Gogyo no gadian no dense ตำนาน 5ผู้พิทักษ์แห่งธาตุ
เขียนโดย Ormsin2541
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.04 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2559 03.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) พี่ชายและพี่สาว (Rewrite)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความOki Talk
สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่าน ตอนนี้ฉันกำลังเดินไปโรงเรียนกาเดี่ยนคนเดียวค่ะ หลังจากวันประถมนิเทศวันนั้นนี้ก็ผ่านมาได้สองอาทิตย์แล้วคะ ฉันเริ่มจะปรับตัวเข้ากับโรงเรียนกาเดี่ยนได้แล้วและสนิทกับนักเรียนห้องอื่นๆในโรงเรียนได้แล้วเช่นกันคะ ส่วนไทโยคุงและคารินจังเอง ฉันก็สนิทมากขึ้นด้วยเหมือนกันค่ะ แต่ที่สนิทที่สุดก็คงเป็น.........."เขาคงนั้น" ล่ะน่ะ
จึ้กๆ จู่ๆฉันก็รู้สึกเหมือนมีใครไม่รู้มาสะกิดไหล่ฉัน
"หืม?" ฉันหันหลังไปดูว่าใครสะกิดไหล่แล้วปรากฎว่าคนที่สะกิดไหล่ฉันคือ......สึบาสะคุงที่ยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนให้ฉันอยู่ เขานั้นเองที่เป้นคนสะกิดไหล่ฉันเองสินะ วันนี้เขาก็ยังคงแต่งชุดนักเรียนธรรมดาแต่เพิ่มมาแค่แว่นกันลมบนหัวเขาเท่านั้นเอง เขาใส่มาทำไมนะ? แต่ช่างมั้นเถอะ ทักทายเขาดีกว่านะเรา
"อรุณสวัสดิ์จ้ะ สึบาสะคุง" ฉันพูดกับสึบาสะคุงอย่างเป็นกันเองและเป็นธรรมชาติกว่าเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมากเลยคะ เพราะตอนเดินไปโรงเรียนพวกเรามักจะเดินไปด้วยกันเสมอหรือแม้แต่ตอนอยู่ในโรงเรียนพวกเราก็อยู่ด้วยกันตลอด........ร่วมทั้งไทโยคุงกับคารินจังด้วยนะคะ
"อรุณสวัสดิ์ครับ โอกิจัง" สึบาสะคุงเขากล่าวทักทายฉันพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉัน ตึกตัก ตึกตัก ทำไมกันนะ? พอฉันเห็นรอยยิ้มของเขาทีไหร่.......หัวใจของฉันมันมักจะเต้นแรงกว่าปกติทุกทีเลยสิน่า
"โอกิจัง? ทำไมทำหน้าเหม่ออย่างงั้นละครับ? เป็นอะไรรึเปล่า?" สึบาสะคุงถามฉันอย่างเป็นห่วง เขายื่นมือซ้ายมาแตะที่หน้าผากฉันพร้อมยื่นหน้าเขามาใกล้หน้าฉันจนจมูกเขาเกือบชนจมูกฉัน
ตึกตักๆๆๆ ฉันรู้สึกร้อนวูบบนใบหน้าอย่างไม่ทราบเหตุผลยังไงไม่รู้ ฉันเด้งตัวออกห่างจากสึบาสะคุงอย่างลืมตัวพร้อมยกมือกุมอกซ้ายและก้มหน้ามองพื้นอย่างอัตโนมัติ สึบาสะคุงคงกำลังมองฉันด้วยสีหน้าและแว่วตาตกใจและสงสัยแน่ๆเลย ฉันไม่รู้จะอธิบายหรือหาข้อแก้ตัวยังไงดี เอาเป็นว่าตัดบทไปเลยละกัน ก่อนที่เขาจะถามอะไร
"ฉะ...ฉะ...ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่านะสะ...สะ...สึบาสะคุง นิ...นิ...นี้ก็สายแล้วด้วย" ฉันพูดตะกุกตะกักอย่างรีบร้อนแล้วฉันก็รีบเดินไปโดยไม่รอสึบาสะคุงและไม่คิดจะรอด้วย เพราะในหัวฉันตอนนี้มีแต่เสียงแค่ว่า 'ต้องรีบไปห่างๆเขาซะ' มันสะท้อนอยู่ในหัวฉันตลอดที่ฉันเดิน ให้ตายสิ! นี้ฉันเป็นอะไรไปแล้สเนี่ย!!
"โอกิจัง? ระ..รอด้วยครับ โอกจัง!" สึบาสะคุงตะโกนเรียกฉันด้วยเสียงร้อนรน แต่ฉันไม่หันกลับไปมองเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ทำไมพอฉันได้ยินเสียงของสึบาสะคุงแล้ว...หัวใจที่มันเต้นแรงอยู่แล้วมันกลับยิ่งเต้นแรงขึ้นกว่าเดินอีกละเนี่ย? สึบาสะคุงนี้เธอ......ทำอะไรกับหัวใจฉันกันแน่? และทำไมอาการนี้ต้องเกิดขึ้นกับเธอด้วยนะ?
30 นาทีต่อมา
หลังจากนั้นฉันกับสึบาสะคุงก็มาถึงโรงเรียนก่อนเวลาเข้าซะประมาณสิบนาทีได้มั้ง? ฉันบอกสึบาสะคุงว่าจะไปห้องเรียนเลย เขาหันมาพยักหน้าแล้วเดินไปทางขึ้นห้องวายุชั้นสองของอาคารกลาง ส่วนห้องวารีที่ฉันเรียนมันอยู่ข้างล่างชั้นใต้ดินของอาคารเรียนกลาง
ฉันละไม่เข้าใจผอ.โกสต์จริงๆทำไมต้องแยกห้องกันไกลกันขนาดนี้ด้วยละ? หรือกลัวนักเรียนหัองแต่ละห้องจะตีกันหรือไงกันน่ะ?
"โอกิ? เธอคือโอกิใช้ไหม?" ระหว่างที่ฉันกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น ฉันได้ยินเสียงผู้ชายออกจะเย็นชามาจากข้างหลัง ฉันหยุดเดินแล้วหันไปมองก็เจอกับผู้ชายผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ตาของเขาเป็นสีทองเหมือนหมาป่ายามค่ำคืนที่อยู่หลังแว่นตานั้น เขาสวมชุดนักเรียนสีดำสลับเหลืองที่ไหล่ซ้ายของเขามีดาวสามแฉกซึ่งหมายความว่าเขาเป็นคนของชั้นเอ แต่ทำไมเขาถึงรู้ชื่อฉันได้ละเนี่ย?
"เออ..คุณเป็นใครกันคะ? เราเคยรู้จักกันมาก่อนเหรอคะ?" ฉันไปถามเขาอย่างสงสัยคนที่ฉันรู้จักก็มีแต่พวกสึบาสะคุงและพวกเพื่อนๆในห้องวารีชั้นบีเท่านั้นนี้น่า?
เขาไม่ตอบคำถามแต่เขาเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับถอดแว่นออก แววตาของเขามันเย็นชาแต่มีความอบอุ่นซ่อนอยู่นิดหน่อย ทำไมแว่วตานั้นดูคุ้นๆจัง? เขาค่อยๆยื่นมือซ้ายมาหาฉันพร้อมเดินเร็วขึ้น ฉันมองเขาอย่างไม่เข้าใจก่อนที่มีความคิดนึงเด้นขึ้นมาในหัว
'หรือว่าเขา......จะมาทำร้ายเรา!?' พอฉันคิดได้แบบนั้นฉันก็ระวังตัวมากขึ้นทันที ทำไมฉันถึงว่าเขาต้องมาทำร้ายฉันน่ะเหรอคะ?
เพราะมีข่าวลือหน่าหูว่ามีชั้นเอบางคนคิดว่าตัวเองเก่งนั้นเก่งหน่าคอยรังแกพวกชั้นบีอย่างพวกฉันอย่างกับของเล่นหรือไม่ก็พอเห็นชั้นบีคนไหนพอมีพรสวรรค์อยู่ในตัว.......ก็ยิ่งลังแกล้งหนักกว่าเดิม
ฉันคิดว่าเขาต่อเป็นหนึ่งในพวกนั้นแรกแน่ๆฉันคิดได้ดังนั้น ฉันกำลังจะเด้นตัวถอยหลังแล้วจะสัดบอลวารีใส่เขาให้มึนงงแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนทันที แต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำอะไรมือของเขาวางบนหัวแล้ว ระ เร็วมาก! ทำไมเร็วแบบนี้!! หรือเขาใช้เพลิงช่วย้สริมความเร็ว แต่เป็นเพลิงชนิดไหนละ!!! แต่ไม่ใช้เวลามาคิดแล้ว!!!!
ฉันเห็นอย่างนั้นก็กำลังจะใช้มือสะบัดมือเขาออกจากหัว แต่ฉันต้องชะงักเมื่อความอบอุ่นจากมือเขาซึมซับเข้าในหัวฉัน......มันรู้สึกคุ้นเคย.......เหมือนกับเคยถูกทำแบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย? จากที่ไหน...สักแห่ง?
พอเขาเห็นฉันนิ่งไป เขาก็ค่อยๆลูบหัวฉันอย่างอ่อนโยนราวกับกำลังลูบหัวเด็กน้อย ฉันรู้จักความอ่อนโยนนี้และคนที่มีความอ่อนโยนกับฉันขนาดนี้ก็มีแค่คนเดียว...........คนที่ฉันคิดว่าจะไม่ไดพบเขาอีกแล้ว หรือว่าเขานี้คือ!!!
"พิ พี่? พี่มิซึกิใช้มั้ยค่ะ?" ฉันเงยหน้ามองรุ่นพี่ด้วยสีหน้าสงใสปนตกใจ เขาไม่ตอบแต่เขากลับยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนจนฉันเริ่มแน่ใจว่าเขาจะต้อง.......ใช้เขาแน่.........ใช้พี่ "นานะ มิซึกิ" แน่ๆ!
"ใช้ โอกิ นั้นเป็นคำทักทายแรกกับพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันนานหรือไง? ยัยบ๊องเอ๋ย" พี่มิซึกิพูดอย่างอ่อนโยนปนล้อเล่น เขาเอามือจากหัวฉันพร้อมมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยนและอบอุ่น
พอฉันมั่นใจว่าเขาเป็นตัวจริง ฉันก็รีบกอดพี่มิซึกิอย่างคิดถึงสุดๆ เราสองคนเจอกันครั้งสุดท้ายประมาณ 4 ปีก่อนได้มั้ง? มันนานมาก....นานจนฉันแทบจะลืมไปซะแล้ว
"นะ หนูคิดถึงพี่มากเลยน่ะคะ พี่เรียนอยู่ที่นี้มาตลอดสี่ปีเลยเลยเหรอค่ะ?" ฉันพูดด้วยความรู้สึกคิดถึง ฉันคลายกอดออกเพราะกลัวพี่เขาจะอึดอัด
พี่มิซึกิยกแว่นมาสวมอีกครั้งแถมหุปยิ้มลงด้วย เฮ้อ นิสัยที่ไม่ชอบยิ้มให้ใครเห็นนานๆของพี่เนี่ย ยังแก้ไม่หายจริงๆเลยแฮะ แต่นั้นก็เป็นเสน่ห์ของพี่ละน่ะ
"ใช้ พี่เรียนอยู่ที่นี้ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ว่าแต่น้องโตขึ้นเยอะเลยนะ เป็นสาวแล้วสิเรานะ" พี่มิซึกิพูดด้วยเสียงนิ่งๆแต่แฝงความอ่อนโยนไว้นิดๆ พี่เขาว่างมือบนหัวฉันอีกครั้งแต่คราวนี้เขาขยี้หัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยวจนผมฉันยุ่งไปหมด
"พิ พี่คะ! ยะ หยุดนะคะ!! ผมหนูยุ่งหมดแล้วนะ!!!" ฉันบอกพี่ให้เขาหยุดด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่จริงก็อยากอยู่อย่างนี้นานๆหรอก แต่ผมมันยุ่งจนแทบเสียทรงหมดแล้วและเลยเวลาเรียนมานานแล้วด้วย
พี่มิซึกิก็ยอมหยุดตามคำขอของฉันพี่ดึงมือออกจากหัวฉันแล้วยกมือขึ้นดันแว่นขึ้นตามแบบฉบับ ฉันรีบจัดผมให้เป็นเหมือนเดินแล้วกำลังจะเดินไปที่ห้องเรียน พี่มิซึกิเขาบอกว่าจะไปส่งที่ห้องเรียนด้วยฉันก็ไม่ขัดอะไรก็ยอมให้เขาไปส่งที่ห้องเรียน
พอฉันเปิดประตูห้องเรียนเท่านั้น........ทุกคนก็หันมามองฉันด้วยสายตาสงสัยปนตกใจและฉันจะไม่ว่าอะไรหรอกถ้าพวกเขาไม่ทำหน้ายักกะเห็นผีงั้นแหละ ไหนทุกคนทำหน้าแบบนั้นละ?
"ขอตัวก่อนนะ" พี่มิซึกิพูดกระซิบข้างหูฉันเบาๆแล้วรีบเดินกลับไปทางที่เราเดินมาด้วยสุขุมและเยือกเย็น ทำไมพี่เขาต้องเก็กแบบนั้นด้วยนะ?
ฉันเลิกสนใจพี่มิซึกิแล้วเดินมานั่งที่ของฉันที่อยู่หลังห้องแถวริมหน้าต่างแบบปกติ แต่จู่ๆทุกคนก็พุ่งมาล้อมรอบโต๊ะฉันไว้จนทำเอาฉันสะดุ้งเกือบกรี้ดและตกเก้าอี้เลยละคะ
นี้ฉัน.......ไปสร้างปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย? ถึงได้มองฉันอย่างกะของแปลกใหม่ในห้องไงอย่างงั้นแนะ?
"นี้! โอกิจัง! ไปทำอะไรเข้าละเนี่ยถึงได้มากับ"คิงแห่งสภานักเรียน"ได้ละ?" เพื่อนผู้หญิงห้องเดียวกับฉันคนนึงถามฉันอย่างเป็นห่วงและร้อนรน ไม่ใช้แค่เธอคนเดียวแต่ทุกคนที่ล้อมรอบฉันก็มองด้วยสายตาแบบเดียวกัน มากับคิง? หมายความว่าไง? และหมายถึงใครกันน่ะ?
"เธอพูดถึงเรื่องอะไรกัน? และใครคือคิงกัน?" ฉันถามพวกเขาไปอย่างสงสัย แต่เธอกับทุกคนไม่ตอบแต่กลับทำหน้าแบบประมาณว่า 'ไม่เชื่อหรือแบบว่าเป็นไปไม่ได้' อะไรแบบนี้ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่าเนี่ย?
"นี้โอกิเธอไม่รู้จริงๆเหรอน่ะ ว่าคนที่เดินมากับเธอเมื่อกี้นี้น่ะ.....เขาเป็นใครนะ?" ชายผมสีฟ้าครามยาวถึงไหล่ หน้าตาคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ สวมแว่นตาไร้กรอบ เขาคือหัวหน้าชั้นของเราเองคะ เขาเป็นคนที่ไว้ใจได้เลยละนะ คุณหัวหน้าห้องถามและมองฉันอย่างจริงจัง รวมถึงพวกเพื่อนๆด้วย ฉันมองคุณหัวหน้าห้องด้วยสายตาไม่เข้าใจ
'เขาคือพี่ชายของฉันเองค่ะ!' ฉันอยากพูดออกไปหรอกนะ แต่สุดท้ายฉันก็พูดในใจ ถ้าเกิดฉันพูดไปจริงๆ มีหวังทุกคนคงตกใจแล้ววุ่นวายกันทั้งโรงเรียนแน่ๆ และอีกอย่างพี่มิซึกิอาจจะเดือดร้อนไปด้วยก็ได้ ฉันจึงจำเป็นต้องโกหกโดยการส่ายหน้าเบาๆตอบไป พอทุกคนเห็นฉันปฎิเสธทุกคนหันไปซุบซิบอะไรไม่รู้ สักพักคุณหัวหน้าก็หันกลับมาหาฉันด้วยใบหน้าที่จริงจัง นะ ไหนทำหน้ากันแบบนั้นละ?
"อะแฮ่ม! เอาละ ฉันจะเล่าให้ฟังละกัน เรื่องของคิงและพวกสภานักเรียนหรือฉายาที่พวกนักเรียนเก่าที่จบไปตั้งให้พวกว่า"ผู้คุมกฎแห่งกาเดี่ยน"" หัวหน้าห้องสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆปล่อยออกมาช้าๆ ทำเหมือนกับอาจารย์กำลังจะบอกคะแนนสอบนักเรียนนะคะเนี่ย ว่าแต่ผู้คุมเนี่ยนะ? พวกรุ่นพี่รุ่นก่อนก็คิดฉายาได้ยังไงกันกันเนี่ย? พวกพี่มิซึกิน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?
"เริ่มจากผู้คุมกฎแห่งกาเดี่ยนนั้นคือเหล่านักเรียนชั้นเอ,บีและซีระดับหัวกระทิมารวมตัวกันทั้งหมด 10 คน 4 คนจากห้องซี 4 คนจากห้องบีและ 2 คนจากห้องเอ พวกเขาทั้งหมดมีหน้าที่คือ คอยดูแลกฎโรงเรียนและคอยดูแลนักเรียนทุกคนไม่ให้ทำผิดกฎ นอกจากนี้หน้าที่อีกอย่างของพวกเขาคือจัดการกับมอนเตอร์ที่หลุดเข้าในเมืองมาตามคำสั่งโรงเรียนหรือพูดง่ายๆพวกเขาคือผู้พิทักษ์ประจำเมืองเรานั้นแหละ ส่วนคิงคือหัวหน้าสภานักเรียนที่ว่ากันว่าเขาคือนักเรียนที่เก่งที่สุดของโรงเรียนจึงได้ฉายาว่าคิงหรืออีกฉายานึงคือ 'ราชันแห่งรัตติกาลเลือด' คนที่สามารถสู้กับคิงได้อย่างสูสีที่สุดคือควีนที่เป็นรองหัวหน้าสภานักเรียนหรือฉายา 'วิหกแห่งแสงตะวัน'เท่านั้น" หัวหน้าห้องหยุดเล่าอยู่แค่นั้นพร้อมกับกอดอกอย่างภูมิใจ
โห้!! พี่เรานี้เป็นถึงระดับหัวกระทิและเป็นคิงเลยเหรอ แถมมีฉายาเท่ๆอีก แปลว่าตลอดสี่ปีที่ผ่านมาพี่เขาก็ต้องเจอกับมอนเตอร์มามากมายเลยนะสิ
รู้อะไรมั้ยค่ะท่านผู้อ่าน ตอนนี้ฉันอย่างตะโกนคำๆนี้ออกมาให้ดังๆให้คนทั่วโลกรู้เลย คำที่ฉันจะพูดก็คือ 'พี่ฉันสุดยอดที่สุด!!!' แต่ฉันคงตะโกนได้แค่ในใจเท่านั้นแหละนะ ว่าแต่....ใครคือควีนกันน่า?
"แล้วตกลงเธอไปทำอะไรผิดกฎมาละ ใช้เปลวเพลิงโจมตีใส่ใครมาเหรอ? หรือว่า!? ฉันหวังว่าเธอพูดอะไรเสียๆหายๆเกี่ยวกับผอ.หรือโรงเรียนหรอกใช้มั้ย? โอกิ?" หัวหน้าห้องจ็องฉันตาเขม็งรวมถึงทุกคนในห้องด้วยตอนนี้ฉันทำได้แค่ฝืนยิ้มเท่านั้น ตอนนี้ฉันรู้สึกอึดอัดมากเลย
ฉันควรทำไงดีค่ะท่านผู้อ่าน? ฉันเหล่ไปทางประตูเห็นคนๆนึงเดินเขามา ฉันถึงกับซาบซึ้งมากเพราะเขามาได้ถูกจังหวะพอดี
"อะแฮ่ม!! พวกเธอทำอะไรกันอยู่! รีบไปนั่งที่ได้แลัว!! ไป๊!!!" เขาคนนี้ก็คืออาจารย์ "ทาคาฮิโตะ ไมค์ " เป็นอาจารย์ประจำชั้นของห้องวารีเรา อาจารย์ไมค์เป็นผู้ชายอายุสี่สิบปลายๆ ผมทรงยุ่งสีดำสนิท ดวงตาสีขาว หน้าตาธรรมด๊า ธรรมดาสุดๆเลยล่ะค่ะ พอทุกคนรู้ว่าอาจารย์ไมค์มาก็รีบกลับไปนั่งที่ของพวกเขาทันที เฮ้อ รอดตัวไปทีเราแต่อาจารย์ไมค์หันมามองฉันด้วยสายตาไม่พอใจ เออ...ไหนมามองฉันอย่างนั้นละคะอาจารย์?
"นานะ เธอพึ่งย้ายมาได้แค่สองอาทิตย์เพราะฉะนั้นอย่าสร้างปัญหาในห้องของฉัน เข้าใจไหม?" อาจารย์ไมค์ถามฉันแล้วเน้นประโยคสุดท้ายพร้อมมองฉันด้วยแววตาคมกริซแถมยังปล่อยแรงกดดันออกมาใส่ฉันอีก จนฉันอดขนลุกทั้งตัวไม่ได้ นะ ไหนฉันถึงโดนละคะเนี่ย!?
"คะ ค่า∼" ฉันพยักหน้ารับคำเขาช้าๆ อาจารย์ไมค์ได้คำตอบจากฉันแล้วเขาก็เริ่มสอนบทเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของธาตุวารี เฮ้อ ทำไมวันนี้ถึงได้วุ่นวายแบบนี้ละเนี่ย?
ช่วงพักกลาง
หลังจากตอนนั้นชั่งโมงเรียนก็ผ่านไปก็ถึงเวลาพักเที่ยงสักที ฉันถือห่อข้าวกล่องสีฟ้ามีรูปหยดน้ำสีน้ำเงินเข้มที่ฉันทำเองเดินไปที่นั่งโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้ซึ่งเป็นที่ประจำที่ฉัน,สึบาสะคุง,ไทโยคุงและคารินจังจะมานั่งกินข้าวด้วยกันตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันเดินมาถึงที่นั่งประจำของตัวเอง ฉันก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีผู้หญิงสวยๆคนนึงมานั่งอยู่ตรงเก้าอี้หินอ่อนด้านขวาของโต๊ะหินอ่อนด้วย
"ใครกันน่ะ?" ฉันพึงพำเบาๆแล้วมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเป็นคนที่สวยมาก......มากจนฉันล่ะสายตาไม่ได้เลย เธอคนนี้มีผมสีน้ำตาลมัดทรงหางม้า มีตาสีเขียวมรกตแสนสดใสราวกับเพรชชั้นหนึ่ง เธอใส่ชุดสีขาวสลับสีชมพูมีโบว์สีฟ้าตรงกลางคอเสื้อ กระโปร่งสีน้ำตาลที่ยาวถึงแค่เข่าและส่วมถุงน่องสีดำ ที่ไหล่ซ้ายมีสัญลักษณ์รูปดาวเหมือนกับพี่มิซึกิแต่ดูจากชุดแล้วคงเป็นนักเรียนห้องทิวาและน่าจะอยู่รุ่นเดียวกับพี่มิซึกิด้วยสินะ?
ฉันหันไปมองบนโต๊ะที่มีห่อกล่องข้าวสีเขียวอ่อนมีลายรูปดอกซากุระสีชมพู่ที่ยังไม่เปิดว่างไว้ ถัดมาทางซ้ายหน่อยก็มีถ้วยและกาน้ำชาที่น่าจะอุ่นๆอยู่ว่างไว้ ส่วนถัดมาทางขวาก็มีจานคุกกี้รูปสัตว์ต่างๆน่ารักๆว่างไว้อีกตั้งหาก ไปหาของแบบนี้มาจากไหนกันล่ะเนี่ย?
ผู้หญิงคนนั้นมีผมหางม้าสีน้ำตาลยาวสลวย เธอจับหูถ้วยน้ำชาแล้วยกขึ้นมาจิบอย่างสง่างามราวกับเจ้าหญิงที่หลุดมาจากหนังสือนิทานภาพเลยละ เหมือนเป็นลูกคุณหนูที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเลยนะเนี่ย?
เธอว่างถ้วยลงบนถาดรองถ้วยที่ถือไว้อีกข้างเบาๆโดยที่ยังคงรักษาความสง่างามไว้แต่เธอชะงักกึกแล้วอยู่ค้างในท่านั้นจากนั้นสายตาของเธอก็ค่อยๆหันมาทาง........ฉัน??!
"น้องคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นนะ?" รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาเบาๆเหมือนเสียงกระซิบแต่ก็ดันพอให้คนรอบๆได้ยินโดยที่พี่เขาไม่ได้หันมามองเลยสักนิด ฉันสะดุ้นสุดตัวรีบหันซ้ายหันขาวหาคนที่เธอเรียกแต่ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่ใกล้แถวนี้เลยสักคน? มะ เมื่อกี้นี้ระ รุ่นพี่เรียกใครกันนะ?
ฉันยกมือแล้วชี้มาที่ตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเรียกถูกคนหรือเปล่า แล้วปรากฏว่าพี่เขาพยักหน้าพร้อมว่างถ้วยที่ค้างไว้ลงบนตัก จากนั้นพี่เขาก็หันมามองฉันด้วยสายตาอ่อนโยนปนอบอุ่นราวกับนางฟ้าที่กำลังโอบอุ้มสตว์ตัวเล็กๆ ฉันเห็นสายตานั้นของรุ่นพี่แล้ว.......ความเกร็งของฉันก็หายไปและผ่อนคลายลงอย่างไม่รู้ตัวเลย
"มานั่งด้วยกันก็ได้น่ะจ๊ะ น้องเองก็มารอเพื่อนใช้ไหม?" รุ่นพี่พูดด้วยเสียงสดใสปนอ่อนโยนแล้วตบที่นั่งข้างๆตัวเอง ฉันคิดจะปฎิเสธเพราะมันคงดูไม่ดีที่ให้คนอย่างฉันจะไปนั่งข้างๆคนหน้าตาสวยๆอย่างรุ่นพี่หรอก
แต่ต้องกลืนคำนั้นไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อฉันมองรอยยิ้มอ่อนโยนของรุ่นพี่แล้วมันทำให้ฉันปฏิเสธไม่ลง ตอนแรกฉันก็ระแวงพี่เขาอยู่หรอก แต่พอเห็นรอยยิ้มของเธอคนนั้นแล้ว......ฉันรู้สึกว่าเธอไว้ใจได้ยังไงไม่รู้สิ
ฉันเดินไปนั่งตามคำชวนของรุ่นพี่อย่างว่าง่าย ฉันนั่งข้างๆพี่เขาด้วยท่าทางแข็งกระด้าง ตะ ตื่นเต้นชะมัดเลยคะ ฉันวางห่อข้าวไว้บนโต๊ะโดยยังไม่แกะออกกะว่ารอพวกสึบาสะคุงก่อนแล้วคอยกินพร้อมกันเลย ฉันแอบหันไปมองหน้ารุ่นพี่เขานิดๆพอมามองใกล้ๆแบบนี้แล้ว.......พี่เขาดูสวยกว่าตอนฉันยืนมองเมื่อกี้นี้ซะอีก ว่าแต่พี่เขามารอใครกันนะ? ลองถามหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง?
"เออ...คุณมารอใครเหรอค่ะ" ฉันถามรุ่นพี่ด้วยท่าทางเกร็งๆและเพราะอดสงสัยไม่ได้จริงๆว่าคนหน้าตาสวยๆอย่างพี่เขาจะมารอเพื่อนหรือแฟนกันนะ พี่เขาหันมามองฉันแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อยเธอวางถ้วยชาลงที่รองถ้วยอีกครั้ง
"พี่มารอน้องชายจ้ะ เขาช่วนพี่มากินข้าวกลางวันนี้นะ" พี่เขาตอบมาด้วยรอยยิ้มสดใส น้องชายงั้นเหรอ? หน้าตาจะเป็นอย่างไงกันน่ะ? จะน่ารักเหมือนพี่เขาหรือเปล่าหรืออาจจะหล่อล่ำบึกก็ได้อย่างจะเห็นซะแล้วสิว่าหน้าตาจะเป็นยังไงกันน้า?
"จริงสิ พี่ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสิน่ะ พี่ชื่อซากุระจ๊ะ แล้วน้องละชื่ออะไรเหรอ" พี่ซากุระพูดแนะนำตัวด้วยท่าทางเป็นกันเองมากพร้อมกับว่างที่รองถ้วยลงบนโต๊ะหินอ่อนเบาๆ จะว่าไปเรายังไม่แนะนำตัวกันเลยจริงๆด้วยแฮะ
"หนูชื่อโอกิค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน่ะค่ะ พี่ซากุระ" ฉันพูดอย่างอ่อนน้อมพร้อมทำท่าตะเบ๊ะเหมือนพวกทหารสมัยก่อน พี่ซากุระมองฉันตะเบ๊ะนิ่งๆจากนั้นพี่เขาก็ยกมือป้องปากนิดๆแลัวหัวเราะเบาๆอย่างสง่างาม
ฉันชอบจริงๆเลยน้า∼ เวลาที่ทุกคนมีรอยยิ้มแบบนี้นะ จากนั้นเราสองก็คุยอะไรกันหลายๆอย่าง เช่น เรื่องแนวเสื้อผ้าที่ชอบใส่กัน เรื่องของหวานที่ตัวเองชอบ หรือเรื่องของดนตรีที่ชอบด้วย ส่วนใหญ่พวกเราจะชอบอะไรๆเหมือนกัน
"ขอโทษครับ พี่ซากุระ ที่ผมมาช้าไปหน่อยพอดีว่าผมต้องเอาหนังสือไปที่ห้องอาจารย์นะครับก็เลยมาสายนิดหน่อย" แต่การสนธนาของเราต้องหยุดลงเมื่อเสียงผู้ชายคนนึงดังขึ้นมาแต่ไกลจากทางที่ฉันเดินมา ผู้ชายที่กำลังเดินมาน่าจะเป็นน้องชายของพี่ซากุระละมั้ง แต่ เอ๊ะ? ทำไมเสียงถึงได้คุ้นๆหูจังเลย?
"ไม่เป็นไรหรอกจ้า สึจัง พี่เองก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน" พี่ซากุระพูดอย่างไม่ถือสาอะไร ฉันหันไปมองเขาเพื่อจะแนะนำตัวเองกับน้องชายของพี่ซากุระ แต่พอฉันหันไปก็ต้องตกใจเมื่อคนที่ฉันเจอคือสึบาสะคุง!? สึบาสะคุงเองก็ตกใจเหมือนกันที่เห็นหน้าฉันทำไมวันนี้มีแต่คนตกใจฉันทันนั้นเลยนะ?
"โอกิจังพี่ขอแนะนำนะ เขาคนนี้ชื่อสึบาสะเป็นน้องชายของพี่เอง" พี่ซากุระพูดแนะนำพร้อมแบมือมาทางสึบาสะคุง ฉันมองสึบาสะคุงสลับกับพี่ซากุระไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่พอมองดูดีๆพวกเขาทั้งสองคนเนี่ยหน้าตาน่ารักเหมือนกันอย่างกับแกะเลยแฮะ สึบาสะคุงเขาหันไปมองพี่ซากุระเหมือนเขาอยากพูดหรือถามอะไรสักอย่างนะ
"พี่ซากุระรู้จักกับโอกิจังด้วยเหรอครับ?"
"ต๊ายตาย! นี้ทั้งสองคนรู้จักหรอกเหรอจ้ะ?" พี่ซากุระเอามือป้องปากแล้วหันมองฉันกับสึบาสะคุงสลับไปมา ฉันกับเขาก็พยักหน้าพร้อมกันเพื่อยืนยัน จากนั้นพี่ซากุระทำหน้าผิดหวังอะไรสักอย่าง ไหนพี่เขาทำหน้าผิดหวังอะไรแบบนั้นกันละเนี่ย?
"โธ้! สึจังละก็! ไม่เห็นบอกพี่เลยนะ.......ว่าเรามีแฟนน่ารักขนาดนี้นะจ้ะ"
"0////0" สึบาสะคุงหน้าแดงขึ้นมาทันที่ได้ยินพี่ซากุระพูดคำว่า แฟน สงสัยเขาอายกับคำพูดของพี่ซากุระแน่ๆอย่าว่าแต่เขาเลยตอนนี้ฉันเองก็....อายเหมือนกัน _//////_
"พะ..พะ..พูดอะไรขอพี่นะครับ!!! ผะ..ผะ..ผมกับโอกิจังเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นเอง" สึบาสะพูดอย่างตะกุกตะกักพร้อมทำท่าทางร้อนรนอย่างกับเด็กไปทำอะไรผิดมางั้นแหละ ส่วนพี่ซากุระก็ยกมือป้องปากหัวเราะเบาๆอย่างพอใจที่แกล้งให้สึบาสะคุงอายได้สำเร็จ
แต่ฉันกลับคิดว่าตอนที่เขาอายเนี่ย 'น่ารักจัง' แต่ฉันต้องรีบสะบัดความคิดนั้นออกไปเพราะไทโยคุงกับคารินจังมากันแล้ว เมื่อพวกเรามาครบกันแล้วพวกเราก็เริ่มกินข้าวกันโดยมีไทโยคุงคอยเม้าท์เรื่องนักเรียนห้องเขาแบบไม่หยุดปาก
"นี้ พี่โอกิ พี่ซากุระ เดียวเย็นนี้เราไปช้อบปิ้งที่ห้างกันไหมค่ะ อยู่ใกล้กับโรงเรียนแค่นี้เองค่ะ" คารินจังชวนฉันและพี่ซากุระ ช้อบปิ้งกันหลังเลิกเรียนเหรอ? แถมห้างใกล้ๆโรงเรียนด้วย? แล้วแบบนี้ใครจะไม่ไปกันเหล่า!
"ได้เลยจ๊ะ คารินจัง"
"ส่วนพี่ก็ไม่มีธุระสำคัญอะไรด้วยสิ งั้นพี่ไปด้วยคนจ๊ะ" ทั้งฉันกับพี่ซากุระตอบตกลงแบบไม่คัดค้างอะไร ฉันหันไปมองสึบาสะคุงที่พึ่งคีบไข่ม้วนเข้าปากพอดี
"สึบาสะคุงละ? ไปด้วยกันไหม?" ฉันหันไปชวนสึบาสะคุง เขาหยุดมือแล้วทำท่าคิดอะไรบ้างอย่าง
"ขอโทษน่ะ โอกิจัง พอดีผมติดธุระน่ะคงไปด้วยไม่ได้" สึบาสะพูดด้วยสีหน้าเสียดายพร้อมกับพนมมือขอโทษฉันยกใหญ่ ฉันก็โปกมือไปมาเชิงไม่เป็นไร แล้วทำไมฉันถึงตอนรู้สึกเสียดายด้วยละเนี่ย? พอได้คำตอบแล้วฉันก็หันกลับฟังเรื่องของไทโยคุงต่อ
Oki Talk End
แถมท้ายจ้า
ในท่อระบายนำ้แห่งนึงมีช่างประปากำลังซ่อมท่อนำ้แต่ที่น่าแปลกท่อนำ้มันไม่ได้แตกแบบธรรมดาซึ่งสร้างความสงสัยให้กับเหล่าช่างประปาเป็นอย่างมาก
"เฮ้ย! พวกไอ้รอยนี้มันใช้รอยแตกแน่เหรอ?" ช่างคนที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าเขาถามลูกทีมเพื่อความแน่ใจว่าไอ้ที่อยู่ตรงหน้านี้มันรอยแตกแน่เหรอ
เพราะรอยที่ว่ามันเหมือนรอยของการแทะมากกว่าจะเป็นรอยแตกและมีรอยข่วนสองสามรอยอยู่ใกล้ๆรอยแทะ
"คุณพูดถูกครับหัวหน้าไอ้นี้ดูยังไงมันก็รอยแทะของหนูชัดๆ" ลูกทีมของหัวหน้าช่างพูดอย่างเห็นด้วยอย่างว่าแต่เขาคนเดียวช่างคนๆก็คิดเหมือนกัน แต่ที่ไม่อย่างเชื่อว่าหนูธรรมดาจะทำรอยแทะขนาดใหญ่แบบนี้ได้
ยกเว้นว่ามันจะไม่ใช้หนูปกติแต่เป็นมอนเตอร์อาดจะทำได้ช่างประปาทุกคนคิดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
"ฉันว่าเราติดต่อพวกกาเดี่ยนเถอะ" หัวหน้าช่างพูดอย่างใจเย็นแล้วตะโกนให้ทุกคนขึ้นไปข้างบน โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่นึงมองมาจากความมืดแลัวก็หายไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ