คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
5.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
32 ตอน
7 วิจารณ์
34.31K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) บทที่ 5 การพบเจอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรีเบ็คก้าเตรียมสัมภาระสำหรับออกเดินทางพร้อมแล้วก็พูดขึ้น"เวรกรรมลืมยาแก้แพ้อากาศร้อน สงสัยต้องไปขอที่โรงพยาบาลอีก เฮ้อ"เมื่อคิดได้หญิงสาวจึงได้ตัดสินใจซิ่งรถไปโรงพยาบาลทันที
โรงพยาบาลจินเดอร่า
โรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดเเห่งหนึ่งในลอนดอลที่กำลังจะเตรียมสร้างโรงพยาบาลรักษาสัตว์เพิ่ม
รีเบ็คก้าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวสวมทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีดำกางเกงยีนสีดำขาเดฟและรองเท้าผ้าใบสีดำ ผมสีน้ำตาลเข้มนั้นถักเป็นเปียเดี่ยวและสวมแว่นกันแดดสีชา
"อ้าว เบ็ค"เสียงหวานร้องทัก
"อ้าว มินารี่ สวัสดีค่ะ"รีเบ็คก้าหันมาทักมินารี่หญิงสาววัยยี่สิบห้าผิวขาวผมสีดำม้วนเป็นมวยต่ำตาสีฟ้าน้ำทะเลสวยในชุดเสื้อเชิตสีขาวกระโปรงทรงสอบสีดำสวมเสื้อกาวน์สีขาวทับและสวมรองเท้าคัทชูสีขาว เธอเป็นพี่สาวคนกลางของวีอารองเพื่อนสนิทของเธอ มินารี่เป็นศัลยแพทย์ที่เก่งคนหนึ่ง
มินารี่ถาม"ลมอะไรหอบเรามาล่ะเนี่ย"
หญิงสาวหัวเราะแก้เขิน"ฮ่ะๆพอดีมาขอยาแก้แพ้อากาศร้อนน่ะค่ะ พอดีจะเดินทางไปคาลอสไปตามหาฟาน"
"อ้อ เหรอจ๊ะ เบ็คจะไปที่นั่นจริงๆ พอดีฉันมีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย แต่ยืนคุยกันอย่างนี้คงไม่สะดวกไปนั่งคุยที่ห้องทำงานของฉันก่อนเถอะตามมาสิ"ว่าแล้วมินารี่ก็เดินนำหญิงสาวไปโดยรีเบ็คก้ายอมเดินตามแต่โดยดี
ห้องทำงานของมินารี่ ถูกจัดเป็นระเบียบเอกสารบนโต๊ะนั้นถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ
"โฮ่ง!โฮ่ง!"เสียงเห่าของเจ้าหมาน้อยพันธุ์ปาปิยองสีน้ำตาลขาวน่ารักอยู่ในตระกร้าผูกริบบิ้นสีชมพูหวาน
รีเบ็คก้าหันมามองก่อนจะทัก"ครัวซอง"รีเบ็คก้าลูบหัวเจ้าสี่ตีนตัวเล็กอย่างเอ็นดู ปาปิยองน้อยส่ายหางอย่างดีใจที่เจอคนคุ้นเคย สองสาวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานรีเบ็คก้าอุ้มเจ้าปาปิยองน้องมาไว้บนตักก่อนจะถาม"มีเรื่องอะไรให้ช่วยรึค่ะ มินารี่"
มินารี่ยิ้มน้อยก่อนจะตอบ"คือถ้าเบ็คจะไปคาลอสจริงก็ช่วยเอาเจ้าครัวซองไปหาวีอารองหน่อยสิ วีอารองไปที่นั่นตั้งสามสี่เดือนแล้ว"
"ได้ค่ะ"ว่าแล้วเธอก็ส่งเจ้าครัวซองไปให้มินารี่
คุณหมอสาวนำเจ้าสี่ตีนตัวน้อยใส่ตระกร้าตามเดิมก่อนจะลงมือเขียนใบสั่งยาให้หญิงสาวผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องชายคนเล็กพลางบ่น"พี่ลินดานะพี่ลินดา ตัวเองก็ทำงานได้เงินดีอยู่แล้วจะหยุดช้อบปิ้งบ้างก็ไม่ได้ เดือดร้อนวีอารองช่วยไปทำงานแทนเนี่ย"
รีเบ็คก้านึกสงสัย"พี่ลินดาไปได้งานอะไรเหรอค่ะ"
คนถูกถามยิ้มน้อยๆ"ครูสอนภาษาฝรั่งเศสให้กับเจ้าหญิงที่คาลอสน่ะจ้ะแต่สามสี่เดือนก่อนยัยนั่นมาขอให้วีอารองไปทำงานแทน เจ้าน้องชายคนนี้ก็ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัว"
หญิงสาวหัวเราะเบาๆ"นั่นสิค่ะ วันๆตานั่นอยู่แต่ในห้องงานไม่ก็ห้องผ่าตัดแต่ลินดาคงจะไปช้อบปิงที่ฝรั่งเศสอีกล่ะสิ"
มินารี่พยักหน้าด้วยเอือมระอานิสัยชอบช้อบปิงของพี่สาวคนโตคนนี้เหลือเกินถึงแม้จะเป็นคนเอาการเอางานแต่ก็ติดช้อบปิ้งเมื่อมีชุดหรือเครื่องสำอางออกใหม่ทีไรก็ต้องออกไปช้อบทุกที คุณหมอสาวเรียกพยาบาลนางหนึ่งเข้ามาพร้อมส่งใบสั่งยาที่เธอเขียน"ช่วยเอายามาให้ฉันที่ห้องด้วย" พยาบาลนางนั้นรับใบสั่งยามาแล้วออกจากห้องไป พอลับร่างของคนนอกแล้ว
รีเบ็คก้าหันมาถาม"ทำไมวีอารองไม่เอาครัวซองไปด้วยล่ะค่ะ"
มินารี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่"ก็ตอนนั้นครัวซองไม่สบายวีอารองไม่อยากเอาไปน่ะจ้ะ รบกวนเบ็ครึเปล่าล่ะ"
หญิงส่ายหน้า"ไม่เลยค่ะ"
ไม่นานนางพยาบาลก็เข้ามาพร้อมยาแก้แพ้อากาศร้อนมาให้มินารี่แล้วออกไป"นี่จ้ะเบ็ค จะไปเมื่อไหร่รึ"
"วันนี้ค่ะ"
มินารี่ก็ส่งตระกร้าใบสวยใส่เจ้าปาปิยองน้อยและถุงใส่ยาแก้แพ้อากาศร้อนให้หญิงสาว
รีเบ็คก้ารับมา"ขอบคุณและลาก่อนค่ะ"
มินารี่อวยพร"โชคดีนะจ๊ะ เบ็ค"
รีเบ็ดก้าจำต้องขับมอ'ไซค์ด้วยมือข้างเดี่ยวเพราะอีกมือต้องถือตระกร้าใส่เจ้าครัวซองตัวน้อย
หลังจากที่หญิงสาวกลับมาที่คฤหาสน์เธอจึงหันไปสั่งดอลลี่ที่ออกมาต้อนรับ"ดอลลี่ ไปเอากรงใส่ครัวซองมาให้หน่อย"พร้อมส่งตระกร้าสีสวยให้พ่อบ้านชราส่วนตนก็ไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบโตหนึ่งใบพร้อมเป้สะพายหลัง ดอลลี่เดินเข้ามาพร้อมเจ้าครัวซองที่ใส่กรงเรียบร้อย"จะให้ผมไปส่งที่สนามบินไหมครับ"
"ก็ดี ขอบคุณค่ะ"
จากนั้นรีเบ็คก้าก็ถือกระเป๋าและกรงใส่เจ้าสี่ตีนตัวเล็กเดินออกมารอที่หน้าคฤหาสน์ ไม่นานดอลลี่ก็ขับรถจากัวร์ เอ็กซ์ สีดำออกมารีเบ็คก้านำกระเป่าใส่กระโปร่งหลังรถแล้วเปิดประตูรถนำกรงใส่เจ้าปาปิยองน้อยแล้วตนเองเข้าไปนั่งบนรถ เมื่อประตูรถปิดลงพ่อบ้านชราก็ออกรถไปทันที
สนามบิน
พอมาถึงสนามบินรีเบ็คก้าตัดสินใจเดินถือกระเป๋าไปเองโดยไม่ให้ดอลลี่ไปส่งมือหนึ่งถือกรงใส่เจ้าครัวซองอีกมือก็ถือกระเป่าเดินทางเข้ามหลังจากนั้นเธอก็ขึ้นไปนั่งที่เครื่องบินส่วนตัวที่เธอจ้องไว้สำหรับเดินทางไปคาลอสเพราะว่าเครื่องบินไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแต่เธอเป็นห่วงเจ้าสี่ตีนตัวเล็กเลยต้องลงทุนจ่ายเยอะหน่อย(บ้านคุณเธอรวยอยู่แล้วนินา)
"คุณสวอนครับทางนี้ๆ"นักบินหนุ่มใหญ่วัยสามสิบตะโกนเรียก
"ขอโทษที่ช้าค่ะ"รีเบ็คก้าพูดพลางส่งกระเป๋าเดินทางใบโตให้นักบินหนุ่มใหญ่
นักบินหนุ่มหัวเราะและกล่าวอย่างอารมณ์ดี"ไม่เป็นไรหรอกครับ หงส์น้อยจากอังกฤษมาขึ้นเครื่องบินของผมเนี่ยรู้สึกเป็นเกียรติ์จริงๆ"
หญิงสาวหัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้า"อย่าเรียกฉันอย่างนั้นเลยค่ะรุ่นพี่โจน ฉันรามือจากวงการนั้นมานานแล้วนะค่ะ"ฉายา หงส์น้อย เป็นฉายาสมัยที่เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ที่ทำเพื่อชื่อเสียงเพราะตัวเธอรวยอยู่แล้ว โจน หรือ โจนาทาน โจน รุ่นพี่ที่มหาลัยฮาวาร์ดคณะการบิน คนรู้จักของพ่อเธอที่เขามาทำงานเป็นนักบินซึ่งตัวเธอเองก็ใช้บริการนานๆทีแต่ส่วนมากที่ใช้บริการจะเป็นพ่อของเธอมากกว่า
โจนพูดขึ้น"ไปคาลอสอย่างเร็วที่สุดก็ห้าชั่วโมงนะครับ พร้อมรึยังครับ"
หญิงสาวพยักหน้ารับ"พร้อมค่ะ"
โจนผายมือเชิญ"เชิญขึ้นเครื่องเลยครับคุณหนู"
พอหญิงสาวขึ้นเครื่องแล้วนักบินหนุ่มก็ปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งนักบิน
ระหว่างทาง
รีเบ็คก้าเปลี่ยนจากแว่นกันแดดสีชามาเป็นแว่นกรอบดำหนาแทนตอนนี้กำลังนั่งไขว้ห้างอ่านหนังสือเกี่ยวกับภาษาของคาลอสอยู่ในระหว่างการเดินทางเธอจำเป็นต้องอัดความรู้เข้าสมองให้มากที่สุดงานนี้นอกจากไปตามหาฟานเชสก้าญาติผู้พี่แล้วยังต้องออกตามหาสมบัติในตำนานอีกงานนี้เธอยอมรับว่าไม่หมูเลย
ผ่านไปห้าชั่วโมง
รีเบ็คก้าลงจากเครื่องแล้วก็ตรงเข้าทำการแลกเปลี่ยนเงินไปจำนวนหนึ่งหลังจากนั้นเธอก็เดินไปหาไกด์ที่เธอติดต่อไว้ก่อนที่จะมาตอนนี้สภาพของเธอพะรุงพะรังมากมือหนึ่งถือกรงใส่ครัวซองอีกมือลากกระเป๋าเดินทางแถมสะพายเป้ใบโตที่หลัง"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ"เธอเดินไปชนผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวสูงกว่าเธอทำเอาแว่นกันแดดสีชาใบโตหล่นออกจากใบหน้า
"ผมต่างหากที่ควรจะขอโทษคุณ"ชายหนุ่มในชุดคาฟทานสีขาวขลิบทองหน้าตาหล่อเหลาพูดขึ้นแล้วหยิบแว่นกันแดดที่หล่นพื้นส่งให้เธอ รีเบ็คก้ารับแว่นมาสวม"ขอบคุณค่ะ"
"คุณสวอนครับ ทางนี้ๆ"เสียงทุ้มห้าวของชายวัยกลางคนดังขึ้น รีเบ็คก้าหันไปมองก็พบว่านั่นคืออาลีไกด์ที่เธอจ้างมาเธอจึงรีบกรงและกระเป๋าตรงเข้าไปหาไกด์ทิ้งไว้แต่เพียงชายหนุ่มร่างสูงไว้เบื้องหลัง
พอลับร่างของหญิงสาว "ท่านชีคครับ" เสียงหนึ่งเบนความสนใจของร่างสูงที่เหม่อมองร่างบางระหงของหญิงสาวที่เดินมาชนตนเขาหันไปถาม"มีอะไรรึ เจเฟลาส"
เจ้าของนามในชุดทหารเต็มยศ"คุณคาเลนโซ่มาถึงแล้วนะครับ"
"เหรอ"เขาเดินไปอีกทาง...เราต้องไปเจอกันอีกคนสวย...
อีกด้าน
"ฮัดชิ้ว!ฮัดชิ้ว!"หงส์น้อยจากอังกฤษจามทำให้ไกด์หนุ่มใหญ่หันมาถาม
"เป็นหวัดรึครับ คุณสวอน"
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธทั้งคู่ตรงไปที่รถ เต่าคันเล็กสีน้ำเงินไกด์หนุ่มนำกระเป่าของลูกทัวร์เข้าไปท้ายกระโปรงรถแล้วรีบเดินมาเปิดปประตูรถให้
พอทั้งคู่ขึ้นรถมาแล้ว อาลีเปิดแอร์รถช่วยให้หญิงสาวคลายร้อนได้มากแล้วหันมาถามลูกทัวร์"สบายขึ้นไหมครับ"
หญิงสาวพยักหน้า"ค่ะ ค่อยสบายขึ้นหน่อยพอดีฉันไม่ค่อยถูกกับอากาศร้อนสักเท่าไหร่"
รถเต่าแล่นไปไกด์อาลีหันไปถาม"คุณสวอนกินอะไรมารึยังครับ"
"ยังเลยค่ะ แต่ฉันว่าหาที่พักก่อนเดี๋ยวค่อยหาที่กิน"
"ครับๆ"
หญิงสาวมองไปตามทางสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นชายร่างกำยำผิวคล้ำในชุดสูทผมสีดำแซมขาวบ่งบอกถึงวัยใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้นกำลังเข้าพักที่โรงแรมระดับสิบเอ็ดดาวเธอจึงหันไปบอกกับไกด์อาลี"อาลีฉันจะพักที่นั่น"
อาลีมองไปทางที่เธอชี้"คุณครับนั่นโรงแรมสิบเอ็ดดาวนะครับ"
หากแต่หญิงสาวยืนยันเสียงแข็ง"ฉันจะพักที่นั่นค่ะ"
เมื่อหญิงสาวยืนยันขนาดนั้นไกด์อาลีก็จำยอม
เมื่อไกด์อาลีเดินมาพร้อมรีเบ็คก้าโดยที่ตอนนี้ตัวเขาช่วยถือกระเป๋าและกรงใส่เจ้าปาปิยองน้อยส่วนหญิงสาวแค่สะพายเป้ก็เท่านั้น
โรงพยาบาลจินเดอร่า
โรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดเเห่งหนึ่งในลอนดอลที่กำลังจะเตรียมสร้างโรงพยาบาลรักษาสัตว์เพิ่ม
รีเบ็คก้าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวสวมทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีดำกางเกงยีนสีดำขาเดฟและรองเท้าผ้าใบสีดำ ผมสีน้ำตาลเข้มนั้นถักเป็นเปียเดี่ยวและสวมแว่นกันแดดสีชา
"อ้าว เบ็ค"เสียงหวานร้องทัก
"อ้าว มินารี่ สวัสดีค่ะ"รีเบ็คก้าหันมาทักมินารี่หญิงสาววัยยี่สิบห้าผิวขาวผมสีดำม้วนเป็นมวยต่ำตาสีฟ้าน้ำทะเลสวยในชุดเสื้อเชิตสีขาวกระโปรงทรงสอบสีดำสวมเสื้อกาวน์สีขาวทับและสวมรองเท้าคัทชูสีขาว เธอเป็นพี่สาวคนกลางของวีอารองเพื่อนสนิทของเธอ มินารี่เป็นศัลยแพทย์ที่เก่งคนหนึ่ง
มินารี่ถาม"ลมอะไรหอบเรามาล่ะเนี่ย"
หญิงสาวหัวเราะแก้เขิน"ฮ่ะๆพอดีมาขอยาแก้แพ้อากาศร้อนน่ะค่ะ พอดีจะเดินทางไปคาลอสไปตามหาฟาน"
"อ้อ เหรอจ๊ะ เบ็คจะไปที่นั่นจริงๆ พอดีฉันมีเรื่องจะให้ช่วยหน่อย แต่ยืนคุยกันอย่างนี้คงไม่สะดวกไปนั่งคุยที่ห้องทำงานของฉันก่อนเถอะตามมาสิ"ว่าแล้วมินารี่ก็เดินนำหญิงสาวไปโดยรีเบ็คก้ายอมเดินตามแต่โดยดี
ห้องทำงานของมินารี่ ถูกจัดเป็นระเบียบเอกสารบนโต๊ะนั้นถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ
"โฮ่ง!โฮ่ง!"เสียงเห่าของเจ้าหมาน้อยพันธุ์ปาปิยองสีน้ำตาลขาวน่ารักอยู่ในตระกร้าผูกริบบิ้นสีชมพูหวาน
รีเบ็คก้าหันมามองก่อนจะทัก"ครัวซอง"รีเบ็คก้าลูบหัวเจ้าสี่ตีนตัวเล็กอย่างเอ็นดู ปาปิยองน้อยส่ายหางอย่างดีใจที่เจอคนคุ้นเคย สองสาวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานรีเบ็คก้าอุ้มเจ้าปาปิยองน้องมาไว้บนตักก่อนจะถาม"มีเรื่องอะไรให้ช่วยรึค่ะ มินารี่"
มินารี่ยิ้มน้อยก่อนจะตอบ"คือถ้าเบ็คจะไปคาลอสจริงก็ช่วยเอาเจ้าครัวซองไปหาวีอารองหน่อยสิ วีอารองไปที่นั่นตั้งสามสี่เดือนแล้ว"
"ได้ค่ะ"ว่าแล้วเธอก็ส่งเจ้าครัวซองไปให้มินารี่
คุณหมอสาวนำเจ้าสี่ตีนตัวน้อยใส่ตระกร้าตามเดิมก่อนจะลงมือเขียนใบสั่งยาให้หญิงสาวผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องชายคนเล็กพลางบ่น"พี่ลินดานะพี่ลินดา ตัวเองก็ทำงานได้เงินดีอยู่แล้วจะหยุดช้อบปิ้งบ้างก็ไม่ได้ เดือดร้อนวีอารองช่วยไปทำงานแทนเนี่ย"
รีเบ็คก้านึกสงสัย"พี่ลินดาไปได้งานอะไรเหรอค่ะ"
คนถูกถามยิ้มน้อยๆ"ครูสอนภาษาฝรั่งเศสให้กับเจ้าหญิงที่คาลอสน่ะจ้ะแต่สามสี่เดือนก่อนยัยนั่นมาขอให้วีอารองไปทำงานแทน เจ้าน้องชายคนนี้ก็ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัว"
หญิงสาวหัวเราะเบาๆ"นั่นสิค่ะ วันๆตานั่นอยู่แต่ในห้องงานไม่ก็ห้องผ่าตัดแต่ลินดาคงจะไปช้อบปิงที่ฝรั่งเศสอีกล่ะสิ"
มินารี่พยักหน้าด้วยเอือมระอานิสัยชอบช้อบปิงของพี่สาวคนโตคนนี้เหลือเกินถึงแม้จะเป็นคนเอาการเอางานแต่ก็ติดช้อบปิ้งเมื่อมีชุดหรือเครื่องสำอางออกใหม่ทีไรก็ต้องออกไปช้อบทุกที คุณหมอสาวเรียกพยาบาลนางหนึ่งเข้ามาพร้อมส่งใบสั่งยาที่เธอเขียน"ช่วยเอายามาให้ฉันที่ห้องด้วย" พยาบาลนางนั้นรับใบสั่งยามาแล้วออกจากห้องไป พอลับร่างของคนนอกแล้ว
รีเบ็คก้าหันมาถาม"ทำไมวีอารองไม่เอาครัวซองไปด้วยล่ะค่ะ"
มินารี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่"ก็ตอนนั้นครัวซองไม่สบายวีอารองไม่อยากเอาไปน่ะจ้ะ รบกวนเบ็ครึเปล่าล่ะ"
หญิงส่ายหน้า"ไม่เลยค่ะ"
ไม่นานนางพยาบาลก็เข้ามาพร้อมยาแก้แพ้อากาศร้อนมาให้มินารี่แล้วออกไป"นี่จ้ะเบ็ค จะไปเมื่อไหร่รึ"
"วันนี้ค่ะ"
มินารี่ก็ส่งตระกร้าใบสวยใส่เจ้าปาปิยองน้อยและถุงใส่ยาแก้แพ้อากาศร้อนให้หญิงสาว
รีเบ็คก้ารับมา"ขอบคุณและลาก่อนค่ะ"
มินารี่อวยพร"โชคดีนะจ๊ะ เบ็ค"
รีเบ็ดก้าจำต้องขับมอ'ไซค์ด้วยมือข้างเดี่ยวเพราะอีกมือต้องถือตระกร้าใส่เจ้าครัวซองตัวน้อย
หลังจากที่หญิงสาวกลับมาที่คฤหาสน์เธอจึงหันไปสั่งดอลลี่ที่ออกมาต้อนรับ"ดอลลี่ ไปเอากรงใส่ครัวซองมาให้หน่อย"พร้อมส่งตระกร้าสีสวยให้พ่อบ้านชราส่วนตนก็ไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบโตหนึ่งใบพร้อมเป้สะพายหลัง ดอลลี่เดินเข้ามาพร้อมเจ้าครัวซองที่ใส่กรงเรียบร้อย"จะให้ผมไปส่งที่สนามบินไหมครับ"
"ก็ดี ขอบคุณค่ะ"
จากนั้นรีเบ็คก้าก็ถือกระเป๋าและกรงใส่เจ้าสี่ตีนตัวเล็กเดินออกมารอที่หน้าคฤหาสน์ ไม่นานดอลลี่ก็ขับรถจากัวร์ เอ็กซ์ สีดำออกมารีเบ็คก้านำกระเป่าใส่กระโปร่งหลังรถแล้วเปิดประตูรถนำกรงใส่เจ้าปาปิยองน้อยแล้วตนเองเข้าไปนั่งบนรถ เมื่อประตูรถปิดลงพ่อบ้านชราก็ออกรถไปทันที
สนามบิน
พอมาถึงสนามบินรีเบ็คก้าตัดสินใจเดินถือกระเป๋าไปเองโดยไม่ให้ดอลลี่ไปส่งมือหนึ่งถือกรงใส่เจ้าครัวซองอีกมือก็ถือกระเป่าเดินทางเข้ามหลังจากนั้นเธอก็ขึ้นไปนั่งที่เครื่องบินส่วนตัวที่เธอจ้องไว้สำหรับเดินทางไปคาลอสเพราะว่าเครื่องบินไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแต่เธอเป็นห่วงเจ้าสี่ตีนตัวเล็กเลยต้องลงทุนจ่ายเยอะหน่อย(บ้านคุณเธอรวยอยู่แล้วนินา)
"คุณสวอนครับทางนี้ๆ"นักบินหนุ่มใหญ่วัยสามสิบตะโกนเรียก
"ขอโทษที่ช้าค่ะ"รีเบ็คก้าพูดพลางส่งกระเป๋าเดินทางใบโตให้นักบินหนุ่มใหญ่
นักบินหนุ่มหัวเราะและกล่าวอย่างอารมณ์ดี"ไม่เป็นไรหรอกครับ หงส์น้อยจากอังกฤษมาขึ้นเครื่องบินของผมเนี่ยรู้สึกเป็นเกียรติ์จริงๆ"
หญิงสาวหัวเราะเบาๆพลางส่ายหน้า"อย่าเรียกฉันอย่างนั้นเลยค่ะรุ่นพี่โจน ฉันรามือจากวงการนั้นมานานแล้วนะค่ะ"ฉายา หงส์น้อย เป็นฉายาสมัยที่เธอเป็นนักล่าขุมทรัพย์ที่ทำเพื่อชื่อเสียงเพราะตัวเธอรวยอยู่แล้ว โจน หรือ โจนาทาน โจน รุ่นพี่ที่มหาลัยฮาวาร์ดคณะการบิน คนรู้จักของพ่อเธอที่เขามาทำงานเป็นนักบินซึ่งตัวเธอเองก็ใช้บริการนานๆทีแต่ส่วนมากที่ใช้บริการจะเป็นพ่อของเธอมากกว่า
โจนพูดขึ้น"ไปคาลอสอย่างเร็วที่สุดก็ห้าชั่วโมงนะครับ พร้อมรึยังครับ"
หญิงสาวพยักหน้ารับ"พร้อมค่ะ"
โจนผายมือเชิญ"เชิญขึ้นเครื่องเลยครับคุณหนู"
พอหญิงสาวขึ้นเครื่องแล้วนักบินหนุ่มก็ปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งนักบิน
ระหว่างทาง
รีเบ็คก้าเปลี่ยนจากแว่นกันแดดสีชามาเป็นแว่นกรอบดำหนาแทนตอนนี้กำลังนั่งไขว้ห้างอ่านหนังสือเกี่ยวกับภาษาของคาลอสอยู่ในระหว่างการเดินทางเธอจำเป็นต้องอัดความรู้เข้าสมองให้มากที่สุดงานนี้นอกจากไปตามหาฟานเชสก้าญาติผู้พี่แล้วยังต้องออกตามหาสมบัติในตำนานอีกงานนี้เธอยอมรับว่าไม่หมูเลย
ผ่านไปห้าชั่วโมง
รีเบ็คก้าลงจากเครื่องแล้วก็ตรงเข้าทำการแลกเปลี่ยนเงินไปจำนวนหนึ่งหลังจากนั้นเธอก็เดินไปหาไกด์ที่เธอติดต่อไว้ก่อนที่จะมาตอนนี้สภาพของเธอพะรุงพะรังมากมือหนึ่งถือกรงใส่ครัวซองอีกมือลากกระเป๋าเดินทางแถมสะพายเป้ใบโตที่หลัง"อุ๊ย! ขอโทษค่ะ"เธอเดินไปชนผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวสูงกว่าเธอทำเอาแว่นกันแดดสีชาใบโตหล่นออกจากใบหน้า
"ผมต่างหากที่ควรจะขอโทษคุณ"ชายหนุ่มในชุดคาฟทานสีขาวขลิบทองหน้าตาหล่อเหลาพูดขึ้นแล้วหยิบแว่นกันแดดที่หล่นพื้นส่งให้เธอ รีเบ็คก้ารับแว่นมาสวม"ขอบคุณค่ะ"
"คุณสวอนครับ ทางนี้ๆ"เสียงทุ้มห้าวของชายวัยกลางคนดังขึ้น รีเบ็คก้าหันไปมองก็พบว่านั่นคืออาลีไกด์ที่เธอจ้างมาเธอจึงรีบกรงและกระเป๋าตรงเข้าไปหาไกด์ทิ้งไว้แต่เพียงชายหนุ่มร่างสูงไว้เบื้องหลัง
พอลับร่างของหญิงสาว "ท่านชีคครับ" เสียงหนึ่งเบนความสนใจของร่างสูงที่เหม่อมองร่างบางระหงของหญิงสาวที่เดินมาชนตนเขาหันไปถาม"มีอะไรรึ เจเฟลาส"
เจ้าของนามในชุดทหารเต็มยศ"คุณคาเลนโซ่มาถึงแล้วนะครับ"
"เหรอ"เขาเดินไปอีกทาง...เราต้องไปเจอกันอีกคนสวย...
อีกด้าน
"ฮัดชิ้ว!ฮัดชิ้ว!"หงส์น้อยจากอังกฤษจามทำให้ไกด์หนุ่มใหญ่หันมาถาม
"เป็นหวัดรึครับ คุณสวอน"
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธทั้งคู่ตรงไปที่รถ เต่าคันเล็กสีน้ำเงินไกด์หนุ่มนำกระเป่าของลูกทัวร์เข้าไปท้ายกระโปรงรถแล้วรีบเดินมาเปิดปประตูรถให้
พอทั้งคู่ขึ้นรถมาแล้ว อาลีเปิดแอร์รถช่วยให้หญิงสาวคลายร้อนได้มากแล้วหันมาถามลูกทัวร์"สบายขึ้นไหมครับ"
หญิงสาวพยักหน้า"ค่ะ ค่อยสบายขึ้นหน่อยพอดีฉันไม่ค่อยถูกกับอากาศร้อนสักเท่าไหร่"
รถเต่าแล่นไปไกด์อาลีหันไปถาม"คุณสวอนกินอะไรมารึยังครับ"
"ยังเลยค่ะ แต่ฉันว่าหาที่พักก่อนเดี๋ยวค่อยหาที่กิน"
"ครับๆ"
หญิงสาวมองไปตามทางสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นชายร่างกำยำผิวคล้ำในชุดสูทผมสีดำแซมขาวบ่งบอกถึงวัยใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้นกำลังเข้าพักที่โรงแรมระดับสิบเอ็ดดาวเธอจึงหันไปบอกกับไกด์อาลี"อาลีฉันจะพักที่นั่น"
อาลีมองไปทางที่เธอชี้"คุณครับนั่นโรงแรมสิบเอ็ดดาวนะครับ"
หากแต่หญิงสาวยืนยันเสียงแข็ง"ฉันจะพักที่นั่นค่ะ"
เมื่อหญิงสาวยืนยันขนาดนั้นไกด์อาลีก็จำยอม
เมื่อไกด์อาลีเดินมาพร้อมรีเบ็คก้าโดยที่ตอนนี้ตัวเขาช่วยถือกระเป๋าและกรงใส่เจ้าปาปิยองน้อยส่วนหญิงสาวแค่สะพายเป้ก็เท่านั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ