คว้าหัวใจยัยหงส์น้อย
5.3
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.56 น.
32 ตอน
7 วิจารณ์
34.26K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559 23.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) บทที่ 28 ข้อความปริศนา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากงานหมั้นและให้สัมภาษ์เสร็จ ก็จะเริ่มงานสังสรรค์ในช่วงค่ำ ตามประเพณี
ฟานเชสก้าก็กลับมาพักที่ห้องอย่างอ่อนล้า เพราะอีกตั้งสี่ชั่วโมง กว่างานสังสรรค์ในยามค่ำจะเริ่มขึ้น
เสียงประตูเปิดได้ดังขึ้นทำให้หญิงสาวกระเด้งตัวขึ้น คนที่เข้ามาในห้องคือองค์ราณี กาลิด้า พร้อมข้าหลวง
ช่างภาพสาวรีบถอนสายบัวทันที
"ไม่ต้องพิธีรีตรองอะไรหรอกจ้ะ ฟาน"
"ขอบคุณค่ะ"
สองสาวต่างวัยจึงนั่งลงบนเตียง
องค์ราณีเอ่ยอย่างเป็นกันเอง"เดี๋ยวหนูก็จะมาเป็นลูกสาวของเเม่แล้วนะจ๊ะ"
ฟานเชสก้าเอ่ยอย่างเศร้าๆ"บางที อามุลเค้าอาจจะเบื่อหนูก็ได้"
"หือ?"
"คะ...คือเราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเองนี่ค่ะ"
ราณีกาลิด้ายิ้มให้สายตาที่มองฟานเชสก้ามีเป็นความเอ็นดู"ชั้นเข้าใจนะจ๊ะ แต่ หนูรู้ไหมว่าความรักน่ะไม่ต้องการเวลาหรอกนะ เพราะฉะนั้น ทำใจให้สบาย"
"ค่ะ"
องค์ราณีแปรเปลี่ยนสีหน้า"ฟานจ๊ะ ชั้นมีเรื่องอยากจะถาม"
"ค่ะ?"
"คือ คุณโรเจอร์ เสียชีวิตเมื่อสามปีก่อนจริงๆรึ"
สีหน้าของช่างภาพสาวสลดลง"สามปีก่อนคุณลุงบอกกับพวกเราว่าจะไปเที่ยวที่ตะวันออกกลางคงจะมางานรับปริญญาของเบ็คกี้กับอารองไม่ทัน การเดินทางของคุณลุงแต่ละครั้ง เบ็คกี้กับอารองจะได้ไปด้วยแทบทุกครั้ง พอวันรับปริญญา ของเบ็คกี้และอารอง...ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาบอกคะ ว่า…คุณลุงเสียชีวิตด้วยหัวใจวายเฉียบพลันที่สนามบิน”
เมื่อฟังแล้วองค์ราณีกาลิด้ารู้สึกใจหาย”อะไรกัน ตอนที่เค้าจะกลับอังกฤษ ชั้นเห็นว่าเค้ายังแข็งแรงดีอยู่เลยนะ”
“คะ ทุกคนแทบไม่เชื่อ จึงพิสูจน์ศพตั้งหลายครั้งผลออกมาก็เหมือนเดิม เบ็คกี้ช็อคและเสียใจเอามากๆ จากนั้นเค้าก็เก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยออกไปไหน เค้าทุ่มเวลากับการเรียนบริหารธุรกิจเพิ่ม ทำงานจนกระทั่งไม่มีเวลามาหาสู่พวกเราสักเท่าไหร่”
องค์ราณีพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม รีเบ็คก้า ถึงเฉยชานัก ผิดกับตอนที่ โรเจอร์บอกเสมอ ว่าบุตรสาวของตนนั้นร่าเริง ห้าวหาญและเก่งกาจแต่เท่าที่เห็นนั้น เด็กสาวนั้นเก่งกาจ ดูเคร่งครึม สุขุมและเฉยชามาก ผิดกับที่รุ่นพี่เคยบอกลิบลับ แต่ฟานเชสก้า ผู้เป็นหลานสาวกลับดูสดใส น่ารัก ที่สามารถละลายความเย็นชาของอามุล ลูกชายคนรองของตนได้
“หนูทำใจให้สบายและพักผ่อนซะนะ ไม่ต้องเกร็งนะ”
“คะ”
“ว่าแต่หนูรู้จักชีคฟาฮิมได้ยังไงจ๊ะ”
“อ๋อ ชีคฟาฮิม สมัยเป็นเจ้าชายรัชทายาท ท่านเรียนที่มหาลัยฮาร์วาร์ดที่เบ็คกี้กับอารองเรียนอยู่ เค้าชอบมาขายขนมจีบใส่หนูไม่ก็เบ็คกี้ประจำ แต่พวกเราก็ไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าเพื่อนหรือพี่ชาย เลยนะค่ะ”
“งั้นเหรอจ๊ะ งั้นแม่ขอตัวก่อน หนูฟานพักผ่อนเถอะนะจ๊ะ”
เมื่อองค์ราณีออกจากห้องไปแล้ว ฟานเชสก้าก็ทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า
ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีก็มีบุคคลปริศนาเข้ามาในห้องแบบไม่พูดจา
“เหนื่อยน่าดูนะครับ”
“อามุล!”ช่างภาพสาวกระเด้งตัวขึ้น “คุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไงค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนก่อนจะเข้ามานั่งข้างๆ”ผมแอบครับ”
“คุณนี่จริงๆเลยนะค่ะ”
“ผมแค่อยากอยู่กับคุณสองต่อสองนี่ครับ”
ช่างภาพสาวเอียงอาย”บ้า!”
“ว่าแต่คุณรู้จักชีคฟาฮิมด้วยเหรอครับ”
“อ๋อ คะ เค้าเป็นเหมือนเพื่อนและก็พี่ชายคะ คุณถามทำไมเหรอค่ะ?”
เจ้าชายแห่งคาลอสถอนใจอย่างโล่งอก
ฟานเชสก้าเอ่ยอย่างรู้ทัน”อย่าบอกนะค่ะ ว่าคุณหึงชั้น”
อามุลหันหน้าหนี”ไม่ได้หึงนะครับ”
ช่างภาพสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้”แหมๆ คุณหึงก็บอกมาเถอะค่ะ”
เจ้าชายหนุ่มยังคงปากแข็ง ฟานเชสก้านึกสนุกจึงยื่นหน้าหอมแก้มของอีกฝ่าย
เจ้าชายอามุลเอียงแก้มอีกข้างให้อีกฝ่าย หญิงสาวจึงสนองให้
“หายงอลชั้นรึยังค่ะ”
“ยัง”
“อ้าว?”
ยังไม่ทันที่ฟานเชสก้าจะได้ทำอะไรก็โดนร่างสูงรวบตัวมานั่งตักเสียแล้ว
“อามุล”
“ผมขอจูบคุณก่อน”
หญิงสาวเอียงอายตามประสาหญิงสาว แต่ก็ยินยอมให้ชายหนุ่มผู้เป็นว่าที่สามีจูบ เธอซบลงบนบ่ากว้าง
“คุณอย่าทิ้งชั้นนะค่ะ”
“ผมสัญญาครับ ที่รัก กว่าเราจะได้แต่งงานกันก็อีกยาวเลย”
“เอ๋ ทำไมล่ะค่ะ”หญิงสาวแหงนหน้าถาม
“ตามประเพณีราชวงศ์ พี่คนโตต้องเข้าพิธีวิวาห์ก่อน น้องๆที่เหลือถึงจะแต่งได้ แต่ถ้าหมั้นก็ไม่เป็นไรครับ”
“ถือว่าให้เราได้มีเวลาปรับตัวเข้าหากันยังไงล่ะค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวชั้น”
“เช่นกันครับ ที่รัก”อามุลจูบที่ขมับคู่หมั้นสาวอย่างรักใคร่ ก่อนจะออกจากห้องไป
ทางด้านรีเบ็คก้า
ในตอนนี้เธอได้กลับมาที่ห้องพักส่วนตัวแล้ว ในมือถือจดหมายของพ่อออกมา มือเรียวค่อยๆเปิดซองจดหมาย ก็มีกระดาษสีขาวนวลเนื้อดีที่มีหอมอ่อนๆ กลิ่นหอมนี้ หญิงสาวรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน เหมือนเธอเคยได้กลิ่นนี้มาแล้ว ในกระดาษมีข้อความสั้นๆที่เขียนด้วยหมึกที่ดีที่สุด ‘หยาดน้ำตาที่เหือดแห้ง ทายาทตัวจริงเท่านั้นที่รู้ จงระวังจงระวัง หากมีความโลภอยู่ชีพจะวอดวาย ’
รีเบ็คก้านิ่งก่อนจะเก็บจดหมายเข้าที่กระเป๋ากางเกง …ทายาทเหรอ? ชักจะแม่งๆแล้วแหะ…”ตอนนี้คงจะต้องรอให้งานหมั้นยัยฟานจบก่อน ไม่รู้ตาชีคนั่นจะปล่อยเราไปรึเปล่านี่สิ เฮ้อ!” หลังจากที่ถอนใจเฮือกใหญ่ ก็เอนตัวบนเตียงใหญ่แสนนุ่มด้วยความเหนื่อยหน่ายเพราะเธอไม่ค่อยชอบงานที่มีคนเยอะๆซักเท่าไหร่ แต่งานนี้เป็นงานหมั้นของญาติผู้พี่ทั้งที ก็พอยกเว้นได้ ไม่นาน เด็กสาวก็หลับปุ๋ยอย่างสบายอารมณ์
มาแล้วจ้า ว่างๆเราจะทยอยอัพลงนะ ทั้งนิยาย ฟิคชั่น เรื่องสั้น นะ พอดี ปิดเทอมแล้ว ปีสามแล้ว อิอิอิ งานเยอะเรียนหนัก
ฟานเชสก้าก็กลับมาพักที่ห้องอย่างอ่อนล้า เพราะอีกตั้งสี่ชั่วโมง กว่างานสังสรรค์ในยามค่ำจะเริ่มขึ้น
เสียงประตูเปิดได้ดังขึ้นทำให้หญิงสาวกระเด้งตัวขึ้น คนที่เข้ามาในห้องคือองค์ราณี กาลิด้า พร้อมข้าหลวง
ช่างภาพสาวรีบถอนสายบัวทันที
"ไม่ต้องพิธีรีตรองอะไรหรอกจ้ะ ฟาน"
"ขอบคุณค่ะ"
สองสาวต่างวัยจึงนั่งลงบนเตียง
องค์ราณีเอ่ยอย่างเป็นกันเอง"เดี๋ยวหนูก็จะมาเป็นลูกสาวของเเม่แล้วนะจ๊ะ"
ฟานเชสก้าเอ่ยอย่างเศร้าๆ"บางที อามุลเค้าอาจจะเบื่อหนูก็ได้"
"หือ?"
"คะ...คือเราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเองนี่ค่ะ"
ราณีกาลิด้ายิ้มให้สายตาที่มองฟานเชสก้ามีเป็นความเอ็นดู"ชั้นเข้าใจนะจ๊ะ แต่ หนูรู้ไหมว่าความรักน่ะไม่ต้องการเวลาหรอกนะ เพราะฉะนั้น ทำใจให้สบาย"
"ค่ะ"
องค์ราณีแปรเปลี่ยนสีหน้า"ฟานจ๊ะ ชั้นมีเรื่องอยากจะถาม"
"ค่ะ?"
"คือ คุณโรเจอร์ เสียชีวิตเมื่อสามปีก่อนจริงๆรึ"
สีหน้าของช่างภาพสาวสลดลง"สามปีก่อนคุณลุงบอกกับพวกเราว่าจะไปเที่ยวที่ตะวันออกกลางคงจะมางานรับปริญญาของเบ็คกี้กับอารองไม่ทัน การเดินทางของคุณลุงแต่ละครั้ง เบ็คกี้กับอารองจะได้ไปด้วยแทบทุกครั้ง พอวันรับปริญญา ของเบ็คกี้และอารอง...ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาบอกคะ ว่า…คุณลุงเสียชีวิตด้วยหัวใจวายเฉียบพลันที่สนามบิน”
เมื่อฟังแล้วองค์ราณีกาลิด้ารู้สึกใจหาย”อะไรกัน ตอนที่เค้าจะกลับอังกฤษ ชั้นเห็นว่าเค้ายังแข็งแรงดีอยู่เลยนะ”
“คะ ทุกคนแทบไม่เชื่อ จึงพิสูจน์ศพตั้งหลายครั้งผลออกมาก็เหมือนเดิม เบ็คกี้ช็อคและเสียใจเอามากๆ จากนั้นเค้าก็เก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยออกไปไหน เค้าทุ่มเวลากับการเรียนบริหารธุรกิจเพิ่ม ทำงานจนกระทั่งไม่มีเวลามาหาสู่พวกเราสักเท่าไหร่”
องค์ราณีพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม รีเบ็คก้า ถึงเฉยชานัก ผิดกับตอนที่ โรเจอร์บอกเสมอ ว่าบุตรสาวของตนนั้นร่าเริง ห้าวหาญและเก่งกาจแต่เท่าที่เห็นนั้น เด็กสาวนั้นเก่งกาจ ดูเคร่งครึม สุขุมและเฉยชามาก ผิดกับที่รุ่นพี่เคยบอกลิบลับ แต่ฟานเชสก้า ผู้เป็นหลานสาวกลับดูสดใส น่ารัก ที่สามารถละลายความเย็นชาของอามุล ลูกชายคนรองของตนได้
“หนูทำใจให้สบายและพักผ่อนซะนะ ไม่ต้องเกร็งนะ”
“คะ”
“ว่าแต่หนูรู้จักชีคฟาฮิมได้ยังไงจ๊ะ”
“อ๋อ ชีคฟาฮิม สมัยเป็นเจ้าชายรัชทายาท ท่านเรียนที่มหาลัยฮาร์วาร์ดที่เบ็คกี้กับอารองเรียนอยู่ เค้าชอบมาขายขนมจีบใส่หนูไม่ก็เบ็คกี้ประจำ แต่พวกเราก็ไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าเพื่อนหรือพี่ชาย เลยนะค่ะ”
“งั้นเหรอจ๊ะ งั้นแม่ขอตัวก่อน หนูฟานพักผ่อนเถอะนะจ๊ะ”
เมื่อองค์ราณีออกจากห้องไปแล้ว ฟานเชสก้าก็ทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงอย่างอ่อนล้า
ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีก็มีบุคคลปริศนาเข้ามาในห้องแบบไม่พูดจา
“เหนื่อยน่าดูนะครับ”
“อามุล!”ช่างภาพสาวกระเด้งตัวขึ้น “คุณเข้ามาที่นี่ได้ยังไงค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอ่อนก่อนจะเข้ามานั่งข้างๆ”ผมแอบครับ”
“คุณนี่จริงๆเลยนะค่ะ”
“ผมแค่อยากอยู่กับคุณสองต่อสองนี่ครับ”
ช่างภาพสาวเอียงอาย”บ้า!”
“ว่าแต่คุณรู้จักชีคฟาฮิมด้วยเหรอครับ”
“อ๋อ คะ เค้าเป็นเหมือนเพื่อนและก็พี่ชายคะ คุณถามทำไมเหรอค่ะ?”
เจ้าชายแห่งคาลอสถอนใจอย่างโล่งอก
ฟานเชสก้าเอ่ยอย่างรู้ทัน”อย่าบอกนะค่ะ ว่าคุณหึงชั้น”
อามุลหันหน้าหนี”ไม่ได้หึงนะครับ”
ช่างภาพสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้”แหมๆ คุณหึงก็บอกมาเถอะค่ะ”
เจ้าชายหนุ่มยังคงปากแข็ง ฟานเชสก้านึกสนุกจึงยื่นหน้าหอมแก้มของอีกฝ่าย
เจ้าชายอามุลเอียงแก้มอีกข้างให้อีกฝ่าย หญิงสาวจึงสนองให้
“หายงอลชั้นรึยังค่ะ”
“ยัง”
“อ้าว?”
ยังไม่ทันที่ฟานเชสก้าจะได้ทำอะไรก็โดนร่างสูงรวบตัวมานั่งตักเสียแล้ว
“อามุล”
“ผมขอจูบคุณก่อน”
หญิงสาวเอียงอายตามประสาหญิงสาว แต่ก็ยินยอมให้ชายหนุ่มผู้เป็นว่าที่สามีจูบ เธอซบลงบนบ่ากว้าง
“คุณอย่าทิ้งชั้นนะค่ะ”
“ผมสัญญาครับ ที่รัก กว่าเราจะได้แต่งงานกันก็อีกยาวเลย”
“เอ๋ ทำไมล่ะค่ะ”หญิงสาวแหงนหน้าถาม
“ตามประเพณีราชวงศ์ พี่คนโตต้องเข้าพิธีวิวาห์ก่อน น้องๆที่เหลือถึงจะแต่งได้ แต่ถ้าหมั้นก็ไม่เป็นไรครับ”
“ถือว่าให้เราได้มีเวลาปรับตัวเข้าหากันยังไงล่ะค่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวชั้น”
“เช่นกันครับ ที่รัก”อามุลจูบที่ขมับคู่หมั้นสาวอย่างรักใคร่ ก่อนจะออกจากห้องไป
ทางด้านรีเบ็คก้า
ในตอนนี้เธอได้กลับมาที่ห้องพักส่วนตัวแล้ว ในมือถือจดหมายของพ่อออกมา มือเรียวค่อยๆเปิดซองจดหมาย ก็มีกระดาษสีขาวนวลเนื้อดีที่มีหอมอ่อนๆ กลิ่นหอมนี้ หญิงสาวรู้สึกคุ้นเคยเหลือเกิน เหมือนเธอเคยได้กลิ่นนี้มาแล้ว ในกระดาษมีข้อความสั้นๆที่เขียนด้วยหมึกที่ดีที่สุด ‘หยาดน้ำตาที่เหือดแห้ง ทายาทตัวจริงเท่านั้นที่รู้ จงระวังจงระวัง หากมีความโลภอยู่ชีพจะวอดวาย ’
รีเบ็คก้านิ่งก่อนจะเก็บจดหมายเข้าที่กระเป๋ากางเกง …ทายาทเหรอ? ชักจะแม่งๆแล้วแหะ…”ตอนนี้คงจะต้องรอให้งานหมั้นยัยฟานจบก่อน ไม่รู้ตาชีคนั่นจะปล่อยเราไปรึเปล่านี่สิ เฮ้อ!” หลังจากที่ถอนใจเฮือกใหญ่ ก็เอนตัวบนเตียงใหญ่แสนนุ่มด้วยความเหนื่อยหน่ายเพราะเธอไม่ค่อยชอบงานที่มีคนเยอะๆซักเท่าไหร่ แต่งานนี้เป็นงานหมั้นของญาติผู้พี่ทั้งที ก็พอยกเว้นได้ ไม่นาน เด็กสาวก็หลับปุ๋ยอย่างสบายอารมณ์
มาแล้วจ้า ว่างๆเราจะทยอยอัพลงนะ ทั้งนิยาย ฟิคชั่น เรื่องสั้น นะ พอดี ปิดเทอมแล้ว ปีสามแล้ว อิอิอิ งานเยอะเรียนหนัก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ