The Vampire Powers.

9.1

เขียนโดย katzee

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.

  37 chapter
  168 วิจารณ์
  47.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ดิน น้ำ ลม ไฟ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“ท่านลูคัส กำลังจะเดินทางกลับมางั้นเหรอ” เอ็ดถามเบียงก้าที่ตอนนี้ยืนกอดอกท้าลู่ลม ผมปลิวไสวอย่างเชิญชวนให้น่าเข้าไปสัมผัส หล่อนพยักหน้ายืนยันคำตอบ ก่อนเธอจะรู้สึกถึงผู้มาใหม่อีกคน เธอหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับไรอันที่มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ทุกคนยังไม่ตื่นเลย จะให้ผมพิสูจน์อะไร เห็นบอกว่าท่านลูคัสกำลังเดินทางมา” แอลนั่งอยู่อีกฟากหนึ่ง หัวคิ้วชนกันอย่างสงสัย
“หูนายดีมาก” เบียงก้าเอ่ย ทำให้ไรอันรู้สึกว่าตัวเองปรับตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์โดยเฉพาะระบบประสาทของเขาดีขึ้นมาก ประสาทหูของเขาได้ยินชัดแจ่มแจ๋วเลยละ เมื่อเขาจัดการใส่เสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกมา เขาได้ยินเอ็ดและเบียงก้าคุยกันพอดีถึงแม้จะห่างกันเป็นกิโลก็เถอะ และตอนนี้เขารู้สึกถึงธรรมชาติที่อยู่รายล้อมตัวเขา เขาได้ยินเสียงนก เสียงลม และมีกลิ่นแปลกๆที่ค่อนข้างจะกลิ่นไม่ดีเท่าไหร่ลอยตามลมมา ณ ภายในป่า สัญชาตญาณของเขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม แต่เขาก็ทำเป็นไม่ใส่ใจจึงเดินตรงมาหาทั้งสองที่ยืนคุยกันเขาเหลือบไปเห็นแอลนั่งแกว่งดาบไปมาก่อนจะลุกขึ้นฟาดฟันมันลงใส่หุ่นฟางขาดเป็นสี่ท่อน ก่อนจะมีเสียงหวานพูดขึ้น
“การได้ยินภาพและเสียงรวมถึงสิ่งรอบตัว จะไม่เป็นปัญหาต่อเจ้าเลยล่ะ สมมุติถ้าหากมีแวมไพร์พวกอื่นถูกส่งมากำจัดเจ้าเจ้าจะไหวตัวได้ทันตั้งแต่มันมาถึงภายในระยะทาง1ไมล์มันเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันตัวและต้องป้องกันให้คนอื่นโดยเฉพาะท่านโลแกนและลูน่าพลังของเจ้าข้าว่าเจ้ามีความเป็นธรรมชาติอย่างถึงที่สุดเท่าที่จะหาได้ในหมู่แวมไพร์” ถึงเบียงก้าจะพูดอย่างนั้นอย่างไรก็ตามพละกำลังก็ไม่อาจหาญเท่าการสะกดจิตเพราะถ้าโดนสะกดจิตเมื่อไหร่ไม่ว่าจะพลังมหาศาลมากเท่าใดก็ไม่สามารถต่อสู้กับพวกมีอำนาจทางสะกดจิตได้
“ท่านพูดเหมือนผม เอ่อ มีสัญชาตญาณสัตว์ป่า” ไรอันสรุปจากสิ่งที่เธอพูดมา
“ใช่แล้ว” เบียงก้ายืนยันพลังที่มีอยู่ในตัวไรอัน
เอ็ดเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อตั้งแต่เขาได้รับพลังความเป็นอมตะ ป่านนี้พลังของเขาก็ยังไม่โผล่ออกมาให้เขารับรู้ได้เลย แม้กระทั่งไรอันที่เกิดใหม่ช้ากว่ายังสามารถรู้ได้ถึงพลังอำนาจของตน แต่มาติดอยู่ที่เขาว่าทำไมมันยังไม่ปรากฏให้เขาเห็นสักที เขาคิดด้วยใบหน้าหมดอาลัยตายอยากก่อนจะผละออกไป เดินตรงดิ่งไปยังริมทะเลสาบอยู่เบื้องหลังบ้านหลังใหญ่ของพวกเขา เบียงก้าเหลือบตามองคนขี้ใจร้อนที่เดินออกไปด้วยความน้อยใจ พลังที่เผยตัวตนช้านั้นย่อมมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ เธอทำนายไว้เลยว่าเดี๋ยวเขาก็รู้ในเวลาไม่กี่นาทีแน่ ความโกรธมักเป็นสิ่งที่ระเบิดพลังออกมาได้ง่าย เมื่อเบียงก้าคิดเช่นนั้นก็หันบอกให้ไรอันไปฝึกซ้อมกับแอลก่อนไรอันพยักหน้าให้กับเธอพลางหันตัวเดินไปลานประลอง พอเขาหันกลับมาอีกทีเธอก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย
สวบสาบ เสียงเดินเหยียบใบไม้เเห้งดังขึ้น เมื่อมีชายหนุ่มผู้หล่อเหลาคนหนึ่งเดินตรงดิ่งมายังริมทะเลสาบเเถมมาด้วยใบหน้าที่หดหู่จากบางสิ่งบางอย่าง เขามามาหยุดยืนตรงต้นไม้ใหญ่ที่เอนเอียงทะเลสาบ เขายืนพิงมันพร้อมกับจ้องละลอกคลื่นเล็กจากสายลมที่พัดผะเเผ่วมาตามธรรมชาติ เหมือนป่าเขาเต็มใจประทานพรความเงียบงันให้เเก่เขาเเม้เเต่เสียงเเมลงป่าที่ดังระงมก็เงียบหายไปราวกับถูกปิดสวิตช์ เขาก้มลงมองผืนดินที่ปรากฎเป็นรากต่อสายกันระโยงระยางลงไปลึกจนถึงใต้ดินเเละลึกลงไปอีก คิ้วเรียวหนากระตุกโดยพลันกับสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นต่อดวงตาของเขา เขารู้สึกได้ถึงสายลมที่เริ่มจะก่อตัวภายในกายเขา เขาสามารถรับรู้ถึงเเสงอาทิตย์ที่ให้พลังเเก่เขาเหมือนตัวเขานั้นเป็นคลื่นเเม่เหล็กหรือเเผงโซลาเเซลที่คอยดูดซับพลังงานเเสงอาทิตย์นำมาใช้ เอ้ะ เเต่เดี๋ยวนะ ทำไมเขารู้สึกแปลกๆเเละคิดอะไรเพี้ยนๆแบบนี้กัน
เขายืนเต็มความสูงพร้อมกับยกมือของตนขึ้นมาพร้อมกับกำเเละคลายฝ่ามืออยู่อย่างนั้น
"มายืนทำไมตรงนี้กัน" เสียงเอ่ยทักดังขึ้นอย่างไม่ทันให้ได้สุ้มได้เสียงส่งผลให้เขาลื่นรากไม้ที่มีตะใคร่เกาะจับเป็นมันวาวสีเขียวเเก่น่าขยะเเขยงตกลงไปในทะเลสาบ
"โว้" เขาตกลงไปบนความเปียกของดินและต้องเเปลกใจอย่างสุดซึ้งเมื่อพื้นที่ที่เขายืนอยู่ ณ ตอนนี้มันไม่มีน้ำ เเละมันอยู่ขนาบข้างของเอ็ดอย่างกลัวเกรงเขาก็ว่าได้ เขายกเเขนขึ้นสลัดเศษเปลือกหอยที่ปักมือเขา น้ำทะเลสาบที่มันเเยกเเบ่งเขตออกเป็นสองฟากโดยมีเขายืนอยู่ตรงกลาง
ฮึ เบียงก้าส่งเสียงพึมพำในลำคออย่างพอใจที่เอ็ดได้ค้นพบพลังของตัวเองซะที
"สั่งให้มันบรรจบเข้าหากัน ควบคุมมันให้ได้" เบียงก้าตะโกนจากด้านบนฝั่ง เอ็ดหลับตาลง สั่งควบคุมมันให้เข้ามาบรรจบกัน เขารู้สึกได้ถึงท้องไส้เขาขมวดเข้าหากันก่อนที่น้ำจะถาโถมเข้าใส่ตัวเขาเมื่อเขาสมารถบงการให้มันทำตามในสิ่งที่เขายั่งคิดหรือพึงที่จะทำ น้ำสูงขึ้นเกือบเลยเอวขึ้นมาได้เขาเดินเเหวกน้ำขึ้นฝั่งพลางจับรากไม้รากใหญ่ก่อนจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นมาได้พลางยิ้มกริ่มกับเบียงก้าด้วยสภาพที่เปียกโชก เขาเบ้ปากกับเสื้อผ้าของเขาที่มีน้ำหยดติ้งๆ พลันเมื่อเขาคิดดังนั้นเสื้อผ้าจากที่ยังเปียกระดับบิดได้เป็นลิตร น้ำเหล่านั้นได้เเห้งเหือดออกไปจากเสื้อผ้าของเขาอย่างน่าทึ่ง เขาตาถล่นพร้อมกับมองหน้าเบียงก้าที่ยิ้มให้กับเขาอย่างเเสดงความยินดีในการค้นพบพลังอันยิ่งใหญ่ที่ยากจะเท่าเทียมได้ ยิ่งเผยตัวช้าเพียงใดเเสดงว่าพลังนั้นมีอำนาจที่วิเศษมากพอควร
ซึ่งการที่จะค้นพบผู้ที่มีอำนาจในการเรียกธาตุทั้งสี่อย่างได้นั้นช่างหายากยิ่งในกลุ่มของเเวมไพร์ ฉะนั้นเอ็ดมีอำนาจพอที่จะโค่นล้มทกสิ่งได้อย่างเพียงเเค่บงการจากความคิดของเขาเพียงเท่านั้น
"กลับไปหาสองคนนั้นกันเถอะ" เบียงก้าพูดพลางเดินนำออกไป เอ็ดสำรวจร่างกายตัวเองอย่างเเสนทึ่งไม่หายพลางเดินตามเบียงก้าไป ณ ลานประลองฝีมือที่ป่านนี้เเอลคงได้สั่งสอนไรอันอยู่ตอนนี้
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา