ตำนานรักแห่งสายลม
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
31) บทที่ 28 เต้นรำภายใต้แสงดาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตลอดงานเลี้ยงที่เหล่าเซนทอร์ต่างได้จัดขึ้น เซตรู้สึกว่าตนนั้นโดนเพ่งเล็งเข้าเสียแล้ว ก็สมควร เพราะเขาเพิ่งแกล้งเซนทอร์มานี่นา เพียงเขาแค่เอื้อนเอ่ยเพียงไม่กี่คำก็เท่านั้น เดิมทีเทียนั้นไม่ค่อยชอบพวกเซนทอร์ซักเท่าไหร่ ยิ่งตัวที่ทำเจ้าชู้ตาหวานใส่ด้วยแล้ว นางยิ่งไม่ชอบ ครั้งนี้ทำให้เขาได้เห็นอีกด้านหนึ่งของนาง ด้านที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ซึ่งนางหยิ่งมาก มากเสียจนลืมดูกำลังของตนเอง ลืมว่าตนนั้น ก็ยังคนเป็นสตรีนางหนึ่งที่บอบบาง ถึงแม้ว่านางจะเป็นผู้ใช้มนตราก็ตามเถอะ แต่พอเอาเข้าจริงๆ นางใช้เวทย์มนต์สู้ด้วย ไม่ว่าเขา วินเนียส หรือเจ้าเซนทอร์นั่น นางคงจะจัดการได้เพียงไม่กี่อึดใจ แต่เด็กสาวผู้ใช้มนตราคนนี้ไม่ได้มีอคติ นางเป็นคนใจกว้างและเป็นมิตรพอสมควรเลยล่ะ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ในตอนนี้ จอมเวทย์สาวกำลังเต้นรำรอบกองไฟกับเหล่าเซนทอร์สาว และเซนทอร์เด็ก อย่างสนุกสนาน ถึงแม้ในตอนแรกจะดูเก้ๆกังๆไปบ้าง เพราะไม่ค่อยเข้าใจจังหวะเพลงที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีอันแสนแปลกตา ปล่อยให้เขานั่งดื่มสุราพลางกินเนื้อย่างแต่เพียงลำพัง
"ท่านเซต"จอมเวทย์สาวเข้ามาดึงมือของเจ้าชายที่กำลังดื่มสุราให้ลุกขึ้น พร้อมเอ่ยชวนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม"ไปเต้นรำกันๆ"
"ข้าเต้นไม่เก่งนะ เทีย"
แต่เด็กสาวไม่ฟัง พยายามฉุดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น"ไปเต้นเถอะ"
ชายหนุ่มยังคงปฏิเสธ
"ฮ่าๆ ถ้าไม่เต้น เจ้าก็ไม่ต้องไปชวนหรอก" มาคัสเดินมาใกล้จอมเวทย์สาว "ข้าจะเต้นกับเจ้าเองสาวน้อย"
ทำเอาอาเรนเทียทำตัวไ่ม่ถูกเลยงานนี้
เซตหน้าหงิกเพียงครู่ ก่อนจะแปรเปลี่ยน"ใครว่าข้าจะไม่ไปล่ะ ไปเต้นกันเถอะเทีย"ว่าจบก็ดึงร่างบางให้เข้าร่วมวงเต้นรำรอบกองไฟเสียเอง
จอมเวทย์สาวได้แต่งุนงงก่อนที่จะ ไปเต้นรำกับเจ้าชายแห่งเฮลเทีย
สำหรับมาคัสนั้นไม่ค่อยพอใจเข้าหนุ่มผมทองคนนี้เลย แต่เขาพยายามสะกดอารมณ์ไว้
สองหนุ่มสาวผู้เป็นแขกพิเศษ เต้นรำกันอย่างเพลิดเพลิน
จนกระทั่งอาเรนเทียเริ่มสังเกตว่าเซตคงจะเริ่มเมาเสียเเล้ว เพราะใบหน้าหล่อเหลานั้นเริ่มแดงเพราะฤทธิ์สุรา ตัวนางเองก็ไม่อยากอยู่ตามลำพัง
"ท่านเซต ข้ารู้สึกง่วงแล้วสิ ท่านไปส่งข้าที่กระโจมหน่อยเถอะนะ"
เซตนั้นยังมีสติอยู่ดี จึงเดาความคิดของจอมเวทย์สาวได้ จึงตอบรับ"ได้สิ" เจ้าชายแห่งเฮลเทียก็โค้งศีรษะให้ คนในงานเเล้วเอ่ยเสียงดัง "ทุกท่านข้าขอขอบคุณมาก สำหรับงานเลี้ยงสำหรับพวกเรา ในตอนนี้ข้ากับเทีย ขอตัวไปพักก่อน พรุ่งนี้เราต้องเดินทางต่อ ขอบคุณ" ว่าจบทั้งคู่ก็พากันเดินไปยังที่พัก โดยที่เหล่าเซนทอร์ทั้งหลายยังคงฉลองกันต่อ
พอได้ยินว่ามาเด็กสาวจะเดินทางในวันพรุ่งแล้ว ใจมันก็ห่อเหี่ยว มาคัสตรงไปยกถังบรรจุสุรา ดื่มไปเสียหลายอึก จนเพื่อนๆต้องห้าม
"มาคัสๆ เจ้าเพลาๆบ้างเถิด"
"เรื่องของข้า"
เซนทอร์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น"ข้ารู้นะว่าเจ้า ชอบเด็กสาวนางนั้นเสียแล้ว"
คำพูดของเพื่อนนั้นช่างเสียดแทงใจเขาเสียเหลือเกิน
มาคัสวางถังสุราลง"ใช่ เกล ข้าคงจะหลงรักนางเข้าเสียแล้ว"
เซนทอร์เกล เป็นเซนทอร์ที่ใจเย็นเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ทำได้แต่ปลอบ"ข้าว่า เจ้าทำใจเสียเถอะ ข้าดูลักษณะของเด็กสาวคนนั้นเเล้ว ฐานะต้องไม่ใช่ธรรมดาแน่ แต่ก็นะ ข้าเองก็เห็นใจเจ้า เจ้าจะหลงเสน่ห์ของนาง มันก็ไม่แปลกซักเท่าไหร่หรอก ก็นางออกจะงดงามออกขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็อดที่จะหลงใหลในความงามนั้นไม่ได้ สืบไปเด็กคนนั้น จะต้องงดงามยิ่งขึ้นอีกแน่ เพื่อน"
ทางด้านของเซตและอาเรนเทีย ในตอนนี้ทั้งคู่ก็กำลังเดินไปยังที่พัก โดยที่เซตมาส่งเทียก่อน
พอใกล้ถึงกระโจม
"ขอบคุณท่านมาก ท่านส่งข้าแค่นี้ก็พอ"
หากแต่เจ้าชายแห่งเฮลเทียกลับจับมือของเด็กสาวเอาไว้
"ท่านมีอะไรเหรอ?"
ไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงเสียงพริ้วไหวไปตามลมทะเลของเหล่าใบไม้ใบหญ้าที่มีเพียงน้อยนิด เท่านั้น
เซตเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน"เต้นรำกับข้าได้ไหม? เทีย" ว่าจบเขาก็โค้งตัวเเล้วจับมือนิ่มของร่างบางมาจุมพิต
ในใจของเจ้าชายแห่งเฮลเทียไม่รู้ว่าเด็กสาวตรงหน้าจะตอบรับรึไม่ ที่เขาเอ่ยชวนนางก็เพราะบรรยากาศในยามนี้ชวนให้เขาอยากเต้นรำกับเด็กสาวผู้ใช้มนตราผู้นี้เสียเหลือเกิน
การกระทำของอีกฝ่าย ทำใจของเด็กสาวเต้นระรัว ท่าทีอันอ่อนโยนและมีเสน่ห์นั่นทำให้นางปฏิเสธไม่ลง"ได้สิ"
เซตค่อยๆโอบร่างเล็กนั่น จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเต้นรำกันกันอย่างเพลิดเพลิน ทั้งคู่นั้นรู้สึกว่าตนกำลังเต้นรำภายใต้เเสงไฟที่ส่องสว่าง อยู่ในห้องโถ่งของพระราชวังแสนหรูหราโอ่อ่า และงดงาม มีวงดนตรีคอยบรรเลงเพลงอย่างช้าๆ ด้วยทำนองอันแว่วหวาน รู้สึกว่าอาภรณ์ที่สวมใส่อยู่นั้นแปรเปลี่ยน เป็นอาภรณ์งดงามหรูหรา โดยเซตได้สวมชุดสีขาว ขลิบทอง สวมผ้าคลุมสีขาวปักอักขระสีทองลายวิจิตร ทำให้เขายิ่งหล่อเหลาแลสง่างามมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับอาเรนเทีย อาภรณ์พื้นเมืองก็แปรเปลี่ยน กลายเป็นอาภรณ์เนื้อนิ่มสีขาวมุข ส่องประกายระยิบระยับราวกับแสงดาวที่ส่องสกาวบนท้องฟ้า ยิ่งทำให้คนที่งามอยู่แล้วงามยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า อยู่ในอำนาจแห่งภาพลวงตาของเทพธิดาประจำเกาะเข้าเสียแล้ว...
ซูม่าที่เฝ้ามองเจ้าหญิงแห่งคาลาสก็นึกแปลกใจที่เจ้าหญิงคนงามคลาสสายตาไป ราวกับมีใครจงใจปิดเขาไว้...อยู่ที่ไหนกัน...
เทพธิดาประจำเกาะมองดูสองหนุ่มสาวผู้เป็นเนื้อคู่กำลังเต้นรำกันอย่างมีเพลิดเพลินในห้วงฝันแห่งภาพมายาที่เธอสร้างอย่างมีความสุข มันช่างเป็นภาพที่งดงามเสียเหลือเกิน
"ด่านต่อไปไม่ง่ายแน่ ถือซะว่า นี่คือของขวัญจากเราก็แล้วกัน ขอให้โชคดี..."
เซตและอาเรนเทียต่างเต้นรำกันอย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งเหล่านักดนตรีบทเพลงได้บรรเลงจบ ภาพมายาทั้งหลายก็มลายหายไป ทั้งคู่ได้สติแล้วผะออกจากกันโดยอัตโนมัต เเล้วปรากฏว่าทั้งคู่อยู่หน้ากรโจมที่พักของจอมเวทย์สาวแล้ว
อาเรนเทียเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน"เต้นรำกับท่านข้าสนุกมากเลย รู้สึกเหมือนกับว่าเราได้เต้นรำในวังเลย"
เซตยิ้มตอบ เขาอดแปลกใจไม่ได้ หากนางไม่ได้ใช้เวทย์มายา ก็น่าจะเป็นฝีมือขอวเทพธิดาประจำเกาะแห่งนี้"เอาไว้...เราได้ตัวยาทุกอย่างมาแล้ว กลับไปที่เฮลเทียเมื่อไหร่ เราสองคน....ค่อยมาเต้นรำด้วยกันอีกนะ"
"ได้สิ"เจ้าหญิงจอมเวทย์ยิ้มรับ ก่อนจะเดินเข้าไปยังกระโจม "เจอกันพรุ่งนี้นะท่าน"อาเรนเทียนึกบางอย่างได้" อ้อ ข้าขอเตือน เรื่องนี้สำคัญมาก หากเราไม่รีบทำเวลา ข้าอาจโดนสายลมแห่งชะตาพากลับไปก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นพวกท่านจะลำบาก ข้าขอแนะนำว่าทางที่ดีเราไม่ควรแวะบนบกโดยไม่จำเป็นจะดีกว่า"
"ทำไมล่ะ"
"ก็ข้าร่ายมนต์เอาไว้ให้เรือสามารถแล่นได้รวดเร็วกว่าเรือธรรมดา ไม่อยากนั้นกว่าเราจะมาถึงที่นี่ได้ ก็กินเวลาหลายอาทิตย์นะ เพราะถ้าข้าจากไปกระทันหันมนต์ที่ร่ายไว้ก็จะเสื่อมลงได้ ข้าไม่อยากให้พวกท่านต้องลำบาก"
เซตยิ้ม"ขอบคุณที่เตือนสติข้านะ"
"ไม่เป็นไร ก็พวกท่านน่ะมีคนที่รอคอยอยู่นะ"ว่าจบจอมเวทย์สาวก็เข้าไปในกระโจม
คำพูดของเด็กสาวทำให้เขาฉุกคิดขึ้นได้ ทั้งตัวเขาและวินเนียสต่างก็มีคนรอคอยอยู่เบื้องหลังเช่นเดียวกับเทีย สำหรับเทีย การที่นางไม่สามารถกลับไปยังบ้านของตัวเอง นางก็ได้บอกเขาไว้แล้วตั้งแต่ช่วงแรกๆว่า ถึงนางจะสามารถหาวิธีกลับบ้านได้โดยไม่ต้องใช้เวทย์มนต์ แต่นางก็ไม่อาจเดินทางไปยังทิศทางของบ้านเกิดของตัวเองได้ด้วยอำนาจของสายลมแห่งชะตา ที่จะไม่ให้คนที่โดนกระแสลมพามาได้กลับบ้านเกิดเองได้ มีแต่สายลมแห่งชะตาเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำพากลับไป ซึ่งโชคดีที่นางสามารถนำทางและช่วยเหลือเขาในการถอนคำสาปของพี่สาว ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องลำบากแน่ๆ
ซูม่าใช้เวทย์ค้นหาเจ้าหญิงอาเรนเทีย อยู่นาน ก็พบว่าเจ้าหญิงคนงามกำลังนอนหลับในกระโจมด้วยสีหน้าชวนฝันโดยที่ไม่ลืมที่จะกางเวทย์ป้องกันอาณาเขตของตัวเองเอาไว้ นับว่ารอบคอบมาก ซึ่งทำให้เขาค่อยโล่งใจ ไม่อย่างนั้น หัวเขาอาจจะหลุดออกจากบ่า ข้อหา ละเลยหน้าที่ ก็เป็นได้
"เฮ้อ...จริงๆเลย ใจหายใจคว่ำหมดเลยเรา"จอมเวทย์หนุ่มบ่นกับตัวเองก่อนจะล้มตัวนอนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากกระโจมของเจ้าหญิงแห่งคาลาสแล้วถอนใจเบาๆ "วันนี้ ยุ่งวุ่นวายเสียจริงๆ"แน่นอน เขามั่นใจว่า วันพรุ่งนี้ ความยุ่งวุ่นวาย จะต้องมาพร้อมกับการเดินทางของเทพมังกรแห่งคาลาส แน่ เขามั่นใจ...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ