ตำนานรักแห่งสายลม
9.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
34 ตอน
13 วิจารณ์
38.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) บทที่ 5 ความสงสัย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวินเนียสตัดสินใจบอกลาเด็กสาว"งั้นข้าไปก่อนล่ะเทีย แล้วอย่าก่อเรื่องอีกล่ะนะ"องครักษ์หนุ่มลูบหัวเด็กสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินจากไป
อาเรนเทียรู้สึกอบอุ่นเหลือเกินฝ่ามือนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้อยู่กับพี่ชายอีกครั้งแต่พอรู้สึกตัวเด็กสาวก็ตะโกนไล่หลังองครักษ์ผิวเข้มทัน"ข้าไม่ใช่เด็กนะ วินเนียส !"
องครักษ์หนุ่มผิวเข้มนั้นได้ยินก็อดขำไม่ได้เขาเริ่มรู้สึกเอ็นดูนางเหมือนน้องสาวทันทีในขณะเดียวกันเขาก็สงสัยฐานะของเด็กสาวผู้ใช้มนตราผู้นี้มากขึ้น
ทางด้านเซต
ในตอนนี้เจ้าชายแห่งเอลเทียกำลังนั่งทำงานพลางทานมื้อเช้าไปด้วยในห้องทรงงาน ทันใดนั้น เด็กหนุ่มวัยสิบห้าผิวขาวผมทองตาสีน้ำตาลเดินเข้ามาให้ห้องโดยไม่ขออนุญาติเจ้าของห้องด้วยอารมณ์ขุ่น เซตทัก"ไงโทมัส เป็นอะไรไปทำไมอารมณ์ขุ่นแต่เช้าล่ะ"
โทมัสนั่งลงบนเก้าอี้นวมสวยอย่างฉุนเฉียว"ท่านพี่ ข้ายิงธนูแพ้ยัยบ้าผมสีประหลาดมา"
เซตเลิกคิ้วเล็กน้อย"ใครเหรอที่ผมสีประหลาด"หวังว่าคงไม่ใช่
"ข้าไม่รู้ชื่อนางหรอกแต่รู้ว่านางมีผมสั้นสีน้ำเงินเข้มตาสีเขียว หน้าตาก็พอดูได้ แต่ว่านางต้องเป็นจอมเวทย์แน่ๆ"
เซตคิดในใจ...ใช่เลย น้องเอ๋ย เจ้าเดาถูกแล้ว นางเป็นจอมเวทย์...ว่าแล้วเจ้าชายหนุ่มก็ตั้งคำถาม"แล้วเจ้ากับนางไปแข่งธนูได้ยังไงบอกข้าหน่อยสิ"
ฝ่ายถูกถามอึกอัก"คือ...เอ่อ"จะให้เขาบอกได้ยังไงเดี๋ยวก็โดนท่านพี่ดุอีกแน่
แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ท่านโทมัสจะบอกได้ยังไงก็เมื่อท่านโทมัสไปยิงธนูที่อุทยานหลวงแล้วเกือบโดนมือของข้าหลวงนางหนึ่งเข้า เทียเห็นเลยเตือนทำให้ไม่มีใครบาดเจ็บและนางก็ขอให้ท่านโทมัสขอโทษข้าหลวงนางนั้นแต่ท่านโทมัสเป็นฝ่ายท้านางก่อนด้วยนะ"
สองหนุ่มหันมาทางต้นเสียง วินเนียสโค้งคารวะทั้งสองก่อนจะหันมาพูดกับโทมัส"ท่านโทมัส ข้าขอคุยกัยเจ้าชายเป็นการส่วนตัว เชิญออกไปก่อนเถอะขอรับ"
เซตโบกมือในเชิงไล่ญาติผู้น้องให้ออกไป โทมัสออกไปทันที พร้อมปิดประตูอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์โกรธ เซตนั่นไม่ถือสากับอาการเกเรของน้องชายคนนี้เลยแต่ตรงกัรข้ามกับเอือมระอากับนิสัยเกเรเอาแต่ใจและถือยศศักดิ์ของน้องคนนี้
"วินเนีสเจ้ามีอะไรจะคุยกับข้ารึ"
"ข้าแค่นึกสงสัยฐานะของเทีย"วินเนียสเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หากแต่เซตไม่สนใจเท่าไหร่"ข้าไม่ได้สนใจซักเท่าไหร่ อีกสามสิบวันนางก็จากไปแล้ว"แล้วหันมาสนใจเอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อ
"บางที นางอาจจะช่วยท่านได้นะ ถ้าท่านขอร้องนาง"
เซตตวาดกลับ"อย่ามายุ่งเรื่องนี้! เจ้าก็รู้นิว่าพวกเราเคยให้พวกจอมเวทย์มารักษาท่านพี่เซร่าแล้วแต่ล่ะคนก็เก่งกันทั้งนั้นยังรักษาท่านพี่เซร่าไม่ได้และนับประสาอะไรกับเทียอายุนางก็แค่สิบสี่สิบห้าเอง"สามปีก่อนเจ้าหญิงเซร่าพระเชษฐภคินีของเจ้าชายเซตป่วยด้วยโรคประหลาดที่จู่ๆเมื่อแม่นมไปปลุกที่ห้องนอนตามปกติก็พบว่าเจ้าหญิงนั้นสลบอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งแพทย์หลายคนพยายามตรวจอาการรักษาแต่ก็ไม่ได้ความ ตอนนั้นมีการประกาศหาผู้ที่จะสามารถรักษาเจ้าหญิงเซร่าที่นิทราอย่างไร้สาเหตุหรือแม้แต่พวกพ่อมดจอมเวทย์เองก็ยังไม่สามารถรักษาได้ เจ้าหญิงเซร่าจึงนิทรามาตลอดสามปีจนบัดนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นเลยแต่ในขณะนั้นลินดาพี่สาวแท้ๆของโทมัสผู้เป้นลูกพี่ลูกน้องอีกคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
วินเนียสกอดอก"ท่านไม่ควรที่จะวัดความสามารถคนด้วยอายุหรอกนะ ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ถ้าให้นางลองรักษาดู"
"พอเถอะวินเนียส ข้าหมดหวังแล้วกับเรื่องนี้"เจ้าชายเซตเอ่ยด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก
หากแต่องครักษ์หนุ่มเถียงกลับ"ตอนนี้เจ้าหญิงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ก็ยังมีความหวังว่าท่านจะมีโอกาสหาย"
ยังไม่ทันทีเซตจะโต้กลับ เสียงเคาะประตูดังขึ้น วินเนียสจึงละไปเปิดประตูก็พบว่า
"ท่านเซตตตต!!"เด็กสาววัยสิบหกร่างบอบบางผมทองลอนสลวยมัดแกละสองข้างผูกด้วยริบบิ้นสีแดงตาสีน้ำผึ้งหวานผิวขาวเนียนในชุดกระโปรงแขนตุ๊กตายาวคลุมเข่าสีชมพูหวานสวมถุงน่องสีขาวกับรองเท้าส้นเตี้ยสีแดงขัดเงาวิ่งเข้าไปหาเซตที่นั่งอยู่ทำเอาเซตหลบไม่ทันเลยโดนเด็กสาวคนนั้นกอดแน่น
คนถูกกอดแน่นร้องขอ"เรนนี่ ปะ..ปล่อยข้าก่อนข้าอึดอัด"หากแต่เด็กสาวแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินซะงั้นเซตพยายามจะขอให้องครักษ์คนสนิทช่วยแต่ทว่า วินเนียสได้เดินออกไปไกลแล้วโดยส่งสายตาบอกว่า 'งานนี้ช่วยตัวเองเถอะ ท่านเซต ข้าไม่เกี่ยว'เซตคิดอย่างเจ็บใจ...จำไว้เลยวินเนียส...ตอนนี้เขาต้องหาทางให้เรนนี่ว่าที่พระคู่หมั้นปล่อยตนซะก่อนที่ตนจะขาดอากาศหายใจตาย
"ท่านเซตค่าา ข้าคิดถึงท่านจังเลย ท่านคิดถึงข้าบ้างไหมค่ะ"
"จ้ะๆ ได้โปรดปล่อยข้าก่อน"เรนนี่ยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดี เซตไอโขกๆ
เรนนี่ถามขึ้น"ท่านเป็นอย่างไรบ้างค่ะ"
"ไม่เป็นไรจ๊ะ"แม้หน้าจะฝืนยิ้มหากแต่ในใจของเซตนั้น...ใช่ซะที่ไหน!เมื่อกี้เกือบขาดอากาศหายใจตายแล้ว...
เด็กสาวกอดแขนร่างสูงพลางออดอ้อน"วันนี้ท่านพาข้าไปชมดอกไม้ที่อุทยานหน่อยสิ"
เซตแกะแขนของอีกฝ่ายที่กอดแขนตนพลางตอบ"คงไม่ได้หรอกเรนนี่ วันนี้ข้ายุ่งเอาไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน"แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะมาตรวจดู
เด็กสาวเท้าสะเอวพลางประชด"อีกแล้ว ครั้งที่แล้วก็ไว้ครั้งหน้าๆ ครั้งนี้อีก ท่านยังเห็นข้าเป็นคู่หมั้นอยู่รึเปล่า"
เจ้าชายหนุ่มตัดรำคาญ"ก็ได้ๆไว้ข้าเสร็จงานแล้วเราไปชมอุทยานกันนะแต่ถ้าไปตอนนี้แดดออกจะร้อน ข้าว่าไว้บ่ายๆเราค่อยไปกัน"
เรนนี่ตาเป็นประกาย"จริงเหรอๆ ไว้ข้าจะรอนะท่านเซต ข้าไม่กวนแล้ว"ว่าแล้วเธอก็ถอนสายบัวอย่างงดงามแล้วเดินจากไป
พอลับร่างของพระคู่หมั้นเจ้าชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่"ท่านแม่นะท่านแม่ทำไมต้องจับข้าหมั้นกับเรนนี่ด้วยก็ไม่รู้"สำหรับเขานั้นเรนนี่ คือน้องสาวคนหนึ่ง ทั้งคู่ถูกจับหมั้นตั้งแต่เด็ก เรนนี่เป็นบุตรีของท่านเรนเดล ผู้เป็นท่านลุงของเขา หรือง่ายๆเรนนี่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเช่นเดียวกับลินดาและโทมัสที่เป็นบุตรของท่านโคเดลผู้มีศักดิ์เป็นน้าของเขา เรนนี่ก็น่ารักและงดงามสมวัยหากติดที่นิสัยเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจขี้วีนเท่านั้นแหละที่หลายๆคนเอือมระอา
ทางด้านวินเนียส
ตอนนี้เขาได้เดินออกมาจากห้องทรงงานของเจ้าชายเซตเพราะตัวเขาเองก็ไม่ค่อยชอบท่านหญิงขี้วีนคนนี้ซักเท่าไหร่เช่นเดียวกับนางข้าหลวงและมหาดเล็กคนอื่นๆหากเทียบกับท่านหญิงลินดาที่หายตัวไปเมื่อสามปีก่อนแล้วคนละเรื่อง รายนั้นทั้งสุภาพอ่อนหวานและอ่อนโยนเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่จริงเขาก็ชอบนางแต่ติดที่ว่านางอายุมากกว่าเขาถึงห้าปี
อีกด้าน
เจ้าหญิงอาเรนเทียนั้นกำลังเดินเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเธอเดินไปถึงหอคอยสีขาวที่รอบๆปลูกดอกกุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นหอมมีทหารหญิงเฝ้าอยู่สี่คน
...อึก!ทำไมรู้สึกถึงพลังมนต์ดำที่อยู่ในหอคอยนี่ล่ะ...ความสงสัยนั้นมีอยู่เต็มอกของเจ้าหญิงแห่งคาลาสเหลือเกิน เธอหันไปมองที่ยอดหอคอยพลางคิด...ที่นั่นต้องมีอะไรซักอย่างเป็นแน่...พลังมนต์ดำมีมากพอสมควรเลยเชียว...
อาเรนเทียรู้สึกอบอุ่นเหลือเกินฝ่ามือนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนได้อยู่กับพี่ชายอีกครั้งแต่พอรู้สึกตัวเด็กสาวก็ตะโกนไล่หลังองครักษ์ผิวเข้มทัน"ข้าไม่ใช่เด็กนะ วินเนียส !"
องครักษ์หนุ่มผิวเข้มนั้นได้ยินก็อดขำไม่ได้เขาเริ่มรู้สึกเอ็นดูนางเหมือนน้องสาวทันทีในขณะเดียวกันเขาก็สงสัยฐานะของเด็กสาวผู้ใช้มนตราผู้นี้มากขึ้น
ทางด้านเซต
ในตอนนี้เจ้าชายแห่งเอลเทียกำลังนั่งทำงานพลางทานมื้อเช้าไปด้วยในห้องทรงงาน ทันใดนั้น เด็กหนุ่มวัยสิบห้าผิวขาวผมทองตาสีน้ำตาลเดินเข้ามาให้ห้องโดยไม่ขออนุญาติเจ้าของห้องด้วยอารมณ์ขุ่น เซตทัก"ไงโทมัส เป็นอะไรไปทำไมอารมณ์ขุ่นแต่เช้าล่ะ"
โทมัสนั่งลงบนเก้าอี้นวมสวยอย่างฉุนเฉียว"ท่านพี่ ข้ายิงธนูแพ้ยัยบ้าผมสีประหลาดมา"
เซตเลิกคิ้วเล็กน้อย"ใครเหรอที่ผมสีประหลาด"หวังว่าคงไม่ใช่
"ข้าไม่รู้ชื่อนางหรอกแต่รู้ว่านางมีผมสั้นสีน้ำเงินเข้มตาสีเขียว หน้าตาก็พอดูได้ แต่ว่านางต้องเป็นจอมเวทย์แน่ๆ"
เซตคิดในใจ...ใช่เลย น้องเอ๋ย เจ้าเดาถูกแล้ว นางเป็นจอมเวทย์...ว่าแล้วเจ้าชายหนุ่มก็ตั้งคำถาม"แล้วเจ้ากับนางไปแข่งธนูได้ยังไงบอกข้าหน่อยสิ"
ฝ่ายถูกถามอึกอัก"คือ...เอ่อ"จะให้เขาบอกได้ยังไงเดี๋ยวก็โดนท่านพี่ดุอีกแน่
แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ท่านโทมัสจะบอกได้ยังไงก็เมื่อท่านโทมัสไปยิงธนูที่อุทยานหลวงแล้วเกือบโดนมือของข้าหลวงนางหนึ่งเข้า เทียเห็นเลยเตือนทำให้ไม่มีใครบาดเจ็บและนางก็ขอให้ท่านโทมัสขอโทษข้าหลวงนางนั้นแต่ท่านโทมัสเป็นฝ่ายท้านางก่อนด้วยนะ"
สองหนุ่มหันมาทางต้นเสียง วินเนียสโค้งคารวะทั้งสองก่อนจะหันมาพูดกับโทมัส"ท่านโทมัส ข้าขอคุยกัยเจ้าชายเป็นการส่วนตัว เชิญออกไปก่อนเถอะขอรับ"
เซตโบกมือในเชิงไล่ญาติผู้น้องให้ออกไป โทมัสออกไปทันที พร้อมปิดประตูอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์โกรธ เซตนั่นไม่ถือสากับอาการเกเรของน้องชายคนนี้เลยแต่ตรงกัรข้ามกับเอือมระอากับนิสัยเกเรเอาแต่ใจและถือยศศักดิ์ของน้องคนนี้
"วินเนีสเจ้ามีอะไรจะคุยกับข้ารึ"
"ข้าแค่นึกสงสัยฐานะของเทีย"วินเนียสเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
หากแต่เซตไม่สนใจเท่าไหร่"ข้าไม่ได้สนใจซักเท่าไหร่ อีกสามสิบวันนางก็จากไปแล้ว"แล้วหันมาสนใจเอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อ
"บางที นางอาจจะช่วยท่านได้นะ ถ้าท่านขอร้องนาง"
เซตตวาดกลับ"อย่ามายุ่งเรื่องนี้! เจ้าก็รู้นิว่าพวกเราเคยให้พวกจอมเวทย์มารักษาท่านพี่เซร่าแล้วแต่ล่ะคนก็เก่งกันทั้งนั้นยังรักษาท่านพี่เซร่าไม่ได้และนับประสาอะไรกับเทียอายุนางก็แค่สิบสี่สิบห้าเอง"สามปีก่อนเจ้าหญิงเซร่าพระเชษฐภคินีของเจ้าชายเซตป่วยด้วยโรคประหลาดที่จู่ๆเมื่อแม่นมไปปลุกที่ห้องนอนตามปกติก็พบว่าเจ้าหญิงนั้นสลบอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งแพทย์หลายคนพยายามตรวจอาการรักษาแต่ก็ไม่ได้ความ ตอนนั้นมีการประกาศหาผู้ที่จะสามารถรักษาเจ้าหญิงเซร่าที่นิทราอย่างไร้สาเหตุหรือแม้แต่พวกพ่อมดจอมเวทย์เองก็ยังไม่สามารถรักษาได้ เจ้าหญิงเซร่าจึงนิทรามาตลอดสามปีจนบัดนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นเลยแต่ในขณะนั้นลินดาพี่สาวแท้ๆของโทมัสผู้เป้นลูกพี่ลูกน้องอีกคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
วินเนียสกอดอก"ท่านไม่ควรที่จะวัดความสามารถคนด้วยอายุหรอกนะ ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ถ้าให้นางลองรักษาดู"
"พอเถอะวินเนียส ข้าหมดหวังแล้วกับเรื่องนี้"เจ้าชายเซตเอ่ยด้วยน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก
หากแต่องครักษ์หนุ่มเถียงกลับ"ตอนนี้เจ้าหญิงยังมีพระชนม์ชีพอยู่ก็ยังมีความหวังว่าท่านจะมีโอกาสหาย"
ยังไม่ทันทีเซตจะโต้กลับ เสียงเคาะประตูดังขึ้น วินเนียสจึงละไปเปิดประตูก็พบว่า
"ท่านเซตตตต!!"เด็กสาววัยสิบหกร่างบอบบางผมทองลอนสลวยมัดแกละสองข้างผูกด้วยริบบิ้นสีแดงตาสีน้ำผึ้งหวานผิวขาวเนียนในชุดกระโปรงแขนตุ๊กตายาวคลุมเข่าสีชมพูหวานสวมถุงน่องสีขาวกับรองเท้าส้นเตี้ยสีแดงขัดเงาวิ่งเข้าไปหาเซตที่นั่งอยู่ทำเอาเซตหลบไม่ทันเลยโดนเด็กสาวคนนั้นกอดแน่น
คนถูกกอดแน่นร้องขอ"เรนนี่ ปะ..ปล่อยข้าก่อนข้าอึดอัด"หากแต่เด็กสาวแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินซะงั้นเซตพยายามจะขอให้องครักษ์คนสนิทช่วยแต่ทว่า วินเนียสได้เดินออกไปไกลแล้วโดยส่งสายตาบอกว่า 'งานนี้ช่วยตัวเองเถอะ ท่านเซต ข้าไม่เกี่ยว'เซตคิดอย่างเจ็บใจ...จำไว้เลยวินเนียส...ตอนนี้เขาต้องหาทางให้เรนนี่ว่าที่พระคู่หมั้นปล่อยตนซะก่อนที่ตนจะขาดอากาศหายใจตาย
"ท่านเซตค่าา ข้าคิดถึงท่านจังเลย ท่านคิดถึงข้าบ้างไหมค่ะ"
"จ้ะๆ ได้โปรดปล่อยข้าก่อน"เรนนี่ยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดี เซตไอโขกๆ
เรนนี่ถามขึ้น"ท่านเป็นอย่างไรบ้างค่ะ"
"ไม่เป็นไรจ๊ะ"แม้หน้าจะฝืนยิ้มหากแต่ในใจของเซตนั้น...ใช่ซะที่ไหน!เมื่อกี้เกือบขาดอากาศหายใจตายแล้ว...
เด็กสาวกอดแขนร่างสูงพลางออดอ้อน"วันนี้ท่านพาข้าไปชมดอกไม้ที่อุทยานหน่อยสิ"
เซตแกะแขนของอีกฝ่ายที่กอดแขนตนพลางตอบ"คงไม่ได้หรอกเรนนี่ วันนี้ข้ายุ่งเอาไว้ครั้งหน้าก็แล้วกัน"แล้วหยิบเอกสารบนโต๊ะมาตรวจดู
เด็กสาวเท้าสะเอวพลางประชด"อีกแล้ว ครั้งที่แล้วก็ไว้ครั้งหน้าๆ ครั้งนี้อีก ท่านยังเห็นข้าเป็นคู่หมั้นอยู่รึเปล่า"
เจ้าชายหนุ่มตัดรำคาญ"ก็ได้ๆไว้ข้าเสร็จงานแล้วเราไปชมอุทยานกันนะแต่ถ้าไปตอนนี้แดดออกจะร้อน ข้าว่าไว้บ่ายๆเราค่อยไปกัน"
เรนนี่ตาเป็นประกาย"จริงเหรอๆ ไว้ข้าจะรอนะท่านเซต ข้าไม่กวนแล้ว"ว่าแล้วเธอก็ถอนสายบัวอย่างงดงามแล้วเดินจากไป
พอลับร่างของพระคู่หมั้นเจ้าชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่"ท่านแม่นะท่านแม่ทำไมต้องจับข้าหมั้นกับเรนนี่ด้วยก็ไม่รู้"สำหรับเขานั้นเรนนี่ คือน้องสาวคนหนึ่ง ทั้งคู่ถูกจับหมั้นตั้งแต่เด็ก เรนนี่เป็นบุตรีของท่านเรนเดล ผู้เป็นท่านลุงของเขา หรือง่ายๆเรนนี่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาเช่นเดียวกับลินดาและโทมัสที่เป็นบุตรของท่านโคเดลผู้มีศักดิ์เป็นน้าของเขา เรนนี่ก็น่ารักและงดงามสมวัยหากติดที่นิสัยเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจขี้วีนเท่านั้นแหละที่หลายๆคนเอือมระอา
ทางด้านวินเนียส
ตอนนี้เขาได้เดินออกมาจากห้องทรงงานของเจ้าชายเซตเพราะตัวเขาเองก็ไม่ค่อยชอบท่านหญิงขี้วีนคนนี้ซักเท่าไหร่เช่นเดียวกับนางข้าหลวงและมหาดเล็กคนอื่นๆหากเทียบกับท่านหญิงลินดาที่หายตัวไปเมื่อสามปีก่อนแล้วคนละเรื่อง รายนั้นทั้งสุภาพอ่อนหวานและอ่อนโยนเป็นแม่บ้านแม่เรือนที่จริงเขาก็ชอบนางแต่ติดที่ว่านางอายุมากกว่าเขาถึงห้าปี
อีกด้าน
เจ้าหญิงอาเรนเทียนั้นกำลังเดินเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเธอเดินไปถึงหอคอยสีขาวที่รอบๆปลูกดอกกุหลาบสีแดงสดส่งกลิ่นหอมมีทหารหญิงเฝ้าอยู่สี่คน
...อึก!ทำไมรู้สึกถึงพลังมนต์ดำที่อยู่ในหอคอยนี่ล่ะ...ความสงสัยนั้นมีอยู่เต็มอกของเจ้าหญิงแห่งคาลาสเหลือเกิน เธอหันไปมองที่ยอดหอคอยพลางคิด...ที่นั่นต้องมีอะไรซักอย่างเป็นแน่...พลังมนต์ดำมีมากพอสมควรเลยเชียว...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ