The Vampire Powers.
9.1
เขียนโดย katzee
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.
37 chapter
168 วิจารณ์
47.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) ดิน น้ำ ลม ไฟ (สอง)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเฟี้ยว ฉึก แอลหลบฉากใบมีดที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่ทันจะตั้งตัว เหลือบมองผู้ขว้างใบมีดมาอย่างไม่ลังเลเขาดึงดาบออกจากฝักที่วางเสียบไว้กับพนักอาวุธข้างๆสนามขึ้นมากันใบมีดออกไปให้พ้นหน้าเข้าอย่างรวดเร็ว และปัดออกไป ไรอันกังวลที่ฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างชำนาญการในด้านนี้มาก เขาทำได้เพียงแต่ปามีดพกที่มีรูปร่างคล้ายดาวกระจาย แต่แอลหลบใบมีดหวุดหวิดตลอด ไรอันตบแผงที่เสียงใบมีดข้างๆตัวพบว่ามันว่างเปล่าแสดงว่าอาวุธที่กันแอลได้ตอนนี้มันหมดไปแล้ว
เขาตีลงกาทันทีเมื่อแอลได้ใช้มีดที่เสียบคาบนพื้นเหวี่ยงโต้กลับมา ก่อนทั้งสองจะวิ่งเข้าหากัน ปะทะแรงดาบก่อให้เกิดประกายไฟแอลตวัดปัดออกม้วนตัวหลบเมื่อไรอันฟันดาบลงมาส่งผลให้พื้นดินแตกกระจาย แอลอาศัยช่วงทีเผลอก่อนจะถีบตัวไรอันไปกระแทกกับกำแพงอิฐพลางวิ่งด้วยความเร็วชนิดมองไม่เห็นฟันดาบโดนที่แผ่นหลัง
แควก เสื้อของไรอันขาดออกเป็นรอยฟันขาดเป็นทางยาวแต่ไรอันไหวตัวทันฟันดาบปัดออกจากลำคอเมื่ออีกฝ่ายต้องการจบเกม เขาก้มตัวลงพลางเหวี่ยงดาบปะทะใส่แอลเป็นประกายไฟแต่เพราะเขาอ่อนประสบการณ์หรืออย่างไรทำให้แอลชนะเขาได้อย่างง่ายดายตอนนี้พวกเขาค้างอยู่ในท่าที่แอลจ่อดาบไว้ที่ลำคอของเขาเพียงไม่กี่เซนต์พร้อมกับท้ายของมีปลายคมมีดจ่ออยู่อีกเช่นกัน
แอลจ้องมองอาการเลิ่กลั่กของอีกฝ่ายเพื่อตัดสินว่าเขาคือผู้ชนะบททดสอบหากแต่เขายังไม่ละดาบออกเพราะอีกฝ่ายยังไม่มีการทำสัญญาณของการยอมแพ้ไรอันกระแทกที่ตกอยู่บนพื้นแต่ใช้พลังอำนาจบังคับให้มันถูกปัดออกไปนัยน์ตาของแอลเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง ก่อนที่มันจะจางหายไปไรอันได้ยกมือทั้งสองขึ้นเสมออกเพื่อบอกว่าเขาขอยอมแพ้
ฟึบ แอลตวัดดาบลงในฝักเมื่อไรอันทำสัญญาณมือขอยอมแพ้ พลางยื่นมือเพื่อขอการแฮนด์เช็คอย่างให้เกียรติ ไรอันมองมือของแอลเพียงชั่วครู่ก่อนจะจับมือตอบเขาเพื่อมิตรภาพในการฝึกทดสอบ
“ฝีมือของนายนั้นใช่ย่อย” แอลเอ่ย เขายิ้มให้เล็กน้อยสมาชิกภายในบ้านต่างทยอยกันออกมาจากที่พัก บางคนก็ยืนมองจ้องตาค้าง ไรอันรู้สึกได้ถึงบาดแผลที่สมานตัวเข้าหากันแนบสนิท
หากเขาได้ยินเสียงรถยนต์คันสีดำเรียบหรูติดฟิล์มหนาทึบแล่นเข้ามาอย่างเงียบสงบ ก่อนจะชะลอจอดอย่างช้าๆ ประตูถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นลูคัสลงมาจากรถอย่างสง่าประกาศศักดาอำนาจรัศมีกระจายออกไปเพื่อบ่งบอกถึงพลังอำนาจที่ไร้เทียมทาน นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ที่พวกเขายืน
สายตาเขามาหยุดที่แอล เอ็ดและไรอัน ก่อนจะเดินนำเข้าไปยังห้องทำงาน กอร์ดอนเดินตามหลังมาเมื่อเดินผ่านทั้งสามหนุ่มแวมและสมาชิกที่เหลือพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า
“ทุกคนฝึกซ้อมตามปกติ ส่วนพวกเจ้าตามข้ามา” กอร์ดอนเหลือบมองเบียงก้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปยังห้องทำงานของลูคัสด้วยท่าทีหยิ่งยโส เบียงก้าเสมองร่างสูงจอมหยิ่งของกอร์ดอนพลางละสายตามายังเด็กหนุ่มที่ฝึกซ้อมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อในวันข้างหน้าพวกเขาจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
ลูคัสสะบัดผ้าคลุมสีดำมะเมื่อมพร้อมกับวางพาดมันไว้ที่พำนักที่นั่งของตน เอ็ดเดินนำเข้ามาเป็นคนแรกตามมาด้วยแอลและไรอัน ทั้งสามโค้งตัวให้กับนายหัวผู้สูงส่ง กอร์ดอนเป็นคนปิดประคูและยืนมองอยู่ห่างๆ ลูคัสนั่งลงพลาง่างสายตาไปยังกอร์ดอนเพื่อไม่ให้เสียเวลาที่มีอยู่น้อยนิดกอร์ดอนพยักหน้าก่อนจะรีบปฎิบัติหน้าที่ของตนก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางออกมากางไว้
เอกสารเกี่ยวกับการเรียนต่อในระดับมัธยมปลายและเป็นโรงรียนระดับเกรดดีค่อนข้างหรูเอาการ รวมทั้งเสื้อผ้า ไรอันหยิบสมุดพกเล่มหนึ่งขึ้นมาที่มีใบหน้าของเขาแปะไว้อยู่ เขาเปิดมันอ่านเผลอไปเห็นสัญชาติ ที่เขียนไว้ว่า อังกฤษ
“ท่านจะให้เราออกเดินทางเมื่อไหร่ครับท่าน” แอลเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเหล่ดูของที่กอร์ดอนตระเตรียมไว้เรียบร้อย เอ็ดจ้องหน้าไม่กระพริบ ลูคัสพยักเพยิดไปทางกระเป๋าเดินทางใบโต
“โรงเรียนไฮสคูลนี้จะเปิดสอนภายในอาทิตย์ ซึ่งก็เหลือเพียงไม่กี่วันนับจากวันที่ออกเดินทาง ข้าจึงอยากให้พวกเจ้าฝึกชะ….”
“เรารอมานานแล้วท่านลูคัส ถึงเวลาที่เราจะตอบแทนท่านแล้ว และเรามีฝีมือมากพอที่จะประมือกับเจ้าพวกมอนสเตอร์นั่น……อย่าห่วงเลยท่าน” แอลเอ่ยขัดขึ้นพลางค้อมหัวลงแสดงความเคารพ
ลูคัสมองดูพวกเขาที่มีจิตใจแน่วแน่พร้อมที่จะออกไปต่อสู้ข้างนอกกำแพงนี้ที่พวกเขาอยู่มานานและจะต้องจากไปซึ่งไม่รู้ว่าจะหวนกลับคืนหรือไม่ นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อกระพริบเพียงชั่วครู่เดียวความกังวลเหล่านั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความสงบนิ่งของสายตาตามเจตนารมณ์ของผู้ที่ตั้งใจจะให้เป็น
“ข้าจะให้เบียงก้าตามดูอยู่ห่างๆ อย่าทำตัวเป็นสายล่อฟ้าพวกเข้ามีภูมิคุ้มกันในการรู้ว่าตัวตนของพวกเจ้าเป็นอย่างไรมันจะปกป้องเจ้าจากแวมไพร์พวกอื่นๆไม่ให้เข้ามาทำร้าย ฉะนั้นกลมกลืนให้มากที่สุด กอร์ดอน” ลูคัสกล่าวจบก็เอ่ยเรียกกอร์ดอน เขาเดินเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ พลางใช้ปลายนิ้วชี้เคาะสิ่งของที่วางไว้อยู่นั้นมันอันตรธานหายไป แอลเอียงคออย่างไม่เชื่อในสิ่งที่กอร์ดอนทำเมื่อครู่
“เจ้าจะได้ฝึกมันแน่เเอรอน พลังของเจ้าเหมาะกับการใช้เวทย์มนตร์มากเลยทีเดียว” ลูคัสเอ่ยทำให้แอลพยักหน้าอย่างเข้าใจภายในบัดดล นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลเลื่อนมายังไรอันที่แอบสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อไม่เคยเผชิญหน้ากับนายท่านในระยะใกล้ชิดอย่างนี้มาก่อน
“มีคนจ้องจะฆ่าเราทุกคน ต่อให้เป็นสถานที่ที่เราไว้ใจมากแค่ไหน มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พวกเจ้าทุกคนคือคนที่ข้าเลือกมาเพื่อให้ปกป้องตัวของเจ้าเองและเพื่อลูกของข้าด้วย คนอื่นๆต้องระแวดระวังให้ดีหากข้าอยากจะส่งไปสมทบ ข้าจะส่งข่าวไปทีหลัง จงจำคำเตือนของข้า ภายนอกถิ่นนี้มีอันตรายทุกรูปแบบและอีกอย่างผู้หญิงอย่าได้มาข้องเกี่ยวกับชีวิตเจ้าเป็นอันขาด มันจะทำให้เจ้าไขว้เขว่และความลับที่เรามีต่อมนุษย์จะได้คงอยู่ตลอดไป อย่าเปิดเผยตัวตนให้มนุษย์เห็นเด็ดขาดถ้ามันเห็นเข้าเมื่อไหร่ กำจัดทิ้งซะเพื่อความปลอดภัยของพวกเรา” ลูคัสลุกขึ้นยืนพลางเดินมาใกล้ๆไรอันที่ยืนนิ่งฟังขอชี้แจง
“ไรอันถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้รับความอมตะจากข้า เจ้าจะต้องรับปากเช่นกันว่าจะไม่หุนหันพลันแล่น เพราะพลังของเจ้าแตกต่างกว่าใคร จงเชื่อฟังเอดิสันและเเอรอนเข้าไว้เพราะเจ้าเพิ่งเกิดใหม่ได้ไม่นาน” ลูคัสพูดข้างๆกายเขาก่อนจะเดินไปยืนพิงที่โต๊ะทำงานของตน
“กลางคืนเมื่อไหร่ ปฏิบัติหน้าที่ทันที….ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกระเป๋า…..จงตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น กอร์ดอนให้คนของเราไปส่งทั้งสามคนนี้ ข้ามีเรื่องที่จะให้เบียงก้าจัดการระหว่างพวกเขาเดินทาง ไป เริ่มได้” ลูคัสได้สาธยายหรืออธิบายจนจบจึงยืดเต็มความสูงก้าวเดินผ่านพวกเขาทั้งสามไป กอร์ดอนค้อมตัวลงเมื่อนายท่านได้เดินผ่าน พลางชี้แจงบอกให้พวกเขาไปเตรียมของที่จะออกเดินทางให้ด่วนที่สุดภายในคืนนี้
เขาตีลงกาทันทีเมื่อแอลได้ใช้มีดที่เสียบคาบนพื้นเหวี่ยงโต้กลับมา ก่อนทั้งสองจะวิ่งเข้าหากัน ปะทะแรงดาบก่อให้เกิดประกายไฟแอลตวัดปัดออกม้วนตัวหลบเมื่อไรอันฟันดาบลงมาส่งผลให้พื้นดินแตกกระจาย แอลอาศัยช่วงทีเผลอก่อนจะถีบตัวไรอันไปกระแทกกับกำแพงอิฐพลางวิ่งด้วยความเร็วชนิดมองไม่เห็นฟันดาบโดนที่แผ่นหลัง
แควก เสื้อของไรอันขาดออกเป็นรอยฟันขาดเป็นทางยาวแต่ไรอันไหวตัวทันฟันดาบปัดออกจากลำคอเมื่ออีกฝ่ายต้องการจบเกม เขาก้มตัวลงพลางเหวี่ยงดาบปะทะใส่แอลเป็นประกายไฟแต่เพราะเขาอ่อนประสบการณ์หรืออย่างไรทำให้แอลชนะเขาได้อย่างง่ายดายตอนนี้พวกเขาค้างอยู่ในท่าที่แอลจ่อดาบไว้ที่ลำคอของเขาเพียงไม่กี่เซนต์พร้อมกับท้ายของมีปลายคมมีดจ่ออยู่อีกเช่นกัน
แอลจ้องมองอาการเลิ่กลั่กของอีกฝ่ายเพื่อตัดสินว่าเขาคือผู้ชนะบททดสอบหากแต่เขายังไม่ละดาบออกเพราะอีกฝ่ายยังไม่มีการทำสัญญาณของการยอมแพ้ไรอันกระแทกที่ตกอยู่บนพื้นแต่ใช้พลังอำนาจบังคับให้มันถูกปัดออกไปนัยน์ตาของแอลเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง ก่อนที่มันจะจางหายไปไรอันได้ยกมือทั้งสองขึ้นเสมออกเพื่อบอกว่าเขาขอยอมแพ้
ฟึบ แอลตวัดดาบลงในฝักเมื่อไรอันทำสัญญาณมือขอยอมแพ้ พลางยื่นมือเพื่อขอการแฮนด์เช็คอย่างให้เกียรติ ไรอันมองมือของแอลเพียงชั่วครู่ก่อนจะจับมือตอบเขาเพื่อมิตรภาพในการฝึกทดสอบ
“ฝีมือของนายนั้นใช่ย่อย” แอลเอ่ย เขายิ้มให้เล็กน้อยสมาชิกภายในบ้านต่างทยอยกันออกมาจากที่พัก บางคนก็ยืนมองจ้องตาค้าง ไรอันรู้สึกได้ถึงบาดแผลที่สมานตัวเข้าหากันแนบสนิท
หากเขาได้ยินเสียงรถยนต์คันสีดำเรียบหรูติดฟิล์มหนาทึบแล่นเข้ามาอย่างเงียบสงบ ก่อนจะชะลอจอดอย่างช้าๆ ประตูถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ เผยให้เห็นลูคัสลงมาจากรถอย่างสง่าประกาศศักดาอำนาจรัศมีกระจายออกไปเพื่อบ่งบอกถึงพลังอำนาจที่ไร้เทียมทาน นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ที่พวกเขายืน
สายตาเขามาหยุดที่แอล เอ็ดและไรอัน ก่อนจะเดินนำเข้าไปยังห้องทำงาน กอร์ดอนเดินตามหลังมาเมื่อเดินผ่านทั้งสามหนุ่มแวมและสมาชิกที่เหลือพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า
“ทุกคนฝึกซ้อมตามปกติ ส่วนพวกเจ้าตามข้ามา” กอร์ดอนเหลือบมองเบียงก้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปยังห้องทำงานของลูคัสด้วยท่าทีหยิ่งยโส เบียงก้าเสมองร่างสูงจอมหยิ่งของกอร์ดอนพลางละสายตามายังเด็กหนุ่มที่ฝึกซ้อมกันอย่างหนักหน่วงเพื่อในวันข้างหน้าพวกเขาจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
ลูคัสสะบัดผ้าคลุมสีดำมะเมื่อมพร้อมกับวางพาดมันไว้ที่พำนักที่นั่งของตน เอ็ดเดินนำเข้ามาเป็นคนแรกตามมาด้วยแอลและไรอัน ทั้งสามโค้งตัวให้กับนายหัวผู้สูงส่ง กอร์ดอนเป็นคนปิดประคูและยืนมองอยู่ห่างๆ ลูคัสนั่งลงพลาง่างสายตาไปยังกอร์ดอนเพื่อไม่ให้เสียเวลาที่มีอยู่น้อยนิดกอร์ดอนพยักหน้าก่อนจะรีบปฎิบัติหน้าที่ของตนก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางออกมากางไว้
เอกสารเกี่ยวกับการเรียนต่อในระดับมัธยมปลายและเป็นโรงรียนระดับเกรดดีค่อนข้างหรูเอาการ รวมทั้งเสื้อผ้า ไรอันหยิบสมุดพกเล่มหนึ่งขึ้นมาที่มีใบหน้าของเขาแปะไว้อยู่ เขาเปิดมันอ่านเผลอไปเห็นสัญชาติ ที่เขียนไว้ว่า อังกฤษ
“ท่านจะให้เราออกเดินทางเมื่อไหร่ครับท่าน” แอลเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเหล่ดูของที่กอร์ดอนตระเตรียมไว้เรียบร้อย เอ็ดจ้องหน้าไม่กระพริบ ลูคัสพยักเพยิดไปทางกระเป๋าเดินทางใบโต
“โรงเรียนไฮสคูลนี้จะเปิดสอนภายในอาทิตย์ ซึ่งก็เหลือเพียงไม่กี่วันนับจากวันที่ออกเดินทาง ข้าจึงอยากให้พวกเจ้าฝึกชะ….”
“เรารอมานานแล้วท่านลูคัส ถึงเวลาที่เราจะตอบแทนท่านแล้ว และเรามีฝีมือมากพอที่จะประมือกับเจ้าพวกมอนสเตอร์นั่น……อย่าห่วงเลยท่าน” แอลเอ่ยขัดขึ้นพลางค้อมหัวลงแสดงความเคารพ
ลูคัสมองดูพวกเขาที่มีจิตใจแน่วแน่พร้อมที่จะออกไปต่อสู้ข้างนอกกำแพงนี้ที่พวกเขาอยู่มานานและจะต้องจากไปซึ่งไม่รู้ว่าจะหวนกลับคืนหรือไม่ นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลฉายแววกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อกระพริบเพียงชั่วครู่เดียวความกังวลเหล่านั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความสงบนิ่งของสายตาตามเจตนารมณ์ของผู้ที่ตั้งใจจะให้เป็น
“ข้าจะให้เบียงก้าตามดูอยู่ห่างๆ อย่าทำตัวเป็นสายล่อฟ้าพวกเข้ามีภูมิคุ้มกันในการรู้ว่าตัวตนของพวกเจ้าเป็นอย่างไรมันจะปกป้องเจ้าจากแวมไพร์พวกอื่นๆไม่ให้เข้ามาทำร้าย ฉะนั้นกลมกลืนให้มากที่สุด กอร์ดอน” ลูคัสกล่าวจบก็เอ่ยเรียกกอร์ดอน เขาเดินเข้ามาอย่างรู้หน้าที่ พลางใช้ปลายนิ้วชี้เคาะสิ่งของที่วางไว้อยู่นั้นมันอันตรธานหายไป แอลเอียงคออย่างไม่เชื่อในสิ่งที่กอร์ดอนทำเมื่อครู่
“เจ้าจะได้ฝึกมันแน่เเอรอน พลังของเจ้าเหมาะกับการใช้เวทย์มนตร์มากเลยทีเดียว” ลูคัสเอ่ยทำให้แอลพยักหน้าอย่างเข้าใจภายในบัดดล นัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลเลื่อนมายังไรอันที่แอบสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อไม่เคยเผชิญหน้ากับนายท่านในระยะใกล้ชิดอย่างนี้มาก่อน
“มีคนจ้องจะฆ่าเราทุกคน ต่อให้เป็นสถานที่ที่เราไว้ใจมากแค่ไหน มันก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พวกเจ้าทุกคนคือคนที่ข้าเลือกมาเพื่อให้ปกป้องตัวของเจ้าเองและเพื่อลูกของข้าด้วย คนอื่นๆต้องระแวดระวังให้ดีหากข้าอยากจะส่งไปสมทบ ข้าจะส่งข่าวไปทีหลัง จงจำคำเตือนของข้า ภายนอกถิ่นนี้มีอันตรายทุกรูปแบบและอีกอย่างผู้หญิงอย่าได้มาข้องเกี่ยวกับชีวิตเจ้าเป็นอันขาด มันจะทำให้เจ้าไขว้เขว่และความลับที่เรามีต่อมนุษย์จะได้คงอยู่ตลอดไป อย่าเปิดเผยตัวตนให้มนุษย์เห็นเด็ดขาดถ้ามันเห็นเข้าเมื่อไหร่ กำจัดทิ้งซะเพื่อความปลอดภัยของพวกเรา” ลูคัสลุกขึ้นยืนพลางเดินมาใกล้ๆไรอันที่ยืนนิ่งฟังขอชี้แจง
“ไรอันถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้รับความอมตะจากข้า เจ้าจะต้องรับปากเช่นกันว่าจะไม่หุนหันพลันแล่น เพราะพลังของเจ้าแตกต่างกว่าใคร จงเชื่อฟังเอดิสันและเเอรอนเข้าไว้เพราะเจ้าเพิ่งเกิดใหม่ได้ไม่นาน” ลูคัสพูดข้างๆกายเขาก่อนจะเดินไปยืนพิงที่โต๊ะทำงานของตน
“กลางคืนเมื่อไหร่ ปฏิบัติหน้าที่ทันที….ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกระเป๋า…..จงตั้งสติกับสิ่งที่เกิดขึ้น กอร์ดอนให้คนของเราไปส่งทั้งสามคนนี้ ข้ามีเรื่องที่จะให้เบียงก้าจัดการระหว่างพวกเขาเดินทาง ไป เริ่มได้” ลูคัสได้สาธยายหรืออธิบายจนจบจึงยืดเต็มความสูงก้าวเดินผ่านพวกเขาทั้งสามไป กอร์ดอนค้อมตัวลงเมื่อนายท่านได้เดินผ่าน พลางชี้แจงบอกให้พวกเขาไปเตรียมของที่จะออกเดินทางให้ด่วนที่สุดภายในคืนนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ