The Undead ฝ่าวิกฤติฝูงนรกซอมบี้
4.0
เขียนโดย Naomizz
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.59 น.
9 ตอน
11 วิจารณ์
12.23K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 18.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) หมู่เดิมที่หายไป.
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันจะเป็นความจริง ผมอยากให้มันเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น
สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ ฆ่า เท่านั้น คนเราทุกคนก็คงเป็นแบบนี้
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องทำ แน่นอนว่าคุณหรือผมไม่มีสิทธิ์เลือก และเมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ "ฆ่า" นั่นก็หมายความว่า "ต้องฆ่า" อย่าแม้แต่ที่จะลังเลไม่งั้นคนที่ถูกฆ่าจะเป็นคุณ
หนึ่งอาทิตย์กอนหน้านี้
บรื้นนน เสียงรถกำลังแล่นอยู่บนถนนมีเด็ก 4 คนที่กำลังกลับจากการเที่ยวทะเลทุกคนดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่มีใครยอมใคร ”เห้อ ง่วงว่ะพี่” น็อตคนที่นั่งอยู่เบาะหลังร้องขึ้นมาด้วยท่าทางง่วง
“มึงก็นอนดิวะ กูเห็นมึงบ่นมาตลอดทางเลยเนี่ย” คราวนี้เป็นเสียงของสแตมป์เป็นพี่ใหญ่สุดในบรรดาทั้ง 4 คน “เดี๋ยวพี่ก็แกล้งมันอีกอ่ะ ฮ่าๆ คราวที่แล้วโดนไปเป็นไงบ้างวะน็อต”
ปอเพื่อนรุ่นเดียวที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆของน็อตพูดขึ้นอย่างน่าขัน “เหอะ มึงอย่าพลาดละกันปอ”
น็อตพูดในเชิงโมโหนิดหน่อย “นี่ สังเกตุกันบ้างไหมว่าตั้งแต่เข้ามาในกรุงเทพเนี่ยมันเงียบผิดปกตินะ โดยเฉพาะแถวดอนเมืองเนี่ย” ภูมิ ที่ขับรถอยู่พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ รอบๆทางระหว่างกลับ
มันเงียบสะงัดเหมือนไม่เคยมีคนอยู่ ไม่มีรถวิ่ง ไม่มีคนเดิน หรือแม้แต่เสียงคนคุยกันก็ไม่มีเลย
“โอ้ย คิดมากว่ะนี่มันเที่ยงคืนละนะ มึงจะให้เค้ามาเต้นแอโรบิคโชว์มึงหรือไงวะภูมิ ฮ่าๆ”
สแตมป์ตะโกนลั่นรถแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนๆอีก 3 คน ”เอาๆเตรียมลงได้ละจะถึงหมู่บ้านละเนี่ย” เมื่อมาถึงหมู่บ้านก็ต้องพบความผิดปกติเข้าไปอีกเมื่อประตูหมู่บ้านไม่ได้ปิดมีรอยเลือดที่ยังไม่จางติดอยู่ที่รั้วขอบประตู แต่มีเพียง ภูมิ คนเดียวที่สนใจความผิดปกตินี้แต่เลือกที่จะไม่บอกใครเพราะทุกคนคงเหนื่อยมากแล้วถ้าพูดไปเดี๋ยวจะพานอนไม่หลับกันอีก รถของภูมิแล่นเข้ามาในหมู่บ้านภูมิขับแบบชะรอเพื่อที่จะมองรอบๆ
เอี๊ยดด เสียงรถจอดที่หน้าบ้านของภูมิ
“เอาลงๆ ขนของลงไปบ้านกูด้วยคืนนี้นอนบ้านกูเลยไม่มีคนอยู่บ้านกูไปต่างจังหวัดกันหมดละ”
“เยส นอนบ้านพี่ภูมิเว้ยย” น็อตตะโกนเหมือนไม่เคยนอนบ้านคนอื่นมาก่อนท่าทางดีใจ
เมื่อทุกคนเข้าไปในบ้านกันหมดเหลือภูมิที่ยืนมองประตูบ้านอยู่ จริงอยู่ที่มันล็อคไว้ในตอนแรกแต่กลับมีร่องรอยการบิดลูกบิดประตูด้วยความรุนแรงเหมือนพยายามที่จะเข้าไปข้างใน มีรอยเลือดจางๆอยู่เต็มไปหมด มีหลายบ้านที่ประตูเปิดอยู่ทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนแต่ที่แปลกที่สุดคือ ไม่มีเลยสักบ้านที่ เปิดไฟ “ความผิดปกตินี่มันคืออะไร” ภูมิบ่นพึมพัม แต่ไม่อยากจะคิดให้หนักสมองจึงเดินเข้าบ้านไปรวมกับเพื่อนๆเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยทุกคนอาบน้ำอาบท่าเตรียมนอนทุกคนจึงขึ้นไปบนหอ้งของภูมิเพื่อนอนแต่ทันใดนั้นก็มีเสียง “กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”
เป็นเสียงร้องของผู้หญิงที่คุ้นๆหูแต่นึกไม่ออกว่าใครทุกคนต่างเงียบอยู่พักนึงเพื่อแน่ใจ
ว่าที่ได้ยินนั้นไม่ได้หูแว่ว “กริ๊ดดดดดดดดดด ช่วยด้วยยยย!!!” เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้
ภูมิไม่ลังเลเดินหยิบไม้เบสบอลในบ้านแล้วเดินออกไปปตามเสียงนั้นทันทีโดยไม่เรียกหรือรอใคร
“ไปไหนวะภูมิ” เสียงสแตมป์ตามหลังมาแต่ภูมิไม่ตอบได้แต่เดินดิ่งออกไปตามเสียงนั้นและเมื่อ
เปิดประตูบ้านออกไปก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น เป็นภาพตัวอะไรบางอย่างที่รูปร่างเหมือนคนแต่สีหน้าไร้ความรู้สึก เหมือนศพที่เดินได้ใบหน้าเละเฟะเต็มไปด้วยเลือดดูแล้วเหมือนสัตว์เดรัจฉานสะมากกว่าที่กำลังกินคน กัดเนื้อ ฉีก กระชาก ภาพความผิดปกติเด้งขึ้นมาในหัวภูมิทันที เค้าเข้าใจทันทีโดยที่ไม่ต้อวคิดอะไรอีกทุกอย่างตรงหน้ามันบอกเค้าหมดแล้ว ภูมิเดินตรงไปยังสัตว์เดรัจฉานตัวนั้นแล้วฟาดไม้เบสบอลลงไปทันทีโดยไม่ได้คิด เค้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฟาดลงไปกี่ที ในหัวของภูมิคิดแต่ว่า “มันไม่ใช่คนๆๆ!” ภูมิฟาดจนมันหัวเละไปหมด “เห้ย!! มึงเป็นไรเนี่ย มึงไปตีเค้าทำไมวะ”
สแตมป์ตะโกนออกมาพร้อมวิ่งมาดึงแขนภูมิไว้ และเมื่อทุกคนออกมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เข้าใจทันที
ทุกคนตัวสั่นสะท้านสแตมป์ปล่อยแขนภูมิ สีหน้าภูมิตอนนี้ช็อคอย่างเห็นได้ชัด เค้าเงียบ ซึม
ไม่พูดคุยกับใคร “เพล้งงงงงงง!!” เสียงแก้วแตกในบ้านข้างๆ ทุกคนยืนงงนิ่งกันหมด
ภูมิตั้งสติได้จึงรีบบอกให้ทุกคนเข้าไปในบ้านแล้วล็อคให้มิดชิด หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในบ้าน
เช็คประตู หน้าต่าง ทุกบานอย่างละเอียด จึงมานั่งรวมกันในห้องของภูมิโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ทั้งห้องเงียบไปหมด อาการของทุกคนเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่มีใครพูดออกมา
“มันเกิดอะไรขึ้นวะพี่” ปอพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ แต่ไม่มีใครตอบอะไรทุกคนยังคงช็อคกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ “สิ่งที่ต้องหาคือ อาวุธ” ภูมิพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบนั้น
“เห้ย บ้านกูมีมีดยาวอยู่ว่ะ” สแตมป์พูดตามมาทันที “เพล้งงงง” เสียงแก้วหรืออะไรสักอย่างแตกตามมาอีกครั้ง ทุกคนจึงวิ่งไปดูที่หน้าต่างของอีกห้องก็เห็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งกำลังก้มลงไปทำอะไรบางอย่างเป็นเงาของพี่ข้างบ้านที่สนิทกัน “พี่ นั่นพี่เอ๋นี่หว่า” ปอพูดขึ้น จากนั้นเงานั่นก็หันมาทางห้องของพวกเราตรงหน้าต่าง
“ก้มลง แล้วเงียบๆไว้ก่อน” ภูมิพูดกับเพื่อนทั้ง 3 เหมือนตะวาด ทั้ง 3 ตกใจรีบก้มลงอย่างรวดเร็ว “ทำไมวะภูมิ เราน่าจะไปถามพี่เอ๋นะว่าเกิดอะไรขึ้น ?” สแตมป์ถามด้วยความสงสัย
“กูว่ามันแปลกๆนะ ดูท่าทางพี่เอ๋เค้าเหมือนแปลกๆไป” ทุกคนจึงชะเง้อมองตามแล้วสิ่งที่เห็นคือ
พี่เอ๋กำลังกินซากศพด้วยความหิวโหย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดเหมือนกับคนที่ภูมิฟาดไปในครั้งแรก
“อีกแล้วหรอวะ เป็นแบบนั้นอีกแล้ว” ภูมิพูดขึ้นมาด้วยท่าทางกลัวสุดขีด จึงให้ทุกคนมารวมกันที่ห้องของภูมิอีกครั้ง “ปัง” เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นทุกคนยังคงไม่เชื่อเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น
“เห้ย แตมป์ บ้านมึงมีมีดใช่ไหม??” ภูมิถาม
“เออ มีอยู่ 2 เล่มอ่ะเป็นมีดยาวนะ ว่าแต่มึงจะทำไรวะ ?”
“กูต้องไปเอามีดนั่นก่อนว่ะ” ภูมิท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจังมาก
“พี่จะไปคนเดียวหรอ พี่ภูมิ ?” น็อตเอ่ยขึ้น
“ถ้าจะไปจริงๆกูไปด้วยก็ได้ เพราะมึงไปคนเดียวคงไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน” สแตมป์เอ่ยมาด้วยท่าทางมั่นใจ ภูมิและสแตมป์ต่างมองหน้ากันเพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นแน่ๆ...
สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือ ฆ่า เท่านั้น คนเราทุกคนก็คงเป็นแบบนี้
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องทำ แน่นอนว่าคุณหรือผมไม่มีสิทธิ์เลือก และเมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ "ฆ่า" นั่นก็หมายความว่า "ต้องฆ่า" อย่าแม้แต่ที่จะลังเลไม่งั้นคนที่ถูกฆ่าจะเป็นคุณ
หนึ่งอาทิตย์กอนหน้านี้
บรื้นนน เสียงรถกำลังแล่นอยู่บนถนนมีเด็ก 4 คนที่กำลังกลับจากการเที่ยวทะเลทุกคนดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยแต่ไม่มีใครยอมใคร ”เห้อ ง่วงว่ะพี่” น็อตคนที่นั่งอยู่เบาะหลังร้องขึ้นมาด้วยท่าทางง่วง
“มึงก็นอนดิวะ กูเห็นมึงบ่นมาตลอดทางเลยเนี่ย” คราวนี้เป็นเสียงของสแตมป์เป็นพี่ใหญ่สุดในบรรดาทั้ง 4 คน “เดี๋ยวพี่ก็แกล้งมันอีกอ่ะ ฮ่าๆ คราวที่แล้วโดนไปเป็นไงบ้างวะน็อต”
ปอเพื่อนรุ่นเดียวที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆของน็อตพูดขึ้นอย่างน่าขัน “เหอะ มึงอย่าพลาดละกันปอ”
น็อตพูดในเชิงโมโหนิดหน่อย “นี่ สังเกตุกันบ้างไหมว่าตั้งแต่เข้ามาในกรุงเทพเนี่ยมันเงียบผิดปกตินะ โดยเฉพาะแถวดอนเมืองเนี่ย” ภูมิ ที่ขับรถอยู่พูดขึ้นอย่างประหลาดใจ รอบๆทางระหว่างกลับ
มันเงียบสะงัดเหมือนไม่เคยมีคนอยู่ ไม่มีรถวิ่ง ไม่มีคนเดิน หรือแม้แต่เสียงคนคุยกันก็ไม่มีเลย
“โอ้ย คิดมากว่ะนี่มันเที่ยงคืนละนะ มึงจะให้เค้ามาเต้นแอโรบิคโชว์มึงหรือไงวะภูมิ ฮ่าๆ”
สแตมป์ตะโกนลั่นรถแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนๆอีก 3 คน ”เอาๆเตรียมลงได้ละจะถึงหมู่บ้านละเนี่ย” เมื่อมาถึงหมู่บ้านก็ต้องพบความผิดปกติเข้าไปอีกเมื่อประตูหมู่บ้านไม่ได้ปิดมีรอยเลือดที่ยังไม่จางติดอยู่ที่รั้วขอบประตู แต่มีเพียง ภูมิ คนเดียวที่สนใจความผิดปกตินี้แต่เลือกที่จะไม่บอกใครเพราะทุกคนคงเหนื่อยมากแล้วถ้าพูดไปเดี๋ยวจะพานอนไม่หลับกันอีก รถของภูมิแล่นเข้ามาในหมู่บ้านภูมิขับแบบชะรอเพื่อที่จะมองรอบๆ
เอี๊ยดด เสียงรถจอดที่หน้าบ้านของภูมิ
“เอาลงๆ ขนของลงไปบ้านกูด้วยคืนนี้นอนบ้านกูเลยไม่มีคนอยู่บ้านกูไปต่างจังหวัดกันหมดละ”
“เยส นอนบ้านพี่ภูมิเว้ยย” น็อตตะโกนเหมือนไม่เคยนอนบ้านคนอื่นมาก่อนท่าทางดีใจ
เมื่อทุกคนเข้าไปในบ้านกันหมดเหลือภูมิที่ยืนมองประตูบ้านอยู่ จริงอยู่ที่มันล็อคไว้ในตอนแรกแต่กลับมีร่องรอยการบิดลูกบิดประตูด้วยความรุนแรงเหมือนพยายามที่จะเข้าไปข้างใน มีรอยเลือดจางๆอยู่เต็มไปหมด มีหลายบ้านที่ประตูเปิดอยู่ทั้งที่อากาศไม่ได้ร้อนแต่ที่แปลกที่สุดคือ ไม่มีเลยสักบ้านที่ เปิดไฟ “ความผิดปกตินี่มันคืออะไร” ภูมิบ่นพึมพัม แต่ไม่อยากจะคิดให้หนักสมองจึงเดินเข้าบ้านไปรวมกับเพื่อนๆเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อยทุกคนอาบน้ำอาบท่าเตรียมนอนทุกคนจึงขึ้นไปบนหอ้งของภูมิเพื่อนอนแต่ทันใดนั้นก็มีเสียง “กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”
เป็นเสียงร้องของผู้หญิงที่คุ้นๆหูแต่นึกไม่ออกว่าใครทุกคนต่างเงียบอยู่พักนึงเพื่อแน่ใจ
ว่าที่ได้ยินนั้นไม่ได้หูแว่ว “กริ๊ดดดดดดดดดด ช่วยด้วยยยย!!!” เสียงร้องดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้
ภูมิไม่ลังเลเดินหยิบไม้เบสบอลในบ้านแล้วเดินออกไปปตามเสียงนั้นทันทีโดยไม่เรียกหรือรอใคร
“ไปไหนวะภูมิ” เสียงสแตมป์ตามหลังมาแต่ภูมิไม่ตอบได้แต่เดินดิ่งออกไปตามเสียงนั้นและเมื่อ
เปิดประตูบ้านออกไปก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น เป็นภาพตัวอะไรบางอย่างที่รูปร่างเหมือนคนแต่สีหน้าไร้ความรู้สึก เหมือนศพที่เดินได้ใบหน้าเละเฟะเต็มไปด้วยเลือดดูแล้วเหมือนสัตว์เดรัจฉานสะมากกว่าที่กำลังกินคน กัดเนื้อ ฉีก กระชาก ภาพความผิดปกติเด้งขึ้นมาในหัวภูมิทันที เค้าเข้าใจทันทีโดยที่ไม่ต้อวคิดอะไรอีกทุกอย่างตรงหน้ามันบอกเค้าหมดแล้ว ภูมิเดินตรงไปยังสัตว์เดรัจฉานตัวนั้นแล้วฟาดไม้เบสบอลลงไปทันทีโดยไม่ได้คิด เค้าไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฟาดลงไปกี่ที ในหัวของภูมิคิดแต่ว่า “มันไม่ใช่คนๆๆ!” ภูมิฟาดจนมันหัวเละไปหมด “เห้ย!! มึงเป็นไรเนี่ย มึงไปตีเค้าทำไมวะ”
สแตมป์ตะโกนออกมาพร้อมวิ่งมาดึงแขนภูมิไว้ และเมื่อทุกคนออกมาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เข้าใจทันที
ทุกคนตัวสั่นสะท้านสแตมป์ปล่อยแขนภูมิ สีหน้าภูมิตอนนี้ช็อคอย่างเห็นได้ชัด เค้าเงียบ ซึม
ไม่พูดคุยกับใคร “เพล้งงงงงงง!!” เสียงแก้วแตกในบ้านข้างๆ ทุกคนยืนงงนิ่งกันหมด
ภูมิตั้งสติได้จึงรีบบอกให้ทุกคนเข้าไปในบ้านแล้วล็อคให้มิดชิด หลังจากที่ทุกคนเข้ามาในบ้าน
เช็คประตู หน้าต่าง ทุกบานอย่างละเอียด จึงมานั่งรวมกันในห้องของภูมิโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ทั้งห้องเงียบไปหมด อาการของทุกคนเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่มีใครพูดออกมา
“มันเกิดอะไรขึ้นวะพี่” ปอพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ แต่ไม่มีใครตอบอะไรทุกคนยังคงช็อคกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ “สิ่งที่ต้องหาคือ อาวุธ” ภูมิพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบนั้น
“เห้ย บ้านกูมีมีดยาวอยู่ว่ะ” สแตมป์พูดตามมาทันที “เพล้งงงง” เสียงแก้วหรืออะไรสักอย่างแตกตามมาอีกครั้ง ทุกคนจึงวิ่งไปดูที่หน้าต่างของอีกห้องก็เห็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งกำลังก้มลงไปทำอะไรบางอย่างเป็นเงาของพี่ข้างบ้านที่สนิทกัน “พี่ นั่นพี่เอ๋นี่หว่า” ปอพูดขึ้น จากนั้นเงานั่นก็หันมาทางห้องของพวกเราตรงหน้าต่าง
“ก้มลง แล้วเงียบๆไว้ก่อน” ภูมิพูดกับเพื่อนทั้ง 3 เหมือนตะวาด ทั้ง 3 ตกใจรีบก้มลงอย่างรวดเร็ว “ทำไมวะภูมิ เราน่าจะไปถามพี่เอ๋นะว่าเกิดอะไรขึ้น ?” สแตมป์ถามด้วยความสงสัย
“กูว่ามันแปลกๆนะ ดูท่าทางพี่เอ๋เค้าเหมือนแปลกๆไป” ทุกคนจึงชะเง้อมองตามแล้วสิ่งที่เห็นคือ
พี่เอ๋กำลังกินซากศพด้วยความหิวโหย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดเหมือนกับคนที่ภูมิฟาดไปในครั้งแรก
“อีกแล้วหรอวะ เป็นแบบนั้นอีกแล้ว” ภูมิพูดขึ้นมาด้วยท่าทางกลัวสุดขีด จึงให้ทุกคนมารวมกันที่ห้องของภูมิอีกครั้ง “ปัง” เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นทุกคนยังคงไม่เชื่อเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น
“เห้ย แตมป์ บ้านมึงมีมีดใช่ไหม??” ภูมิถาม
“เออ มีอยู่ 2 เล่มอ่ะเป็นมีดยาวนะ ว่าแต่มึงจะทำไรวะ ?”
“กูต้องไปเอามีดนั่นก่อนว่ะ” ภูมิท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจังมาก
“พี่จะไปคนเดียวหรอ พี่ภูมิ ?” น็อตเอ่ยขึ้น
“ถ้าจะไปจริงๆกูไปด้วยก็ได้ เพราะมึงไปคนเดียวคงไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน” สแตมป์เอ่ยมาด้วยท่าทางมั่นใจ ภูมิและสแตมป์ต่างมองหน้ากันเพราะรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นแน่ๆ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ