♥ 꽃미남 █ BLACK COMEDY :: แสบนัก รักตลกร้าย
-
เขียนโดย jennyrenger
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.22 น.
3 chapter
0 วิจารณ์
6,575 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2558 18.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) █ ATAY 03ll Wanna be a doctor
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ3
Wanna be a doctor
ผม ถอนหายใจยาวเมื่อไอ้พี่กัลป์เลิกสอดรู้เรื่องของผมและไสหัวออกจากห้องไปได้ สักที แถมแม่งยังพูดเรื่องเวรตะไลตอนที่ไอ้เวย์อยู่ในห้องนี่ด้วยดิ คือใครรู้ผมก็ไม่แคร์นะ ยกเว้นไอ้เวย์...
พอดีนางรู้จักคุณเตชิต รัตนชินทร์ พ่อผม (-_-;;)
แกรก!
เสียงไอ้เวย์ค่อยๆโผล่ออกมาจาก ตู้เสื้อผ้าพร้อมสอดสายตาส่องไปรอบห้องอย่างหวั่นๆ มันเช็ดเหงื่อตามกรอบหน้าก่อนจะสบตากับผมอย่างสงสัยและคำแรกที่ออกมาจากปาก มันก็ทำเอาผมหงุดหงิด
“ผัวมึงเหรอ?”
ตรงไปนะ บางที ขนพี่เตย์ลุกเลอ -.-
“อย่าเสือก” ผมเบ้หน้าไม่พอใจแล้วหาผ้าเช็ดตัวเตรียมไปอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าเกิดจะรักสะอาดอะไรขึ้นมาหรอก ขี้เกียจตอบคำถาม บางเรื่องก็ไม่ควรรู้...
แต่ด้วยความที่ไอ้เวย์มันมีเข้าใจอะไรยากจึงไม่สามารถมโนได้ว่าผมไม่อยากตอบ
“หรือเมีย?”
กระทืบผู้หญิงสักทีได้มั้ย -_-^
“หรือ...มึงเป็นเสือไบเหรอ?” ไอ้เวย์ทำหน้าซีเรียสทำเอาผมเครียดขึ้นมานิดหน่อย ผมจะเป็นเพศไหนเกี่ยวอะไรกับมัน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความลับระดับซีเอสไอโว้ยยยย!
“กูจะบอกให้นะไอ้เวย์...” ผมพูดพร้อมเอามือจิ้มหน้าผากมันจึกๆ
“...”
“กูเป็นผัวมึง” ผมว่าแล้วกระตุกยิ้มชั่วๆปรายตามองร่องรอยประวัติศาสตร์ตามเนื้อตัวอย่าง ภาคภูมิใจ ในขณะที่คนตรงหน้าไหวไหล่ไม่สนใจท่าทางและคำพูดกวนประสาทผมสักนิด
“อย่าเยอะ”
ครับ น้อมรับราชโองการ -_-^
“ก็แค่อยากรู้ไว้ว่าต้องหลบใคร ไม่ได้อะไรมาก” มันพูดหน้าตาเฉย ไร้สีหน้าท่าทีตื่นตระหนกตกใจ หรือบางทีอาจจะตกใจจนเฉยๆไปแล้วก็ได้ แต่แบบมันก็ดูเข้าใจอะไรง่ายไปนิดนะ เหมือนกับว่าไม่เคยใส่ใจ...
“ถ้ากูเคยได้กับผู้ชาย มึงจะรังเกียจป่ะ?” ผมลองเชิงทำหน้าซีเรียสทั้งๆที่ความจริงก็ถามไปงั้นอ่ะ
“แปลกเหรอวะ กูยังเคยได้กับผู้ชายเลย ได้กับมึงไง” คนตรงหน้าตอบเสียงเรียบทำเอาผมชะงักนิดหน่อย
สาบานว่านั่นคำพูดจากปากชะนีกุลสตรีสามปีซ้อนของโรงเรียน (-_-) ตอนนั้นใช้เงินซื้อตำแหน่งป่ะเนี่ย
“ซีเรียสสส” ผมลากเสียงแล้วดึงกระจุกผมมันอย่างหงุดหงิดจนตัวมันเอนไปด้านข้าง
“เอาตรงๆป่ะ” มันตีมือผมก่อนจะชักสีหน้านิดหน่อย
“เออ”
“มึงจะเคยหรือไม่เคย สำหรับกู...” ไอ้เวย์มองหน้าผมแล้วยกยิ้มหวาน นัยน์ตาเรียวรีสีน้ำตาลเข้มนั่นราวกับเล่นกลอะไรสักอย่างทำเอาไรขนอ่อนผมลุก ชันไปทั้งร่าง อยู่ดีๆเส้นเลือดแดงดำก็บีบรัดทำงานกันหฤโหดจนเสียงดังตึกตักก้องในมันสมอง อย่าบอกนะว่าผมกำลังเคลิ้ม...
ตึก ตัก ตึก ตัก... ผมเคลิ้ม...?
ขณะ ที่ผมกำลังคิดว่าตัวเองต้องมนเสน่ห์ของผู้หญิงตรงหน้าจนความร้อนแล่นพล่านไป ทั้งตัว ฉับพลันความคิดทุกอย่างก็สะดุดเพียงเพราะประโยคๆเดียว!!!
“ก็น่ารังเกียจอยู่ดีว่ะ”
“...”
เหอะๆ ขอความกรุณาเงิบสามวินาทีก่อนที่พี่เตย์จะแปลงร่างเป็นไอ้หน้าตัวเมียเพราะด่าผู้หญิง....
สาม
สอง
หนึ่ง
“ไอ้สาสสสสสส! กูเกลียดมึง อีสมองฟิลเลอร์!!!”
คือแบบตอนท้องนี่ศรีสมรไปขอลูกจากเวตาลย์ปะวะ ผู้หญิงอะไรหน้าตาดูใจบุญ แต่สถุลยันสันดาน! ผมถอนหายใจเมื่อใช้แรงทั้งหมดไปกับการตะโกนด่ากราด ก่อนจะรู้สึกอยากเข้าไปทึ้งร่างบางเพราะแทนที่มันจะสำเหนียกในความกวนตีนของ ตัวเอง ดันหัวเราะสบายใจเฉิบซะงั้น
แหม สนุกเหลือเกินนะแม่คุณ
“คือสมองฟิลเลอร์นี่จะเปรียบว่าสมองไม่มีรอยหยักใช่ป่ะ?” มันเลิกคิ้วสูงพร้อมรอยยิ้มเหมือนคนเหนือกว่า
เหอๆ ทีนี้เสือกฉลาด
“เออ” ผมตอบรับแล้วพยายามจะตบหัวมันหนึ่งที แต่แม่งหลบเก่งชิบหาย สงสัยชาติก่อนเป็นลิงลม -_-^
“แหม อีสมองเม็ดก๋วยจิ๊อย่างพี่เตย์มีสิทธิ์มาว่าคนอื่นด้วยอ่อ?” ไอ้เวย์จิ๊ปากกวนตีนในขณะที่ผมเส้นเลือดเริ่มปูดโปนที่ขมับ จะว่าผมโมโหไอ้เวย์ก็คงไม่ใช่หรอก แต่ความหงุดหงิดมันสั่งสมมาตั้งแต่ไอ้พี่กัลป์เข้ามาหาเรื่องแล้ว...
น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือการที่ไอ้เวย์เหมาว่าผมเป็นเสือไบเนี่ยแหละ!
“แล้วตกลงยังไงไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้...?”
สงสัยว่าคนเป็นหมอนี่สอดสาระแนทุกคนเลยรึเปล่า
“พี่กัลป์ไง รุ่นพี่กู” ผมพูดด้วยความรู้สึกแขยงปากที่เรียกไอ้เวรนั่นว่าพี่ เพราะแม่งไม่ได้มีความน่าเคารพเลยสักนิด ไอ้กัลป์หรือพี่กัลป์เรียนวิทยาสาขาธรณีเหมือนกับผม เรารู้จักกันในวงดนตรีสั่วๆที่ตั้งเล่นๆเอาเท่ไว้อ่อยสาว ที่สำคัญ...
แม่งเรียนมาแปดปีละ ยังไม่จบ -_-^
“อ้อ ป๋ากัลป์ธรณีปีแปดอะนะ” มันฉุกใจคิดขึ้นได้ในทันที บ่งบอกได้ว่าอีพี่คนนี้มันโด่งดังขนาดไหน ดังในเรื่องอะไรนี่อย่าให้พูด ทุเรศบัดซบจัญไรต้องผู้ชายคนนี้เลย
“คนที่หล่อๆตี๋ๆหน้าเกาหลีใช่ป่ะ”
“เออ -_-” ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินมันชมเพราะผมเกลียดไอ้เวรนี่โคตรอ่ะ
“แล้วไปไงมาไงได้กัน เมาเหรอวะ?” มันถามหน้าตาย และอาจจะตายในเร็วๆนี้
“ได้ก็แย่ละครับ มันก็กวนตีนไปงั้นแหละ ทะเลาะกับเมียมาลงที่กูตลอด” ผมอ้างไปเรื่อย ความจริงมันไม่ได้ทะเลาะกับเมียหรอกแต่มันมีเรื่องที่พูดไม่ได้ โดยเฉพาะกับไอ้เวย์ที่ห้ามรู้เด็ดขาด!
“เหรอ กี่ยกอ่ะ”
แหม... นี่ผมว่าผมหื่นและกวนตีนมากแล้วนะ นางเพื่อนคนนี้นี่มาเหนือเมฆเหลือเกิน
“ไหนรีบไปขึ้นวอร์ดวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดลอยๆเพื่อไล่จี้ให้มันออกจากห้อง ก่อนที่มันจะกวนประสาทไปมากกว่านี้ หมดประโยชน์กับพี่เตย์คนจริงแล้วก็กลับไปทางเดิมซะไอ้น้องเอ๋ย~ นี่ไม่ได้เลวนะ... เค้าเรียกว่าผลประโยชน์ร่วมกัน J
“ไล่เหรอ?” มันเบ้หน้างอนคงคิดว่าตัวเองน่ารักมาก และที่ตลกคือแม่งคิดถูก ผมปรายตาไปทางอื่นเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเล่นมุขหลอกลวงเอาข้อมูลลับเรื่อง ไอ้พี่กัลป์จากผมอีก
“เปล่า เขาเรียกเนรเทศ -_-+”
“เออ ไม่ต้องไล่ก็ไปอยู่แล้ว พูดเหมือนอยากอยู่ด้วยมาก” ไอ้เวย์ไหวไหล่ไม่แคร์คำพูดผมก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลบไปอีกทางอย่างเร่งรีบจน ผมเผลอคิดไปว่า
ถ้ามึงจะรีบขนาดนั้นก็น่าจะไปตั้งแต่แรกแล้วปะวะ -_-
“แล้ววันนี้จะมานอนนี่ป่ะ?” ผมถามไล่หลังสาวเจ้าที่ดึงสายกระเป๋าข้างเตียง มันหันมามองหน้าผมนิดหน่อยแล้วหัวเราะทั้งที่ไม่มีอะไรตลก
“คิดถึงกันก็บอก” มันว่าแล้วยิ้มยียวนแกล้งแซวผมเล่นๆ
เหอๆ คนอะไรน่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย!
“รีบไปเลย ไป๊ ชิ่วๆ” ผมโบกมือไล่แล้วทำปากจิ๊จ๊ะประหนึ่งไล่หมาจรจัด ในขณะที่ไอ้เวย์เลิกคิ้วสูงมองหน้าผมอย่างชั่งใจ
“ถ้าจะไล่กันขนาดนั้นก็นะ -_-” มันว่าทำเอาผมกลั้นขำน้ำตาแทบเล็ดก่อนจะเดินไปดันหลังมันเป็นการเชื้อเชิญออกจากห้องและปิดท้ายด้วยประโยคสวยๆสมกับใบหน้าผมนั่นแหละ
“รีบไปรีบกลับนะหมอเวย์ อาเตย์รออยู่♥”
ตายๆๆ ไอ้เตย์ มึงแม่งน่ารักชิบหาย ผู้ชายอะไรเนี่ย เคลิ้มเลยเคลิ้ม >O<
ผมเผลอทำหน้าสะดีดสะดิ้ง นิดหน่อยกับคารมหวานๆที่เรียนรู้มาจากพี่รหัสของผมเอง แต่ทว่าแทนที่ผู้หญิงตรงหน้าจะอ่อนระทวยเหมือนหญิงอื่น มันกลับหันมามองหน้าผมแบบงงๆก่อนจะพ่นวาจาไม่น่าอภัยเป็นที่สุด เพราะพอผมได้ยินเท่านั้นแหละแม่ง...
“เรื่องของมึง”
เงิบเบย...
ตอนเที่ยง
ตั้งแต่ไอ้เวย์ไปผมก็ไม่รู้จะทำ อะไรเลยนอนต่อเพราะวันนี้ไม่มีเรียน หรือมีก็ไม่แน่ใจ เอาง่ายๆคือผมขี้เกียจ เมื่อวานใช้แรงมากไปหน่อย...
แต่ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ เดี๋ยวคราวหน้าบอกไอ้เวย์ใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นดูมั่งดีกว่า ดูมีอะไรดี
ผมลุกขึ้นมานอนกดเฟสบุ๊คเล่น เพราะขี้เกียจนอนต่อก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆโทรศัพท์ไอโฟนเก้าเอสของผมก็สั่น ขึ้นมาพร้อมหน้าไอ้เวย์เต็มจอ... ผมกระตุกคิ้วนิดหน่อยร้อยวันพันปีมันไม่เคยโทรหาผมแต่วันนี้มันกลับโทรมา?
อย่าบอกนะว่าติดใจท่าโยกความถี่สูงของผมมากจนต้องโทรมาเนี่ย (-.,-) แต่จะรับเลยก็ไม่สนุก ปล่อยไว้สักสามสี่วินาทีให้มันรอสายเล่นๆ ก็คิดแบบนั้นนะแต่ขี้เกียจนับเลขถอยหลังเอาเป็นว่ารับเลยละกัน!
ผมกดรับก่อนจะยกขึ้นแนบใบหูและเริ่มต้นประโยคสนทนาด้วยคำว่า...
“คิดถึงท่าโยกความถี่สูงของกูเหรอ?”
สาบานว่านั่นประโยคแรกที่ผมพูด -.-
[ไอ้เตย์ กูลืมเสื้อกราวน์ไว้ที่หอมึงป่ะ?] ปลาย สายพูดอย่างเร่งรีบไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของผมเลยสักนิด ผมจึงปล่อยผ่านแล้วทอดสายตามองหาเสื้อกราวน์ไปรอบห้องจนกระทั่งพบว่ามันพาด ไว้อยู่กับโซฟาที่ไอ้เวย์เคยนั่ง
และวินาทีนั้นผมก็รับรู้ได้ใน ทันทีว่าไอ้พี่กัลป์มันโวยวายทำไม ก็นะ... จะไม่ให้มันด่าผมได้ไงก็หลักฐานมันทนโท่คาตาอยู่ขนาดนี้ว่าไอ้เวย์มาห้องผม ใช่ ความจริงแล้วผมกับมันไม่ใช่คู่ขากันหรอก แต่ไอ้พี่กัลป์มันชอบไอ้เวย์
และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ผม กระเหี้ยนกระหือรือจับเพื่อนสาวปล้ำเมื่อวาน หรือบางที่อาจเป็นสาเหตุหลักเพราะผมเกลียดขี้หน้าแม่ง ถ้ามันชอบใครผมจะแย่งมาให้หมดเลย เฮอะ -_-^
“เออ ลืมไว้ ทำไม?” ผมพูดห้วนๆแล้วถอนหายใจยาวเมื่อปลายสายดันหาเรื่องยุ่งยากให้ผมอาทิเช่น...
[เอามาให้ที่โรง’บาลหน่อย]
“ไม่ไปได้ป่ะ?” ผมว่าแล้วนอนกลิ้งไปมาอย่างเบื่อๆ สถานที่อโคจรอย่างโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยคนแก่ชราหงำเหงือก พวกขี้โรคและหมอหล่อๆที่มักจะกินกันเอง ถ้าแม่งอยากจะแดกผมขึ้นมาก็ซวยอีก ผมไม่อยากไปหรอก -_-^
[เตชิต] ปลายสายพูดเสียงเรียบแต่ทว่า...แค่สองคำทำเอาช้ำไปถึงปลายเท้า!
ผมรู้ว่ามันพูดชื่อพ่อผมขึ้นมาทำไม ใช่... แม่งกำลังขู่ว่าจะฟ้องพ่อผมไง!
“เออ เดี๋ยวไป!” ผมกระแทกเสียง
[ให้เวลาห้านาที รีบมาเลย] มันพูดเร่งเร้าในขณะที่ผมแทบจะแดกโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด พูดเหมือนง่าย มันเคยเห็นการจราจรเมืองไทยมั้ย? ถึงได้พูดออกมาว่าห้านาทีต้องถึง!
กูขับรถไปนะครับไม่ได้เอากระด้งติดหลังแล้วบินไปหา!
“บอกพ่อมึงมาเอาเหอะ!” ผมกวนตีนแต่เสือกโมโหเองเพราะลืมไปว่ากวนใส่ใครอยู่!
[พ่อกูอยู่อิตาลี]
เหอๆ กูประชดครับ!
“เออออ เดี๋ยวไป” ผมว่าแล้วกดวางสายในทันใดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แทนที่จะได้แต่งตัวไปแรดกับน้องแตงโมนมโตเหมือนชื่อ ว่าที่ภรรยาในอนาคตที่ผมจริงจังมากกว่าบรรดากิ๊กทั้งหมด... เสือกต้องไป โรงพยาบาลซะงั้น!
น่าเบื่อ... ผมคิดแบบนั้นในตอนแรกจนกระทั่งนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจดจ่ออยู่ที่เสื้อกราวน์ ยาวๆของไอ้เวย์ ความคิดบัดสีสุดบรรเจิดก็บังเกิดขึ้นมาในมันสมอง! เหอๆ ไหนๆก็เรียนธรณีวิทยาใส่แต่เสื้อช็อปสีกากีมานานละ...
ดูท่าวันนี้ไอ้เตย์จะได้ลองสวมเสื้อกราวน์หล่อๆดูสักที! นี่ถ้าเจอชะนีสวยๆเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่หมอเตย์...
จะจับตรวจภายในแม่งให้หมดเลย! วะฮะฮ่า เสร็จกู!!!
-100%-
--------------
กราบขออภัยในความล่าช้าเจนจิราติดซีรีย์มากมาย 5555+
คือคำด่าอีเตย์นางบรรเจิดมากต้องขอบคุณขุ่นน้องขาที่มานั่งด่าชาวบ้านให้เจ๊ฟัง
ฮี้ๆๆๆๆๆปากหมาแต่หน้าสวย รวยลีลาเจนจิราให้สามผ่านนน! 5555บทนี้อีเตย์รั่วมาก 55หมออย่างอีเตย์นี่เอาไปเก็บเหอะ 555
ติดตามเจนได้ในเพจนะคะ
https://www.facebook.com/jennyrenger01
--TALK: ใครเล่นทวิตแท็กนางได้นะ 5555#ไอ้สวยวิทยาม๊วฟฟฟฟ >O<
Wanna be a doctor
ผม ถอนหายใจยาวเมื่อไอ้พี่กัลป์เลิกสอดรู้เรื่องของผมและไสหัวออกจากห้องไปได้ สักที แถมแม่งยังพูดเรื่องเวรตะไลตอนที่ไอ้เวย์อยู่ในห้องนี่ด้วยดิ คือใครรู้ผมก็ไม่แคร์นะ ยกเว้นไอ้เวย์...
พอดีนางรู้จักคุณเตชิต รัตนชินทร์ พ่อผม (-_-;;)
แกรก!
เสียงไอ้เวย์ค่อยๆโผล่ออกมาจาก ตู้เสื้อผ้าพร้อมสอดสายตาส่องไปรอบห้องอย่างหวั่นๆ มันเช็ดเหงื่อตามกรอบหน้าก่อนจะสบตากับผมอย่างสงสัยและคำแรกที่ออกมาจากปาก มันก็ทำเอาผมหงุดหงิด
“ผัวมึงเหรอ?”
ตรงไปนะ บางที ขนพี่เตย์ลุกเลอ -.-
“อย่าเสือก” ผมเบ้หน้าไม่พอใจแล้วหาผ้าเช็ดตัวเตรียมไปอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าเกิดจะรักสะอาดอะไรขึ้นมาหรอก ขี้เกียจตอบคำถาม บางเรื่องก็ไม่ควรรู้...
แต่ด้วยความที่ไอ้เวย์มันมีเข้าใจอะไรยากจึงไม่สามารถมโนได้ว่าผมไม่อยากตอบ
“หรือเมีย?”
กระทืบผู้หญิงสักทีได้มั้ย -_-^
“หรือ...มึงเป็นเสือไบเหรอ?” ไอ้เวย์ทำหน้าซีเรียสทำเอาผมเครียดขึ้นมานิดหน่อย ผมจะเป็นเพศไหนเกี่ยวอะไรกับมัน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความลับระดับซีเอสไอโว้ยยยย!
“กูจะบอกให้นะไอ้เวย์...” ผมพูดพร้อมเอามือจิ้มหน้าผากมันจึกๆ
“...”
“กูเป็นผัวมึง” ผมว่าแล้วกระตุกยิ้มชั่วๆปรายตามองร่องรอยประวัติศาสตร์ตามเนื้อตัวอย่าง ภาคภูมิใจ ในขณะที่คนตรงหน้าไหวไหล่ไม่สนใจท่าทางและคำพูดกวนประสาทผมสักนิด
“อย่าเยอะ”
ครับ น้อมรับราชโองการ -_-^
“ก็แค่อยากรู้ไว้ว่าต้องหลบใคร ไม่ได้อะไรมาก” มันพูดหน้าตาเฉย ไร้สีหน้าท่าทีตื่นตระหนกตกใจ หรือบางทีอาจจะตกใจจนเฉยๆไปแล้วก็ได้ แต่แบบมันก็ดูเข้าใจอะไรง่ายไปนิดนะ เหมือนกับว่าไม่เคยใส่ใจ...
“ถ้ากูเคยได้กับผู้ชาย มึงจะรังเกียจป่ะ?” ผมลองเชิงทำหน้าซีเรียสทั้งๆที่ความจริงก็ถามไปงั้นอ่ะ
“แปลกเหรอวะ กูยังเคยได้กับผู้ชายเลย ได้กับมึงไง” คนตรงหน้าตอบเสียงเรียบทำเอาผมชะงักนิดหน่อย
สาบานว่านั่นคำพูดจากปากชะนีกุลสตรีสามปีซ้อนของโรงเรียน (-_-) ตอนนั้นใช้เงินซื้อตำแหน่งป่ะเนี่ย
“ซีเรียสสส” ผมลากเสียงแล้วดึงกระจุกผมมันอย่างหงุดหงิดจนตัวมันเอนไปด้านข้าง
“เอาตรงๆป่ะ” มันตีมือผมก่อนจะชักสีหน้านิดหน่อย
“เออ”
“มึงจะเคยหรือไม่เคย สำหรับกู...” ไอ้เวย์มองหน้าผมแล้วยกยิ้มหวาน นัยน์ตาเรียวรีสีน้ำตาลเข้มนั่นราวกับเล่นกลอะไรสักอย่างทำเอาไรขนอ่อนผมลุก ชันไปทั้งร่าง อยู่ดีๆเส้นเลือดแดงดำก็บีบรัดทำงานกันหฤโหดจนเสียงดังตึกตักก้องในมันสมอง อย่าบอกนะว่าผมกำลังเคลิ้ม...
ตึก ตัก ตึก ตัก... ผมเคลิ้ม...?
ขณะ ที่ผมกำลังคิดว่าตัวเองต้องมนเสน่ห์ของผู้หญิงตรงหน้าจนความร้อนแล่นพล่านไป ทั้งตัว ฉับพลันความคิดทุกอย่างก็สะดุดเพียงเพราะประโยคๆเดียว!!!
“ก็น่ารังเกียจอยู่ดีว่ะ”
“...”
เหอะๆ ขอความกรุณาเงิบสามวินาทีก่อนที่พี่เตย์จะแปลงร่างเป็นไอ้หน้าตัวเมียเพราะด่าผู้หญิง....
สาม
สอง
หนึ่ง
“ไอ้สาสสสสสส! กูเกลียดมึง อีสมองฟิลเลอร์!!!”
คือแบบตอนท้องนี่ศรีสมรไปขอลูกจากเวตาลย์ปะวะ ผู้หญิงอะไรหน้าตาดูใจบุญ แต่สถุลยันสันดาน! ผมถอนหายใจเมื่อใช้แรงทั้งหมดไปกับการตะโกนด่ากราด ก่อนจะรู้สึกอยากเข้าไปทึ้งร่างบางเพราะแทนที่มันจะสำเหนียกในความกวนตีนของ ตัวเอง ดันหัวเราะสบายใจเฉิบซะงั้น
แหม สนุกเหลือเกินนะแม่คุณ
“คือสมองฟิลเลอร์นี่จะเปรียบว่าสมองไม่มีรอยหยักใช่ป่ะ?” มันเลิกคิ้วสูงพร้อมรอยยิ้มเหมือนคนเหนือกว่า
เหอๆ ทีนี้เสือกฉลาด
“เออ” ผมตอบรับแล้วพยายามจะตบหัวมันหนึ่งที แต่แม่งหลบเก่งชิบหาย สงสัยชาติก่อนเป็นลิงลม -_-^
“แหม อีสมองเม็ดก๋วยจิ๊อย่างพี่เตย์มีสิทธิ์มาว่าคนอื่นด้วยอ่อ?” ไอ้เวย์จิ๊ปากกวนตีนในขณะที่ผมเส้นเลือดเริ่มปูดโปนที่ขมับ จะว่าผมโมโหไอ้เวย์ก็คงไม่ใช่หรอก แต่ความหงุดหงิดมันสั่งสมมาตั้งแต่ไอ้พี่กัลป์เข้ามาหาเรื่องแล้ว...
น่าหงุดหงิดกว่านั้นคือการที่ไอ้เวย์เหมาว่าผมเป็นเสือไบเนี่ยแหละ!
“แล้วตกลงยังไงไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้...?”
สงสัยว่าคนเป็นหมอนี่สอดสาระแนทุกคนเลยรึเปล่า
“พี่กัลป์ไง รุ่นพี่กู” ผมพูดด้วยความรู้สึกแขยงปากที่เรียกไอ้เวรนั่นว่าพี่ เพราะแม่งไม่ได้มีความน่าเคารพเลยสักนิด ไอ้กัลป์หรือพี่กัลป์เรียนวิทยาสาขาธรณีเหมือนกับผม เรารู้จักกันในวงดนตรีสั่วๆที่ตั้งเล่นๆเอาเท่ไว้อ่อยสาว ที่สำคัญ...
แม่งเรียนมาแปดปีละ ยังไม่จบ -_-^
“อ้อ ป๋ากัลป์ธรณีปีแปดอะนะ” มันฉุกใจคิดขึ้นได้ในทันที บ่งบอกได้ว่าอีพี่คนนี้มันโด่งดังขนาดไหน ดังในเรื่องอะไรนี่อย่าให้พูด ทุเรศบัดซบจัญไรต้องผู้ชายคนนี้เลย
“คนที่หล่อๆตี๋ๆหน้าเกาหลีใช่ป่ะ”
“เออ -_-” ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่ได้ยินมันชมเพราะผมเกลียดไอ้เวรนี่โคตรอ่ะ
“แล้วไปไงมาไงได้กัน เมาเหรอวะ?” มันถามหน้าตาย และอาจจะตายในเร็วๆนี้
“ได้ก็แย่ละครับ มันก็กวนตีนไปงั้นแหละ ทะเลาะกับเมียมาลงที่กูตลอด” ผมอ้างไปเรื่อย ความจริงมันไม่ได้ทะเลาะกับเมียหรอกแต่มันมีเรื่องที่พูดไม่ได้ โดยเฉพาะกับไอ้เวย์ที่ห้ามรู้เด็ดขาด!
“เหรอ กี่ยกอ่ะ”
แหม... นี่ผมว่าผมหื่นและกวนตีนมากแล้วนะ นางเพื่อนคนนี้นี่มาเหนือเมฆเหลือเกิน
“ไหนรีบไปขึ้นวอร์ดวะ” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วพูดลอยๆเพื่อไล่จี้ให้มันออกจากห้อง ก่อนที่มันจะกวนประสาทไปมากกว่านี้ หมดประโยชน์กับพี่เตย์คนจริงแล้วก็กลับไปทางเดิมซะไอ้น้องเอ๋ย~ นี่ไม่ได้เลวนะ... เค้าเรียกว่าผลประโยชน์ร่วมกัน J
“ไล่เหรอ?” มันเบ้หน้างอนคงคิดว่าตัวเองน่ารักมาก และที่ตลกคือแม่งคิดถูก ผมปรายตาไปทางอื่นเพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเล่นมุขหลอกลวงเอาข้อมูลลับเรื่อง ไอ้พี่กัลป์จากผมอีก
“เปล่า เขาเรียกเนรเทศ -_-+”
“เออ ไม่ต้องไล่ก็ไปอยู่แล้ว พูดเหมือนอยากอยู่ด้วยมาก” ไอ้เวย์ไหวไหล่ไม่แคร์คำพูดผมก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลบไปอีกทางอย่างเร่งรีบจน ผมเผลอคิดไปว่า
ถ้ามึงจะรีบขนาดนั้นก็น่าจะไปตั้งแต่แรกแล้วปะวะ -_-
“แล้ววันนี้จะมานอนนี่ป่ะ?” ผมถามไล่หลังสาวเจ้าที่ดึงสายกระเป๋าข้างเตียง มันหันมามองหน้าผมนิดหน่อยแล้วหัวเราะทั้งที่ไม่มีอะไรตลก
“คิดถึงกันก็บอก” มันว่าแล้วยิ้มยียวนแกล้งแซวผมเล่นๆ
เหอๆ คนอะไรน่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลย!
“รีบไปเลย ไป๊ ชิ่วๆ” ผมโบกมือไล่แล้วทำปากจิ๊จ๊ะประหนึ่งไล่หมาจรจัด ในขณะที่ไอ้เวย์เลิกคิ้วสูงมองหน้าผมอย่างชั่งใจ
“ถ้าจะไล่กันขนาดนั้นก็นะ -_-” มันว่าทำเอาผมกลั้นขำน้ำตาแทบเล็ดก่อนจะเดินไปดันหลังมันเป็นการเชื้อเชิญออกจากห้องและปิดท้ายด้วยประโยคสวยๆสมกับใบหน้าผมนั่นแหละ
“รีบไปรีบกลับนะหมอเวย์ อาเตย์รออยู่♥”
ตายๆๆ ไอ้เตย์ มึงแม่งน่ารักชิบหาย ผู้ชายอะไรเนี่ย เคลิ้มเลยเคลิ้ม >O<
ผมเผลอทำหน้าสะดีดสะดิ้ง นิดหน่อยกับคารมหวานๆที่เรียนรู้มาจากพี่รหัสของผมเอง แต่ทว่าแทนที่ผู้หญิงตรงหน้าจะอ่อนระทวยเหมือนหญิงอื่น มันกลับหันมามองหน้าผมแบบงงๆก่อนจะพ่นวาจาไม่น่าอภัยเป็นที่สุด เพราะพอผมได้ยินเท่านั้นแหละแม่ง...
“เรื่องของมึง”
เงิบเบย...
ตอนเที่ยง
ตั้งแต่ไอ้เวย์ไปผมก็ไม่รู้จะทำ อะไรเลยนอนต่อเพราะวันนี้ไม่มีเรียน หรือมีก็ไม่แน่ใจ เอาง่ายๆคือผมขี้เกียจ เมื่อวานใช้แรงมากไปหน่อย...
แต่ก็ตื่นเต้นไปอีกแบบ เดี๋ยวคราวหน้าบอกไอ้เวย์ใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่นดูมั่งดีกว่า ดูมีอะไรดี
ผมลุกขึ้นมานอนกดเฟสบุ๊คเล่น เพราะขี้เกียจนอนต่อก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆโทรศัพท์ไอโฟนเก้าเอสของผมก็สั่น ขึ้นมาพร้อมหน้าไอ้เวย์เต็มจอ... ผมกระตุกคิ้วนิดหน่อยร้อยวันพันปีมันไม่เคยโทรหาผมแต่วันนี้มันกลับโทรมา?
อย่าบอกนะว่าติดใจท่าโยกความถี่สูงของผมมากจนต้องโทรมาเนี่ย (-.,-) แต่จะรับเลยก็ไม่สนุก ปล่อยไว้สักสามสี่วินาทีให้มันรอสายเล่นๆ ก็คิดแบบนั้นนะแต่ขี้เกียจนับเลขถอยหลังเอาเป็นว่ารับเลยละกัน!
ผมกดรับก่อนจะยกขึ้นแนบใบหูและเริ่มต้นประโยคสนทนาด้วยคำว่า...
“คิดถึงท่าโยกความถี่สูงของกูเหรอ?”
สาบานว่านั่นประโยคแรกที่ผมพูด -.-
[ไอ้เตย์ กูลืมเสื้อกราวน์ไว้ที่หอมึงป่ะ?] ปลาย สายพูดอย่างเร่งรีบไม่สนใจคำพูดกวนประสาทของผมเลยสักนิด ผมจึงปล่อยผ่านแล้วทอดสายตามองหาเสื้อกราวน์ไปรอบห้องจนกระทั่งพบว่ามันพาด ไว้อยู่กับโซฟาที่ไอ้เวย์เคยนั่ง
และวินาทีนั้นผมก็รับรู้ได้ใน ทันทีว่าไอ้พี่กัลป์มันโวยวายทำไม ก็นะ... จะไม่ให้มันด่าผมได้ไงก็หลักฐานมันทนโท่คาตาอยู่ขนาดนี้ว่าไอ้เวย์มาห้องผม ใช่ ความจริงแล้วผมกับมันไม่ใช่คู่ขากันหรอก แต่ไอ้พี่กัลป์มันชอบไอ้เวย์
และนี่ก็เป็นสาเหตุนึงที่ผม กระเหี้ยนกระหือรือจับเพื่อนสาวปล้ำเมื่อวาน หรือบางที่อาจเป็นสาเหตุหลักเพราะผมเกลียดขี้หน้าแม่ง ถ้ามันชอบใครผมจะแย่งมาให้หมดเลย เฮอะ -_-^
“เออ ลืมไว้ ทำไม?” ผมพูดห้วนๆแล้วถอนหายใจยาวเมื่อปลายสายดันหาเรื่องยุ่งยากให้ผมอาทิเช่น...
[เอามาให้ที่โรง’บาลหน่อย]
“ไม่ไปได้ป่ะ?” ผมว่าแล้วนอนกลิ้งไปมาอย่างเบื่อๆ สถานที่อโคจรอย่างโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยคนแก่ชราหงำเหงือก พวกขี้โรคและหมอหล่อๆที่มักจะกินกันเอง ถ้าแม่งอยากจะแดกผมขึ้นมาก็ซวยอีก ผมไม่อยากไปหรอก -_-^
[เตชิต] ปลายสายพูดเสียงเรียบแต่ทว่า...แค่สองคำทำเอาช้ำไปถึงปลายเท้า!
ผมรู้ว่ามันพูดชื่อพ่อผมขึ้นมาทำไม ใช่... แม่งกำลังขู่ว่าจะฟ้องพ่อผมไง!
“เออ เดี๋ยวไป!” ผมกระแทกเสียง
[ให้เวลาห้านาที รีบมาเลย] มันพูดเร่งเร้าในขณะที่ผมแทบจะแดกโทรศัพท์ด้วยความหงุดหงิด พูดเหมือนง่าย มันเคยเห็นการจราจรเมืองไทยมั้ย? ถึงได้พูดออกมาว่าห้านาทีต้องถึง!
กูขับรถไปนะครับไม่ได้เอากระด้งติดหลังแล้วบินไปหา!
“บอกพ่อมึงมาเอาเหอะ!” ผมกวนตีนแต่เสือกโมโหเองเพราะลืมไปว่ากวนใส่ใครอยู่!
[พ่อกูอยู่อิตาลี]
เหอๆ กูประชดครับ!
“เออออ เดี๋ยวไป” ผมว่าแล้วกดวางสายในทันใดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว แทนที่จะได้แต่งตัวไปแรดกับน้องแตงโมนมโตเหมือนชื่อ ว่าที่ภรรยาในอนาคตที่ผมจริงจังมากกว่าบรรดากิ๊กทั้งหมด... เสือกต้องไป โรงพยาบาลซะงั้น!
น่าเบื่อ... ผมคิดแบบนั้นในตอนแรกจนกระทั่งนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจดจ่ออยู่ที่เสื้อกราวน์ ยาวๆของไอ้เวย์ ความคิดบัดสีสุดบรรเจิดก็บังเกิดขึ้นมาในมันสมอง! เหอๆ ไหนๆก็เรียนธรณีวิทยาใส่แต่เสื้อช็อปสีกากีมานานละ...
ดูท่าวันนี้ไอ้เตย์จะได้ลองสวมเสื้อกราวน์หล่อๆดูสักที! นี่ถ้าเจอชะนีสวยๆเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่หมอเตย์...
จะจับตรวจภายในแม่งให้หมดเลย! วะฮะฮ่า เสร็จกู!!!
-100%-
--------------
กราบขออภัยในความล่าช้าเจนจิราติดซีรีย์มากมาย 5555+
คือคำด่าอีเตย์นางบรรเจิดมากต้องขอบคุณขุ่นน้องขาที่มานั่งด่าชาวบ้านให้เจ๊ฟัง
ฮี้ๆๆๆๆๆปากหมาแต่หน้าสวย รวยลีลาเจนจิราให้สามผ่านนน! 5555บทนี้อีเตย์รั่วมาก 55หมออย่างอีเตย์นี่เอาไปเก็บเหอะ 555
ติดตามเจนได้ในเพจนะคะ
https://www.facebook.com/jennyrenger01
--TALK: ใครเล่นทวิตแท็กนางได้นะ 5555#ไอ้สวยวิทยาม๊วฟฟฟฟ >O<
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ