ตำนานรักแห่งสายลม
9.0
เขียนโดย นิกซ์
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 23.38 น.
34 ตอน
13 วิจารณ์
38.39K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 20.00 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่1 เจ้าหญิงแห่งแดนมนตรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ อาณาจักรคาลาสดินแดนแห่งมนตรา
อาณาจักรมนตราที่มีภูเขาน้ำแข็งล้อมรอบประชาชนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อาณาจักรนี้ปกครองโดยกษัตริย์ชามากส์ ผู้ทรงธรรม และราชินีทีเรนเซีย ราชินีผู้สง่างาม ทั้งสองมีโอรสธิดาอยู่สองพระองค์ หนึ่งคือ เจ้าชายอาเรีย ผู้เก่งกาจและงามสง่าสมเชื้อขัตติยา สอง เจ้าหญิงอาเรนเทีย ผู้มีฉายาว่า เทพมังกร เนื่องจากวันที่เจ้าหญิงน้อยได้ถือกำเนิดนั้นได้มีแสงสีขาวพุ่งออกมาจากปราสาทดอกไม้ในอาณาจักรบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนไปทั่วจนเกิดคำล่ำลือว่านางคือเทพมังกรมาจุติ เจ้าหญิงน้อยผู้เกิดมามีพลังเวทย์มหาศาลเป็นที่น่าเกรงขามต่ออาณาจักรใกล้เคียง
ปราสาทคาลาส
"เจ้าหญิงอยู่ไหน" เสียงแม่นมวัยห้าสิบกว่าในชุดแม่บ้านสีดำดังขึ้นเมื่อตนมาปลุกเจ้าหญิงอาเรนเทียแต่เจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ที่ห้องบรรทมแล้ว เหล่านางกำนัลต่างช่วยกันหาให้วุ่น
ผู้เป็นแม่นมบ่นขึ้น"เจ้าหญิงนะเจ้าหญิงทำตัวเป็นเด็กไปได้ นี่อายุก็จะสิบห้าแล้วนะ"
"ท่านเลี้ยงน้องเรามากี่ปีแล้ว ยังไม่ชินกับนิสัยแก่นแก้วซุกซนของอาเรนเทียอีกรึ"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น
ผู้เป็นแม่นมหันไปทางต้นเสียงพร้อมย่อกายคาารวะชายหนุ่มผิวขาว ผมสีน้ำเงินแซมดำ ตาสีเขียวมรกตทรงเสน่ห์วัยยี่สิบ ในชุดเสื้อคอตั้งแขนยาวสีขาวปักดิ้นทองกางเกงยาวทรงกระบอกและสวมผ้าคลุมสีดำปักดิ้นทอง ตรงกลางมีตรารูปปีกหงส์อันบอกถึงฐานะของชายหนุ่มผู้นี้เขายกมือขึ้เป็นสัญญาณรับการคารวะ
แม่นมยืนขึ้น"ก็เจ้าหญิงน่ะสิเพคะ ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หม่อมฉันล่ะปวดหัวเหลือเกินเจ้าชายอาเรีย"
เจ้าชายอาเรียยิ้มน้อยๆเพราะตัวเขาเองก็รู้ดีว่าน้องสาวของตนน่ะฤทธิ์ร้ายขนาดไหน"เอาเถอะท่านงั้นเราไปก่อนล่ะ ขอให้หาน้องหญิงของเราให้เจอ"ว่าแล้วเจ้าชายอาเรียก็เดินไปทิ้งให้แม่นมและเหล่านางกำนันตามหาตัวเจ้าหญิงตัวร้ายต่อไป
อีกด้านหนึ่ง
ที่บนกำแพงปราสาทคาลาส มีร่างงามระหงผอมเพียวของเด็กสาวผิวขาว ตาสีเขียวมรกตทรงเสน่ห์ ผมสั้นป่ะบ่าสีน้ำเงิน วัยสิบสี ในชุดเสื้อคอตั้งแขนยาวสีดำปักดิ้นเงินกางเกงขาสั้นสีดำสวมถุงน่องสีดำและรองเท้าบู๊ทหนังสีน้ำตาล เธอสวมผ้าคลุมยาวสีดำปักดิ้นเงินตรงกลางมีตรารูปปีกหงส์อันบ่งบอกถึงฐานะของเด็กสาว ดวงตากลมโตสีมรกตนั้นมองไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีเหล่าผีเสื้อหลากสีโบยบินตรงสุดขอบมีป่าทึบ สายลมอ่อนๆได้พัดมาทำให้ผมสีน้ำเงินและผ้าคลุมพริ้วสะบัดไปตามแรงลม เด็กสาวตัดสินใจกระโดดลงมาจากกำแพงสูงสีขาวอย่างง่ายดายแล้วผิวปากสองสามที ไม่นานอาชาพ่วงพีกำยำสีขาวบริสุทธิ์ก็เดินออกมาหาเธอ เด็กสาวลูบหัวมันก่อนจะปีนขึ้นหลังและควบเจ้าอาชาคู่ใจไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจี
ร่างบางบังคับม้าให้ชะลอฝีเท้าให้ช้าลงเธอควบม้าเดินไปที่ทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ผลิบานและส่งกลิ่นหอม เจ้าหญิงน้อยสูดอากาศที่หอมบริสุทธุ์เข้าเต็มปอดก่อนจะพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี"วันดีอากาศดีจัง ดอกไม้บานเต็มไปหมด"ว่าเเล้วก็เอามือลูบหัวเจ้าอาชาขาวแล้วถาม"เจ้าเห็็นด้วยไหม ฟิลิป" เจ้าอาชาขาวส่งเสียงร้องอย่างยินดี รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนดวงหน้างาม
เธอตัดสินใจพักที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ เมื่อผูกม้าไว้กับต้นไม้แล้วก็ล้มตัวนอนอย่างสบายใจ ลมเย็นๆได้พัดมาทำให้ใบหญ้าและดอกไม้เสียดสีกันจนเกิดเสียงดั่งบทเพลงที่ธรรมชาติกำลังขับกล่อมร่างบางระหงให้นินทราอย่างผาสุข
...สักพัก...
เสียงฝีเท้าดังขึ้นทำให้ร่างบางที่นินทราอยู่ตื่นขึ้นเธอชักมีดสั้นที่พกติดตัวขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว เสียงฝีเท้านั้นได้ใกล้เข้ามาร่างบางรีบลุกขึ้นแล้วหันไปทางต้นเสียง แต่แล้วเธอก็ต้องเก็บมีดสั้นทันทีเพราะบุคคลตรงหน้าคือพี่ชายแท้ๆของเธอเอง เด็กสาวเริ่มพูดก่อน "ท่านพี่เองรึ"
เจ้าชายอาเรียอดไม่ได้ที่จะบ่นใส่น้องสาวตัวแสบ"เอาอีกเเล้วนะอาเรนเทียแอบหนีออกจากวังมาเที่ยวเล่นแบบนี้แล้วยังไม่ร่ายมนต์ป้องกันตัวอีกรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง"
เจ้าหญิงอาเรนเทียยิ้มแล้วพูดขึ้น"โธ่ท่านพี่ ที่นี่เป็นอาณาจักรของเรา บ้านของข้า ไม่มีใครกล้าทำร้ายข้าหรอก"
ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ"เจ้าก็รู้นะว่าเจ้าเป็นใคร มีหน้าที่อะไร เจ้าไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ"
"ข้ารู้ข้ารู้ว่าเป็นเจ้าหญิงหน้าที่มากมายนักไม่ต่างจากกษัตริย์หรือเจ้าชายรัชทายาทเลย"เมื่อรู้ว่่าอีกฝ่ายเริ่มโกรธเจ้าหญิงน้อยก็เข้ากอดแขนพี่ชายพลางออดอ้อน"ท่านพี่อย่าโกรธข้าเลยนะ นะๆ"
เจ้าชายอาเรียส่ายหน้า"เอาเถอะๆเจ้ากลับวังได้แล้ว ในวังตอนนี้คงตามหาเจ้าให้วุ่น"
เจ้าชายอาเรียไปแก้เชือกที่ผูกเจ้าอาชาขาวฟิลิปแล้วจูงม้าเดินนำน้องสาวตัวแสบ
...ระหว่างทาง...
คลื่นสายลมปริศนามาจากทางด้านหลังของเจ้าหญิงอาเรนเทีย
"ท่านพี่!!!!!ช่วยข้าด้วย!"ร่างบางร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียงเมื่อคลื่นสายลมปริศนานั้นกำลังจะดุดตัวเธอเข้าไป
"อาเรนเทีย!"เจ้าอาเรียร้องอย่างสุดเสียงและพยายามคว้ามือของผู้น้องสาวที่กำลังถูกคลื่นสายลมดูดเข้าไป
"ท่านพี่!!!"ร่างบางร้องเรียกผู้เป็นพี่ จากนั้นร่างของเจ้าหญิงอาเรนเทียก็หายไปพร้อมกับคลื่นสายลมปริศนาเหลือแต่ความว่างเปล่า
สิ้นเสียงของเจ้าหญิงอาเรนเทียเจ้าชายอาเรียรีบขึ้นขี่อาชาขาวกลับไปยังปราสาท...อาเรนเทีย รอพี่ก่อนนะพี่จะหาทางช่วยเจ้าเอง...
อาณาจักรมนตราที่มีภูเขาน้ำแข็งล้อมรอบประชาชนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อาณาจักรนี้ปกครองโดยกษัตริย์ชามากส์ ผู้ทรงธรรม และราชินีทีเรนเซีย ราชินีผู้สง่างาม ทั้งสองมีโอรสธิดาอยู่สองพระองค์ หนึ่งคือ เจ้าชายอาเรีย ผู้เก่งกาจและงามสง่าสมเชื้อขัตติยา สอง เจ้าหญิงอาเรนเทีย ผู้มีฉายาว่า เทพมังกร เนื่องจากวันที่เจ้าหญิงน้อยได้ถือกำเนิดนั้นได้มีแสงสีขาวพุ่งออกมาจากปราสาทดอกไม้ในอาณาจักรบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนไปทั่วจนเกิดคำล่ำลือว่านางคือเทพมังกรมาจุติ เจ้าหญิงน้อยผู้เกิดมามีพลังเวทย์มหาศาลเป็นที่น่าเกรงขามต่ออาณาจักรใกล้เคียง
ปราสาทคาลาส
"เจ้าหญิงอยู่ไหน" เสียงแม่นมวัยห้าสิบกว่าในชุดแม่บ้านสีดำดังขึ้นเมื่อตนมาปลุกเจ้าหญิงอาเรนเทียแต่เจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ที่ห้องบรรทมแล้ว เหล่านางกำนัลต่างช่วยกันหาให้วุ่น
ผู้เป็นแม่นมบ่นขึ้น"เจ้าหญิงนะเจ้าหญิงทำตัวเป็นเด็กไปได้ นี่อายุก็จะสิบห้าแล้วนะ"
"ท่านเลี้ยงน้องเรามากี่ปีแล้ว ยังไม่ชินกับนิสัยแก่นแก้วซุกซนของอาเรนเทียอีกรึ"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น
ผู้เป็นแม่นมหันไปทางต้นเสียงพร้อมย่อกายคาารวะชายหนุ่มผิวขาว ผมสีน้ำเงินแซมดำ ตาสีเขียวมรกตทรงเสน่ห์วัยยี่สิบ ในชุดเสื้อคอตั้งแขนยาวสีขาวปักดิ้นทองกางเกงยาวทรงกระบอกและสวมผ้าคลุมสีดำปักดิ้นทอง ตรงกลางมีตรารูปปีกหงส์อันบอกถึงฐานะของชายหนุ่มผู้นี้เขายกมือขึ้เป็นสัญญาณรับการคารวะ
แม่นมยืนขึ้น"ก็เจ้าหญิงน่ะสิเพคะ ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หม่อมฉันล่ะปวดหัวเหลือเกินเจ้าชายอาเรีย"
เจ้าชายอาเรียยิ้มน้อยๆเพราะตัวเขาเองก็รู้ดีว่าน้องสาวของตนน่ะฤทธิ์ร้ายขนาดไหน"เอาเถอะท่านงั้นเราไปก่อนล่ะ ขอให้หาน้องหญิงของเราให้เจอ"ว่าแล้วเจ้าชายอาเรียก็เดินไปทิ้งให้แม่นมและเหล่านางกำนันตามหาตัวเจ้าหญิงตัวร้ายต่อไป
อีกด้านหนึ่ง
ที่บนกำแพงปราสาทคาลาส มีร่างงามระหงผอมเพียวของเด็กสาวผิวขาว ตาสีเขียวมรกตทรงเสน่ห์ ผมสั้นป่ะบ่าสีน้ำเงิน วัยสิบสี ในชุดเสื้อคอตั้งแขนยาวสีดำปักดิ้นเงินกางเกงขาสั้นสีดำสวมถุงน่องสีดำและรองเท้าบู๊ทหนังสีน้ำตาล เธอสวมผ้าคลุมยาวสีดำปักดิ้นเงินตรงกลางมีตรารูปปีกหงส์อันบ่งบอกถึงฐานะของเด็กสาว ดวงตากลมโตสีมรกตนั้นมองไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีที่มีเหล่าผีเสื้อหลากสีโบยบินตรงสุดขอบมีป่าทึบ สายลมอ่อนๆได้พัดมาทำให้ผมสีน้ำเงินและผ้าคลุมพริ้วสะบัดไปตามแรงลม เด็กสาวตัดสินใจกระโดดลงมาจากกำแพงสูงสีขาวอย่างง่ายดายแล้วผิวปากสองสามที ไม่นานอาชาพ่วงพีกำยำสีขาวบริสุทธิ์ก็เดินออกมาหาเธอ เด็กสาวลูบหัวมันก่อนจะปีนขึ้นหลังและควบเจ้าอาชาคู่ใจไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจี
ร่างบางบังคับม้าให้ชะลอฝีเท้าให้ช้าลงเธอควบม้าเดินไปที่ทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ผลิบานและส่งกลิ่นหอม เจ้าหญิงน้อยสูดอากาศที่หอมบริสุทธุ์เข้าเต็มปอดก่อนจะพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี"วันดีอากาศดีจัง ดอกไม้บานเต็มไปหมด"ว่าเเล้วก็เอามือลูบหัวเจ้าอาชาขาวแล้วถาม"เจ้าเห็็นด้วยไหม ฟิลิป" เจ้าอาชาขาวส่งเสียงร้องอย่างยินดี รอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นบนดวงหน้างาม
เธอตัดสินใจพักที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ เมื่อผูกม้าไว้กับต้นไม้แล้วก็ล้มตัวนอนอย่างสบายใจ ลมเย็นๆได้พัดมาทำให้ใบหญ้าและดอกไม้เสียดสีกันจนเกิดเสียงดั่งบทเพลงที่ธรรมชาติกำลังขับกล่อมร่างบางระหงให้นินทราอย่างผาสุข
...สักพัก...
เสียงฝีเท้าดังขึ้นทำให้ร่างบางที่นินทราอยู่ตื่นขึ้นเธอชักมีดสั้นที่พกติดตัวขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว เสียงฝีเท้านั้นได้ใกล้เข้ามาร่างบางรีบลุกขึ้นแล้วหันไปทางต้นเสียง แต่แล้วเธอก็ต้องเก็บมีดสั้นทันทีเพราะบุคคลตรงหน้าคือพี่ชายแท้ๆของเธอเอง เด็กสาวเริ่มพูดก่อน "ท่านพี่เองรึ"
เจ้าชายอาเรียอดไม่ได้ที่จะบ่นใส่น้องสาวตัวแสบ"เอาอีกเเล้วนะอาเรนเทียแอบหนีออกจากวังมาเที่ยวเล่นแบบนี้แล้วยังไม่ร่ายมนต์ป้องกันตัวอีกรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง"
เจ้าหญิงอาเรนเทียยิ้มแล้วพูดขึ้น"โธ่ท่านพี่ ที่นี่เป็นอาณาจักรของเรา บ้านของข้า ไม่มีใครกล้าทำร้ายข้าหรอก"
ร่างสูงขมวดคิ้วก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ"เจ้าก็รู้นะว่าเจ้าเป็นใคร มีหน้าที่อะไร เจ้าไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ"
"ข้ารู้ข้ารู้ว่าเป็นเจ้าหญิงหน้าที่มากมายนักไม่ต่างจากกษัตริย์หรือเจ้าชายรัชทายาทเลย"เมื่อรู้ว่่าอีกฝ่ายเริ่มโกรธเจ้าหญิงน้อยก็เข้ากอดแขนพี่ชายพลางออดอ้อน"ท่านพี่อย่าโกรธข้าเลยนะ นะๆ"
เจ้าชายอาเรียส่ายหน้า"เอาเถอะๆเจ้ากลับวังได้แล้ว ในวังตอนนี้คงตามหาเจ้าให้วุ่น"
เจ้าชายอาเรียไปแก้เชือกที่ผูกเจ้าอาชาขาวฟิลิปแล้วจูงม้าเดินนำน้องสาวตัวแสบ
...ระหว่างทาง...
คลื่นสายลมปริศนามาจากทางด้านหลังของเจ้าหญิงอาเรนเทีย
"ท่านพี่!!!!!ช่วยข้าด้วย!"ร่างบางร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียงเมื่อคลื่นสายลมปริศนานั้นกำลังจะดุดตัวเธอเข้าไป
"อาเรนเทีย!"เจ้าอาเรียร้องอย่างสุดเสียงและพยายามคว้ามือของผู้น้องสาวที่กำลังถูกคลื่นสายลมดูดเข้าไป
"ท่านพี่!!!"ร่างบางร้องเรียกผู้เป็นพี่ จากนั้นร่างของเจ้าหญิงอาเรนเทียก็หายไปพร้อมกับคลื่นสายลมปริศนาเหลือแต่ความว่างเปล่า
สิ้นเสียงของเจ้าหญิงอาเรนเทียเจ้าชายอาเรียรีบขึ้นขี่อาชาขาวกลับไปยังปราสาท...อาเรนเทีย รอพี่ก่อนนะพี่จะหาทางช่วยเจ้าเอง...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ