The Vampire Powers.
เขียนโดย katzee
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
17) เเวร์วูฟ (2) 50%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ไม่ว่ายังไง เเกก็จะได้รับผลที่เเกได้ทำกับพวกข้า " มันพูดข่มขู่ ก่อนเสียงจะขาดหายเมื่อชายหนุ่มได้กระเเทกหักคออีกฝ่ายเพื่อไม่อยากจะฟังสิ่งที่มันพล่ามออกมาโดยทันที
ฟึบ ร่างหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าสดโผล่มาอยู่ขนาบข้าง เอ็ดเสมองอีกฝ่ายก่อนจะใช้เท้าเขี่ยให้ร่างที่นอนเเอ้งเเม้งพลิกหงายขึ้นเพื่อดูว่ามีอะไรติดตัวมา
"พวกมันเป็นเเวร์วูฟ เราต้องรีบตามหาไรอัน บางทีหมอนั่นอาจจะกำลังเเย่" เเอลบอกก่อนจะหายไป เอ็ดเหลือบไปเห็นลิ่มที่ถูกวางใส่อย่างเป็นระเบียบบนแผงที่ถูกรัดอยู่กับตัวของร่างไร้วิญญาณ เอ็ดตัดใจที่อยากจะเก็บหลักฐานนั่นไว้ก่อนจะตามไปช่วยไรอัน
โครม มีร่างๆหนึ่งกระเเทกเข้ากับรถม้าที่ทำด้วยไม้เงาวับ ร่างนั่นถูกเศษไม้ที่หักเป็นชิ้นๆยาวที่ยังยึดติดกับกระดูกไหปลาร้าโผล่พ้นออกมาเห็นปลายเเหลมๆ ไรอันมองภาพตรงหน้าที่เริ่มพร่าเลือนเพราะมีของเหลวบางอย่างไหลผ่านดวงตาของเขาบดบังภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
เขาเงยหน้ามองเงาทะมึนสูงใหญ่ กำลังมหาศาลมากมายราวกับไม่ใช่มนุษย์นั่นทำให้เขาพลาดท่า บาดแผลจากไม้เเหลมๆมันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะตัดสินใจกระชากมันออกใช้มันปาเข้าที่ร่างมนุษย์ประหลาดนั่นราวกับใบมีด ผลเป็นไปตามคาดเมื่อเศษไม้ดังกล่าวมันปักเข้าที่ตรงตำเเหน่งหัวใจพอดิบพอดี เเต่ทว่า
ฉึก มีวัตถุบางอย่างที่พุ่งฉิวเข้ามาด้วยความเร็วจากความมืดได้เสียบปักทะลุร่างของไรอัน เขาสะอึกก่อนชั่วครู่พร้อมกับเข่าที่อ่อนลงอย่างกระทันหันส่งผลให้ร่างเขาทรุดลง
"ไรอัน!! ไรอัน" มีเสียงที่ดังจากที่ไกลๆตะโกนเรียกชื่อเขาก่อนที่มันจะลางเลือนกับประสาทสัมผัส ยอมรับเเล้ว ว่าการต่อสู้ครั้งนี้มันทำให้เขารู้ว่า เขาไม่น่าโดดเรียนวิชาการต่อสู้ตัวต่อตัวกับท่านเบียงก้าเลย แวมไพร์หนุ่มคิดได้แค่นั้นก่อนทุกอย่างจะมืดสนิทลงราวกับถูกปิดสวิชต์
“ท่านมาได้ยังไง” เสียงของชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าสดเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งมองคนที่อ่อนประสบการณ์พลาดท่าให้กับแวร์วูฟเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ร่างของไรอันที่นอนแน่นิ่งพร้อมกับมีผ้าพันแผลพันรอบๆหัวไหล่ บางทีแผลจากเศษไม้เป็นสิ่งแวมไพร์อย่างเราๆควรจะฉลาดกับมัน เพราะศัตรูชักจะจับไต๋พวกแวมไพร์ได้ว่าไม่ถูกโฉลกกับของที่เป็นไม้ๆ และแน่นอนเขี้ยวเล็บของแวร์วูฟก็มีส่วนที่สามารถฆ่าแวมไพร์ได้
นั่นเป็นข้อได้เปรียบของพวกมนุษย์หมาป่าที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ แต่มาดูแล้ว แวมไพร์ก็มีข้อดีที่สามารถลงมือจัดการแวร์วูฟได้รวดเร็วกว่า รวมถึงพวกเขาเองก็มีสายเลือดที่พิเศษดังนั้นสายเลือดของแวมไพร์ที่วิเศษนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ตายยากมากที่สุด คงน่าภูมิใจมากเลย
“อย่าลืมสิ ว่าท่านลูคัสของเราเป็นยังไง” เบียงก้าลุกขึ้นยืน นี่เป็นอีกครั้งแล้วนะที่เธอต้องมาดูแลไรอันแบบนี้
“เราจะรู้ได้ไง ว่าในโรงเรียนไม่มีไอ้พวกหมาป่าแฝงอยู่” เอ็ดเอ่ย เมื่อเดินเข้ามาพร้อมกับถุงเลือดจากโรงพยาบาลหนึ่ง
ท่านลูคัสได้เตรียมไว้อยู่ก่อนนี้ให้แล้ว เพราะไม่อยากให้เจ้าถิ่นที่นี่สงสัยว่ามีพวกเขาแฝงตัวอยู่อย่างเนียนๆ เพราะการที่ถุงเลือดหายไปเป็นจำนวนมากๆเป็นเรื่องที่น่าสงสัยและแถมด้วยว่าพวกเขาต่างก็ไม่รู้ว่าที่เมืองนี้จะมีอะไรเซอร์ไพรส์
“พวกเธอเป็นกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาสัมผัสกับความเป็นอยู่แบบมนุษย์ ฉันจะพยายามหาข้อมูล พอได้ทราบว่าที่นี่มีอะไรน่าสงสัย”เบียงก้าให้คำยืนยัน เธออยู่ในชุดเดินทางแบบทะมัดทะแมงเสื้อยืดกางเกงยีนเข้ากับรองเท้าบู๊ทสีดำครบสูตรพร้อมกับมัดผมสีบลอนด์ที่ยาวสลวยเป็นหางม้าเพื่อความกลบกลืน
“เขาจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” แอลถาม เมื่อยังเห็นคนที่นอน เปลือกตายังปิดสนิท
“ดีนะ ที่หมอนี่โดนแค่เล็บถ้าเป็นเขี้ยวละก็ เขาคงไม่รอด พิษของแวร์วูฟรุนแรงมาก” เบียงก้าลอบมองตามไปด้วย กับน้องใหม่ที่ยังรับมือกับศัตรูตรงหน้าไม่ได้แต่ก็ทำได้ดี
“ฉันแวะเอาของมาให้แค่นี้ ฉันจะต้องออกไปพบคนรู้จักและจะกลับค่ายทันที” คำพูดของเบียงก้าทำให้พวกเขาที่จากบ้านมาต้องแอบคิดถึงบรรยากาศเก่าๆทันที ก่อนจะมองตามของที่เบียงก้าเอามามันเป็นกระเป๋าเดินทางสามสี่ใบ
“ในนั้นเป็นเครื่องมืออาวุธที่พวกเธอถนัด ฉันได้จัดตามคำสั่งของท่านลูคัสจะได้มีอาวุธไว้ป้องกันตัวยามคับขัน” เธอกล่าว
เอ็ดเดินเข้าไปเปิดดูพลางดึงบางอย่างออกมา มันมีรูปร่างเหมือนแท่งเหล็กขนาดกลาง ถือได้พอดีมือ เขาเผลอไปกดปุ่มบางอย่างเข้าก่อนจะมีชิ้นส่วนแยกออกมาในรูปทรงคล้ายหอกที่ยาวขึ้น หนุ่มผมสีสนิมยิ้มรับเมื่อถูกใจกับของเล่นชิ้นใหม่
“ท่านเบียงก้า…” เสียงแหบแห้งดังมาจากของคนป่วยที่เปลือกตาเริ่มขยับ พร้อมกับตัวที่เริ่มกระสับกระส่าย คนที่ถูกเรียกชื่อผุดนั่งลงข้างๆเตียง พร้อมกับสะดุ้งโหยงเมื่อข้อมือของเธอถูกคว้าไปกุมไว้บนแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า
แอลรีบหยิบถุงเลือดที่วางอยู่ข้างเตียง พลางพยุงหัวไรอันขึ้นดันถุงเลือดที่เปิดจุกแล้วจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก เบียงก้ายอมแกะมือออกปล่อยให้แอลจัดการแทน เมื่อกลิ่นกระแทกเข้าโสตประสาทของผู้ที่ขาดอาหารสำคัญไปเต็มๆต้องรีบฉกถุงเลือดจากมือของแอลไปอย่างกระหาย
“เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เมื่อสามารถดับกระหายได้แล้ว เจ้าตัวจึงเอ่ยปากถาม พลางขยับตัวแต่เพราะบาดแผลยังไม่สมานกันดีจึงทำให้เขาต้องสบถออกมา เอ็ดวางของเล่นชิ้นใหม่ลงพลางเดินมาพูดมา
“รู้ไหมว่าคนที่ต่อสู้ด้วยกับนายเมื่อคืน เป็นแวร์วูฟ” เอ็ดกอดอกพูด พลางยักไหล่กับอาการที่คนป่วยยังงงๆ
“ยังไงซะ เราก็มีไรอันเป็นตัวอย่างแล้ว ทีหลังถ้านายได้กลิ่นไม่ชอบมาพากล ก็หัดเตือนให้มันเร็วๆหน่อยละกัน” แอลบอกไรอัน ก่อนเจ้าตัวจะทำหน้าครุ่นคิดว่าอย่าลืมพลังวิเศษของตน ซึ่งมันก็มีประโยชน์เหมือนกันเพื่อต่อไปพวกเขาจะได้ไหวตัวทันจากศัตรูที่ยากจะต่อกรอย่างแวร์วูฟ
พวกเขาไม่ได้คิดจะกลัวหรอกนะ เต่นั่นมันมีโอกาสพลาดได้ ถ้าเกิดโดนเขี้ยวแวร์วูฟขึ้นมา บรรยากาศเริ่มอึมครึมทุกคนต่างมีความคิดไม่ตกกับตัวแปรใหม่ที่ควรระมัดระวัง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ