คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่ 4 ชีวิตในวัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตั้งแต่ฟานเชสก้าเข้าอยู่มาในวังชายแดนคาลอสนั้นเธอรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเจ้าหญิงก็มิปานหากแต่เธอไม่ได้รับอนุญาติให้ติดต่อกับคนในครอบครัวหรือใครๆเลยถึงเธอจะพยายามขอยืมโทรศัพท์จากวีอารอง แต่อีกฝ่ายนั้นบอกกลับมาว่า'โทรศัพท์ฉันโดนเจ้าชายอามุลหักทิ้งไปแล้ว'ทำเอาเธอแทบหมดหวัง ตอนนี้เธอกำลังเดินเล่นในอุทยานโดยมีนางกำนัลเฝ้าดูอยู่...ถึงจะรู้สึกเหมือนเจ้าหญิงแต่โดนเฝ้าจับตาดูอย่างนี้มันออกจะคล้ายนักโทษไปหน่อยนะ...เธอพึมพัมกับตนเองเบาๆ"เบ็คกี้ รีบมาทีเถอะ"
"พึมพัมถึงใครรึค่ะ"เสียงหวานร้องทักทำให้ช่างภาพสาวต้องหันมาก็พบว่าเป็นเด็กสาววัยสิบเจ็ดร่างบอบบางน่าทะนุถนอมผมสีดำยาวสลวยถูกถักเป็นเปียเดี่ยวพาดบ่าในชุดคาฟทานสีเขียวอ่อนดวงตาสีฟ้าหวานราวกับน้ำผึ้งนั้นมองมาที่เธออย่างเป็นมิตรโดยรวมแล้วเธอเป็นคนที่สวยน่ารักและสดใสมากเลยทีเดียว
"อ๊ะ! เอ่อ...คือคิดถึงญาติน่ะค่ะว่าเขาจะมาช่วยฉันรึเปล่า"
เด็กสาวขำเบาๆ"คุณพูดอย่างกับว่าคุณถูกลักพาตัวมาเลยนะค่ะ"
ช่างภาพสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่"ก็ ฉันไม่ได้ติดต่อครอบครัวเลยแม้แต่วีอารองก็โดนหักโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว"
เด็กสาวรีบแก้ต่าง"ปกติท่านพี่อามุลไม่ได้ใจร้ายกับใครขนาดนั้นเลยอีกอย่างท่านพี่หลงรักคุณมากนะค่ะ"
หญิงสาวงุนงง"ท่านพี่รึค่ะงั้นก็แปลว่าคุณเป็นเจ้าหญิง"
เด็กสาวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง"เรียกว่ามิเรน่าจะดีกว่าค่ะ"
ฟานเชสก้าถามอย่างเกรงใจ"จะดีเหรอค่ะ คุณเป็นถึงเจ้าหญิง ฉันเป็นเพียงคนธรรมดา"
"เราก็ไม่ได้ต่างกันเลยเราก็เป็นมนุษย์เหมือนกันและอีกหน่อยคุณก็จะมาเป็นพี่สะใภ้ของฉันแล้ว"คำพูดของเจ้าหญิงน้อยทำเอาหญิงสาวต้องรีบแก้ตัวทันที"ไม่ใช่นะค่ะ เจ้าหญิงฉันไม่ขอแต่งงานกับพี่ีชายคุณเด็ดขาด คนเถื่อนแบบนั้นไม่ใช่สเป็คของฉันเลยถึงหน้าตาจะผ่านก็เถอะค่ะ"
เจ้าหญิงน้อยจึงตัดบท"เอาเถอะค่ะ เราไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เราไปนั่งจิบชาคุยกันตามประสาผู้หญิงๆดีกว่าค่ะ เชิญ"พร้อมผายมือเชิญหญิงสาวไปยังศาลาสีขาวหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลมีโต๊ะและม้านั่งทำมาจากหินอ่อนที่นั้นมาชุดน้ำชาพร้อมขนม
ฟานเชสก้าขอบคุณ"ขอบคุณ"พร้อมเดินตามเจ้าหญิงมิเรน่าไป
เมื่อสองสาวนั่งลงบนม้านั่งแล้วนางกำนัลก็รินชาให้ฟานเชสก้าก่อนรินให้เจ้าหญิงมิเรน่าทีหลัง เจ้าหญิงน้อยเชื้อเชิญ"ลองชิมดูค่ะ วัฒนธรรมของที่นี่ถือว่าต้องรินชาให้แขกก่อนค่ะ เชิญ"
ฟานเชสก้ายกชาขึ้นจิบตามมารยาทปรากฏว่าชานั้นมีรสหวานจัด
เจ้าหญิงน้อยถามขึ้น"รสชาเป็นยังไงบ้างค่ะถูกปากไหม"
หญิงสาวฝืนยิ้ม"ค่ะรสดีมากค่ะ ขอบคุณ"แล้ววางถ้วยชาลง
เจ้าหญิงน้อยตั้งคำถามขึ้น"ได้ยินว่าคุณวีอารองเป็นน้องชายทูนหัวของคุณรึค่ะคุณฟานเชสก้า"
หญิงสาวพยักหน้ารับ"ใช่ค่ะ พอดีแม่ของฉันเป็นแม่บุญธรรมของเขา พูดถึงครอบครัวของอารองแล้วก็น่าสงสารนะค่ะ"
เจ้าหญิงยกชาขึ้นจิบก่อนจะถาม"หือ ครอบครัวคุณวีอารองน่ะเหรอค่ะ"
หญิงสาวพยักหน้า"ค่ะ อารองเค้าเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านแต่พ่อของเขาเสียตั้งแต่เขาอายุแค่สามขวบเอง"
เจ้าหญิงน้อยถามด้วยความสงสัย"แล้วสรุปคุณและคุณวีอารองอายุเท่าไหร่กันแน่ค่ะ"
ฟานเชสก้าหัวเราะเบาๆ"ฉันเพิ่งยี่สิบสามเองค่ะอารองน่ะแค่สิบแปดเองแต่เขาน่ะอัจฉริยะมากๆเลยค่ะเรียนข้ามชั้นจบตั้งแต่อายุสิบห้า"
เจ้าหญิงน้อยพยักหน้ารับรู้วีอารองนั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลาสุภาพและอ่อนเยาว์เดาอายุได้ยากมากเพราะบุคลิกที่เป็นผู้ใหญ่กว่าอายุจริงมากถึงแม้จะอายุไม่ห่างจากเธอไม่กี่ปีนั่นทำให้เธอตกลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบแต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอข้องใจอยู่มากก็คือยามว่างของครูหนุ่มลูกครึ่งมักจะโทรศัพท์หาครอบครัวหากแต่บุคคลที่เขาคิดถึงมากต้องคุยด้วยทุกวันก็คือลูกสาวที่ชื่อครัวซองอะไรนั่นทำให้เธอข้องใจว่าเขาแต่งงานมีครอบครัวแล้วรึยัง เจ้าหญิงน้อยจึงตัดสินใจถาม"เอ่อ คุณฟานเชสก้าค่ะ คือ ฉันมีเรื่องอยากจะถามหน่อยค่ะ"
หญิงสาวไม่ได้คิดอะไร"ได้สิค่ะถามมาเลย ถ้าฉันตอบได้ก็จะตอบค่ะ"
เจ้าญิงน้อยตัดสินใจถาม"เอ่อ คุณวีอารองแต่งงานรึยังค่ะ"
ฟานเชสก้าหัวเราะลั่น"ฮ่าๆอย่างอารองจะแต่งงาน ถ้าแต่งก็แต่งกับงานจริงๆน่ะค่ะวันๆก็อยู่แต่ในห้องทำงาน"
เจ้าหญิงมิเรน่าถามเสียงสั่น"อะ..เอ่อคือลูกสาวของเขาที่ชื่อครัวซองล่ะค่ะ"
ฟานเชสก้าร่ายยาว"นั่นน่ะคือสุนัขพันธุ์ปาปิยองค่ะ อารองน่ะรักมากเหมือนลูกสาวของตัวเองเลยเขาเลี้ยงมันมาตั้งแต่มันเกิด ครัวซองเองก็รักอารองมากถ้าอารองไปไหนนานๆเขาก็ต้องติดต่อมาหาทุกวันไม่งั้นมันอาจจะตรอมใจเลยล่ะค่ะ แต่ขอให้ได้ยินเสียงของอารองเจ้าครัวซองก็ดีใจมากแล้วล่ะค่ะ"
ในใจของเจ้าหญิงมิเรน่ารู้สึกโล่งอกปนดีใจ"เขารักสัตว์น่าดูนะค่ะ"
หญิงสาวพยักหน้า"ค่ะ นิสัยประจำของเขาเลยค่ะ"
สองสาวต่างศักดิ์นั้นคุยกันอย่างสนุกปาก
ทางด้านวีอารอง
ตอนนี้เด็กหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษฝรั่งเศสอยู่ในหอสมุดกำลังนั่งอ่านหนังสือเพราะตอนนี้เขาว่างมากตาสีเขียวภายใต้กรอบแว่นสีดำนั้นกำลังอ่านหนังสือเล่มเล็กในมือ ตอนนี้ตัวเขานึกถึงตอนที่ฟานเชสก้ามาขอยืมโทรศัพท์มือถือของเค้า ตอนนั้นเขาจำต้องโกหกเพื่อรักษาโทรศัพท์ของตนเองเพราะก่อนหน้านั้นเขาโดนเจ้าชายอามุลมาขู่ก่อน ในใจเขาคิด...เบ็คมันจะยอมมาเหรอ...ถ้ามางานนี้ฟานหูชาแน่...เพราะเขารู้นิสัยของเพื่อนคนนี้ดีแล้วบ่น"งานนี้คงวุ่นน่าดูเลย ถ้าเบ็คมันยอมมา"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ