The Vampire Powers.

9.1

เขียนโดย katzee

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.

  37 chapter
  168 วิจารณ์
  47.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ข้อตกลง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
อีกฟากหนึ่งของผู้บงการภารกิจสำคัญ ได้นั่งกุมสมุดบันทึกเล่มหนาของใครบางคนซึ่งหากดูดีๆแล้วสภาพการใช้งานนั้นผ่านระยะเวลาหลายทศวรรษ เพราะสังเกตได้จากปกถูกเย็บเข้าด้วยหนังสัตว์ซึ่งมักนิยมใช้ในสมัยที่ไม่มีการปฏิวัติในดินแดนอเมริกา
 
ลูคัสได้สัมผัสมันครั้งแรกในรอบหลายปีมานี้ กาลเวลาที่ผ่านมายาวนานนั้นไม่ได้บั่นทอนความรู้สึกและความทรงจำในครั้งเยาว์วัย มันยังคงฉายภาพวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา
 
แม้จะพยายามปิดตายความรู้สึกนึกคิดของตนเองมากเพียงใดก็ตาม มันก็ยังกลับมาตอกย้ำราวกับนำเข็มเล็กๆทิ่มแทงหัวใจของเขาอย่างช้าๆ
 
การได้เป็นอมตะ ตายไม่ได้ ถึงแม้มนุษย์จะใฝ่หาว่าอยากจะอยู่ยงคงกระพันเฉกเช่นแวมไพร์แต่พวกคนเหล่านั้นต่างไม่รู้เลยว่า ต้องระงับจิตใจของตนมากมายเพียงไรเพื่อที่จะปรับใจทุกครั้งกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ตามกาลเวลาตามยุคสมัย
 
การที่ได้เห็นคนที่ตนเองรู้จักค่อยๆทยอยกันตายตามอายุขัย และเวลาต่อมาก็ไม่มีใครที่รู้จักกับตนเองเลยสักคน เมื่อมันเป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเหล่า มีหรือที่จะอยากหาความสัมพันธ์ครั้งใหม่เพื่อให้เจ็บใจตัวเองเล่น เขาจึงต้องการอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากกว่าสิ่งนั้น
 
ความชินชาซึมซับให้กลายเป็นผู้เยือกเย็น ไร้หัวใจ ประกอบกับปัญหาในครอบครัวของตนที่แตกแยกในข้อตกลงในการแบ่งเขตแดนต่างคนต่างอยู่ แต่ยุคสมัยนี้ไม่ใช้ในวิธีการอย่างไร้ประชาธิปไตยแบบนั้นแล้ว
 
ซึ่งนั้นยิ่งทำให้เผ่าพันธุ์ของเขาและต่างสายพันธุ์ต้องอยู่อย่างยากลำบาก และอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเหล่าพี่น้องของตนนั้นแตกกันออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับความรักที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นกับแม่มดสาวอย่างคริสติน่าผู้ให้กำเนิดลูกเขาทั้งสอง
 
“ท่าน…….ลูคัส”
 
“ว่ายังไง” นายใหญ่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะซ่อนบันทึกเล่มดังกล่าวลงใต้โต๊ะทำงาน
 
“สมุนของมาร์คัสพยายามที่จะกำจัดคนของเรา เท่าที่ผมได้รับรายงานมา ลูเซียสยังไม่รู้ข่าวนี้เพราะถ้าหากเกิดการเทลาะเบาะแว้ง ลูเซียสคงไม่ปล่อยไว้”
 
“เราต้องเดินเกมอย่างใจเย็น ยังไงซะสามคนนั้นก็ฝีมือดีพอที่จะรับมือกับพวกมันได้”
 
“แต่พวกเขายังไม่มีประสบการณ์พอ พวกท่านควรจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อที่จะตกลงกันอีกครั้ง เพราะมันอาจจะทำให้มนุษย์ต้องแตกตื่นกับความลับที่เราเก็บมันมาเป็นเวลานาน”
 
“พวกท่านคงไม่อยากจะก่อสงครามหรอกใช่ไหม” เสียงผู้มาใหม่เอ่ยขึ้นหน้าประตู หญิงสาวดันประตูเปิดให้กว้างขึ้นและยืนกอดอกพิงอยู่ข้างนอกเหมือนเดิม
 
“เจ้าควรจะมีมารยาทบ้างนะ” กอร์ดอนตำหนิในการแอบฟังเรื่องส่วนตัวของพวกเขา
 
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสานางหรอก ยังไงซะ…นางก็คนกันเอง”
ประโยคนั้นทำให้แววตาราวกับแม่เสือสาวของเธอตวัดให้กับอีกคนที่พยายามจะต่อต้านเธอด้วยความสะใจ
 
ถึงแม้อาการไม่พอใจของกอร์ดอนจะถูกเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุด เขาจึงแสดงสีหน้าได้ออกมาได้นิ่งเรียบตามแบบฉบับผู้สุขุมแต่สายตาก็บ่งบอกทุกอย่างได้หมดว่าเขานั้นแทบอยากจะหักคอเธอเสียให้ตายตรงนี้
 
“ข้าได้ไปเจรจากับพวกแม่มดเท่าที่ข้าทำได้ และพวกนางยังยืนยันคำเดิมที่จะปฏิเสธในเรื่องร่วมมือกันเป็นพันธมิตรของท่าน” เบียงก้าเดินเข้ามานั่งลงพลางไขว้ห้างบนเบาะโซฟาสำหรับรับแขกถึงแม้จะไม่มีแขกอย่างที่ว่าก็ตาม
 
“พวกนี้ นี่ช่างทระนงตนเสียจริงๆ” กอร์ดอนออกความคิดเห็นด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อพวกเขาพยายามจะเจรจาอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้วแต่แม่มดยังคงถือสิทธ์ความเป็นส่วนตัวโดยไม่ตอบรับข้อตกลงกับพวกปีศาจ(คำที่แม่มดชอบเอ่ยเรียก)
 
“เพราะอย่างนี้ ข้าจึงอยากให้คนของเราหาตัวลูกของข้าให้พบ มันคงไม่ง่ายขึ้นถ้าหากไม่เสนอว่าพวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้”
 
“ยังไงซะ พวกเขาก็กำลังเข้าขั้นตรงตามบุรุษในคำทำนายจากปากนักพยากรณ์ เรื่องนี้คงจบไม่สวยซะเท่าไหร่”
 
“เจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง” กอร์ดอนถามเมื่อเบียงก้าช่างสอดรู้ไปเสียทุกเรื่อง
 
“ข้าเคยเป็นเพื่อนสนิทของแม่มดที่ทรงพลังที่สุดอย่างคริสติน่า เรื่องแค่นี้ ทำไมข้าจะไม่รู้” เบียงก้าโต้กลับเมื่อถูกเหยียดว่าตนนั้นทำตัวเป็นแค่คนนอกสำหรับเขา
 
“แล้วทำไมเจ้าถึงไม่ใช้สิทธ์ที่เคยเป็นเพื่อนรักกับแม่มดที่ทรงพลังที่สุดใช้มันเพื่อข้อตกลงของท่านลูคัสละ”
 
“ท่านอย่ามากล่าวโทษข้า ท่านน่าจะทราบดีว่านางถูกปฏิบัติทำยังไงเมื่อนางย่างกรายเข้าไปในถิ่นนั่น”
 
“พอ….ข้าไม่อยากให้เราต้องแตกฝ่ายกัน…เมื่อใช้วิธีดีๆไม่ชอบ เราก็ต้องใช้วิธีที่หนักข้อยิ่งกว่า” ลูคัสเอ่ยตัดบท เมื่อห้องนี้กำลังจะกลายเป็นสนามรบไปซะแล้ว
 
ในขณะที่ข้อตกลงอย่างสันตินั้นไม่ได้ผล ก็ต้องมีวิธีการอย่างป่าเถื่อนเข้ามาช่วย พวกเขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่กำลังจะทำกันในแต่ละฝ่าย มันกำลังค่อยๆก้าวเข้าสู่ประตูสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์
 
เพราะศักดิ์ศรีของความเป็นผู้นำและต้องการอำนาจมันกำลังจะเล่นงานทุกฝ่าย ความละโมบโลภมากของพวกเขาชักนำความนองเลือดให้ปะทุขึ้น ไฟแค้นของการกดขี่จากเหล่าบรรดาแม่มดกำลังจะสนองกลับคืนสู่ตัวของแต่ละฝ่าย สงครามนี้ต้องแลกกันด้วยชีวิต!!!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา