สัมพันธ์รัก...สัมผัสหัวใจ [YAOI]

-

เขียนโดย ผ้าปูโต๊ะ

วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 23.08 น.

  11 ตอน
  44 วิจารณ์
  14.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557 00.23 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แม้ว่าเมื่อคืนเขาจะนอนไม่ค่อยหลับ เพราะภาพที่เขาโดนจูบจากผู้ชายเหมือนกันยังคงชัดเจนในความคิด แต่เมื่อนาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ 7 โมงครึ่งดังขึ้น โชจินก็ลุกขึ้นมาอย่างง่ายดาย เขาสะบัดหัวไล่ความง่วงและไล่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกไปจากหัว เขาไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้พีวดลหยุดการกระทำอันหยาบคายและรีบออกไปจากห้อง เพราะเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบเพียงตัวเองนั่งลงอยู่กับพื้น โชจินได้แต่หวังว่าจากนี้ไปพีวดลคงจะไม่มารุกรานเขาอีก และต่างคนต่างใช้ชีวิตไปตามที่มันเคยเป็น โชจินเดินออกมาจากตึก เขายกนาฬิกาขึ้นดูเวลา ก่อนจะต้องตกใจเมื่อจู่ๆ ก็พบกับคนที่เขายังไม่อยากเจอในตอนนี้

“ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนายหน่อย ฉันจะไปส่งนายเอง จะได้คุยกันไปในรถ” พีวดลบอกน้ำเสียงนิ่งและจริงจัง ไม่มีวี่แววของพีวดลคนก่อนหน้านี้ที่ดูยียวนกวนประสาทและดูอันตราย โชจินยืนคิดว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี

“ฉันมาดี ฉันแค่อยากรู้อะไรบางอย่างเท่านั้น” น้ำเสียงที่ดูจริงจังของพีวดล ทำให้โชจินตัดสินใจเชื่อเขาและเดินตามไปขึ้นรถ

 

พีวดลขับรถออกมาได้สักพัก ก็เริ่มต้นถามคำถามที่เขาอยากรู้

“โชจิน นายมีพี่น้องหรือเปล่า” คำถามของชายหนุ่ม ทำเอาโชจินหันไปมองพร้อมกับขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะหันกลับไปมองทางข้างหน้าอย่างเดิม

“ไม่มีครับ”

“ฉันขอความจริง”

“ครับ ผมไม่มีพี่น้องครับ” โชจินตอบอย่างไม่ลังเลหรือแม้แต่จะหยุดคิดสักนิด ทำให้พีวดลยอมเชื่อ แม้จะยังไม่เต็ม 100% ก็ตาม เขาถามต่อ

“นายเคยไปจีเพลซหรือเปล่า”

“คุณหมายถึงอะไรครับ” โชจินถามกลับโดยไม่หันไปมองคนข้างๆ พีวดลเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป “ผับเกย์น่ะ นายเคยไปหรือเปล่า”

โชจินนิ่งไปสักพัก เขาลองนึกย้อนกลับไปว่าเขาเคยไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับสถานที่แบบนั้นหรือไม่ แล้วเขาก็นึกออก

“เคยครับ” จบคำของโชจิน พีวดลรีบตบไฟเลี้ยวแล้วขับจอดเข้าข้างทาง โชจินตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังคงเก็บอาการได้เป็นอย่างดี มือข้างขวาของเขาเลื่อนไปจับที่ตัวปลดล็อกสายนิรภัย

“เมื่อไหร่” คำพูดและสายตาของพีวดลที่ดูคาดคั้น ทำให้โชจินต้องรีบนึกและรีบตอบออกไป “เมื่อต้นปีครับ”

“ต้นปี....ต้นปีเหรอ?”

“ครับ ผมเคยไปทำงานที่นั่นเมื่อต้นปี แต่ก็ทำได้แค่อาทิตย์เดียวก็ลาออกครับ” โชจินตอบ แม้เขาอยากจะถามต่อว่าทำไมถึงถาม แต่เขาก็เก็บความสงสัยนั้นไว้ เขาอยากจะใช้คำพูดกับพีวดลให้น้อยที่สุด

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ นายเคยไปอีกหรือเปล่า” พีวดลถามต่อ เขาจับตาดูปฏิกิริยาทุกอย่างของโชจินว่าโกหกเขาอยู่หรือเปล่า

“ไม่เคยครับ”

“แน่ใจใช่มั้ย”

“ครับ ผมแน่ใจ” โชจินย้ำชัด พีวดลจ้องมองอย่างจับผิด แต่ทั้งน้ำเสียง ท่าทาง และสายตาที่มองมาทำให้เขาแน่ใจว่าโชจินไม่ได้โกหก เขาหันกลับไปพิงพนักเก้าอี้ด้วยความสับสน คืนนั้นแม้เขาจะเมา แต่เขาก็ไม่ได้เมาถึงขั้นไม่มีสติ เขาจำใบหน้าโชจินได้ดี

“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวเลยนะครับ ขอบคุณครับที่ขับมาส่งครึ่งทาง” โชจินบอก เขาปลดสายเข็มขัดนิรภัย แต่เขากลับเปิดประตูรถไม่ได้

“ฉันบอกว่าจะไปส่งก็คือจะไปส่ง คาดเบลต์แล้วนั่งเฉยๆ” พีวดลบอกน้ำเสียงเข้ม เขาหันไปมองแล้วบังคับโชจินด้วยสายตา โชจินเองก็ไม่อยากมีปัญหาจึงยอมทำตาม แล้วพีวดลก็ขับรถออกไปอีกครั้ง

เมื่อใกล้ถึงร้านมุมอิ่ม โชจินขอให้พีวดลจอดรถก่อนจะถึงหน้าร้าน เขาทำตามคำขออย่างง่ายดาย และเมื่อโชจินลงไปแล้ว เขาก็ขับรถออกไปทันที

“เฮ่อ...จบสิ้นสักทีนะ” โชจินเปรยกับตัวเอง

 

สองวันมาแล้วที่พีวดลไม่ค่อยมีสมาธิกับงานที่ทำ เพราะเรื่องราวของโชจินยังคงรบกวนจิตใจเขาอยู่ ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมยังคงมีความต้องการโชจินอยู่อีก เขามองนาฬิกาบนผนังห้องทำงาน ก่อนจะกดอินเตอร์คอมหาเลขาฯ ที่นั่งอยู่นอกห้อง

“คุณนิสา วันนี้ผมมีอะไรเร่งด่วนอีกมั้ยครับ”

“วันนี้เหรอคะ อืม...ไม่มีแล้วค่ะคุณพีวดล”

“ขอบคุณครับ” แล้วชายหนุ่มก็จัดการปิดคอมพิวเตอร์ ปิดแฟ้มงานและวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบมือถือและกุญแจรถเดินออกจากห้องไป

“ถ้ามีอะไรด่วน โทรหาผมได้ทันทีเลยนะครับ แล้วถ้างานคุณเสร็จแล้ว ก็กลับบ้านได้เลยนะครับ คุณจะได้กลับไปพักผ่อน” พีวดลบอกเลขาฯ แล้วเดินออกไป นิสามองตามเจ้านายพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะก้มมองท้องของตัวเอง เธอลูบท้องที่นูนออกมา “เจ้านายแม่ใจดีเนอะ”

เป็นเพราะพีวดลออกมาก่อนเวลาเลิกงาน ทำให้เขาใช้เวลาขับรถไม่นานมากนักก็มาถึงร้านมุมอิ่ม เขาขับเข้าไปยังลานจอดรถที่ทางเจ้าของร้านมีไว้ให้ลูกค้าโดยเฉพาะ พีวดลเดินเข้าไปภายในร้านอาหารที่คนยังไม่แน่นมาก

“สวัสดีครับ กี่ที่ครับ” เสียงของบริกรหนุ่มทักทายและถามอย่างสุภาพ ก่อนจะพาเดินไปยังโต๊ะว่าง เขายื่นเมนูอาหารให้ ก่อนจะเดินออกมา ปล่อยให้พีวดลได้เลือกอาหารตามสบาย เขาเดินไปบอกพี่จ๋าว่าเพื่อนมา หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินไปหา

“ไงพี ติดใจอาหารที่นี่แล้วล่ะสิ” จ๋าถามก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“ก็คงแบบนั้นล่ะ มีอะไรแนะนำบ้างมั้ย” พีวดลถามกลับ เขาปิดเมนูและวางมันลงตรงหน้า จ๋ายิ้มขำก่อนจะกวักมือเรียกบริกรมารับออร์เดอร์

“โชจิน ทางนี้จ้ะ” หญิงสาวเรียก ชายหนุ่มหันไปหาก่อนจะชะงักเล็กน้อยที่เห็นว่าใครนั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่จ๋า เขาเดินไปโดยมีสายตาของชายหนุ่มมองมาที่เขา

“พี่ขอทอดมันกุ้งนะ แล้วก็ต้มยำไก่ เอาไม่ต้องเผ็ดมากนะ ไข่เจียวหมูสับด้วย ข้าวหนึ่งจาน เอาน้ำอะไรมั้ยพี” หญิงสาวหันไปถาม ชายหนุ่มหยิบเมนูขึ้นมาดูก่อนจะสั่ง

“ขอชาเย็นแล้วกัน”

“โอเค. แค่นี้แหละจ้ะโชจิน” จ๋าหันไปบอก โชจินทวนอาหารที่สั่งอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป พีวดลมองตามอย่างลืมตัวจนจ๋าต้องเรียก

“นายพี นายมีอะไรกับเด็กฉันป่ะเนี่ย” จ๋าถาม

“ทำไมถามแบบนั้น” พีวดลถามกลับ

“ก็นายมองโชจินอีกแล้วนี่ ขอบอกเลยนะว่าถึงแม้ฉันจะยอมรับพวกรักเพศเดียวกัน แต่โชจินคนนี้ฉันหวง” จ๋าบอก พีวดลขมวดคิ้วถามกลับ

“หวง? อ๋อ...จะจีบเด็กแล้วเหรอ”

“ใช่ที่ไหนเล่า จ๋าเอ็นดูโชจินน่ะ เขาเป็นเด็กน่ารัก และจ๋าก็รู้จักพีอยู่นะ บอกเลยว่าพีน่ะไม่ผ่าน” จ๋าบอก พีวดลหัวเราะออกมา เขายกแก้วชาเย็นขึ้นดูด หลังจากที่บริกรหญิงมาเสิร์ฟให้

“เป็นไง อร่อยมั้ย สูตรจ๋าเลยนะ”

“อื้ม ก็อร่อยดี ใช้ได้ๆ” พีวดลชมจากใจจริง ชาเย็นนับเป็นเครื่องดื่มที่น้อยคนจะรู้ว่าเขาชอบ

“เดี๋ยวจ๋ามานะ” หญิงสาวบอก ก่อนจะลุกไปยังเคาท์เตอร์ เธอเดินสวนกับโชจินที่กำลังยกอาหารมาเสิร์ฟ พีวดลอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นโชจิน เขามองอย่างจงใจ แต่โชจินยังคงทำตัวได้เป็นปกติจนพีวดลอดหงุดหงิดไม่ได้

“ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยหรือไง” พีวดลเอ่ยขึ้นในขณะที่โชจินกำลังวางจานอาหาร

“สวัสดีครับ” โชจินทักทายตามมารยาท ก่อนจะเดินออกไป พีวดลหัวเราะในลำคอ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ให้กับจ๋าที่เดินกลับมานั่งอีกครั้ง

“นี่ แกล้งอะไรเด็กฉันหรือเปล่า”

“อะไรกันจ๋า นี่หวงมากจริงๆ นะเนี่ย” พีวดลถามกลับ เขาหยิบช้อนขึ้นมาตักชิมต้มยำ ก่อนจะพยักหน้าบอกว่ามันอร่อย

“มากมาย บอกให้รู้เลยนะว่าถ้าจะมาจีบโชจิน ต้องผ่านฉันไปก่อน” จ๋าบอกทีเล่นทีจริง พีวดลหัวเราะ

“คู่ควงผมเยอะแยะนะครับ อีกอย่างผมก็ยังชอบผู้หญิงอยู่นะ” พีวดลบอก ใช่! เขามั่นใจว่ายังไงเขาก็ยังชอบผู้หญิง จริงอยู่ว่าเขาอาจเคยมีอะไรกับผู้ชายบ้าง แต่นั่นก็แค่ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

“ก็ดี” จ๋าบอก แล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ บางครั้งจ๋าก็ต้องลุกไปที่เคาท์เตอร์บ้าง ซึ่งพีวดลก็เข้าใจ เขาต่างหากที่บอกจ๋าว่าเขานั่งคนเดียวได้ แต่หญิงสาวกลับไม่ปล่อยให้เขานั่งคนเดียวอยู่นานๆ

“คิดเงินนะครับคุณผู้หญิง” พีวดลบอกหลังจากที่ทานเสร็จเรียบร้อย กับข้าวทุกอย่างหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ฝีมือของพ่อครัวแม่ครัวที่นี่เยี่ยมไม่แพ้ร้านอาหารใหญ่ๆ หรือแม้แต่ห้องอาหารในโรงแรมหรู

“จ้ะ คุณผู้ชาย” จ๋าบอกกลับ เธอจัดการคิดเงินเองและรับเงินจากพีวดล แล้วจึงเดินไปที่เคาท์เตอร์ เธอเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมเงินทอนและขนมชิ้นเล็ก ซึ่งเป็นของที่ระลึกจากร้าน หญิงสาวเดินไปส่งพีวดลที่หน้าร้าน

“แล้วจะมาใหม่นะครับ”

“ยินดีต้อนรับค่ะ ขับรถดีๆ ล่ะ” จ๋าบอก แล้วทั้งคู่ก็แยกย้ายกัน โชจินที่แอบมองอยู่ก็ลอบถอนหายใจ เขาหายเข้าไปหลังร้านก่อนจะออกมาอีกทีพร้อมกระเป๋าที่มีหนังสือเรียนอยู่

“พี่จ๋าครับ ผมขอไปก่อนนะ”

“พี่ลืมไปเลย ไปทันมั้ยเนี่ย” จ๋าหันมาบอกโชจิน เมื่อวานนี้ชายหนุ่มมาขออนุญาตเธอเลิกก่อนเวลา เพราะจะไปติวหนังสือ ซึ่งเธอก็อนุญาตอย่างไม่ต้องลังเล

“ทันอยู่ครับพี่ แล้วเดี๋ยวผมกลับมาช่วยเก็บร้านนะครับ” โชจินบอก ก่อนจะรีบเดินออกไปทันที เขายืนรอรถเมล์ด้วยความกระวนกระวายใจ แล้วก็มีรถปอร์เช่สีดำขับมาจอดหน้าเขา

“ขึ้นรถสิ เดี๋ยวไปส่ง” คนในรถชะโงกหน้ามองผ่านกระจกที่ลดลง เขาจำได้ว่ารถคันนี้เป็นของใคร

“ไม่เป็นไรครับ” โชจินบอกปฏิเสธ ประตูฝั่งคนขับเปิดออกแล้วชายหนุ่มก็เดินอ้อมรถมาหาเขา

“ขึ้นรถเถอะ นายคงไม่อยากให้คนอื่นมองใช่มั้ย” พีวดลบอกแกมขู่ไปในตัว โชจินมองหน้าพีวดลอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยอมขึ้นรถโดยดีเพราะไม่อยากมีปัญหาตรงนี้ พีวดลยิ้มมุมปากพอใจ

“จะไปไหนล่ะ จะได้ไปส่งถูก” พีวดลถามหลังจากที่ขึ้นมานั่งและขับรถออกไปให้พ้นบริเวณป้ายรถเมล์ โชจินบอกสถานที่ให้พีวดลรู้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะขับรถออกไป

“ไปติวเหรอ” พีวดลถามทำลายความเงียบ “ครับ” โชจินตอบสั้นๆ ก่อนที่เสียงมือถือของเจ้าตัวจะดังขึ้น เขารีบกดรับสาย

“ครับพี่โอม กำลังไปครับ” พีวดลเมื่อได้ยินชื่อปลายสายที่โทรเข้ามา เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเสียเฉยๆ เขาเงียบเพื่อฟังการสนทนาที่แม้โชจินจะพยายามพูดให้เสียงเบาแค่ไหนก็ตาม ไม่นานนักโชจินก็วางสายลง

“แฟนเหรอ” จู่ๆ พีวดลก็ถามคำถามนี้ออกไป โชจินหันขวับไปมองก่อนจะหันกลับมาทางเดิม

“รุ่นพี่เฉยๆ ครับ” โชจินบอก แต่มันก็ยังไม่ช่วยให้พีวดลหายหงุดหงิด

“แล้วไม่มีแฟนเหรอ”

“เรื่องส่วนตัวครับ” โชจินตอบกลับไปนิ่งๆ แต่แทนที่พีวดลจะรู้สึกโกรธ เขากลับรู้สึกสนุกขึ้นมา และความหงุดหงิดนั้นก็ค่อยๆ หายไป

“เรียนอยู่ปีไหนแล้วล่ะ” พีวดลยังคงถามต่อ โชจินเหลือบมองก่อนจะตอบกลับไป “ใกล้จบแล้วครับ”

“ฉันเห็นหนังสือเรียนนาย น่าจะเกี่ยวกับพวกบริหารฯ มาทำงานกับฉันมั้ยล่ะ” พีวดลลองถามดู แล้วคำตอบที่ไม่มีความลังเลใดๆ ก็ถูกส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว “ไม่รบกวนดีกว่าครับ ขอบคุณ” พีวดลหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ในขณะที่รถติดไฟแดงพอดี

“นายคงยังโกรธฉันอยู่สินะ”

“ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นหรอกครับ” โชจินตอบเรียบๆ ก่อนจะบอกให้ชายหนุ่มออกรถ เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนสีแล้ว แล้วทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกจนมาถึงที่หมาย โชจินเอ่ยขอบคุณแล้วลงไปจากรถทันที พีวดลนั่งมองโชจินจนลับตาไป ก่อนจะพูดกับตัวเอง “ฉันรู้สึกสนใจนายขึ้นมาจริงๆ แล้วสิ โชจิน”

 

โชจิน

พีวดล วิวัฒนานนท์ ชายหนุ่มในฝันของใครหลายๆ คน แต่คงไม่ใช่ผมแน่นอน ผมรู้จักเขาผ่านเพื่อนในกลุ่มติวของผม แม้เพื่อนผมจะเป็นผู้ชายเหมือนผมก็ตาม โดนัท เพื่อนของผมเคยเป็นคู่นอนของเขาอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แรกๆ โดนัทเองก็แค่รู้สึกถูกใจ และต้องยอมรับครับว่าเขาดูแลเพื่อนผมคนนี้เป็นอย่างดี แต่เมื่อนานวันเข้าเพื่อนผมก็ดันเกิดรักผู้ชายคนนั้นขึ้นมาจริงๆ 

“โชจิน ฉันจะทำยังไงดี” โดนัทถามผมในคืนหนึ่ง เขามาหาผมที่ห้องครับ

“เรื่องอะไรล่ะนัท บอกมาสิ ถ้าบอกได้นะ” ผมถามกลับไปด้วยความเป็นห่วง ผมยอมรับว่าโดนัทเป็นผู้ชายน่ารักจริงๆ เขาเตี้ยกว่าผมเล็กน้อยและหุ่นบางกว่าผม และด้วยผมที่ยาวระต้นคอ ทำให้เวลามองจากด้านหลังก็หลงนึกว่าเป็นผู้หญิงอยู่บ่อยๆ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับโดนัทนะครับ เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น

“ฉันจะทำยังไงดีอ่ะโชจิน ฉันจะทำยังไงดี” โดนัทยังคงถามซ้ำๆ พร้อมกับนอนราบยาวบนโซฟา เอาหมอนปิดหน้า ทำให้ผมที่รอจะฟังก็ต้องจัดการหยิบหมอนมาถือไว้

“มันเรื่องอะไรล่ะนัท” ผมถามกลับไปอีกรอบ แล้วผมก็ดึงเจ้าตัวให้ขึ้นมานั่ง ก่อนที่ผมจะลงไปนั่งอยู่ข้างๆ กัน โดนัทหันมามองหน้าผม

“โชจิน ฉันรักคุณพี” คำตอบของโดนัททำเอาผมอึ้งไปไม่น้อย แม้ผมจะรู้อยู่แล้วว่าโดนัทกับชายหนุ่มคนนั้นมีความสัมพันธ์กันแบบไหน

“ก็แล้ว...แล้วรักไม่ได้เหรอ” ผมถามไปอย่างที่ใจผมคิด นั่นสิ! ก็รักไม่ได้เหรอ ทำไมโดนัทต้องทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่มากจนหาทางออกไม่เจอ

“ไม่ได้น่ะสิ ไม่งั้นฉันจะมานั่งกลุ้มใจแบบนี้เหรอโชจิน ฉันจะทำยังไงดีล่ะ ฉันยังไม่อยากเลิกกับคุณพีนะ ฉันยังอยากนอนกอดเขา ยังอยากเป็นคนของเขาอยู่” โดนัทบอกยืดยาว ก่อนจะทิ้งตัวไปอีกฝั่งหนึ่งของโซฟา ผมเองก็ทำได้แค่รับฟัง แต่ผมก็ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมเพื่อนผมถึงรักกับคุณพีวดลไม่ได้

“คือยังไงนัท หรือเป็นเพราะนายเป็นผู้ชายเหมือนเขา ที่บ้านเขาไม่ยอมรับเหรอ” ผมถามอีก เมื่อผมลองคิดหาเหตุผลที่ทำไมทั้งคู่ถึงรักกันไม่ได้

“ไม่ใช่เลยโชจิน มันแย่ยิ่งกว่านั้น” โดนัทบอก ก่อนที่เขาจะโผเข้ากอดผม ผมตกใจนะครับแต่เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของเพื่อน ผมก็ทำได้แค่ตบไหล่เขาและฟังโดนัทระบาย

“ฉันกับคุณพี เราตกลงกันว่าเราจะมีอยู่ในฐานะแค่คนรู้จักกัน เราไม่ใช่เจ้าของซึ่งกันและกัน แต่เขาก็ดูแลฉัน ดูแลฉันอย่างดีมากๆ มากจนฉันเผลอใจ เขาทำให้ฉันรัก รักโดยที่มันไม่ควร เขาบอกฉันว่าถ้าฉันรักเขาเมื่อไหร่ เราต้องหยุดความสัมพันธ์ทุกอย่าง ฉันจะทำยังไงดีโชจิน ฉันจะทำยังไงดี” แล้วโดนัทก็ปล่อยโฮออกมา มันทำให้ผมรู้ว่าโดนัทรักคุณพีวดลมากจริงๆ โดนัทที่เป็นผู้ชายน่ารัก ร่าเริงสดใส ใครอยู่ด้วยก็ต้องยิ้ม แต่ในตอนนี้เขากลับกำลังร้องไห้กับไหล่ผม ร้องไห้แบบที่ผมก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

ผมไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เพราะผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ผมทำได้แค่ให้ไหล่ของผมเป็นที่พักพิงชั่วคราวของโดนัท มือของผมก็ได้แต่ลูบหลัง ลูบหัวปลอบเขาเท่านั้น จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่โดนัทก็เริ่มหยุดร้องไห้ เขาผละออกจากไหล่ผม แล้วลุกขึ้นเดินก้มหน้าไปห้องน้ำ ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ผมเห็นแล้วก็แทบตกใจ ดวงตาเขาบวมมาก โดนัทยิ้มอายๆ ให้ผม เขาคงเห็นใบหน้าตัวเองในกระจกแล้วล่ะมั้งว่ามันดูแย่ขนาดไหน

“ฉันขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ” โดนัทบอก ผมส่ายหน้าพร้อมกับบอกให้เขากลับมานั่งที่เดิม

“แล้วจะเอายังไงต่อ” ผมถาม เขาส่ายหน้า เห็นแบบนั้นผมเองก็ไม่คาดคั้น แต่ก่อนที่ผมจะถามอะไรต่อ เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้น ผมเห็นว่าใครโทรมา ผมจับมือเขาที่กำมือถืออยู่

“แน่ใจใช่มั้ยที่จะรับสาย” ผมเป็นห่วงเขาครับ โดนัทมองผมด้วยแววตาไม่มั่นใจ ผมยิ้มให้เขาก่อนจะขอมือถือของเขามา

“สวัสดีครับ พอดีโดนัทหลับไปแล้วครับ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็ฝากผมได้ครับ” ผมชิงพูดก่อน ปลายสายเงียบไป ผมรอว่าเขาจะพูดอะไรกลับมาพร้อมกับหันไปพยักหน้าให้โดนัทที่นั่งมองผมอยู่

“คุณเป็นใคร” ปลายสายถามผมกลับมา ผมเองก็ไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเลยบอกไปตรงๆ “ผมเป็นเพื่อนของโดนัทครับ” ผมพยายามจับน้ำเสียงเขาว่าจะรู้สึกไม่พอใจอะไรมั้ยที่จู่ๆ ก็มีใครไม่รู้มารับโทรศัพท์คนของตัวเอง แต่สิ่งที่ผมหวังก็ไม่เกิดขึ้น

“งั้นเหรอ แค่นี้แล้วกัน” ปลายสายบอกและวางสายไปในทันที ผมอึ้งไปเหมือนกันนะที่เขาดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย ผมส่งมือถือคืนโดนัทไปพร้อมคำโกหกของผมเอง “เขาไม่อยากรบกวนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”

“ขอบใจมากนะโชจิน” โดนัทบอกผมน้ำเสียงสั่น ผมคิดถูกแล้วล่ะครับที่ตัดสินใจรับสายเอง เพราะดูจากสภาพของโดนัทแล้ว ถ้าเขารับสายคงได้สะอื้นไห้จนทางโน้นอาจตกใจก็ได้

“จะนอนนี่มั้ยล่ะ” ผมถามเพราะเห็นว่าดึกมากแล้ว โดนัทลังเลอยู่นิดหน่อยแต่สุดท้ายก็พยักหน้า ผมจึงเดินเข้าห้องนอนส่วนตัวเพื่อหาผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าให้เขาเปลี่ยน

โดนัทนอนที่ห้องผมอีกสองคืน ก่อนที่เขาจะตัดสินใจบางอย่าง ผมไม่ได้ถามเขาหรอกครับว่าเขาจะทำอะไร แล้วโดนัทก็หายไปถึงสองอาทิตย์เต็ม ผมเองก็เป็นห่วงครับ โทรหาเขาเหมือนกัน แต่ก็คุยได้สั้นๆ รู้แค่ว่าเขาอยู่ต่างจังหวัด โดนัทบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาดีขึ้นมากแล้ว และเขาบอกผมว่า “ฉันจะกลับไปยิ้มสดใสเหมือนเดิม โชจินรอดูนะ”

แล้วเขาก็ทำได้จริงครับ เพราะเมื่อเขากลับมาติวอีกครั้ง โดนัทก็กลับมาเป็นหนุ่มน้อยน่ารักสดใสเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างโดนัทกับคุณพีวดลเป็นยังไงแล้วในตอนนี้ ผมไม่ใช่พวกเซ้าซี้ หรือซอกแซกถามอะไรใครหรอกครับ แต่เมื่อผมเห็นว่ามีหนุ่มใหญ่คนใหม่มารับมาส่งโดนัท ผมเองก็ใจชื้นขึ้นว่าโดนัทเองคงตัดสินใจเลิกกับพีวดลแล้ว

ช่วงที่ผมได้ไปทำงานที่จีเพลซ มีอยู่คืนหนึ่งที่ผมก็ได้ยินเรื่องราวของคุณพีวดลอีกครั้ง ผมรู้มาว่าเขารู้จักกับเจ้าของที่นี่ ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แต่มันก็มีเพื่อนร่วมงานมาคุยให้ฟังหลังเลิกงาน ในขณะที่พวกผมกำลังเก็บร้านกันอยู่

“จินๆ นายรู้จักคุณพีวดลมั้ย” แน่นอนครับว่าพนักงานที่นี่เป็นผู้ชาย ผมเมื่อได้ยินชื่อนี้ก็แอบถอนหายใจด้วยความเซ็ง ก่อนจะตอบกลับไป “ไม่รู้จัก ทำไมเหรอ”

“เชยนะเนี่ย พนักงานที่นี่ก็รู้จักกันหมดแหละ” คนเดิมบอกครับ ผมเองก็ได้แค่พยักหน้าและเก็บกวาดของไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพี่หัวหน้าบริกรมาถามหาพนักงานคนหนึ่ง

“แบงค์ๆ เห็นดิวมั้ย”

“ไม่เห็นเลยครับพี่ สงสัยหนีกลับไปแล้วมั้งพี่”

จะว่าไปผมเองก็ไม่เห็นคนชื่อดิวมาสักพักแล้วนะ วันนี้ดิวมาทำงานแน่นอนครับ เพราะผมเดินเข้าร้านมาด้วยกัน แต่ก่อนร้านจะปิด ผมกลับไม่เห็นดิว สงสัยอาจจะขอกลับไปก่อนก็ได้ แต่สิ่งที่ผมคิดมันผิดครับ เมื่อพนักงานอีกคนพูดขึ้นมา

“หาดิวเหรอพี่ โน่น...มันไปกับคุณพีแล้ว นี่คุณเจ็ทไม่ได้บอกพี่เหรอ” คุณเจ็ทก็คือเจ้าของร้านนี้แหละครับ ผมได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะในลำคอ 'คนมันจะมั่ว มันก็มั่วไม่เลิก' ผมคิด

“จนได้นะ ไอ้ดิวอ่อยสำเร็จจนได้”

หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้รู้อะไรอีก เพราะผมลาออกมาก่อน ผมทนทำไม่ไหวหรอกครับ แม้ตอนแรกที่มาสมัครงานที่นี่จะรู้ว่าลูกค้าเป็นคนกลุ่มไหน แต่ถ้าต้องโดนแอบจับ โดนแทะโลมทางสายตา ไปจนถึงโดนจีบเต็มๆ ผมเองก็ไม่ไหวครับ ในเมื่อผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้

แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อผมต้องดันมาเจอกับคุณพีวดลอีกครั้งในงานสังคมไฮโซที่ผมต้องไปทำหน้าที่เป็นบริกรคอยบริการเหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลาย แวบแรกที่ผมเห็น ผมยอมรับเลยครับว่ารู้สึกชังหน้ามาก แต่ในเมื่อเขากับผมมันอยู่กันคนละสังคมอยู่แล้ว ผมก็เลยไม่สนใจอะไรอีก จนเจอเขาในห้องน้ำ และนับจากนั้นผู้ชายที่ชื่อพีวดลก็เข้ามายุ่งกับชีวิตผม มาทำเหมือนรู้จักผมดิบดี แถมยังมาทำหยาบคายใส่ผมอีก และตอนที่ผมโดนจูบ ผมช็อกครับ ผมไม่เคยโดนใครจูบ ผมไม่เคยมีแฟนครับ เพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเท่าไหร่ ผมคิดแค่ว่าอยากรีบเรียนให้จบ จะได้หางานดีๆ ทำ เพื่อหาเงินส่งไปให้ผู้มีพระคุณของผม

ใช่แล้วครับ! เขาจูบผม และนั่นคือจูบแรกของผม ผมเสียจูบแรกให้กับผู้ชายที่ผมไม่ชอบ มันน่าตลกดีมั้ยล่ะครับ

ผมได้แต่เฝ้าภาวนาว่าขอให้เขาเลิกยุ่งกับผมเสียที แม้ผมจะเจอเขานับครั้งได้ แต่ผมก็พอจะรู้ครับว่าควรจะรับมือกับเขายังไง ผู้ชายอย่างคุณพีวดลเป็นพวกต้องการเอาชนะ ถ้ายิ่งขัดขืนเขา ยิ่งปฏิเสธเขา ผมเองนี่แหละครับที่จะเสียเปรียบ เพราะเขาก็ตัวสูงใหญ่กว่าผม และเมื่อวันนั้นที่เขามาถามอะไรผมแปลกๆ และผมก็ตอบความจริงไป ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าเขาไปเจอใครมาหรือเปล่าที่อาจจะคล้ายกันกับผม ซึ่งผมก็หวังว่าคำตอบของผมจะทำให้เขาไม่มายุ่งกับผมอีก

แต่ดูเหมือนผมจะคิดผิดอีกครั้ง...

 

--จบตอน 5-- 

 

 

(เจอตอนใหม่อีกทีคืนวันเสาร์นะคะ ยินดีรับคำชี้แนะ ติชมเสมอค่ะ ขอบคุณนักอ่านเงาทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านด้วยค่ะ )

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา