สาวน้อยน้ำแข็งแห่งเอเรนเดล
เขียนโดย เหยินจัง
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.48 น.
แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน พ.ศ. 2557 20.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) พลังที่ฉันต้องการ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ" ปรืนๆๆ// มันเผ่าจ้ามันเผ่า " รถมันเผ่าเคลื่อนที่ไปตามบ้านหลังต่างๆ
" ฮืม หอมจังเลย " ฉันซูดกลิ่นของมันเผ่าที่ลอยฝุ้งไปทั่วบริเวณ
ฉันเดินเข้าซอยไปเรื่อยๆจน ไปเห็นทางถนนของหมู่บ้าน ซึ้งไว้สำหรับไปมา และฝั่งตรง
ข้ามของ ถนนนี้ก็จะเป็นร้านใกล้บ้านเรานั้นเอง
ฉันเดินมาเรื่อยๆจนถึงทางมาลาย ที่ใช้ข้ามทางได้อย่างปลอดภัยและสดวกอีกด้วย
" ครืด//ติ้งต๊อง" เสียงของประตูอัตโนมัติพร้อมกับเสียงสัญญานของประตูบานนี้
ฉันเดินข้าวมาในร้านที่มีอุณหภูมิ ที่อุ่นพอเหมาะเพราะ หน้านี้หน้าหนาวทางร้านเข้าจึงปรับอุณหภูมิ
ให้มันอุ่นขึ้น
กินแซนวิชดีมั้ย หรือกินข้าวกล้องดี ฉันมองแถวแซนวิชกับข้าวกล่องที่อยู่แถวติดกัน
แต่ฉันเป็นคนกินน้อยมากๆ " แซนวิชดีกว่า" แล้วฉันก็เอื่อมือไปหยิบแซนวิชทูน่ามาจากชั้น
แล้วก็คิดคิดเงินเส็ด ออกจากร้าน
อากาศข้างนอกชั้ง หนาวยิ่งหนัก ......... ตอนนี้ก็เวลา หนึ่งทุ้มกว่าแล้ว
ทองฟ้ามืดครึม...พอนี้ก็ดึกมากแล้ว แต่คำสั่งของแม่บอกมาคือ" อย่า พึ้งรีบกลับ "
ฉันก็เลยเดินไป สาธาระณะใกล้บ้านแทน เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน
พอมาถึงสถานที่ ที่ฉันต้องการฉันก็อุ้มเจ้า ขาวออกมาจากกระเป๋า วางไว้กับพื้น
ก่อนจะ เดินไปนั่งบนชิงช้าแล้วก็เอาแซนวิช ออกมากินอย่างอะเร็ดอร่อย
แต่ก็ไม่ลืมแบ่งให้กับไอ้ขาว
ยิ่งผ่านไปหลายนาที อากาศก็เริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ " ฟู่หนาว..จัง " ฉันผ่อนลมหายใจ
ออกมาจากปาก จนมีใอเย็นสีขาวลอยขึ้นมา คลายกับก้อนเมฆน้อยๆ
"จิงซิเราซื้อชาเขียวร้อนมานี่หน่า " ตอนออกจากร้าน ฉันเห็นตู้น้ำหยอดเรียญ อยู่ข้างๆ
นอกร้าน จึงซื้อมา
ฉันเอื้อมมือลงไปหยิบชากระป๋องร้อนออกมาจากกระเป๋าถือ
" อุ้ย..ร้อนจังเลยอ่ะ " ฉันสดุ้งเล็กน้อยเพราะ ฉันไปแตะกระป๋องอย่างจังๆ
แล้วฉันก็จับกระป๋องขึ้นมาดีเพื่อจะได้ดื่มง่าย
" ฟู่∼//อึกๆ " พอแกะฝากระป๋องเสร็จ ฉันก็ใช่ลมหายใจอุ่นๆของฉันเบาลม เพื่อให้มัน
เย็นลงบ้างก่อนจะ ค่อยๆดื่มมันลงไปในกระเพาะ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
ส่วนเจ้าข้าวของเราก็ นั่งข้างล่างอยู่ใกล้ๆฉันมันมอง ไปทั่วสาธาระณะ
ดืมเสร็จฉันก็หยิบนั่งสือเล่มโปรดออกจากกระเป๋า แล้วเปิดหน้าที่ขั้นไว้
แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านมัน ต่อไเรื่อยๆจนมาถึง พลังที่ฉันชอมมากที่สุด นั้นก็คือ
" น้ำแข็ง " ซึ้งพลังนี้มันร้ายกาจนัก และฉันก็ชอบหนัง ทีเกี่ยวกับน้ำแข็ง เป็นอย่างมาก
แม่มดฉันก็ชอบน่ะ ชอบมากๆด้วย
ฉันอ่าน..มาถึงจากหน้าที่ 50-280 แล้วตอนนี้ เวลาตอนนี้ก็เป็นเวลา หนุ่งทุ่ม สิบห้ากว่าๆ
ฉันทำเวลาได้ดีล่ะทีนี้
" โฮ้...พลังน้ำแข็งนี้มันสุดยอดจิงๆ เลยน่ะเนี่ย "
" อือ....อยากมีบางจัง..ถ้าฉันมีน่ะฉันจะทำร้ายพวกวัยร้ายให้หมดไปจากโลกนี้
เลย ห้าาาาาา.... แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี " ฉันลุกขึ้นทำท่าปล่อยพลังน้ำแข็งออกมา
จากมือ...แล้วหัวเราะอย่างซะใจ ก่อนจะค่อยๆซุดลงนั่งชิงช้า ดังเดิม
แสงไฟที่สาธระณะเปิดอย่าง สว่างจ้าา จึงทำให้ที่นี้ไม่ค่อย มืดสักเท่าไหร่
.
.
.
.
.
" ผม..สามารถทำให้คุณมีพลังได้น่ะ "
ฉันหันไปมองตนเสียง ที่ดังอยู่บนต้นไม้ข้างหลังฉัน เป็นชายหนุ่มร่างบางผิวขาว
สูงกว่าฉันซักสองสาม เซ็น การแต่งตัวของเขาใส่เสื้อกล้ามสีดำข้างใน มีเสื้อแจ็กเก็ตทับ
สีเทา สวมกางเกงสามส่วนสีดำ ทรงผมเหมือนในการ์ตูน สีผมสีขาวออกฟ้าๆ ดวงตาสีฟ้าๆขาวๆ
ใส่ปลอกคอ สลักรูปเกล็ดหิมะ ' คุ้นๆ จังเลยแหะ ปลอกคอนั้น 'ฉันคิดในใจ
ฉันลุกขึ้นจากชิงช้ามองชายปริศนา ที่ยืนแสยะยิ้มอยู่บนต้นไม้
ฉันใช้สายตาเย็นชามองใส่ชายหนุ่มผู้นั้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยอย่างไม่เป็นมิตร
" ต้องการอะไร.."
" ผมก็ไม่ได้อยากได้อะไรจากคุณนักหรอก..แค่คุณไปกับผมคุณก็จะได้สิ่งที่คุณต้องการ"
" ฉันขอตัวกลับล่ะ " ฉันหันไปจัดกระเป๋า และหันไปมองไอ้ขาว
เจ้าขาวหายไป??? ฉันหันซ้ายหันขวาแต่ก็ไม่พบ " เจ้าขาวอยู่ไหนกลับกันได้แล้วน่ะ
เจ้าขาวๆ " ฉันส่งเสียงเรียกแต่ก็ไรวี้แววที่มันจะออกมา
" หมายถึงไอ้ตัวนี้ใช่มั้ย " ชายร่างบางกระโดดขึ้นกลาางอากาศ แล้วตกลงมาสู่พื้นด้านล่าง
มีแสงสีขาวออกมาจากตัวหมอนั่น แล้วจึงกลายเป็นควัญสีขาวด้านล่าง กระจายไปทั่วทิศ
ควัญหรือหมอกสีขาวๆ ก็เลื่อนหายไป กลายเป็นสัตว์สี่เท้านั้นก็คือ
" ไอ้ขาว....นั่นเอง"
ดวงตาฉัน..ขยายออกกว้าง มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ' ไม่..จิง ' เจ้าเหมียวเป็นไปผู้ชาย
ร่างบางคนนี้หรือ??
" เจ้าขาว " ฉันส่งเสียงมาฟังดูไม่ถนัด แต่ด้วยความเงียบที่นี้กลับได้ยินชัด
เจนยิ่งขึ้น...
" ครับบ..ผมเองเจ้าขาวที่คุณรู้จัก " เจ้าขาวพูดแล้วเดินเข้ามาหาฉัน
แล้วก็เปลี่ยนร่างเป็นชายหนุ่มคนนั้นอีก
" แก..ชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน "
" หึๆ คุณเนี่ยนิสัยเหมือนแม่คุณไม่มีผิดเลยน่ะครับ "ไอ้หมอนี้พูดบ้าอะไรของมันก็ไม่รู้
" ฉันถามว่า แก ชื่ออะไรเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร และแม่ฉันไปเกียวกับอะไรกับแกด้วย
ห้ะ" ฉันตวาดใส่มันเต็มที่
" ผมเหรอครับ "
" ใช่ "
" หึๆๆ " หมอนี่หัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะแสยะยิ้มใส่ฉัน จากนั้นก็กระโดดตีลังกาไปทาง
ชิงช้าที่ฉันนั่งเมื่อครู่ .....
" เอามาน่ะ ไอ้บ้า " ฉันรีบวิ่งไปทางชิงช้าตรงนั้น เพราะไอ้หมอนี่มันเอากระเป๋าถือ
ฉันไป แล้ววิ่งไปทางพุ้มไม้ พอฉันเข้ามาทางพุ้มไม้ทางนี้เท่านั้นแหละ
กลับกลายเป็นป่าถึบ.......
แต่ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันต้องการเอากระเป๋าคืนก็เท่านั้น
" เอาของฉันคืนมาน่ะโว้ย " ฉันตะโกนจากด้านหลังของไอ้ตานี่
ไม่มีเสียงใดๆของไอ้บ้านี้แหม่แต่น้อย มันได้แค่วิ่งไปเรื่อยๆ
" พึบๆ " เสียงเท้ากระทบกับกับกิ้งไม้ใบหญ้าต่างๆ ในป่านี้มืดมาก ซึ้งมองไม่เห็นอะไรเลย
แต่ด้วยที่ไอ้หมอนี่มันหัวขาว พอจะตามมันอยู่ได้บ้าง
" แฮกๆ.....ในที่สุด...แฮกๆๆ ..ก็หยุ่ดสักที " ฉ้นหอบแห็กๆเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าหยุด
แล้วหมอนี่ก็เดินเข้าไปในบ้านที่มีสภาพร้าง ' ฉันรู้สึกว่าฉันเคยเจอที่แห่งนี้เลยแหะ '
ฉันเดินดูรอบๆจนมาข้างหน้าบ้าน " ไม่น่ะที่นี้มัน ทางไปกลับของโรงเรียนฉันนี่"
ฉันเบิกตากว้างอย่างไม่หน้าเชื่อ
" เข้ามาได้แล้วคับคุณหนู "เจ้าขาวในร่างผู้ชายส่งเสียงเรียก
หิมะเริ่มตกพื้น ส่วนบ้านหลังนี้ท่าทางใหญไม่ใช่เล่นหน้าบ้าน มีประตูออกแนวปราสาท
ผนังสีขาวๆเทา แต่ด้วยมันข้ามร้อนข้ามหนาวมาจึงมันทำให้ดูร้างไปมาก
หลังคาสีฟ้าปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโผน มีป้องเตาผิงอีกด้วย
"ฉันไม่เข้าไปหรอก "
" งั้นตามใจอยากจะยื่นตากหิมะก็แล้วแต่ และกระเป๋าเธอก็อยู่กับฉันด้วย"
ตานี้ส่งยิ้มอย่างเจ้าเลห์และแกว้งกระเป๋าฉันไปมา อย่างมีความสุข ก่อนจะหันหลังเข้าไปใน
บ้านสยองแห่งนี้
" เดี๋ยวซิ..รอฉันด้วย " ฉันเดินเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว
พอเข้ามาข้างในบ้านหลังนี้ฉันรู้สึกความเย็นจนรู้สึกได้ แล้วก็เกิดภาพต่างๆขึ้นมา
" เร็วช่วยกันปกป้องดินแดนของเราเอาปืนใหญ่ไปประชันมัน"ล
เสียงของแม่ทัพออกคำสั่งให้กับเล่นทหารเสียงดังก้อง " ปึงๆ " เสียงของปืนใหญ่
ก็ดังเท่ากับเสียงของท่านแม่ทัพผู้กล้าหารไม่แพ้กัน
"ตูมๆ" ทางกองทัพยิ่งปืนใหญ๋ไปเกาะหนี่งซึ้งเกาะนั้น
เต็มไปด้วยกองทัพของพวกปีศาท
" ทำยังไงดีขอรับท่านแม่คัพตอนนี้พวกเราจะต้านมันไม่ไว้แล้วน่ะคับ" คนสนิทของแม่ทัพ
เดินเข้ามาถาม
" ข้าก็ไม่รู้ แต่ห้ามให้พวกปีศาทพวกนั้น ไปยุ้งกับพระราชนี "เสียงของแม่ทัพออก
คำสั่งกับทหารคนสนิท
" ขอรับ " ทหารคนสนิทโค้งคำนับก่อนจะไปเรียกพลทหารท่านอื่นๆ ไปประตูข้ามดินแดน
ระหว่างปีศาท เทพนิยายเวทย์มนต์ และโลกมนุษย์ สามดินแดนที่ใช้ข้ามไปมานั่นเอง
แต่อยู่มาวันหนึ่งมีบุคคลหนึ่งได้ไปเล่นตร้งทางข้ามเวลา
เพราะมันมีรอยเสื่อมของเวลาอยู่ ไปแย่ๆมันจนตอนนี้ ประตูระหว่างดินแดนเทพนิยาย หรือเวทย์
กับดินแดนปีศาทกำลังกอสงครามกันขึ้น มา เพราะถ้าหากเมืองเวทย์นิยายแพ้
มันก็จำทำให้โลกผิดความสมดุลกัน
จากภาพสงครามน้ำ สาวน้อยก็เดินเข้ามาเรื่อยๆดูเหตุการณ์ต่างๆ จนมาหยุดตรงภาพๆหนึ่ง
ซึ้งเคลื่อนไหวและมีเสียงประกอบเหมือนเมื่อครู่
เป็นภาพของผู้หญิงคนหนึงซึ้งกำลังใช้พลังทั้งหมดที่มีในตัวซ่อมรอยแยกดินแดน
ให้เข้าที่ซึ้งเสี่ยงกับการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก
แสงสีฟ้าขาวๆ เปล่งออกมา
" ย้าาาาาา" เสียงของผู้หญิงดังขึ้น..ดูจากการแต่งตัวแล้วเธออาจจะเป็นราชานี้ของดินแดน
แห่งนี้ แต่ดูเหมือนว่าหน้าของราชินีคนนี้หน้าคล้ายๆกับเธอมากๆ
" จงสิ้นซะเธอะ ราชินีเบล " อยู่ๆก็มีชายหนุ่มมีเคี้ยวมีปีกค้างคาวใส่เสื้อเกราะ
กำลังยกดาบอันคมฟันเขาด้านหลังเพื่อหวังให้แผ่นหลังของราชินีที่ ชื่อ เบล ให้หายไปจากดิน
แดนแห่งนี้
" ชิ้ง " แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ชายปีศาทค้าดไว้ อัศวินมารับดาบของเขาไว้ได้
" เจ้าตังหากที่จะต้องตาย" อัศวินหน้าตาดีมองชายหนุ่มปีศาทค้างคาวอย่างจะกินเลือด
แล้วก็ฟันกันอย่างดุเดือด ต่อสู้กันไปนานๆ ต่างฝ่ายก็หมดแรงเพราะ อัศวินและ
ปีศาทตนนี้มีพลังที่เท่าเทียมเป็นไปได้ยากที่จะล้มกันง่ายๆ แต่ยังไงทั้งสองคนก็ไม่มีวันแพ้
มันหรอก และก่อนที่จะเรื่มฟันกันอีกครั้งก็มีแสงจ้าๆๆ
" ท่านทำได้แล้ว ราชินี " อัศวินใช่มือหนาบ่องแสงไว้เพื่อใไม่ให้เสียสายตา
และรอยแยกก็ปิดลง ราชินียืนนิ่ง
" ไม่จิง มันไม่ควรเป็นแบบนี้ "ปีศาทค้างคาวหัวเสีย
และอัศวินก็เดินไปหา ราชินีที่ไม่ปฏิกิริยาใดๆ " ฝ่าบาท..เป็นอะไรไปเหรอคับ ห้ะ ฝ่าบาทๆ"ชายหนุ่มซึ้งถามเจ้านายอย่างเป็นห่วง แต่กลับว่าตอนนี้ เธอนั้นฟุบลงกับพืั้น
ก่อนจะนอนคว่ำลงไปนอนกองพื้นด้านล่าง สักพักเลือดก็ไหลออกมาจากปาก และหิมะก็เริ่มตกๆลงมาเรื่อยๆ
อัศวินใช้ฝ่ามือพลิกหลังผู้เป็นนายที่นอนอะกักเลือด " อึก" เลือดก็ยังไม่วายที่จะหยุดไหลจาก
ปากของราชินีคนนี้
" ฉันทำไม่ได้ ...ฉันปิดรอยแยกไม่ได้ " ราชินี เบล ยังคงพูดทั้งๆที่เลือดเต็มปาก กำเดา
ไหลเยิ้ม
" อึก..หือ...ฝะ...ฝ่าบาท " อัศวินนั่งคุกเข่าร้องไห้ต่อหน้านายที่เคารพ
"ดูแลลูกฉันดีๆล่ะ " แล้วราชินีแห่งอาณาจักเวทย์มนล์ดินแดนเทพนิยายก็สิ้นพระชนใน
ที่สุด ส่วนรอยแยกก็ค่อยๆเปิดออก
" ฝ่าบาท " อัศวินคำรามเหมือนดึงพายุอันแรงกล้า
ส่วนปีศาทตนนั้นเห็นว่าหมดภาระก็บินกลังไปหานายของตนเองด้วยความดีใน
และสาวน้อยมัธยมต้น ก็เดินมองเหตุการณ์ในภาพไปเรื่อยๆ จนมาถึงรูปภาพหนี่ง เป็นรูปภาพ
ของราชินี เบล ยื่นถือไม้คถาและลูกเหล็กกลมๆ และตรงด้านล้างก็เป็นโต๊ะไม้ ที่มีสิ่งของ
วางอยู่บนโต๊ะนี้ มันก็คือ ไม้คถาและลูกเหล็กนั้นเอง เด็กสาวมองก่อนจะค่อยๆลงไปหยิบ
ขึ้นมาให้เหมือนในภาพ แล้วหันหลัง ก็พบว่ามือของเธอเริ่มกลายเป็นเป็นน้ำแข็งขึ้นมาเหรื่อยๆ
ตอนแรกลามไปจนถึงข้อมมือ สักพักมันก็ค่อยๆ ละลายออกจากมือ แล้วสิ่งที่จะกลายเป็นน้ำ
แข็งนั้นก็คือ สิ่งของที่เธอถือไว้บนสองมอ มันลามไปเรื่อยๆ จนมิดรูป
ละแล้วก็กลายเป็นแสงสีขาวไปทั่วร่างของเด็กสาว
สีผมเธอกลายเป็นสีน้ำเงินประดับด้วยกิ๊บเกล็ดหิมะ สีขาว จากชุดที่เป็นเสื้อกั้นหนาวสีเทา
กางเกงยีน กลับกายเป็นชุดสีน้ำเงินบนขาวเหมือนในการ์ตูน สวมกระโปรงระบายยาวถึงเข่าสีขาว
สีขาวพร้อมกับลายเกล็ดหิมะสีน้ำเงินเกาะอกสีขาวผสมกับสีน้ำเงิน
เป็นแขนยาวรัดๆ มีรูปตัวโน๊ต เป็นลายของแขน แถวเอวมีกระเป๋าน่ารักๆรัดอยู่
พร้อมกับผ้าคลุมสีขาว รองเท้าเป็นรองเท้าบูทยาวสีดำ และมีการเกงยืดข้างในสีดำ
สาวน้อยมองดูตัวแล้วพูดขึ้นมาว่า " นี้มันคืออะไรกันน ????่ "
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ