Valley of the Blue Moon
เขียนโดย Huntessell
วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 04.45 น.
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 18.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ทดสอบวัดทักษะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันสอบวัดระดับทักษะ สนามกีฬามหาลัยโอดราก้า
ภายในสนามกีฬาแน่นขนัดไปด้วยหนุ่มสาว628คนที่ผ่านการสอบในรอบแรกมาได้ส่วนผู้ตกรอบนั้นหากยังเดินทางไหวก็จะถูกส่งกลับในทันทีถึงแม้หลายคนจะยังอ่อนเพลียจากการต่อสู้แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ให้ได้ เพราะการทดสอบในวันนี้จะเป็นการชี้ชะตาว่าจะได้เข้าเรียนที่โอดราก้าแห่งนี้หรือไม่
การสอบวัดระดับทักษะนั้นแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน
หนึ่งคือการวัดค่าความเข้มข้นและรัศมีของพลัง ในขั้นตอนนี้ผู้เข้าสอบจะต้องไปยืนอยู่ใจกลางเส้นวงกลมขนาดความกว้าง15เมตรโดยที่ภายในนั้นจะมีเส้นบอกความกว้างไล่ตั้งแต่ศูนย์จนถึงสิบห้าหลังจากนั้นจะต้องบีบเอาพลังที่มีอยู่ในร่างกายออกมาทำให้มันแผ่ขยายกว้างออกไป หากผู้เข้าสอบทำได้เกินระยะ8เมตรก็จะผ่านการทดสอบ
สองทักษะการโจมตี ในข้อนี้จัดว่ายากในระดับหนึ่งเพราะหากผ่านขั้นตอนแรกมาได้ผู้เข้าสอบโดยมากมักจะเหนื่อยอ่อนจากการพยายามปล่อยรัศมีของพลัง ขั้นตอนนี้ผู้เข้าสอบจะต้องทำลายเป้าบินที่เป็นวัตถุเคลื่อนที่ลอยได้ลักษณะคล้ายแผ่นไม้ทรงแปดเหลี่ยมและจะต้องทำลายแต่เป้าบินสีแดงเท่านั้นซึ่งจะบินเคลื่อนที่ปะปนอยู่กับเป้าบินสีน้ำเงินซึ่งหากทำลายเป้าสีน้ำเงินจะทำให้เสียคะแนน ขั้นตอนนี้ใช้เวลามากเพราะจะต้องทำการทดสอบเพียงแค่สองคนในแต่ละรอบเท่านั้นจากทั้งหมด628คนจะถูกคัดเลือกให้เหลือเพียงครึ่งเดียว วันนี้ทั้งผู้อำนวยการและคณะกรรมการทรงเกียรติต่างมาเป็นผู้ร่วมรับรู้ทั้งสิ้นบรรยกาศจึงเริ่มตึงเครียดสำหรับหลายๆคน
แต่กับบางคนนั้นมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า..
เจซกำลังรู้สึกกระวนกระวายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ได้กำลังตื่นเต้นเรื่องการทดสอบแต่อย่างใดเมื่อสองวันก่อนหลังจากเล่าเรื่องข้อเสนอของผู้อำนวยการให้เพื่อนรักทั้งสี่ซึ่งผ่านการสอบในรอบแรกมาได้หมดฟังภายในหัวของเขายังไม่อาจสลัดภาพเหตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญในคืนนั้นได้เลย เหตุการณ์ในคืนนั้น.. คิดถึงตรงนี้เจซซี่คนเก่งก็รู้สึกร้อนวาบไปทั่วทั้งใบหน้ารู้สึกโหวงเหวงในช่องท้องอย่างบอกไม่ถูกจนต้องยกมือขึ้นมาปกปิดความร้อนบนผิวแก้มเอาไว้
"เจซซี่เป็นอะไรหรือเปล่าไม่สบายหรือไงกัน?" เวนดี้ที่นั่งอยู่ข้างๆยื่นมือมาแตะหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา
"ตัวร้อนๆนะพักหน่อยมั๊ย"
"ไม่เป็นอะไรหรอกแค่..แดดมันร้อนเท่านั้นเอง" เจซตอบปัดไปข้างๆคูๆก่อนจะดึงมือเธอออกถึงเขาจะรู้ดีว่าเวนดี้เป็นจอมเวทย์ที่ถนัดในการใช้เวทย์รักษาอาการบาดเจ็บ แต่เขาไม่แน่ใจว่าเธอจะช่วยหยุดอาการใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่ได้ของเขาได้ยังไงกัน
"เฮ้ อย่ามาแตะตัวน้องสาวคนอื่นแบบนี้สิ" อาซาทำเสียงขู่ฟ่อๆก่อนจะเอื้อมวงแขนมาโอบไหล่น้องสาวของตัวเองเอาไว้ 'ทำท่าอย่างกับนักเลงตามถนนอย่างนั้นล่ะ' เจซคิด
"น้องนายต่างหากมาแตะฉัน" เจซพูดก่อนจะถอนหายใจระอากับความหวงน้องสาวแบบไม่มีลิมิตซึ่งมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรของอาซา ทั้งเวนดี้และแคลร์โรไลน์กำลังพยายามดึงตัวอาซาเอาไว้ขณะเขากำลังจะจุดไฟย่างเจซ
"เอ้า ยอๆพวกใจเย็นก่อน เอ้านี่แอปเปิ้ลเคลือบคาราเมล!" บรู๊คเดินมานั่งลงข้างๆแคลร์โรไลน์
"นี่พวกเราไม่ได้มาดูการแสดงนะ" แคลร์โรไลน์พูดแต่ก็รับแอปเปิ้ลเคลือบคาราเมลมาจากบรู๊คแล้ว
"เอาน่าๆอีกไม่นานก็จะน่วมกันหมดแล้วรีบมีความสุขตั้งแต่ตอนนี้เถอะ!" ทั้งสี่คนหันมามองบรู๊คเป็นตาเดียวขณะเจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะดังลั่น
"เจ้านี่มองโลกในแง่ร้ายหรือดีกันแน่ละเนี่ย" อาซาพูดอย่างระเหี่ยใจปากเคี้ยวแอปเปิ้ลตุ้ยๆ
"มองโลกแบบคนบ้าน่ะสิ" เจซพูดขณะกวาดสายตามองหาคนๆนึงที่เขาไม่เจอมาสองวันแล้วถึงตอนที่แยกกันจะบอกว่า'เอาไว้เจอกันใหม่' แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เจอเลย.. 'แล้วทำไมฉันต้องอยากเจอยัยนั่นด้วยวะ..'
เจซสะบัดหัวแบบที่ชอบทำไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจังหวะเดียวกับที่โฆษกกิตติมาศักดิ์แม็กนัสเริ่มพูด
"เอาล่ะครับทุกท่านยินดีต้อนรับสู่การสอบรอบที่สองนะครับ ทุกคนคงจะอ่านกฎและกติกามาโดยละเอียดแล้วเช่นนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลาผมขอประกาศชื่อผู้สอบในรอบแรกนะครับ ลูน่า แมคโดเวลล์...."
เจซหันไปตามเสียงโดยอัตโนมัตนัยต์ตาสีเหล็กกล้าจ้องไปยังสนามเบื้องหน้าไม่นานนักเขาก็เห็นลูน่ากำลังก้าวเข้าไปในวงกลมสีแดงที่ถูกขีดขึ้น
"เอาล่ะครับอย่าลืมนะว่าจะต้องทำให้ได้มากกว่าแปดเมตร ถ้าพร้อมแล้วเริ่มได้เลยครับ!"
สิ้นสุดเสียงของแม็กนัสเจซและคนอื่นๆเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังที่ถูกปล่อยออกมาจากผู้เข้าสอบคนหนึ่งในสนามขณะนั้นเองลูน่ายังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว..ชั่ววินาทีต่อมารอบกายของลูน่าเริ่มมีมวลลมพัดโหมอย่างบ้าคลั่งก่อนจะค่อยๆรุนแรงขึ้นจนเริ่มที่จะพัดวนอยู่ภายในสนามฝุ่นทรายลอยตลบจนทุกคนต้องหลับตาหนี ผ่านไปไม่นานนักทุกอย่างก็เริ่มสงบพวกเจซและคนอื่นๆค่อยพากันลืมตาขึ้นหลังจากนั้นบางคนก็ตาค้างไปบ้างก็ทรุดตัวลงไปกับพื้นเพราะทนต่อมวลพลังที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่ไหว เม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของเจซ ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งอายุ18เขายังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ภาพตรงหน้าของเขาคือม่านหลังสีน้ำเงินที่แผ่คลุมพื้นที่จนมาถึงที่นั่งแถวแรกสุดของอัดทจัน
แน่นอนว่าเกินจากระยะสิบห้าเมตรมาไกลโขเลยทีเดียว
to be continued
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะคิดพล็อตไม่ออกจริงๆหัวตื้อหมดเลยTT
จะพยายามอัพลงให้ไวขึ้นนะคะขอให้ติดตามต่อไปด้วยน้า ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ