อาเรเมตาเรีย - ปฐมกาลหายนะ
เขียนโดย SFWitch
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.39 น.
แก้ไขเมื่อ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557 22.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ผู้ที่เหลือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ#7 ผู้ที่เหลือ
การไต่สวนฟรองซัวร์ จึงสิ้นสุดแค่นี้ คณะกรรมการลงมติว่าเขาไม่ใช่สายลับ และการไต่สวน จะมีขึ้นเพื่อจับเท็จหาสายลับเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้ เขามองว่า ฟรองซัวร์ ไม่ใช่ ผลสุดท้ายฟาร่าต้องอยู่ทำงานในภารกิจดาวตกต่อโดยทำหน้าที่ใหม่คือการดูแลฟรองซัวร์ ฟาร่าพาฟรองซัว์ไปยังโกดังเบต้าที่ซึ่งร่างของบุคคลที่มาจากดาวตกอีกสองร่างถูกแช่เอาไว้ในหลอดแก้ว
"แม่ของผมอายุ 53 แล้วแต่ก็ยังดูสาวอยู่ใช่มั้ยล่ะ" ฟรองซัวพูด ฟาร่ายืนข้างๆเขาตรงหน้าหลอดแก้ว 2 หลอดที่มีร่าง 2 ร่างอยู่ข้างใน
"ฉันเสียใจเรื่องแม่กับน้องของคุณ"
"ไม่เป็นไร ขอบคุณ เรารู้จักกันมากข่าววันที่ 3 แล้วทำไมผมยังจำชื่อไม่ได้ คุณชื่อว่าอะไรนะครับ" "ฟาร่าค่ะ " และเธอกล่าวว่า
"ต่อจากนี้ไปคุณจะเข้าสู่กระบวนการเตรียมตัวเพื่อเป็นประชากรของโซลันเดี๋ยวฉันจะพาคุณไปที่ห้องพัก"
ฟาร่าเดินนำชายหนุ่มไปยังห้องพักของเขาเมื่อถึงหน้าประตูห้องเธอก็ยื่นแทนแก้วให้เขา
"นี่คืออะไรครับ" ฟรองซัวร์ถาม
"นี่คือไอดีการ์ดชั่วคราวของคุณ หลังจากการสอบสวนเสร็จทางคณะกรรมการลงความเห็นว่า คุณไม่ใช่สายลับจากลูนและยินดีให้คุณเป็นพลเมืองโซลัน แต่ต้องอยู่ในความควบคุมอีก 120 วันจึงจะอนุมัติให้คุณเป็นพลเมือง โซลันได้อย่างสมบูรณ์"
ฟรองซัวร์รับแท่งแก้วขนาดนิ้วโป้งมาและพูดว่า "หวังว่าระบบไบโอถามในร่างกายของผมจะทำให้ผมอยู่ได้นานขนาดนั้นนะ"
ฟาร่ายิ้ม และพูดว่า "ตั้งแต่ตอนที่ดิซเข้ามา ฉันเลยไม่แน่ใจว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือเปล่าการเดิน ทางข้ามกาลเวลามันจะทำให้เกิดความผิดปกติในระบบสมองแต่ก็ไม่จะทำให้คุณตาย ได้เวลาในสองสามวัน พรุ่งนี้เจอกัน เราจะออกเดินทางแต่เช้า"
"เราจะไปไหนครับ"
"กลับบ้าน"
เจคอบวางแผ่นสื่อสารลงกับโต๊ะ เขาเคาะนิ้วเบาๆแล้วลุกพรวดเหมือนนึกขึ้นได้บางอย่าง เขาไปหยิบ เสื้อคลุมแล้วออกจากบ้าน เดินถนนวนขึ้นไปยังชั้น117 บ้านของฮาล
โซนที่พักของหอคอยแต่ละหอคอยถูกจัดกลุ่มเป็นโซนๆ ชั้นใต้ดินเป็นส่วนสาธารณูปโภค 30 ชั้นต่อมาเป็นส่วนหน่วยงาน ราชการ ท่าอากาศยาน ท่าขนส่ง เหนือขึ้นไปเป็นส่วนที่พักอาศัย ซึ่งก็มีทั้งบ้านคน ร้านค้า สถานพยาบาล ศูนย์เด็ก ฯลฯ โซนที่พักก็แบ่งไปตามขนาดของครอบครัว ไม่ได้หมายความว่า ถ้าคุณรวยจะได้มีบ้านหลังใหญ่เสมอไป บ้านหลังใหญ่อาจจะต้องแชร์ห้องพักให้กับคนอื่นก็เป็นได้ สำหรับชาวโซลแล้ว เงินทองไม่ใช่ปัญหา พวกเขาพอใจที่ได้อยู่แบบนี้ แม้ชาวโซลจะมีฐานะทางสังคมด้อยกว่าพวกลูกครึ่งแท้ๆ และพวกดิซ ก็ตาม พวกเขาไม่เดือดร้อนอะไร ตราบใดที่ทางการยังดูแล บ้านของฮาลมี 2 ชั้น มีโรงรถ ฮาลอยู่กับพ่อแม่พี่ชายที่แต่งงานแล้วกับภรรยาและยังมีน้องสาวฝาแฝดอีกด้วย จุดประสงค์ของเจคอบคือเจ้าหินก้อนนั้นที่ฮาลยกมาซ่อนไว้ที่โรงรถเพราะบ้านเจคอบไม่มีโรงรถและฮาลเป็น คนเดียวที่มีสกูตเตอร์ล่านิมส์ที่ซื้อเอง ไม่มีใครมบยุ่งกับโรงรถที่ฮาลทำเป็นห้องนอนด้วน เจคอบกดกริ่งประตูมีดรอยมาเปิดต้อนรับ ตามด้วยแมวอีกสบมตัวที่ฮาลเลี้ยงไว้ฮานพาเจคอบมาโรงรถทันที "ทีแรกก็ตกใจนะมีมืออยู่ในนี้"ฮาลพูดทันทีเมื่อทั้งสองเข้ามาในโรงรถ
ตรงหน้าพวกเขาคือก้อนผลึกขนาดเล็กกว่าเตียงนิดเดียวเลอะดินสีแดงและในนั้นก็มีมือคนอยู่
เจคอบจ้องเงามือรางๆที่ฝังอยู่ข้างในก้อนหินนั้น และเกิดคำถามขึ้นว่า ทำไมเห็นแค่มือ แล้วท่อนแขนกับลำตัวหายไปไหน
“เหมือนจะโดนแช่แข็งเอาไว้ แต่มันก็ไม่เย็นนะ” ข้างในน่าจะกลวงและมีพวกเยลลี่หรืออะไรสักอย่าง” ฮาลพูด พลางเดินไปหยิบเลเซอร์ตัดเหล็กมา
“นั่น นายจะทำอะไร”เจคอบถาม
“ก็จะเอาเลเซอร์นี่ตัด แบบว่า ค่อยๆ ผ่าตรงเปลือกของมันออกมาน่ะสิ” ฮาลว่า
“ระวังละ” เจคอบเตือน ฮาลเริ่มบรรจงกดหัวเลดซอร์ลงกับผิวของวัตถุด้านหนึ่งจนเกิดรอยแยกเล็กๆขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ กดประทับไปตามรอยแยกที่เกิดไปตามแนวนอน วนรอบวัตถุนั้น
“ช่วยกันยกฝาออกสิ” ฮาลสั่ง
เจคอบช่วยฮาลเลื่อนฝาออก
ทั้งสองก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเขาพบร่างหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ในนั้นมือครั้งหนึ่งที่พวกเขาเห็นมันยื่นออกมาในส่วนที่ถูกนั้นเป็นกระจกพอดี
"มาช่วยกัน ตายหรือยังนี้ "ฮาลมีสติดีเขารีบพลิกร่างนั้นออกมาจากฝาวัตถุ เป็นหญิงสาวอายุราว 16-17 เธอดูไม่เหมือนชาวโซลเพราะมีใบหน้ากลม คางเรียวแหลม หัวทรงกลมผมตัดสั้น เรียบร้อยสีน้ำตาลทองชุดที่สวมเป็นชุดบอดี้สูท เนื้อผ้ามันเลื่อมรัดรูป ตัวไม่สูง ไม่อ้วนและไม่ผอม ฮาลวางร่างเด็กจะเอาลงกับพื้น ตรวจดูชีพจรก็รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ "ชาวลูนหรือเปล่าเนี่ย" เจคอบตั้งข้อสงสัย ฮาลพินิจดูเธอแล้วออกความเห็นกับเจคอบไปว่า "ไม่น่าจะใช้ถึงทรงผมจะใกล้เคียงก็เถอะ" ชาวโซลไม่มีใครคิดตัดผมสั้นกันแบบนี้อีกแล้วคนที่ตัดสั้นก็คือพวกลูน แต่ดูไปดูมาก็ไม่เหมือนพวกเพราะพวกลูนไม่ได้ใส่ชุดแบบนี้ เจคอบสังเกตเห็นป้ายชื่อที่หน้าอกของเธอเข้า“ภาษาอะไรเนี่ย" เจคอบถามอีก "อันนี้ก็ไม่รู้เอางี้มาช่วยกันคิดกันก่อนเถอะว่าจะทำอย่างไรกับแม่คนนี้ดี "ก็ให้อยู่ที่นี่ซิ" "ได้ยังไงประชากรล้นเต็มอัตราแล้วถ้าทางการ มาตรวจก็แย่นะสิ" ฮาลตอบเสียงหนัก เจคอบเลยคิดหนักตาม "งั้นไปไว้ที่บ้านฉันก็ได้นะ "เจคอปเอ่ย “แม่นายจะไม่ว่าอะไร” ฮาลย้อนถาม “แม่ของฉันยังไม่กลับมาง่ายๆหรอก แล้วค่อยคิดหาทางกันอีกที” เจคอบบอก
เจคอบมักมีความคิดในวินาทีวิกฤติ ฮาลตกลงตามนั้น เขาอุ้มเด็กสาวขึ้นเบาะหลังของยานเหาะ ส่วนเจคอบนั่งข้างๆ ฮลค่อยถอยหลังยานออกจากโรงจอด ผืนป่าข้างล่างดูเล็กไปถนัดตา จากชั้นที่ 117 นี้ เจคอบยังไม่ได้ไปทำใบอนุญาตขับยาน เนื่องจากบ้านเจคอบไม่มีโรงรถ ถึงแม้ฟาร่าจะมีรถ แต่ก็ไม่ให้เจคอบขับ ฮาลจึงต้องใช้วิธีส่งที่นอกระเบียง โดยให้เจคอบปีนลงไปก่อน แล้วฮาลก็ส่งตัวเด็กสาวให้เจคอบรับอุ้มเข้าไปข้างในบ้าน ส่วน แคปซูลที่ถูกผ่าแล้ว ฮาลอาสาเอาไปกำจัดเอง หน้าที่ต่อจากนี้คือ เจคอบต้องเฝ้าดูเด็กสาวที่ยังคงหลับอยู่ต่อไป
นี่ก็สองสามวันตามที่ฟาร่าบอกไว้แล้ว ตอนนี้ ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะกลับมา เจคอบกระวนกระวายใจว่า ถ้าแม่กลับมาเจอเด็กสาวแปลกหน้านอนหลับในห้องของลุงเข้า จะว่า อย่างไร ผ่านมาสิบชั่วโฒงเธอก็ยังไม่ฟื้น เจคอบคอยเข้าไปดูเธอและห่มผ้าให้ตลอดทั้งคืน
เด็กสาวนอนท่าเดิมนานมากไม่พลิกตัวเลย จนเจคอบเกิดระแวงว่าเธอจะตาย ต้องคอยมาตรวจชีพจรอยู่บ่อยๆ แต่จริงๆแล้ว เธอก็แค่หลับอยู่
to be continue...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ