The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?

9.5

เขียนโดย Kreota

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.

  21 ตอน
  9 วิจารณ์
  26.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) เธอคือพะแพง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

[ 2 :: เธอคือพะแพง]

 

            “เฮ้ย!! แกจะทำอะไรน่ะ!”  เสียงพี่มาร์ชดังขึ้น พร้อมกับที่พี่ปาร์เกต์ถูกแยกออกไป

            “เฮ้อ...ฉันไม่ทำอะไรยัยขี้เหร่นี่หรอกน่า”  พี่ปาร์เกต์พูดแล้วล้มตัวลงนอนและหลับตาลงด้วยท่าทางเหนื่อยล้า จะมาเหนื่อยลงเหนื่อยล้าอะไรตอนนี้ห๊ะ! เมื่อกี๊ยังจิกกัดฉันอยู่เลย ชิ! ไอ้หล่อเอ้ย!! -*-! (ก็หล่อจริงอะไรจริงอ่ะ -_-;;)

            หลังจากสู้รบกับคนไข้คนแรกที่ปากจัดสุดๆ มาแล้ว ฉันก็กลับมาพักที่ห้องมิกกิบ้าง หวังว่าหลังจากนี้คงไม่มีอะยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้วนะคะคุณพี่ปาร์เกต์!

            “ที่แกไม่ยอมไปพักกับมหา’ลัยเพราะมิวใช่ไหม?”  อยู่ๆ มิกกิก็ถามขึ้น ฉันเลยชะงักมือที่กำลังเช็ดผมทันที

            มิว?...จริงสินะ เพราะเรื่องนี้จริงๆ นั่นแหละที่ทำให้ฉันมาอยู่ที่คอนโดนี่ ทั้งที่จริงแล้วฉันควรไปพักในที่ที่มหาวิทยาลัยจัดให้

            “ก็...ใช่”

            “ทำไม? มันยังไม่เลิกตื้อแกอีกรึไง”

            “ใช่...มิวบอกว่าจะไปรอรับ ฉันเลยเดินทางล่วงหน้ามาก่อนนี่แหละ”

            “แล้วไอ้ข้อความบ้าๆ นั่นยังส่งมาด่าแกอีกรึเปล่า”  มิกกิถามถึงข้อความที่ส่งมาด่าฉันเป็นอาทิตย์ๆ ฉันเคยโทรกลับไปก็ไม่ยอมรับสายฉันเลยได้แต่ตั้งรับรอคำด่าอยู่ฝ่ายเดียว =_=”  ส่วนเนื้อหาในข้อความที่จับใจความได้ก็มีแค่ ให้เลิกยุ่งกับมิว ฉันก็งงว่าฉันไปยุ่งกับมิวตอนไหน มีแต่หมอนั่นที่คอยโทรมา คอยส่งข้อความมาให้ -_-//

            “ก็มีส่งมาบ้าง แต่วันนี้กับเมื่อวานยังไม่เห็น เขาคงขี้เกียจส่งมาแล้วมั้ง”

            “ไอ้มิวนะไอ้มิว! มีแฟนอยู่แล้วจะมายุ่งกับแกอีกทำไม -*-!”

            ที่จริงจะโทษมิวฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะจริงๆ แล้ว ฉันเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เอง ถ้าตอนนั้นฉันไม่สารภาพรักกับมิวแล้วก็มัวแต่ตามตื้อเขา ทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนี้...

            “แล้วนี่แก...ยังชอบมิวอยู่ไหม?”

            ถามได้ตรงมากเพื่อน Y.Y

            “ว่าไง...เงียบทำไม แกยังชอบมันอยู่หรอ!”

            “เรื่องมันก็นานแบ้วนะมิกกิ ตั้งแต่ ม.ปลายโน่นฉันจะยังชอบมันอยู่ทำไม”

            “จะตอน ม.ปลายหรือว่าตอนนี้มันเกี่ยวกันตรงไหนล่ะ...เออๆ ฉันไม่ถามแล้วก็ได้ ยิ่งถามเดี๋ยวจะยิ่งไปสะกิดถ่านไฟเก่าให้มันลุกกว่าเดิม แต่ฉันขอบอกแกไว้เลยนะ ถ้าแกใจอ่อนยอมคบกับมันล่ะก็ ฉันจะเลิกกับแกเลย”  มิกกิพูดแล้วหันไปเล่นคอม ส่วนฉันก็เช็ดผมตัวเองต่อ ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉันมากแต่ถึงกับเลิกคบเนี่ย รุนแรงมากเลยนะ T.T แต่ถึงยังไง...ฉันก็จะไม่มีวันใจอ่อนกับมิวแน่ๆ เพราะฉันเหนื่อยมามากแล้วกับการต้องวิ่งไล่ตามคนๆ นี้

 

            ฉันกลับมาที่คอนโดด้วยสภาพที่ร่อแร่เต็มที่ นั่งฟังสัมมนาที่น่าเบื่อยังไม่พอยังต้องนั่งรถกลับมาอีก กว่าจะถึงก็ปาไปทุ่มกว่า เมืองกรุงนี่มันวุ่นวายจัง =_=;

            “น้ำปิง เพิ่งกลับมาหรอ ^_^”  พี่มาร์ชที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก่อนแล้วทักทายพร้อมรอยยิ้มทันทีที่ฉันเดินเข้าไป พี่มาร์ชนี่เป็นผีลิฟต์หรือยังไงเจอทีไรก็เจอแต่ในลิฟต์ -_-?

            “อ๋อ ค่ะ ^^”  ฉันยิ้มตอบ ก็ก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเหลือบไปเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่มาร์ช ตอนนี้พี่ปาร์เกต์แกะก๊อซที่แนติดให้เมื่อวานออกไปหมดแล้ว เลยเห็นรอยแผลเต็มแขนไปหมดแต่ที่ขาฉันไม่เห็นเพราะพี่เขาใส่กางเกงยีนขายาว

            “แผลยังไม่แห้งดี ฉันว่าอย่าเพิ่งใส่กางเกงจะดีกว่านะคะ”  ฉันพูดกับพี่ปาร์เกต์ผ่านกระจกเงาของลิฟต์ ฉันไม่ได้เป็นห่วงเขาหรอกนะ ฉันแค่กลัวว่าคนอื่นเขาจะคิดว่าฉันทำแผลไม่ได้เรื่องจนแผลอักเสบต่างหาก =_=

            “เธอมายุ่งอะไรด้วยยัยขี้เหร่ -_-”

            จบค่ะ! ไปไม่เป็นเลย -_-; หลังจากรับรู้สารรูปตัวเองในกระจกฉันก็ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ และตัดปัญหาโดยการไม่พูดอะไรต่อเพราะฉันยอมจำนนต่อหลักฐาน

            ...สภาพฉันดูไม่ได้จริงๆ แหละ (_ _;)

            ฉันเดินออกมาจากลิฟต์เงียบๆ และเดินกลับห้องมิกกิโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก อยู่อย่างคนขี้เหร่นี่ลำบากจริงๆ แต่มันน่าแค้นใจมากกว่าที่นายนั่นชอบพูดว่าฉัน ‘ขี้เหร่’ จนฉันเก็บเอาไปฝัน สะดุ้งตื่นทั้งคืนเลยให้ตาย =_=

            แต่ช่างเถอะพรุ่งนี้ฉันก็จะกลับแล้ว ต่อไปคงไม่ต้องมาทนอะไรแบบนี้อีกแล้วล่ะ ^^~ หลังจากคิดอะไรที่มันสบายได้แล้ว ฉันก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวซะใหม่เพราะทนสภาพของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

            ก๊อก! ก๊อก!

            อยู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู 2 ครั้งดังขึ้นก่อนที่ยานประตูจะเปิดพรวดเข้ามาโดยที่ฉันยังไม่ได้ไปเปิดให้ด้วยซ้ำ (ขอย้ำว่ามันดังแค่ 2 ครั้งจริงๆ สาบานได้ =_=;;)

            “มิกกิ!”  พี่ยศโผล่ส่วนหัวเข้ามาในห้องที่มีฉันซึ่งเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำยืนจังก้าอยู่กลางห้องด้วยชุดคลุมอาบน้ำตัวน้อยๆ อ๊ากส์ >///< พี่โย๊ดดด...เปิดเข้ามาทำม๊ายยย!!

            “เอ่อ...”  ฉันรู้สึกตัวเย็นวาบไปทั้งตัวแล้วรีบขยับเสื้อคลุมอาบน้ำให้กระชับยิ่งขึ้น ส่วนพี่ยศที่เห็นฉันในสภาพแบบนี้แล้วก็รีบก้มลงมองเท้าตัวเองทันที -///-

            “ทะ...โทษที พี่นึกว่ามิกกิอยู่ในห้อง”  พูดจบพี่ยศก็รีบปิดประตูห้องทันที ไม่นะ!...ความบริสุทธิ์ของฉัน >///<! ถึงฉันกับพี่ยศจะสนิทกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันจนเคยแก้ผ้าโทงๆ ให้กันดูหรอกนะ >.<//

            ฉันยืนอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อกี๊ได้สักพักใหญ่ โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นทำเอาตกอกตกใจหมด -_-! ฉันก่นด่ามือถือตัวเองในใจแล้วกดรับสายโดยไม่ได้ดูก่อนว่าใครโทรมา พอได้ยินเสียงปลายสายเท่านั้นแหละจากหัวใจที่กำลังเต้นรัวกลับหยุดเต้นไปกระทันหัน...

            “ฮัลโหล!”

            [เอ่อ...น้ำปิง เราเองนะ...นึกว่าจะไม่ยอมรับสายเราซะแล้ว]  เสียงของมิวดังมาจากปลายสาย ฉันพลาดอย่างมหันต์เลยที่ไม่ยอมดูก่อนว่าใครโทรมา -*-!

            “มีอะไร”  ฉันถามห้วนๆ เพราะยิ่งฉันนึกถึงข้อความที่ส่งมาด่าฉันอยู่ทุกวี่มุกวันแล้วก็ยิ่งโกรธ มีอย่างที่ไหน! คบกับอีกคนแต่ยังวิ่งตามตื้ออีกคน ถ้าฉันรู้ว่าเป็นคนชอบจับปลาสองมือแบบนี้ฉันไม่ตามจีบให้เสียเวลาหรอก -*-!!

            [ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ?]

            “ถ้าจะโทรมาพูดแค่นี้ เราจะวางแล้วนะ”

            [เฮ้ย! เดี๋ยวๆ...เราจะโทรมาถามว่าเมื่อวานเราไปรอรับทำไมไม่เจอปิงเลย เราอยากเจอปิงมากรู้ไหม]

            “พูดจบแล้วใช่ไหม?”

            [น้ำปิง...]

            “ไม่ต้อมาเรียกชื่อเรามิว!!...”  ฉันขบกรามพูด ขณะน้ำตาค่อยๆ เอ่ออยู่ที่เบ้า ไม่นะ! ฉันร้องไห้มามากแล้วกับผู้ชายคนนี้ ฉันจะต้องไม่ร้องไห้เพราะผู้ชายห่วยแตกคนนี้อีก!!

            “เจอตัวจนได้”  ในเวลาเดียวกับที่ฉันกำลังคุยกับมิวอยู่ ก็มีเด็กผู้หญิงผมบ๊อบคนหนึ่งเปิดประตูพรวดเข้ามาในห้อง รู้สึกว่าประตูห้องแกจะเสียนะมิกกิคนเปิดเข้าเปิดออกเป็นว่าเล่นเลย -_-;

            “จับได้คาหนังคาเขาเลยนะ!!”  ยัยนั่นย่างสามขุมเข้ามาชี้หน้าฉัน

            [พะแพง!!]  น้ำเสียงของมิวจากปลายสายฟังออกอย่างชัดเจนว่าตกใจมากที่ได้ยินเสียงเด็กคนนี้ดังอยู่ข้างๆ ฉัน สมองของฉันเริ่มประมวลเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือว่ายัยเด็กคนนี้เองที่ส่งข้อความมาด่าฉัน O_O!!

            “คิดหรอคะว่าอยู่คอนโดพี่มิกกิแล้วแพงจะไม่รู้!”  ยัยเด็กคนนั้นผลักฉันจนเสียหลักล้มลงบนโซฟา มือถือที่ฉันถือสายอยู่เลยหล่นลงไปกองที่พื้นแล้วดับไป เท่าที่ฉันจำได้น้องคนนี้เป็นน้องรหัสสมัย ม.ปลายของหมี่เกี๊ยว เพื่อนสนิทอีกคนที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับฉัน

            “น้องมีอะไร?”  ฉันทำใจดีสู้เสือถามออกไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าต้องเกี่ยวกับมิวแน่!

            “ก็เมื่อกี๊พี่คุยโทรศัพท์อยู่กับใครล่ะคะ!”

            “มิว...หรอ?”

            “ใช่! ทั้งที่พี่ก็รู้ว่าพี่มิวมีเจ้าของแล้ว แล้วทำไมยังมายุ่งวุ่นวายอีก! หรือว่าพี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง...จะให้บอกกี่ครั้งคะว่าให้เลิกยุ่งกับแฟนแพงได้แล้ว!!”  ยัยพะแพงเดินเข้ามาตะคอกใส่หน้าฉัน ฉันเลยดันตัวลุกขึ้นบ้าง หนอย!...นังเด็กคนนี้! มายืนด่าผู้ใหญ่ปาวๆ แบบนี้ได้ยังไงกัน!

            “พี่น่ะไม่ได้อยากยุ่งกับแฟนน้องเท่าไหร่หรอกนะ! แต่แฟนน้องมายุ่งกับพี่เอง!!!”  ฉันตะโกนกลับไปบ้าง เพราะที่ผ่านมาผู้หญิงทุกคนของมิวก็มักจะมาหาเรื่องฉันเสมอ (ไม่ใช่แค่ยัยคนนี้หรอก -_-) ทั้งที่ฉันกับมิวไม่เคยคบกันเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันก็มักโดนหางเลขว่าที่เขาเลิกกันเพราะว่าฉันเป็นมือที่สาม! ฉันทนไม่ไหวแล้ว!!!

            “ในเมื่อน้องมาถึงนี่แล้ว พี่ก็อยากจะขอความกรุณาช่วยไปล่ามโซ่คนของน้องไว้ด้วย อย่าให้มาวุ่นวายกับชีวิตพี่นัก...บอกตามตรง พี่-รำ-คาญ!!”  ฉันเน้นตรงคำว่า ‘คำราญ’ ให้ฟังช้าๆ ชัดๆ

            “กรี๊ดดด!!! นังน้ำปิง!!”  ยัยพะแพงกรี๊ดลั่นห้องพร้อมกับเข้ามากระชากผมฉันแรงๆ อ๊ายนังบ้า!! ฉันเพิ่งสระผมมานะยะ เอามือสกปรกของแกออกไป!! >_<!

             “เอายังห๊ะ! จะบอกว่าผู้ชายมันมาเองงั้นหรอ!!! ถ้าเกิดผู้หญิงมันไม่อ่อยแล้วผู้ชายจะมาได้ไงห๊ะ!!”  ยัยพะแพงกระตุกผมฉันแรงๆ ฉันเลยกระชากผมของมันบ้าง ดูซิ! ว่าใครมันจะแรงเยอะกว่ากันเด็กน้อยเอ๋ย! -_+!!

            “ฮึ! ถ้าเกิดคิดว่าฉันอ่อยจริงๆ ก็ลองไปถามพี่มิวสุดที่รักของเธอดูว่าฉันอ่อยเขายังไงถึงได้ติดใจฉันนัก!!”  ฉันพูดไปดึงผมจุกน้อยๆ นั้นไปอย่างมันมือ +_+!

            “เฮ้ย! หนวกหูชะมัด!”  อยู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น ฉันกับพะแพงหันควับไปดูต้นเสียง โดยไม่มีใครยอมปล่อยผมของฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด -_-!! ที่ประตูมีพี่ยศ พี่ปาร์เกต์และพี่มาร์ชยืนอยู่ อ๊าย!! >.<! น่าอายชะมัด! ฉันยังใส่ชุดคลุมตัวเดิมอยู่เลยนะ ถ้าเกิดยัยพะแพงนึกพิเรนๆ กระตุกเสื้อคลุมฉันขึ้นมา มีหวัง...เป็นตากุ้งยิงกันทั้งก๊วนแน่พี่ๆ เอ้ย! >///<!

            “ใจเย็นๆ นะครับน้อง ในเมื่อน้ำปิงบอกว่าแฟนน้องมาเกาะแกะเขาเอง ทำไมไม่ลองกลับไปถามกันดีๆ ก่อนล่ะครับ”  พี่มาร์ชค่อยๆ กระดื้บๆ เข้ามาเหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมคนที่กำลังจะโดดตึกตายยังไงยังงั้น =_=;

            “ไม่ยงไม่เย็นมันแล้ว!!!”  พบจบผีอีแพง!...เอ่อ ยัยพะแพง ก็เงื้อมือขึ้นเตรียมตบ! แต่ฉันยังไม่ได้ตั้งตัวเลยนะ! จะตบแล้วหรอ >.<!! ฉันหลับตาเตรียมรอรับชะตากรรมแต่ที่ฉันรู้สึกมีเพียงความเงียบ และเงียบมาก...เอ่อ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นก็เห็นมือของยัยพะแพงค้างกลางอากาศโดยมีมือของพี่ปาร์เกต์จับเอาไว้

            “พอเหอะ จะตบกันให้ได้อะไรขึ้นมา”  พี่ปาร์เกต์พูด

            “พะแพง!!”  และแล้วต้นตอของเรื่องก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง ยัยพะแพงเลยรีบชักมือกลับไปพร้อมกับปล่อยผมของฉันให้เป็นอิสระ เฮ้อ...รู้สึกปวดหัวตุ๊บๆ เลยแฮะ -_-;

            “พี่มาได้ยังไง!”  ยัยพะแพงถามมิวที่เดินเข้ามาคั่นกลางระหว่างฉันกับพะแพงเอาไว้

            “พี่ได้ยินจากโทรศัพท์ ว่าน้ำปิงอยู่คอนโดมิกกิเลยตามมา”

            “หนอย! นังเหลี่ยมจัด!! ไม่ยอมวางสายเพราะตั้งใจอยากให้พี่มิวได้ยินใช่ไหมห๊ะ!!”  พูดจบชีก็พุ่งเข้ามาหาฉันทันทีแต่มิวช่วยจับตัวไว้ได้ทัน

            “หยุดสักทีเถอะแพง!!”  มิวตะโกนลั่นห้อง ทำให้ทุกอย่างเงียบกริบลง

            “หยุดหรอ?...”  ยัยพะแพงพูดออกมาเบาๆ หลังจากนั้นก็เงียบไปสักพัก  “จะให้แพงหยุดได้ยังไงในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นต้นเหตุทำให้เราเลิกกัน...เพราะพี่! ไม่ยอมลืมเรื่องในอดีตสักที ไม่ยอมลืมผู้หญิงคนนี้สัก! ทำให้ความรักของเราพัง!!...ทำไมคะ? แพงไม่ดีตรงไหนหรอ ทำไมพี่ถึงรักแพงไม่ได้!!”  ยัยพะแพงพูดไปน้ำตาก็หล่นแหมะลงมาที่แก้มอย่างน่าสงสาร

            “แพง...เราจบกันแล้วนะ จะมารื้อฟื้นทำไมอีก”  มิวถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ทำให้น้ำตาของฉันก็ไหลลงมาด้วยอย่างไม่มีสาเหตุ ทำไมผู้ชายที่ฉันเคยรักเป็นคนเลือดเย็นได้ขนาดนี้!

            “พี่จบ! แต่แพงไม่จบค่ะ!! ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ทำให้แพงเจ็บ แพงก็จะทำให้มันเจ็บบ้าง!”  ยัยพะแพงส่งสายตาอาฆาตมาให้ฉัน แต่ฉันกลับไม่รู้สึกโกรธเลยกลับรู้สึกสงสารด้วยซ้ำ

            “พี่รู้ไหมคะ ว่าตลอดเวลาที่แพงคบกับพี่มิวแพงเจ็บปวดขนาดไหนที่ต้องทนเห็นพี่มิวส่งข้อความบอกว่าฝันดีให้พี่ทุกคืน...คอยโทรถามเวลาที่ได้ข่าวว่าพี่ไม่สบาย แพงอุตส่าห์ส่งข้อความไปกวนพี่เพื่อให้พี่เปลี่ยนเบอร์หนีหรือว่าจัดการอะไรสักอย่างกับเรื่องนี้แต่มันก็ไม่ได้ผลพี่ไม่ได้ทำอะไรเลย...แพงไม่รู้จะทำยังไงแล้ว!”  พะแพงทรุดลงนั่งแล้วก้มหน้าร้องไห้เหมือนจะขาดใจ ฉันมองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวด...เพราะมีบางเวลาที่ฉันยิ้มกับข้อความที่มิวส่งมาให้โดยไม่เคยรู้เลยว่ามีใครอีกคนที่ต้องร้องไห้เสียใจอยู่ ฉันเพิ่งจะรู้ว่ามิวมีแฟนแล้วก็ตอนที่มีข้อความส่งมาด่าฉัน...มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่พวกเขาคบกัน ฉันทำร้ายผู้หญิงคนนี้มานานเท่าไหร่แล้ว...

            “หนอย! เธอเองหรอที่ส่งข้อความมาด่าเพื่อนฉัน!!”  อยู่ๆ มิกกิก็พรวดเข้ามาในห้องพร้อมกับย่างสามขุมไปหาพะแพงที่นั่งร้องไห้อยู่ ฉันเลยรีบห้ามเอาไว้

            “เธอฟังฉันนะ!! น้ำปิงมันไม่ได้อยากยุ่งกับไอ้มิวเลยสักนิด มีแต่ไอ้มิวนี่แหละที่ยังตามตื้อไม่เลิกสักที คราวหน้าคราวหลังก็ดูให้แน่ใจก่อนว่าใครผิดแล้วค่อยมาตบ นังเด็กบ้าเอ้ย!!”

            “พอๆ มิกกิ!”  พี่ยศเข้าไปจับแขนน้องสาวเอาไว้ก่อนที่บ้าเลือดไปมากกว่านี้

            “แกก็เหมือนกันมิว!”  มิกกิหันไปหาเรื่องมิวต่อโดยที่ไม่สนใจคำห้ามปรามของพี่ยศ

            “ไม่ต้องมิกกิ...”  ฉันแตะไหล่มิกกิเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหามิวและตัดสินใจทำใหสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำกับมิว

            เพี๊ยะ!!

            ฉันออกแรงฟาดเข้าไปที่หน้าของมิวสุดแรง จนพะแพงที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองฉันอย่างตกตะลึง

 

 

 

*************************************************

ตอนที่ 2 มาแล้วจ้า ^O^

ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ

จะพยายามอัพให้อ่านบ่อยๆ ^^

**************************************************

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา