The Mysterious…หนียังไงก็ไม่พ้นเธอ

8.0

เขียนโดย Illusion

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.35 น.

  6 ตอน
  7 วิจารณ์
  10.40K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2557 02.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4: ตกหลุมรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   

ให้ตายสิ ฉันเกลียดที่เธอทำแบบนี้กับฉันจัง…ฉันคิดในขณะที่รู้ว่าตัวเองกลับมาอยู่ห้องแล้วหลังจากที่ไม่กี่นาทีที่แล้วฉันยังอยู่ในกระท่อมไม้หลังนั้นอยู่เลย ฉันมองไปรอบๆห้องก็ไม่พบว่าเธออยู่ในห้องฉันแล้ว ตอนนี้ฉันรู้สึกแปลกๆจัง ฉัน…คิดถึงรอยยิ้มนั่นของเธอ จนทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

 

             เช้าวันถัดมา…

 

วันนี้ฉันตื่นสายมากเพราะเมื่อคืนฉันนอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกัน แต่ฉันกลับคิดถึงเรื่องของเธอ…อยู่ตลอดเวลา ฉันลงมาชั้นล่างก็กลับไม่พบใครอยู่ในบ้านเลยสักคน หิวจางงง~ T0T

 

                        เวลาหลับมันรู้สึกยังไงหรอ

 

เสียงใครบางคนพูดขึ้นทำให้ฉันหันไปมองด้วยรอยยิ้มนิดนึงเพราะคำถามของเธอมันช่างแปลกประหลาดเอามากๆ เธอไม่รู้จักการนอนหลับงั้นหรอ ก็อย่างว่าเธอเป็นแวมไพร์นี่หน่า แวมไพร์ไม่เคยหลับ…

 

                         สบายไม่อยากตื่นฝันได้ด้วยฉันบอกเธอไปในขณะที่เธอมองมาทางฉันอย่างไม่ละสายตา

 

                         เธอเลิกจ้องฉันแบบนั้นได้ไหมฉันอึดอัดอะ

 

                         “ก็เธอมันน่ามองนี่หน่า…”

 

ฉันรีบหลบสายตานั่นทันทีที่เธอพูดคำนั้นกับฉัน ให้ตายสิ…ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมฉันต้องใจเต้นแรงด้วยนะ ฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวก่อนที่จะเดินหนีกลบเกลื่อนกับอาการที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ ประตูห้องฉันปิดลงพร้อมกับอาการที่ฉันเป็นอยู่ไม่หายไปสักที ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อไล่อาการพวกนั้นออกไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ มันกลับทำให้ฉันตลกตัวเองมากขึ้นไปด้วยซ้ำ เธอเป็นอะไรของเธอยัยควีน เป็นบ้าหรอ ฉันคิดและยืนยิ้มอยู่คนเดียวในห้องเป็นเวลานาน

 

                                กริ้งงง กริ้งงง

 

เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น พร้อมกับโชว์บุคคลที่กำลังโทรเข้ามาหาฉันนั่นก็คือ คุณน้านี่เอง ฉันรีบกดรับอย่างรวดเร็วเพราะฉันคิดถึงน้าพลมากๆ

 

                            ฮัลโหลคะ…”

 

                           “ของขวัญถูกใจไหม…”

 

0_0!เห้ยยย…ของขวัญน้าพล ไปอยู่ไหนแล้วนะ ของขวัญสวยมากคะ

 

                            “อย่าลืมพาทามเขาไปสมัครเรียนด้วยละ ซื้อชุดนักศึกษาให้เรียบร้อยนะ สุขสันวันเกิด น้ารักควีนนะลูก

 

                              “คะน้าพลควีนก็รักน้าพลเหมือนกัน

 

บทสนทนาสิ้นสุดลงฉันก็รีบวิ่งแจ้นไปหาสร้อยคอนั่นทันที สวนหลังบ้านฉันเต็มไปด้วยความว่างเปล่า ไม่มีวี่แววที่จะมีกล่องนั่นอยู่เลย การเดินหาตามพุ่มไม้ก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน ฉันนั่งท้อแท้อยู่ที่ศาลาริมน้ำอย่างหมดหวัง มันหายไปไหนนะ ต้องมีใครสักคนเก็บไปอย่างแน่นอน

 

                             

 

                              หานี่อยู่หรอ…”

 

เสียงของเธอดังขึ้นทำให้ฉันต้องหันไปมองสิ่งที่เธอกำลังถือในมืออยู่นั่นก็คือ กล่องสร้อยคอที่น้าพลให้ฉัน จริงๆด้วย…ฉันยิ้มกว้างทันทีที่เห็นมันพลางรีบวิ่งไปเอาของสิ่งนั้นอย่างตื่นเต้น แต่เธอก็ดันแกล้งฉันด้วยการหายตัววับไปกับตา พอรู้อีกทีเธอก็มาอยู่ด้านหลังฉันอีกแล้ว ฉันเกิดอาการคิ้วชนกันทันทีที่ไม่ได้ของอย่างใจหวัง

 

                               เอามานะ!”

 

                               ถ้าเธอใส่มันฉันก็จะยุ่งกับเธอไม่ได้ งั้นก็หมดสนุกเลยหน่ะสิ

 

                               “อะไรของเธอ เอามานี่!”

 

ฉันพยายามแย่งของสิ่งนั้นมาจากเธออีกครั้งนึงแต่ก็ยังไม่เป็นสำเร็จ เธอยังคงใช้วิธีเดิมแกล้งฉัน ในขณะที่ฉันพยายามจะเอาของสิ่งๆนั้นมาให้ได้อยู่หลายต่อหลายครั้ง เธออยู่เหนือกว่าฉันนิ๊ ทำไมต้องมาแกล้งฉันแบบนี้ด้วยนะ ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกไม่พอใจต่อการกระทำของเธอเข้าให้แล้ว

 

                                เชิญเล่นไปคนเดียวเถอะ!” ฉันเดินหนีและทำหน้าตาไม่พอใจต่อการกระทำของเธอทันที

 

                                สร้อยนี้ทำด้วยเงินแท้ฉันจับมันไม่ได้

 

ฉันหยุดชงักฝีเท้าลงทันทีที่เธอพูดแบบนั้นออกมา หมายความว่ายังไงกัน เธอกลัวเครื่องเงินงั้นหรอ ฉันหมุนตัวไปหาเธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

                                 ทำไมละ…”

 

                                “ฉันโดนเครื่องเงินไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ฉันเจ็บปวดทรมานที่สุด

 

เห้ยยย…ก็ดีหน่ะสิ เอ๊ะ! หรือไม่ดีกันนะ ก็ดีเธอจะได้ไปให้พ้นๆฉันซะที ส่งกล่องนั้นมาเดี๋ยวนี้

 

                                “ถ้าฉันให้ มันก็หมดสนุกหน่ะสิ ฮ่า ฮ่า

 

                                เธอต้องการอะไรจากฉัน…”

 

                                “อยู่ใกล้ ใกล้

 

                ตึกตึก ตึกตึก

 

เอาอีกแล้ว อาการนี้มาอีกแล้ว ทำไมฉันต้องใจเต้นแรงด้วยนะ ก็แค่คำพูดธรรมดาๆจากคนอันตรายที่สุดสำหรับฉันเท่านั้นเอง ฉันหลบสายตาของเธอพร้อมกับหันหลังเดินหนีออกจากที่นี้เพราะกลัวว่าเธอจะรู้ว่าฉัน…กำลังเขิน >.<

 

   ฉันเดินขึ้นมาบนห้องของฉันเอง ทำไมเวลาเกิดอาการแบบนี้ฉันชอบนั่งยิ้มอยู่คนเดียวก็ไม่รู้ ฉันค้นหาลักษณะอาการของฉันในกูลเกิ้ลไปว่า ใจเต้นแรง หน้าร้อนผ่าว ตื่นเต้น ประหม่า ผลลัพท์ออกมาเป็นคำที่ฉันต้องตกใจมากที่สุด…มันคือ   ตกหลุมรัก…งั้นหรอ ไม่จริงใช่ไหม ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง ฉันไม่ได้ชอบ…เพศเดียวกันสักหน่อย และที่สำคัญเธอเป็นแวมไพร์นะยัยควีน เธอไม่ใช่มนุษย์ แค่คิดก็ไม่ใช่แล้ว เธอไม่ได้อยู่ในหนัง Vampire Twilight   นะยัยควีน ตื่นได้แล้ว! โว้ยย~

 

                      โครกคราก~

 

เสียงท้องฉันร้องจากการหิวข้าว ทำให้ฉันลุกขึ้นและคิดขึ้นได้ว่า วันนี้ฉันต้องพายัยนั่นไปสมัครเรียนนี่หน่า ว่าแล้วฉันก็ลงไปชั้นล่างอีกครั้ง เดินตามหาเธอจนทั่วแต่ก็ไม่พบเธอแต่อย่างใดเลย

 

                            ทามทามมมมม~”

 

ฉันตะโกนเรียกชื่อเธออยู่นานสองเธอก็ไม่มีวี่แววที่เธอจะมาปรากฏตัวตรงหน้าฉันเลย นี่เธอไปไหนกันนะ หรือว่า จะอยู่ที่กระท่อมไม้หลังนั้น ฉันคิดก่อนที่จะหาทางไปที่นั้น ภาพที่ฉันอยู่ในป่านั้นก็ปรากฏขึ้นในหัวฉันอีกครั้ง ฉันพยายามคิดแล้วคิดอีกว่าป่านั้นมันคือที่ไหนกันนะ จะว่าไปแล้วมันก็คุ้นๆเหมือนฉันพอเคยเห็นอยู่เหมือนกัน…

 

                            มีอะไร…”

 

ฉันหันไปตามเสียงนั้นก็พบกับเธอที่ยืนมองฉันอยู่ไกลๆด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง ฉันยิ้มออกมาอย่างดีใจว่าในที่สุดเธอก็มาจนได้เพราะตอนนี้ฉันหิวข้าวจนไส้จะขาดอยู่แล้วหน่ะสิ

 

                            “คุณน้า ให้ฉันพาเธอไปสมัครเรียน

 

                                “ทำไมต้องเรียน…”

 

                                “ไม่เรียนก็ไม่ฉลาดหน่ะสิ…”

 

                                “เธอคิดว่าปีศาจอย่างฉันจำเป็นต้องเรียนไหม

 

                                “แต่คุณน้าสั่งฉันมาแล้วนิ๊จะให้ฉันทำไง ไปบอกว่าเธอไม่จำเป็นต้องเรียนหรอกคะน้าพล เพราะเธอมีอายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีแล้วงั้นหรอมานี่เถอะหน่า…”

 

ว่าแล้วฉันก็ดึงตัวยัยนั่นมาขึ้นรถและขับออกไปยังสถานที่ๆฉันต้องการจะไป มหาลัยที่ฉันเรียนนั่นอยู่ไกลจากบ้านของฉันมากเลยแหละคะ ทำให้การเดินทางค่อนข้างรำบากหน่อย เห็นคุณน้าบอกว่าจะให้ฉันเช่าหออยู่แต่ไม่รู้จะจริงรึเปล่า เพราะอย่างที่บอก คุณน้า หวงฉันจะตายไป บรรยากาศในรถเงียบสนิท ฉันสังเกตอาการเธออยู่ตลอดทางที่ขับมา เธอเอาแต่นั่งมองเหม่อออกไปนอกกระจกไม่สนใจฉันเลยสักนิด ทำไมแวมไพร์ถึงต้องนิ่งกันทุกคนนะ ฉันคิดพลางเปิดเพลงทำให้บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาสักหน่อย ฉันเหลือบไปมองว่าเธอจะมีอาการอะไรขึ้นมาไหมแต่ก็กลับมีสีหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เช่นเคย ทั้งๆที่เพลงมันส์ออกจะตายไป

 

               รถแล่นมาถึงมหาวิทยาลัยของฉันแล้ว เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในประเทศของฉัน มหาลัยนี้กว้างใหญ่มากๆ ใครๆก็อยากมาเรียนกันที่นี้ทั้งนั้นเพราะว่ามันสวยและดีที่สุดในระดับประเทศ ฉันลากตัวยัยนั่นเข้าไปสมัครเรียนเสร็จสับเรียบร้อยและก็พาเธอไปกินข้าวด้วยกันจนลืมไปเลยว่าเธอ…ไม่ใช่มนุษย์ ฉันพาเธอมาร้านอาหารตามสั่งร้านนึงที่อยู่ติดกับข้างถนน ใช่ว่าฉันจะติดหรูเป็นคุณหนูไฮโซสักหน่อย ฉันแค่ไม่ชอบอาหารรสจัดก็แค่นั้นเอง                          เธอทานอะไรอะ เดี๋ยวฉันสั่งให้

 

ฉันพูดขึ้นระหว่างที่ฉันกำลังนั่งอ่านเมนูอาหารอยู่ สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังมองยัยนั่นด้วยสายตาแปลกๆ

 

                         ฉันไม่กินอาหารมนุษย์

 

เธอพูดขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่ฉันกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน ทำให้ฉันละสายตาไปจากหมอนั่นไปมองเธอในทันที

 

                         โทษทีลืม

 

ฉันสั่งอาหารกับพนักงานไปเรียบร้อย โดยไม่วายที่จะจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นต่อที่ตอนนี้เขาก็ยังคงมองเธออยู่อย่างไม่ละสายตา                     

 

                             ไม่ต้องมองเขาหรอก เขาแค่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่สวยเท่านี้มาก่อน

 

ฉันคิ้วชนกันทันทีที่เธอพูด แต่ฉันก็กลับเชื่อเธอสนิทโดยไม่ต้องปริปากถามอะไรเธอต่อไปสักคำเดียว ก็เธออ่านความคิดคนได้นิ๊…โชคดีแค่ไหนแล้วที่เธออ่านความคิดของฉันไม่ได้: D คิดๆดูแล้วคำพูดเมื่อกี้ก็ทำให้ฉันหมั่นไส้เธอเล็กน้อยอยู่เหมือนกันนะ เธอคงคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์มากนักดิ แหวะ

 

 การรับประทานของฉันคนเดียวเสร็จสับลง ฉันก็เลยพาเธอไปซื้อชุดนักศึกษาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง วันนี้เป็นวันที่ผ่อนคลายที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ไม่มีคนคอยขัดเพราะการที่มีเธอมาด้วยก็เหมือนมาคนเดียวซะมากกว่า แต่ในทางกลับกันมันกลับทำให้ฉันเกิดความสุขเล็กๆอย่างบอกไม่ถูก…จากที่ฉันดูการแต่งตัวของเธอดูจะเชยๆไปสำหรับคนยุคนี้ ฉันเลยพาเธอไปลองชุดใหม่เอาให้สวยกว่าเสื้อยืดสีขาวกางเกงยืนสี่ส่วนแถมยังขาดรุงรังแบบนั้นจะดีกว่าไหม ตอนนี้เธอลองเปลี่ยนชุดไปมาจนเรื่อยๆจนกว่าฉันจะพอใจ จนในที่สุดฉันก็พบชุดที่ทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาไปไหนจากเธอได้เลย ด้วยความที่เธอดูจะเป็นผู้หญิงเท่ๆ ฉันเลยเลือกชุดๆนั้นให้เธอใส่ เป็นเสื้อยืดสีขาวธรรมดาสวมทับด้วยแจ๊คเกตหนังสีเข้มและ กางเกงขายาวรัดรูปสีดำมันเงา จึงทำให้เธอดูดีขึ้นมาเลยทีเดียว ชุดพวกนั้นมันช่างตัดกับผิวขาวๆของเธอได้เป็นอย่างดี ฉันนั่งมองเธออย่างไม่ละสายและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฉันมองเธอไปนานแค่ไหน  

 

                             จะมองอีกนานไหม…”

 

ฉันสะดุ้งเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ สติสตางค์ฉันกลับมาพร้อมกับรีบเดินหนีสายตาของเธอจ้องฉันมองฉันด้วยความจับผิด

 

                           จะรีบไปไหน…” ยัยนั่นตะโกนไล่ตามหลังฉันมาพร้อมกับวิ่งขวางหน้าฉันเอาไว้

 

                               เปล่าแค่ แค่อยากกลับบ้าน

 

                               “เธอกำลังคิดอะไรอยู่

 

                               “………..”

 

                               “ทำไมฉันอ่านความคิดของเธอไม่ได้นะ…”

 

ยัยนั่นมองฉันด้วยท่าทีที่สงสัยในตัวฉันมากขึ้น ดีแล้วที่เธออ่านความคิดของฉันไม่ได้ เพราะถ้าอ่านได้ เธอก็คงรู้หมดหน่ะสิ…ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ ฉันกับทามเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นเรียบร้อยแล้วและกำลังจะขึ้นรถกลับบ้าน

 

                               พาฉันไปสวนสนุกหน่อยสิ…”

 

                                   “ห๊ะ…”

 

                                   “พาไปสวนสนุกหน่อย

 

จู่ๆยัยทามก็ดันมาบอกให้ฉันพาเธอไปสวนสนุก ฉันแทบไม่เคยคิดเลยว่า แวมไพร์อย่างเธอ จะชอบไปในสถานที่ที่สนุกสนานแบบนั้นได้ แต่ในเมื่อเธออยากไปนักฉันก็เลยต้องพาเธอไปให้สมใจอยาก เพราะฉันเองก็ไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้วเหมือนกัน

 

          แค่ก้าวแรกที่ลงมาจากรถก็สัมผัสได้เลยว่ามันจะต้องสนุกและตื่นเต้นมากแค่ไหน เสียงกรี๊ดจากคนที่เล่นเครื่องเล่นดังขึ้นอย่างสนุกสนาน ถึงขั้นดังมาถึง บริเวณลานจอดรถเลยทีเดียว ยัยทามก็ยังมีใบหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เช่นเคย นี่เธอเคยตื่นเต้น ดีใจเป็นบ้างไหมเนี่ย ฉันคิดก่อนที่พวกเราทั้งคู่จะเข้าไปเล่นในสวนสนุกกันอย่างมีความสุข ฉันตามยัยทามไปเล่นเครื่องเล่นทุกชนิดจนแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังคงมีท่าทีที่จะเล่นต่อโดยไม่สนใจฉันบ้างเลย L เวลาผ่านไปเกือบจะตะวันตกดิน ฉันนั่งหอบและพะอืดพะอมกับการเล่นเครื่องเล่นมาเป็นเวลานาน แต่สังเกตจากลักษณะของเธอแล้วดูจะไม่มีอาการเหนื่อยใดๆเลย

 

                          อันนั่น น่าเล่นอะ…”

 

                              “ไปเล่นเถอะฉันฉันจะอ้วก อ๊วกกก~”

 

                              “ดูเหมือนว่าอันนี้จะไม่ค่อยหวาดเสียวนะ…”

 

                              “เห้อออ~ นี่เธอเหนื่อยเป็นไหม

 

                              “ไปเถอะ….”

 

หลังจากที่ฉันนั่งพักได้สักพักนึง เธอก็พาฉันไปเล่นเครื่องเล่นอันต่อไปในขณะที่ฉันยังไม่ทันจะหายอาการพะอืดพะอมเลย เครื่องเล่นชนิดนี้ทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยเพราะว่ามันไม่ได้หวาดเสียวอะไรอย่างกับที่ฉันไปเล่นมาเมื่อกี้ เครื่องเล่นชนิดนี้ก็คือ…กระเช้าลอยฟ้านี่เอง ฉันกับทามก็ได้ขึ้นมาอยู่กระเช้าลอยฟ้านี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เผยให้เห็นถึงบรรยากาศข้างล่างได้ทั่วไปหมด มันช่างสวยงามและอลังการอย่างมากเลยทีเดียว ฉันสังเกตไปที่หน้าของยัยทามตอนนี้ดูจะมีความสุขอยู่อย่างบอกไม่ถูก ฉันก็ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเธอสักเท่าไหร่กันแต่นั่นก็ทำให้ฉันเผลอยิ้มตามไปด้วยอย่างไร้เหตุผล ตอนนี้เธอเหมือนเด็กมาก เด็กที่ไม่เคยมาเที่ยวเล่นสวนสนุก เธอ…ไม่ได้ร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้เลยสักนิด ถ้าเธอจะฆ่าฉันเธอก็คงทำไปนานแล้ว จริงไหม

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา