The Vampire Powers.

9.1

เขียนโดย katzee

วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 14.24 น.

  37 chapter
  168 วิจารณ์
  47.85K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 17.51 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) พบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

(Diaries : Renes)

โอ ฉันคงบ้าเสียสติไปแล้วแน่ๆ ถ้าหากชีวิตฉันไม่ได้ซวยอะไรแบบนี้ ฉันเรเนส เอลเดอร์ลายน์ เฮ้อะ นั่นชื่อของฉันล่ะ ทำไมกันนะทำไมฉันถึงได้มาเจอกับผู้ชายเฮงซวยอย่างเทเลอร์ด้วยนะกล้ามากที่มายืนจูบกับผู้หญิงคนใหม่ของเจ้าหมอนั่น แถมยัยนั่นยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียน ฉันไม่อยากจะเอ่ยถึงความเป็นผู้หญิงที่เกินหน้าเกินตาของยัยนั่น จะอะไรซะอีกละนอกจากคอยจ้องจะหาเรื่องฉันอยู่ตลอดเวลาและชอบแย่งของของคนอื่นมาแหยมหน้ากันให้เจ็บใจฉันไม่อยากจะนึกถึงความด้านของยัยนั่นจริงๆ

แต่เพราะฉันต้องอยู่ในกฏเกณฑ์ที่พ่อแม่อยากให้ฉันอยู่อย่างสงบและไม่หาเรื่องใครภายในโรงเรียน แต่แหงละ เรื่องมันมาหาฉันเองนี่นา หากโชคจากพระเจ้ายังช่วยฉันไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายถึงพ่อแม่ หลังจากที่ฉันเห็นสองคนนั้นทำเรื่องหยามหน้าฉัน ใช่เป็นใครจะทนกับความทุเรศอย่างนั้นได้ ฉันจึงทำได้เพียงตรงกลับบ้านทันที เพื่อนๆของฉันต่างมาหากันยกใหญ่ด้วยความหวังดีจอมปลอมนั่น

แต่ฉันเองก็ไม่ใช่ยัยงั่งที่จะไม่รู้ถึงความเจ็บแสบของยัยพวกนั้นที่เป็นสะพานเชื่อมให้ยัยเชียร์ลีดเดอร์หน้าไม่อายมาใกล้ชิดอดีตแฟนของฉัน เพราะพวกนั้นต้องการกลั่นแกล้งฉันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฉันมีแค่กลุ่มเพื่อนที่ค่อนข้างเรียนบ้างเล่นบ้างอย่างพวกไซม่อนเพื่อนบ้านที่หวังดีต่อฉันเสมอมาและฉันรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับฉัน ถึงการที่ฉันจะพูดแบบนี้ฉันไม่ได้หลงตัวเองเลยซักนิดแต่เพราะฉันเป็นคนที่รู้พอว่าอะไรที่กำลังเกิดขึ้น ในตอนนี้

เนื่องจากฉันต้องระวังตัวในเรื่องหลายเรื่องที่พ่อแม่สั่งห้ามฉันไว้และฝึกสอนฉันให้ควบคุมจิตใจตัวเองให้ได้มาโดยตลอดแถมยังฝึกการเรียนการต่อสู้ด้วยเพื่อชีวิตของฉัน ซึ่งฉันไม่อยากจะรู้เรื่องงานของพวกท่านที่ดูลับซะจนฉันคิดว่าพวกเขาเป็น CIA แต่ก็พวกท่านก็เลี้ยงฉันมาได้จนถึงทุกวันนี้ บางครั้งฉันเองก็รู้สึกถึงความไม่อบอุ่นอยู่ลึกๆเพราะวันๆท่านทั้งสองมัวแต่คลุกอยู่แต่กับงานที่ดูเป็นความลับนั่นจนฉันเริ่มโหยหาความรักในครั้งนั้นฉันไม่รู้ว่าความรักคืออะไร ฉันคิดได้เพียงว่าอยากมีคนมาดูแลและอยู่เคียงข้างฉันยามที่ฉันโดดเดี่ยวไร้เพื่อน ไร้ญาติ ไร้คนดูแลอย่างใกล้ชิดชนิดที่คอยเฝ้ามองเวลาฉันนอนหลับตา นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ

ความอบอุ่นที่ไม่ค่อยจะได้รับจากพวกท่านมันทำให้ฉันอยากมีแฟนซักคนและเทเลอร์เขาคือแฟนคนแรกของฉัน เขาเจ้าชู้ เที่ยวกลางคืนชีวิตไม่ผูกพันกับใครจนฉันเผลอไปทำให้เพื่อนเขาโกรธโดยการเดินชนตรงทางเดินที่จะเรียนคาบหรือวิชาต่อไปเพื่อนเขาโกรธมากจนฉันเองยังไม่อยากจะเชื่อกับความโอเวอร์ของเพื่อนเขาที่ไม่ยอมฟังคำขอโทษของฉัน เขาทำได้เพียงดึงอีกฝ่ายออกไปจากตัวฉันเมื่อเพื่อนเขาพยายามทำสายตาแสนน่าเกลียดน่าชังใส่ฉัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มสนใจฉัน

เฮ้อ ฉันไม่อยากจะรื้อฟื้นความน่าสมเพชของตัวเองที่ไปหลงกับคนเลวอย่างเขา มันทำให้ฉันไม่อยากจะมีใครเพราะกลัวว่ามันจะเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ฉันเกลียดมากที่สุดตอนนี้ ใครๆก็บอกว่าฉันนั้นดูน่าค้นหา ด้วยหน้าตาที่พวกเขาบอกว่าเหมือนหญิงงามในยุคโรมันที่มีผิวสีขาวเหลือบทอง โดยเฉพาะดวงตาของฉันที่บอกว่ามันดูกลมโตสีบราวน์น่าหลงใหล ริมฝีปากของฉันพวกเขามักบอกว่าเหมือนคันธนูที่หยักได้รูป

หญิงสาวยืนเพ่งพิศใบหน้าของตนสะท้อนกับกระจกเงาเมื่อคราวที่ชายคนที่เคยเป็นคนรักได้หักหลังเธอหลังจากนั้น ฉันชักจะเกลียดใบหน้าของตัวเองซะแล้ว มันฟังดูน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ หญิงสาวคิดก่อนหลุบตาลงต่ำมองอ่างน้ำก่อนจะอุ้มน้ำขึ้นมาบนมือก่อนจะถาโถมเข้าใส่ใบหน้าของตนเองไม่ยั้งเพื่อลืมความโชคร้ายของชีวิตของเธอที่เกิดมาไม่มีความสุขเอาซะเลย

หวิว ฉันยืนชมวิวในเวลาท้องฟ้ากลางคืนนอกเมือง ดวงดาวจะท้อแสงสุกสกาวได้สวยงามไร้ที่ติไม่เหมือนท้องฟ้าในเมืองที่แทบจะหาคำว่าดวงดาวไม่พบ เพราะว่าแสงที่เห็นอยู่ในเมืองที่ล้วนส่องแสงอวดโฉมให้ผู้คนได้เห็นความสวยงามอยู่ทุกวี่ทุกวัน เป็นเพียงแสงจากไฟนิออนตามตึกต่างๆที่มีการทำการค้าเพื่อเอาชีวิตของตนเองให้รอดจากผู้คนในเมืองโดยการแย่งกันจัดตกแต่งร้านให้ดูน่าเข้ามาชมหรือเพื่อกำจัดคู่แข่งที่อยู่ในระแวกนั้น

คนในเมืองส่วนใหญ่ปลีกตัวเองออกจากความวุ่นวายภายในเมืองมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างนอกเมืองนี้ ตอนนี้ฉันอยู่บนรถไฟที่เร็วที่สุดในประเทศตามความจริงฉันมาเที่ยวกับเพื่อนบ้านของฉัน ไซม่อน คือลูกคนรวยที่น่าจะทำกิจการเกี่ยวกับบริษัทการจัดส่งออกของตกแต่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับคุณภาพเกรดเอจากกรรมการระดับโลก การออกแบบบ้านให้ดูทันสมัยและน่าอยู่แบบมีอีโก้นั่น ครอบครัวของเขาทำได้หมดเกี่ยวกับพวกนี้และครั้งนี้ที่ฉันได้คำรับเชิญจากไซม่อนให้มาเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนๆคนอื่นๆด้วย พวกเขาตามมากันเกือบจะราวๆยี่สิบคนเป็นอย่างต่ำนะ

เนื่องด้วยที่พ่อของเขาต้องมาดูงานต่างเมืองนานประมาณหนึ่งอาทิตย์เขาจึงขอพ่อของเขาชวนเพื่อนมาสนุกด้วยกันซึ่งท่านใจดีมากๆที่ให้ตัววุ่นวายอย่างเขา ยกฝูงเพื่อนมาก่อกวนแต่ตามจริงพ่อเขาเองก็อยากพักผ่อนเช่นกันเขาไม่อยากให้ลูกของตัวเองเหงาหงอยอยู่ที่บ้านถึงแม้จะมีพี่สาวอีกคน แต่เธอไม่ค่อยจะอยู่บ้านเท่าไหร่มีแต่ไซม่อนเท่านั้นที่ต้องเฝ้าบ้านแทนเอง และตอนนี้พวกเรากำลังเดินทางกลับไปเรียนที่แสนจะงี่เง่านั่น เขาทำให้ฉันหายเครียดไปเปราะหนึ่งเลยล่ะ

ฉันยืนสูดอากาศอยู่ท้ายรถไฟซึ่งมันดูดีกว่าอยู่ในแหล่งชุมไปด้วยยาก็แล้วกัน ฉันคิดว่านี่กำลังดีเลยสำหรับฉันถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยชอบเพื่อนของไซม่อนเท่าไหร่ ระหว่างทีฉันกำลังคิดอยู่นั้นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินก้าวเข้ายืนอยู่ตรงข้ามพลางยื่นหน้าปะทะลมหนาว รูปร่างหน้าตาของเขานั้นดูไม่ธรรมดารวมถึงเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน โอให้ตายสิฉันเผลอจ้องเขานานเกินไปซะแล้ว เมื่อฉันคิดว่ากำลังทำให้ตัวเองเผลอตัวฉันจึงเอี้ยวตัวกลับเพื่อที่จะกลับเข้าห้องพักของตัวเอง

“สวัสดีครับคุณผู้หญิง” ฉันหยุดชะงักฝีเท้า ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับเขาตามมารยาท

“สวัสดีคะ”

“เดี๋ยวก่อนสิครับ การเดินหนีถือว่าเสียมารยาทนะครับคุณ” เสียงทุ้มชวนฝันเอ่ยขัดเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนนี้กำลังจะเดินหนีเขา ซึ่งเขาถือว่ามันแปลกสำหรับมนุษย์สุภาพสตรี

“เอ่อ ไม่หรอกคะ ฉันแค่รู้สึกว่าข้างนอกนี้หนาว และต้องขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาท” เรเนสตอบเมื่อเธอไม่สามารถที่จะสลัดเขาออกไปจากความคิดของเธอได้

“ผม เอนเดอสัน ซัลเฟอร์” เขายื่นมือเพื่อจะเขย่ามือเธอ

“เรเนส เอลเดอร์ลายน์”เธอเขย่ามือตอบเมื่อเอ่ยชื่อของเธอ

“คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนนึงเลยละ คุณเรเนส” เขาเอ่ยปากชม แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้ขึ้นรอยซับสีเลือดเหมือนผู้หญิงทั่วไปเลย ยามเขินอายเมื่อได้รับการชื่นชม

“ขอบคุณมากนะคะ และคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณก็ผู้ชายคนนึงที่ดูสง่างามที่สุดเท่าที่ฉันเจอเลยคะ แต่จะดีกว่านี้ถ้าสิ่งที่คุณต้องการจากฉันนั้นมันจะได้มาง่ายๆจากคำชมของคุณ ฉันขอให้คุณไปลงนรกซะยังจะดีกว่า” เรเนสพูดออกไปเมื่ออารมณ์โกรธเริ่มคุกกรุ่น เพราะส่วนมากของผู้ชายที่เอ่ยปากชมเธอจะต้องการสิ่งที่เธอไม่เคยมอบให้ใครเลยตลอดทั้งชีวิต และเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะรู้สึกโกรธเมื่อเธอเจอแบบนี้บ่อยครั้ง

เอ็ดมองมือของตนที่ถูกสลัดออก แต่เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อไปดักหน้าหล่อน ทำให้เธอวิ่งชนแผงอกแข็งแกร่งของเขาโดยทันที เธอมองเขาด้วยความตกตะลึง เพราะมนุษย์ธรรมดาคงทำแบบนี้ไม่ได้เธอก้าวถอยหลังเพียงก้าวเดียวก็ถูกเขาสัมผัสใบหน้าของเธอนัยน์ตาของเขาเปลี่ยนสีทันที

“อย่ากลัวฉัน อย่าเดินหนีฉัน” เขาพูดเหมือนกำลังจะสะกดเธอ เขาปัดปอยผมของเธอออกจากต้นคอพลางลูบเส้นเลือดที่ปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“คุณคืออะไรกันแน่” เธอเอ่ยเสียงสั่นเมื่อเธอไม่สามารถที่จะหนีตามที่ใจขาดหวังได้

“ฉันขอโทษ” เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆก้มหน้าลงมายังลำคอของเธอ แต่เธอดันเขาออกทันทีเมื่อรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวจากชายตรงหน้า ก่อนจะรีบออกฝีเท้าวิ่งหนีเขาไปให้พ้น

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา