The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?

9.5

เขียนโดย Kreota

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.

  21 ตอน
  9 วิจารณ์
  26.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) คนนี้แหละ...แฟน(?)ฉัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

[3 :: คนนี้แหละ...แฟน(?)ฉัน]

 

            “เห็นไหมว่าสิ่งที่มิวทำมันร้ายแรงขนาดไหน มันทำให้ใครกี่คนที่ต้องเสียใจ ทำให้ใครกี่คนที่ต้องเจ็บปวดบ้าง เราบอกมิวครั้งแล้วครั้งเล่าว่าอย่าโทรมา อย่าส่งข่อความมา อย่ามาวุ่ยวายกับชีวิตเราอีกแต่มิวก็ไม่เคยฟังเราเลย ไหนมิวอกว่ารักเรานักหนาไม่ใช่หรอ? แล้วไงล่ะ! มิวต้องการเห็นคนที่มิวรักต้องมีสภาพแบบนี้งั้นหรอ!”  ฉันไม่มีแม้เรี่ยวแรงที่จะพูด แต่ฉันต้องกัดฟันพูดเพื่อให้เรื่องนี้มันจบลงสักที!

            “ถ้ามิวรักใครจริงๆ ล่ะก็ มิวไม่มีทางยอมให้คนที่มิวรักเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้หรอก...ลองกลับไปคิดดูดีๆ ว่าสิ่งที่มิวทำมันถูกต้องรึเปล่า! และถ้าเกิดยังมีจิตสำนึกระลึกได้กับความผิดของตัวเองก็รีบขอโทษพะแพงซะ แล้วก็อย่ามายุ่งกับเราสักที...เราขอล่ะ...”  ฉันพูดแล้วเดินหลบเข้ามาในห้องทันทีโดยไม่สนใจเสียงเรียกของมิวที่ดังตามมา

            ไม่น่าเชื่อ...ว่าฉันจะรักคนแบบนี้ลง!

 

            เรื่องจบลงเมื่อพะแพงและมิวยอมกลับไป มิกกิพาฉันออกมากินข้าวเย็นที่โรงแรมของครอบครัวพี่มาร์ช ฉันเลยนึกเสียใจที่ไม่ยอมแต่งตัวให้มันดีๆ เพราะที่นี่มันหรูหราไม่เข้ากับสารรูปฉันตอนนี้เลย #_#

            “อาหารที่นี่อร่อยมากเลยนะ ลองชิมดูสิ ^^”  มิกกิตักอาหารใส่จานให้ฉัน ฉันก้มลงมองมันแล้วพยักหน้ารับเบาๆ ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกหิวเลยนะ อาหารบนโต๊ะก็มีแต่น่ากิน (และแพง) ทั้งนั้นเลย T.T

            “เฮ้อ...ไอ้มิวนะไอ้มิว ไม่น่าเป็นคนแบบนี้เลย ดูเผินๆ เหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไร ที่ไหนได้...”  พี่มาร์ชพูดไปส่ายหน้าไป

            “พี่รู้จักมิวด้วยหรอคะ”

            “ก็เรียนมัธยมอยู่โรงเรียนเดียวกัน แถมอยู่ชมรมเดียวกับพี่ทำไมจะไม่รู้จักล่ะน้ำปิง”

            “พอเข้ามหา’ลัยก็ยังมาเป็นน้องในคณะอีก โลกกลมดีไหมล่ะ”  พี่ยศพูดเสริม

            “คนขี้เหร่ๆ อย่างเธอเนี่ย ไม่น่าจะมีเรื่องชู้สาวแบบนี้เลยนะ”  ส่วนนี่ไม่ต้องบอกคงจะรู้กันนะคะว่าใครเป็นคนพูด -*-! แต่ฉันไม่มีเรี่ยวแรงจะไปต่อปากต่อคำกับเขาฉันเลยเขี่ยข้าวเล่นโดยไม่สนใจคนพูด

            “ขี้เหร่ที่ไหนคะพี่ปาร์ก สมัยเรียนมัธยมน้ำปิงเนี่ยเป็นคนที่ผู้ชายอยากเข้ามาจีบมากที่สุดในกลุ่มเลยนะ แต่มันโลกส่วนตัวสูงเกินไปหน่อย เขาเลยไม่กล้าเข้ามาคุย ^_^”

            “นี่! พูดมากเกินไปแล้ว -_-//”  ฉันหันไปค้อนยัยมิกกิที่เอาเรื่องไร้สาระมาเล่า

            “พี่ก็ว่างั้นนะ ดูจากท่าทางแล้วเหมือนตอนนี้ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงยังไงไม่รู้ แค่แต่งตัวนิดหน่อยคงสวยเจิดแน่ ^^”  พี่มาร์ชพูดแล้วยิ้มให้ฉัน ทำไมรู้ล่ะ? ฉันแสดงท่าทางรังเกียจตัวเองชัดเจนขนาดนั้นเลยหรอ -_-? ปกติอยู่ที่บ้านถ้าไม่มีเวลาจริงๆ อย่างน้อยฉันต้องเขียนคิ้วก่อนถึงจะออกจากบ้านได้ แต่เพราะฉันไปเรียนที่คณะนั้นฉันเลยต้องแอ๊บเป็นเด็กดี หน้าจืด แต่งหน้าไม่เป็น อยู่ในกฎระเบียบ สภาพเลยออกมาเป็นยัยเพิ้งอย่างที่พี่ๆ เขาเห็น ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ตัวตนของฉันเลย Y_Y

            “เห๊อะ! ถ้าสวยกว่านี้ได้โดยไม่ศัลยกรรมล่ะก็ ฉันจะยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิงเลย!”  พี่ปาร์กพูดออกมาพร้อมกับยิ้มเยาะฉัน ส่วนมิกกิกับพี่ยศที่เคยเห็นสภาพที่โสภาของฉันมาก่อนถึงกับสำลักออกมาพร้อมกัน

            “พูดแล้วห้ามคืนคำนะคะ -_+”  ฉันมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างเป็นต่อขึ้นมาทันที เขาจะรู้ไหมว่าหน้าฉันตอนไม่แต่งหน้ากับตอนแต่งหน้าจัดเต็มเนี่ยแตกต่างกันมากขนาดไหน -_+!

            “เฮ้ยไอ้ปาร์ก! แกอย่าพูดอะไรพล่อยๆ ดิวะ”  พี่ยศเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนตัวเองหลังจากที่หยุดสำลักแล้ว

            “ฉันไม่ได้พูดพล่อยๆ...ฉันพูดจริง!” 

            “โอเคค่ะ ทุกคนบนโต๊ะนี้เป็นพยานนะคะ”  ฉันยิ้มเยาะกลับไปให้ใบหน้าเย่อหยิ่งที่กำลังจ้องฉันตอบอย่างไม่วางตา ฉันจะทำให้หงายหลังเลยคอยดู...ชอบดูถูกคนไม่สวยนัก ฉันจะทำให้รู้ว่า ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ มันมีอยู่จริง! -_+

            “เอ่อ...ก่อนสงครามจะเริ่ม ฉันว่าพาน้ำปิงไปเลี้ยงอำลาดีกว่า ได้ยินว่าพรุ่งนี้จะกลับแล้วนี่ ^^”  พี่มาร์ชพูดขึ้นหลังจากที่ฉันกับพี่ปาร์เกต์จ้องหน้ากันอยู่นานแล้ว

            ทุกคนเห็นดีเห็นงามกับกำหนดการใหม่ พวกเขาพาฉันขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงแรมที่ถูกดัดแปลงเป็นปาร์ตี้ขนาดเล็ก ดูๆ ไปมีแต่พวกไฮโซทั้งนั้นเลยอ่ะ แล้วดูสภาพฉันสิทั้งโซมทั้งเพิ้ง มิน่ายัยมิกกิถึงจับฉันใส่เดรสซะดิบดี แถมจะแต่งหน้าให้ฉันด้วยแต่ตอนนั้นฉันปฏิเสธเพราะมันกำลังเฮิร์ทไม่มีอารมณ์แต่งหน้า ฆ่าตัวตายชัดๆ ยัยน้ำปิง T_T;

            “มิกกิ แกเอากระเป๋าเครื่องสำอางมาด้วยรึเปล่า”  ฉันกระซิบมิกกิที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะฉันทนกับสายตาเหยียดหยันของคนที่เดินผ่านไปมาไม่ไหวแล้ว U.U

            “เอามาสิ ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องเปลี่ยนใจ ^^”  มิกกิยิ้มแล้วยื่นกระเป๋าไข่มุกหนักๆ มาให้ฉัน กระเป๋าเสริมความงามประจำตัวมิกกินั่นเอง ^O^

            “มิกกิ เห็นพี่ปาร์กไหม?”  อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามหาพี่ปาร์เกต์อย่างสนิทสนม โห...ยัยนี่สวยมากอ่ะ หน้าอย่างกับนักร้องเกาหลีเลย +o+

            “พี่ปาร์กไปเข้าห้องน้ำ”

            “หรอ”  ยัยคนนั้นพูดแล้วนั่งลงข้างมิกกิโดยไม่ขออนุญาตสักคำ -_-

            “ยัยนี่ใครอ่ะ เข้ามาในปาร์ตี้ของพี่มาร์ชได้ไง”  ยัยคนนั้นชี้มาที่ฉันเหมือนเจอกองอุนจิกองหนึ่งที่ยัยมิกกิอึทิ้งไว้ =_=;

            ฉันขอถอนคำพูดที่บอกว่ายัยนี่สวย -_+!

            “เพื่อนฉันเอง มีปัญหาอะไรหรอ -*-?”

            “เปล่า แค่ถามดู” 

            “นี่พลอย ฉันว่าเธอรีบลุกไปเถอะ ถ้าเกิดพี่ปาร์กมาเจอเธอตอนนี้ล่ะก็ งานพี่มาร์ชพังแน่”  มิกกิบอก เอ๋...ชื่อพลอยเนี่ย รู้สึกคุ้นๆ นะ -_-*

            ฟุบ!

            พูดไม่ทันขาดคำพี่ปาร์เกต์ก็กลับมาที่โต๊ะ แต่แทนที่จะไปนั่งเก้าอี้ของตัวเองเขากลับเดินมานั่งข้างๆ ฉันพร้อมกับยกแขนมาพาดรอบคอฉัน อะไรกันเนี่ย O///O ดูท่าเหมือนงานจะเข้า! แบบนี้ฉันจะหาโอกาสไปแต่งหน้าได้ยังไง

            “พี่ปาร์ก ทำอะไรน่ะ!!”  ยัยพลอยลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวและชี้หน้าฉัน เอาเข้าไป! คิดดูสิว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนบนโลกที่โดนชี้หน้าด่าหลายๆ ครั้งต่อวันเหมือนฉันบ้าง -_-;;

            “อะไร?...ก็นี่มันแฟนฉัน ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ”

            “ห๊ะ! O_o!!”  ฉันกับมิกกิริ้งออกมาพร้อมกัน ทุกอย่างบนดาดฟ้าเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน TOT

            “ยัยเพิ้งบ้านนอกเนี่ยนะคะพี่ปาร์ก!!”

            เอ๊ะ! เมื่อกี๊ยัยพลอยว่าไงนะ! ‘ยัยเพิ้งบ้านนอก’ งั้นเร๊อะ -_+!

            “สนิทกับฉันนักหรอถึงเรียกฉันว่าปาร์กน่ะ!”  พี่ปาร์เกต์ถามกลับห้วนๆ รู้สึกคุ้นๆ ไหมประโยคนี้ -_-?

            “พี่ปาร์ก!!”  ยัยพลอยกระทืบส้นส้นสูงลงกับพื้นอย่างแรงและกำหมัดแน่นอย่างขัดใจ ฉันกลัวว่าจะโดนจับบันทึกกินส์เนสบุ๊คว่าเป็นผู้หญิงที่โดนตบบ่อยที่สุดในโลก ฉันเลยคิดว่าสารภาพความจริงให้ยัยพลอยรู้ไปเลยดีกว่าว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ปาร์เกต์ แต่ฉันดันเหลือบไปเห็นมิวกำลังยืนมองมาที่ฉัน ฉันเลยล้มเลิกความคิดที่จะบอกความจริงนั้นไปก่อน ขอเล่นตามน้ำไปก่อนแล้วกันนะ

            “ไปคว้ายัยอัปลักษณ์นี่มาจากไหนคะพี่ปาร์ก ทำไมตาต่ำขนาดนี้ล่ะ!”  ยัยพลอยยังไม่ลดละที่จะสรรหาคำมาเปรียบเปรยกับหนังหน้าโซมๆ ของฉัน เอาเข้าไป! คำก็ ‘ยัยเพิ้งบ้านนอก’ สองคำก็ ‘ยัยอัปลักษณ์’ ฉันชักจะทนฟังไม่ไหวแล้วนะยัยพลอย!

            “หุบปากเลยนะพลอย! กล้าว่าเพื่อนฉันแบบนี้ได้ไง!!”  มิกกิลุกพรวดจากที่นั่งชี้หน้ายัยพลอยอย่างเอาเรื่อง ดูเหมือนว่าฉันจะมีคนเดือดแทนฉันแล้วเลยทนนั่งสงบเสงี่ยมต่อไป ทั้งเจ้าภาพและผู้ร่วมงานต่างมายืนมุงดูพวกเราทะเลาะกันเต็มไปหมด เพลงที่เปิดกระหึ่มเทียบเท่าคอนเสิร์ตย่อมๆ ก็เงียบไปแล้ว

            “มิกกิ!”  พี่มาร์ชกับพี่ยศมาห้ามมิกกิเอาไว้ เพราะแทยจะพุ่งเข้าไปขย้ำยัยพลอยอยู่แล้ว

            “ฉันแค่อยากลองคบกับคนหน้าตาไม่ดีแต่จริงใจดูบ้าง ฉันว่ามันดีกว่าคบกับคนสวยแต่ใจโลเลเป็นไหนๆ”  พี่ปาร์เกต์พูดทำเอาฉันเคลิ้มไปด้วยเลยอ่ะ *O* แต่ไม่นะยัยน้ำปิง! พี่เขาแค่ใช้ฉันเป็นเครื่องมือแก้แค้นยัยพลอยเท่านั้นเองห้ามเคลิ้มเชียวนะ! >///<!

            “เมื่อกี๊พี่ว่ายังไงนะครับ พี่คบกับน้ำปิงหรอ?”  มิวเข้ามาถามท่าทางตกใจและโกรธมาก จะมาโกรธอะไรล่ะมิว นายไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวฉันสักหน่อย!!

            “มาคุยกันหน่อย!”  มิวเข้ามาแยกฉันออกจากพี่ปาร์เกต์อย่างรวดเร็วโดยที่ฉันยังไม่ทันตั้งตัว ฉันถูกลากออกมาที่บันไดหนีไฟโดยมีคนอื่นๆ วิ่งตามมาติดๆ

            แกร็ก!

            “ล็อคประตูทำไมมิว!”

            “เราขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ แต่เราอยากคุยกับปิงให้รู้เรื่อง”

            “เราว่าเรารู้เรื่องทุกอย่างดีแล้วนะ”

            “ยัง! ถ้าเกิดรู้เรื่องทุกอย่างดีแล้ว ปิงไม่ทำประชดเราแบบนี้แน่” 

            อะไรนะ!...ประชดหรอ? ฉันเนี่ยนะประชดนาย!!

            “ประชดอะไร?”

            “ก็ที่ไปคบกับพี่ปาร์เกต์ไง รู้รึเปล่าว่าพี่เขาเป็นคนยังไง มีผู้หญิงตั้งมากมายอยากได้เขาและถ้าน้ำปิงอยู่ใกล้พี่ปาร์เกต์น้ำปิงจะตกอยู่ในอันตราย”

            “อันตรายแล้วไง...มันเกี่ยวกับมิวตรงไหนหรอ?”

            “เกี่ยวสิ! ก็น้ำปิงคือคนที่มิวระ...”

            “พอ! ไม่ต้องพูดอะไรแล้วมิว มันสายไปแล้วที่จะมาพูดแบบกับเรา มิวควรจะไปดูแลพะแพงให้ดีๆ มากกว่าจะทำอะไรแบบนี้”

            “แต่มิวไม่ได้รักแพง”

            “แล้วไปคบกับเขาทำไม! ไปคุยกับเขาทำไม! ไปให้ความหวังเขาทำไม!!”  ฉันพ่นคำถามออกไปรัวๆ โดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสได้ตอบคำถามเหล่านั้น

            “...เรื่องของเรามันจบตั้งแต่มีคนอื่นมาแทรกแล้วล่ะมิว ไม่สิ! ระหว่างเราไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยต่างหาก เพราะฉะนั้นเราอยากให้มิวลองทำความเข้าใจความรู้สึกตัวเองซะใหม่ว่ารู้สึกยังไงกันแน่ ไม่ใช่ว่าจะมาพูดคำว่า ‘รัก’ พร่ำเพรื่อแบบนี้...ลองคิดดูดีๆ ว่าที่กำลังทำอยู่เนี่ย ที่จริงแล้วแค่เสียดายเราหรือแค่รู้สึกผิดที่ตอนนั้นไม่แคร์เรา ไม่สนใจเรากันแน่”

            “น้ำปิง...”

            “มีอะไรจะพูดอีกไหม ถ้าไม่มีเราจะออกไปแล้วนะ” 

            “เดี๋ยว!”  มิวรั้งต้นแขนฉันไว้ ฉันเลยหันกลับไป

            “ปิงแน่ใจแล้วหรอที่จะคบกับพี่ปาร์เกต์น่ะ”

            “ใช่...”

            “ทั้งที่พี่เขายังไม่ลืมพลอยน่ะนะ ปิงจะทนได้หรอ?...อย่างมากเราว่าพี่เขาแค่ใช้ปิงเป็นเครื่องมือแก้แค้นพลอยเท่านั้นแหละ”

            “ขนาดพะแพงยังทนได้เลย...ทำไมฉันจะทนไม่ได้”  ฉันเหน็บมิวทันทีที่มีโอกาส -_+

            “น้ำปิง...”

            “พูดจบรึยัง?”  ฉันถามห้วนๆ ฉันรู้เรื่องนี้ดี...ฉันรู้ดีว่าตัวเองมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งในเกมของพี่ปาร์เกต์เท่านั้น

            “น้ำปิง ฟังกันบ้างเถอะ ผู้หญิงของพี่ปาร์เกต์น่ากลัวทุกคนเลยนะ เรากลัวปิงจะลำบากและเสียใจทีหลัง”

            “ในเมื่อพี่เขาเลือกเราแล้ว ถึงเราจะต้องลำบากที่ต้องสู้รบกับผู้หญิงมากมายหรือว่าจะเป็นเครื่องมือเพื่อลืมคนที่ชื่อพลอยนั่นก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงหรอก เราว่ามิวเอาเวลาไปห่วงตัวเองดีกว่าว่าจะทำยังไงต่อไป”

            “พาแฟนพี่ออกมาแบบนี้ มันเสียมารยาทนะมิว”  พี่ปาร์เกต์พูดขึ้นทันทีที่ฉันเปิดประตูออกไป คนเกือบทั้งงานมายืนอออยู่ด้านหลังของพี่ปาร์เกต์พร้อมกับแอบซุบซิบกันภายในกลุ่ม พี่ปาร์เกต์เข้ามาลากฉันออกมาจากตรงนั้นและตรงไปที่ลิฟต์

 

            “พี่จะพาฉันไปไหน?”  ฉันร้องถามระหว่างทาง แต่เขาก็ไม่ยอมปริปากบอกฉันสักคำ

            ติ๊ง!

            ประตูลิฟต์เปิดออกช้าๆ ก่อนจะมีแรงผลักเบาๆ ที่ไหล่

            “เข้าไป”  พี่ปาร์เกต์บอกห้วนๆ ถึงหน้าตาฉันมันจะไม่น่ามองแต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เกียติฉันบ้างเพราะยังไงฉันก็เป็นผู้หญิงนะ ผลักมาซะแรง =_=

            “พูดได้ดีนี่ ‘ในเมื่อพี่เขาเลือกเราแล้ว ถึงเราจะต้องลำบากที่ต้องสู้รบกับผู้หญิงมากมายหรือว่าจะเป็นเครื่องมือเพื่อลืมคนที่ชื่อพลอยนั่นก็ไม่เป็นไร’ ฮ่าๆๆ น้ำเน่าชะมัด”

            นี่แอบฟังฉันตลอดเลยหรอเนี่ย -///-

            “พอดีฉันอ่านนิยายมาเยอะน่ะค่ะ เลยเอามาใช้”

            “เธอนี่แปลกเน๊อะ โดนขนาดนี้ผู้หญิงปกติเขาร้องไห้ฟูมฟายสติแตกไปแล้ว แต่นี่เห็นร้องไห้แค่ตอนอยู่คอนโด”  พี่ปาร์เกต์หันมาตั้งข้อสังเกต

            “เฮ้อ...”  ฉันถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะพูดต่อ  “ฉันร้องไห้มามากพอแล้วค่ะ” 

            และเพราะอะไรไม่รู้ทำให้พี่เขาเงียบไปไม่ถาม ไม่คุย ไม่เยาะเย้ยอะไรอีก จนกระทั่งมาถึงโรงรถ พี่เขาพาฉันมาที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่มันคือที่ไหนนั้นฉันก็ไม่รู้ แต่งงตัวเองมากกว่าที่กลายเป็นผู้หญิงใจง่าย ยอมมากับผู้ชายดึกๆ ดื่นๆ สองต่อสองทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแบบนี้ ถ้าพ่อกับแม่รู้มีหวังตัดฉันออกจากกองมรดกแหงๆ =_=

            “ถึงเธอจะบอกว่าร้องไห้มาพอแล้ว แต่ฉันว่าน้ำตาเธอยังออกไม่หมดนะ...ร้องออกมาเถอะ”  พี่ปาร์เกต์พูดแล้วลงจากรถไป ทิ้งให้ฉันนั่งอยู่ในรถที่เงียบสนิทนี้เพียงลำพัง

            ฉันนี่มันโกหกไม่เก่งเลยสินะ ขนาดคนที่เพิ่งรู้จักกันยังรู้เลยว่าฉันคิดอะไรอยู่...ที่เรื่องมันบานปลายจนถึงตอนนี้ก็คงเพราะตัวฉันเองที่มันใจอ่อนและโกหกใครต่อใครว่าไม่เป็นไร...ใช่ ฉันยังลืมมิวไม่ได้ เพราะมิวคือรักครั้งแรกของฉัน

            ฉันปล่อยให้น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาอย่างอิสระ ฉันไม่อยากฝืนหรือเก็บกดมันไว้อีกต่อไปแล้วเพราะมันจะยิ่งทำให้ฉันเหนื่อยมากขึ้น ทำไมฉันอ่อนแอแบบนี้นะ ทำไมฉันต้องร้องไห้กับเรื่องเดิมซ้ำๆ แบบนี้ด้วย พอได้แล้วน้ำปิง...พอสักที!!

            ครืดๆๆ

            โทรศัพท์ในกระเป๋าลูกปัดของมิกกิที่ฉันถือติดมือมาสั่นเบาๆ บนตัก ฉันค้นหามันสักพักก็เจอโทรศัพท์สีขาวที่คุ้นตาของมิกกิ มันโชว์เบอร์ของพี่ยศอยู่บนจอ

            “ฮัลโหล”  ฉันกดรับสายด้วยเสียงที่แหบพร่าจากการร้องไห้อย่างหนัก

            [นี่แกร้องไห้หรอน้ำปิง!...ตอนนี้แกอยู่ไหนเนี่ย!]  เสียงมิกกิดังมาจากปลายสาย น้ำเสียงฟังดูร้อนรนอย่างชัดเจน ฉันขอโทษนะมิกกิที่ทำให้แกต้องเป็นห่วงเสมอ T^T

            “พี่ปาร์เกต์พาฉันมาที่สวนสาธารณะที่ไหนก็ไม่รู้”  ฉันกวาดตามองไปรอบๆ เมื่อหาสัญลักษณ์ที่พอจะบอกได้ แต่ที่นี่มืดมาก มีแค่แสงจากเสาไฟข้างทาง 2-3 ดวงเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง (นอกนั้นเสียอ่ะ =_=) แล้วพี่ปาร์เกต์ไปไหนซะแล้วล่ะ อย่าบอกนะว่าทิ้งฉันไว้ที่นี่ ฉันขับรถไม่เป็นนะ T^T

            [แกร้องไห้ทำไม! หรือว่า...พี่เขาทำอะไรแก!!] 

            ดูความคิดมัน -_-;

            “เปล่า ไม่ได้ทำอะไร”

            [แล้วแกร้องไห้ทำไมล่ะ...เฮ้ย! มิวเอาคืนมานะ!!...]  อยู่ๆ ปลายสายก็มีเสียงกึกกักๆ ก่นอจะมีเสียงมิวดังจากปลายสายแทน

            [ปิง! ตอนนี้อยู่ที่ไหน? ปลอดภัยดีใช่ไหม!...]

            แกร็ก!

            ระหว่างที่มิวกำลังพ่นคำถามใส่ฉันอยู่ ประตูรถฝั่งที่ฉันนั่งอยู่ก็ถูกเปิดออกโดยพี่ปาร์เกต์

            “นอนลงสิ” 

            “ห๊ะ!”  เขาจะบ้าไปแล้วหรอ อยู่ๆ มาบอกให้นอนลง? นี่คิดจะทำมิดีมิร้ายฉันใช่ไหมเนี่ย >_<!!

 

 

***********************************************

อัพเดตแล้วจ้าาาาา ^O^

ฝากติดตามด้วนนะคะ

***********************************************

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา