วัยรุ่นหิมพานต์
7.9
เขียนโดย โชจัง
วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.15 น.
20 บท
38 วิจารณ์
26.14K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 20.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ลูกเตะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ/ไอ้เหี้ยก็อต!!!.../ สถานการณ์ของเหล่าพรรคพวก ม.๔/๘ ณ ขณะนี้ เรียกได้ว่าตกที่นั่งลำบากอย่างชัดเจนเสียแล้ว ทั้งติ๊ก กฤต ซัน และก็อต ต่างถูกรายล้อมด้วยเหล่านักเรียน ม.ปลาย นับสิบคนแห่งโรงเรียนอิสลามศรีธรรมราช แถมหน้าตาแต่ละคนยังดูดิบเถื่อน ไม่เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อยเสียอีก ในใจของพวกเขาคงมีแต่ความหวั่นวิตกจนทำอะไรไม่ถูกเป็นแน่แท้ จะมีก็แต่ผู้เดียวเท่าน้ันที่ยังคงทำตัวปกติเหมือนเดิม ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อหน้าแม้ซักนิด เขาคือก็อต ผู้ซึ่งเพิ่งจะขายความลับของเพื่อนเพื่อความอยู่รอดของตนเอง"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ" แต่ขณะเดียวกัน ท่ามกลางหมู่นักเรียนโรงเรียนอิสลามสันติชนนับสิบนั้น กลับมีเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของนักเรียนสุวัฒนาคนหนึ่ง ที่กล้าพอจะเสนอหน้าเข้าเป็นพวกได้อย่างไม่เขินอาย หรือจะให้พูดง่ายๆ ว่าหน้าด้านก็ได้ เขผู้นั้นาคือเรน ผู้ที่กำลังหัวเราะชอบใจกับสิ่งที่เห็นในกล้องของก็อตนั่นเอง"ขำไร?" ก็อตถามด้วยความหงุดหงิด "รีบๆ คืนมาได้แล้ว จะกลับบ้าน""ฮะๆๆๆๆ แล้ว..." เรนหันหน้ามาถามก็อต "ใครอนุญาตให้มึงกลับวะ?""เฮ้ยๆ" ก็อตเริ่มอารมณ์เสียเต็มที "พวกมึงจะมีเรื่องกับไอ้กัน มึงก็รีบๆ ไปสิวะ เสียเวลากูนะไอ่สัส""กูเห็นมึงชอบลงคลิปเด็กตีกันนี่หว่า" เรนยิ้มบอก "ไม่อยากจะไปถ่ายพวกกูเล่นไอ้พวกนั้นหน่อยเหรอ?""ช่างแม่งสิวะ" ก็อตยังไม่สนใจอยู่ดี "กูอยากถ่ายกูก็ไปเองแหละ""แต่ครั้งนี้กูบังคับว่ะ" ความอดทนของก็อตหมดลงเสียแล้ว ไม่รู้ว่าหวงกล้องหรือว่ารำคาญกับคำพูดของเรนกันแน่ แต่นั่นก็ทำให้ก็อตถึงกับรุดหน้าเข้าไปหาอีกฝ่าย พร้อมหมัดขวาที่ง้างไว้แน่นหวังจะซัดเต็มแรงอย่างฉับไว“หมับ” ทว่า จู่ๆ มือซ้ายของชายคนหนึ่งกลับยื่นเข้ามาจับหมัดนี้ไว้ได้อย่างทันท่วงที และเมื่อหนุ่มแว่นแหงนหัวขึ้นมอง ก็ได้พบกับหนึ่งในนักเรียนอิสลามศรีธรรมราชคนหนึ่ง ผู้มาพร้อมรูปร่างสูงใหญ่ระดับมหึมา และด้วยแรงบีบอันหนักหน่วงนี้เอง ถึงกับทำให้ก็อตต้องกัดฟันอดทนด้วยความเจ็บปวดเลยทีเดียว"..." ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ทั้งสิ้น ในขณะที่มือซ้ายนั้นจับหมัดไว้แน่น แขนขวาของชายร่างยักษ์คนนี้ก็ชูสูงขึ้นไปบนอากาศ ทำมุม ๙๐ องศา ก่อนจะใช้ฝ่ามืออันใหญ่โต ฟาดสันมือเข้าไปยังหลังคอของก็อตอย่างรุนแรง จนทั้งร่างของหนุ่มแว่น ถึงกับต้องร่วงลงไปสลบกับพื้นภายในพริบตาเดียวเท่านั้น“!!!” เมื่อได้เห็นถึงพลังอันเหลือล้นนี้ เพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว"พี่คนนี้ชื่อพี่ยี เรียกสั้นๆ ว่าบังยี เป็นคนพูดน้อยต่อยหนักน่ะ" เรนอธิบายด้วยท่าทีเยาะเย้ย "จะกลับก็เชิญนะ แล้วแต่เลย" และตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แผ่นหลังของทั้งติ๊ก กฤต และซัน ต่างก็มีใบมีดของโรงเรียนคู่กรณี จ่ออยู่ที่เอวอย่างหน้าหวาดเสียวเสียแล้ว ทั้งสามไม่มีทางเลือกใดๆ นอกจากต้องเดินตามแผนของเรนเท่านั้น"เออ พูดกันดีๆ ก็รู้เรื่องนี่หว่า”
วัยรุ่นหิมพานต์บทที่ ๖ ลูกเตะ
ณ พื้นที่ป่ารกร้างแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับสุวัฒนา ถึงแม้บรรยากาศนั้นจะดูไม่น่าอภิรมย์นัก แต่กระนั้น ที่นี่ก็ถูกเลือกเป็นลานประลองของลูกผู้ชายทั้งสองคน คนแรกคือกัน ลิงขาวผู้มาพร้อมเหมันตพร ส่วนอีกหนึ่งคือกันย์ ชายผู้มีพลังเตะอันล้นเหลือ และขณะนี้ การต่อสู้ของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดเสียแล้ว"อั่ก" ในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น กันย์ก็สามารถกระโดดเข้ามาประชิดตัวอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว กันที่ยังตั้งตัวไม่ทัน ก็โดนลูกถีบขวาของอีกฝ่ายกระแทกเข้าที่ท้องน้อยติดต่อกันถึง ๒ ดอก แต่นั่นก็ยังถือว่าเบากว่าปกติ เพราะถ้าไม่อย่างงั้น ป่านนี้ เขาคงกระเด็นลอยออกไปไกลแล้ว"ย๊ากกกกกกกกก" หลังจากตั้งสติซัก ๒ วินาที ประสาทรับรู้ของลิงขาวก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาสามารถตั้งแขนสองข้างการ์ดรับลูกถีบลูกที่ ๓ ของกันย์เอาไว้ได้ ใช้แรงทั้งหมดผลักมันออกไป ก่อนจะยกขาขวาขึ้นมา ถีบสวนเข้าไปที่กลางอกของกันย์เต็มแรง จนคู่ต่อสู้ถึงกับต้องถอยร่นลงไปซักระยะเลยทีเดียว ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ลิงขาวต่อด้วยหมัดขวาตรงเข้าไปกลางใบหน้า แต่กันย์รุ่นพี่กลับสามารถหักคอหลบได้อย่างฉิวเฉียด กันรุ่นน้องยังคงละเลงหมัดเข้าไปไม่มีหยุด ทว่า อีกฝ่ายกลับหารู้ไม่ว่า ในขณะที่หันคอหลบอยู่นี้เอง มือทั้งสองของกันย์ก็กำลังพนมไว้ที่กลางอกพร้อมร่ายคาถาออกจากปากเรื่อยๆ โดยไม่เสียสมาธิแม้แต่น้อย"โอม มะสาคะ ระอิดัง อนสะกะตะคิริตัง ระอิดัง คิคังติ" เมื่อร่ายคาถาจบ เรี่ยวแรงของกันย์ก็เหมือนเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาเลิกหลบและใช้หน้าเข้ารับหมัดของกันไว้แทนด้วยความเด็ดเดี่ยว เพื่อใช้จังหวะที่กันกำลังชักมือกลับ เตะขวาเข้าไปที่สีข้างของกันอย่างรวดเร็วติดต่อกันหลายครั้ง ขนาดที่ว่ากันยังหาจังหวะหลบไม่เจอ ได้แต่ถอยออกไปเรื่อยๆ และขณะเดียวกัน กันย์ก็ยังคงพนมมือและร่ายคาถาซ้ำอีกรอบพร้อมการโจมตีนี้"...อนสะกะตะคิริตัง ระอิดัง คิคังติ..." เมื่อร่ายคาถาจบเป็นครั้งที่ ๓ กำลังของกันย์คงเพิ่มขึ้นมาจนขีดสุดแล้ว สายตาที่ดูจริงจังพร้อมขาซ้ายที่ง้างไปข้างหลังแสดงถึงการโจมตีครั้งต่อไป แต่ก่อนที่กันจะตั้งรับทัน ก็สายไปเสียแล้ว"ย๊ากกกกกกกกกก" ขาซ้ายของกันย์ที่ง้างเต็มที่ เตะสูงเข้าไปยังก้านคอของกันเต็มๆ อย่างรุนแรงยิ่งกว่าครั้งอื่น พลังขาอันมหาศาลนี้ สามารถทำให้ลิงขาวถึงกับกระเด็นลอยออกไปกลางอากาศเลยทีเดียว โชคยังดีที่เขาตั้งสติได้ ใช้ขาซ้ายยันพื้นเอาไว้ได้ก่อนจะลอยออกไปไกลกว่านี้ หลังจากสู้กันมาอย่างยาวนาน กันก็เป็นคนแรก ที่มีเลือดไหลออกทางจมูกแล้ว"แฮ่กๆๆๆ" กันเหนื่อยหอบพลางใช้มือขวาปาดเหงื่อบนหน้าผาก "แรงพี่... แฮ่ก มันเยอะขึ้นรึเปล่าเนี่ย... แฮ่ก?""คิดไปเองมั้ง" ฝั่งกันย์ก็เหงื่อออกพลั่กๆ เช่นเดียวกัน "ยอมแพ้แล้วรึไง?""เหอะ" กันย์ยิ้มรับ "จะให้ยอมแพ้คนที่ยังไม่เอาจริงอ่ะ ผมไม่เอาด้วยหรอก""ปากดีนะมึงเนี่ย!" กันย์เริ่มบันดาลโทสะอีกแล้ว "ไอ้เหี้ย!!! กูก็นึกว่าจะแน่อย่างที่มึงพูด!!!""มันแน่อยู่แล้วสิ" กันยิ้มบอก "ก็เพื่อเป็นชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโรงเรียนนี้ไงล่ะ!!!""อย่าปากดีนักไอ่สัส" กันย์คงรำคาญคำพูดของกันเต็มทีแล้ว ในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น พลังขาอันมหาศาลก็นำพาร่างของกันย์กระโดดมายืนอยู่ต่อหน้ากันแล้ว “!!!” สติคือสิ่งสำคัญ เขารีบตั้งการ์ดป้องกันตามสัญชาตญาณ ทว่า อีกฝ่ายกลับรู้ทัน กระโดดข้ามหัวมาอยู่ข้างเบื้องหลังกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปเตรียมตั้งรับได้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะรุ่นพี่คนนี้นั้นเร็วกว่าเป็นเท่าตัว เมื่อได้จังหวะ กันย์จึงเตะกลับเป็นรูปวงกลม เข้าไปที่กลางหลังของกันอย่างรุนแรง จนลิงขาวเป็นอันต้องกระเด็นไกลออกไปเช่นเคย“ตู้มมมมมมมม”"คนปากดีน่ะ" กันย์บอก "กูเกลียดก็จริง"/แรงขึ้น!?/ กันยังลุกขึ้นมาไหว แต่ก็ตามเคย เพราะเขาต้องพบกับกันย์ที่กระโดดลงมายืนอยู่ต่อหน้าแบบไม่ทันให้ตั้งตัวแล้ว คราวนี้ อีกฝ่ายเลือกที่จะเตะขวาเข้าที่สีข้างจนกันต้องไถลออกไปข้างหลัง ก่อนกระโดดเข้ามาเตะใส่อีกลูกโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น แต่การกระโดดครั้งถัดมา กันกลับสามารถต่อยหมัดซ้ายสวนกลับได้ก่อน แต่ก่อนที่จะซ้ำได้อีกหมัด เขาก็ถูกเท้าขวาของกันย์ถีบเข้าใส่เต็มๆ ที่กลางอกอย่างรุนแรง จนเป็นอันต้องกระเด็นออกไปอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้"แต่ถ้าปากดีแล้วไปเสือกเรื่องชาวบ้าน!!!" กันย์มายืนต่อหน้ากันแล้ว "ทำตัวเรื้อนๆ แล้วยังมาเสือกดูถูกศักดิ์ศรีคนอื่น ทำเป็นเรื่องเล่นๆ เนี่ย กูล่ะเกลียดเหี้ยๆ เลยล่ะ!!!"/เร็วขึ้น!?/ กันเหมือนจะคิดอะไรออก แต่ในสนามรบ ศัตรูคงไม่ปล่อยเวลาที่เหลือให้อีกฝ่ายเป็นแน่ เขายังคงยืนการ์ดรับลูกเตะของกันย์ ที่ยังกระหน่ำเตะเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และดูท่าคงจะไม่มีวันหยุดจนกว่าแขนจะหักไปข้างแน่ๆ แต่กระนั้น ลิงขาวก็กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจถึงแม้จะต้องโดนความเสียหายหนักเพียงใดก็ตาม"พี่ไปแค้นผมมาจากไหนเนี่ย!!!" กันถามด้วยความฉงนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก "ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะ!""ไม่ทำเหี้ยไร!!! สำหรับกูแล้ว ไอ้คนที่กูเหม็นขี้หน้า ไอ้คนที่ทำตัวเรื้อนใส่คนอื่นนี่ย!!!" กันย์พูดขณะระดมถีบไปเรื่อยๆ "ก็แค่ถีบออกไปให้ไกลๆ ไม่ต้องเห็นหน้าก็พอแล้ว!!!""ถ้างั้นก็เอาจริงซะทีเซ่!!!" กันยังคงท้าอยู่ แม้จะยังโดนเตะมาเรื่อยๆ ร่วมสิบครั้งแล้ว "อั่ก...""เป็นอะไรไป?" กันย์ถามในฐานะผู้ได้เปรียบ "จะยอมแพ้ก็ได้นะ คนอย่างมึงมันมีดีที่ปากแค่นั้นแหละ""บอกแล้ว... บอกแล้วไง..." กันยังคงรับลูกเตะมาเรื่อยๆ จนสภาพนั้นเหนื่อยอ่อนอย่างแรงแล้ว "บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าเพื่อชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด...""ไอ้เด็กเหี้ย!!!" กันย์เดือดสุดขีด พร้อมจะเตะเข้าไปอีกทีอย่างแรงที่สุดแล้ว "มึงอย่ามาอวดดีกับ..."/ตอนนี้ล่ะ!!!/ กันคิด"ย๊ากกกกกกกกกกก" กันย์เตรียมตัวจะโจมตีครั้งต่อไปแล้ว"ลูกเตะเหมันต์ทะยานนภา!!!" ดั่งปาฏิหาริย์ หลังจากที่ได้แต่ตั้งรับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวมาเนิ่นนาน คนที่เหมือนจะไม่สามารถหาช่องว่างในการสวนกลับลูกเตะอันรวดเร็วนี้ได้ ก็มีโอกาสในการใช้ท่าไม้ตายใหม่เสียที ในจังหวะที่กันย์กำลังชักขาขวากลับมายืน พร้อมๆ กับยกขาซ้ายขึ้นมาหวังจะถีบใส่กันอย่างเต็มแรงนั้นเอง อีกฝ่ายก็ใช้เวลาอันน้อยนิดนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาเรียกสติที่หลุดลอยกลับคืนมาอีกครั้ง ปล่อยแขนสองข้างที่ตั้งการ์ดลง กวาดขาขวาเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาไปข้างหลังทำมุม ๑๘๐ องศา ตะแคงเท้าที่อยู่ข้างหลังไว้ และในขณะเดียวกัน ลวดลายสีเขียวอันสวยงามของเหมันตพรก็ค่อยๆ ปรากฏเต็มทั่วบนขาข้างนั้น พายุหมุนลูกเล็กๆ กำลังก่อตัวขึ้นใต้ฝ่าเท้าของกัน และในจังหวะที่กันย์กำลังจะยกขาถีบตรงเข้าใส่ตัวเขานั้นเอง สายลมที่พัดพาจากฝ่าเท้าของลิงขาวก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ก่อตัวเป็นพายุอันโหมกระหน่ำ และเมื่อถึงเวลาอันสมควร เหมันตพรก็ได้ฤกษ์สำแดงเดชแล้ว สายลมที่ถูกปล่อยออกมาอย่างหนักหน่วงนั้น สามารถเป็นแรงสนับสนุนให้กับขาของกันได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมทั้งความรุนแรงและความรวดเร็วให้กับลูกเตะนี้ และภายในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พายุลูกนี้ก็ส่งให้กันสามารถเตะตัดเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง จนในที่สุด ร่างของอีกฝ่ายถึงกับต้องกระเด็นออกไปไกลอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยทีเดียว"อั่ก!!!" ลูกเตะของกันนั้นสามารถทำให้กันย์กระเด็นออกไปไกลเกือบครึ่งสนามฟุตบอล มิหนำซ้ำ เมื่อตกลงมากระแทกพื้นด้านล่าง ร่างกายของเขายังบอบช้ำจากการโจมตีเมื่อครู่ ถึงขั้นว่าเลือดไหลออกปากไม่หยุดทีเดียว เรียกได้ว่าแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจริงๆ แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่าความแรงของท่าเตะนี้ก็คือความเร็ว ลูกถีบเหมันต์ฟาดปฐพีอาจมีพลังมากกว่านี้หลายเท่าตัวนัก ถึงอย่างนั้นกว่าจะเตรียมการเสร็จก็ยังต้องใช้เวลา แต่ลูกเตะเมื่อครู่นี้ ใช้เวลาเพียง ๓ วินาที เท่านั้น นับว่าเป็นกลยุทธอันแสนแยบยลของกัน ที่เอาไว้รับมือกับศัตรูที่ว่องไวกว่าอย่างรุ่นพี่คนนี้นี่เอง"หนอย..." กันย์ได้แต่นอนไปกับพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความรู้สึกเจ็บใจอย่างแรง "ขาไม่ยอมขยับแล้วเหรอ...""หมดเวลาแล้วเหรอ" กันเดินตรงมาหาเรื่อยๆ "เท่าที่รู้ๆ คือ คาถา ๑ บท น่าจะใช้เวลาประมาณนาทีนึง นี่คงเลยมาเยอะแล้วสิ""เหอะ" ตอนนี้ กันย์ได้แต่ยิ้มเยาะด้วยความคลาดหวัง "แพ้หมดรูปเลยจริงๆ""ถ้าพี่ใช้พรก็อาจจะชนะก็ได้นะ" กันเดินลงมานั่งข้างๆ "อูยยย แต่ถึงจะใช้ตอนนี้ ผมก็คงไม่ไหวเหมือนกันแหละ""นี่มึงรู้จักเจียมตัวตัวด้วยเหรอวะ?" กันย์ประชด "แต่ถ้าฝีมือระดับนี้แล้ว ที่มึงอวดเมื่อกี้ก็คงไม่โม้เท่าไรหรอก""ไม่หรอก" กันยิ้มบอก "ถ้าผมไม่บังเอิญรู้เคล็ด ป่านนี้อาจโดนหามส่งโรง'บาลแล้วก็ได้""?""ตอนที่เจอกันครั้งแรก พี่เอาแต่ถีบผมอย่างเดียว แต่พอมาสู้กันตรงนี้จริงๆ ส่วนใหญ่พี่จะเตะผมมากกว่า" กันอธิบาย "พี่คงคิดว่าผมคงตายคาลูกถีบนี้แน่ๆ แต่พอผมทนได้ พี่เลยเอาความเร็วเข้าสู้ เป็นการใช้ลูกเตะกระหน่ำไม่ให้ตั้งตัวไปเรื่อยๆ""..." กันย์ได้แต่นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ"ลูกเตะของพี่ตอนซ้อนคาถากัน ๓ ชั้น ตอนตั้งรับอยู่ ผมก็นับเวลาจนสรุปได้ว่าเตะหนึ่งครั้งใช้เวลา ๓ วิ" กันยังอธิบายไปเรื่อยๆ "แล้วผมก็ลงทุนลองโดนพี่ถีบซักครั้ง ที่มันแรงกว่าลูกเตะ ก็เพราะพื้นที่หน้าตัดมันเยอะกว่า พี่ก็เลยใช้ลูกเตะเป็นการโจมตีธรรมดา ส่วนลูกถีบเป็นการโจมตีหวังผล ซึ่งกว่าจะรวมแรงไว้ที่ฝ่าเท้าได้หมด ก็ใช้เวลาประมาณ ๗ วิ""..." กันย์ยังคงอึ้งและทึ่งอยู่เรื่อยๆ"ผมก็เลยตั้งใจยั่วพี่ให้พี่ใช้ลูกถีบตอนกำลังเตะอยู่ ผมเลยมีเวลาแค่ ๓ วิ ในการสวนะหว่างที่พี่กำลังจะถีบ" กันอธิบาย "ถ้าผมใช้ลูกถีบเหมันต์ฟาดปฐพี พี่ก็คงหลบได้อยู่ดี ดีไม่ดีตอนบินขึ้นไปก็คงโดนพี่ถีบร่วงลงมาก่อน แต่ลูกเตะเหมันต์ทะยานนภา ตั้งแต่ผมใช้ท่านี้มาก็ไม่เคยมีใครหลบได้ซักคนเดียวเลยนะ" "..." กันย์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ "มึงเป็นใครกันแน่วะ?""ชื่อของผมคือกิตติ เหมันต์วงศ์" กันยิ้มบอกพร้อมสายตาที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องนภา "ชายผู้ที่จะยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือกว่าใครๆ ในโรงเรียนนี้""เถียงไม่ออกเลยว่ะ หึ" ในที่สุด กันย์ก็ยอมรับในตัวกันเสียที "ตัวจริงกับโลกออนไลน์มันต่างกันมากจริงๆ""หา?" กันสงสัย"ช่างแม่ง" กันย์เหมือนลุกขึ้นได้อีกครั้ง แต่ขาซ้ายยังคงเดินได้ไม่ค่อยดีนัก "พี่ฟัก กลับไปซ้อมเหอะ!!!""คือผมจะบอกว่าพี่ฟักหายไปไหนตั้งนานแล้วก็ไม่รู้อ่ะ" กันบอกพร้อมหลักฐานชัดเจน"อูยยยย" กันย์ยังคงเจ็บปวดจากการต่อสู้เมื่อกี้ "ไอ้พี่ฟัก...""เออ เดี๋ยวผมหามไปส่งโรงบาลก็ได้นะ" กันแสดงน้ำใจต่อนักกีฬาที่ดีหลังจบการแข่งขัน"โทษทีละกัน" กันย์ยังรู้สึกเกรงใจ"โทษไร ผมน่ะแหละที่เตะหน้าพี่" กันยิ้มบอก "เอาเป็นว่าวันนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน มาเดี๋ยวกลับโรงเรียนกัน""ไม่ได้กลับหรอกพวกมึง!!!" เสียงอันคุ้นหูดังก้องเข้ามาในหูของทั้งสองอย่างชัดเจน และทันทีเมื่อพวกเขาหันกลับไปตามต้นเสียงนี้ สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือใบหน้าที่แลดูคล้ายตัวแย้ มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น คือเรนนั่นเอง แต่ถ้าแค่เรนคนเดียวพวกเขาคงปล่อยผ่านเลยไปแบบไม่คิดอะไรมาก ทว่า ข้างหลังของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยนักเรียนชายอิสลามศรีธรรมราชจำนวนนับสิบ ที่เดินตามมาออกมาจากพงหญ้าอย่างพร้อมเพรียงดูน่าเกรงขาม นั่นทำให้แววตาของทั้งสองจริงจังขึ้นทันตาเห็น ทว่า สิ่งที่ทำให้กันตกใจอย่างถึงที่สุด กลับไม่ใช่เหล่านักเลงต่างโรงเรียนหรือเรน แต่เป็นตัวประกันของพวกเขา นั่นคือเพื่อนๆ ของกน ติ๊ก กฤต ซัน และก็อตที่กำลังอยู่ในความควบคุมของอีกฝ่าย อย่างละคน โดยมีมีดสั้นอันแหลมคมจ่อคออยู่อย่างน่าหวาดเสียวกันทุกคน และเมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะอันแสนอัปลักษณ์ของเรนเข้าไปอีก ก็ยิ่งจุดชนวนความแค้นให้กับกันเข้าไปอีก"ไอ้เรน..." กันย์ถาม "มึงมาทำอะไรที่นี่ ...กับไอ้เหี้ยพวกนี้ด้วย""ก็จะอะไรอีกล่ะวะ" เรนยิ้มบอก "ก็มาหาพวกมึงไง""แล้วมึงรู้ได้ไง..." กันย์ถามต่อ "ว่าที่นี่""ก็มีคนใจดีคาบข่าวมาบอกน่ะ" เรนยิ้มเยาะ "โอ๊ะ พูดมากคงไม่ได้หรอก แต่โชคดีนะ พวกมึงหมดสภาพทั้งคู่งี้จะได้เล่นกันง่ายๆ หน่อย""นี่มึงคิดจะมาเล่นพวกกูสองคนในสภาพนี้เหรอ..." กันย์ถามต่อ "ตุ๊ดว่ะ""มึงเอาเพื่อนกูไปทำเชี่ยไร!!!" กันตะโกนด้วยความโกรธสุดขีด"ต้องขอบอกก่อนนะ" เรนบอก "กูเอาไอ้พวกนี้มาเผื่อไว้เท่านั้นแหละ ก็ไม่นึกนะว่ามึงจะเป็นฝ่ายชนะ""หา?" กันสงสัย"ถ้าไม่มีไอ้หน้าเหี้ยพวกนี้ มึงก็คงอาละวาดใส่พวกกูไปแล้วล่ะ พลังของมึงกูก็ไม่ค่อยแน่ใจนะว่ามันระดับไหน" เรนอธิบาย "แต่ของบอกไว้ก่อน ถ้ามึงบังอาจขยับตัวซักนิดล่ะก็...""หนอยยยย" กันกัดฟันโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะนิ่งไปซักพัก “...”“งั้นจะให้ผมทำอะไรล่ะ?”/กัน.../ เพื่อนของกันต่างคิดเป็นเสียงเดียว"กัน..." กันย์เรียกรุ่นน้อง "มึงอย่ามายุ่งเลย ไอ้พวกนั้นมันมีปัญหากับกูคนเดียว...""ก็แล้วมึงมาเสือกไรด้วยล่ะวะ!!!" เหมือนความโกรธแค้นนี้จะมีสะกิดอะไรบางอย่างกับจิตใจของกัน ถึงจะนั่งคุยปรับความเข้าใจกันได้เมื่อไม่นานมานี้แล้ว แต่คำพูดของกันย์กลับสะกิดต่อมอะไรบางอย่างในตัวเขา เป็นผลให้หมัดของลิงขาวกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของรุ่นพี่ซะเต็มแรง เล่นเอาทุกคนในที่นี้ประหลาดใจอย่างที่สุดเลยทีเดียว"นี่มึง..." กันย์สงสัยด้วยความโกรธแค้นที่เพิ่มมากขึ้น "เป็นเหี้ยไรขึ้นมาวะ!!!""ว่ากูปากดี!!! มึงก็ปากดีไม่แพ้กันนี่หว่า!!!" กันใช้แขนสองข้างจับไหล่กันย์ไว้ "มีปัญหากับมึงคนเดียวเหรอ? งั้นไอ้เหี้ยพวกนี้ก็กากขนาดแพ้มึงเลยเหรอวะ!!! ๕๕๕๕๕๕""มึงเป็น..." กันย์คิด พร้อมๆ กับหัวของกันที่ยื่นมาข้างหูตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ “...”"ที่แท้ก็แค่นี้เองเหรอวะ!?" กันถามพร้อมยกขาขวาถีบกันย์จนไถลออกไป "ไอ้อิสลามศรีธรรมาราชเหี้ยไรเนี่ย!!!""หือ?" เรนที่ได้แต่ยืนดูเริ่มสะกิดใจ เหมือนกับนักเรียนอิสลามศรีธรรมราชคนอื่นๆ"กูก็คิดว่าจะโหดแค่ไหน" กันศอกหมัดซ้ายเข้าไปอีกที "ถ้าแค่นี้มึงอย่ามาท้ากูเลยว่ะ""ไอ้เหี้ย" บังยีที่เป็นใบ้มาตลอด พูดได้ด้วยน้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวเสียที"อยากเข้ามาก็เชิญเลย กระจอกยังกะหมางี้กูไม่สนหรอก!!!" สิ้นเสียงคำพูดอันเหยียดหยามและดูหมิ่นของกัน ร่างของกันย์ก็กระเด็นลอยออกไปไกลด้วยลูกถีบลูกสุดท้ายอันหนักหน่วงของอีกฝ่าย จนในที่สุด ชายหัวชี้คนนี้ก็หมดฤทธิ์เสียที ทำได้แค่เพียงนอนจมลงไปกับพื้นหญ้า ท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงของเหล่านักเรียนอิสลามศรีธรรมราชนับสิบ ทว่า สายตาเหล่านั้นกลับเปลี่ยนเป็นสายตาอันโกรธเกรี้ยวแทนในทันที เมื่อพวกเขาเลื่อนสายตามองไปยังตัวกัน ผู้ดูหมิ่นสถาบันของพวกเขาอย่างรุนแรงเมื่อครู่นี้เอง"อะไรวะ? หางจุกตูดแล้วเหรอพวกมึงอ่ะ?" ความอดทนของพวกเขาหมดลงทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ผ่านเข้าสู่รูหูทั้งสองข้าง เหล่านักเลงอิสลามศรีธรรมราชทั้งหมดต่างวิ่งกรูเข้าไปหาตัวกันอย่างพร้อมเพรียง ด้วยอารมณ์อันโกรธเกรี้ยวสุดขีดและพร้อมจะระบายได้ทุกเมื่อ พร้อมๆ กับละอองแสงสีทองที่เข้าปกคลุมร่างของพวกเขาจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้บางส่วนกลายร่างเป็นลิงหรือไม่ก็นรสิงห์อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาอันรวดเร็ว กันก็ถูกหมัดขวาของชายคนหนึ่งซัดเข้ากลางใบหน้าเต็มๆ เสียแล้ว นั่นถือเป็นการโจมตีเพียงครั้งแรก เพราะต่อจากนั้นเขาก็ถูกอีกคนถีบซ้ายเข้าที่ท้องน้อยจนต้องร่นถอยไป โดนหมัดขวาของคนแรกเข้าไปอีกหมัดอย่างจัง ก่อนที่จะถูกชายอีกสองคนร่วมมือกันผลักจนต้องล้มลงไปกับพื้น และเมื่อเขาร่วงหล่นลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงก่อเกิดเป็นมหกรรมรุมกระทืบอันยิ่งใหญ่ ฝ่าเท้านับสิบหลายคู่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือร่างของกัน ในขณะที่ลิงขาวได้แต่นอนเฉยๆ รับฝ่าเท้านั้นโดยทำอะไรไม่ได้ซักนิด ซึ่งก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาพูดออกไป"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เรนที่สังเกตการณ์อยู่หัวเราะอย่างได้ใจ "ปากดีก็โดนงี้แหละสัสเอ๊ย พวกมึงสองตัวเลยด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ" ในขณะเดียวกัน ข้างๆ เรนยังมีก็อตที่กำลังยืนอยู่โดยมีมีดจ่อคอด้วยเช่นกัน ทว่า สีหน้าของเขากลับเหมือนคนที่รู้สึกผิดผิดกับปกติ โดยมีติ๊กที่อยู่ทางขวาคอยชำเลืองตาดูอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเคย"เหี้ยเอ๊ย อยากเล่นแม่งชิบหายเลยว่ะ" ชายผู้ถือมีดสีดำจ่อคอซันอยู่พูด"เออนั่นดิ กูก็เหมือนกัน" คนข้างๆ ที่ยืนถือจ่อกฤตเห็นด้วย"เอ่อ... ปล่อยผมไปก็ได้นะครับ" กฤตเสนอความคิดเห็น "ผมไม่ไปไหนหรอก...""ไม่ต้องมาเสือก!!!" ทั้งสองตะโกนด่าอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมายใดๆ ทั้งสิ้น"งั้นก็ขอเสือกด้วยคนดิวะ" เสียงปริศนาดังขึ้นมาทางด้านหลังของนักเรียนอิสลามศรีธรรมราชสองคนนี้ ด้วยความตกใจจึงทำให้ทั้งสองรีบหมุนคอกลับไปดูอย่างฉับไว ทว่า ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับต้นเสียงนี้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะฝ่าเท้าซ้ายปริศนาข้างนี้ก็ได้เตะตัดเข้าไปที่ท้ายทอยของชายผู้โชคร้ายสองคนนี้อย่างรวดเร็ว ขนาดที่ว่าตายังมองไม่ทันและรุนแรงขนาดที่ว่า สามารถทำให้พวกเขาล้มหมดสติลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว ขณะนี้ นักเรียนอิสลามศรีธรรมราชอีกสองคนที่กำลังยืนเอามืดจ่อคอติ๊กกับก็อต รวมถึงเรนได้แต่ยืนอึ้งด้วยประหลาดใจสุดขีด เมื่อผู้ที่สามารถล้มเพื่อนของพวกเขาได้ในเวลาชั่วพริบตาคือกันย์ ที่ควรจะสลบลงไปนอนหมดสติอยู่บนพื้นหญ้าตั้งนานแล้ว ดูเหมือนหนุ่มหัวชี้คนนี้จะจงใจเล็งโจมตีไปที่ท้ายทอย เพราะถ้าเตะสุดแรง ป่านนี้มีดที่จ่อคอกฤตกับซันคงจะพลาดเฉือนเข้าไปยังเส้นเลือดใหญ่จนมอดม้วย ไปนานแล้ว จึงเป็นโชคอันดีที่พวกเขาสองคนรอดจากเงื้อมมือยมทูตได้เสียที"ไอ้กันย์!!!" ยังเหลืออีกสองคนที่ต้องการความช่วยเหลือ กันย์จึงต้องเร่งความเร็วเข้าไปอีก เพียงแค่ใช้ขาซ้ายในการกระโดดเพียงครั้งเดียว เขาก็มายืนอยู่ต่อหน้าชายผู้ถือมีดจ่อคอติ๊กที่ห่างออกไปถึง ๓ ม. ในเวลาชั่วพริบตาแล้ว หนุ่มหัวชี้ไม่รีรอ ใช้ขาขวาเตะมือของชายคนนั้นอย่างรุนแรง และเมื่อมีดที่ถืออยู่ร่วงไปกับพื้นแล้ว เขาจึงได้โอกาส เตะตัดใส่หน้าอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างแรงจนกระเด็นออกไปเลยทีเดียว ในที่สุดก็เหลือเพียงคนเดียว กันย์หันคอชำเลืองมองเป้าหมายที่ห่างออกไปประมาณ ๒ ม. ก่อนที่ขาขวาของเขาจะถูกใช้ในการกระโดดอีกครั้ง แต่ถ้าจะพูดให้ถูก การกระโดดที่นำพาร่างของตนลอยสูงขึ้นไปสู่ท้องนภาความสูงเทียบเท่าอาคาร ๒ ชั้น คงจะเรียกว่าการเหาะเสียมากกว่า"อย่าเข้ามานะเว้ย!!!" ถึงอีกฝ่ายจะตะโกนห้ามเพียงใด แต่ก็คงไม่สามารถหยุดแรงโน้มถ่วงของโลกที่นำพาร่างของกันย์ให้เข้ามาใกล้ตัว เขาทุกทีได้ ด้วยความลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ชายคนนั้นเลือกที่จะละทิ้งเป้าหมายในมือ ใช้มีดที่จ่อคอก็อตอยู่ ปาขึ้นไปใส่หนุ่มหัวตั้งบนฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหามากมายนัก เพราะเขาสามารถควบคุมสมาธิ ในการใช้ขาซ้ายเตะใส่ด้ามมีดที่ลอยขึ้นมาออกไปอย่างแม่นยำ และในที่สุด เข่าขวาของกันย์จึงได้ลอยเฉี่ยวหัวก็อต ลงมากระแทกหน้าของชายผู้โชคร้ายคนนี้เสียที ด้วยความรุนแรงชนิดที่ว่าอีกฝ่ายถึงกับต้องกระเด็นลอยออกไปไกลเลยทีเดียว"นี่มัน..." เรนได้แต่ยืนตกตะลึง "เป็นไปได้ไงวะ!?....""เฮ้ย!!!" กันย์ลงมายืนข้างหลังก็อตอีกครั้ง ก่อนจะตะโกนไปหากันที่โดนรุมกระทืบอยู่ "ทางนี้เรียบร้อยแล้วนะ!!!""เหอะ... ใจมากนะพี่...”“วังวนวายุ!!!” ถึงแม้ฝ่าเท้ามากมายนับสิบจะยังคงกระหน่ำกระทืบลงมาใส่ร่างที่ได้แต่นอนนิ่งอย่างต่อเนื่อง ทว่า กันยังมีแรงที่จะเปล่งเสียงออกมาได้ พร้อมๆ กับลวดลายสีเขียวบนขาทั้งสองข้างที่เริ่มเปล่งแสงออกมา และเมื่อลวดลายนี้ปรากฏเป็นแสงสีเขียวอย่างชัดเจนแล้ว เรี่ยวแรงของลิงขาวก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าหนึ่ง สามารถใช้มือทั้งสองข้างจับขาที่กำลังจะลงมากระทืบเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ ขณะเดียวกันกับที่สายลมอ่อนๆ เริ่มพัดพารอบๆ ตัวกันโดยไม่มีสาเหตุอันใดทั้งสิ้น“ตู้มมมมมมมมมม” และเมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ จากสายลมอ่อนๆ ที่ไร้ซึ่งพลังใดๆ ทั้งสิ้น บัดนี้ สายลมเหล่านั้นก็เริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และภายในเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น สายลมก็ได้ก่อกำเนิดกลายเป็นพายุหมุนกระหน่ำอันรุนแรง พัดพาและหมุนรอบๆ กายของกันเป็นดั่งเกราะป้องกันอันแกร่งกล้า เข้าปะทะกับเหล่าศัตรูที่กำลังรุมโจมตีนับสิบในทันที ช่างเป็นพายุที่ทรงพลังยิ่งนัก มันรุนแรงชนิดที่ว่าสามารถพัดพาพวกอิสลามศรีธรรมราชทั้งหมด จนกระเด็นกระดอนออกไปไกลคนละทิศละทางเลยทีเดียว "เอ้า จะเอาต่อยัง?" ที่สำคัญ มันยังแรงพอที่จะทำให้ทั้งหมดเป็นอันต้องถูกจัดการไปได้ในคราเดียว ต่างต้องนอนไม่ได้สติเกลื่อนทั่วบริเวณนี้ ช่างเป็นปราการอันแกร่งกล้า สมกับชื่อวังวนพายุเสียจริงๆ"ใจมากนะพี่!!!" กันพนมมือพร้อมตะโกนข้ามหัวดงศัตรูไปหากันย์ "ผมว่าแล้วว่าพี่ต้องทำได้!!!""แค่นี้จิ๊บๆ ว่ะ" กันย์ถ่อมตัว"ยังไงก็ขอบใจมากครับ" ติ๊กพนมมือไหว้ "ถ้าไม่มีพี่ผมก็คง...""ใจมากพี่!" กฤตวิ่งเข้ามาขอบคุณอย่างรวดเร็ว "พี่นี่สุดยอดเลยจริงๆ ว่ะ""พวกมึงไม่ต้องไรมากหรอก" กันย์ยิ้มบอก "เป็นพี่เป็นน้องกันมันก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา""ขอบคุณมากนะครับ..." เสียงของก็อตดังมาจากข้างหลัง"หือ?" กันย์รีบหันไปมอง"ถ้าไม่มีผม..." สายตาของก็อตที่ก้มลงมองพื้น แสดงถึงความเสียใจอย่างชัดเจน "เรื่องทั้งหมดนี่ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก""ยังไงกัน?" กันย์สงสัย "มึงก็แค่เอาคลิปที่...""ที่ต้องถามมันกูต่างหากโว้ยยยย!!!" เรนตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด "พวกมึงสองตัว... เมื่อกี้ยังต่อยกันอยู่เลยไม่ใช่รึไง... แล้วทำไม!!!""ก็ต้องขอบคุณไอ้เหี้ยนั่นล่ะนะที่คิดแผนทั้งหมด" กันย์ยิ้มบอกพลางชำเลืองสายตาไปทางกัน"แผน?" เรนสงสัย"ตอนที่มันจับไหล่กูน่ะ" กันย์อธิบาย "อยู่ๆ มันก็บอกว่า ให้แกล้งตายแล้วไปช่วยไอ้พวกนี้ กูกับมันก็เลยแกล้งให้พวกมึงเห็นว่ากูโดนมันยำจริงๆ พอกูล้มก็อาศัยจังหวะที่พวกมึงรุมกระทืบกัน พักเหนื่อยพร้อมๆ กับร่ายคาถา จะได้เอามาช่วยไอ้พวกนี้ไงล่ะ""..." เรนได้แต่ยืนอึ้งอยู่คนเดียว/โง่ๆ อย่างมันก็ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า/ ติ๊กคิด/นี่พวกมัน.../ ก็อตคิด /วางแผนช่วยกูเหรอ?/"มึงน่ะ ต้องเจอกู" ผู้ที่ยืนท้ากันย์ท้ายอยู่ข้างหลังไม่ใช่ใครที่ไหน คือบังยี หัวหน้าขอเหล่างอิสลามศรีธรรมราชนั่นเอง รูปร่างอันสูงใหญ่ของเขาทำให้กันย์ที่แต่เดิมสูงอยู่แล้ว ดูตัวเล็กลงทันตาเลยทีเดียว"บังยี่เหรอ?" ทั้งสองคงเคยพบกันมาก่อน "มึงยังไม่ลงจากส้นสูงนั่นอีกเหรอ?" ความสูงนั้นเป็นเพียงสิ่งลวงหลอก เพราะแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้บังยี่สูงคือรองเท้าหนังเสริมส้นชนิดพิเศษ สูงพิเศษในที่นี้คือ ส่วนส้นสูงนั้นสูงเกือบเท่าอกของกันย์เลยทีเดียว นั่นเท่ากับว่า ส่วนสูงจริงๆ ของบังยี่อาจไม่ถึง ๑๕๐ ซม. เลยก็เป็นได้"กูไม่ออก" บังยี่ตอบเต็มเสียง"ไม่ใช่ไม่ออก" กันย์โต้ "กูบอกให้ลง""กูไม่ออก" บังยี่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ "กูได้ตำแหน่งนี้มาอย่างยุติธรรม""เป็นเหี้ยไรมึงเนี่ย?" กันย์ยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก"ถ้ากูออกแล้วกูจะเอางบประมาณที่ไหนมาแดก!!!" ด้วยความโกรธจากอะไรบางอย่างที่ไม่อาจทราบได้ เป็นเหตุให้บังยี่ชูแขนแบมือขวาขึ้นฟ้า ก่อนจะฟาดลงมาตบเข้าใส่กันย์อย่างรวดเร็ว ทว่า รวดเร็วแค่ไหนก็มิอาจเทียบเท่ากันย์ เพราะตอนนี้ คู่ต่อสู้ของบังยี่ได้กระโดดลงมายืนอยู่ข้างหลังแล้ว พร้อมๆ กับขาขวาของเขาที่ยกขึ้นมาเล็งไปที่กลางแผ่นหลังหลังของอีกฝ่าย เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งถัดไปแล้ว"กูบอกกี่ครั้งแล้ว?" กันย์ถาม "ว่ามึงตามความเร็วกูไม่ทันหรอก""๑ ๒ ๓ ๔" กันที่ได้แต่ยืนมองไกลๆ เริ่มนับเลข"แล้วยิ่งมึงใส่ส้นสูงนั่น" กันย์เล่าต่อ พร้อมกับวงแหวนอักขระสีเขียวที่เริ่มปรากฏบนขึ้นเหนือฝ่าเท้าขวา"๕ ๖" "พอมึงหันมามันก็พอดีเป๊ะเลย" กันย์ยิ้มบอก พร้อมกับบังยี่ที่หันหลังกลับมาตามที่เขาคาดไว้"๗" เป็นดังคาดจริงๆ ส้นสูงของบังยี่นั้นเป็นผลต่อความเคลื่อนไหวของร่างกายจริงๆ เพราะกว่าเขาจะขยับข้อเท้าหันกลับมาหากันย์ทัน แทนที่จะมีเวลาชิงโจมตีก่อนซักครั้ง แต่จังหวะที่หันกลับมาอยู่ต่อหน้ากันย์ก็ช่างเหมาะเจาะเสียจริง สิ่งที่อยู่ต่อหน้าสายตาของเขา นั่นคือหนุ่มหัวชี้ที่ใช้ขาซ้ายในการกระโดดสูงขึ้นไปเหนือหัวบังยี่ และทันใดนั้น ฝ่าเท้าขวาของเขาที่ยกขึ้นมาเตรียมการอยู่เนิ่นนานก็ได้โอกาส ถีบเข้าใส่กลางหน้าบังยี่เต็มๆ ด้วยความรุนแรงอันมหาศาล นับว่าเป็นท่าที่ทรงพลังที่สุดของกันย์เลยก็ว่าได้ ร่างของชายร่างเล็กคนนี้ถึงกับต้องกระเด็นออกไปไกลจากส้นสูง พร้อมๆ กับวงอักขระสีเขียวแบบเดียวกับบนฝ่าเท้าของกันย์ ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นข้างล่างจากความสูงที่โกหกมาโดยตลอดในที่สุด เป็นไปตามที่กันสันนิษฐานไว้ ว่า ๗ วินาที คือเวลาที่กันย์จะสามารถถีบได้เต็มแรงด้วยพลังทั้งหมด และภายใน ๗ วินาทีนี้ ก็ได้ทำให้ในบริเวณป่านี้เหล่าเพียงเหล่านักเรียนสุวัฒนาเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่ ส่วนนอกนั้น มีแต่ร่างอันไร้สติของอิสลามศรีธรรมราชที่นอนกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น เท่านั้น แต่ถ้าจะนับกันจริงๆ คนทรยศอย่างเรนคงไม่นับเป็นพวกของสุวัฒนาแน่นอน"เออนี่" กันนั่งก้มลงไปหาคนที่เขาเพิ่งจะต่อยหน้าจนล้มลงไปกับพื้น "ใครมันตั้งไอ้เตี้ยนั่นเป็นหัวหน้าพวกมึงวะ""กูไม่รู้..." ชายผู้โชคร้ายยังใจดีบอก "รู้แต่มันไม่คู่ควร มันคอรัปชั่น..."/ชิบหายล่ะ.../ เรนคิดพร้อมก้าวถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว /ต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้/"จะไปไหนเหรอเพื่อนยาก?" ทว่า เรนคิดช้าไปหน่อย เพราะกันย์ได้กระโดดลงมายืนอยู่ข้างหลังเขาเสียแล้ว และเมื่อหนุ่มหน้ากระปอมหันกลับไปมอง ก็พบเพียงสายตาอันเคียดแค้นของอีกฝ่ายเท่านั้น"เรน?" กันย์ถาม "หน้ามึงเหี้ยไม่พอ สันดานมึงยังเหี้ยอีกเหรอวะ!?""กันย์..." เรนลนลานจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว "กูอธิบายได้...""ใช้กูเป็นเหยื่อล่อ" กันย์พูดต่อ "แถมยังจะมาเล่นงานตอนกูหมดสภาพอีก กูควรทำไงกับมึงดีวะ?"/...ชิบหายๆๆๆๆๆๆ/ เรนสาดส่ายสายตาไปรอบๆ เพื่อหาอะไรบางอย่างที่พอจะช่วยได้ /เอาไงดีวะๆๆๆๆๆ/" มันทำพวกผมกับพี่แบบเนี้ย" ซันเดินตามมาสมทบ “เอาแบบเสร็จเรื่องแล้วส่งวัดเลยดีมั้ยพี่""งั้นต้องไปซื้อไม้บรรทัดก่อนจะได้ส่งวัดได้" กฤตเหมือนจะเล่นมุก"จ่ะ" และเหมือนจะไม่มีใครขำ"อ๊ะ!" สายตาของเรนหยุดลงที่ก็อตที่กำลังยืนดูอยู่ด้วยความรู้สึกผิด /คิดออกแล้ว!!!/"ว่าไง?" กันย์ถามต่อ "น้องๆ เขาก็อยากมีส่วนร่วมว่ะ""ถ้าจะหาคนผิดน่ะ..." เรนชี้นิ้วไปหาก็อต "ไปหามันดีกว่า!!!""อะไรของมึงวะ?" กันย์หันกลับไปตามจึงได้พบกับก็อต "ไอ้ก็อต มึงมี่เอี่ยวไรด้วยวะ!?""ก็คนที่พากูมานี่ก็มันเองนี่แหละ!!!" เรนโยนความผิดให้ก็อตเพียงคนเดียว ก่อนจะนำกล้องของก็อตที่ห้อยอยู่ขึ้นมา "แล้วดูนี่สิ มันถ่ายรูปมึงโชว์รูตูดไว้ด้วย!!!""เฮอะ! ไอ้รูปนั้น เพื่อนกูมีหมดทุกเครื่องแหละวะ" กันย์ดูเหมือนไม่สบอารมณ์ ก่อนจะมองไปทางก็อต "แต่ไอ้ก็อต จริงเหรอที่มึงพาพวกมันมานี่""จริงครับ" ก็อตตอบไปตรงๆ "และคนที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดมันก็ผมเองนี่แหละ""นี่มันหมายความว่ายังไง?" กันย์ถาม"คลิปที่ผมเอาให้พี่ดูตอนเที่ยงน่ะ" ก็อตบอกความจริงทั้งหมดด้วยสีหน้าเศร้าสุดๆ "ผมใช้คาถารวมภาพกับรวมเสียงสร้างขึ้นมาเองครับ... เพื่อที่จะ... เพื่อคลิปคลิปเดียว...""..." กันย์ได้แต่ยืนอึ้ง ด้วยความโกรธจนลุกเป็นไฟ "ที่กูดีกับมึงมาตลอดนี่มันยังไม่พอรึไงวะ?""..." ส่วนติ๊กกับคนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองด้วยความอาลัย"ผมขอโทษพี่..." ก็อตดูจะสำนึกผิดจริงๆ "เพราะผม ผมมันโง่... ทำให้พี่กับกันมันเกือบตาย ผมขอโทษจริงๆ"/เออ นั่นแหละๆ/ เรนเริ่มดีใจผิดกับคนอื่นๆ /กูจะรอดแล้ว!/"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!!" กันย์เริ่มหมดความอดทนแล้ว"ใจเย็นก่อนเถอะพี่" ผู้ที่มาห้ามกันย์ไว้นั่นคือ กันที่เดินมาจับไหล่เขาเอาไว้นั่นเอง "ค่อยๆ คุยกันได้น่า""..." กันย์นิ่งไปชั่วครู่ "นี่มึงไม่โกรธบ้างรึไงวะ ที่มันทำงี้กับพวกเราน่ะ!!! ทำเหมือนเราเป็นของเล่นเงี้ย!!!""โกรธน่ะมันโกรธครับ" กันยิ้มบอก "แต่ผมสาบานไว้ว่า ต่อให้เพื่อนมันจะเป็นยังไง ผมก็จะไม่โกรธมันครับ""มึงจะสาบานเหี้ยไรกูไม่สนหรอก!!!" กันย์ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น "แต่กูไม่ไหวแล้วว่ะ!!!""แล้วที่ผมเตะหน้าพี่กระเด็นน่ะ พี่ไม่โกรธรึไงครับ" คำพูดนี้ทำให้กันย์หยุดชะงักไป "ครั้งแรกที่เจอกัน แค่ผมไปทำตัวกร่างอวดพี่นิดหน่อยพี่ก็โกรธแล้ว แต่นี่เลือดตกยางออกขนาดนี้ พี่ยังไม่โกรธเลยครับ""นี่อย่าบอกนะว่า..." กันย์ถาม "มึงรู้เรื่องคลิปนั่นแต่แรกแล้วเหรอ?""ยิ่งเราได้รู้จักกันมากเท่าไร ยิ่งคุยกันมากเท่าไร เราก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นจนเป็นพี่น้อง" กันเล่าต่อ "คนเรามันจะโกรธแต่คนแปลกหน้าเท่านั้นแหละ ถึงจะโกรธกันชั่วคราว ไม่รู้จักกันชั่วคราวก็เถอะ แต่ถ้าให้เสียเพื่อนไปแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ผม... ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดซ้ำสองครับ""มึงนี่มัน..." กันใจเย็นลงจนเริ่มยิ้มออกมาได้แล้ว ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เดินจากไป "เหลือทนจริงๆ ว่ะ""ผมแค่ไม่ยอมให้พี่ต้องเหมือนเพื่อนผมที่มันตายเพราะความโกรธแค้นเท่านั้นแหละครับ" กันยิ้มบอก "อย่าไปใส่ใจเลย"/เรื่องนั้นเองเหรอ.../ ติ๊กเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง"เอาเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน" กันย์ยิ้มบอกกับก็อต "ขอบใจเพื่อนมึงซะล่ะ ถ้าไม่มีมันป่านนี้มึงบินไปไกลแล้ว แต่อย่าให้มีครั้งที่ ๒ แล้วกัน!!!"/ซักวัน... ซักวันมึงจะเหมือนกู/ ก็อตหวนคิดถึงคำพูดของติ๊กพร้อมรอยยิ้มอันสมหวัง “ไม่นึกเลยนะ ว่าซักวันมันจะเป็นวันนี้...""หึ" ติ๊กหัวเราะเมื่อได้เห็นท่าทีของก็อต"เอ้อพี่..." กันเรียกตามหลังไป "แล้วไอ้...""ตามแต่ใจมึงแล้วกัน" กันย์ยิ้มทวนหลังให้ "กูว่าเกิน ๓ วิ ตั้งนานแล้วนะ""เอ๋?" เรนสงสัย "มันคุยเรื่องไรกันวะ?""ลูกเตะเหมันต์ทะยานเวหา!!!" เรนเข้าใจคำตอบอย่างแจ่มแจ้งทันที เมื่อเท้าขวาของกันได้ลอยขึ้นมาเตะใส่ใบหน้าของเขาโดยไม่ทันให้รู้ตัว ด้วยพลังแห่งสายลมกรรโชกที่ปล่อยออกมาจากฝ่าเท้า เป็นแรงสนับสนุนลูกเตะลูกนี้ให้ลอยทะยานเป็นรูปครึ่งวงกลม พุ่งปะทะเข้าใส่เป้าหมายเต็มๆ ในเวลาชั่วพริบตา ด้วยแรงมหาศาลจึงทำให้เรนเป็นอันต้องกระเด็นลอยออกไปไกลยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เลยทีเดียว นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่กัน และร่างที่ไร้สติ คงจะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญแก่เขาแน่ๆ"เฮ้อ" กันหวนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง "หมดเรื่องหมดราวซักที""กัน!" กฤตวิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว "กูคิดว่ามึงจะไม่รอดแล้วซะอีก!!!""ก็เคยเห็นในคลิปที่มึงสู้กับหวังนะ" ซันตามมาอีกคน "แต่นี่มันยิ่งกว่าในคลิปอีกว่ะ""แกว่งตีนหาเสี้ยนอีกแล้วนะมึงอ่ะ" ติ๊กตามมาอีกคน "ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับกูอยู่ดี""ไม่หรอก" กันยังถ่อมตัว "กูไม่ถึงขนาดนั้นหรอก""เหอะ" ก็อตเดินผ่านกันไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผิดกับสองคนแรก "กลับบ้านได้ซะที""ก็อต" ติ๊กเรียกตามหลัง "ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ?""ไม่อ่ะ" ก็อตไม่สบอารมณ์ทั้งสิ้น "อยู่จนเบื่อแล้วว่ะ""หูซ้ายทะลุหูขวาจริงนะมึงนี่" ติ๊กยิ้มบอก"ช่างเถอะ" กันยิ้มบอก "กลับแล้ว ยังไงก็เจอกันแล้วกัน""เออ" ก็อตหันกลับไปยิ้มบอก "บาย""เออใช่!" กฤตเหมือนนึกอะไรออก "กูลืมไปเลย!!!""ลืมไรวะ?" ซันถาม"ตกลงมึงกับติ๊กได้เสียกันยังวะ!!!" กฤตถามด้วยหน้าตาตื่นเต้นที่สุด "นิสัยเปลี่ยนจนพูดได้ขนาดนี้ กูว่าแม่งเสร็จกันไปหลายน้ำแน่ๆ เลยว่ะ จริงป่าววะ?""..." ทั้งกัน ติ๊ก และซัน ต่างร่วมใจกันตบหัวกฤตอย่างพร้อมเพรียง"***ไรเกย์!!!" กฤตตะโกนด่าทันที "เฟ็ดแม่มไอ่สัส!!!""เกือบลืมกล้องเลยกู" ในขณะเดียวกัน ก็อตที่กำลังเดินกลับไปเรื่อยๆ ก็ต้องมาหยุดลงต่อหน้าร่างอันไร้สติของเรน ที่กำลังนอนสลบเหมือดอยู่บนตัวบังยี่อย่างเหมาะเจาะ อาจเป็นเพราะที่คอของชายหน้ากระปอมคนนี้ มีกล้องของเขาที่โดนขโมยมาคล้องคออยู่นั่นเอง หนุ่มแว่นค่อยๆ ก้มตัวลงไป ใช้มือสองข้างถอดมันออกมา แล้วจับใส่คอเจ้าของที่แท้จริงตามเดิม ก่อนที่เขาจะยกกล้องขึ้นมา ใช้นิ้วโป้งเปิดตัวกล้อง เล็งไปที่เพื่อนๆ ของเขาทั้งสี่ที่อยู่ไกลออกไปข้างหน้า แล้วจึงใช้นิ้วชี้ลั่นชัทเตอร์ บันทึกภาพของทั้งสี่เอาไว้อย่างคมชัด รูปถ่ายรูปนี้สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง มันไม่ใช่คลิปเด็กตีกันที่ใช้สร้างชื่อเสียงเหมือนที่เขาเคยทำ แต่เป็นเพียงรูปถ่ายของเพื่อนๆ ที่กำลังคุยกันด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพท่ามกลางแสงแดดยามเย็น ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงก่อเกิดเป็นรูปถ่ายธรรมดาๆ อันสวยงาม และบางที ก็อตอาจจะได้รับบทเรียนครั้งสำคัญนี้ จนเป็นเหตุให้แสยะยิ้มขึ้นมาด้วยความจริงใจเลยก็ว่าได้"หึ" ก็อตแสยะยิ้มเล็กๆ "บางที ภาพนิ่งมันอาจจะดีกว่าคลิปก็ได้นะ""สู้กับไอ้พวกนี้เหนื่อยป่าววะ?" กฤตถาม "เจอเรื่องมาทั้งวันงี้กูอยากไปดูหนังว่ะ""มึงนี่ก็ยังมีอารมณ์เนอะ" ซันประชด"ไม่หรอก" กันยิ้มบอก "ไอ้พวกนี้กระจอกไปว่ะ เหนื่อยจริงต้องพรสามประการ""เดี๋ยว" ติ๊กสงสัย "มึงไปสู้กับพรสามประการตั้งแต่ตอนไหนวะ?""หา?" กันสงสัยเช่นกัน "ก็ก่อนจะเจอพวกมึง กูเจอกับพี่กันย์มาแล้วไง พรสามประการเลยนะเว้ย""..." ทั้งสามชะงักไปพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย"เดี๋ยวๆๆๆ พวกมึง" กันเริ่มลนลานขึ้นมา "หมายความว่าไงวะ?""ใครบอกมึงวะว่าพี่กันย์เป็นพรสามประการ?" ซันถาม"..." กันชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะโวยวายขึ้นมาเสียงดัง "ว๊อยยยยยยยยย นี่กูสู้ผิดตัวเหรอวะเนี่ย!!! เหี้ยเอ๊ย! กูก็ว่าทำไมแม่งไม่ยอมใช้พรซะที!!!""ความจริงพี่กันย์เป็นคนเหมือนกูด้วยนะ" ซันบอกต่อ"เหี้ยเอ๊ย!!! ไม่ใช่แม้แต่ชาวหิมพานต์ด้วยเหรอวะ!!!" กันรู้สึกขายหน้าอย่างบอกไม่ถูก "ทำไมกูมันโง่ขนาดนี้เลยวะเนี่ย!!!"/ก็โง่จริงนะ/ ทั้งสามคิดเป็นเสียงเดียวกัน"แล้วอะไรทำให้มึงคิดว่าพี่กันย์เป็นพรสามประการวะ?" ติ๊กถาม"พวกมึงไม่น่าจะรู้อะไรหรอก แต่ถ้าผู้ที่ได้รับพรมาหนึ่งประการน่ะ จะสามารถตรวจจับระดับค่าละอองสวรรค์โดยไม่ต้องใช้เครื่องวัดได้นะเว้ย ถึงจะไม่แน่นอนก็เถอะ แต่ทั้งตอนเที่ยง ทั้งเมื่อกี้ กูก็จับระดับค่าละอองสวรรค์ที่พอจะใช้..." แต่กันดูเหมือนจะคิดอะไรออก "เดี๋ยวสิ มันหายไปนานแล้วนี่นา ระดับพลังอันน่ากลัวนั่น""น่ากลัวเลยเหรอ?" ซันถาม"มันเยอะมาก แถมยังมีระดับค่าละอองสวรรค์ที่มีคุณสมบัติพรอีก..." บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแล้ว "เยอะ... เยอะกว่ากูอีก...""แสดงว่า มึงคงตรวจจับระดับค่าใกล้ๆ กันได้งั้นสิ" จู่ๆ ก็อตก็เดินกลับมาอีกครั้ง "งั้นกูก็พอจะรู้แล้วแหละ""อ้าวก็อต" กฤตถาม "มึงกลับมาทำไมวะ""พอดีได้ยินอะไรน่าสนใจน่ะ" ก็อตบอก "เลยจะมาบอกอะไรหน่อย""อยู่ไกลขนาดนั้นได้ยินก็เหี้ยแระ" กฤตบอกตามความจริง"อักขระคาถาสีฟ้าที่ติดอยู่บนคอมึงอ่ะของกูเอง" ก็อตชี้ไปที่วงแหวนอักขระสีฟ้าบนคอกัน "มันเป็นคาถาที่จะสามารถลอบฟังได้ เชื่อมต่อกับที่อยู่บนมือกูนี่""อ้าว งั้นมึงก็คิดไม่ซื่อ..." กฤตถามต่อ"เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ" กันห้ามกฤตไว้ "มึงจะบอกอะไรกันแน่""ระดับค่าละอองสวรรค์ที่เยอะกว่ามึง แถมยังตรวจจับได้ตอนเจอกับกันย์อีก" ก็อตอธิบาย "กูว่าคงมีพรสามประการคนเดียวแหละ""ใคร?" กันถามต่อ พร้อมรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นที่ปรากฏบนใบหน้า"ก็นะ แม่งสูงกว่ามึงอีก" ก็อตอธิบายลักษณะ "คิ้วเข้ม ไว้สกินเฮด บอกไปมึงก็มึงก็ไม่รู้หรอก”"แล้ว..." กันเริ่มตื่นเต้นเข้าไปทุกที "แล้วชื่อล่ะ...""ฟัก พี่ฟักแฟง ม.๖"
โปรดติดตามบทถัดไป
วัยรุ่นหิมพานต์บทที่ ๖ ลูกเตะ
ณ พื้นที่ป่ารกร้างแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับสุวัฒนา ถึงแม้บรรยากาศนั้นจะดูไม่น่าอภิรมย์นัก แต่กระนั้น ที่นี่ก็ถูกเลือกเป็นลานประลองของลูกผู้ชายทั้งสองคน คนแรกคือกัน ลิงขาวผู้มาพร้อมเหมันตพร ส่วนอีกหนึ่งคือกันย์ ชายผู้มีพลังเตะอันล้นเหลือ และขณะนี้ การต่อสู้ของทั้งสองก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดเสียแล้ว"อั่ก" ในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น กันย์ก็สามารถกระโดดเข้ามาประชิดตัวอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว กันที่ยังตั้งตัวไม่ทัน ก็โดนลูกถีบขวาของอีกฝ่ายกระแทกเข้าที่ท้องน้อยติดต่อกันถึง ๒ ดอก แต่นั่นก็ยังถือว่าเบากว่าปกติ เพราะถ้าไม่อย่างงั้น ป่านนี้ เขาคงกระเด็นลอยออกไปไกลแล้ว"ย๊ากกกกกกกกก" หลังจากตั้งสติซัก ๒ วินาที ประสาทรับรู้ของลิงขาวก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาสามารถตั้งแขนสองข้างการ์ดรับลูกถีบลูกที่ ๓ ของกันย์เอาไว้ได้ ใช้แรงทั้งหมดผลักมันออกไป ก่อนจะยกขาขวาขึ้นมา ถีบสวนเข้าไปที่กลางอกของกันย์เต็มแรง จนคู่ต่อสู้ถึงกับต้องถอยร่นลงไปซักระยะเลยทีเดียว ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ลิงขาวต่อด้วยหมัดขวาตรงเข้าไปกลางใบหน้า แต่กันย์รุ่นพี่กลับสามารถหักคอหลบได้อย่างฉิวเฉียด กันรุ่นน้องยังคงละเลงหมัดเข้าไปไม่มีหยุด ทว่า อีกฝ่ายกลับหารู้ไม่ว่า ในขณะที่หันคอหลบอยู่นี้เอง มือทั้งสองของกันย์ก็กำลังพนมไว้ที่กลางอกพร้อมร่ายคาถาออกจากปากเรื่อยๆ โดยไม่เสียสมาธิแม้แต่น้อย"โอม มะสาคะ ระอิดัง อนสะกะตะคิริตัง ระอิดัง คิคังติ" เมื่อร่ายคาถาจบ เรี่ยวแรงของกันย์ก็เหมือนเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาเลิกหลบและใช้หน้าเข้ารับหมัดของกันไว้แทนด้วยความเด็ดเดี่ยว เพื่อใช้จังหวะที่กันกำลังชักมือกลับ เตะขวาเข้าไปที่สีข้างของกันอย่างรวดเร็วติดต่อกันหลายครั้ง ขนาดที่ว่ากันยังหาจังหวะหลบไม่เจอ ได้แต่ถอยออกไปเรื่อยๆ และขณะเดียวกัน กันย์ก็ยังคงพนมมือและร่ายคาถาซ้ำอีกรอบพร้อมการโจมตีนี้"...อนสะกะตะคิริตัง ระอิดัง คิคังติ..." เมื่อร่ายคาถาจบเป็นครั้งที่ ๓ กำลังของกันย์คงเพิ่มขึ้นมาจนขีดสุดแล้ว สายตาที่ดูจริงจังพร้อมขาซ้ายที่ง้างไปข้างหลังแสดงถึงการโจมตีครั้งต่อไป แต่ก่อนที่กันจะตั้งรับทัน ก็สายไปเสียแล้ว"ย๊ากกกกกกกกกก" ขาซ้ายของกันย์ที่ง้างเต็มที่ เตะสูงเข้าไปยังก้านคอของกันเต็มๆ อย่างรุนแรงยิ่งกว่าครั้งอื่น พลังขาอันมหาศาลนี้ สามารถทำให้ลิงขาวถึงกับกระเด็นลอยออกไปกลางอากาศเลยทีเดียว โชคยังดีที่เขาตั้งสติได้ ใช้ขาซ้ายยันพื้นเอาไว้ได้ก่อนจะลอยออกไปไกลกว่านี้ หลังจากสู้กันมาอย่างยาวนาน กันก็เป็นคนแรก ที่มีเลือดไหลออกทางจมูกแล้ว"แฮ่กๆๆๆ" กันเหนื่อยหอบพลางใช้มือขวาปาดเหงื่อบนหน้าผาก "แรงพี่... แฮ่ก มันเยอะขึ้นรึเปล่าเนี่ย... แฮ่ก?""คิดไปเองมั้ง" ฝั่งกันย์ก็เหงื่อออกพลั่กๆ เช่นเดียวกัน "ยอมแพ้แล้วรึไง?""เหอะ" กันย์ยิ้มรับ "จะให้ยอมแพ้คนที่ยังไม่เอาจริงอ่ะ ผมไม่เอาด้วยหรอก""ปากดีนะมึงเนี่ย!" กันย์เริ่มบันดาลโทสะอีกแล้ว "ไอ้เหี้ย!!! กูก็นึกว่าจะแน่อย่างที่มึงพูด!!!""มันแน่อยู่แล้วสิ" กันยิ้มบอก "ก็เพื่อเป็นชายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโรงเรียนนี้ไงล่ะ!!!""อย่าปากดีนักไอ่สัส" กันย์คงรำคาญคำพูดของกันเต็มทีแล้ว ในเวลาชั่วพริบตาเท่านั้น พลังขาอันมหาศาลก็นำพาร่างของกันย์กระโดดมายืนอยู่ต่อหน้ากันแล้ว “!!!” สติคือสิ่งสำคัญ เขารีบตั้งการ์ดป้องกันตามสัญชาตญาณ ทว่า อีกฝ่ายกลับรู้ทัน กระโดดข้ามหัวมาอยู่ข้างเบื้องหลังกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไปเตรียมตั้งรับได้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะรุ่นพี่คนนี้นั้นเร็วกว่าเป็นเท่าตัว เมื่อได้จังหวะ กันย์จึงเตะกลับเป็นรูปวงกลม เข้าไปที่กลางหลังของกันอย่างรุนแรง จนลิงขาวเป็นอันต้องกระเด็นไกลออกไปเช่นเคย“ตู้มมมมมมมม”"คนปากดีน่ะ" กันย์บอก "กูเกลียดก็จริง"/แรงขึ้น!?/ กันยังลุกขึ้นมาไหว แต่ก็ตามเคย เพราะเขาต้องพบกับกันย์ที่กระโดดลงมายืนอยู่ต่อหน้าแบบไม่ทันให้ตั้งตัวแล้ว คราวนี้ อีกฝ่ายเลือกที่จะเตะขวาเข้าที่สีข้างจนกันต้องไถลออกไปข้างหลัง ก่อนกระโดดเข้ามาเตะใส่อีกลูกโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น แต่การกระโดดครั้งถัดมา กันกลับสามารถต่อยหมัดซ้ายสวนกลับได้ก่อน แต่ก่อนที่จะซ้ำได้อีกหมัด เขาก็ถูกเท้าขวาของกันย์ถีบเข้าใส่เต็มๆ ที่กลางอกอย่างรุนแรง จนเป็นอันต้องกระเด็นออกไปอีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้"แต่ถ้าปากดีแล้วไปเสือกเรื่องชาวบ้าน!!!" กันย์มายืนต่อหน้ากันแล้ว "ทำตัวเรื้อนๆ แล้วยังมาเสือกดูถูกศักดิ์ศรีคนอื่น ทำเป็นเรื่องเล่นๆ เนี่ย กูล่ะเกลียดเหี้ยๆ เลยล่ะ!!!"/เร็วขึ้น!?/ กันเหมือนจะคิดอะไรออก แต่ในสนามรบ ศัตรูคงไม่ปล่อยเวลาที่เหลือให้อีกฝ่ายเป็นแน่ เขายังคงยืนการ์ดรับลูกเตะของกันย์ ที่ยังกระหน่ำเตะเข้ามาอยู่เรื่อยๆ และดูท่าคงจะไม่มีวันหยุดจนกว่าแขนจะหักไปข้างแน่ๆ แต่กระนั้น ลิงขาวก็กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจถึงแม้จะต้องโดนความเสียหายหนักเพียงใดก็ตาม"พี่ไปแค้นผมมาจากไหนเนี่ย!!!" กันถามด้วยความฉงนตั้งแต่เจอกันครั้งแรก "ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะ!""ไม่ทำเหี้ยไร!!! สำหรับกูแล้ว ไอ้คนที่กูเหม็นขี้หน้า ไอ้คนที่ทำตัวเรื้อนใส่คนอื่นนี่ย!!!" กันย์พูดขณะระดมถีบไปเรื่อยๆ "ก็แค่ถีบออกไปให้ไกลๆ ไม่ต้องเห็นหน้าก็พอแล้ว!!!""ถ้างั้นก็เอาจริงซะทีเซ่!!!" กันยังคงท้าอยู่ แม้จะยังโดนเตะมาเรื่อยๆ ร่วมสิบครั้งแล้ว "อั่ก...""เป็นอะไรไป?" กันย์ถามในฐานะผู้ได้เปรียบ "จะยอมแพ้ก็ได้นะ คนอย่างมึงมันมีดีที่ปากแค่นั้นแหละ""บอกแล้ว... บอกแล้วไง..." กันยังคงรับลูกเตะมาเรื่อยๆ จนสภาพนั้นเหนื่อยอ่อนอย่างแรงแล้ว "บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าเพื่อชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด...""ไอ้เด็กเหี้ย!!!" กันย์เดือดสุดขีด พร้อมจะเตะเข้าไปอีกทีอย่างแรงที่สุดแล้ว "มึงอย่ามาอวดดีกับ..."/ตอนนี้ล่ะ!!!/ กันคิด"ย๊ากกกกกกกกกกก" กันย์เตรียมตัวจะโจมตีครั้งต่อไปแล้ว"ลูกเตะเหมันต์ทะยานนภา!!!" ดั่งปาฏิหาริย์ หลังจากที่ได้แต่ตั้งรับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวมาเนิ่นนาน คนที่เหมือนจะไม่สามารถหาช่องว่างในการสวนกลับลูกเตะอันรวดเร็วนี้ได้ ก็มีโอกาสในการใช้ท่าไม้ตายใหม่เสียที ในจังหวะที่กันย์กำลังชักขาขวากลับมายืน พร้อมๆ กับยกขาซ้ายขึ้นมาหวังจะถีบใส่กันอย่างเต็มแรงนั้นเอง อีกฝ่ายก็ใช้เวลาอันน้อยนิดนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาเรียกสติที่หลุดลอยกลับคืนมาอีกครั้ง ปล่อยแขนสองข้างที่ตั้งการ์ดลง กวาดขาขวาเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกาไปข้างหลังทำมุม ๑๘๐ องศา ตะแคงเท้าที่อยู่ข้างหลังไว้ และในขณะเดียวกัน ลวดลายสีเขียวอันสวยงามของเหมันตพรก็ค่อยๆ ปรากฏเต็มทั่วบนขาข้างนั้น พายุหมุนลูกเล็กๆ กำลังก่อตัวขึ้นใต้ฝ่าเท้าของกัน และในจังหวะที่กันย์กำลังจะยกขาถีบตรงเข้าใส่ตัวเขานั้นเอง สายลมที่พัดพาจากฝ่าเท้าของลิงขาวก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ก่อตัวเป็นพายุอันโหมกระหน่ำ และเมื่อถึงเวลาอันสมควร เหมันตพรก็ได้ฤกษ์สำแดงเดชแล้ว สายลมที่ถูกปล่อยออกมาอย่างหนักหน่วงนั้น สามารถเป็นแรงสนับสนุนให้กับขาของกันได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมทั้งความรุนแรงและความรวดเร็วให้กับลูกเตะนี้ และภายในชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พายุลูกนี้ก็ส่งให้กันสามารถเตะตัดเข้าใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง จนในที่สุด ร่างของอีกฝ่ายถึงกับต้องกระเด็นออกไปไกลอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยทีเดียว"อั่ก!!!" ลูกเตะของกันนั้นสามารถทำให้กันย์กระเด็นออกไปไกลเกือบครึ่งสนามฟุตบอล มิหนำซ้ำ เมื่อตกลงมากระแทกพื้นด้านล่าง ร่างกายของเขายังบอบช้ำจากการโจมตีเมื่อครู่ ถึงขั้นว่าเลือดไหลออกปากไม่หยุดทีเดียว เรียกได้ว่าแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวจริงๆ แต่สิ่งที่น่าทึ่งกว่าความแรงของท่าเตะนี้ก็คือความเร็ว ลูกถีบเหมันต์ฟาดปฐพีอาจมีพลังมากกว่านี้หลายเท่าตัวนัก ถึงอย่างนั้นกว่าจะเตรียมการเสร็จก็ยังต้องใช้เวลา แต่ลูกเตะเมื่อครู่นี้ ใช้เวลาเพียง ๓ วินาที เท่านั้น นับว่าเป็นกลยุทธอันแสนแยบยลของกัน ที่เอาไว้รับมือกับศัตรูที่ว่องไวกว่าอย่างรุ่นพี่คนนี้นี่เอง"หนอย..." กันย์ได้แต่นอนไปกับพื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยด้วยความรู้สึกเจ็บใจอย่างแรง "ขาไม่ยอมขยับแล้วเหรอ...""หมดเวลาแล้วเหรอ" กันเดินตรงมาหาเรื่อยๆ "เท่าที่รู้ๆ คือ คาถา ๑ บท น่าจะใช้เวลาประมาณนาทีนึง นี่คงเลยมาเยอะแล้วสิ""เหอะ" ตอนนี้ กันย์ได้แต่ยิ้มเยาะด้วยความคลาดหวัง "แพ้หมดรูปเลยจริงๆ""ถ้าพี่ใช้พรก็อาจจะชนะก็ได้นะ" กันเดินลงมานั่งข้างๆ "อูยยย แต่ถึงจะใช้ตอนนี้ ผมก็คงไม่ไหวเหมือนกันแหละ""นี่มึงรู้จักเจียมตัวตัวด้วยเหรอวะ?" กันย์ประชด "แต่ถ้าฝีมือระดับนี้แล้ว ที่มึงอวดเมื่อกี้ก็คงไม่โม้เท่าไรหรอก""ไม่หรอก" กันยิ้มบอก "ถ้าผมไม่บังเอิญรู้เคล็ด ป่านนี้อาจโดนหามส่งโรง'บาลแล้วก็ได้""?""ตอนที่เจอกันครั้งแรก พี่เอาแต่ถีบผมอย่างเดียว แต่พอมาสู้กันตรงนี้จริงๆ ส่วนใหญ่พี่จะเตะผมมากกว่า" กันอธิบาย "พี่คงคิดว่าผมคงตายคาลูกถีบนี้แน่ๆ แต่พอผมทนได้ พี่เลยเอาความเร็วเข้าสู้ เป็นการใช้ลูกเตะกระหน่ำไม่ให้ตั้งตัวไปเรื่อยๆ""..." กันย์ได้แต่นั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ"ลูกเตะของพี่ตอนซ้อนคาถากัน ๓ ชั้น ตอนตั้งรับอยู่ ผมก็นับเวลาจนสรุปได้ว่าเตะหนึ่งครั้งใช้เวลา ๓ วิ" กันยังอธิบายไปเรื่อยๆ "แล้วผมก็ลงทุนลองโดนพี่ถีบซักครั้ง ที่มันแรงกว่าลูกเตะ ก็เพราะพื้นที่หน้าตัดมันเยอะกว่า พี่ก็เลยใช้ลูกเตะเป็นการโจมตีธรรมดา ส่วนลูกถีบเป็นการโจมตีหวังผล ซึ่งกว่าจะรวมแรงไว้ที่ฝ่าเท้าได้หมด ก็ใช้เวลาประมาณ ๗ วิ""..." กันย์ยังคงอึ้งและทึ่งอยู่เรื่อยๆ"ผมก็เลยตั้งใจยั่วพี่ให้พี่ใช้ลูกถีบตอนกำลังเตะอยู่ ผมเลยมีเวลาแค่ ๓ วิ ในการสวนะหว่างที่พี่กำลังจะถีบ" กันอธิบาย "ถ้าผมใช้ลูกถีบเหมันต์ฟาดปฐพี พี่ก็คงหลบได้อยู่ดี ดีไม่ดีตอนบินขึ้นไปก็คงโดนพี่ถีบร่วงลงมาก่อน แต่ลูกเตะเหมันต์ทะยานนภา ตั้งแต่ผมใช้ท่านี้มาก็ไม่เคยมีใครหลบได้ซักคนเดียวเลยนะ" "..." กันย์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ "มึงเป็นใครกันแน่วะ?""ชื่อของผมคือกิตติ เหมันต์วงศ์" กันยิ้มบอกพร้อมสายตาที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องนภา "ชายผู้ที่จะยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือกว่าใครๆ ในโรงเรียนนี้""เถียงไม่ออกเลยว่ะ หึ" ในที่สุด กันย์ก็ยอมรับในตัวกันเสียที "ตัวจริงกับโลกออนไลน์มันต่างกันมากจริงๆ""หา?" กันสงสัย"ช่างแม่ง" กันย์เหมือนลุกขึ้นได้อีกครั้ง แต่ขาซ้ายยังคงเดินได้ไม่ค่อยดีนัก "พี่ฟัก กลับไปซ้อมเหอะ!!!""คือผมจะบอกว่าพี่ฟักหายไปไหนตั้งนานแล้วก็ไม่รู้อ่ะ" กันบอกพร้อมหลักฐานชัดเจน"อูยยยย" กันย์ยังคงเจ็บปวดจากการต่อสู้เมื่อกี้ "ไอ้พี่ฟัก...""เออ เดี๋ยวผมหามไปส่งโรงบาลก็ได้นะ" กันแสดงน้ำใจต่อนักกีฬาที่ดีหลังจบการแข่งขัน"โทษทีละกัน" กันย์ยังรู้สึกเกรงใจ"โทษไร ผมน่ะแหละที่เตะหน้าพี่" กันยิ้มบอก "เอาเป็นว่าวันนี้ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นละกัน มาเดี๋ยวกลับโรงเรียนกัน""ไม่ได้กลับหรอกพวกมึง!!!" เสียงอันคุ้นหูดังก้องเข้ามาในหูของทั้งสองอย่างชัดเจน และทันทีเมื่อพวกเขาหันกลับไปตามต้นเสียงนี้ สิ่งที่พวกเขาได้พบก็คือใบหน้าที่แลดูคล้ายตัวแย้ มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น คือเรนนั่นเอง แต่ถ้าแค่เรนคนเดียวพวกเขาคงปล่อยผ่านเลยไปแบบไม่คิดอะไรมาก ทว่า ข้างหลังของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยนักเรียนชายอิสลามศรีธรรมราชจำนวนนับสิบ ที่เดินตามมาออกมาจากพงหญ้าอย่างพร้อมเพรียงดูน่าเกรงขาม นั่นทำให้แววตาของทั้งสองจริงจังขึ้นทันตาเห็น ทว่า สิ่งที่ทำให้กันตกใจอย่างถึงที่สุด กลับไม่ใช่เหล่านักเลงต่างโรงเรียนหรือเรน แต่เป็นตัวประกันของพวกเขา นั่นคือเพื่อนๆ ของกน ติ๊ก กฤต ซัน และก็อตที่กำลังอยู่ในความควบคุมของอีกฝ่าย อย่างละคน โดยมีมีดสั้นอันแหลมคมจ่อคออยู่อย่างน่าหวาดเสียวกันทุกคน และเมื่อเห็นรอยยิ้มแสยะอันแสนอัปลักษณ์ของเรนเข้าไปอีก ก็ยิ่งจุดชนวนความแค้นให้กับกันเข้าไปอีก"ไอ้เรน..." กันย์ถาม "มึงมาทำอะไรที่นี่ ...กับไอ้เหี้ยพวกนี้ด้วย""ก็จะอะไรอีกล่ะวะ" เรนยิ้มบอก "ก็มาหาพวกมึงไง""แล้วมึงรู้ได้ไง..." กันย์ถามต่อ "ว่าที่นี่""ก็มีคนใจดีคาบข่าวมาบอกน่ะ" เรนยิ้มเยาะ "โอ๊ะ พูดมากคงไม่ได้หรอก แต่โชคดีนะ พวกมึงหมดสภาพทั้งคู่งี้จะได้เล่นกันง่ายๆ หน่อย""นี่มึงคิดจะมาเล่นพวกกูสองคนในสภาพนี้เหรอ..." กันย์ถามต่อ "ตุ๊ดว่ะ""มึงเอาเพื่อนกูไปทำเชี่ยไร!!!" กันตะโกนด้วยความโกรธสุดขีด"ต้องขอบอกก่อนนะ" เรนบอก "กูเอาไอ้พวกนี้มาเผื่อไว้เท่านั้นแหละ ก็ไม่นึกนะว่ามึงจะเป็นฝ่ายชนะ""หา?" กันสงสัย"ถ้าไม่มีไอ้หน้าเหี้ยพวกนี้ มึงก็คงอาละวาดใส่พวกกูไปแล้วล่ะ พลังของมึงกูก็ไม่ค่อยแน่ใจนะว่ามันระดับไหน" เรนอธิบาย "แต่ของบอกไว้ก่อน ถ้ามึงบังอาจขยับตัวซักนิดล่ะก็...""หนอยยยย" กันกัดฟันโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะนิ่งไปซักพัก “...”“งั้นจะให้ผมทำอะไรล่ะ?”/กัน.../ เพื่อนของกันต่างคิดเป็นเสียงเดียว"กัน..." กันย์เรียกรุ่นน้อง "มึงอย่ามายุ่งเลย ไอ้พวกนั้นมันมีปัญหากับกูคนเดียว...""ก็แล้วมึงมาเสือกไรด้วยล่ะวะ!!!" เหมือนความโกรธแค้นนี้จะมีสะกิดอะไรบางอย่างกับจิตใจของกัน ถึงจะนั่งคุยปรับความเข้าใจกันได้เมื่อไม่นานมานี้แล้ว แต่คำพูดของกันย์กลับสะกิดต่อมอะไรบางอย่างในตัวเขา เป็นผลให้หมัดของลิงขาวกระแทกเข้าใส่ใบหน้าของรุ่นพี่ซะเต็มแรง เล่นเอาทุกคนในที่นี้ประหลาดใจอย่างที่สุดเลยทีเดียว"นี่มึง..." กันย์สงสัยด้วยความโกรธแค้นที่เพิ่มมากขึ้น "เป็นเหี้ยไรขึ้นมาวะ!!!""ว่ากูปากดี!!! มึงก็ปากดีไม่แพ้กันนี่หว่า!!!" กันใช้แขนสองข้างจับไหล่กันย์ไว้ "มีปัญหากับมึงคนเดียวเหรอ? งั้นไอ้เหี้ยพวกนี้ก็กากขนาดแพ้มึงเลยเหรอวะ!!! ๕๕๕๕๕๕""มึงเป็น..." กันย์คิด พร้อมๆ กับหัวของกันที่ยื่นมาข้างหูตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ “...”"ที่แท้ก็แค่นี้เองเหรอวะ!?" กันถามพร้อมยกขาขวาถีบกันย์จนไถลออกไป "ไอ้อิสลามศรีธรรมาราชเหี้ยไรเนี่ย!!!""หือ?" เรนที่ได้แต่ยืนดูเริ่มสะกิดใจ เหมือนกับนักเรียนอิสลามศรีธรรมราชคนอื่นๆ"กูก็คิดว่าจะโหดแค่ไหน" กันศอกหมัดซ้ายเข้าไปอีกที "ถ้าแค่นี้มึงอย่ามาท้ากูเลยว่ะ""ไอ้เหี้ย" บังยีที่เป็นใบ้มาตลอด พูดได้ด้วยน้ำเสียงอันโกรธเกรี้ยวเสียที"อยากเข้ามาก็เชิญเลย กระจอกยังกะหมางี้กูไม่สนหรอก!!!" สิ้นเสียงคำพูดอันเหยียดหยามและดูหมิ่นของกัน ร่างของกันย์ก็กระเด็นลอยออกไปไกลด้วยลูกถีบลูกสุดท้ายอันหนักหน่วงของอีกฝ่าย จนในที่สุด ชายหัวชี้คนนี้ก็หมดฤทธิ์เสียที ทำได้แค่เพียงนอนจมลงไปกับพื้นหญ้า ท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงของเหล่านักเรียนอิสลามศรีธรรมราชนับสิบ ทว่า สายตาเหล่านั้นกลับเปลี่ยนเป็นสายตาอันโกรธเกรี้ยวแทนในทันที เมื่อพวกเขาเลื่อนสายตามองไปยังตัวกัน ผู้ดูหมิ่นสถาบันของพวกเขาอย่างรุนแรงเมื่อครู่นี้เอง"อะไรวะ? หางจุกตูดแล้วเหรอพวกมึงอ่ะ?" ความอดทนของพวกเขาหมดลงทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้ผ่านเข้าสู่รูหูทั้งสองข้าง เหล่านักเลงอิสลามศรีธรรมราชทั้งหมดต่างวิ่งกรูเข้าไปหาตัวกันอย่างพร้อมเพรียง ด้วยอารมณ์อันโกรธเกรี้ยวสุดขีดและพร้อมจะระบายได้ทุกเมื่อ พร้อมๆ กับละอองแสงสีทองที่เข้าปกคลุมร่างของพวกเขาจำนวนหนึ่ง ส่งผลให้บางส่วนกลายร่างเป็นลิงหรือไม่ก็นรสิงห์อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาอันรวดเร็ว กันก็ถูกหมัดขวาของชายคนหนึ่งซัดเข้ากลางใบหน้าเต็มๆ เสียแล้ว นั่นถือเป็นการโจมตีเพียงครั้งแรก เพราะต่อจากนั้นเขาก็ถูกอีกคนถีบซ้ายเข้าที่ท้องน้อยจนต้องร่นถอยไป โดนหมัดขวาของคนแรกเข้าไปอีกหมัดอย่างจัง ก่อนที่จะถูกชายอีกสองคนร่วมมือกันผลักจนต้องล้มลงไปกับพื้น และเมื่อเขาร่วงหล่นลงไปนอนกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงก่อเกิดเป็นมหกรรมรุมกระทืบอันยิ่งใหญ่ ฝ่าเท้านับสิบหลายคู่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือร่างของกัน ในขณะที่ลิงขาวได้แต่นอนเฉยๆ รับฝ่าเท้านั้นโดยทำอะไรไม่ได้ซักนิด ซึ่งก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาพูดออกไป"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เรนที่สังเกตการณ์อยู่หัวเราะอย่างได้ใจ "ปากดีก็โดนงี้แหละสัสเอ๊ย พวกมึงสองตัวเลยด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ" ในขณะเดียวกัน ข้างๆ เรนยังมีก็อตที่กำลังยืนอยู่โดยมีมีดจ่อคอด้วยเช่นกัน ทว่า สีหน้าของเขากลับเหมือนคนที่รู้สึกผิดผิดกับปกติ โดยมีติ๊กที่อยู่ทางขวาคอยชำเลืองตาดูอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชาเช่นเคย"เหี้ยเอ๊ย อยากเล่นแม่งชิบหายเลยว่ะ" ชายผู้ถือมีดสีดำจ่อคอซันอยู่พูด"เออนั่นดิ กูก็เหมือนกัน" คนข้างๆ ที่ยืนถือจ่อกฤตเห็นด้วย"เอ่อ... ปล่อยผมไปก็ได้นะครับ" กฤตเสนอความคิดเห็น "ผมไม่ไปไหนหรอก...""ไม่ต้องมาเสือก!!!" ทั้งสองตะโกนด่าอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมายใดๆ ทั้งสิ้น"งั้นก็ขอเสือกด้วยคนดิวะ" เสียงปริศนาดังขึ้นมาทางด้านหลังของนักเรียนอิสลามศรีธรรมราชสองคนนี้ ด้วยความตกใจจึงทำให้ทั้งสองรีบหมุนคอกลับไปดูอย่างฉับไว ทว่า ก่อนที่พวกเขาจะได้พบกับต้นเสียงนี้ก็สายไปเสียแล้ว เพราะฝ่าเท้าซ้ายปริศนาข้างนี้ก็ได้เตะตัดเข้าไปที่ท้ายทอยของชายผู้โชคร้ายสองคนนี้อย่างรวดเร็ว ขนาดที่ว่าตายังมองไม่ทันและรุนแรงขนาดที่ว่า สามารถทำให้พวกเขาล้มหมดสติลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว ขณะนี้ นักเรียนอิสลามศรีธรรมราชอีกสองคนที่กำลังยืนเอามืดจ่อคอติ๊กกับก็อต รวมถึงเรนได้แต่ยืนอึ้งด้วยประหลาดใจสุดขีด เมื่อผู้ที่สามารถล้มเพื่อนของพวกเขาได้ในเวลาชั่วพริบตาคือกันย์ ที่ควรจะสลบลงไปนอนหมดสติอยู่บนพื้นหญ้าตั้งนานแล้ว ดูเหมือนหนุ่มหัวชี้คนนี้จะจงใจเล็งโจมตีไปที่ท้ายทอย เพราะถ้าเตะสุดแรง ป่านนี้มีดที่จ่อคอกฤตกับซันคงจะพลาดเฉือนเข้าไปยังเส้นเลือดใหญ่จนมอดม้วย ไปนานแล้ว จึงเป็นโชคอันดีที่พวกเขาสองคนรอดจากเงื้อมมือยมทูตได้เสียที"ไอ้กันย์!!!" ยังเหลืออีกสองคนที่ต้องการความช่วยเหลือ กันย์จึงต้องเร่งความเร็วเข้าไปอีก เพียงแค่ใช้ขาซ้ายในการกระโดดเพียงครั้งเดียว เขาก็มายืนอยู่ต่อหน้าชายผู้ถือมีดจ่อคอติ๊กที่ห่างออกไปถึง ๓ ม. ในเวลาชั่วพริบตาแล้ว หนุ่มหัวชี้ไม่รีรอ ใช้ขาขวาเตะมือของชายคนนั้นอย่างรุนแรง และเมื่อมีดที่ถืออยู่ร่วงไปกับพื้นแล้ว เขาจึงได้โอกาส เตะตัดใส่หน้าอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างแรงจนกระเด็นออกไปเลยทีเดียว ในที่สุดก็เหลือเพียงคนเดียว กันย์หันคอชำเลืองมองเป้าหมายที่ห่างออกไปประมาณ ๒ ม. ก่อนที่ขาขวาของเขาจะถูกใช้ในการกระโดดอีกครั้ง แต่ถ้าจะพูดให้ถูก การกระโดดที่นำพาร่างของตนลอยสูงขึ้นไปสู่ท้องนภาความสูงเทียบเท่าอาคาร ๒ ชั้น คงจะเรียกว่าการเหาะเสียมากกว่า"อย่าเข้ามานะเว้ย!!!" ถึงอีกฝ่ายจะตะโกนห้ามเพียงใด แต่ก็คงไม่สามารถหยุดแรงโน้มถ่วงของโลกที่นำพาร่างของกันย์ให้เข้ามาใกล้ตัว เขาทุกทีได้ ด้วยความลนลานจนทำอะไรไม่ถูก ชายคนนั้นเลือกที่จะละทิ้งเป้าหมายในมือ ใช้มีดที่จ่อคอก็อตอยู่ ปาขึ้นไปใส่หนุ่มหัวตั้งบนฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหามากมายนัก เพราะเขาสามารถควบคุมสมาธิ ในการใช้ขาซ้ายเตะใส่ด้ามมีดที่ลอยขึ้นมาออกไปอย่างแม่นยำ และในที่สุด เข่าขวาของกันย์จึงได้ลอยเฉี่ยวหัวก็อต ลงมากระแทกหน้าของชายผู้โชคร้ายคนนี้เสียที ด้วยความรุนแรงชนิดที่ว่าอีกฝ่ายถึงกับต้องกระเด็นลอยออกไปไกลเลยทีเดียว"นี่มัน..." เรนได้แต่ยืนตกตะลึง "เป็นไปได้ไงวะ!?....""เฮ้ย!!!" กันย์ลงมายืนข้างหลังก็อตอีกครั้ง ก่อนจะตะโกนไปหากันที่โดนรุมกระทืบอยู่ "ทางนี้เรียบร้อยแล้วนะ!!!""เหอะ... ใจมากนะพี่...”“วังวนวายุ!!!” ถึงแม้ฝ่าเท้ามากมายนับสิบจะยังคงกระหน่ำกระทืบลงมาใส่ร่างที่ได้แต่นอนนิ่งอย่างต่อเนื่อง ทว่า กันยังมีแรงที่จะเปล่งเสียงออกมาได้ พร้อมๆ กับลวดลายสีเขียวบนขาทั้งสองข้างที่เริ่มเปล่งแสงออกมา และเมื่อลวดลายนี้ปรากฏเป็นแสงสีเขียวอย่างชัดเจนแล้ว เรี่ยวแรงของลิงขาวก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าหนึ่ง สามารถใช้มือทั้งสองข้างจับขาที่กำลังจะลงมากระทืบเอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะ ขณะเดียวกันกับที่สายลมอ่อนๆ เริ่มพัดพารอบๆ ตัวกันโดยไม่มีสาเหตุอันใดทั้งสิ้น“ตู้มมมมมมมมมม” และเมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่อึดใจ จากสายลมอ่อนๆ ที่ไร้ซึ่งพลังใดๆ ทั้งสิ้น บัดนี้ สายลมเหล่านั้นก็เริ่มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และภายในเวลาชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น สายลมก็ได้ก่อกำเนิดกลายเป็นพายุหมุนกระหน่ำอันรุนแรง พัดพาและหมุนรอบๆ กายของกันเป็นดั่งเกราะป้องกันอันแกร่งกล้า เข้าปะทะกับเหล่าศัตรูที่กำลังรุมโจมตีนับสิบในทันที ช่างเป็นพายุที่ทรงพลังยิ่งนัก มันรุนแรงชนิดที่ว่าสามารถพัดพาพวกอิสลามศรีธรรมราชทั้งหมด จนกระเด็นกระดอนออกไปไกลคนละทิศละทางเลยทีเดียว "เอ้า จะเอาต่อยัง?" ที่สำคัญ มันยังแรงพอที่จะทำให้ทั้งหมดเป็นอันต้องถูกจัดการไปได้ในคราเดียว ต่างต้องนอนไม่ได้สติเกลื่อนทั่วบริเวณนี้ ช่างเป็นปราการอันแกร่งกล้า สมกับชื่อวังวนพายุเสียจริงๆ"ใจมากนะพี่!!!" กันพนมมือพร้อมตะโกนข้ามหัวดงศัตรูไปหากันย์ "ผมว่าแล้วว่าพี่ต้องทำได้!!!""แค่นี้จิ๊บๆ ว่ะ" กันย์ถ่อมตัว"ยังไงก็ขอบใจมากครับ" ติ๊กพนมมือไหว้ "ถ้าไม่มีพี่ผมก็คง...""ใจมากพี่!" กฤตวิ่งเข้ามาขอบคุณอย่างรวดเร็ว "พี่นี่สุดยอดเลยจริงๆ ว่ะ""พวกมึงไม่ต้องไรมากหรอก" กันย์ยิ้มบอก "เป็นพี่เป็นน้องกันมันก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา""ขอบคุณมากนะครับ..." เสียงของก็อตดังมาจากข้างหลัง"หือ?" กันย์รีบหันไปมอง"ถ้าไม่มีผม..." สายตาของก็อตที่ก้มลงมองพื้น แสดงถึงความเสียใจอย่างชัดเจน "เรื่องทั้งหมดนี่ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก""ยังไงกัน?" กันย์สงสัย "มึงก็แค่เอาคลิปที่...""ที่ต้องถามมันกูต่างหากโว้ยยยย!!!" เรนตะโกนด้วยความตกใจสุดขีด "พวกมึงสองตัว... เมื่อกี้ยังต่อยกันอยู่เลยไม่ใช่รึไง... แล้วทำไม!!!""ก็ต้องขอบคุณไอ้เหี้ยนั่นล่ะนะที่คิดแผนทั้งหมด" กันย์ยิ้มบอกพลางชำเลืองสายตาไปทางกัน"แผน?" เรนสงสัย"ตอนที่มันจับไหล่กูน่ะ" กันย์อธิบาย "อยู่ๆ มันก็บอกว่า ให้แกล้งตายแล้วไปช่วยไอ้พวกนี้ กูกับมันก็เลยแกล้งให้พวกมึงเห็นว่ากูโดนมันยำจริงๆ พอกูล้มก็อาศัยจังหวะที่พวกมึงรุมกระทืบกัน พักเหนื่อยพร้อมๆ กับร่ายคาถา จะได้เอามาช่วยไอ้พวกนี้ไงล่ะ""..." เรนได้แต่ยืนอึ้งอยู่คนเดียว/โง่ๆ อย่างมันก็ฉลาดเหมือนกันนี่หว่า/ ติ๊กคิด/นี่พวกมัน.../ ก็อตคิด /วางแผนช่วยกูเหรอ?/"มึงน่ะ ต้องเจอกู" ผู้ที่ยืนท้ากันย์ท้ายอยู่ข้างหลังไม่ใช่ใครที่ไหน คือบังยี หัวหน้าขอเหล่างอิสลามศรีธรรมราชนั่นเอง รูปร่างอันสูงใหญ่ของเขาทำให้กันย์ที่แต่เดิมสูงอยู่แล้ว ดูตัวเล็กลงทันตาเลยทีเดียว"บังยี่เหรอ?" ทั้งสองคงเคยพบกันมาก่อน "มึงยังไม่ลงจากส้นสูงนั่นอีกเหรอ?" ความสูงนั้นเป็นเพียงสิ่งลวงหลอก เพราะแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้บังยี่สูงคือรองเท้าหนังเสริมส้นชนิดพิเศษ สูงพิเศษในที่นี้คือ ส่วนส้นสูงนั้นสูงเกือบเท่าอกของกันย์เลยทีเดียว นั่นเท่ากับว่า ส่วนสูงจริงๆ ของบังยี่อาจไม่ถึง ๑๕๐ ซม. เลยก็เป็นได้"กูไม่ออก" บังยี่ตอบเต็มเสียง"ไม่ใช่ไม่ออก" กันย์โต้ "กูบอกให้ลง""กูไม่ออก" บังยี่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ "กูได้ตำแหน่งนี้มาอย่างยุติธรรม""เป็นเหี้ยไรมึงเนี่ย?" กันย์ยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก"ถ้ากูออกแล้วกูจะเอางบประมาณที่ไหนมาแดก!!!" ด้วยความโกรธจากอะไรบางอย่างที่ไม่อาจทราบได้ เป็นเหตุให้บังยี่ชูแขนแบมือขวาขึ้นฟ้า ก่อนจะฟาดลงมาตบเข้าใส่กันย์อย่างรวดเร็ว ทว่า รวดเร็วแค่ไหนก็มิอาจเทียบเท่ากันย์ เพราะตอนนี้ คู่ต่อสู้ของบังยี่ได้กระโดดลงมายืนอยู่ข้างหลังแล้ว พร้อมๆ กับขาขวาของเขาที่ยกขึ้นมาเล็งไปที่กลางแผ่นหลังหลังของอีกฝ่าย เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งถัดไปแล้ว"กูบอกกี่ครั้งแล้ว?" กันย์ถาม "ว่ามึงตามความเร็วกูไม่ทันหรอก""๑ ๒ ๓ ๔" กันที่ได้แต่ยืนมองไกลๆ เริ่มนับเลข"แล้วยิ่งมึงใส่ส้นสูงนั่น" กันย์เล่าต่อ พร้อมกับวงแหวนอักขระสีเขียวที่เริ่มปรากฏบนขึ้นเหนือฝ่าเท้าขวา"๕ ๖" "พอมึงหันมามันก็พอดีเป๊ะเลย" กันย์ยิ้มบอก พร้อมกับบังยี่ที่หันหลังกลับมาตามที่เขาคาดไว้"๗" เป็นดังคาดจริงๆ ส้นสูงของบังยี่นั้นเป็นผลต่อความเคลื่อนไหวของร่างกายจริงๆ เพราะกว่าเขาจะขยับข้อเท้าหันกลับมาหากันย์ทัน แทนที่จะมีเวลาชิงโจมตีก่อนซักครั้ง แต่จังหวะที่หันกลับมาอยู่ต่อหน้ากันย์ก็ช่างเหมาะเจาะเสียจริง สิ่งที่อยู่ต่อหน้าสายตาของเขา นั่นคือหนุ่มหัวชี้ที่ใช้ขาซ้ายในการกระโดดสูงขึ้นไปเหนือหัวบังยี่ และทันใดนั้น ฝ่าเท้าขวาของเขาที่ยกขึ้นมาเตรียมการอยู่เนิ่นนานก็ได้โอกาส ถีบเข้าใส่กลางหน้าบังยี่เต็มๆ ด้วยความรุนแรงอันมหาศาล นับว่าเป็นท่าที่ทรงพลังที่สุดของกันย์เลยก็ว่าได้ ร่างของชายร่างเล็กคนนี้ถึงกับต้องกระเด็นออกไปไกลจากส้นสูง พร้อมๆ กับวงอักขระสีเขียวแบบเดียวกับบนฝ่าเท้าของกันย์ ก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นข้างล่างจากความสูงที่โกหกมาโดยตลอดในที่สุด เป็นไปตามที่กันสันนิษฐานไว้ ว่า ๗ วินาที คือเวลาที่กันย์จะสามารถถีบได้เต็มแรงด้วยพลังทั้งหมด และภายใน ๗ วินาทีนี้ ก็ได้ทำให้ในบริเวณป่านี้เหล่าเพียงเหล่านักเรียนสุวัฒนาเท่านั้นที่ยังมีสติอยู่ ส่วนนอกนั้น มีแต่ร่างอันไร้สติของอิสลามศรีธรรมราชที่นอนกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น เท่านั้น แต่ถ้าจะนับกันจริงๆ คนทรยศอย่างเรนคงไม่นับเป็นพวกของสุวัฒนาแน่นอน"เออนี่" กันนั่งก้มลงไปหาคนที่เขาเพิ่งจะต่อยหน้าจนล้มลงไปกับพื้น "ใครมันตั้งไอ้เตี้ยนั่นเป็นหัวหน้าพวกมึงวะ""กูไม่รู้..." ชายผู้โชคร้ายยังใจดีบอก "รู้แต่มันไม่คู่ควร มันคอรัปชั่น..."/ชิบหายล่ะ.../ เรนคิดพร้อมก้าวถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว /ต้องหนีออกจากที่นี่ให้ได้/"จะไปไหนเหรอเพื่อนยาก?" ทว่า เรนคิดช้าไปหน่อย เพราะกันย์ได้กระโดดลงมายืนอยู่ข้างหลังเขาเสียแล้ว และเมื่อหนุ่มหน้ากระปอมหันกลับไปมอง ก็พบเพียงสายตาอันเคียดแค้นของอีกฝ่ายเท่านั้น"เรน?" กันย์ถาม "หน้ามึงเหี้ยไม่พอ สันดานมึงยังเหี้ยอีกเหรอวะ!?""กันย์..." เรนลนลานจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว "กูอธิบายได้...""ใช้กูเป็นเหยื่อล่อ" กันย์พูดต่อ "แถมยังจะมาเล่นงานตอนกูหมดสภาพอีก กูควรทำไงกับมึงดีวะ?"/...ชิบหายๆๆๆๆๆๆ/ เรนสาดส่ายสายตาไปรอบๆ เพื่อหาอะไรบางอย่างที่พอจะช่วยได้ /เอาไงดีวะๆๆๆๆๆ/" มันทำพวกผมกับพี่แบบเนี้ย" ซันเดินตามมาสมทบ “เอาแบบเสร็จเรื่องแล้วส่งวัดเลยดีมั้ยพี่""งั้นต้องไปซื้อไม้บรรทัดก่อนจะได้ส่งวัดได้" กฤตเหมือนจะเล่นมุก"จ่ะ" และเหมือนจะไม่มีใครขำ"อ๊ะ!" สายตาของเรนหยุดลงที่ก็อตที่กำลังยืนดูอยู่ด้วยความรู้สึกผิด /คิดออกแล้ว!!!/"ว่าไง?" กันย์ถามต่อ "น้องๆ เขาก็อยากมีส่วนร่วมว่ะ""ถ้าจะหาคนผิดน่ะ..." เรนชี้นิ้วไปหาก็อต "ไปหามันดีกว่า!!!""อะไรของมึงวะ?" กันย์หันกลับไปตามจึงได้พบกับก็อต "ไอ้ก็อต มึงมี่เอี่ยวไรด้วยวะ!?""ก็คนที่พากูมานี่ก็มันเองนี่แหละ!!!" เรนโยนความผิดให้ก็อตเพียงคนเดียว ก่อนจะนำกล้องของก็อตที่ห้อยอยู่ขึ้นมา "แล้วดูนี่สิ มันถ่ายรูปมึงโชว์รูตูดไว้ด้วย!!!""เฮอะ! ไอ้รูปนั้น เพื่อนกูมีหมดทุกเครื่องแหละวะ" กันย์ดูเหมือนไม่สบอารมณ์ ก่อนจะมองไปทางก็อต "แต่ไอ้ก็อต จริงเหรอที่มึงพาพวกมันมานี่""จริงครับ" ก็อตตอบไปตรงๆ "และคนที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดมันก็ผมเองนี่แหละ""นี่มันหมายความว่ายังไง?" กันย์ถาม"คลิปที่ผมเอาให้พี่ดูตอนเที่ยงน่ะ" ก็อตบอกความจริงทั้งหมดด้วยสีหน้าเศร้าสุดๆ "ผมใช้คาถารวมภาพกับรวมเสียงสร้างขึ้นมาเองครับ... เพื่อที่จะ... เพื่อคลิปคลิปเดียว...""..." กันย์ได้แต่ยืนอึ้ง ด้วยความโกรธจนลุกเป็นไฟ "ที่กูดีกับมึงมาตลอดนี่มันยังไม่พอรึไงวะ?""..." ส่วนติ๊กกับคนอื่นๆ ได้แต่ยืนมองด้วยความอาลัย"ผมขอโทษพี่..." ก็อตดูจะสำนึกผิดจริงๆ "เพราะผม ผมมันโง่... ทำให้พี่กับกันมันเกือบตาย ผมขอโทษจริงๆ"/เออ นั่นแหละๆ/ เรนเริ่มดีใจผิดกับคนอื่นๆ /กูจะรอดแล้ว!/"ไอ้เหี้ยเอ๊ย!!!" กันย์เริ่มหมดความอดทนแล้ว"ใจเย็นก่อนเถอะพี่" ผู้ที่มาห้ามกันย์ไว้นั่นคือ กันที่เดินมาจับไหล่เขาเอาไว้นั่นเอง "ค่อยๆ คุยกันได้น่า""..." กันย์นิ่งไปชั่วครู่ "นี่มึงไม่โกรธบ้างรึไงวะ ที่มันทำงี้กับพวกเราน่ะ!!! ทำเหมือนเราเป็นของเล่นเงี้ย!!!""โกรธน่ะมันโกรธครับ" กันยิ้มบอก "แต่ผมสาบานไว้ว่า ต่อให้เพื่อนมันจะเป็นยังไง ผมก็จะไม่โกรธมันครับ""มึงจะสาบานเหี้ยไรกูไม่สนหรอก!!!" กันย์ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น "แต่กูไม่ไหวแล้วว่ะ!!!""แล้วที่ผมเตะหน้าพี่กระเด็นน่ะ พี่ไม่โกรธรึไงครับ" คำพูดนี้ทำให้กันย์หยุดชะงักไป "ครั้งแรกที่เจอกัน แค่ผมไปทำตัวกร่างอวดพี่นิดหน่อยพี่ก็โกรธแล้ว แต่นี่เลือดตกยางออกขนาดนี้ พี่ยังไม่โกรธเลยครับ""นี่อย่าบอกนะว่า..." กันย์ถาม "มึงรู้เรื่องคลิปนั่นแต่แรกแล้วเหรอ?""ยิ่งเราได้รู้จักกันมากเท่าไร ยิ่งคุยกันมากเท่าไร เราก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นจนเป็นพี่น้อง" กันเล่าต่อ "คนเรามันจะโกรธแต่คนแปลกหน้าเท่านั้นแหละ ถึงจะโกรธกันชั่วคราว ไม่รู้จักกันชั่วคราวก็เถอะ แต่ถ้าให้เสียเพื่อนไปแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ผม... ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดซ้ำสองครับ""มึงนี่มัน..." กันใจเย็นลงจนเริ่มยิ้มออกมาได้แล้ว ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เดินจากไป "เหลือทนจริงๆ ว่ะ""ผมแค่ไม่ยอมให้พี่ต้องเหมือนเพื่อนผมที่มันตายเพราะความโกรธแค้นเท่านั้นแหละครับ" กันยิ้มบอก "อย่าไปใส่ใจเลย"/เรื่องนั้นเองเหรอ.../ ติ๊กเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง"เอาเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วกัน" กันย์ยิ้มบอกกับก็อต "ขอบใจเพื่อนมึงซะล่ะ ถ้าไม่มีมันป่านนี้มึงบินไปไกลแล้ว แต่อย่าให้มีครั้งที่ ๒ แล้วกัน!!!"/ซักวัน... ซักวันมึงจะเหมือนกู/ ก็อตหวนคิดถึงคำพูดของติ๊กพร้อมรอยยิ้มอันสมหวัง “ไม่นึกเลยนะ ว่าซักวันมันจะเป็นวันนี้...""หึ" ติ๊กหัวเราะเมื่อได้เห็นท่าทีของก็อต"เอ้อพี่..." กันเรียกตามหลังไป "แล้วไอ้...""ตามแต่ใจมึงแล้วกัน" กันย์ยิ้มทวนหลังให้ "กูว่าเกิน ๓ วิ ตั้งนานแล้วนะ""เอ๋?" เรนสงสัย "มันคุยเรื่องไรกันวะ?""ลูกเตะเหมันต์ทะยานเวหา!!!" เรนเข้าใจคำตอบอย่างแจ่มแจ้งทันที เมื่อเท้าขวาของกันได้ลอยขึ้นมาเตะใส่ใบหน้าของเขาโดยไม่ทันให้รู้ตัว ด้วยพลังแห่งสายลมกรรโชกที่ปล่อยออกมาจากฝ่าเท้า เป็นแรงสนับสนุนลูกเตะลูกนี้ให้ลอยทะยานเป็นรูปครึ่งวงกลม พุ่งปะทะเข้าใส่เป้าหมายเต็มๆ ในเวลาชั่วพริบตา ด้วยแรงมหาศาลจึงทำให้เรนเป็นอันต้องกระเด็นลอยออกไปไกลยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เลยทีเดียว นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่กัน และร่างที่ไร้สติ คงจะเป็นบทเรียนครั้งสำคัญแก่เขาแน่ๆ"เฮ้อ" กันหวนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง "หมดเรื่องหมดราวซักที""กัน!" กฤตวิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว "กูคิดว่ามึงจะไม่รอดแล้วซะอีก!!!""ก็เคยเห็นในคลิปที่มึงสู้กับหวังนะ" ซันตามมาอีกคน "แต่นี่มันยิ่งกว่าในคลิปอีกว่ะ""แกว่งตีนหาเสี้ยนอีกแล้วนะมึงอ่ะ" ติ๊กตามมาอีกคน "ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับกูอยู่ดี""ไม่หรอก" กันยังถ่อมตัว "กูไม่ถึงขนาดนั้นหรอก""เหอะ" ก็อตเดินผ่านกันไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผิดกับสองคนแรก "กลับบ้านได้ซะที""ก็อต" ติ๊กเรียกตามหลัง "ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ?""ไม่อ่ะ" ก็อตไม่สบอารมณ์ทั้งสิ้น "อยู่จนเบื่อแล้วว่ะ""หูซ้ายทะลุหูขวาจริงนะมึงนี่" ติ๊กยิ้มบอก"ช่างเถอะ" กันยิ้มบอก "กลับแล้ว ยังไงก็เจอกันแล้วกัน""เออ" ก็อตหันกลับไปยิ้มบอก "บาย""เออใช่!" กฤตเหมือนนึกอะไรออก "กูลืมไปเลย!!!""ลืมไรวะ?" ซันถาม"ตกลงมึงกับติ๊กได้เสียกันยังวะ!!!" กฤตถามด้วยหน้าตาตื่นเต้นที่สุด "นิสัยเปลี่ยนจนพูดได้ขนาดนี้ กูว่าแม่งเสร็จกันไปหลายน้ำแน่ๆ เลยว่ะ จริงป่าววะ?""..." ทั้งกัน ติ๊ก และซัน ต่างร่วมใจกันตบหัวกฤตอย่างพร้อมเพรียง"***ไรเกย์!!!" กฤตตะโกนด่าทันที "เฟ็ดแม่มไอ่สัส!!!""เกือบลืมกล้องเลยกู" ในขณะเดียวกัน ก็อตที่กำลังเดินกลับไปเรื่อยๆ ก็ต้องมาหยุดลงต่อหน้าร่างอันไร้สติของเรน ที่กำลังนอนสลบเหมือดอยู่บนตัวบังยี่อย่างเหมาะเจาะ อาจเป็นเพราะที่คอของชายหน้ากระปอมคนนี้ มีกล้องของเขาที่โดนขโมยมาคล้องคออยู่นั่นเอง หนุ่มแว่นค่อยๆ ก้มตัวลงไป ใช้มือสองข้างถอดมันออกมา แล้วจับใส่คอเจ้าของที่แท้จริงตามเดิม ก่อนที่เขาจะยกกล้องขึ้นมา ใช้นิ้วโป้งเปิดตัวกล้อง เล็งไปที่เพื่อนๆ ของเขาทั้งสี่ที่อยู่ไกลออกไปข้างหน้า แล้วจึงใช้นิ้วชี้ลั่นชัทเตอร์ บันทึกภาพของทั้งสี่เอาไว้อย่างคมชัด รูปถ่ายรูปนี้สะท้อนอะไรได้หลายอย่าง มันไม่ใช่คลิปเด็กตีกันที่ใช้สร้างชื่อเสียงเหมือนที่เขาเคยทำ แต่เป็นเพียงรูปถ่ายของเพื่อนๆ ที่กำลังคุยกันด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพท่ามกลางแสงแดดยามเย็น ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จึงก่อเกิดเป็นรูปถ่ายธรรมดาๆ อันสวยงาม และบางที ก็อตอาจจะได้รับบทเรียนครั้งสำคัญนี้ จนเป็นเหตุให้แสยะยิ้มขึ้นมาด้วยความจริงใจเลยก็ว่าได้"หึ" ก็อตแสยะยิ้มเล็กๆ "บางที ภาพนิ่งมันอาจจะดีกว่าคลิปก็ได้นะ""สู้กับไอ้พวกนี้เหนื่อยป่าววะ?" กฤตถาม "เจอเรื่องมาทั้งวันงี้กูอยากไปดูหนังว่ะ""มึงนี่ก็ยังมีอารมณ์เนอะ" ซันประชด"ไม่หรอก" กันยิ้มบอก "ไอ้พวกนี้กระจอกไปว่ะ เหนื่อยจริงต้องพรสามประการ""เดี๋ยว" ติ๊กสงสัย "มึงไปสู้กับพรสามประการตั้งแต่ตอนไหนวะ?""หา?" กันสงสัยเช่นกัน "ก็ก่อนจะเจอพวกมึง กูเจอกับพี่กันย์มาแล้วไง พรสามประการเลยนะเว้ย""..." ทั้งสามชะงักไปพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย"เดี๋ยวๆๆๆ พวกมึง" กันเริ่มลนลานขึ้นมา "หมายความว่าไงวะ?""ใครบอกมึงวะว่าพี่กันย์เป็นพรสามประการ?" ซันถาม"..." กันชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะโวยวายขึ้นมาเสียงดัง "ว๊อยยยยยยยยย นี่กูสู้ผิดตัวเหรอวะเนี่ย!!! เหี้ยเอ๊ย! กูก็ว่าทำไมแม่งไม่ยอมใช้พรซะที!!!""ความจริงพี่กันย์เป็นคนเหมือนกูด้วยนะ" ซันบอกต่อ"เหี้ยเอ๊ย!!! ไม่ใช่แม้แต่ชาวหิมพานต์ด้วยเหรอวะ!!!" กันรู้สึกขายหน้าอย่างบอกไม่ถูก "ทำไมกูมันโง่ขนาดนี้เลยวะเนี่ย!!!"/ก็โง่จริงนะ/ ทั้งสามคิดเป็นเสียงเดียวกัน"แล้วอะไรทำให้มึงคิดว่าพี่กันย์เป็นพรสามประการวะ?" ติ๊กถาม"พวกมึงไม่น่าจะรู้อะไรหรอก แต่ถ้าผู้ที่ได้รับพรมาหนึ่งประการน่ะ จะสามารถตรวจจับระดับค่าละอองสวรรค์โดยไม่ต้องใช้เครื่องวัดได้นะเว้ย ถึงจะไม่แน่นอนก็เถอะ แต่ทั้งตอนเที่ยง ทั้งเมื่อกี้ กูก็จับระดับค่าละอองสวรรค์ที่พอจะใช้..." แต่กันดูเหมือนจะคิดอะไรออก "เดี๋ยวสิ มันหายไปนานแล้วนี่นา ระดับพลังอันน่ากลัวนั่น""น่ากลัวเลยเหรอ?" ซันถาม"มันเยอะมาก แถมยังมีระดับค่าละอองสวรรค์ที่มีคุณสมบัติพรอีก..." บรรยากาศเริ่มตึงเครียดแล้ว "เยอะ... เยอะกว่ากูอีก...""แสดงว่า มึงคงตรวจจับระดับค่าใกล้ๆ กันได้งั้นสิ" จู่ๆ ก็อตก็เดินกลับมาอีกครั้ง "งั้นกูก็พอจะรู้แล้วแหละ""อ้าวก็อต" กฤตถาม "มึงกลับมาทำไมวะ""พอดีได้ยินอะไรน่าสนใจน่ะ" ก็อตบอก "เลยจะมาบอกอะไรหน่อย""อยู่ไกลขนาดนั้นได้ยินก็เหี้ยแระ" กฤตบอกตามความจริง"อักขระคาถาสีฟ้าที่ติดอยู่บนคอมึงอ่ะของกูเอง" ก็อตชี้ไปที่วงแหวนอักขระสีฟ้าบนคอกัน "มันเป็นคาถาที่จะสามารถลอบฟังได้ เชื่อมต่อกับที่อยู่บนมือกูนี่""อ้าว งั้นมึงก็คิดไม่ซื่อ..." กฤตถามต่อ"เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ" กันห้ามกฤตไว้ "มึงจะบอกอะไรกันแน่""ระดับค่าละอองสวรรค์ที่เยอะกว่ามึง แถมยังตรวจจับได้ตอนเจอกับกันย์อีก" ก็อตอธิบาย "กูว่าคงมีพรสามประการคนเดียวแหละ""ใคร?" กันถามต่อ พร้อมรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นที่ปรากฏบนใบหน้า"ก็นะ แม่งสูงกว่ามึงอีก" ก็อตอธิบายลักษณะ "คิ้วเข้ม ไว้สกินเฮด บอกไปมึงก็มึงก็ไม่รู้หรอก”"แล้ว..." กันเริ่มตื่นเต้นเข้าไปทุกที "แล้วชื่อล่ะ...""ฟัก พี่ฟักแฟง ม.๖"
โปรดติดตามบทถัดไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ