตัวด้วยความเงียบที่สุด เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงเขียนโน้ตแปะทิ้งไว้ประตูห้อง ก่อนจะหยิบกระเป๋าและเดินออกจากห้องไป
ตอนแรกโชจินคิดเอาไว้ว่าจะเข้างานในช่วงบ่าย แต่เมื่อทุกอย่างสามารถจัดการได้เสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ เขาจึงมาทำงานที่ร้านทันในช่วงเวลาเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงเวลาพีคของร้าน เขาผลักประตูเข้ามา ยิ้มทักทายผู้ร่วมงานรวมไปถึงลูกค้าประจำ ก่อนที่สายตาของเขาจะไปสะดุดกับพีวดลที่นั่งอยู่มุมในสุดของร้านและกำลังมองเขาอยู่ โชจินชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็กลับมาเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว เขาเข้าไปหลังครัว จัดการกับตัวเองให้พร้อมกับการทำงาน และออกมาด้านนอกเพื่อปฏิบัติหน้าที่
“อ้าวโชจิน มาเร็วนะเนี่ย แล้วทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ” เจ้าของร้านสาวทักขึ้น
“เรียบร้อยแล้วครับพี่จ๋า ขอบคุณมากนะครับพี่” โชจินบอก ก่อนจะขอตัวไปทำหน้าที่ของตัวเอง เขารับออร์เดอร์อย่างคล่องแคล่ว รวมไปถึงเสิร์ฟอาหาร และทุกการกระทำนั้นตกอยู่ในสายตาของพีวดล
“นี่ๆ เก็บอาการหน่อยจ้ะคุณพี” หญิงสาวเอ่ยแซว ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรกลับ แค่ส่งยิ้มมุมปากเล็กๆ ให้เท่านั้น เขานั่งดูการทำงานของโชจินไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ช่วงบ่าย ลูกค้าเริ่มเบาบางลงบ้างแล้ว หญิงสาวจึงเดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“แล้วนี่ไม่ไปทำงานทำการหรือไง” เธอเอ่ยแบบไม่จริงจังนัก ก่อนจะดึงเก้าอี้ออกและนั่งลงฝั่งตรงข้ามชายหนุ่ม
“อะไรกัน นี่ไล่ลูกค้าหรือไงครับ” พีวดลหยอกกลับ หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองโชจินตามสายตาของเพื่อนเธอ จ๋าหันกลับมามองพีวดลอีกครั้ง
“นายพี ฉันถามจริงจังเลยนะ นายสนใจโชจินจริงๆ ใช่มั้ย?” น้ำเสียงของจ๋าเปลี่ยนไปจากในตอนแรก พีวดลละสายตาหันมามองหญิงสาว แล้วเขาก็ดูออกว่าคำพูดนั้นไม่ใช่คำพูดแซวเล่นอย่างครั้งก่อนๆ
“แล้วถ้าฉันสนใจจริงๆ ล่ะ” พีวดลหยั่งเชิงออกไป
“ไม่หรอก นายไม่ได้สนใจโชจินจริงๆ เพราะถ้านายสนใจล่ะก็ นายจะไม่มีคำว่าถ้าออกมา” หญิงสาวบอกน้ำเสียงเรียบ แต่สีหน้าและแววตาจริงจังจนชายหนุ่มไม่คิดจะต่อปากต่อคำเล่นๆ
“โอเค. ฉันยอมรับว่าฉันสนใจจริงๆ”
“พี จ๋าไม่เคยก้าวก่ายเรื่องนี้กับพีหรอกนะ แต่สำหรับโชจิน จ๋าขอได้มั้ย ถ้านายคิดแค่จะเล่นๆ หรือแค่เอาไว้แก้เบื่อแก้เซ็ง จ๋าขอให้เป็นคนอื่นได้มั้ยพี” คำขอร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มเอะใจ ทำไมจ๋าถึงได้ปกป้องโชจินมากมายขนาดนี้
“ทำไมจ๋าถึงปกป้องเด็กคนนี้มากเหลือเกิน” เมื่อสงสัยเขาก็ถามออกไปตรงๆ จ๋ายิ้มบางๆ เธอหันไปมองโชจินอีกรอบก่อนจะหันกลับมาตอบคำถามของชายหนุ่ม
“เพราะโชจินเป็นเด็กดีไงพี เขาเป็นเด็กดีมากๆ มากจนจ๋าอยากจะปกป้องเขาเหมือนที่พี่สาวจะปกป้องน้องชายที่รักมากๆ คนหนึ่ง พีเข้าใจใช่มั้ย” เธอบอก ชายหนุ่มเงียบไป แม้ความสงสัยของเขายังไม่คลายออกไปหมด แต่เขาก็พยักหน้าทำเป็นเข้าใจ ก่อนจะบอกให้เธอได้สบายใจ
“ฉันเข้าใจแล้ว นี่ก็เลยเวลามานานแล้วนะ ฉันกลับไปทำงานก่อนดีกว่า” พีวดลบอก จ๋าพยักหน้าแล้วจัดการคิดเงินค่าอาหาร โดยให้ส่วนลดพิเศษแค่ลูกค้าวีไอพี เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินไปส่งชายหนุ่มอย่างที่เคยทำ
“พี ที่จ๋ายังขวางพีอยู่ เพราะจ๋ารู้ว่าพีเป็นยังไง แล้วสังคมของพีเป็นยังไง ถ้าเมื่อไหร่ที่จ๋าเห็นว่าพีจะเป็นคนดูแลโชจินได้จริงๆ จ๋าจะปล่อยให้นะ หวังว่าพีจะเข้าใจจ๋า” หญิงสาวบอกทิ้งท้าย พีวดลยิ้มรับพร้อมกับพยักหน้า ก่อนจะแยกย้ายกันไป
พีวดลคิดถึงคำพูดของจ๋าอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังขับรถกลับโรงแรม แล้วเหตุการณ์ในคืนพิเศษก็เวียนกลับมาอีกครั้ง ความสงสัยเดิมที่โชจินอาจมีฝาแฝดก็ยังไม่จางหายไป เพราะช่วงที่ผ่านมาที่เขาได้เข้าไปคลุกคลีอยู่กับโชจิน มันก็บอกเขาได้มากว่าโชจินที่เขาเจอทั้งสองกรณีไม่น่าจะใช่คนเดียวกัน แต่ในเมื่อเจ้าตัวเองก็บอกว่าไม่มีพี่น้อง จะบอกว่าโชจินโกหกเขา แต่จะโกหกด้วยเหตุผลอะไรกัน? แล้วเขาก็ต้องสะดุดกับอะไรบางอย่างในห้วงความคิดตัวเอง พักหลังมานี้ที่เขายังคงวนเวียนอยู่รอบๆ โชจินนั้น เขาไม่ได้มีความต้องการอย่างว่ากับเจ้าตัว เขาเพียงแค่อยากเจอ อยากเข้าไปกวนใจให้โชจินหงุดหงิดเล่น และเขาก็แค่...ชอบเวลาที่ได้กอดโชจินแล้วหลับไปด้วยกัน
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่สิวะไอ้พี มึงไม่ได้มีความรู้สึกอะไรแบบนั้นหรอก มึงก็แค่อยากเอาชนะเฉยๆ ใช่ แค่อยากเอาชนะ แค่นั้นจริงๆ”
-- จบตอนแปด --
(ตอนใหม่คืนวันพุธดึกๆ นะคะ หากใครอยากแนะนำ หรือติชมอะไร แต่ไม่มีล็อกอินที่นี่ สามารถส่งไปที่ทวิตเตอร์ https://twitter.com/Dekheechul หรืออีเมล์ secrett202@gmail.com หรือจะเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Vdarkeye202 ก็ได้นะคะ จะขอบคุณมากมายเลยค่ะ และไม่ลืมที่จะขอบคุณนักอ่านเงาทุกท่านด้วยนะคะ )
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ