Plan Love Insidious...แผนรักร้าย

-

เขียนโดย tripleme

วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.48 น.

  4 chapter 1
  0 วิจารณ์
  7,438 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 11.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Intro

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
          กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง
 
เสียงกริ่งที่ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาเลิกเรียนแล้ว. เด็กๆต่างรีบเร่งเก็บอุปกรณ์การเรียนลงกระเป๋า. บ้างก็ส่งเสียงพูดคุยกันอย่าสนุกสนานพร้อมกับสะพายกระเป๋าเตรียมพร้อมที่จะออกจากห้องเรียน
" เด็กๆ นั่งที่ให้เรียบร้อยก่อนค่ะ. แล้วก็เงียบเสียงด้วย ไม่งั้นครูไม่ปล่อยกลับบ้านนะค่ะ" เสียงกังวานของครูสาวดังสยบทุกการเคลื่อนไหวของเด็กน้อยทั้งหลายให้หยุดนิ่งทันที. ครูสาวจึงเริ่มสำรวจจำนวนนักเรียนก่อนปล่อยกลับบ้าน แต่กลับต้องชะงัก เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นโต๊ะที่ตั่งอยู่มุมหลังห้องไม่มีแม้แต่เงาของผู้ที่เป็นเจ้าของ. ครูสาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
" น้องเพื่อนหายไปไหนนะ " ดูเหมือนจะเป็นการพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่าจะเป็นคำถาม. แต่กลับมีเด็กน้อยหูดีด้านหน้าตอบกลับมาเสียงใส
" น้องเพื่อนอยู่ใต้โต๊ะค่ะ " เด็กหญิงตัวเล็กช่วยไขข้อสงสัยให้แก่ครูสาว
" หืมม แล้วไปทำอะไรใต้โต๊ะล่ะ " ครูสาวพูดพร้อมสาวเท้าเดินไปที่มุมห้องอย่างช้าๆ
 
          กุก กัก กุก กัก
 
" อยู่ไหนนะ หายไปไหนเนี่ย" เด็กชายตัวเล็กพึมพำกับตนเองพร้อมกับรื้อค้นหาของอยู่ที่ใต้โต๊ะ
" อ่าา. เจอแล้ว หาตั้งนาน " เด็กชายร้องตะโกนออกมาอย่างดีใจ
"เจออะไรค่ะ น้องเพื่อน "
"อ๊ะ ครูขวัญ คือ น้องเพื่อนหา เอ่อ.         "เด็กน้อยตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก ด้วยความกลัว
"ว่าไงค่ะ ครูคิดว่าน้องเพื่อนคงจะอยากอยู่ช่วยครูทำความสะอาดห้องเรียนแน่เลย ถึงไม่ยอมฟั่งครู" ครูสาวหรือที่เด็กๆเรียกว่าครูขวัญเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
"ขะ ขอโทษคับ" เด็กน้อยตอบครูเสียงแผ่ว. หน้าเศร้า. ยิ่งบนใบหน้าขาวนั้นมีแต่คราบรอยดินสอดำเปื้อนอยู่. ส่งผลให้เด็กน้อยแลดูหน้าสงสารมากเข้าไปอีก
" เอาละค่ะ คนอื่นกลับบ้านได้ ยกเว้นน้องเพื่อนคนเดียวค่ะ" เมื่อสิ้นคำสั่งของครูขวัญเด็กๆต่างบอกทำความเคารพและรีบแยกย้ายกันออกจากห้องไป. เหลือเพียงแต่เด็กชายตัวน้อย กับครูขวัญเท่านั้น
"เอาล่ะ ครูขวัญพร้อมฟังแล้วค่ะ. น้องเพื่อนหาอะไรที่ใต้โต๊ะค่ะ" ครูขวัญถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
" น้องเพื่อนหาการ์ดวันเกิดคับ" เด็กน้อยก้มหน้าตอบอย่างคนสำนึกผิด
" การ์ดวันเกิด? ของใครค่ะ " ครูขวัญถามกลับด้วยความสงสัย
" น้องของน้องเพื่อนคับ อิอิ. วันนี้หม่ามี้จะเกิดน้อง น้องเพื่อนเลยทำการ์ดวันเกิดให้น้องคับ " เด็กน้อยตอบพรางยิ้มร่าด้วยความตื่นเต้นปนดีใจที่ตนจะได้เป็นพี่
" อ่า งั้นครูขวัญยกโทษให้ค่ะ " ครูขวัญตอบอย่างเอ็นดู พร้อมกับยิ้มหวานให้กับเด็กชายตัวน้อยตรงหน้า
" ขอบคุณคับ " เด็กน้อยว่าพลางยกมือป้อมๆทั้งสองข้างขึ้นมาไหว้ขอบคุณครูขวัญคนสวย  แล้วจึงเดินไปเก็บกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
" ครูขวัญคับ. น้องเพื่อนไปก่อนนะคับ  สวัสดีคับ "
" จ้าา"
 
เมื่อเดินออกมาจากห้องเรียนแล้วเด็กชายตัวน้อยจึงเดินไปที่สนามเด็กเล่นบริเวณหน้าโรงเรียนเพื่อรอพี่ชายเลิกเรียนจะได้กลับบ้านพร้อมกัน ด้วยอากาศที่ค่อนข้างร้อนของประเทศไทย. ทำให้เด็กน้อยมีอาการเหงื่อไหลไคลย้อย แม้ว่าจะแค่นั่งอยู่เฉยๆ. อีกทั้งผิวที่ข้าวราวกับหิมะนั้นก็เริ่มแดงเพราะแสงแดดที่ส่องลงมา  ปากสีแดงสดนั้นรีบเร่งดูดน้ำเพื่อหวังว่าน้ำเย็นๆนั้นจะช่วยดับร้อนให้ได้. มือหนึ่งถือแก้วน้ำดื่มส่วนอีกมือยกขึ้นมาพัดหน้าตนเองเพื่อระบายความร้อนจากร่างกาย. การกระทำของคนตัวเล็กช่างเป็นจุดสนใจ. และเรียกรอยยิ้มจากผู้พบเห็นยิ่งนัก รวมไปถึงเด็กชายในวัยเดียวกัน?อีกด้วย
 
          จึก จึก จึก
 
" หืมม" คนตัวเล็กครางออกมาพร้อมกับหันไปตามแรงสะกิด
“นี่ นี่  ไอตัวเล็กมี 5 บาทมั้ย” เด็กชายร่างสูงถามขึ้น
“……….” ตากลมโตของคนตัวเล็กจ้องมองหน้าร่างสูงอย่างหวาดๆ
“นี่! ถามไม่ได้ยินหรอ บอกว่าเอามา 5 บาทไง” ร่างสูงตะคอกถามส่งผลให้คนที่ตัวเล็กกว่าตกใจหน้าเสียด้วยความกลัวคนตรงหน้า
“เอ่อ ระ เรารู้จักกันด้วยหรอ” คนตัวเล็กถามกลับด้วยความกลัวพร้อมกับตั้งท่าเตรียมที่จะวิ่งหนีเต็มที่
“รู้สิ ป่านรู้จักเพื่อน ^^ ” คำตอบตอบของร่างสูงสร้างความสงสัยให้กับร่างเล็กเป็นอย่างมาก จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงล่ะ เพราะเท่าที่จำได้เค้ายังไม่เคยรู้จักกับเด็กหน้ากลัวๆแบบคนตรงหน้าเลย ถึงต่อให้รู้จักกันเค้าก็จะไม่ขอเข้าใกล้หรอก คนอะไรหน้ากลัวจริงๆ แต่เอ๋!!แล้วรู้จักชื่อเราได้ยังไงกันนะ
“ไม่ต้องสงสัยหรอก ก็พ่อแม่ของป่านเป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของเพื่อนไง แล้วตกลงวันนี้เราจะได้มั้ยเงิน 5 บาทเนี่ย” ร่างสูงช่วยไขข้อสงสัยให้กับร่างเล็กได้กระจ่างชัด
“อาฮะ เดี๋ยวน้องพื่อนหยิบให้นะ ^__^” คนตัวเล็กยิ้มร่าให้กับคนร่างสูงเมื่อข้อสงสัยทั้งหลายถูกกำจัดไป  ร่างสูงเห็นอย่างนั้นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้.  แตก็ต้องขมวดคิ้วกับการเชื่อคนง่ายของร่างเล็ก
“ขอบใจนะตัวเล็ก”ร่างสูงว่าพลางเอื้อมมือไปขยี้ผมร่างเล็กอย่างเอ็นดู
“อ๊ะ อย่าขยี้ผมสิ น้องเพื่อนเจ็บนะ แล้วก็น้องเพื่อนไม่ได้ชื่อตัวเล็กด้วย ฮึ้ย!”ร่างเล็กเหวใส่ร่างสูงพร้อมทำแก้มพองลมอย่างน่ารัก ร่างสูงเห็นดังนั้นจึงก้มลงไปหอมแก้มของร่างเล็กทันทีโดยที่ร่างเล็กไม่ทันได้ตั้งตัว นั่นทำให้หน้าของร่างเล็กจากที่แดงเพราะอากาศอยู่แล้วกลับแดงเข้าไปอีกเพราะความเขิน
“หอมจัง ฮะฮาฮ่า ไว้เจอกันนะตัวเล็ก”พูดจบร่างสูงก็วิ่งหายไปพร้อมกับเงิน 5 บาท และอาการเขินอายของคนตัวเล็ก
 
หลังจากวันนั้นแล้วร่างเล็กก็ไม่ได้เจอกับเด็กชายหน้าโหดนั่นอีกเลยนี่ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวของร่างเล็กจัดงานเลี้ยงฉลองให้แกสมาชิกใหม่ของครอบครัวโดยแขกส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนสนิทรวมไปถึงบรรดาเพื่อนสนิทของพ่อแม่ของร่างเล็กด้วย
“ตัวเล็กแต่งตัวเสร็จยังเนี่ยเฮียจะลงไปข้างล่างแล้วนะ”เสียงของพี่ใหญ่สุดของบ้านตะโกนเร่งน้องชายตนเอง
“อ่ะ เฮียแพงอย่าพึ่งลงไปนะรอน้องเพื่อนด้วย”เพื่อนที่กำลังรีบเร่งแต่งตัวตะโกนตอบเฮียตนเอง
“โฮ้! แต่งตัวนานวะ ”แพงบ่นน้องชายอย่างไม่จริงจังมากนัก
“บ่นจัง ไปข้างล่างกันเถอะอิอิ”จากนั้นสองคนพี่น้องก็เดินลงไปข้างล่างและตรงไปยังสนามหลังบ้านซึ่งก็คือสถานที่จัดงาน โดยสนามหลังบ้านตอนนี้ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ มีโต๊ะอาหารวางเรียงกันเป็นแถว  บริเวณหน้างานถูกประดับตกแต่งด้วยซุ้มลูกโป่งเพื่อเอาใจบรรดาลูกๆและเด็กในงาน พื้นที่ที่ใช้จัดงานยังลามยาวไปถึงบริเวณสระว่ายน้ำที่ตอนนี้เต็มไปด้วยบรรดาลูกบอลและลูกโป่งหลากหลายสีสัน
“แพง เพื่อน มาหาพ่อเร็ว”
“คับ/คับ”สองพี่น้องตอบรับคำอย่างพร้อมเพรียง
“พ่อจะแนะนำให้รู้จักนี่ลุงแป้นกับป้าแป้งเพื่อนพ่อเอง ส่วนนี่ก็แพงกับเพื่อนลูกชายของฉันเอง”ผู้เป็นพ่อพูดพร้อมกับดันลูกชายทั้งสองคนให้มายืนด้านหน้าตนเอง
“สวัสดีคับ/สวัสดีคับ”สองพี่น้องยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่านอบน้อม
“สวัสดีจร้า น่ารักจังเลยค่ะคุณโดยเฉพาะคนนี้ โตขึ้นเยอะเลยนะค่ะคนสวย”ป้าแป้งรับไหว้พร้อมกับหันไปคุยกับสามี แล้วจึงหันกลับมาแซวร่างเล็กตรงหน้า
“น้องเพื่อนเป็นผู้ชายนะ ต้องชมว่าหล่อสิคับ”เพื่อนว่าพลางทำแก้มพองลมอย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลางอนหรือไมได้ดั่งใจ การกระทำดังกล่าวกลับยิ่งทำให้ร่างเล็กดูน่ารักขึ้นเป็นกอง
“โถ่ว!! ป้าหยอกเล่นหรอกจ๊ะ ไหนมาให้ป้าหอมหน่อยซิ ”ผู้เป็นป้ารวบตัวร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดแล้วจัดการหอมแก้มร่างเล็กซะฟอดใหญ่ นั่นเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับแขกในงานได้เป็นอย่างดี
 
          ฟอด ฟอด
 
“แม่คับป่านเล่นน้ำได้มั้ย”เสียงใสร้องเรียกผู้เป็นแม่จากด้านหลัง
“ได้คับ แต่ต้องมาไหว้ลุงพลกับป้าพิมก่อน”ผู้เป็นแม่ว่าพลางวางร่างเล็กลงกับพื้น
“นี่ลุงพลกับป้าพิมเพื่อนพ่อแม่เอง ส่วนนี่ก็ปุ่นกับป่านลูกชายตัวแสบของฉันเอง”ผู้เป็นแม่แนะนำพร้อมกับหลีกทางให้ลูกชายที่อยู่ด้านหลังเดินขึ้นมาด้านหน้า
“สวัสดีคับ/สวัสดีคับ”สองพี่น้องยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง
“อ่ะ!! พ่อคับ คนนี้ไงที่ขโมยหอมแก้มน้องเพื่อนที่โรงเรียนแล้วก็เอาเงิน 5 บาทของน้องเพื่อนไปด้วย”เพื่อนรีบฟ้องพ่อของตนเองทันทีที่เจอกับคู่กรณีอีกครั้ง สิ้นเสียงของร่างเล็กผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกลับหัวเราะกันเสียยกใหญ่กับอาการของร่างเล็ก
“หัวเราะอะไรกันหรอคับ”ร่างเล็กถามออกมาด้วยความสงสัย
“ป่าวจ๊ะ ไม่มีอะไร ปุ่น แพง พาน้องไปเล่นที่สระว่ายน้ำป่ะ”ป้าแป้งตอบร่างเล็กพลางกลั่นหัวเราะ
“คับ/คับ”
 
“นี่ นี่ เจอกันอีกแล้วนะตัวเล็ก”ป่านพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงสระว่ายน้ำ เพื่อนคิดในใจว่าไม่ได้อยากเจอซักหน่อย
“บอกแล้วไงว่าไม่ได้ชื่อตัวเล็ก ชื่อเพื่อนได้ยินมั้ย”เพื่อนตะโกนใส่หูป่านด้วยความโมโห
“โอ๊ย!! ตะโกนทำไม เดี๋ยวหูก็แตกกันพอดี”ป่านว่าพลางทำหน้าตาแสร้งเจ็บปวด
“ฮึ้ย!!”ร่างเล็กได้แต่แยกเขี้ยวใส่เท่านั้น
“นี่ เรามาเป็นเพื่อนกันมั้ย”ป่านถามขึ้น
“หืมม”เพื่อนครางออกมาพร้อมทำหน้าครุ่นคิด เมื่อคิดได้ซักพักก็ตอบตกลง
“ก็ได้”
 
วันเวลาผ่านไปเด็กโตขึ้นเรื่อยๆจนตอนนี้ต่างคนต่างกำลังขะมักเขม้นกับการหาที่เรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาต้อนต้นนั่นรวมไปถึงป่านกับเพื่อนด้วย
“อ้ายยป่านนนนนนน”เพื่อนที่ตอนนี้โตขึ้นตามวัยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งผลสอบอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“มึงจะตะโกนทำไมเนี่ยไอเตี้ย”ป่านว่าพลางหันหน้าไปส่งสายตาดุให้กับเพื่อน
“แฮ แฮ กูแค่จะถามว่ามึงติดมั้ย”พูดเสร็จก็ยิ้มแหยๆส่งกลับไปให้เพื่อนตัวเอง
“ยังไม่ประกาศเลย”พูดบอกเพื่อนตัวเอง แต่สายตากลับจดจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“โด่ว!! อะไรแว้ นี่มันตี 1 แล้วนะเว้ย”เพื่อนว่าจบก็เดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง
“กูว่าค่อยดูพรุ่งนี้อีกทีดีกว่า แม่งง่วง ตาจะปิดแระ”ป่านพูดพร้อมกับปิดคอมพิวเตอร์  จากนั้นจึงเดินไปปิดไฟในห้อง โดยที่เพื่อนก็เปิดไฟหัวเตียงรอไว้อย่างรู้งาน
“ถ้ามึงติด มึงจะไปจริงๆหรอ”เพื่อนถามขึ้นเนื่องจากป่านเลือกที่จะไปสอบที่กรุงเทพแทนที่จะเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดเหมือนกับเพื่อน และนั่นก็สร้างความน้อยใจให้เพื่อนเป็นอย่างมาก
“จริงดิว่ะ ถ้าติดแล้วไม่ไปกูจะไปสอบทำแมวอะไรว่ะ”ป่านตอบอย่างไม่คิดอะไร แต่ก็ลอบสังเกตอาการของเพื่อนตนเองตลอดเวลา  ยิ่งเมื่อได้เห็นเพื่อนมีอาการเหมือนน้อยใจตนเองยิ่งทำให้เจ้าตัวรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“เออ เออ จะไปไหนก็ไปเลยสัส แล้วไม่ต้องกลับมานะมึง”เพื่อนว่าพลางพลิกตัวหันหลังให้ป่านทันที
“มึงพูดเองนะแล้วอย่ามาคิดถึงกูทีหลังแล้วกัน”ป่านพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แต่แววตาเจ้าเลห์นั่นคืออะไร
ไม่มีใครรู้หรอก นอกจาเจ้าตัวที่รู้ดีกว่าใคร
“พอเลย นอน นอน”เพื่อนพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“หึ หึ”ป่านหัวเราะในลำคอแล้วจึงเอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียง
 
รุ้งขึ้นปรากฏว่าผลสอบประกาศออกมาว่าป่านสอบติดโรงเรียนมัธยมชื่อดังในกรุงเทพและต้องเดินทางไปในช่วงบ่ายเลยเพราะทางครอบครัวป่านจะต้องไปทำธุระด่วนที่กรุงเทพและนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เพื่อนได้เจอกับป่าน แต่มันกลับไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ป่านได้เจอเพื่อน? โดยที่เพื่อนไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าตนเองกำลังตกไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการร้ายของเพื่อนสนิทอย่างป่าน
นี่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น………….
 
 
 
 
ฝากติดตามด้วยนะค่ะ เรื่องแรกเลยอิอิ ขอเม้นเป็นกำลังใจหน่อยนะ 
ติชมได้นะค่ะ ครบ 100% แล้วจร้าา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา