The Vampire Powers.
เขียนโดย katzee
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) ได้เจอเชื้อสายอีกคนหนึ่งเเล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตึก ตึก ตึก ฉันรีบวิ่งให้เร็วที่สุดและเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่กำลังตามหลังฉันมา บ้าเอ้ย หล่อซะเปล่า ไม่น่าโรคจิตเลย โอยให้ตายสิยัยเรสนี่เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ฉันวิ่งผ่านห้องของพวกคนรวยคนอื่นที่ส่งเสียงเฮฮาฉลองกัน ฉันวิ่งไม่สะดวกเลยเพราะฉันสวมชุดเดรสอยู่น่ะสิ ให้ตายสิพระเจ้านี่วันวันซวยอะไรของฉันกันเนี่ย เธอวิ่งได้ไม่ทันไรก็ถูกบางอย่างกระชากตัวเธอ
กรี๊ดดดดดดดด เธอกรีดร้องเมื่อมีมือมาตะปบที่เสื้อคลุมเธอพร้อมกับรัดแน่นด้วยแรงที่เธอไม่อาจสู้ได้ พระเจ้า ช่วยฉันด้วย
“เอ็ด มายืนทำอะไรตรงนี้” แอลเดินเข้ามาพลางเอ่ยปากถามเมื่อได้มาตามที่ไรอันบอก หนุ่มหล่อเหลือบมองเพื่อนรักที่ยังยืนพิงกรอบเหล็กกั้นระหว่างรถไฟแล้วมองออกไปในที่ๆไกลสุดสุดที่เขาไม่อาจรู้ได้ สายตาของเพื่อนเขาฉายแววกังวล
“ฉันคิดว่า ฉันเจอ……” เอ็ดลากเสียงยาว แอลยังคงนิ่งรอฟังคำตอบ
“ฉันว่าฉันเคยเห็นผุ” ก่อนที่เขาจะทันได้บอก ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน
แอลหันไปมองผู้ที่มาใหม่
“พวกนายได้ยินหรือเปล่า” ไรอันเอ่ยพลางมองหน้าตาที่งงๆของทั้งสอง
“เฮ้ พวกนายไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงหรอกเหรอ เหมือนว่ามันกำลังจะ”
ช่วยด้วย!!!
เสียงตะโกนนั้นถูกลอยมาตามลม พร้อมกับแผ่วเบาลงหายไป พวกเขาหันเหความสนใจไปยังเสียงที่ดังสุดแสนจะแผ่วเบา ไรอันไม่รอใครจึงออกตัวหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับแอลที่รีบตามเข้าไปด้วยคน เอ็ดจึงได้แต่เพียงส่ายหัวอย่างเอือมระอาเมื่อเขาไม่สามารถที่จะบอกถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อหญิงสาวคนนั้นได้
“ฮ่าๆๆ อีหนู มาให้เสี่ยเถอะนะแล้วหนูจะมีทุกอย่างเท่าที่หนูจะหาได้” เสียงชายเฒ่าหัวงูที่พยายามรวบตัวเรเนสเข้าไปในห้องกำลังเกลี้ยกล่อมยื่นข้อเสนอให้เธอยอม
“ไม่ ฉันมีฉลาดพอที่จะหาได้ อย่ามาแตะตัวฉันนะ ” เรเนสพยายามจะสลัดตัวออกจากความน่าขยะแขยงของชายหื่นกาม
โอ พระเจ้าฉันไม่ควรมาตายในที่นี่ ฉันพยายามควานหาของที่จะสามารถตีหรือทุบหัวมันแต่มันเป็นทางเดินที่โล่งฉันจะได้หันหน้าไปเผชิญหน้ากับมัน
แควก เสียงเสื้อตัวบางถูกฉีกอย่างไม่ไยดีพร้อมกับคำด่าทอของเรเนส เธอพยายามทุบตีไอ้แก่นั่นออกไปแต่มันตบหน้าเธอด้วยความรุนแรงและนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกรามเธอเคลื่อนและมีเลือดซึมออกมาอย่างชัดเจน
หมับ ตึก ร่างของชายแก่ถูกเหวี่ยงออกไปจากตัวเธอ เธอสะดุ้งเมื่อเห็นใบหน้าคนที่ช่วยชีวิตเธอ
“นาย” เธอเอ่ย พร้อมกับมองคนที่มาใหม่อีกสองคน เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายที่พูดด้วยคำแปลกๆและท่าทางน่ากลัวของเอดิสันจะเป็นคนช่วยเธอ
“เธอเป็นไงบ้าง” หนุ่มผมสีน้ำตาลเอ่ยถามเธอ เธอหันไปมองเขาได้ไม่นานก็ถูกเอ็ดดึงตัวขึ้นจากพื้นเหล็กของรถไฟ
“ฉันจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ให้เอาไอ้แก่นี่ไปให้พ้นๆ” ไรอันบอกก่อนจะเดินผ่านพวกเขาไปยังหัวขบวน หนุ่มทั้งสองพยักหน้าให้กับเขา
“โอ้ย ฉันว่าข้อเท้าของฉันมัน” เรเนสสัมผัสข้อเท้าของเธอเมื่อมีอาการปวดแปล๊บๆ
“เฮ้ พาเธอไปที่ห้องเรา” แอลบอกเอ็ดก่อนจะเดินข้ามร่างชายแก่สุดทุเรศไป
“เฮ้ นั่นนายจะทำอะไร”เรเนสร้อง เมื่อเอ็ดช้อนขาและตัวของเธอยกขึ้นแนบระดับอก
“หรือ เธอจะเดิน”เขาพูดเพียงเท่านั้นก็ออกเดินทันทีเบื้องหน้าแอลกำลังเดินนำพวกเขาสองคนอยู่
เขาพาเธอมายังห้องที่เกือบจะอยู่ท้ายขบวน ก่อนแอลจะเปิดให้เขาพาเธอเข้ามา เขาค่อยๆวางเธอลงบนโซฟา
“เดี๋ยวผมจะไปหายาให้คุณละกัน” แอลบอกเธอเมื่อเธอยิ้มให้
“ฉันขอบคุณมากเลยนะ ที่ช่วยฉัน” เรเนสหันไปพูดให้กับเอ็ดที่นั่งนิ่งมองเธอ บางทีเขาดูเหมือนรูปปั้นถ้าไม่ทันสังเกต
“ไม่เป็นไร” เขาตอบพลางมองแอลที่เดินถือหลอดยามาพร้อมกับนั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอ
“เฮ้ ฉันทำเองได้” เรเนสขัดเมื่อเห็นเขาตั้งใจจะถอดรองเท้าให้เธอ เขาจึงยื่นหลอดยาให้เธอ
“ผมแอล นั่นชื่อรองของผม” เขาแนะนำตัวเอง
“ฉันเรเนส” เธอพูดพลางยิ้ม และบรรจงทายานั่นลงบนเท้าของเธอ ที่บวมเป่ง
“ผมรู้” คิ้วเรเนสขมวดเข้าหากันทันที ทั้งๆที่เธอไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
แอลหันไปยังเพื่อนรักที่จ้องเธอไม่กระพริบ และเขาคิดว่าพรสรรค์ของเขาช่วยได้ เมื่อได้ยินความคิดของเพื่อนรักกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ทั้งสวยและน่ารักอย่างเธอ
“งั้นผมขอไปดูเพื่อนก่อนนะ ว่าเขาจัดการให้เจ้าหน้าที่มาจับตัวคนที่ทำร้ายคุณเรียบร้อยหรือยัง” แอลพูดพลางเลื่อนประตูออกไป
เรเนสยังคงนวดเท้าของเธอต่อไป ก่อนจะมองสายตาของคนบางคนที่พยายามจะหลบเมื่อเธอสบสาบตากับเขา
“ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นคุณ ผู้ชายที่ทำร้ายฉัน” เธอเงยหน้าพูดกับเขา
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณกลัว” เอ็ดเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ
“ไม่ ฉันต่างหาก ที่ต้องขอโทษที่มองคุณผิดไป”เธอเริ่มรู้สึกสำนึกผิดเมื่อมองคนอย่างเขาผิดไป
บรรยากาศภายในห้องเริ่มกลับเข้าสู่ความเงียบเมื่อเอ็ดยังคงนั่งนิ่งจดจ้องมองเธอเหมือนว่าเธอเป็นตัวประหลาดซะอย่างนั้น พอเธอพยายามที่จะสบสายตากลับเขาก็เซมองไปทางอื่น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นกับเขาแบบแปลกๆหรือว่าเธออาจจะคิดไปเองก็ได้…บางทีนะ
เรเนสสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเอ็ดผลุดลุกขึ้นจากโซฟาตัวจ้อยขึ้นมาซะเฉยๆ เมื่อเธอเห็นสายตาของเขามองเลยหัวของเธอไป จึงหันไปมองตามสายตาของเขา
“เรเนส!!”มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินตรงมาที่เธอพร้อมกับดึงตัวเธอเขข้ามากอดอย่างแสนห่วง
“พระเจ้า ไซม่อน”เรเนสพึมพำด้วยเสียงอู้อี้
เอ็ดมองทั้งสองก่อนจะเบือนไปทางไรอันที่ยื่นกอดอกพิงกรอบประตูมองทั้งสอง ก่อนจะยักไหล่เมื่อเอ็ดส่งสายตาคาดโทษมาทางเขา ราวกับว่าช่างขัดจังหวะเขาเลยเกิน
“เจ้าหน้าที่ได้จัดการไอ้แก่นั่นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาแค่ต้องการจะรู้ว่าคุณจะเอาเรื่องหรือเปล่าก็เท่านั้น”แอลเดินเข้ามาก่อนจะพูดให้เจ้าตัวคนที่ถูกทำร้ายได้ยินรวมทั้งผู้มาใหม่
“ฉันไม่เอาเรื่องหรอกคะ” เรเนสกล่าวเมื่อได้ถอนกอดจากเพื่อนรัก
“ว่าไงนะ ได้ไงกัน หมอนั่นมันจะทำร้ายถ้าหากว่าไม่มีฉันหรือพวกเขาเธอก็ไม่มีทางมาตัดสินความผิดของหมอนั่นว่าไม่เป็นไรแบบนางเอกในซีรีส์หรอกนะ”ไซม่อนขัดเสียงห้วน
“ไม่เป็นไร ฉันโอเค”เรเนสหันไปพูดกับเขา
“และฉันก็ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะคะ ที่ช่วยฉัน” เมื่อเธอต่อกรกับเพื่อนก็หันมาขอบคุณพวกเขาทั้งสามที่ยืนนิ่งราวกับหุ่น พร้อมกับพยักหน้าเมื่อพวกเขายิ้มให้
“เพื่อนมนุษย์ เราสามารถพึ่งพากันได้” ไรอันเหลือบสายตามองทันที เมื่อแอลตอบ แต่สายตาของเขาจ้องแค่ไซม่อนเพียงคนเดียว
“งั้นผมก็ขอบคุณอีกครั้งละกัน หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” ไซม่อนหลบที่จะปะทะสายตาของแอล พลางตัดบทพร้อมกับช้อนตัวเรเนสขึ้นเดินผ่านพวกเขาออกไป เขาหยุดเมื่อแอลยังคงยืนขวางทาง
“ใช่ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก” แอลเอ่ยพร้อมยิ้มบางๆให้ ก่อนจะถอยออกให้ไซม่อนอุ้มหญิงสาวสวยที่ถูกเอ็ดเพื่อนรักของเขาที่ยังมองอย่างเงียบๆออกไป
“นายตกหลุมรักแม่กวางน้อยสุดเซ็กซี่นั่นหรือไง”แอลแซวขึ้นก่อนจะเห็นสีหน้าของเพื่อนที่เริ่มตึงทันทีอย่างอัตโนมัติ
“ฉันว่าหมอนั่น มีกลิ่นแปลกๆ”ไรอันเลื่อนประตูปิดเมื่อได้สองคนนั้นไปไกลสุดสายตาแล้ว
“ใช่ แปลกมาก ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าหมอนั่นมีอะไรข้องเกี่ยวกับท่านลูคัสหรือเปล่า”แอลเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับนั่งลงตรงขอบนวมโซฟา
“พวกนายรู้อะไรกัน”เอ็ดโพล่งขึ้น เมื่อไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังพูดถึงกับอะไรกันแน่
“ฉันว่าแม่กวางน้อ..”ไรอันหยุดพูดทันทีเมื่อรังสีอำมหิตได้ถูกส่งตรงมาทางเขาเมื่อพูดถึงชื่อที่แอลเป็นคนตั้งให้กับสาวสวยที่เอ็ดมีท่าทีบางอย่างต่อเธอ
“พวกฉันคิดว่า ไอ้ไซม่อนอะไรนั่นมีสิ่งแปลกๆที่คล้ายเรา และก็ใช่แน่ๆว่ามันจะรู้ว่าเราเป็นอะไร” แอลสรุปเมื่อสมองกำลังวางแผนการบางอย่าง เอ็ดลอบมองทั้งสองสลับไปมาเมื่อพลังที่เขามีนั้นมันไม่สามารถที่จะรับรู้เหมือนเพื่อนทั้งสองคนได้ แต่เขาเองก็รู้สึกเหมือนกันเมื่อเขาลอบมองเรเนสทีไร ไอ้ไซม่อนก็ส่งสายตาแปลกๆมายังเขา ฉะนั้นเขาจึงผุดลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับพูดว่า
“แผนว่าไง”แอลและไรอันยิ้มให้กันก่อนจะเห็นถึงความลุกลี้ลุกลนของเพื่อนเมื่อเริ่มอยากรู้ซะแล้วว่าไอ้ไซม่อนอะไรนั่นมีพิเศษอะไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ