คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย

5.3

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.

  32 ตอน
  7 วิจารณ์
  34.30K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) บทที่29 คำเตือน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
งานเลี้ยงสังสรรค์ในช่วงค่ำได้เริ่มขึ้น
แขกทั้งหลายที่มาร่วมงานฉลอง มาด้วยชุดสูทและชุดราตรีอันแสนหรูหรา แต่ที่จะโดดเด่นที่สุดของงานก็คงไม่พ้น คู่หมั้น หนุ่มสาว ที่เพิ่งมั่นกันไปเมื่อเช้า เจ้าชายอามุล ที่อยู่ในชุดสูทสีขาว ที่สั่งตัดโดยช่างที่ดีที่สุดจากฝรั่งเศส ผมสีดำก็เซ็ตทรงเป็นอย่างดี ถูกเนั้นเช่นเดียวกับ ฟานเชสก้า ที่ในตอนนี้อยู่ในชุด ราตรีที่ทำมาจากผ้าไหม สีขาวงาช้างเปิดไหล่แขนยาว ตรงอกเสื้อประดับด้วยมุกสีชมพู ตรงข้อมือและชายกระโปรงยาว ประดับด้วยระบายลูกไม้เล็กๆ ช่วยให้ดูอ่อนหวาน และที่เด่นที่สุดคือ สร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือ แหวน ทุกชิ้นล้วนทำมาจากทองคำขาวฝังมรกต ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวได้ถูกเกล้าเป็นมวยเล็กๆครึ่งหนึ่งด้วยปิ่นทองคำฝังมุกแท้รูปตัวยู ผมที่เหลือถูกดัดลอนตรงปลาย ใบหน้างามถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างปราณีตโดยช่างเสริมสวยที่เก่งที่สุดจากฝรั่งเศส รองเท้าที่สวมเป็นรองเท้าส้นสูงสีขาว ที่เข้ากับชุด ทำให้ในตอนนี้ฟานเชสก้าไม่ต่างจากเจ้าหญิงเลยสักนิด เธอดูงดงามจนคู่หมั้นอย่างเจ้าชายอามุลไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้
สำหรับชีคจาดีน ในตอนนี้อยู่ในชุดสูทสีดำอย่างดี เขารู้สึกผิดหวังมากที่ แม่หงส์น้อยรีเบ็คก้า แต่งชุดสูทกางเกงสีน้ำตาล ที่สั่งตัดโดยช่างที่ดีที่สุดในอังกฤษ ผมสีน้ำตาลเข้มรวบต่ำผูกด้วยริบบิ้นสีดำ สวมรองเท้าหนังขัดเงา ใบหน้าไม่ได้ตกแต่งอะไรมาก แค่ลิปมันก็เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะดูดี ดูเท่ ดูสง่างามก็เถอะ แต่ เจ้าหล่อนในตอนนี้จะคล้ายเป็นผู้ชายเข้าไปทุกที ยิ่งอยู่รวมกับฝาแฝดดาเดนดี้ ที่เลโอสวมสูทสีน้ำเงินเข้ม กับเลออนที่สวมสูทสีเทา ส่วนวีอารองก็สวมสูทสีดำ ทั้งสี่ แต่งสูทอย่างเนี้ยบ จนสาวๆในงานอดที่จะมองไม่ได้ หากไม่ดูให้ดีๆก็จะคิดว่ารีเบ็คก้า เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง นอกจากการแต่งตัวแล้ว ใบหน้าสวยคมดูไร้อารมณ์และเป็นผู้ใหญ่ ตัวที่สูง ก็ทำให้สาวๆหลายคนหรือแม้แต่ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะหลงเสน่ห์ หากแต่งชุดกระโปรงจะสวยซักแค่ไหน ยิ่งคิดยิ่งเสียดาย
ในวันนี้เป็นวันแห่งความสุขของน้องชายที่ได้หมั้นหมายกับหญิงสาวที่ตนรัก จนเขานึกอิจฉา ในตอนนี้เขายังจีบว่าที่ราชินีได้เลย "อยากให้ท่านพ่อได้เห็นจริงๆ" รอยยิ้มของน้องชายที่กลับมาสดใสอีกครั้ง ตั้งแต่ท่านพ่อเสียไป อามุลน้องชายของเขก็สูญเสียรอยยิ้มไปด้วย ในวัยเด็กอามุลติดพ่อมากกว่าแม่เสียอีก รีเบ็คก้าเองก็ไม่ต่างจากอามุลเท่าไหร่นัก แต่เด็กสาวนั้นสูญเสียพ่อไปในเวลาไม่คาดคิด ตัวเขาเองก็จำได้ว่าเมื่อสามปีก่อนก็เคยพบกับพ่อของรีเบ็คก้า แต่ไม่เคยสนทนากัน รู้แต่ว่า เขาคนนั้นเป็นรุ่นพี่ของแม่ที่อยู่มหาลัยเดียวกัน เท่าที่จำได้คนๆนั้นดูแข็งแรง รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ สามารถล้มคนหนุ่มได้สบายๆ แผลใจนั้นยากจะเเยียวยาแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อาจเยียวยาได้ หากแต่ต้องใช้เวลาก็เท่านั้น 
ทางด้านรีเบ็คก้าที่ตอนนี้ดินมาคุยกับฟานเชสก้าโดยมี พ่อคู่หมั้นสุดหล่อยืนอยู่ข้างๆ"ดีใจด้วยนะฟาน คงจะเหนื่อยน่าดู"
ช่างภาพสาวยิ้มแห้งๆ"ชั้นน่ะไม่ค่อยเหนื่อยหรอก แต่อามุล กับทุกคนที่จัดงานนี้ต่างหากล่ะ"
เลโอเอ่ยขึ้น"จัดงานแค่นี้ ยังไม่เหนื่อยเท่ากับตอนที่ไปตามแก้ปัญหาให้ฟานหรอกนะ"
วีอารองยิ้มสนับสนุน"จริงด้วยๆ"
เลออน"แล้วนายเตรียมรับมือไว้รึยังล่ะ"
ฟานเชสก้าเอ่ยเสียงหลง"พี่เลออน"
รีเบ็คก้าสนับสนุน"รึไม่จริงล่ะฟาน"
"ผมเตรียมใจแล้วแล้วครับ"
"อามุลล่ะก็"ว่าจบสาวเจ้าก็งอลทันที
เจ้าชายแห่งคาลอสโอบเอวหญิงสาวข้างกายที่กำลังงอล"อย่างอลสิครับคนดี เดี๋ยวไม่สวยนะ"
ฟานเชสก้าในตอนนี้มีแต่ความเขินอาย
วีอารองยิ้มให้ วันนี้หญิงสาวที่เป็นเสมือนพี่สาวอีกคนได้หมั้นหมายกับคนที่ดี เขาไม่รู้ว่าจะอวยพรอะไร ในตอนนี้ ฟานเชสก้าได้มาเป็นเจ้าหญิง ที่หลายๆคนใฝ่ฝันมานาน
"อารอง แล้ว พวกพี่ๆรู้รึยังล่ะ"เสียงของฟานเชสก้าทำให้หนุ่มลูกครึ่งได้สติ
"นั่นสิ อารอง"รีเบ็คก้าเอ่ยขึ้น
"รู้แล้ว เห็นพวกพี่ๆบอกว่าจะมาตอนแต่งงานเลย แล้วก็พวกเขาส่งของขวัญมาให้ด้วย พรุ่งนี้น่าจะถึงแล้ว ชั้นว่าถ้าพี่ลินดากลับมา ชั้นจะรีบกลับไปทำงานต่อ"
รีเบ็คก้าเอ่ยขึ้น"คงอีกนานนะ"
วีอารองถอนใจอย่างปลงกับนิสัยของพี่สาวและสถานการณ์ในตอนนี้ ขนาดพ่อแม่ของฟานเชสก้าที่ขอกลับประเทศก่อนเพราะห่วงธุรกิจไม่มีใครดูแล เนื่องจากเลโอกับเลออนขออยู่เที่ยวก่อน แต่จริงๆทั้งสองต้องการมาดูแลน้องๆที่ต้องอยู่ที่ประเทศนี้ เจ้าชายอามุลไม่อยากขัดใจพ่อตากับแม่ยายจึงส่งคนตามไปคุ้มกัน พ่อตากับแม่ยายของตนที่อังกฤษ
ในส่วนของรีเบ็คก้านั้น ชีคจาดีนไม่อาจปล่อยให้รีเบ็คก้ากลับอังกฤษได้เพราะเธอเคยเกือบโดนฆ่ามาแล้ว(ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นอะไรก็ตาม)แต่รีเบ็คก้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เธอก็ยินดีที่จะกลับบ้านหลังจากสถานการณ์สงบลง
 
“หยุดเดี๋ยวนี้!!”เสียงตะโกนขององครักษ์นายหนึ่งดังขึ้น ทำให้ทุกคนในงานหันไปสนใจ เหล่าองครักษ์ถือกระบี่ชี้หน้าชายหนุ่ม อายุยี่สิบกว่าคนหนึ่ง สวมชุดโต๊ปสีดำขลิบทอง เขาเป็นเป็นคนรูปร่างสูงโปร่งผิวคล้ำ ผมยาวปะบ่าสีดำสนิท ถูกรวบต่ำ
ชีคจาดีนตรงเข้าไป เหล่าองครักษ์ลดดาบลง ใบหน้าหล่อของชีคหนุ่มเคร่งเครียด “มีธุระอะไรรึ เจ้าชาย เจอโรม แห่งเผ่าราบิน”
เผ่าอาราบิน ในอดีตถือเป็นกองโจร คอยปล้นเหล่าคาราวานพ่อค้าตามชายแดน ประเทศแห่งทะเลทราย จึงไม่ค่อยมีคนเผ่าไหนอยากคบค้าสมาคมซักเท่าไหร่
เจอโรมยิ้มเยาะ “แค่มาอวยพร เพื่อนก็เท่านั้น”
ชีคแห่งคาลอสเอ่ยเสียงเคร่ง “กลับไปซะ”
อีกฝ่ายยังคงยิ้ม “กลับแน่ แต่ขอมาคุยกับเพื่อนก่อน”
“ใครกันเพื่อนของคุณ…”
“เจอโรม!!”เสียงของสามพี่น้องดาเดนดี้ วีอารอง รีเบ็คก้า ดังขึ้น ทั้งห้ารีบตรงดิ่งมาทันทีโดยฟานเชสก้ามีเจ้าชายอามุลตามมาติดๆ
“ไงพวก หวัดดีฟาน ยินดีด้วยนะ”เจอโรมทักทายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะส่งของขวัญกล่องเล็กๆให้
รีเบ็คก้าเป็นฝ่ายรับให้เสียเอง ก่อนจะส่งให้ฟานเชสก้า ที่โดนเจ้าชายอามุลรั้งตัวไว้
เจอโรมมองมาที่รีเบ็คก้าอย่างงุนงง“สุภาพสตรีคนนี้คือ”
“ไม่เจอกันนาน จำกันไม่ได้เลยรึไง เจอโรม”
เจอโรมทำตาโต“เบ็ค!!”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
ชีคจจาดีนเอ่ยแทรก “พวกคุณรู้จักกันเหรอ”
วีอารองยิ้ม “ใช่ครับ บังเอิญว่าพวกเรา เคยรู้จักกันมานานแล้วครับ”
เลออนเอ่ยแขวะ “เจอกันทีไร นายชอบทำตัวน่าหมั่นไส้ทุกทีเลยสินะ”
เจอโรมยักไหล่ “ของมันแน่อยู่แล้ว ผมน่ะเจ้าพ่อความเกรียนเลยนี่นา”
เลโอยิ้ม “ขอบใจที่อุส่าห์มานะ ไอ้น้อง”
ฟานเชสก้ายิ้ม “ขอบคุณมาก”
“แน่นอน พวกเราเป็นเพื่อนกัน เห็นฟานปลอดภัยก็ดีใจแล้ว ก็ฟานน่ะ บอบบางอ่อนแอจะตาย ไม่เหมือนกับ เบ็คและอารองน่ะ สองคนนั้นหัวแข็งตายยาก”
วีอารองเค้นเสียง “นินทาระยะเผาขนเลยนะ”
“แหมๆ ใครบางคน ขนาดโดนปืนลูกซองยิงเข้าระยะประชิด ยังไม่เป็นอะไร ไม่เรียกว่า หัวแข็ง แล้วจะให้เรียกว่าอะไร”
รีเบ็คก้าเอ่ยขึ้น “ข่าวไวจังนะ”
“แน่นอน ชั้นเองก็ต้องมีหูมีตาไว้บ้าง ไม่งั้นแย่” เจอโรมยิ้มแย้มแล้วหันมาทางชีคจาดีน “อย่ามาระแวงผมเลย ผมว่าควรระแวงคนที่อยู่ภายในน่าจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้น คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อาจรับเคราะห์ได้ศัตรูน่ะ ไม่ได้อยู่ตรงหน้าเสมอไปหรอกนะ”
คำเตือนของเจ้าชายแห่งอาราบิน นั้นส่งตรงมายังชีคจาดีนและเจ้าชายอามุล สงสัยเจ้าชายแห่งเผ่าอาราบินคนนี้ คงจะสืบรู้ว่า เพื่อนของเขาโดนลอบยิงเลยมาหาถึงที่ ล่ะสิ
“หมดธุระ แล้ว ผมขอตัวก่อน” แต่เจ้าชายเจอโรมเดินไปไม่กี่ก้าวก็นึกบางอย่างออก “เบ็ค ระวังตัวด้วย อย่าประมาทล่ะ ชั้นไม่ห่วงใครเลย นอกจากแก เพราะตอนนี้แกโดนดึงเข้ามาพัวพันกับเรื่องยุ่งๆเข้าแล้ว”
รีเบ็คก้ายักไหล่ เอ่ยตอบด้วยท่าทางที่สบายๆ “แน่นอน ท่าทางชีวิตชั้นจะหาความสงบสุขได้ยาก ขอบใจ”
“โชคดีเพื่อน และก็ ขอโทษด้วยนะ ที่ทำให้งานกร่อย ไปล่ะ”
ชีคจาดีนหันไปเอ่ยกับคนในงานด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “มาฉลองกันต่อเถอะครับ ทุกคน”
และแล้วงานฉลองก็ดำเนินต่อไป
เจ้าชายอามุล ดึงตัวฟานเชสก้าไปอีกทาง จนถึงที่ลับตา “คนรู้จักคุณเยอะดีนะครับ”
“คุณหึงชั้นอีกแล้วเหรอ”
“ส่วนหนึ่งครับ แต่อีกส่วน ผมอยากรู้ว่า พวกคุณไปรู้จักกันตอนไหน”
“อ๋อ ตอนไปที่อิยิปต์คะ ตอนนี้เกิดเหตุที่ทำให้พวกเราเข้าไปช่วยเหลือกัน”
“เหตุอะไรเหรอครับ ผมไม่เข้าใจ”
ช่างภาพสาวหลับตาพลางนึก“คือ…เจอโรม เคยถูกปรำปรัมว่า ขโมยรูปปั้นทองคำของราชวงค์บาลีอาน คะ ในตอนนั้น พวกเราที่เพิ่งรู้จักเจอโรมในอิยิปต์  ก็ไปกินเลี้ยงกันตามประสาเพื่อน พวกเราเห็นว่าเจอโรมไม่น่าจะขโมยได้ ตอนนั้น พี่ฟาฮิม จะจับเจอโรมเอาเรื่องให้ได้ แต่พวกเราได้ขอไว้ และเบ็คกี้กับอารอง เลยอาสาจะตามหารูปปั้นทองคำของราชวงศ์ให้เพื่อลบล้างมลทินให้กับเจอโรม ในตอนนั้นชั้นพี่เลโอเลออน ก็อยู่ด้วย เลยได้ร่วมด้วยช่วยกันค้นหาจนเจอและช่วยกันนำกลับมาได้ ปรากฏว่ามีโจรอีกกลุ่ม ขโมยไป”
“ทำไมพวกคุณถึงต้องช่วยล่ะครับ”
“เพราะพวกเราติดหนี้เจอโรม น่ะค่ะ ตอนไปที่อิยิปต์ เขาช่วยนำกระเป๋าของพวกเราโดนขโมยไป ไอ้เงินน่ะ ไม่เท่าไหร่ แต่ในกระเป๋านั้นมีทั้ง วีซ่า พาสปอร์ต แถมกล้องตัวเก่งของชั้นอีก น่ะค่ะ และอีกอย่างพี่ฟาฮิมขอร้องมาด้วย”
“งั้นเหรอครับ ดูท่าทาง พวกคุณจะเก่งเรื่อง สืบหาของนะครับ”
“นั่นน่ะงานอดิเรกคะ อามุล”
เจ้าชายอามุลยิ้ม ก่อนจะโอบเอวหญิงสาว “ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้จักคุณเลยนะครับ”
“ค่อยๆเรียนรู้ไปสิคะ”
เจ้าชายอามุลเอาหน้าซบลงบ่าไหล่บางของหญิงสาว จากนั้นทั้งคู่ก็จูงมือกันไปร่วมงาน
ทางด้านรีเบ็คก้า
ในตอนนี้ยืนอยู่กับชีคจาดีนสองต่อสอง “ทำไมคุณถึงรู้จักคนเยอะแยะจังครับ”
รีเบ็คก้ายิ้มอย่างไม่ทุกข์ร้อน“ในตอนเด็ก ชั้นมักจะตามคุณพ่อไปดูงานหลายๆที่ บางครั้งก็ไปเองบ้างน่ะค่ะ ทำให้รู้จักคนมากมาย ทำไมค่ะ? นึกระแวงชั้นเหรอค่ะ”
ชีคหนุ่มยิ้ม “ผมอยากจะระแวงคุณนะครับ แต่ระแวงไม่ลง”
“งั้นกัก ตัวชั้นไว้ทำไมล่ะค่ะ”
“ผมเป็นห่วงคุณนี่ครับ”
รีเบ็คก้ายิ้ม “ผมตรงๆนะค่ะ ท่านจา..”
ชีคหนุ่มอานิ้มมาแตะที่ริมฝีปากของร่างบางก่อนจะชักออก “เรียกผมว่าจาดีน ก็พอ”
“ก็ได้คะ จาดีน ชั้นว่าพวกนั้นต้องการเล่นงานท่านมากกว่า ส่วนที่เล่นงานชั้นคงจะแค่สร้างความสับสน”
“ถึงเป็นอย่างนั้น…”ชีคหนุ่มเดินตรงใกล้หงส์น้อย ก่อนจะปลดริบบิ้นสีดำที่ผูกผมไว้ จนผมสีน้ำตาลเข้มปล่อยสยาย “ผมก็ยังห่วงคุณอยู่ดี ขอริบบิ้นนี่นะครับ เดี๋ยวผมเอามาคืน”
ใบหน้าสวยคมที่นิ่งเฉยเริ่มขึ้นสี “ตามสบายคะ”
“ขอบคุณครับ กลิ่นผมของคุณหอมมากครับ”ว่าจบก็ตรงกลับเข้าไปร่วมงานฉลอง ทิ้งให้รีเบ็คก้าอยู่ตามลำพัง
คำพูดนั้นทำให้รีเบ็คก้าอดหวั่นไหวไม่ได้ ชีคจาดีน ถือว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์สุดๆบางครั้งก็ใจดี อ่อนโยน บ้างทีก็ดูเป็นเพลย์บอย เจ้าเล่ห์ราวกับหมาป่า  เด็กสาวสะบัดหัวไล่ความคิด“นี่เราคิดอะไรนะ สงสัยตรงหาอะไรดื่มหน่อยล่ะ”
แต่ยังไม่ทันที่รีเบ็คก้าจะเดินไปในงาน ก็มีใครบางคนกระตุกชายเสื้อเอาไว้ พอหันไป ก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆในชุดประจำชาติสีขาว
เด็กหญิงตัวเล็กสูงแค่เอวยิ้มให้ เด็กน้อยเอ่ยเป็นภาษาคาลอส “ พี่สาวๆ พี่มาที่นี่ทำไมเหรอ”
รีเบ็คก้ายิ้มให้ก่อนจะคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วตอบเป็นภาษาคาลอสเพราะคิดว่าเด็กคนนี้คงจะตอบเธอเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ถึงแม้ว่าประเทศนี้จะใช้ภาษาอิยิปต์และอังกฤษเป็นหลักก็เถอะ “พี่มาเที่ยวจ้ะ”
“ไม่จริงหรอก พี่มาค้นหาบางอย่างที่นี่”
เด็กสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย “หนูรู้ได้ยังไง”เธอมั่นใจว่าเธอไม่ได้บอกใครในเรื่องนี้
“รู้สิ แต่หนูอยากจะบอกกับพี่ว่า หยุดเถอะนะ กลับบ้านไปเถอะ พี่จะต้องเสี่ยงทุกอย่างเพื่อที่จะได้คนๆนั้นกลับคืนมา”
“หนูหมายความว่ายัง? ใครกันที่หนูพูดถึง”
“ก็พ่อของพี่ไง”
จบคำของเด็กหญิง ทำเอารีเบ็คก้าช็อคไปชั่วขณะ พอรู้สึกตัวเด็กหญิงในชุดขาวก็หายไปซะแล้ว มีแต่ความว่างเปล่า สิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงกลิ่นหอมที่คุ้นเคย มันเป็นกลิ่นเดียวกับกลิ่นหอมของกระดาษที่พ่อของเธอใช้เขียนจดหมายเพื่อส่งมาหาเธอโดยเฉพาะ
รีเบ็คก้ากลับมาที่งาน ด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยราวกับรูปปั้น หากแต่แววตาฉายความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“งานไม่สนุกรึไง สวอน”
วีอารองเข้ามาทักในมือถือเครื่องดื่มน้ำผลไม้มาสองแก้ว แล้วส่งแก้วหนึ่งให้เพื่อนซี้
“ขอบใจ”รีเบ็คก้ายกแก้วน้ำผลไม้มาจิบเพียงเล็กน้อย “งานก็…สนุกดี”
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
“นิดหน่อย”
“งั้นเหรอ”
“อาจจะเป็นอย่างที่เจอโรมบอก บางทีชั้นอาจจะโดนดึงเข้ามาพัวพันกับเรื่องวุ่นๆก็ได้”
“แกก็น่าจะชินแล้วนี่นา”
“แต่ครั้งนี้ชั้นว่า…มันคงจะไม่สนุกเมื่อตอนที่เราเป็นเด็กๆหรอกนะ ชั้นขอไปพักดีกว่า ฝากบอกฟานด้วย ใส่เสื้อเกราะกันกระสุนมาในสูทแบบนี้ โคตรอึดอัดเลย”
“จริงๆเลย ก็ได้ ระวังตัวด้วย”หนุ่มลูกครึ่งไม่อยากฝืนเพื่อนให้อยู่งานต่อ เพราะรู้ดีว่า การใส่เสื้อเกราะกันกระสุนภายในชุดสูทน่ะมันสุดจะอึดอัดเลย ใช่ในตอนนี้ตัวเขาเองและฝาแฝดเลโอเลออน ต่างสวมเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ภายในสูทกันหมด ยกเว้นฟานเชสก้า ที่เจ้าชายอามุลจะเป็นฝ่ายดูแลอย่างใกล้ชิดเอง ก็นะ ชีวิตน่ะ หากเสียไปแล้ว ไม่สามารถเอากลับมาได้
วีอารองนั้นยืนจิบน้ำผลไม้ เดินเล่นในงานก็ไปสะดุดตาเข้ากลับร่างบอบบางน่าทะนุทะนอม ของเจ้าหญิงมิเรน่า ที่วันนี้ ใส่ชุดราตรีสีชมพูอ่อน ที่เข้ากับรูปร่างบางระหงของเจ้าหล่อน ที่ดูเรียบง่าย แต่ดูเก๋ ที่เอวคอดนั้นคาดเข็มขัดสีขาว ลำคอระหงนั้น สวมสร้อยมุกเม็ดงาม รวมรองเท้าส้นสูงสีขาวที่เข้าชุดกัน ผมสีดำยาวเงางามก็ปล่อยสยาย และดัดลอนทำให้ใบหน้านั้นหวานเย้ายวนใจยิ่งขึ้น ใบหน้านั้นแต่งหน้าบางๆ แต่ก็ทำให้ดูน่ารัก ทำให้ในวันนี้ เจ้าหญิงแห่งคาลอสดูงดงามน่ารักจนผิดหูผิดตา
วีอารอง เผลอมองดูอยู่นาน 
"คุณวีอารองค่ะ"เสียงหวานร้องเรียกทำให้ หนุ่มลูกครึ่งได้สติ
"อ่ะ ครับ"
"ทำไมคุณถึงไม่ดื่มแอลกอฮลล์เลยล่ะค่ะ"
"พอดี ผมไม่ค่อยชอบ ดื่มน่ะครับ แต่ผมชอบไวท์ที่บ้านของป้าทำขึ้นมากกว่า"
"งั้นเหรอค่ะ"มิเรน่ายิ้ม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้คุยกับคุณครูจำเป็น นอกเหนือจากการสอน พออยู่ใกล้ๆแล้วสุขุม อ่อนโยนและเป็นผู้ใหญ่"แล้วบ้านคุณป้าของคุณวีอารอง ทำไวท์ด้วยเหรอค่ะ"
"ครับ บ้านของป้าเรเชล ทำไร่องุ่นและบ่มไวท์ ช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อน ผม พี่ๆและเพื่อน จะเเวะไปที่บ้านของท่าน พวกเราจะช่วยกันเก็บองุ่น และได้ดื่มไวท์ ที่หมักบ่มจากองุ่นและผลไม้ รสดีมากๆเลย"
"ที่นั่นคงจะสวยน่าดู ชั้นอยากเห็นจังเลย"
"ไว้มีโอกาส ก็ขอเชิญนะครับ ไร่องุ่นของของป้าเรเชล สวยมากๆ ยิ่งตอนอาทิตย์ตกดินด้วยแล้ว ยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ ยัยฟานน่ะ ถ่ายรูปได้รางวัลแรก ก็รูปที่ไร่ของป้าเรเชลแหละครับ"
ภาพของวีอารองและเจ้าหญิงมิเรน่า ที่กำลังพูดคุยกันอย่างออกรส นั้นอยู่ในสายตาของชีคจาดีนตลอด วีอารองคนนี้ก็ดีกรีดี เป็นถึงอัจฉริยะ ที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาล แพทย์หนุ่มมือฉมัง หาตัวจับยาก หน้าตาก็ดี ดูแล้ว ก็เหมาะกับมิเรน่าดี ถ้าหากน้องสาวของเขาจะรักชอบกับ หนุ่มลูกครึ่งล่ะก็ เขาก็จะไม่ขัดขวางแน่...
 
 
 
มาแล้วจ้า อ่านให้สนุกนะค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา